ชั่ววินาทีที่ 'ธารธรรม' ได้สบตากับ 'ศิลา' เขาก็ตกหลุมรักพ่อหนุ่มที่กระโดดลงมาจากต้นมะม่วงพร้อมแมวส้มคนนี้เสียแล้ว...

ศิเป็นของธาร - บทที่ 2 ป๊ะป๋ากับคุณพ่อ โดย อมณ. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ไทย,อื่นๆ,ศิธาร,ศิเป็นของธาร,มหาวิทยาลัย,น่ารัก,หวาน,feel good,feelgood,อ่านฟรี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ศิเป็นของธาร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ศิธาร,ศิเป็นของธาร,มหาวิทยาลัย,น่ารัก,หวาน,feel good,feelgood,อ่านฟรี

รายละเอียด

ศิเป็นของธาร โดย อมณ. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชั่ววินาทีที่ 'ธารธรรม' ได้สบตากับ 'ศิลา' เขาก็ตกหลุมรักพ่อหนุ่มที่กระโดดลงมาจากต้นมะม่วงพร้อมแมวส้มคนนี้เสียแล้ว...

ผู้แต่ง

อมณ.

เรื่องย่อ

เพียงได้พบสบตา 'ธารธรรม' ก็ตกหลุมรัก 'ศิลา' พ่อหนุ่มที่กระโดดลงมาจากต้นมะม่วงพร้อมแมวส้มไปเสียแล้ว

 

แม่สอนธารธรรมไว้ว่าชอบใครต้องไปให้สุด เตรียใจไปเลยพ่อต้นมะม่วง เจอธารธรรมใส่สุดแน่นอน!!

 


มาค่ะ มาเปิดเรื่องใหม่กัน

ญ่าฝากคุณผู้อ่านเอ็นดูเจ้าศิกับยัยธารด้วยนะคะ // ไหว้ย่อแบบติดพื้น

เรื่องนี้จะลงทุกวันอังคาร เวลา 2 ทุ่ม(ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง)ค่ะ

สารบัญ

ศิเป็นของธาร-บทนำ บทแรกรู้จัก,ศิเป็นของธาร-บทที่ 1 เมื่อรู้จักจึงสังเกตเห็น,ศิเป็นของธาร-บทที่ 2 ป๊ะป๋ากับคุณพ่อ,ศิเป็นของธาร-บทที่ 3 ศิ ๆ รถเป็นอะไรอ่ะ?,ศิเป็นของธาร-บทที่ 4 พรหมลิขิตแบบ 300%

เนื้อหา

บทที่ 2 ป๊ะป๋ากับคุณพ่อ

“พบรัก~”

ธารธรรมนั่งบนฟูกนอนของตน มือขาวยกไม้ตกแมวไปซ้ายที ขวาที เจ้าก้อนส้มพยายามตะปปสิ่งที่เจ้ามนุษย์ใช้หลอกล่อ คนตัวขาวยิ้มเต็มแก้มกับความน่ารักของแมวน้อย

ของแทนใจระหว่างเขากับศิลา

ไม่ใช่ ๆ ต้องบอกว่า...

‘พบรัก’ เป็นลูกชายของป๊ะป๋าธารธรรมกับคุณพ่อศิลา

เขินว่ะ คิดได้ไงวะ

ถ่ายรูปพบรักไปอ่อยศิลาดีกว่า

ครืด ครืด

แต่ก่อนที่ธารธรรมจะได้ส่งรูปไปให้พ่อต้นมะม่วงโทรศัพท์เครื่องสวยก็สั่นเป็นเจ้าเข้าเสียก่อน ชื่อ ‘เชฟนิสา’ เด่นหราอยู่หน้าจอ มือขาวรีบกดรับทันที

“หวัดดีครับแม่” ธารธรรมโบกมือทักทายคุณแม่คนสวยผ่านกล้องที่เปิดวีดีคอล

/หวัดดีจ้าา/ อีกฝ่ายก็ทักทายกลับมาอย่างสดใสเช่นกัน /ลูกชายทำอะไรอยู่/

“เล่นกับพบรักก น้องน่ารักมากเลยครับแม่~” คนตัวขาวกดเปลี่ยนเป็นกล้องหลัง

/แม่อยากเจอน้องบ้างงง/

“งั้นกลับบ้านคราวหน้า ผมจะพาไปด้วยนะ”

/จะรอเลยจ้าาา/

“แล้วนี่ว่างเหรอครับถึงโทรหาผมได้”

/วันนี้ร้านปิดเฉพาะกิจ แอร์พังตั้งสามตัวแน่ะ/ คุณแม่คนสวยทำหน้ายุ่งเมื่อพูดถึงร้านอาหารไทยที่ตนเป็นเจ้าของ /ว่าแต่ใกล้เที่ยงแล้ว ลูกแม่ทานอะไรรึยัง/

“ยังเลยยย”

/ข้าวเช้าก็ด้วยใช่ไหม? เดาเลยว่าชุดที่ใส่นี่ก็เป็นชุดนอน เมื่อคืนอาบน้ำหรือเปล่า!?/

“อาบแล้วครับเชฟ! แต่เช้านี้ยัง”

/งั้นหยุดเล่นกับพบรักก่อน ย้ายสารร่างไปอาบน้ำแล้วออกไปหาข้าวทานเดี๋ยวนี้!/

“คร้าบเชฟฟฟฟฟ”

/งั้นแม่วางก่อนนะ/

“ครับ บายย”

/บายครับ/

ธารธรรมโบกมือลาเชฟนิสาคนสวย ก่อนลากตัวเองไปวิ่งผ่านน้ำ ระหว่างแต่งตัวก็คิดว่าจะออกไปกินข้าวที่ไหน หรือจะแค่ร้านข้าวข้างหอ

“โอ๊ะ! ศิลา” เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าก่อนคุณแม่โทรมาตนเองจะทำอะไร คนตัวขาวทิ้งตัวลงฟูกทั้งที่ยังไม่ทันใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย นิ้วเรียวกดส่งข้อความหาเจ้าของหลุมรักทันที

 

ธารธรรม : ศิกินข้าวเที่ยงรึยังง

ไปกินข้าวกันนนน

ศิลา : ไม่ไป!

ธารธรรม : แต่เราหิวจังเลยยยยย

ศิลา : ไม่มีปัญญาหาข้าวแดกก็หิวตายไปเถอะ

ธารธรรม : ใจร้ายยยย

ไม่สงสารเราเหรออออ

ศิลา : ก๋วยเตี๋ยวเรือหน้าม.

ธารธรรม : ไป ๆ

ศิลา : ไม่ได้ชวน!

 

จ้า ๆ ไม่ได้ชวนเล้ยยย

ไม่ได้ชวนแต่บอกชื่อร้าน แถมส่งโลเคชั่นมาให้เหมือนกลัวว่าเขาจะหลง

ศิลานี่น่ารักจังเลยน้าาาา~

หลุมลึกกว่าเดิมอีกแล้วววววว

 

แดดเมืองไทยร้อนแรง เผาไหม้ราวกับซ้อมอยู่ในนรกนั้นถือว่าเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริง ธารธรรมที่พึ่งหย่อนตัวลงจากวินมอเตอร์ไซค์รีบวิ่งเข้าร่ม ขาเรียวก้าวไปยังพิกัดร้านที่เจ้าของหลุมบอกไว้

ช่วงเที่ยง ๆ แบบนี้ คนค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ในร้านเองก็นั่งกันจนเต็ม ธารธรรมแทบไม่ต้องเสียเวลามองหาก็เห็นโต๊ะที่ประกอบไปด้วยสามเพื่อนซี้แห่งคณะเกษตรฯ

“อ้าวธาร! มากินก๋วยเตี๋ยวเหมือนกันเหรอ” เอเทนเป็นคนแรกที่ทัก

“อื้ม” คนตัวขาวตอบก่อนหย่อนกายนั่งเก้าอี้ที่เหลืออยู่ ข้าง ๆ ศิลาด้วยยย

“อย่าบอกนะว่าบังเอิญ?” ดวงตาใต้กรอบแว่นของอะตอมมองสลับระหว่างเพื่อนตนเองกับเด็กบริหารฯหลงฝูง

“ก็ไม่ได้บังเอิญหรอก” ธารธรรมยิ้มเขิน

“พูดมาก จะกินอะไรก็เขียน” ศิลายื่นกระดาษจดเมนูที่ถูกเขียนเมนูของทั้งสามคนที่มาก่อน

“โอ๊ะ! รอเราด้วยยย” ศิลาหันมามองตาขวาง “อ๊ะ ๆ เขียนแล้ว ๆ ” เมื่อเขียนเสร็จก็อาสาเอาไปส่งให้เจ้าของร้านที่ยืนลวกก๋วยเตี๋ยวมือเป็นระวิง

“กูก็ว่าทำไมรีบเก็บของออกมาแปลก ๆ ” อะตอมพูดอย่างจับผิด 

ก่อนหน้านี้พวกเขามีเรียนเช้า แต่อาจารย์ก็ปล่อยก่อนเวลาเกือบชั่วโมง แต่เพราะงานกลุ่มที่ยังทำไม่เสร็จ ศิลาจึงแปลงร่างเป็นมนุษย์สุดเฮี้ยบบังคับขู่เข็ญให้ทำให้เสร็จ เอเทนครวญครางอยู่ข้างหูว่าหิวจนจะแดกช้างได้แล้ว ไอ้ศิเพื่อนรักก็หาสนใจไม่ แต่พอก้มพิมพ์อะไรในโทรศัพท์สักพักก็รีบเก็บของทันที นึกว่ารีบไปทำธุระที่ไหนพอถามก็ได้คำตอบว่า ‘ก๋วยเตี๋ยวหน้าม.’ เพื่อนผู้หิวโหยได้ยินดังนั้นก็พากันติดสอยห้อยตามมาด้วย

มาถึงร้าน ก็พากันสั่งก๋วยเตี๋ยวกันอย่างรวดเร็ว แต่พ่อเพื่อนตัวดีก็ไม่เอากระดาษจดเมนูไปส่งเสียที และความสงสัยทุกอย่างก็กระจ่างเมื่อเห็นธารธรรมเดินเข้าร้านมา

“หุบปาก”

“ดุกลบเกลื่อนด้วยเว้ย” ทั้งเอเทนทั้งอะตอมมองเพื่อนอย่างรู้ทัน

“ศิเอาผักไหม? เราตักให้” คนตัวขาวเอ่ยถาม

“เอา”

“ไม่ถามกูบ้างเหรอ” เอเทนทำหน้าระรื่น

“ก็เดี๋ยวเราตักมาเผื่อไง”

“เงียบ” ศิลาหันไปดุเพื่อน ก่อนหันไปถามธารธรรม “เอาน้ำอะไร”

“เก๊กฮวย ๆ” คนตัวขาวบอก

“โค้ก”/”โค้ก” สองเพื่อนซี้รีบสั่งคนตัวสูง

“มีมือมีตีนก็ลุกไปหยิบเอง”

“สองมาตรฐานสัด ๆ” เอเทนมองบน

“ไม่ได้ชื่อธารธรรมก็เหนื่อยหน่อยนะ” หนุ่มแว่นตบไหล่เพื่อน

ส่วนคนที่ชื่อธารธรรมก็นั่งยิ้มแก้มแตกไปสิ!

 

“แล้วธารจะไปไหนต่อปะ?” เอเทนถามหลังจากออกมาจากร้าน

“ว่าจะไปซื้อแมวเลียอะ”

“แล้วไปไง?”

“นั่งวินไป” คนตัวขาวตอบยิ้ม ๆ

“รถจอดอยู่ตรงนั้น” ศิลาพูดแค่นี้ แล้วหมุนกายไปที่รถตัวเองทันที

“แค่บอกเนอะ ไม่ได้จะไปส่งเลย~”

ขายาวของนักบาสคณะเกษตรฯก้าวเร็วขึ้น

“ศิรอเราด้วย!” บอกคนที่อยู่ข้างหน้าก่อนหันมาลาอีกสองคน “ไปก่อนนะเอเทน ไปก่อนนะอะตอม”

“เพื่อนมึงแม่งขี้เก๊ก” เอเทนว่า

“ไม่เถียง” อะตอมพยักหน้าเห็นด้วย

 

ธารธรรมยืนหน้าชั้นวางขนมแมวในร้านด้วยใบหนาเปื้อนยิ้ม อารมณ์ดีจนแผ่รังสีความสดใสออกมา เพราะคนตัวสูงไม่ใช่แค่มาส่ง แต่กำลังยืนเลือกของอยู่ข้างเขาด้วยย

“พบรักเป็นยังไงบ้าง” เสียงเข้มเอ่ยถาม

“แข็งแรงดี น้องกินเยอะมาก ๆ วิ่งวุ่นไปทั่วห้องเลย แต่พอเรียกชื่อก็วิ่งมาหานะ ตอนดึกมานอนกับเราด้วย ระแวงมากเลยกลัวพลิกตัวไปทับน้อง” ธารธรรมยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อพูดถึงเจ้าก้อนส้ม ทำให้คนฟังยิ้มตามไปด้วย

“มันสบายดีก็ดี”

“อย่าเรียกลูกว่ามันสิ” คนตัวขาวว่าอีกคนหน้ายุ่ง

“ลูก?”

“ใช่! ลูก!” ธารธรรมพูดเสียงจริงจัง “พบรักเป็นลูกของป๊ะป๋าธารกับพ่อศิ!”

“เพ้อเจ้อ” ปากว่าไปอย่างนั้นแต่แก้มกลับร้อนขึ้นมา มือหนาหยิบขนมแมวเลียหลายห่อแก้เขิน

“เดี๋ยวศิ ๆ ไม่ต้องหยิบเยอะขนาดน้านนน”

“ก็…เอาไปเผื่อ”

“ไม่ต้อง บางรส บางยี่ห้อพบรักก็ไม่กิน”

แล้วหลังจากนั้นป๊ะป๋าธารธรรมและคุณพ่อศิก็ช่วยกันเลือกขนมแมวเลีย แถมด้วยอาหารเปียกอีกหลายยี่ห้อไปฝากลูกชายขนสีส้มที่นอนกระดิกหางรออยู่ที่ห้อง

“เราบอกให้หารครึ่งก็ไม่เอา” ธารธรรมบ่นเบา ๆ เมื่อถูกอีกคนแย่งจ่ายเงินค่าของทั้งหมด

“กูก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ ที่เอาแมวไปยัดมือมึงแบบนั้น”

“งั้นน~ ห้องเรามีแมวนะ ศิลาสนใจไปดูแมวที่ห้องเราไหมมม?~”

เพี๊ยะ

“โอ๊ย! ตีเหม่งเราอีกแล้ว” มือขาวลูบบริเวณที่ถูกตี “อ๊ะ! รอเราด้วย”

ขาเรียวรีบก้าวตามคนที่ประทุษร้ายตนไปเมื่อครู่ หยอดนิดหยอดหน่อยก็ไม่ได้!!

 

ก็ไม่คิดว่ามุกชวนมาดูแมวที่ห้องจะได้ผล 

แต่ให้ตายเถอะ! 

มันได้ผลว่ะ!

ศิลามาอยู่ในห้องเขาจริง ๆ มือขาวแอบยกโทรศัพท์ถ่ายรูปติดแผ่นหลังของคนตัวสูง แล้วส่งไปในแชทกลุ่ม อวดอ้างความสำเร็จในการใช้แมวหลอกล่อผู้ชาย

ดูเป็นคนไม่ดีเลย…

คนที่ถูกแอบถ่ายยังคงยืนอึ้งกับสภาพห้องที่อยู่ตรงหน้า เปล่า มันไม่ได้รก แค่แปลก…

ห้องสี่เหลี่ยม มีฟูกขนาด 4 ฟุตวางอยู่บนพื้น ข้างเตียงด้านขวามีกองเอกสาร และหนังสือเรียนวางซ้อนกันอยู่ มีโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กวางพิงผนัง มุมห้องมีราวแขวนผ้า แบบที่แขวนขายในตลาดนัด ตะกร้าผ้าพลาสติกสีแปร๋นวางอยู่ข้างกัน มีตู้เย็น 1 ประตู สภาพไม่ช็อตก็ดีเท่าไหร่แล้ว แค่นั้น ที่เป็นของที่มนุษย์จะใช้ในชีวิตประจำวันได้ มีแค่นั้น! ส่วนที่เหลือคาดว่าน่าจะ 70% ของห้อง เป็นของใช้แมวทั้งหมด ทั้งคอนโดแมว ของเล่น เบาะนอน ห้องน้ำ อาหาร น้ำพุ 

คุณภาพชีวิตแมวเต็มล้าน 

แต่คุณภาพชีวิตคนเป็นศูนย์

แต่ก่อนจะพูดอะไรออกไป เจ้าก้อนส้มก็เดินมาออดอ้อนไถหัวเล็ก ๆ กับขาของคนตัวสูง ราวกับรู้ว่านี่คือคนที่ช่วยมันลงมาจากต้นมะม่วง 

ถึงแม้สุดท้ายจะยัดมันใส่มือคนอื่นก็เถอะ...

“โถ่~ เจอพ่อแล้วลืมป๊ะป๋าเลยเหรอ?~” ธารธรรมนั่งลงลูบหัวเจ้าก้อนส้ม

ศิลาเบื่อจะว่าเรื่องป๊ะป๋ากับคุณพ่อจึงปล่อยเลยตามเลย เขาก้มตัวช้อนอุ้มพบรักขึ้น เคยเห็นแต่ในรูปที่ธารธรรมส่งไปให้ทุกวัน พอมาเจอตัวจริง ลูกชาย? เขามันนุ่มนิ่มกว่าที่คิดไว้มาก

“ให้นั่งตรงไหน?”

“บนฟููกก็ได้”

เมื่อได้รับคำตอบจากเจ้าของห้อง ศิลาก็ทรุดตัวนั่งบริเวณขอบของฟูกนอน วางแมวน้อยไว้บนตัก ลูบขนเล่นอย่างเอ็นดู ริมฝีปากบนใบหน้าคมแย้มออก

“ถ่ายลงสตอรี่ไอจีได้ไหม?”

“หือ?”

“เราถ่ายศิลงสตอรี่เราได้ไหม? สัญญาว่าไม่เห็นหน้า”

“ตามใจ” ตอบแค่นั้น แล้วก็หันไปเล่นแมวต่อ

สิ้นคำอนุญาตสักพัก โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าก็สั่น มือหนาล้วงเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงออกมาดู เห็นแจ้งเตือนว่าเขาถูกแท็กจากอีกคนข้างกาย เมื่อกดเข้าดูก็เป็นสตอรี่ที่เห็นพบรักนอนอยู่ตักเขา มือแกร่งลูบหัวเล็ก ๆ นั่นอย่างเบามือ 

“ว่าแต่วันนี้ไม่ซ้อมเหรอ? พรุ่งนี้มีแข่งนิ่?”

“ไม่ซ้อม กลัวจะล้ากัน เก็บไว้ลุยพรุ่งนี้ทีเดียว”

“อ่อออ งั้นพรุ่งนี้เราไปเชียร์นะ”

“ห้ามได้เหรอ?”

“ไม่”

“จะทำอะไรก็ตามใจ แล้วคราวหลังถ้าจะซื้อน้ำไปให้ก็ซื้อไปแค่ของกูพอ ไม่ต้องเผื่อไอ้พวกนั้น”

“หวงเหรอ?” ถามอย่างกะลิ้มกะเหลี่ย

ไม่ได้ห้ามไม่ให้ซื้อ

ไม่ได้บอกว่าอย่าซื้อให้อีก

แต่ให้ซื้อให้ตัวเองแค่คนเดียว

ไม่เรียกว่าหวงได้เหรอ?

คนถูกถามไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ผินหน้าไปอีกทาง ถ้าอย่างนั้นธารธรรมขอสรุปว่าศิลา ‘หวง’ เขาก็แล้วกัน


ขอมอบตำแหน่ง 'ผู้ประสบความสำเร็จด้านการใช้แมวล่อผู้ชายเข้าห้อง' ให้กับคุณธารธรรมค่ะ!