หิมะกลายเป็นหนึ่งเดี่ยวกับฉัน เพียงเพราะฉันกลายเป็นผู้หญิงที่มีพลังเหนือธรรมชาติ

ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ - ตอนที่ 9 ข้อความ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ไซไฟ,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,ไอซ์สโนว์,สาวพลังหิมะ,แอคชั่น,ยอดมนุษย์,ฮิวแมน,เหนือธรรมชาติ​,แฟนตาซี,การต่อสู้,YukiCoCo,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ไซไฟ,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ไอซ์สโนว์,สาวพลังหิมะ,แอคชั่น,ยอดมนุษย์,ฮิวแมน,เหนือธรรมชาติ​,แฟนตาซี,การต่อสู้,YukiCoCo

รายละเอียด

ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หิมะกลายเป็นหนึ่งเดี่ยวกับฉัน เพียงเพราะฉันกลายเป็นผู้หญิงที่มีพลังเหนือธรรมชาติ

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำแนะนำจากคนเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแต่งขึ้นตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแต่ไม่จบ

เลยขอนำเสนอไว้สักตอนหนึ่งให้อ่านเล่นๆ ก่อนที่จะมาเขียนต่อ

เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งขึ้นไม่ได้อ้างอิงจากอะไรทั้งสิ้น

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับผู้มาอ่าน

และให้ความสนใจในนิยายเรื่องนี้นะคะ


บทนำของเรื่อง

เมื่อเด็กสาวลูกเสี้ยวไทยนามว่า มิรารี ต้องออกเดินทางไปยังงานเทศกาลวิทยาศาสตร์ที่นิวยอร์กตามความต้องการของเธอ แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นเมื่อด็อกเตอร์คนหนึ่งทำเรื่องขึ้นก่อให้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น ทำให้คนตายนับพันร่วมถึงตัวมิรารีที่ไม่น่าจะรอดจากเหตุการณ์นั้น แต่แล้วเวลาผ่านไป 10 ปีตัวเธอที่น่าจะโดนแช่แข็งตายกับฟื้นขึ้นมาในสถานที่แปลกตาเข้าพร้อมกับร่างกายที่เปลี่ยนไป แล้วเธอจะหาใครมาช่วยเธอได้ล่ะ?


กำหนดการลงนิยาย

ยังไม่แน่ชัดนะคะ

สารบัญ

ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนทีี่ 1 ออกเดินทางสู่นิวยอร์ก,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 2 หายนะครั้งใหญ่,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 3 เมื่อตื่นขึ้น,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 4 ฉันติดอยู่บนเกาะร้าง,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 5 ถึงเวลาสำรวจ,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 6 สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 7 จงหลับให้สบาย,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 8 ไฟฟ้ากลับมา,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 9 ข้อความ,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 10 ออกปฏิบัติการช่วยเหลือ,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 11 การช่วยเหลือที่หลอกลวง

เนื้อหา

ตอนที่ 9 ข้อความ

ตอนที่ 9 ข้อความ 

แสงสว่างทำลายความมืดมิดในตอนแรกหมดไป ทำเอามิรารียังอ้ำอึ้งหลังดีใจที่แสงสว่างทำให้โดยรอบของเธอสว่างขึ้นตอนนี้ถึงเวลาทำตัวตามสบายแล้ว แต่เธอก็มาครุ่นคิดว่าตัวเองควรทำยังไงต่อไปจนกระทั่งเธอลองใช้ระบบตรงหน้าหาข้อมูลบางอย่างเสียหน่อย เธอทำตัวผ่อนคลายก่อนจะใช้นิ้วกดไปที่แป้นพิมพ์และเมาส์ตรงหน้า ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องดูอะไรก่อนจะหาข้อมูล

 

“เอาล่ะอย่างแรกอินเทอร์เน็ต!!” มิรารีก้มมองไปที่มุมขวามือของหน้าจอก็เห็นคลื่นสัญญาณที่ไม่มีเลย “แย่ที่สุด!! แล้วฉันจะหาข้อมูลได้ไง?”

“กู้ด!!”

กู้ดนี่เดินมาที่มือของอีกฝ่ายที่จับเมาส์ก่อนจะเลื่อนตัวเมาส์ไปที่ระบบของที่นี่ก็มีข้อมูลขึ้นมาเต็มไปหมด

“สุดยอด!! กู้ดนี่ เธอรู้ได้ไง!?”

“กู้ด!!” กู้ดนี่ทำท่ายืดอกภูมิใจตัวเอง

 

มิรารีลองเลื่อนข้อมูลต่าง ๆ ดูหลายไฟล์ที่อยู่ในระบบดีที่มันมีเขียนปีไว้แต่นั่นก็ทำให้ใบหน้าของมิรารีรู้สึกชาไป เพราะข้อมูลปีต่าง ๆ จากที่นับมันผ่านมาเกือบหลายปีจนเธอเห็นไฟล์เก่าสุดมันเป็นปีที่เกิดระเบิดขึ้น เธอลองกดเข้าไปดูมีตั้งแต่ข้อมูลไปจนถึงวิดีโอ และข่าวที่ออกฉาย มิรารีลองกดเข้าไปดูเธอจ้องมองอย่างสงสัยจนเห็นภาพการระเบิดที่กระจายอนุภาคบางอย่างออกมารอบคนที่อยู่ภายในงานโดนระเบิดนั้นทำให้ร่างกายของพวกเขากลายพันธุ์กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนเรียกกันว่า

 

“เมต้าฮิวแมน...”

ความรู้สึกอัดแน่นอยู่ภายในหน้าอกของมิรารี เธอรู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาแต่ก็ยังฝืนที่จะกลืนมันเข้าไป เธอไม่คิดว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นจะเกิดอะไรขึ้นมา สงคราม การตามล่า มันช่างรู้สึกเวทนาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจนเธอดูคลิปของปีถัดไปก็เห็นเขียนว่า ไอซ์สโนว์ นั้นทำให้เธอสงสัยก่อนจะกดเข้าไปดูก็เห็นข้อมูลและใบหน้าเก่าของเธอ

“นั้นมัน...ฉันนี่น่า”

 

มิรารีลองกดข้อมูลมันเป็นคลิปที่เหล่ารัฐบาลส่งเมต้าเข้าไปข้างในโดมร้างเพื่อเก็บกู้สิ่งที่ยังอยู่ภายใน แต่ผ่านมาเกือบปียังจะมีใครให้กู้อีกกันจนเกิดพายุหิมะขึ้น นั้นทำให้เหล่าเมต้าที่เข้ารีบวิ่งหนีกันออกมา มิรารีสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นจนมีเสียงคนพูดว่า เธอยังไม่ตาย เธออยู่ในพายุนั้น เสียงนั้นทำให้เธอตกใจก่อนที่พายุจะมีการเคลื่อนตัวออกมา มิรารีมองอย่างสงสัยก่อนจะเห็นใครออกมานั้นคือร่างของเธอตอนรูปร่างใหญ่กำลังเดินออกมาจากโดม

 

“ตัวฉัน...ในพายุหิมะเหรอ...?”

 

มิรารีเห็นก็ตกใจมาก ๆ ก่อนที่ร่างกายของเธอจะเกิดการโต้ตอบขึ้นแล้วแช่แข็งทุกอย่างโดยล้อมก่อนที่ภาพจะตัดหายไป มิรารีงุนงงกับสิ่งที่เห็นตัวเธอได้สติ แต่ทำไมเธอไม่รู้สึกตัวตอนนั้นกัน นั้นทำเธอสับสนมาก ๆ จนอยากหาที่ระบายอารมณ์ที่บอกไม่ถูก เธอยกมือขึ้นมาตบใบหน้าตัวเองแรง ๆ เธอไม่มีเวลามาสับสนเธอต้องการข้อมูลและหาทางกลับบ้านก่อนที่จะมีบางอย่างโผล่ขึ้นมาที่หน้าจอ

 

“นี่มัน...”

ดวงตาทั้งสองข้างกำลังจับจ้องมองหน้าจอคอมที่จู่ ๆ มีข้อความภาษาอังกฤษขึ้นมาก่อนที่เธอจะอ่านเป็นภาษาไทยออกมา

“คุณเป็นใคร?

มิรารีเห็นความรู้สึกวู่วามอยู่ภายในใจเธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงหรือว่าควรตอบยังไง เธอมองไปที่แป้นพิมพ์ตรงหน้า ก่อนจะลองกดตัวหนังสือมันขึ้นที่หน้าจอ แต่เธอก็ลบมันเธอกลัวว่าคนที่ส่งข้อความมาเป็นใครกันฝ่ายดีหรือเลวกัน เธอตอบไปแล้วกลายเป็นฝ่ายเลวล่ะ ชีวิตของเธอคือจบไปเลย

“ทำไงดี...มันโคตรเสี่ยงมาก ๆ เลยนะ...”

“กู้ด...” กู้ดนี่เกาะมือของเธอที่กำลังวางอยู่

มิรารีหันไปมองกู้ดนี่ เธอยังมีเจ้าตัวเล็กที่เธอจะต้องพาออกไปด้วยนั้นทำให้เธอมีความกล้าขึ้นมา ก่อนที่เธอจะลูบหัวเจ้าตัวเล็กเบา ๆ

“ไม่ต้องห่วง...กู้ดนี่...ถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอจะช่วยฉันได้ไหม?”

“กู้ด!!” กู้ดนี่ส่งเสียงอย่างร่าเริง

 

มิรารีเห็นสีหน้าอีกฝ่ายทำให้เธอมีกำลังใจมากขึ้น เธอหันกลับไปมองหน้าจออีกครั้งก่อนจะกดแป้นพิมพ์เป็นชื่อหนึ่งที่เธอนึกขึ้นมาได้จากข้อมูลในระบบ เพราะเธออยากรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามใช่กลุ่มคนที่เคยอยู่ที่นี่ไหมก่อนที่เธอจะกดเอ็นเทอร์ทันทีแล้วรอเวลา ตอนนี้เธอได้แต่ภาวนาขอให้สิ่งที่เธอทำนั้นพาโชคชะตามาหาเธอไม่ใช่หายนะที่จะทำให้เธอไม่สามารถเจอหน้าครอบครัวได้อีก

 

 

ดาดฟ้าฐานบัญชาการยอดมนุษย์

ตกเย็นแสงพระอาทิตย์กำลังตกลงสู่ฟากฟ้าอีกครั้งเหมือนทุกวัน ชายหนุ่มที่มีผมประกายสีเทากำลังจ้องมองแสงอาทิตย์ที่กำลังตกลงอย่างเชื่องช้าด้วยใบหน้าอันหมองหม่นเล็กน้อย เขายกขวดเหล้าขึ้นมาดื่ม ก็มีเสียงหนึ่งขัดจังหวะการดื่มของเขานั้นทำให้ชายหนุ่มหันไปมองเจ้าของฝีเท้าที่ขัดจังหวะการดื่มด่ำของเขา สีหน้าที่จะไม่พอใจเปลี่ยนเป็นผ่อนคลายเมื่อเห็นคนที่เดินมา

 

“นายเองเหรอ? มิเกล”

ชายหนุ่มได้เอยนามของอีกฝ่ายที่อยู่ในเงามืดกำลังเดินตรงมาหาเขา บุคคลดังกล่าวค่อย ๆ เดินออกมาร่างกายของเขาเต็มไปด้วยหินสีแดงทั้งตัวและตามซอกหินก็สิ่งที่มีสีแดงๆ คล้ายลาวากำลังไหลอยู่

“เดาถูกด้วยนะ เพื่อนฉัน”

“อยู่ด้วยกันมาตั้งเกือบ 10 ปี ฉันไม่รู้ก็บ้าล่ะ!” เขายกขวดเหล้าดื่มก่อนจะเห็นอีกฝ่ายจะมานั่งข้าง ๆ

"หยุดเลย!!"

มิเกลถึงกับชะงัก แล้วมองอย่างสงสัยทันที “ทำไม?”

"ถ้าจะมานั่งข้าง ๆ โปรดใช้อุปกรณ์ควบคุมพลังด้วย ฉันขี้เกียจมาจ่ายเงินค่าข้าวของเสียหาย"

“โธ่ ๆ ดูพูดเข้าได้เงินจากรัฐบาลก็เยอะ จะกลัวอะไร คาร์เตอร์!”

ดวงตาอำพันจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ชอบใจ “ฉันขี้เกียจมาเขียนรายงานข้าวของอะไรพังมั้งและเกิดจากอะไรเช่น ความประมาทของเมต้าฮิวแมนอย่างเรา! ดีที่ทางรัฐบาลยอมตกลงกับเราดีกว่า เอาพวกเราไปทดลองเป็นอาวุธในสงครามนะ!”

“หึ! ทำสิ พวกเราคงลุกขึ้นสู้ แล้วหนีไปอยู่ที่ดี ๆ”

มิเกลยืนขึ้นแล้วกดปุ่มที่อุปกรณ์ตรงข้อมูล แล้วร่างกายกลายเป็นหนุ่มผิวแทน ผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า เขานั่งลงข้างเพื่อนพร้อมกับถามอีกฝ่าย

“พอใจนะ!”

“หึ!” คาร์เตอร์มองอีกฝ่ายแล้วยกขวดเหล้าขึ้นดื่ม

“แล้วนี่ฤดูนั้นยังไม่หมดสินะ”

“ไม่ต้องมายุ่ง! นั้นเรื่องของฉัน!”

“จ้า ๆ พ่อมนุษย์หมาป่า!”

“แล้วนายมีอะไรถึงมาหาฉัน!”

“อ๋อ พอภรรยาฉัน...”

“ซาร่าเหรอ? เธอเป็นอะไร?”

“เธอเห็นภาพจากต้นไม้อีกแล้วและครั้งนี้เป็นที่เกาะเซอร์ไว!”

“!!” คาร์เตอร์เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังทันที “เธอเห็นภาพอะไร?”

“เธอบอกมีคนผิวสีขาวซีดกำลังฝังเจ้าพวกเลอร์วิงวู้ดนะสิ”

“เจ้าพวกตัวเล็กที่เธอชอบพาไหนมาไหนด้วยน่านะ”

“นายสังเกตด้วยเหรอนั้น?”

“ทำไมนายไม่ได้สังเกตเลยหรือไง?”

มิเกลนั่งเงียบทันที คาร์เตอร์จ้องถึงกับรู้เลยว่าเจ้าหมอนี้ไม่ได้สังเกตภรรยาตัวเองจริง ๆ

“เหอะ ๆ ชักสงสารซาร่าที่มีสามีไม่ใส่ใจเนี่ย!”

“เออ!! ภรรยายังโกรธฉันไม่หายเลย!! ฉันมันไม่ได้เรื่อง! ขอโทษละกัน!!”

“ขอโทษ...ขอโทษภรรยานายน่าจะดีกว่านะ”

“ฮืออออ!!” มิเกลนั่งร้องไห้ทันที

“แต่...เกาะนั้นไม่มีใครแล้วไม่ใช่เหรอ?” คาร์เตอร์ถามอย่างสงสัย

คาร์เตอร์จำได้ว่าที่นั่นเกิดอะไรขึ้น เขาพาเด็ก ๆ ไปฝึกที่เกาะนั้น แต่ไม่นานพวกดาร์คเนสก็โผล่มาแล้วโจมตี ดีที่เขาพาทุกคนกลับมาหมดถึงบางคนจะกลับมาตายที่นี่ก็ตามทีเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไว้ ระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดเขาก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาว่าร่างกายสีขาว

“ใช่ไงล่ะ ฉันเลยอยากให้นายอนุมัติให้ ฉันออกไปสำรวจที่เกาะนั้น!!” มิเกลหันไปมองคาร์เตอร์อย่างมุ่งมั่นว่าเขาต้องไปให้ได้ แต่เขาก็มองเพื่อนที่มีสีหน้าเปลี่ยนไป “เป็นอะไรนะ? คาร์เตอร์”

“นายบอกว่าซาร่าเห็นคนผิวขาวเหรอ?”

“ใช่...อาจจะเป็นคนยุโรปก็ได้ พวกเราขาวกันปกติอยู่แล้ว”

“เหรอ...” คาร์เตอร์ยังครุ่นคิดก่อนที่มิเกลจะมาทำหน้าตาออดอ้อนใส่เขา

“น่าเพื่อนนะ ฉันอยากลองไปดู เกิดเป็นพวกดาร์คเนสฉันจะฆ่าพวกมันทั้งหมด!!”

คาร์เตอร์จ้องมองด้วยสีหน้าไม่พอใจกับใบหน้าอีกฝ่ายตอนนี้ แต่เขาครุ่นคิดอยู่สักพักพร้อมกับแหว่งขวดเหล้าวนไปมา

“งั้นพรุ่งนี้เช้าพาเมต้าฮิวแมนไป 20 นาย เตรียมอาวุธให้พร้อม!!”

“พูดจริงเหรอ?” พอได้ยินคำสั่งของเพื่อน มิเกลถึงกับมีสีหน้าตื่นเต้นทันที

“จริง! แต่ถ้าไปแล้วกลับเป็นพวกดาร์คเนส จงจับกุมหัวหน้าใหญ่มันมาด้วยล่ะ!!”

มิเกลฉีกยิ้มในทันที “รับทราบ หัวหน้า!”

 

ทั้งสองคนยกขวดเหล้าชนกันอย่างมีความสุข ต่ำลงไปยังโดมขนาดใหญ่สถานวิจัยเวลานี้กำลังเงียบสงัด ช่วงผู้คนกำลังจะกลับบ้านไปพักผ่อน ไม่มีใครอยู่นอกจากบางคนที่กำลังเคลียร์งานของตน ตามทางเดินมีสิ่งบางอย่างวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเหนือแสงจนกล้องวงจรปิดจับได้เพียงแสงแว็บผ่านไป สิ่งที่แว็บไปนั้นปรากฏตัว ณ ประตูบ้านหนึ่ง ชายมีรูปร่างสูงโปร่ง ผมดำ และสิ่งที่แปลกกว่าอะไรคือแว่นตาโค้งสีดำที่เขาใส่ เขาจัดร่างกายก่อนจะเปิดประตูเข้าไปข้างใน

 

“เธอเรียกฉันมาคงมีธุระจริง ๆ นะ เอวา”

เอวากำลังจ้องมองหน้าจอคอมตนเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียดมาก ๆ เธอกำลังเสี่ยงโดนไล่ออกมาหลังจากเธอตรวจสอบบางอย่าง แล้วเธอพึ่งส่งข้อความบางอย่างไปในคอมตรงดิ่งไปอีกที แล้วตอนนี้ข้อความนั้นมาแล้ว นั้นทำให้เธอยิ่งเครียดหนักว่าสิ่งที่เธอเจอมันเรื่องจริงไหม ชายหนุ่มที่มองอย่างสงสัยว่าหญิงสาวไม่ได้ยินที่เขาพูดเหรอ

“เอวา...เอวา!!”

“ว่า!!” เอวาทำสีหน้าตกใจจนคนเรียกก็งงว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร

“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? แล้วเรียกฉันมีอะไร?”

“อ๋อ...คือ...” เอวาจ้องมองหน้าจอคอมตรงหน้าที่มันโปร่งใส่ แต่มีแค่เธอที่เห็นข้อมูล เธอจ้องมันก่อนจะหันไปหาอีกฝ่าย "ฉันอยากให้นายช่วยพาฉันไปเกาะเซอร์ไวโดยด่วนที่สุด โจเซฟ!"

“ว่าไงนะ!!” โจเซฟจ้องมองอีกฝ่าย เขาถอดแว่นสีดำออกจนเห็นดวงตาสีดำของเขา “ทำไมต้องไปเกาะนั้นด้วยล่ะ?”

เอวาจ้องมองอีกฝ่ายสลับกับหน้าจอ เธอกำลังสลับหน้าจอให้อีกฝ่ายดูข้อความ

 

‘คุณเป็นใคร’

‘ฉันคือ ไอซ์สโนว์’

 

โจเซฟจ้องมองข้อความในคอมก่อนจะมองอีกฝ่ายกลับ “เธอเล่นตลกอะไร? ฉันรู้ว่าไอซ์สโนว์คืออะไร มันคือโปรเจคเกี่ยวกับ...”

“ฉันรู้...แต่ว่า...ถ้าฉันส่งข้อความไปอีก...แล้วถ้าอีกฝั่งตอบมานายต้องพาฉันไป!!”

“เธอคิดว่าพี่เขาฟื้นแล้วเหรอ? เธอหลับมาเกือบ 10 ปีเลยนะ!!”

“ฉันรู้!! แต่ไม่ลองก็ไม่รู้ โจเซฟ!!”

“งั้นลองดู!!”

โจเซฟเอาเก้าอี้มานั่งเขาจ้องมองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นอะไรเอวาตั้งสติก่อนจะส่งข้อความไปว่า

 

‘เธอคือมิรารี เครือเพชรใช่ไหม?’

 

ข้อความถูกส่งไปไม่นานหลังจากนั้นก็มีข้อความถูกลงมาทั้งสองคนจ้องมองกันอย่างสงสัยว่าข้อความอะไร

 

‘ใช่!! ฉันชื่อมิรารี ได้โปรดมาช่วยฉันด้วย!’

 

“เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ เธอหลับไปตั้งเกือบจะ 10 ปี...!!”

“เห็นไหมล่ะ!! ฉันบอกแล้ว!! ต้องใช่!! เพราะไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว เกิดการแจ้งเตือนขึ้นว่าไฟฟ้ากำลังทำงานทั้งเกาะ ตอนแรกฉันก็คิดว่าเป็นพวกดาร์คเนส จนเห็นว่าอีกฝั่งกำลังหาข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้น ถามหน่อยพวกดาร์คเนสจะหาไปทำไม!!”

“ถ้าเป็นคนที่พึ่งตื่น...”

“ก็ต้องมีความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นและหาข้อมูล...ไม่งั้นฉันคงไม่ลองส่งข้อความไป...ตอนแรกฉันก็กลัว...แต่เธอตอบในสิ่งที่พวกเราตั้งโปรเจคนั้นให้เธอ...เมื่อกี้เธอกำลังดูโปรเจคนั้นพอดี...”

“แต่ที่น่าแปลกที่เธอส่งไปแล้วมีคนตอบมา เธอไม่กลัวเป็นดาร์คเนสเลยเหรอ?”

“ฉันก็กลัว!! แต่ลองคิดถ้าเป็นพวกมัน ไม่ตอบหรอกมันคงยิ่งระบบเราฟังไปแล้ว แต่นี่เธอตอบกลับมา!! ถ้าเป็นนาย ในสถานการณ์แบบนั้นจะกล้าตอบไหม!?”

“เป็นผมยังไม่กล้าส่งเลยด้วยซ้ำ...ถ้ารู้ว่าเรามีสองฝ่าย...นี่พี่เขา...ยอมเสี่ยงเพื่ออย่างรู้ว่าพวกเราคือฝ่ายไหน...นั้นใช่พี่เขาจริง ๆ ใช่ไหม...?”

“ฉันถึงขอไง! โจเซฟ ให้นายพาฉันไปช่วยมิรารีตอนนี้เลย!!”

โจเซฟจ้องมองอีกฝ่ายที่ตัวเล็กกว่าเขา ทำเอาเขาปวดคอขึ้นมาเลยทีเดียว “ได้! แต่ถ้าไม่ใช่พี่ ฉันขอจัดการให้คนที่แอบอ้างเป็นพี่มิรารีนะ”

“ตามใจนายฉันไม่เกี่ยว!”

เอวาไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร เธออยากไปช่วยมิรารีมากกว่า แต่ในใจก็แอบคิดว่าขอให้เป็นมิรารีจริง ๆ ที่ส่งข้อความหาเธอทีเถอะ

“เหรออออ!!” โจเซฟพูดแบบประชด “งั้นไปกัน!!”

“อืม!! ไปกัน!!”

 

ห่างออกไปหลายร้อยไมล์สู่เบื้องล่างที่มีเหล่ามนุษย์ปกติเดินกันยามราตรี ห่างออกจากตัวเมืองซากปรักหักพังมากมายอยู่เต็มไปหมด โกดังร้างใหญ่ที่เคสเนอร์พาพรรคพวกของตัวเองมาอยู่ในสถานที่ที่ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะอยู่กัน ข้างในห้องห้องหนึ่งเคสเนอร์ได้เรียกผู้คนที่เขาต้องการมารวมตัวกัน พร้อมกับหญิงสาวที่แต่งตัวเป็นแม่หมอนั่งบนตักของเขา

 

“เรียกพวกเราหน่วยฟูโร มีอะไรให้พวกเรารับใช้หรือคะ?”

หญิงสาวถามหัวหน้าอย่างสงสัย เธอมีรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์ แต่กับสิ่งที่คล้ายหนามออกมาจากแก้มและแขนด้านนอก

“มีสิ!” เคสเนอร์หยิบกระดาษบนโต๊ะตรงหน้ายื่นให้หญิงสาวที่ถามเขา “ตามหาหญิงคนนี้ที่อยู่บนเกาะเซอร์ไว!”

หญิงสาวมองภาพที่เป็นภาพสเกลของหญิงสาวที่มีผมยาวประบ่าและทั้งร่างกายเป็นสีขาว

“ผู้หญิงคนนี้...” หญิงสาวมองอย่างสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร

“ไปพาเธอกลับมาอย่างเป็น ๆ ฉันต้องการเธอมาอยู่ในแผนของฉัน!”

“รับทราบค่ะ! แล้วเรื่องเวลา”

“ตอนนี้! ก่อนที่จะมีคนดักหน้าเราไปหาเธอออกมา!”

“ค่ะ หน่วยฟูโรขอตัว!”

หญิงสาวทำความเคารพพร้อมกับเดินออกจากตรงนั้นทั้งหมด เคสเนอร์ยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนที่แม่หมอจะยกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของเคสเนอร์

“ดู ๆ พอฉันหานางเจอ ท่านก็เอาแต่ยิ้มนะ”

“อะไร ๆ เธออิจฉาหรือไง แม่นางฟ้าของฉัน”

“หึ ฉันสำคัญกับท่านตอนที่ฉันใช้ดวงตาทำนายอนาคตเท่านั้นเองล่ะนะ” แม่หมอกำลังหันหน้าหนีด้วยอาการงอนอีกฝ่าย

“ไม่เลย” เคสเนอร์เปลี่ยนท่าของแม่หมอนอนลงบนโต๊ะตรงหน้าของเขา แล้วเขาคร่อมบนตัวของเธอ “เธอสำคัญต่อหัวใจของฉันมากเลยล่ะนะ เมดิสัน”

“จริงเหรอคะ? ท่านเคสเนอร์…” แม่หมอรู้สึกเคลิ้มไปกับคำพูดของผู้เป็นนาย

“จริงสิ~”

 

ริมฝีปากบางประกบลงบนริมฝีปากอันอวบอิ่มของแม่หมอสาว หญิงสาวโอบรอบคอของชายหนุ่มทั้งสองกำลังบรรเลงรสจูบกันอย่างดูดดื่มจนมือของชายหนุ่มกำลังลูบต้นขาของเธอพร้อมกับดึงบางอย่างลงมาเรื่อย ๆ แต่ระหว่างที่กำลังบรรเลงอารมณ์ราคะนั้น ในความคิดของเคสเนอร์มีแต่ความคิดที่เขานั้นต้องการหญิงสาวที่ชื่อมิรารี พลังของเธอที่แม่หมอบอกมันอาจจะไม่ใช่แค่พลังอันเล็กจ๋อย แต่อาจจะมีสิ่งที่เขาต้องการและเข้านั้นจะต้องการเธอมาอยู่ข้างกายให้จนได้

 

จบตอนที่ 9 โปรดติดตามต่อตอนที่ 10 ต่อไป