อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด - บทที่ 8 เทศกาลสวมหมวกเขียว โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ผู้แต่ง

ยักษาบรรพกาล

เรื่องย่อ

นพเก้าเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นแม่แต่น้อย

“ระบบการแสดงของข้าเป็นอย่างไรบ้าง” 

นพเก้าถาม

[ติ๊ง ประทับใจ]

ระบบตอบ

[ติ๊ง ของแสดงความยินดีโฮตส์ได้แสดงการวาดยันต์บุพภาลำเนาไพรฉบับสมบูรณ์ การกระทำของโฮสต์เริ่มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปรงด้าน อุตสาหกรรมยันต์วิญญาณระดับภูมิภาค รางวัล: เพิ่มช่องทรัพยากร + 5]

“ระบบ ข้าสามารถใช้งานได้อย่างไร”

[โฮสต์สามารถเรียกช่องทรัพยากรได้ผ่านทางจิตแล้วใส่วัตถุในช่อง ทรัพยากร]

นพเก้าหยิบสร้อยคอทองคำ 1 บาทที่น้องสาวให้เป็นของขวัญวันเกิดใส่ในช่องทรัพยากรตรงหน้า

[ช่องทรัพยากร]

[ความจุ 1/5]

[วัตถุ: สร้อยคอทองคำ 1 บาท (ระยะเวลาเพิ่มจำนวน 23 ชั่วโมง 59 นาที 53 วินาที: อัตราเพิ่มจำนวน 1 เท่าตัว)

“ระบบ ถ้ามันครบ 24 ชั่วโมงมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นจริงเหรอ แล้วมันมีข้อจำกัดหรือไม่” 

นพเก้าอดสงสัยไม่ได้

[จริงแท้แน่นอน]

[โฮสต์โปรดอย่าสงสัยในความสามารถของระบบ ต่อให้เป็นไอเทมระดับทำเจ้าก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ย่างไม่สิ้นสุด]

สารบัญ

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 1 บทนำ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 2 เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 3 กลับบ้าน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 4 นพเก้า ปะทะ หวงอี้เฟย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 5 กายาสวรรค์ จุติจักรพรรดิในก้าวเดียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 6 อัจฉริยะในรอบพันปี,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 7 อันตัวข้าผู้สืบทอดเป็นคนใจกว้าง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 8 เทศกาลสวมหมวกเขียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 9 เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย โอเคได้เลย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 10 พบบุตรแห่งโชคชะตา,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 11 จิตใจของข้าแตกสลายเป็นล้านๆชิ้น,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 12 ความลับตระกูลหวง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 13 พบเจอกายาอมตะ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 14 บุกรังจักรพรรดิปักษาพิรุณ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 15 ครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 16 สร้างประตูมิติ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 17 ฝากคำทักทายเจ้าเมือง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 18 สอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 19 ใครบอกกันว่าข้าจะสอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 20 การปรากฏขึ้นของโอสถระดับตำนาน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 21 ความเย่อหยิ่ง ปะทะ ความจองหอง

เนื้อหา

บทที่ 8 เทศกาลสวมหมวกเขียว

ช่องนิยายเสียง + อนิเมชั่น + Soundtrack + SFX https://youtu.be/p-FWCzs9GS0

“อะไรน่ะ” ทันใดนั้นสามีของหนิงจื่อหลงรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาอยู่ด้วยกันมาสามปียังไม่มีทีท่าว่าจะตั้งครรภ์แม่แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มห่างเหินกัน ต้องรู้ก่อนว่าครั้งล่าสุดที่พวกเขาทำการบ้านด้วยกันก็เป็นช่วงสองเดือนก่อนที่เขาจะออกไปทำงานต่างประเทศ

“เจ้ารู้ได้อย่างไร” หนิงจื่อหลงรู้สึกตกตะลึง นางไม่เคยบอกใครมาก่อน เหตุใดอีกฝ่ายจึงรับรู้ได้

“ถ้าข้าดูไม่ผิดสิ่งที่ท่านฝึกฝนคือกระบี่นางแอ่นเหมันต์ เคล็ดวิชาระดับสวรรค์ขั้นสูง โดยปกติผู้สำเร็จวิชาถึงระดับเชี่ยวชาญจะมีประสาทสัมผัสที่เฉียบคม ผิวกายจะปล่อยไอเย็นออกมาตลอดเวลา แต่ดูจากลักษณะของผิวที่เปร่งประกายของท่านหมายความว่าร่างกายของท่านมีข้อบกพร่อง ตามจริงพลังหยินในตัวจะถูกขับไล่ออกไปโดยธรรมชาติเพื่อสร้างพลังหยางมากขึ้นในการให้กำเนิดทารก มิฉะนั้นทารกจะไม่สามารถกำเนิดในสภาพสมบูรณ์ได้” นพเก้าพูดออกมาอย่างฉะฉานราวกับว่าเขาเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง ในความเป็นจริงข้อมูลส่วนตัวของหนิงจื่อหลงถูกระบุโดยเนตรหมื่นพิภพเขาสามารถเห็นสถานะในร่างกายทั้งหมดของนางได้ และเรื่องข้อบกพร่องของทักษะกระบี่นางแอ่นเหมันต์ก็มีแสดงให้เห็นเช่นกัน

โอว! ทันใดนั้นในห้องโถงทุกคนก็ตกตะลึง เพียงแค่รู้วิชาฝึกปรือของอีกฝ่ายก็สามารถอนุมานเหตุการณ์นี้ได้ ต้องรู้ก่อนว่าผู้ที่มีความสามารถในระดับนี้ล้วนเป็นนักปราชญ์สาขาใดสาขาหนึ่งอย่างเชี่ยวชาญเท่านั้น จึงจะสามารถให้ข้อสรุปเช่นนี้ได้ ต่อให้เป็นหวงไท่ผู้นำสูงสุดก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำสิ่งนี้ได้

เมื่อเห็นท่าทางของหนิงจื่อหลง สามีของนางปีติยินดีด้วยน้ำตา คงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาต้องการมีบุตรมากแค่ไหน ในฐานะลูกเขยแต่งเข้าบ้านภรรยาเขาไม่ได้มีสถานะใดเป็นพิเศษ สิ่งนี้จะต่างออกไปหากเขาให้กำเนิดบุตรที่มีพรสวรรค์ เขาจะสามารถได้รับการเชิดหน้าชูตาได้

หลังจากนั้นสักพักทุกคนก็แสดงท่าทางยินดีออกมา น่าเสียดายที่ไม่ใช่เวลาเฉลิมฉลองเนื่องจากยังอยู่ในเหตุการณ์สำคัญ

“ท่านกำลังดีใจเรื่องอะไรอยู่หรือ” นพเก้ามองอีกฝ่ายด้วยสายตาเห็นใจ

หืม

สามีของนางรู้สึกงุนงงเมื่อได้ยินคำนี้ ไม่ใช่ว่าในฐานะคนที่จะกลายเป็นพ่อคนสมควรดีใจหรือ

เฮ้อ นพเก้าถอนหายใจออกมา จากนั้นก็พูดประโยคชักนำให้อีกฝ่ายพูดคำยอดฮิตของละครน้ำเน่าออกมา “เด็กในท้องพึ่งตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือน”

“เป็นไปไม่ได้” เป็นไปตามคาด เขาพ่นคำยอดฮิตออกมา สามีของหนิงจื่อหลงรู้สึกมีอาการวิ้งที่หัว ตอนนี้เขาช็อกจนคิดอะไรไม่ออก

“หลานเก้า เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร” หวงไค่รู้สึกสถานการณ์เริ่มส่งสัญญาณอัปมงคล

นพเก้าไม่ได้ตอบ เพียงเดินไปผ่านหัวโต๊ะของหวงไค่แล้วเดินต่อไป จนหยุดอยู่ตรงคนคนหนึ่ง เขาใช้มือสองข้างจับไหล่ของผู้นำสาขาที่สองราวกับแมวจับหนู “ผู้อาวุโสสอง ท่านมีคำอธิบายอะไรหรือไม่”

อะไรวะ

ขณะที่บรรยากาศในอากาศพลันแข็งค้าง อัครเดชบอกให้บรรดารุ่นเยาว์พาเด็กแรกรุ่นออกไป แล้วสั่งให้ผู้เฝ้าประตูปิดกั้นทุกทิศทางเข้าออกทันที สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ไม่สมควรให้เด็กๆ รับรู้เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อจิตใจ

“นพเก้า แกกำลังพูดอะไร” ผู้อาวุโสสองสะบัดแขนของนพเก้าออกแล้วแสดงท่าทีเดือดดาล สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร การบอกว่ามีคนท้องแล้วเดินมาหาข้า

“หลานเก้า เจ้าแน่ใจจริงๆ หรือ” หวงไค่มีสีหน้ามืดมน เขาแผ่แรงกดดันของขอบเขตราชันยุทธ์ออกมาไปทั่วทั้งห้องทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเกียรติแห่งตระกูลหวงคงจบสิ้น

“ข้ารับประกัน ท่านสามารถให้หมอประจำตระกูลมาตรวจดีเอ็นเอได้”

“เช่นนั้นก็ดี ไปตามหมอมา” หวงไท่สั่งให้หัวหน้าองครักษ์ออกไปตามหมอประจำกูลอย่างเร่งด่วน

ช่วงเวลานี้หนิงจื่อหลงและบรรดาญาติสนิทของนางรู้สึกตื่นตระหนก ส่วนผู้อาวุโสสองยังรักษาท่าทีสงบราวกับว่าสิ่งที่นพเก้าพูดมาไร้สาระเกินไป สำหรับสามีของหนิงจื่อหลง อย่าให้ต้องพูดถึง ตอนนี้เขาหน้ามืดจนสลบไปแล้วโดยมียามเฝ้าประตูแบกเขาออกไป

“ทำไมถึงไปตามหมอนานจัง เกิดอะไรขึ้น” ทุกคนรู้สึกสงสัยโดยปกติท่านหมอจะมาในครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ผ่านไป 45 นาทีแล้ว เมื่อเห็นเช่นนี้หวงไท่เรียกองครักษ์อีกคนให้ไปตามดู จังหวะนั้นเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น

ปรากฏภาพของหมอชราคนหนึ่งถือไม้เท้าเดินเข้ามาโดยอีกมือกำลังถือเครื่องมือแพทย์

“ท่านหมอ ข้าต้องรบกวนท่านด้วย” หวงไท่ประสานมือด้วยความเคารพ คนผู้นี้คือหมดเทวะระดับ 3 ดาวที่จ้างให้มาดูแลตระกูล ในเมืองเวสสุวรรณตัวตนแบบบุคคลเช่นนี้มีไม่มากนัก หวงไท่สัญญาณว่าจะจัดหาโสมห้าร้อยปีให้ทุกปีเป็นข้อตกลงเพิ่มเติมเพื่อให้อีกฝ่ายดูแลสมาชิกในตระกูลต่อ

“อืม” หมอเทวะผู้นี้เพียงพยักหน้าแล้วเรียกให้บุคคลผู้ต้องสงสัยสองคนมาเจาะเลือด โดยมีการพาหนิงจื่อหลงไปอีกฝั่งของห้องกั้นเสียงที่ใช้พูดคุยหรือใช้สืบสวนบางคน หลังหมอเทวะออกมาจากห้องพร้อมกับหนิงจื่อหลง เข้าถือจานกระจกทรงกลมที่ข้างในมีเลือด 2 หยดกำลังหลอมรวมกัน และอีก 1 หยดกีดกันออกไป สิ่งนี้หมายความว่าข้อกล่าวหาของนพเก้าไม่เป็นความจริง

“ฮึม พวกเจ้าเห็นหรือยัง มันเห็นได้ชัดว่าเจ้าหนูนี่มันแค่ไม่พอใจข้าและหาข้ออ้างเพื่อต้องการเล่นตลก” ผู้อาวุโสสองสาดคำพูดใส่นพเก้าด้วยอารมณ์เดือดดาล ราวกับว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม

เมื่อเห็นเช่นนี้บรรดาญาติๆ ก็รู้สึกว่าการกระทำของนพเก้ามันน่ารังเกียจเกินไป หากต้องการสู้กับอีกฝ่ายจำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยหรือไม่ การกระทำของเขาอาจทำให้บรรดาญาติๆ แตกออกเป็นสองฝ่าย เมื่อเสียงในห้องเริ่มดังขึ้น หวงไท่ก็โบกมือให้ทุกคนเงียบลง

“นพเก้า เจ้ากำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่” ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินเด็กคนนี้สูงเกินไป ต่อให้อีกฝ่ายพลังยุทธ์สูงส่งอย่างมาก แต่เรื่องของจิตใจยังไม่มีสภาวะเป็นผู้ใหญ่มากพอ

“ข้าไม่ได้โกหกแต่อย่างใด ในนั้นมีกลลวงซ่อนอยู่” นพเก้าต้องการอธิบาย

“กลลวง? กลลวงอะไรทำไมเจ้าไม่พิสูจน์ให้ดูล่ะ เจ้าจะโกหกอีกนานไหม หากเจ้ายังไม่หยุดการลงโทษอาจไม่หยุดที่กฎตระกูล แต่ยังรวมถึงถอดถอนตำแหน่งผู้สืบทอดด้วย” ผู้อาวุโสสองนั่งกอดอก ทำท่าทางสั่งสอนผู้เยาว์ที่กระทำผิด

นพเก้ายักไหล่เขาไม่ต้องการตอบคำถามนี้ ความจริงจะพิสูจน์ทุกอย่างเอง จากนั้นนพเก้าก็มาปรากฏตัวต่อหน้าหมอเทวะทันที เขาตึงร่างของหมอเทวะและส่งพลังงานบางอย่างลงในจานแก้ว

“นพเก้า อย่าเสียมารยาท” เมื่อเห็นการกระทำนี้หวงไท่ไม่อยากนั่งอีกต่อไปต้องการลุกขึ้นไปตบหน้าสั่งสอนผู้เยาว์คนนี้ อีกฝ่ายเป็นถึงหมอเทวะไม่ใช่ผู้ที่จะกระทำส่งเดชได้

แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น ในจานแก้วที่สงบนิ่งก็ปรากฏระลอกคลื่นแล้ววิญญาณสีม่วงไร้รูปร่างก็กระโจนออกมา นพเก้าใช้มือขวารับไว้ทันที

“ฮ่า ฮ่า ตาแก่เจ้าไม่สามารถปิดบังอะไรจากข้าได้” แววตาของนพเก้ากลายเป็นความมุ่งร้าย

“ลูกเก้า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” อัครเดชเชื่อในการตัดสินใจของลูกชายของเขา อีกฝ่ายไม่ใช่คนไร้เหตุผล ทุกการกระทำก่อนหน้านี้ราวกับเป็นแผนการบางอย่างที่เขาวางเอาไว้

นพเก้าสะกดพลังวิญญาณร้ายให้อยู่ในกรงขังที่สร้างจากพลังปราณ วิญญาณร้ายโอดครวญออกมา มันไม่ต้องการถูกจองจำเช่นนี้

“สิ่งนี้คือปีศาจลวงตา ท่านตาคงจะเคยได้ยินใช่หรือไม่” นพเก้าหันไปพูดกับหวงไท่

อา

หลังจากได้ยินถึงสิ่งนี้ หวงไท่รู้สึกประหลาดใจ มันเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ปีศาจที่มีความสามารถด้านพลังจิตวิญญาณ โดยเปลี่ยนอานุภาพบางสถานที่ให้กลายเป็นภาพลวงตา ในสมัยโบราณเมื่อห้าร้อยปีก่อน ว่ากันว่ามันเคยล่อลวงมนุษย์โดยสร้างเมืองลับแลขึ้นมา ทำให้ทุกคนจมอยู่ในห้วงความฝันและถูกกลืนกินจิตวิญญาณอย่างช้าๆ โชคดีที่หน่วยมหามนตราทราบสาเหตุอย่างรวดเร็วแล้วนำนิกายพุทธไปจัดการทันที เดิมทีผู้คนคิดว่าสิ่งนี้สูญพันธ์ุไปแล้ว และอาจมีอาศัยอยู่ในแดนรกร้างทางตะวันออกซึ่งเป็นถิ่นปีศาจเท่านั้น

เมื่อทุกคนได้ยินคำว่าปีศาจหลายคนรู้สึกหวาดกลัว ในความคิดของพวกเขาพวกมันเป็นตัวตนที่เป็นปฏิปักษ์กับทุกเผ่าพันธุ์ในทวีป พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตอยู่ได้โดยการเข่นฆ่า กินเลือดเนื้อและจิตวิญญาณของศัตรู และมีความสามารถแฝงตัวปะปนอยู่ในหมู่มนุษย์ได้ ปัจจุบันยังมีให้เห็นในรายงานเกี่ยวกับเบาะแสของพวกมัน

“ไปเชิญหน่วยมหามนตรามา” หวงไท่สั่งอัครเดช เมื่อพูดถึงเรื่องปีศาจก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาจัดการ เพราะการโจมตีทั่วไปไม่สามารถสังหารมันได้ จำเป็นต้องใช้พิธีกรรมเฉพาะของหน่วยมหามนตราเท่านั้น

“ท่านปู่ ท่านไม่จำเป็นต้องทำให้เกิดเรื่องยุ่งยาก เราควรจัดการปัญหาตรงหน้าก่อน เพราะผู้ที่อยู่ตรงหน้าข้าคือพ่อมดทมิฬสามตา” นพเก้ารู้สึกว่าทุกคนเอะอะกันจนเกินไป ในยุคปัจจุบันวิธีการกำจัดปีศาจยังไม่มีการเผยแพร่จนกระทั่ง 50 ปีต่อจากนี้เกิดสงครามกับเผ่าพันธุ์ปีศาจอีกครั้ง หน่วยมหามนตราไม่สามารถรับมือได้อีกต่อไป จึงเผยแพร่เคล็ดวิชากลืนปีศาจให้กับขุมกำลังต่างๆ โดยวิชานี้สามารถทำให้กลั่นจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของปีศาจได้ ช่วยเพิ่มพลังจิตวิญญาณซึ่งมีความสำคัญมากกับผู้ที่ต้องการฝ่าด่านไปถึงขอบเขตราชันย์ยุทธ์

หลังจากได้ยินเช่นนี้หวงไท่ก็ไม่สงบอีกต่อไปเดินทางไปเชิญเจ้าเมืองและหัวหน้ามหามนตราด้วยตัวเอง จากนั้นครึ่งชั่วโมงต่อมาเหตุการณ์ทั้งหมดได้ถูกคลี่คลาย เจ้าเมืองได้ตบรางวัลเป็นเหรียญตราทองคำที่เป็นสัญลักษณ์ของผู้กอบกู้บ้านเมืองและโอสถพลังศักดิ์สิทธิ์ ระดับ 7 หนึ่งเม็ดให้นพเก้า สำหรับการจับกุมพ่อมดทมิฬสามตาถือเป็นผลงานที่ไม่มีใครสามารถทำได้มานานถึง 30 ปี เฒ่าชราผู้นี้ก่อกรรมทำช่วยไว้มากมาย ชอบสังหารผู้คนเพื่อนำจิตวิญญาณให้สัตว์อสูรกลืนกิน โดยการกระทำที่ส่งผลให้ผู้คนเกลียดชังมากที่สุดก็คือการบุกศูนย์เลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วจับเด็กทั้งหมดไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นถึง 5 ครั้ง โดนเจ้าหน้าที่ทางการไม่สามารถค้นพบได้ ทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ทางการรู้เบาะแสของอีกฝ่ายก็จะช้าไปหนึ่งก้าวเสมอ โดยไม่คาดคิดอีกฝ่ายจะปกปิดตัวตนในฐานะหมดเทวะ 3 ดาว การจับกุมในครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการปิดตำนานพ่อมดทมิฬสามตาจากเมืองเวสสุวรรณ

ขณะที่เจ้าเมืองกำลังขออนุญาตหวงไท่ต้องการสอบปากคำทุกคนในตระกูล หัวหน้าเจ้าหน้าที่มนตรามองดูกรงขังวิญญาณในมือนพเก้าด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมีเคล็ดวิชาที่สามารถสะกดปีศาจได้เช่นกัน เขาสงสัยว่าความลับต่างๆ ภายในของพวกเขามีการรั่วไหลออกไปหรือไม่

ถึงจะน่าเสียดายแต่เมื่อเจ้าหน้าที่มนตราขอนำปีศาจลวงตาไป เขาก็ยอมให้แต่โดยดี มันเป็นแค่ชิ้นเนื้อในไม้จิ้มฟัน ไม่ได้มีประโยชน์ต่อเขาอยู่แล้ว หากใช้แลกกับการสร้างความสัมพันธ์กับหน่วยมหามนตราได้ก็ถือว่าดี หากเป็นไปได้ในอนาคตการขโมยวิชาต่างๆ จากอีกฝ่ายก็จะสะดวกขึ้น

หลังจากทีมเจ้าเมืองและเจ้าหน้าที่มหามนตราสืบสวนเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม มีเพียงผู้อาวุโสสองที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ดูเหมือนเหตุการณ์ต่างๆ จะเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญเมื่อช่วงสองปีก่อน ขณะที่ผู้อาวุโสสองต้องการขอความช่วยเหลือจากหมอเทวะเรื่องยาฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ เขาบังเอิญเห็นอีกฝ่ายกำลังเรียกปีศาจลวงตาออกมาควบคุมเด็กสาวในห้องพยาบาลและต้องการเล่นสนุก เขาจึงรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใช้ศาสตร์มืด

ในตอนนั้นเขาเห็นอีกฝ่ายอยู่ในระดับ 7 ของขอบเขตตระหนักรู้เท่ากับเขา เขาจึงแบล็คเมล์อีกฝ่ายให้ช่วยเรื่องการฟื้นฟูสมรรถภาพของเขา พ่อมดทมิฬสามตาจริงๆ แล้วอยู่ในขอบเขตผู้พิทักษ์ระดับที่ 4 เพราะเขาต้องใช้เวลาหลายปีในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บจึงฆ่าหมอเทวะผู้หนึ่ง แล้วกลืนกินความทรงจำและแฝงตัวอยู่ภายในตระกูลหวง สำหรับคำขอที่ผู้อาวุโสสองต้องการ มันไม่ได้มีอะไรมากสำหรับเขา เพราะเขาก็เป็นผู้หมกมุ่นในกามไม่ต่างกัน จากนั้นหลังจากทั้งคู่ใช้เวลาร่วมกันมาตลอดสองปีทำให้ทั้งสองคนสนิทสนมกันมากขึ้น มักจะออกไปเที่ยวจับเด็กสาวด้านนอกมาสะกดจิตด้วยกัน เมื่อเสร็จกิจก็ลบความทรงจำทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเมื่อหนิงจื่อหลงท้อง เขากลัวว่าเมื่อเด็กคลอดออกมาด้วยพันธุกรรมที่น่าเกลียดของอาจทำให้ผิดสังเกตได้ โชคดีที่เพื่อนร่วมอุดมการณ์ผู้นี้มีความสามารถช่วยเขาได้

“พวกเจ้าทั้งสองตัวคือความอัปยศของตระกูลหวง ทำลายพลังยุทธ์ของพวกมันทิ้งเสียและขับไล่ออกจากตระกูล” เมื่อหวงไท่รู้เรื่องทั้งหมดก็รู้สึกเดือดดาล ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ทางการมากมายในห้องไม่สามารถปกปิดข่าวได้อีกต่อไป ด้วยความโมโหหวงไท่ขับไล่เครือญาติของหนิงจื่อหลงออกไปทั้งหมดและห้ามใช้สกุลหวง ส่วนผู้อาวุโสสองหลังจากถูกหวงไท่ลงมือทำลายพลังยุทธ์สภาพเขาไม่ต่างจากไม้ใกล้ฝั่งจากเดิมที่ร่างกายดูอายุ 60 ปีกลับกลายเป็น 100 ปีในพริบตาไม่สามารถหนีพ้นความตายได้

เรื่องทุกอย่างจบลงเมื่อเจ้าหน้าที่ทางการออกไป อย่างไรก็ตามในช้าอีกวัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตระกูลหวงกลายเป็นเรื่องซุบซิบไปทั่วเมือง ทั้งตระกูลหวงรู้สึกเหมือนถูกบดขยี้เกียรติ มีเพียงนพเก้าที่จับพ่อมดทมิฬสามตาได้เท่านั้นที่ทุกคนพูดด้วยความชมเชย

กลับมาที่ปัจจุบันนพเก้าก็ยังคงให้ของขวัญตอบแทนต่อไป หลายคนเมื่อรับของตอบแทนก็รู้สึกยินดีปรีดา ขณะที่บางคนรู้สึกเหมือนกำลังตกนรกเนื่องจากความลับมากมายของพวกเขาที่ไม่ควรมีใครรู้ถูกโภทนาออกมาทั้งหมดจากเด็กสารเลวผู้นี้

“ท่านป้า ท่านควรระวังสามีของท่านให้ดีเมื่อตกดึก เขามักจะไปหอการค้าดอกไม้ทุกวัน เพื่อไปใช้สอยบริการหญิงงามอันดับหนึ่ง” นพเก้าชี้ไปที่คุณลุงตัวเท่ามันฝรั่ง ติดหนวดและสวมหมวกสีแดง

“นี่!” คุณลุงหมวกแดงรู้สึกหวาดกลัว ไอเด็กนรกนี่รู้ได้อย่างไร ก่อนออกจากบ้านเขาปกปิดตัวตนเป็นประจำ หนำซ้ำยังวางยานอนหลับภรรยาทุกวัน

“โอวใช่ๆ ท่านป้า ดูที่ผิวใต้ตาสีเหลืองของท่านสิ ท่านโดนวางยานอนหลับทุกวันและมักจะนอนตื่นสายถึงเที่ยงโดยไม่ทราบสาเหตุใช่หรือไม่ ท่านจึงไปหาหมอตลอดแต่ไม่ทราบสาเหตุ” นพเก้าพูดต่อโดยไม่ต้องการให้อีกฝ่ายหาข้อแก้ตัว หลังจากนั้นก็เกิดการตบตีของภรรยาสามีนอกใจขึ้นยังกับอยู่ในตลาดสด

“เอาล่ะ คนต่อไป”

อึก

ทุกคนกลืนน้ำลายรู้สึกหวาดกลัว อีกฝ่ายเป็นหมอดูหรือไม่ ทำไมเจ้านี่ถึงรู้ทุกเรื่องได้

“โอว สวัสดีพี่เชา ท่านไม่รู้สึกหรือว่าช่วงนี้น้องชายภรรยาของท่านมักมาที่บ้านท่านบ่อยๆ”

“อะไร” ชายหนุ่มผิวแทนหัวสีทองรู้สึกตกตะลึง จากนั้นเขาก็มองที่ภรรยาและน้องสะใภ้ด้านข้างที่กำลังก้มหน้าราวกับโดนจับได้ และแล้วก็เกิดคู่ชกคู่ที่สองขึ้น

หวงไท่โมโหจนอยากจะกระอักเลือดออกมา (ช่างบัดซบ เหตุใดในตระกูลของข้าถึงมีแต่คนต่ำทราม ต้องกำจัด กำจัดให้หมด!)

“ลูกพี่ลูกน้องที่รัก เจ้าควรเลิกกับบุคคลผู้นี้เสีย มันเป็นเกย์ที่ต้องการหลอกลวงเงินเจ้าเท่านั้น เจ้าสังเกตเห็นยามเฝ้าประตูคนนั้นหรือไม่ พวกเขามักจะดื่มเหล้ากันบ่อยๆ และมักจะกลับบ้านตอนตีสองตลอด”

เมื่อนพเก้าชี้ไปที่ยามคนนั้น อีกฝ่ายเอามือปิดหน้าสีแดงของเขาราวกับถูกจับได้ ไม่เพียงแค่นั้นสามีที่ดูเหมือนเฟมบอยก็ตกตะลึงเขารู้สึกถึงสายตาอาฆาตที่อยู่ด้านข้าง

“ไอเวร แกอย่าอยู่อีกต่อไปเลย” หญิงสาวหยิบดาบโค้งจากแหวนมิติออมา ต้องการจะหั่นอีกฝ่ายเป็นสองซีกในตอนนี้ โชคดีที่บรรดาญาติๆ ห้ามไว้ทันไม่เช่นนั้นอาจเกิดเรื่องสยองขวัญขึ้น

ผู้ชมที่ดูอยู่ตอนนี้รู้สึกคลื่นไส้ เห็นได้ชัดว่ายามคนนั้นเป็นคนแอฟริกา พวกเขาไม่อยากจะจินตนาการถึงฉากนั้น บางทีมันอาจถึงลำคอก็เป็นได้

อัก

ครั้งนี้หวงไท่กระอักเลือดออกมาอย่างแท้จริง หน้าเขาเริ่มซีดเนื่องจากเครียดมากเกินไป

“นพเก้า เจ้าพอได้แล้ว” เมื่ออัครเดชเห็นเช่นนี้เขาอยากจะสั่งอีกฝ่ายให้หยุด เขากลัวว่าพ่อตาคนนี้จะโกรธจนตายได้

“ไม่ต้อง” ห่วงไท่ฝืนลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้ เขาจับจ้องทุกคนในห้องโถงนี้ เมื่อเห็นการกระทำของนพเก้า เขาประเมินได้ว่าอีกฝ่ายพูดถูก ไม่ใช่เรื่องสำคัญว่าทำได้อย่างไร วันนี้เขาจะกำจัดคนอัปยศออกไปให้หมด

จากนั้นภาพเหตุการณ์ต่างๆ ก็เกิดขึ้นมากมาย นพเก้ารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นยอดนักสืบจิ๋ว เขาเริ่มแฉถึงพฤติกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลักขโมย โกงหุ้นส่วน ฆาตกรรม ข่มขืน ทุกการกระทำผิดถูกเปิดเผยออกมา โดยมีหวงไท่เป็นศาลไคฟงลงโทษทุกคนตามกฎของตระกูล เหตุการณ์ต่างๆ กินเวลาไปถึง 5 โมงเย็นก่อนจะสิ้นสุดลง

พ่อแม่ของนพเก้าพาหวงไค่ที่นอนอยู่บนเปลหามออกไป ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะต้องได้รับการพักผ่อนเนื่องจากเส้นโลหิตแตกในสมอง หากเป็นคนธรรมดาคงตกตายไปแล้ว แต่สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตราชันย์เพียงนอนตื่นเดียวก็หาย กายาของขอบเขตราชันย์ยุทธ์สามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถต่อแขนขาที่ขาดได้ ต้องทะลวงไปสู่ขอบเขตจักรพรรดิเท่านั้นจึงสามารถทำได้

การแสดงในครั้งนี้ทำให้ศักดิ์ศรีในตระกูลของนพเก้าพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด ทั้งการแสดงความคิดเห็นอย่างกล้าหาญต่อผู้อาวุโส การกำจัดเนื้อร้ายในตระกูล และที่สำคัญที่สุด การจับกุมพ่อมดทมิฬสามตา ทำให้ทุกอย่างจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ

[ติ๊ง ขอแสดงความยินดี โฮสต์ได้แสดงความสามารถทำให้ทุกคนในตระกูลรู้สึกเคารพในสติปัญญาและความกรุณาของโฮสต์ ส่งเสริมคนดีและกำจัดคนเลว ช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับตระกูลในระยะยาว รางวัล: ช่องทรัพยากร + 15]

ขณะนี้นพเก้ารู้อารมณ์ดีขึ้นหลังจากได้ระบายโทสะใส่บรรดาพวกไร้ยางอายในห้องโถงอาหาร เขากำลังกลับไปตำหนักเพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าของงานที่ให้ยักษ์แดงเดือดจัดการ

“ช้าก่อนขอรับเจ้าตระกูลน้อย” ผู้อาวุโสดูแลกิจการภายในตระกูลคำนับเขาและเปลี่ยนนิยามใหม่เมื่อพูดกับเขา ไม่ได้เรียกว่าผู้สืบทอดอีกต่อไปเพื่อแสดงเคารพอย่างจริงใจ

“มีเรื่องสำคัญอื่นใดหรือไม่ผู้อาวุโส” นพเก้าคำนับกลับ เขารู้สึกว่าอนาคตข้างหน้าการเป็นผู้นำตระกูลคงมีแต่เรื่องยิบย่อยทุกวัน บางทีเขาควรออกไปพักผ่อนบ้างขณะที่เขายังมีโอกาส

“ก่อนหน้านี้คุณหนูฉินคู่หมั้นของท่านมาขอเข้าพบขอรับ ข้าบอกอีกฝ่ายแล้วว่าวันนี้มีประชุมสำคัญในตระกูล ขอให้มาใหม่วันหลัง แต่” ผู้อาวุโสดูแลกิจการภายในหยุดไปเล็กน้อย แสดงสีหน้าหนักใจ

“แต่ อะไร” เจ้าช่วยพูดให้จบประโยคได้ไหม นพเก้าคิด เขามักสงสัยว่าเวลาผู้ดูแลต่างๆ พูดขึ้น เมื่อมีเรื่องสำคัญจะต้องละเว้นเสมอ เขาไม่เข้าใจว่าต้องการให้ขยายความสำคัญของปัญหา หรือรู้สึกอยากให้มีอารมณ์ร่วมกันแน่

“คุณหนูฉินโหย่วเอ๋อบอกว่าวันนี้จะต้องพูดคุยเรื่องสำคัญกับท่านให้ได้ ข้าจึงให้นางรออยู่ในห้องรับแขกในห้องโถงหลัก” ผู้ดูแลกิจการภายในรอดูท่าทีเจ้าตระกูลน้อยผู้นี้ เป็นที่รู้กันดีว่านพเก้าผู้นี้ตามจีบแม่นางผู้นี้มาหลายปีจึงถึงขั้นขอหมั้นหมาย แต่อีกฝ่ายไม่สนใจแม้แต่น้อย บางคนให้ฉายาเขาว่า “สุนัขเลียคลั่งรักอันดับหนึ่ง”

โดยทั่วไปเจ้าตระกูลน้อยของพวกเขาจะต้องดีใจจนอยากโอ้อวด แต่คราวนี้เหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น

ท่าทางของนพเก้าเต็มไปด้วยความฉงนสนเท่ห์ เมื่อนึกย้อนถึงในอดีตเขาจำได้อย่างเลือนรางว่าเขาเคยมีวัยที่มีความรักและไม่ใช่ความรักธรรมดา แต่เป็นการคลั่งรักอย่างมาก

“เหตุใดข้าจึงทำเช่นนั้น” เมื่อนึกย้อนกลับไปเขารู้สึกสงสัยตัวเอง อีกฝ่ายเป็นเพียงคุณหนูมากพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์อันดับ 2 ในเมืองเวสสุวรรณเท่านั้น และสวยติดอันดับที่ 10 หญิงงามในเมือง เขาที่เป็นผู้มากพรสวรรค์ลำดับที่ 11 ตามจีบนางและใช้อำนาจในตระกูลในการหมั้นหมาย เมื่อเขานึกถึงประสบการณ์ในการตามจีบผู้หญิงเข้ารู้สึกอับอาย เขายังไร้เดียงสาเกินไป

นพเก้าอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ หลังจากมีชีวิตอยู่มานานกว่าร้อยปี เขากลายเป็นคนเร่ร่อนมากกว่า 50 ปี เขาเห็นการเกิด แก่ เจ็บ ตายมามากมาย การเผชิญกับความคิดด้านลบของมนุษย์ การทรยศหักหลัง การปล้นชิงเพื่อยกระดับชีวิต ทำให้มุมมองชีวิตของเขาต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

สำหรับเรื่องความรักตอนนี้เขาไม่สนใจแม้แต่น้อย มันเสียเวลาเกินไป เขาอยากจะนำตระกูลอสุราทองคำไปสู่ความยิ่งใหญ่ บ่มเพาะผู้มีพรสวรรค์รุ่นเยาว์ในตระกูล พิชิตใต้หล้ากลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง

“เอาล่ะ ข้ากำลังไป ท่านเชิญไปทำธุระต่อเถอะ” นพเก้าบินไปที่ตำหนักหลัก ในเมื่อบินได้ทำไมเขาต้องเดิน มนุษย์ทุกคนรักความสบาย หากใช้ชีวิตอย่างสบายได้ก็ไม่อยากเลือกความลำบาก

ในห้องโถงรับแขกที่ตกแต่งด้วยลายไทยผสมผสานกับวัฒนธรรมจีนโบราณให้ความรู้สึกแปลกตาอย่างมาก ขณะนี้มีสาววัยรุ่นผู้หนึ่งกำลังนั่งบนโซฟาตัวใหญ่โดยมีบอดี้การ์ดสูงสองเมตรอยู่ข้างหลังสองคน คนพวกนี้มีผิวสีแดงและสองเขาเป็นสายเลือดผสมระหว่างมนุษย์และยักษา พวกนี้คือเผ่าพันธุ์ยักษารติธาตุ

ส่วนนายหญิงตรงหน้าของพวกเขาคือฉินโหย่วเอ๋อ สายเลือดชั้นสูงของเผ่ายักษารติธาตุ นอกจากทุกส่วนที่เป็นมนุษย์แล้วมีเพียงเขาที่ยาวสองข้างสีมรกตที่ทำให้รู้ว่านางไม่ใช้มนุษย์ นางสวมชุดสูทกางเกงยาวขวา ขวามือมีกระบี่คาตะนะในฝักวางอยู่บนโซฟา

ขณะนี้นางกำลังมองดูชายหนุ่มหล่อเหลาตรงหน้าด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น