อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด - บทที่ 2 เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์ โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ผู้แต่ง

ยักษาบรรพกาล

เรื่องย่อ

นพเก้าเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นแม่แต่น้อย

“ระบบการแสดงของข้าเป็นอย่างไรบ้าง” 

นพเก้าถาม

[ติ๊ง ประทับใจ]

ระบบตอบ

[ติ๊ง ของแสดงความยินดีโฮตส์ได้แสดงการวาดยันต์บุพภาลำเนาไพรฉบับสมบูรณ์ การกระทำของโฮสต์เริ่มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปรงด้าน อุตสาหกรรมยันต์วิญญาณระดับภูมิภาค รางวัล: เพิ่มช่องทรัพยากร + 5]

“ระบบ ข้าสามารถใช้งานได้อย่างไร”

[โฮสต์สามารถเรียกช่องทรัพยากรได้ผ่านทางจิตแล้วใส่วัตถุในช่อง ทรัพยากร]

นพเก้าหยิบสร้อยคอทองคำ 1 บาทที่น้องสาวให้เป็นของขวัญวันเกิดใส่ในช่องทรัพยากรตรงหน้า

[ช่องทรัพยากร]

[ความจุ 1/5]

[วัตถุ: สร้อยคอทองคำ 1 บาท (ระยะเวลาเพิ่มจำนวน 23 ชั่วโมง 59 นาที 53 วินาที: อัตราเพิ่มจำนวน 1 เท่าตัว)

“ระบบ ถ้ามันครบ 24 ชั่วโมงมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นจริงเหรอ แล้วมันมีข้อจำกัดหรือไม่” 

นพเก้าอดสงสัยไม่ได้

[จริงแท้แน่นอน]

[โฮสต์โปรดอย่าสงสัยในความสามารถของระบบ ต่อให้เป็นไอเทมระดับทำเจ้าก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ย่างไม่สิ้นสุด]

สารบัญ

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 1 บทนำ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 2 เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 3 กลับบ้าน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 4 นพเก้า ปะทะ หวงอี้เฟย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 5 กายาสวรรค์ จุติจักรพรรดิในก้าวเดียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 6 อัจฉริยะในรอบพันปี,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 7 อันตัวข้าผู้สืบทอดเป็นคนใจกว้าง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 8 เทศกาลสวมหมวกเขียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 9 เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย โอเคได้เลย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 10 พบบุตรแห่งโชคชะตา,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 11 จิตใจของข้าแตกสลายเป็นล้านๆชิ้น,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 12 ความลับตระกูลหวง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 13 พบเจอกายาอมตะ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 14 บุกรังจักรพรรดิปักษาพิรุณ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 15 ครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 16 สร้างประตูมิติ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 17 ฝากคำทักทายเจ้าเมือง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 18 สอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 19 ใครบอกกันว่าข้าจะสอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 20 การปรากฏขึ้นของโอสถระดับตำนาน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 21 ความเย่อหยิ่ง ปะทะ ความจองหอง

เนื้อหา

บทที่ 2 เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์

ช่องนิยายเสียง + อนิเมชั่น + Soundtrack + SFX https://youtu.be/wf9rklG6XYs

สวนพฤกษศาสตร์ของคณะเวทย์มนตร์เขตนอกมีการเปิดให้บุคคลทั่วไปของโรงเรียนเดินท่องเที่ยวได้ เป็นเขตสาธารณะอย่างหนึ่ง ในเขตนี้มีเพียงต้นไม้ที่พลังวิญญาณเบาบาง มักใช้ฝึกปรือรวบรวมปราณวิญญาณยามว่างสำหรับผู้ที่ขยันหมั่นเพียร นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมวัยรุ่นคู่รักมาผ่อนคลายจากการเรียนรู้ และเป็นจุดเปลี่ยวในตอนราตรี

ขณะนี้นพเก้านั่งอยู่ใต้ต้นไทรสูง 8 เมตร อยู่ในท่าขัดสมาธิโดยมือทั้งสองข้างแบบออกทำท่าสมาธิ โดยรูปร่างหน้าตาที่สมบูรณ์แบบ มักจะมีกลุ่มสาวๆ เฝ้าดูเป็นระยะ แต่นพเก้าหาได้สนใจไม่

“ระบบ แสดงค่าสถานะของข้าได้หรือไม่”

[ค่าสถานะของโฮสต์]

อายุ: 18 (76)

เขตแดน: หลอมศิลาขั้นที่ 9 ขั้นกลาง (ค่าพลังปราณ: 978 เมตร)

ทักษะการต่อสู้: มังกรเก้าดารา (วิชาปฏพีขั้นกลาง)

เคล็ดวิชา: อสุราทองคำ (วิชาปฎพีขั้นสูง)

พรสวรรค์: ไม่มี

พลังเทพ: 0

เมื่อมองดูสถานะปัจจุบันนพเก้าก็รู้สึกรับไม่ได้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเส้นทางการฝึกตนไม่สามารถเร่งรีบได้ จำเป็นต้องก่อตั้งรากฐานให้มั่นคง สำหรับนพเก้าการที่ชาติที่แล้วของเขา เขาไม่สามารถบรรจุเขตแดนจ้าวสวรรค์ได้แล้วนั้นหากไม่ถูกลอบโจมตีก็มีโอกาสที่จะฝ่าด่านสำเร็จเพียง 3/10 เท่านั้น เนื่องจากก่อนช่วงอารยธรรมจะฟื้นฟูเหล่าผู้บ่มเพาะมีเพียงค่านิยมที่จะยึดระดับพลังบ่มเพาะเป็นหลักเพื่อแสดงถึงความแข็งแกร่ง ส่งผลให้ผู้ที่ต้องก้าวข้ามทัณฑ์สวรรค์นั้นมีไม่ถึงหนึ่งคนจากร้อยคน เป็นแนวคิดที่ทำให้สังคมตกต่ำสิ้นดี

ในฐานะนายน้อยคนโตของตระกูล ภายในตระกูลมีการแข่งขันแย่งชิงทรัพยากรกันสูงมาก ยิ่งอยู่ตำแหน่งสูงยิ่งมีศัตรูมาก เพื่อที่จะปราบเครือญาติแย่งชิงทรัพยากรนอกจากความกดดันแล้วต้องเร่งฐานการฝึกปรือให้สูงขึ้นและเร็วขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยการแสดงความสามารถในปัจจุบันเขาจึงได้ขึ้นแท่นจัดอันดับผู้มีพรสวรรค์ โดยอยู่ที่ลำดับที่ 11 ของผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีของเมืองเวสสุวรรณ

“ในครั้งนี้ข้าจะสู่อันดับ 1 ไม่ ข้าจะต้องไร้เทียมทาน”

ในชีวิตนี้เขาวางแผนที่วางรากฐานให้แข็งแกร่งกว่าระดับเดียวกันอย่างน้อย 1000 เท่า ด้วยการสนับสนุนของทรัพยากรที่ไร้ขีดจำกัดและการสนับสนุนในฐานะผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูลอสุราทองคำไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

หลังจากสำรวจสภาพร่างกายของตัวเองพร้อมแล้วก็ถึงเวลาฝึกเคล็ดวิชาใหม่แทนที่วิชาระดับปฎพีขั้นสูง วิชานี้มันขยะเกินไป

“ครั้งนี้ข้าจะเลือกวิชาระดับเทพเจ้าตั้งแต่เริ่มต้น เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์”

ด้วยความทรงพลังที่สามารถกำราบสวรรค์สบั้นนรกนี้ เขาเคยสร้างความโกลาหลมานับครั้งไม่ถ้วน น่าเสียดายที่เขาเริ่มฝึกวิชานี้ในขอบเขตราชันย์ยุทธ์ไม่เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นผู้ไร้เทียมทานที่สุดอย่างแน่นอน

ฟรึบ ฟรึบ

นับตั้งแต่โบราณกาลการฝึกวิชามารถือเป็นศาสตร์นอกรีตที่ทุกคนเกลียดชัง เพราะเมื่อผู้บ่มเพาะเริ่มเข้าสู่วิธีมารจะมีการกัดกินจิตใจของมนุษย์ส่งผลให้ความคิดบิดเบี้ยวแลกกับการที่ทลายข้อจำกัดด้านการบ่มเพาะโดยฝืนกฎแห่งกรรม ย้อนกลับไปเมื่อ 300 ปีก่อนผู้บ่มเพาะสายมารได้ออกอะละวาดทั่วสารทิศ ประกาศสงคราม ปล้นชิง ยึดอำนาจ สร้างกองกำลัง ส่งผลให้ภาคตะวันออกและภาคกลางเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งสงคราม โดยระยะเวลาสงครามยาวนานถึง 60 ปีจึงสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของฝ่ายธรรมะ แต่กระนั้นก็ส่งผลให้ชะลอการพัฒนาของความแข็งแกร่งของวัฒนธรรม ส่งผลให้ภูมิภาคทั้ง 2 ถูกกดขี่ข่มเหงมาถึงปัจจุบันจากคนภูมิภาคอื่น

ศาสตร์มารลึกลับที่นพเก้ากำลังแสดงสัญลักษณ์มือรูปแบบต่างๆ ก็ไม่มีข้อยกเว้น หากถูกจับได้จะถูกประหารล้างชั่วโคตรทันที แต่นพเก้าหาได้สนใจไม่ เนื่องจากความเสื่อมโทรมของอารยธรรม เรื่องผู้ฝึกยุทธ์สายมารจึงกลายเป็นเรื่องเล่าปากต่อปาก หากไม่แสดงออกอย่างชัดเจนก็ยากที่จะสืบสวน

“ศาสตร์ลับโซ่ตรวนมรณะนิรันทร์”

หลังจากประสานมือครั้งสุดท้าย เขาได้พ่นแก่นโลหิตออกมาจากปาก แล้วส่งเข้าไปที่กลางหน้าอกโดยไม่รอช้า นพเก้าพึมพำท่องคาถาออกมาเป็นภาษาที่มนุษย์ฟังแล้วน่าขนลุกเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นแก่นโลหิตเหมือนกับมีชีวิตมันตรงเข้าไปที่หน้าอกวาดเป็นอักขระสีแดง ผ่านไปหนึ่งก้านธูปเลือดก่อตัวเป็นสัญลักษณ์ยันต์วิญญาณแปดทิศ แล้วซึมซับเข้าสู่ผิวหนังไม่ปรากฏให้เห็นอีกต่อไป

ภายในจักรวาลในจิตใจของนพเก้า รอบด้านเต็มไปด้วยหมู่ดาวนับไม่ถ้วน โดยจุดศูนย์กลางของกาแล็กซีมีศิลาสีทองรัศมีเก้าร้อยกว่าเมตรอยู่ตรงกลางและมีดาวหางเก้าดวงหมุนวนรอบศิลาสีทอง ทันใดนั้นมียันต์วิญญาณสีเลือดปรากฏขึ้นด้านล่างก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นรูปหัวกะโหลกสีแดงที่ดูชั่วร้าย

แซด! ตรึง!

หัวกะโหลกอ้าปากที่มีฟันแหลมคมออกมาตามด้วยโซ่ตรวนสิบกว่าเส้น มันเข้าไปมัดศิลาสีทองที่ลอยอยู่กลางกาแล็กซี

ฟู่ว!

นพเก้าพ่นลมหายใจสีดำออกมาจากจมูกและปาก เป็นอันว่าเสร็จสิ้นการร่ายศาสตร์มารลึกลับ

(ด้วยวิธีนี้ข้าสามารถทำให้รากฐานแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร้ที่สิ้นสุด)

นพเก้าตัดสินใจแล้วที่จะเลือกวิถีของผู้ฝึกมารตั้งแต่เริ่มต้นในชีวิตนี้ โดยศาสตร์มารลึกลับที่เขาบ่มเพาะจัดอยู่ในลำดับที่หนึ่งของศาสตร์มารทั้งหมด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีน้อยคนนักที่สามารถฝึกฝนวิชานี้แล้วบรรลุเป็นเซียนได้ เนื่องจากเงื่อนไขที่โหดหินและโหดร้ายต่อตนเองผู้บ่มเพาะสายมารส่วนใหญ่เลือกที่จะยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มต้น

เงื่อนไขที่ว่าคือหากอยากฝ่าด่านไปสู่ขั้นถัดไปจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากกว่าคนทั่วไป 1,000 เท่า แม้จะมีข้อกำหนดที่เรียบง่ายแต่คนรวยที่ไหนจะทนกับสิ่งนี้ได้ ยกเว้นผู้ที่มีความมั่งคั่งอย่างแท้จริง หากไม่มีทรัพยากรเพียงพอก็มีแต่ต้องฝึกฝนโดยอาศัยปราณฟ้าดินที่เหือดแห้ง มีแต่จะอยู่ในขอบเขตนี้จนสิ้นอายุขัย แต่นี่เป็นเพียงเงื่อนไขแรกเท่านั้น อีกเงื่อนไขคือกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเดียวกัน 1,000 ตน ตามความเห็นของนพเก้านี่ก็ไม่ต่างจากการสร้างหายนะให้ตัวเองเช่นกัน

แต่ด้วยการพึ่งพาจากระบบสิ่งนี้สามารถเป็นไปได้ด้วยการเพิ่มพูนทรัพยากรอย่างไม่จำกัด

“ระบบ”

[ช่องทรัพยากร]

[ความจุ 5/5]

[วัตถุ: สร้อยคอทองคำ 1 บาท, โอสถควบแน่นลมปราณ 20 เม็ด (โอสถขั้น 1) , โอสถปะทุโลหิต 4 เม็ด (โอสถขั้น 3) , โอสถชำระไขกระดูก 1 เม็ด (โอสถขั้น 4), กริชทวิกาลมรณะ (ขั้น 4)

นพเก้าใส่ทรัพยากรบ่มเพาะที่มีค่าทั้งหมดลงบนช่องสล็อตทั้ง 5 โดยที่ติดตัวมีเพียง โอสถชำระไขกระดูกและโอสถปะทุโลหิตอย่างละ 1 เม็ด และดาบปะการังทั่วไป 1 เล่ม

ในความเป็นจริงก่อนมาถึงสวนพฤกษศาสตร์นพเก้าได้สำรวจทิศทางของสมบัติล้ำค่าระดับรองลงมาเช่นกัน แต่จุดหมายที่ซ่อนสมบัติด้วยความสามารถในปัจจุบันเขาไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะนำมาได้ เพราะมันชี้ไปที่สถานที่สำคัญอย่างโรงประมูล สถานีตำรวจ และที่ทำการของผู้มีอำนาจ หรือแม่แต่หอพักหญิง บอกตามตรงนพเก้ายังไม่อยากถูกทุบตีจนตาย มีเพียงแสงนำทางที่ใหญ่ที่สุดนี้มันบ่งชี้มาที่สวนสาธารณะเขตนอกนี้

นพเก้ามองดูโอสถปะทุโลหิตในมือขวาแล้วกลืนเข้าไป หลังจากยาเข้าสู่ลำคอก็เริ่มละลายกลายเป็นโลหิตจากนั้นความร้อนภายในกระเพาะเริ่มสูงขึ้นให้ความรู้สึกแสบร้อนเหมือนน้ำลวกจากการปะทุของโลหิตของโอสถ เขาต้องอดทนกับความทรมาณจากมันเป็นเวลาอย่างน้อย 5 นาที พลังของยาจึงเริ่มออกฤทธิ์

ทันใดนั้นนพเก้าโคจรพลังในตันเถียนเข้าสู่มือขวาแล้วทุบเข้าไปที่ตันเถียนอย่างแรง

ตู้ม

ศิลาสีทองแตกสลายปราณวิญญาณปะทุราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกคุมขังมานานแล้วได้รับอิสรภาพ ในที่สุดมันต้องการออกจากร่างกายของนพเก้าอย่างดุร้าย แต่ก่อนที่มันจะขยายออกไป โซ่ตรวนก็ส่งแสงสีขาวออกมาพร้อมมีอักขระหมุนวนอยู่รอบๆ โซ่ตรวนเริ่มสั่นสะท้านแล้วบีบอัดปราณวิญญาณที่อาละวาดให้ควบแน่นจนกลายเป็นทรงกลม

นพเก้าเริ่มบริกรรมคาถาอีกครั้งจากนั้นโซ่ตรวนเส้นหนึ่งได้ทะลุออกจากพื้นที่ตันเถียนแล้วรัดพันหัวใจของเขา

“ผสานวิชา”

นพเก้าตะโกนออกมาอย่างดุดัน

ตึก! ตึก!

หัวใจของนพเก้าเริ่มสั่นอย่างรุนแรงและเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนมีจังหวะการเต้นของหัวใจมากกว่า 2,000 ครั้ง/นาที มากกว่าคนทั่วไปถึง10เท่า

จากผลของเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์เริ่มแสดงผลในขั้นแรก หัวใจของนพเก้าได้แบ่งออกเป็น 9 ช่องในแนวยาว ปราณวิญญาณที่อาละวาดส่วนหนึ่งจากตันเถียนเริ่มหล่อเลี้ยงช่องหนึ่งของหัวใจ จนเกิดสัญลักษณ์รูปหัวกะโหลกปีศาจที่ติดไฟคล้ายกับหัวโกสไรเดอร์โดยมีอักขระล้อมรอบสี่ทิศ ราวกับหัวกะโหลกมีชีวิตมันสูบกลืนกินปราณฟ้าดินอย่างละโมบ

ชวูบ! ชวูบ!

หลังจากกลืนกินไปได้สักพักมันค่อยหุบปากลง โดยแววตาของมันฉายประกายสีแดงขึ้นราวกับมันเริ่มมีเจตจำนงของตนเอง

วิถีที่หนึ่ง เพลิงแห่งความละโมบ นี่เป็นทักษะแรกที่นับว่าโกงอย่างแท้จริงของเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์ มันมีความสามารถอัศจรรย์โดยใช้แก่นแท้โลหิตของผู้ฝึกตนมาวิวัฒนาการเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายส่วนนึงให้กลายเป็นนักรบโลหิตแล้วสามารถเรียกใช้งานออกจากร่างกายมาช่วยต่อสู้ได้ ยิ่งมีแก่นแท้โลหิตมากก็สามารถเรียกใช้งานได้มาก

โดยจะไม่มีผลสะท้อนกลับหากนักรบโลหิตถูกทำลาย และนักรบโลหิตจะภักดีต่อร่างหลัก100% นอกจากนี้หากมันดูดซับแก่นแท้ของสิ่งมีชีวิตมันสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้เอง และจะส่งผลกระทบเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้ร่างหลักโดยตรงโดยไม่สนใจระยะทางระหว่างร่างหลักกับนักรบโลหิต

หลังจากเข้าสู่วิถีแรกอย่างสมบูรณ์กะโหลกเพลิงมันได้สร้างเส้นลมปราณหลักอีกเส้นไปเชื่อมโยงกับตันเถียน จากนั้นตันเถียนเริ่มก่อรูปขึ้นเป็นรูปร่างของศิลาสีแดงเพลิง จากนั้นทั้งกะโหลกเพลิงและศิลาแดงเพลิงเริ่มส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อปรับสมดุลของพลังงานปราณที่อะละวาดให้สงบลง

ตอนนี้เสียงกริ่งดังขึ้น เป็นเวลาบ่าย 3 ซึ่งเป็นชั้นเรียนสุดท้าย จึงไม่มีใครอยู่ในสวนสาธารณะยกเว้นนพเก้า หากคนอื่นๆ มาเห็นเขาในสภาพปัจจุบันจะต้องตกใจเป็นแน่ เพราะภายนอกตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเส้นโลหิตสีแดงทั่วทั้งใบหน้าและร่างกายราวกับคนที่มีสัญญาณธาตุไปแตก

สิ่งนี้มาจากผลกระทบของปราณวิญญาณที่อะละวาดร่วมกับผลของโอสถโลหิตปะทุ หากเขาไม่จัดการอย่างทันท่วงทีคงระเบิดตายอย่างอนาถ แต่ด้วยประสบการณ์และการคำนวณที่เที่ยงตรงของเขาสามารถทำให้สถานการณ์ของเขาดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

บึม!

ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง เกิดเสียงดังกึกก้องในตันเถียนของนพเก้า เกิดสัญญาณของการทะลวงด่าน เกิดคลื่นระเบิดลมปราณในรัศมีร้อยเมตรรอบตัวเขา เป็นผลกระทบยิ่งใหญ่สำหรับผู้ฝึกปรือขอบเขตหลอมศิลาขั้นที่ 1

ภายใต้การรับรู้ของเขาเกิดดาวหางหนึ่งดวงลอยวนเวียนรอบศิลาอย่างเชื่องช้าขณะที่ดูดสะสารปราณวิญญาณรอบบริเวณ สิ่งนี้เกิดจากการดูดซับปราณตามธรรมชาติของร่างกาย ยิ่งแรงดึงดูดมากก็สามารถซึมซับได้มากตามพรสวรรค์ของร่างกายแต่ละคน แน่นอนว่าร่างกายปัจจุบันของนพเก้าเป็นกายามนุษย์จึงซึมซับได้ไม่เกิน 1 เมตรต่อชั่วโมงแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

ตีเหล็กก็ต้องตีตอนที่ร้อน เขาหยิบโอสถชำระไขกระดูกกลืนลงไป ภายใต้ของผลยาคุณภาพสูงชนิดนี้มีการออกฤทธิ์ทันที ช่วยซ่อมแซมหลอดเลือด เส้นลมปราณ ทางเดินหายใจ ระบบอวัยวะภายใน รวมถึงชำระสิ่งสกปรกในร่างกายออกไป

หากเป็นผู้คนฐานะทั่วไปเห็นสิ่งนี้จะต้องสาปแช่งเขาอย่างแน่นอนเนื่องจากใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองเกินไป ต้องรู้ก่อนว่าก่อนจะทะลวงไปสู่ระดับถัดไปหรือขอบเขตขัดเกลาศิลา พวกเขาจะใช้โอสถนี้ในขอบเขตหลอมศิลาขั้นเก้าขั้นสูงสุดเพื่อให้ได้ผลชำระอย่างน้อย 90%เพื่อทะลวงระดับถัดไป มีแต่ลูกหลานตระกูลร่ำรวยเท่านั้นที่ทำสิ่งนี้เพราะแต่ละขั้นของขอบเขตหากกินโอสถชำระไขกระดูกทุกครั้งจะมีโอกาส 1%ที่จะพัฒนากายมนุษย์เป็นกายาปฎพี

อย่ามองว่านี่เป็นโอกาสเพียงน้อยนิด ตามธรรมชาติผู้มีร่างกายพิเศษมีแบ่งออกเป็น 6 ระดับ คือ กายามนุษย์ กายาปฏพี กายาสวรรค์ กายาเซียน กายาเสมือนเทพ และกายาเทพเจ้า โดยกายาปฎพีมีแค่หนึ่งในร้อยเท่านั้น กายาสวรรค์มีเพียงหนึ่งในพันและกายาเทพเจ้ามีเพียงหนึ่งในล้าน ผู้มีกายาเทพเจ้าล้วนแต่เป็นบุตรแห่งสวรรรค์ที่สร้างตำนานกลายเป็นบุคคลสำคัญแห่งยุคทั้งสิ้น

หลังจากสิ้นสุดการโคจรพลังภายนอก ร่างกายของนพเก้ามีคราบสีดำจากสิ่งสกปรกที่ขับออกจากกระดูก หลังจากกำหมัดเขารู้สึกถึงพลังที่ไร้ที่สิ้นสุดสามารถต่อยรถบรรทุกสองคันจนเละได้ ตอนนี้เขาอยู่ที่ขอบเขตหลอมศิลาขั้นที่หนึ่งขั้นต้นแต่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของศิลาที่ 1,400 เมตร หากเปรียบเทียบกับขั้นเดียวกันเขามีพลังมากกว่ากันถึงหนึ่งพันเท่าเป็นผลจากศาสตร์ลับโซ่ตรวนมรณะนิรันทร์

หลังปรับสภาพร่างกายแล้วนพเก้าเดินไปที่สระน้ำธรรมชาติที่ห่างออกไปจากแท่นน้ำพุเข้าไปในป่าลึก500เมตร ต่อให้เขาตัวเหม็นแค่ไหนก็ตามเขาก็ไม่บ้าพอที่จะลงไปอาบน้ำในแท่นน้ำพุแน่นอน

หลังจากชำระร่างกายแล้วสำรวจร่างกายของเขากล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เริ่มชัดเจนขึ้น เนื่องจากข้อกำหนดของขั้นแรกสูงเกินไปจึงดูซับสารอาหารจากร่างกายร่วมถึงไขมันหมด และด้วยการใช้โอสถชำระไขกระดูก ส่งผลให้ตอนนี้ผิวของเขามีความขาวเนียนและมันวาวขึ้น

“อืม ไม่เลวจริงๆ”

ต้องบอกว่าวัยหนุ่มเขาหน้าตาหล่อจริงๆ น่าเสียดายที่เขาหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งไม่สนใขสิ่งรอบกาย เลยได้แต่ใช้ชีวิตอย่างจืดชืดในวัยรุ่นไร้สาวข้างแก เป็นหมาโสดนานถึงหนึ่งศตวรรษ สาเหตุส่วนนึงก็มาจากสมบัติล้ำค่าจี้หยกของเขา หลังจากกลายเป็นนักผจญภัยในดินแดนรกร้างก็ถูกค้นพบความลับ จึงได้แต่เก็บตัวฝึกปรือ หนีการไล่ลา แก้แค้นวนเป็นวงจรอุบาทว์

หลังจากดูสภาพร่างกายซักพัก เขาหยิบเสื้อผ้าที่สกปรกโยนขึ้นในอากาศแล้วใช้ปราณวิญญาณควบคุมน้ำทำความสะอาดและใช้ลมปัดเป่าจนแห้ง ในยุคนี้คาถาชีวิตประจำวันได้รับการสอนอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน สำหรับคนธรรมดาที่ได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ การจัดไฟทำอาหาร ซักผ้า ทำน้ำอุ่น และถ่ายเทพลังปราณลงบนคริสตัลเพื่อใช้เปิดทีวี เปิดหลอดไฟ คาถาเหล่านี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้ไม่มีความจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีทั่วไปอีกต่อไป จะมีใช้ในส่วนน้อยในบางพื้นที่ที่พลังปราณวิญญาณขาดแคลน ส่งผลให้หลายอุตสาหกรรมบางส่วนต้องปิดตัวลง

มีแม้กระทั่งองค์กรเอกชนบางส่วนร่วมงานกับรัฐบาลเพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับเวทมนตร์เพื่อความก้าวหน้าและให้เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศอยู่ต่อไปได้ ในยุคปัจจุบันรัฐบาลแทบผูกขาดเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ถึง80%สิ่งนี้พ่อค้าที่แสวงหากำไรและนักลงทุนจากต่างประเทศไม่สามารถรับได้แต่ก็ทำใจ ใครใช้ให้รัฐบาลมีความแข็งแกร่งที่สุดหล่ะ

[ติ๊ง สัญญาณปรากฏสมบัติฟ้าดินสูงสุดจะเกิดขึ้นอีกใน 15 นาที ขอให้โฮสต์เตรียมพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว]

เสียงระบบเย็นชาดังขึ้น

“เจ้าจะไม่บอกข้าหน่อยหรือว่ามันอยู่ที่ไหน”

[ที่เส้นนำทางที่ใหญ่ที่สุดระยะห่างปัจจุบัน 3.7 กิโลเมตร]

ระบบตอบกลับ

นพเก้ารีบวิ่งไปตามแสงนำทาง มองดูทิศทางของแสงนำทางมันอยู่ในเขตลึกของสวนพฤกษศาสตร์ระดับหนึ่งติดกับเขตที่สองซึ่งมีรั้วไฟฟ้ากั้น

นพเก้ากระโจนขึ้นต้นไปสำรวจพื้นที่ป้องกันบุคคลภายนอกมีกล้องวงจรปิดทรงกลมทุกระยะ 100 เมตรเพื่อตรวจจับผู้บุกรุก นพเก้าโคจรพลังยิงไปทางขวามือเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของกล้องแล้วฉวยโอกาสกระโดดข้ามรั้วไฟฟ้า 5 เมตร จากนั้นพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วเพื่อเพิ่มระยะห่างจากกล้องวงจรปิด

หลังจากเข้าไปในป่าลึกประมาณ 200 เมตร ตามลำแสงนำทางสีทองเขาเจอเข้ากับสภาพแวดล้อมพื้นที่เปิดโล่ง ตรงใจกลางพื้นที่มีต้นอ่อนขนาดเล็กสีเขียวกำลังงอกด้วยความเร็วสูง

“เจ้ารู้หรือไม่สิ่งนี้คืออะไร”

[ยินดีด้วย โฮสต์พบต้นกายาสถิต อายุ 3,333 ปี สมบัติระดับตำนาน: ออกผลอัศจรรย์หลังรับประทานปลุกกายาพิเศษแบบสุ่มตามความถนัดของผู้ดูดซับ ว่ากันว่าเมื่อต้นออกผลช่วงอายุ 1,111 ปี ช่วยปลุกกายาสวรรค์ อายุ 2,222 ปี ปลุกกายาเซียน อายุ 3,333 ปี ปลุกกายาเสมือนเทพ อายุ 10,000 ปีปลุกกายาเทพเจ้า]

“แม่เจ้า นี่มันไม่มากไปหน่อยหรือ”

เมื่อนพเก้าได้ยินก็ตกตะลึง จากนั้นเปลี่ยนไปเป็นความสุขทันที ความสุขช่างมาเร็วเกินไป นี่เขาเรียกกันว่าโชคหลังกลับมาเกิดใหม่หรือไม่

แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อนึกได้ว่ามันยังไม่ออกผลเขารีบเก็บอารมณ์ฟุ้งซ่านทันทีแล้วรีบถามประเด็นสำคัญ

“ระบบ เจ้าเปิดเผยตำแหน่งสมบัติให้แก่ข้าแต่มันยังไม่ออกผลด้วยซ้ำ”

[โฮสต์โปรดใจเย็น อีกไม่เกิน 5 นาทีต้นไม้จะเติบโตเต็มที่ แนะนำให้โฮสต์รีบเก็บเกี่ยวทันทีเมื่อออกผลก่อนที่ปรากฏการฟ้าดินจะเกิดขึ้น]

นพเก้าอดทนรออย่างเงียบๆ รอต้นไม้เติบโตเต็มที่จนกระทั่งต้นไม้สูงสามเมตร สภาพแวดล้อมเริ่มเปลี่ยนไปแรงดันปราณวิญญาณในพื้นที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้น 1เท่า 2เท่า 10เท่า 20เท่า จนถึง100เท่า ทันใดนั้นต้นไม้เริ่มเปร่งแสงสีทอง เปลือกหลุดลอกเผยให้เห็นเนื้อหยกสีเขียวมรกต ดอกตูมเริ่มเบ่งบาลด้วยความเร็วสูงขึ้น

อึก

นพเก้ารู้สึกเวียนหัวจากแรงดันปราณวิญญาณที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เขารีบโคจรพลังปราณวิญญาณเพื่อใช้ห่อหุ้มร่างกายปิดกั้นพลังปราณเข้มข้นจากภายนอกที่ลุกล้ำเข้าสู่ผิวหนังและทวารทั้งเก้า จากนั้นเขาจ้องไปที่ผลไม้สีขาวที่สลักไปด้วยอักขระที่ดูมีมนต์ขลัง เขาเตรียมตัวจะพุ่งออกไปเก็บทันทีเมื่อนับเวลาในใจได้ครบ 5 นาที

ทันใดนั้นผลไม้เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับจะซึมซับกฎแห่งสวรรค์และโลก

[โฮสต์รีบเก็บผลทันที อย่าปล่อยให้มันดูดซับกฎแห่งเต๋าเพื่อสร้างผู้พิทักษ์]

ฟิ้ว!

นพเก้าโคจรพลังไปสู่กล้ามเนื้อขาและกระดูกสันหลัง จากนั้นเขาพุ่งออกไปอย่างลูกธนู เมื่อสัมผัสกับผลไม้ราวกับมีบางสิ่งจ้องมองมาที่เขาเต็มไปด้วยแรงกดดันจากอำนาจสะกดข่มที่มองไม่เห็น ชั่วพริบตาหลังเขาเก็บผลไม้ลงช่องทรัพยากรเจตนาสะกดข่มอันน่าสะพรึงกลัวได้ถอดถอนออกไปราวกับสูญเสียวิธีการติดตาม

โดยไม่ลังเลนพเก้าระเบิดพลังวิ่งออกไปด้วยความเร็วสูงก่อนถึงรั้วป้องกันผู้บุกรุก เขาควบแน่นพลังลมแล้วยิงให้กล้องวงจรปิดสองตัวก่อนหนีออกไป

เขาออกมาถึงเขตที่ 1 บริเวณน้ำพุ หลังปรับสภาพจิตใจและลมหายใจแล้วเดินไปทางทิศเหนือราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ตอนนี้ข้าควรกลับชั้นเรียนหรือไม่ หรือนั่งขัดสมาธิทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

นพเก้าเดินช้าลงพร้อมกับใคร่ครวญ ช่วยไม่ได้เพราะประสบการณ์จากการถูกตามล่าทำให้เขาคาดคะเนสิ่งที่อาจมีผลกระทบต่อเขาได้หลายสิ่งหลายอย่าง

มันมีความเสี่ยงที่จะเข้าห้องเรียนตอนนี้เพราะมีก่อนคลาสช่วงบ่ายมีคนจำนวนมากเห็นเขาเข้าฌานในสวนพฤกษศาสตร์ หรือหากเขาอยู่ที่ใต้ต้นไม้จุดเดิมเมื่อปราณวิญญาณจากสมบัติที่เขาเก็บเกี่ยวปะทุขึ้นปรมาจารย์จำนวนมากจะต้องออกมาอย่างแน่นอน และเขาไม่สามารถปกปิดร่องรอยจากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้

[โฮสต์เป็นกังวลมากเกินไป วัตถุทุกอย่างที่เก็บลงช่องทรัพยากรจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแม้แต่เต๋าสวรรค์ก็ไม่อาจตรวจพบ]

ระบบอธิบาย

“นี่คือความพิเศษเพิ่มเติมของระบบ?”

เมื่อได้ยินคำอธิบายของระบบเขารู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะถูกผูกมัดโดยระบบจี้หยกเดิมไม่สามารถทำแบบนี้ นี่หมายความว่าเขาไม่ต้องกังวลเรื่องการติดตามจากกลิ่นอายสมบัติอย่างสมบูรณ์

[นพเก้าตัดสินใจเลือกทางเลือกที่สอง ขณะที่เขาจะไปเข้าฌานใต้ต้นไม้ที่จุดเดิม เสียงแจ้งเตือนรางวัลจากระบบก็ดังขึ้น

[ติ๊ง ยินดีด้วย โฮสต์ทำภารกิจจำกัดเวลา ‘มุ่งสู่ความเป็นเลิศ’ ใช้รัศมีตรวจจับสมบัติล้ำค่า รับสมบัติระดับตำนานภายใน 1 วัน รางวัลขั้นสูงสุด: ช่องทรัพยากร 30 ช่อง]

“ดี”

นพเก้าลากเสียงยาว ต้องรู้ด้วยว่าเมื่อมีช่องทรัพยากรเพิ่มขึ้น เขาสามารถเพิ่มสมบัติหายากหรือโอสถเพื่อเสริมพลังปราณฝึกปรือได้เร็วขึ้น

[ติ๊ง ยินดีด้วย โฮสต์ได้ทำลายสถิติการฝึกปรือสร้างรากฐานที่มั่นคงเป็นบุคคลที่ 3 ในเผ่าพันธุ์มนุษย์ รางวัล: ปลดล็อคฟังก์ชันการอธิษฐานสมบัติมงคล มีโอกาสสุ่มฟรี 10 ครั้ง]

“หืม มีระบบสุ่มกาชาด้วยหรือ”

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกงงงวยนี่ระบบกำลังเล่นตลกกับเขาหรือไม่

[ติ๊ง ปลดล็อคฟังก์ชันการอธิษฐานสมบัติมงคล มีโอกาสได้รับสมบัติสูงสุดในระดับเทพเจ้า รางวัลต่ำสุดเป็นระดับปฏพีเป็นอย่างน้อย รางวัลประกอบไปด้วยเคล็ควิชาฝึกปรือ ทักษะการต่อสู้ โอสถ อาวุธวิญญาณ สิ่งประดิษฐ์สนับสนุน สมบัติลับ ละสมบัติธรรมชาติ]

นพเก้ารู้สึกทึ่งอีกครั้งโดยเฉพาะกับคำว่าสมบัติระดับเทพเจ้า ต้องบอกว่าบนแดนสวรรค์แม้แต่ตระกูลโบราณก็แทบไม่มีครอบครอง แต่กาชาจากระบบมันใจกว้างเป็นอย่างยิ่ง

“อัตราส่วนแต่ละระดับเป็นเท่าไหร่ และมีเงื่อนไขการสุ่มไหม”

แน่นอนว่าหากมีฟังค์ชันแบบเกมกาชา ยิ่งรางวัลสูงอัตราส่วนยิ่งต่ำ บางเกมสร้างเพื่อล่อลวงลูกค้าที่ต้องการไอเทมระดับสูงสามารถล้างผลาญทรัพย์สินจนหมดตัว กินมาม่าไป 3 เดือนได้

[มีอัตราส่วนจากการอธิษฐานคงที่ ระดับปฎพี 50% ระดับสวรรค์ 10% ระดับเซียน 1% ระดับเสมือนเทพ 0.1% ระดับเทพเจ้า 0.01% โฮสต์สามารถแลกจำนวนการอธิษฐานจากการแลกเปลี่ยนช่องทรัพยากรได้]

“อะไรกัน ระบบนี่เจ้าไม่ขูดรีดเกินไปหน่อยหรือ”

นพเก้ายังไม่ทันได้อธิษฐานก็เริ่มรู้สึกหัวร้อนทันที อัตราส่วนนี่มันบ้าเกินไป นอกจากนี้การอธิษฐานแต่ละครั้งต้องใช้ช่องทรัพยากรอีก นี่มันตัดขาดเส้นทางความร่ำรวยชัดๆ

[โฮสต์สามารถอธิษฐาน 10 ครั้ง หรือ 100 ครั้งพร้อมกันได้ ช่วยเพิ่มโอกาสให้โฮสต์ได้รับรางวัลระดับสูงสูงขึ้น และในทุก 100 ครั้งระบบจะการันตีให้โฮสต์สามารถรับรางวัลระดับเทพเจ้าอย่างน้อย 1 ชิ้น]

ระบบไม่สนใจคำพูดของนพเก้า มันยังคงขายของต่อไป

นพเก้ารู้สึกพูดไม่ออก

ขณะที่เขากำลังจะสาปแช่งระบบ ลำแสงสีทองได้ปะทุขึ้นสู่ขอบฟ้าที่เขตสวนพฤกษศาสตร์เขตที่ 2