อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด - บทที่ 9 เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย โอเคได้เลย โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ผู้แต่ง

ยักษาบรรพกาล

เรื่องย่อ

นพเก้าเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นแม่แต่น้อย

“ระบบการแสดงของข้าเป็นอย่างไรบ้าง” 

นพเก้าถาม

[ติ๊ง ประทับใจ]

ระบบตอบ

[ติ๊ง ของแสดงความยินดีโฮตส์ได้แสดงการวาดยันต์บุพภาลำเนาไพรฉบับสมบูรณ์ การกระทำของโฮสต์เริ่มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปรงด้าน อุตสาหกรรมยันต์วิญญาณระดับภูมิภาค รางวัล: เพิ่มช่องทรัพยากร + 5]

“ระบบ ข้าสามารถใช้งานได้อย่างไร”

[โฮสต์สามารถเรียกช่องทรัพยากรได้ผ่านทางจิตแล้วใส่วัตถุในช่อง ทรัพยากร]

นพเก้าหยิบสร้อยคอทองคำ 1 บาทที่น้องสาวให้เป็นของขวัญวันเกิดใส่ในช่องทรัพยากรตรงหน้า

[ช่องทรัพยากร]

[ความจุ 1/5]

[วัตถุ: สร้อยคอทองคำ 1 บาท (ระยะเวลาเพิ่มจำนวน 23 ชั่วโมง 59 นาที 53 วินาที: อัตราเพิ่มจำนวน 1 เท่าตัว)

“ระบบ ถ้ามันครบ 24 ชั่วโมงมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นจริงเหรอ แล้วมันมีข้อจำกัดหรือไม่” 

นพเก้าอดสงสัยไม่ได้

[จริงแท้แน่นอน]

[โฮสต์โปรดอย่าสงสัยในความสามารถของระบบ ต่อให้เป็นไอเทมระดับทำเจ้าก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ย่างไม่สิ้นสุด]

สารบัญ

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 1 บทนำ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 2 เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 3 กลับบ้าน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 4 นพเก้า ปะทะ หวงอี้เฟย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 5 กายาสวรรค์ จุติจักรพรรดิในก้าวเดียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 6 อัจฉริยะในรอบพันปี,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 7 อันตัวข้าผู้สืบทอดเป็นคนใจกว้าง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 8 เทศกาลสวมหมวกเขียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 9 เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย โอเคได้เลย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 10 พบบุตรแห่งโชคชะตา,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 11 จิตใจของข้าแตกสลายเป็นล้านๆชิ้น,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 12 ความลับตระกูลหวง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 13 พบเจอกายาอมตะ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 14 บุกรังจักรพรรดิปักษาพิรุณ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 15 ครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 16 สร้างประตูมิติ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 17 ฝากคำทักทายเจ้าเมือง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 18 สอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 19 ใครบอกกันว่าข้าจะสอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 20 การปรากฏขึ้นของโอสถระดับตำนาน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 21 ความเย่อหยิ่ง ปะทะ ความจองหอง

เนื้อหา

บทที่ 9 เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย โอเคได้เลย

ช่องนิยายเสียง + อนิเมชั่น + Soundtrack + SFX https://youtu.be/_lBZqy1i5ic

สำหรับฉินโหย่วเอ๋อการถูกตามตื๊อโดยนายน้อยเสเพลผู้นี้ทำให้นางรู้สึกเบื่อหน่ายในทุกวัน นางให้ความสำคัญกับพลังยุทธ์เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยความหนักแน่นและพรสวรรค์ของนางบวกกับเป็นลูกของรองผู้นำตระกูล ทำให้นางสามารถไปได้กว่าคนอื่นในรุ่นเดียวกัน

ตอนนี้นางเป็นผู้มีพรสวรรค์อันดับหนึ่งในตระกูลฉินและถูกจัดอันดับเป็นอันดับ 10 ในบรรดาหญิงงามล่มเมือง ทำให้บรรดานายน้อยตระกูลต่างๆ มาสู่ขอนางอย่างไม่หยุดหย่อน

สาเหตุที่นางเรื่องผู้ชายคนนี้เพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายใช้งานเป็นไม้กันหมาได้ดี หากมีผู้ชายคนอื่นตามจีบนาง นพเก้าจะไล่กัดอย่างเอาเป็นเอาตายทันที

เดิมทีนางคิดว่าจะรอให้มีฐานฝึกปรือถึงขอบเขตรู้แจ้งก่อนจึงค่อยถอนหมั้น ในความเป็นจริงนางมีคนในใจอยู่แล้ว บุรุษผู้นั้นคือชายผู้มากพรสวรรค์อันดับหนึ่งในเมืองเวสสุวรรณ อีกฝ่ายเป็นเพียงสามัญชนเท่านั้น แต่สามารถต่อกรกับผู้มีอิทธิพลทุกคนได้โดยไม่แสดงความเกรงกลัวใดๆ เมื่อนางเริ่มรู้จักบุคคลผู้นี้เมื่อสี่ปีก่อน

นางประหลาดใจในความทัศนคติที่ถือดีของเขา จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปความสัมพันธ์เริ่มผลิบาน นางตกหลุมรักบุคคลผู้นี้โดยไม่รู้ตัว รวมถึงรูปร่างหน้าตาที่เหมือนผู้หญิงเล็กน้อยด้วย

อย่างไรก็ตามเมื่อนางได้ยินข่าวลือว่านพเก้าได้เข้าถึงขั้นจักรพรรดิยุทธ์แล้ว นางรู้สึกเหมือนที่สิ่งที่นางกำลังทำมาทั้งหมดนั้นสูญเปล่า ด้วยพรสวรรค์และทรัพยากรที่นางได้รับ นางคาดว่าต้องใช้เวลาอีก 30 ปีถึงบรรลุความก้าวหน้าในระดับจักรพรรดิยุทธ์ได้ หากเป็นเรื่องฝึกปรือนางสามารถอดทนได้ แต่การแต่งงานเมื่อนางอายุ 20 ปี ไม่สามารถชะลอออกไปได้

“คุณหนูฉินมีอะไรก็พูดมาเถอะ” บอกตามตรงบรรยากาศต่างฝ่ายต่างเงียบงันทำให้นพเก้ารู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก เพราะนี่ไม่ใช่เกมแข่งจ้องตากัน

“พี่- คุณชายนพเก้า ข้ามาที่นี่เพื่อถอนการหมั้นหมาย” เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่เรียกนางเหมือนอย่างเคยนางก็สะดุดคำพูดเล็กน้อย ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเห็นนางมาอย่างไม่เป็นมิตรจึงอาจเตรียมแผนการบางอย่าง อย่างไรก็ตามนางไม่สนใจ ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องถอนหมั้นให้ได้ นางไม่สามารถทำให้คนรักของนกผิดหวังได้

“เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย ได้สิเอาเลย” เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นในชีวิตที่แล้วของเขา คงจะดีถ้าทำให้มันจบลงโดยเร็ว

“คุณชาย นี่ข้ากำลังจริงจังน่ะ” ฉินโหย่วเอ๋อเริ่มรู้สึกหงุดหงิด เหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับเรื่องนี้จึงพูดอย่างประชดประชัน

“อะไรอีกล่ะ” นพเก้ารู้สึกงุนงง เจ้าได้สิ่งที่ต้องการไปแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงต้องรบกวนเวลาฝึกฝนของข้าด้วย นพเก้ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

“ข้ายอมรับว่าครั้งนี้ข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ได้บอกคนในตระกูล หากท่านต้องการใช้กำลังกดขี่ข่มเหง วันนี้ข้าจะขอสู้ตายกับท่าน” ฉินโหย่วเอ๋อรูปด้ามดาบที่อยู่ด้านขวามือ การมาของนางในครั้งนี้นางไม่ได้บอกพ่อของนาง ไม่เช่นนั้นนางจะถูกต่อว่าและลงโทษให้กักบริเวณเป็นเวลาหนึ่งปี

เมื่อพ่อของนางทราบว่านพเก้าบรรลุขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ เขาได้หารือกับคนในตระกูลเพื่อขอคำแนะนำจัดงานแต่งงานให้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังใช้อำนาจว่าที่พ่อตาของจักรพรรดิยุทธ์รุ่นเยาว์ในด้านของการแข่งขันธุรกิจจนทำกำไรมหาศาลให้กับตระกูล สถานะของเขายกระดับขึ้นจนผู้นำตระกูลรู้สึกสั่นคลอน หากพ่อของนางรู้เรื่องการถอนหมั้นนางไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับพ่อของนางอย่างไร แต่ถึงอย่างไรนางก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อนางกลับไปนางจะยอมรับโทษแต่โดยดีต่อให้ถูกทำให้พิการเพื่อให้อยู่กับคนรักได้นางก็ยอม

“แล้วมันทำไมล่ะ หากถอนหมั้นก็ส่งสัญญามาเสีย ข้าจะลงนามเดี๋ยวนี้” นพเก้าไม่เข้าใจการกระทำของผู้หญิงคนนี้ แต่เขาไม่อยากใส่ใจมากนัก เป็นเรื่องปกติในวัยรุ่นที่มักจะมีอารมณ์แปรปรวณ

ฉินโหย่วเอ๋อรู้สึกมึนงง จากนั้นก็ส่งสัญญาให้นพเก้า ขณะที่กำลังดูอีกฝ่ายลงนามในสัญญานางรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ทำไมพฤติกรรมถึงแตกต่างออกไป หรือเพราะบรรลุขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์หรือไม่ จึงหมดอารมณ์รักในมนุษย์ แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้เช่นกัน

“เมื่อหมดธุระแล้วก็เชิญ ข้าไม่ไปส่งน่ะ” นพเก้าพูดขึ้นแล้วเดินจากไป เขาทิ้งให้อีกฝ่ายนั่งนิ่งอยู่กับที่

หลังจากนพเก้ากลับมาถึงห้องเขาสั่งระบบ

“ระบบให้ดูอีกครั้ง” ทันใดนั้นข้อมูลสถานะของผู้หญิงก่อนหน้าที่ถูกบันทึกไว้ก็ปรากฏขึ้น

[ค่าสถานะของฉินโหย่วเอ๋อ]

อายุ: 18 (อายุขัย 226 ปี)

เขตแดน: ขัดเกลาศิลาขั้นที่ 8 ชั้นสูงสุด (ค่าพลังปราณ : 4507 เมตร)

ทักษะการต่อสู้: กระบี่เพลิงนรก (วิชาสวรรค์ขั้นกลาง) , ฝ่ามือมังกรมรกต (วิชาสวรรค์ขั้นต้น) , ก้าวอเวจีสะพัด (วิชาสวรรค์ขั้นกลาง) , หมัดบูรพา (วิชาปฐพีขั้นกลาง)

เคล็ดวิชา: กลืนกินขุมนรก (วิชาสวรรค์ขั้นสูงสุด)

พรสวรรค์: กลืนกินจิตมาร

พลังเทพ: 0

โชคชะตา: ผู้มีค่าศักยภาพสูง

สูงมาก!

นพเก้ารู้สึกสะเทือนใจ สมกับเป็นอัจฉริยะอันดับสองในเมืองเวสสุวรรณ ค่าแสตทสูงมาก หากเป็นเกมคงเรียกได้ว่าผู้เล่นระดับสูงที่มีอุปกรณ์ครบครันสามารถโซโล่เพลเยอร์ได้

“ระบบ ผู้มีค่าศักยภาพสูงนี่ควรเป็นบุตรแห่งโชคชะตาหรือไม่”

[บุตรแห่งโชคชะตาก็คือบุตรแห่งโชคชะตา สำหรับผู้มีค่าศักยภาพสูงในอนาคตล้วนมีขีดจำกัด]

นพเก้าไม่คิดอะไรมาก ตัวตนอย่างบุตรแห่งโชคชะตาจะหาเจอได้ง่ายได้อย่างไร เขาปิดหน้าจอระบบแล้วเริ่มเชื่อมต่อการมองเห็นกับยักษ์แดงเดือด

ภายในป่ามรณะตอนใต้เมื่อเวลากลางคืนมาถึง สัตว์หากินกลางคืนจะส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาทั่วผืนป่า

อ๊าก

อีวาเจอรีนนางรู้สึกกลัวจนกรีดร้องออกมา นางอดที่จะเอามือกุมแขนชายหนุ่มด้านหน้าไม่ได้

“ชู่ว อย่าทำเสียงดัง เจ้าไม่อยากออกจากนี้แล้วหรือ” กิตติศักดิ์รู้สึกสะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่ได้สะบัดขนปล่อยนาง ทำไงได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้การมีแตงโมมาสัมผัสมันช่างทำรู้สึกอบอุ่น อะแฮ่มเขาหมายถึงควรใกล้ชิดกันมากขึ้นในเวลากลางคืนเพื่อระวังอันตราย

เป็นเวลาสองวันแล้วที่พวกเขาไม่สามารถออกจากป่าเขตนอกนี้ได้ เนื่องจากฝูงสัตว์ร้ายปรากฏจำนวนมากขึ้นอย่างผิดธรรมชาติ อาจเป็นไปได้ที่เกิดจากเสียงราชันย์สัตว์อสูรเมื่อวานตอนเย็น ส่งผลให้สัตว์อสูรหวาดกลัวจนถึงขึ้นย้ายถิ่นฐานรุกคืบออกมาภายนอกป่ามรณะ

“รีบไปหลบหลังต้นไม้ตรงนั้นเร็วเข้า” ขณะที่กิติศักดิ์กำลังถือคบเพลิงเดินไปในป่าเขาเห็นแสงสีแดงเลือด 20 กว่าดวงกำลังร่องรอยไปมา

“มันคือผีกระสือหรือไม่” อีวานเจอรีนพูดขึ้น

“เงียบซะ เจ้าคิดว่านี่ยังน่ากลัวไม่พอหรือ” กิตติศักดิ์หลบหลังต้นไม้มองดูอย่างไม่กะพริบตา หากมีอะไรเกิดขึ้นเขาจะต้องป้องกันให้เพื่อนสาวของเขาหนีออกไปให้ได้

แสงสีแดงหยุดลงชั่วขณะขณะกำลังเดินเข้าถ้ำก็อบลิน จากนั้นแสงสีแดงนำหน้าดวงใหญ่ก็หายไป และกะพริบอีกครั้งตรงหน้าทั้งสองคน

ว๊ากก

อีวานเจอรีนกอดรัดกิตติศักดิ์ด้วยความตกใจ จากนั้นนางน้ำลายฟูมปากแล้วสลบไสลไป

“พวกเจ้าเป็นบ้าอะไรกัน” ยักษ์แดงเดือดไม่เข้าใจ

“ผ- ผี” กิตติศักดิ์รวบรวมความกล้าแล้วพูดอย่างตะกุกตะกัก ตอนนี้เขาตกใจกลัวและรู้สึกแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก

“ไหนผี ข้าไม่เห็นจะมีอะไร พวกเจ้าอยู่ในป่าจนประสาทหลอนไปแล้วหรือไม่” ยักษ์แดงเดือดรู้สึกเหมือนจะโชคร้ายเจอกับคนที่เสียสติจากการอยู่ในป่านานเกินไป

“ผู้อาวุโสพวกเราสองคนเพียงต้องการฝึกฝนในป่ารอบนอกเท่านั้น และด้วยความผิดปกติของพฤติกรรมสัตว์ป่าย้ายถิ่นฐาน ทำให้พวกเรายังหาทางออกไม่ได้” กิตติศักด์รวบรวมความกล้าแล้วพูดกับอีกฝ่าย ดูเหมือนสัตว์อสูรตนนี้จะมีสติปัญญาและสื่อสารกับมนุษย์ได้ มันควรจะเป็นจักรพรรดิอสูร ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกมากนัก

“สรุปก็คือพวกเจ้าเป็นคนหลงป่าจริงๆ” ยักษ์แดงเดือดตีความเป็นเช่นนี้

“ใช่ๆ ตามนั้นเลยผู้อาวุโส” กิตติศักดิ์รู้สึกใจเต้นถึงตาตุ่มเมื่ออีกฝ่ายจ้องมองมาที่เขา เขาจะถูกกินหรือไม่ โดยทั่วไปสัตว์อสูรร้ายมันจะชอบกินเนื้อมนุษย์มากที่สุด

“เอาล่ะ เห็นแก่ที่ข้าเป็นยักษ์ใจดี ข้าจะปล่อยเจ้าไปสักครั้ง ไสหัวไปทางนั้นเสีย” เดิมทียักษ์แดงเดือดไม่อยากสนใจมดปลวกพวกนี้นัก แต่ติดตรงที่นายท่านของมันกำลังดูการเคลื่อนไหวทุกอย่างอยู่ในขณะนี้

“อะแฮ่ม ข้าหมายถึงให้พวกเจ้าไปทางนั้น ข้าจะเปิดทางให้” มันรีบเปลี่ยนคำพูดเมื่อรู้สึกว่านายท่านของมันเริ่มหงุดหงิด

“เจ้าช้างน้อย เจ้าลิงน้อยมาหาข้าตรงนี้” สิ้นเสียงยักษ์แดงเดือด มีลูกบอลสีดำสองลูกพุ่งลงมาจากฟ้าจนฝุ่นฟุ้งกระจาย ปรากฏช้างสูงสามเมตร มีเขี้ยวสี่คู่ และอีกตัวที่พุ่งลงด้วยท่าฮีโร่ซูเปอร์แลนดิ้ง มันคือคิงคองยักษ์สูงห้าเมตร พวกมันเป็นสัตว์อสูรขอบเขตราชันย์ที่อยู่ลึกเข้าไปด้านใน อย่างไรก็ตามลักษณะของพวกมันผิดธรรมชาติ พวกมันอยู่ในรูปออร่าโลหิตกึ่งโปร่งแสงสีแดง ดวงตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือด แพร่ซ่านปราณคุกคามตลอดเวลา

ด้วยวิถีที่หนึ่งของเพลิงแห่งความละโมบ หลังจากสังหารสัตว์อสูรยักษ์แดงเดือดได้ใช้อิทธิฤทธิ์ของมันสร้างนักรบโลหิตออกมา โดยความแข็งแกร่งจากร่างเดิมจะลดลงไปห้าส่วนสิบ เนื่องจากพลังปราณ จิตวิญญาณ สารกายเนื้อต่างๆ ส่วนหนึ่งถูกนำไปหล่อเลี้ยงฟื้นฟูพลังของยักษ์แดงเดือด หลังจากผ่านไปหนึ่งวันมันเข่นฆ่าทุกสรรพสิ่งในรัศมี 50 กิโลเมตร มีสัตว์อสูรมากกว่าหมื่นตัวที่ตายด้วยน้ำมือของมันและนักรบโลหิตที่สร้างจากซากศพ ไม่เพียงแต่จะได้กำลังรบเพิ่มจากกำลังรบเพิ่มขึ้น มันยังรวมไปถึงความทรงจำบางส่วนของพวกมันด้วย หลังจากย่อยส่วนสำคัญในเศษเสี้ยวความทรงจำ ทำให้มันรู้ถึงตำแหน่งสมบัติสวรรค์หรือสมุนไพรต่างๆ นับเป็นผลพลอยได้มหาศาล

“นี่มันราชันหมีอรุณรึ” กิตติศักดิ์รู้สึกกลัวจากแรงกดดันของราชัน เขาไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป เขาล้มลงโดยไม่มีเรี่ยวแรงลุกขึ้นยืน เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายคือราชันย์หมีรุ่งอรุณกับราชันคิงคองกำปนาท แต่ถูกเปลี่ยนเป็นสิ่งอัญเชิญบางอย่างโดยจักรพรรดิอสูร ไม่สิ ต้องบอกว่าผู้อาวุโสลึกลับท่านนี้

“พวกเจ้าสองตัวไปส่งมนุษย์ผู้นี้ที่ขอบนอกของป่า หลังเสร็จแล้วให้กลับมาหาข้า เราจะฟาร์มไอเทมกันต่อ” ยักษ์แดงเดือดพูดโดยมีอิทธิพลของเด็กติดเกมเล็กน้อย หลังจากมันฟื้นขึ้นมามันได้รู้วัฒนธรรมเดิมเมื่อนายของมันอยู่ในช่วงวัยเยาว์ หลังจากสัมผัสประสบการณ์ได้ไม่เกินหนึ่งชั่วยาม มันรู้สึกติดใจอย่างมาก หลังจากมันทำภารกิจสำเร็จมันจะขอลาหยุดสักสองสามวันเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมที่เรียกว่าเกมMMORPGเพิ่มเติม

สิ้งเสียงของยักษ์แดงเดือด “เจ้าช้างน้อย” กับ “ลิงน้อย” ที่เป็นชื่อเล่นของมันก็นำทั้งสองคงขึ้นหลังแล้วเดินจากไปที่เขตปลอดภัย

“เบอร์หนึ่งรายงานสินสงครามที่เก็บได้มาหน่อย” ยักษ์แดงเดือดสั่งนักรบโลหิตที่สวมแว่นตาและมือขวาถือเอกสารจดบันทึกในบรรดาพวกมัน เจ้านี่ถือว่ามีความแข็งแกร่งและสติปัญญามากที่สุดมันจึงเลือกให้เป็นเลขานุการส่วนตัว ยักษ์ดงเดือดขี้เกียจตั้งชื่อให้พวกมันทั้ง 10 ตัว หลังจากที่นพเก้าอัญเชิญมาออกมาเมื่อหนึ่งวันก่อน ตัวของพวกมันพัฒนาจนมีขนาดและรูปร่างเหมือนกับมนุษย์มากขึ้น มีทั้งเป็นผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก คนชราตามแล้วแต่ความปรารถนาพื้นฐานของพวกมันแต่ละตัว เนื่องจากทุกตัวของนักรบโลหิตถูกสร้างโดยใช้แก่นแท้เลือดของนพเก้าพวกมันจึงได้รับเศษเสี้ยวจิตวิญญาณไปในตัว

หลังจากพวกมันเข่นฆ่าและซึมซับพลังของสัตว์อสูรมาหนึ่งวัน พวกมันส่วนใหญ่ทะลวงสู่ของเขตที่สาม ขอบเขตรู้แจ้ง ซึ่งขอบเขตนี้ทำให้วิชาศักดิ์สิทธิ์ระดับสวรรค์ขึ้นไปมีความคิดพื้นฐานเป็นของตนเอง แต่ด้วยการที่ต้นกำเนิดของพวกมันมาจากผู้สร้าง พวกมันจะไม่สามารถทรยศผู้ให้กำเนิดหรือเจ้าของเคล็ดวิชาได้ ยิ่งเป็นสิ่งที่ถูกสร้างด้วยเลือดเนื้อในร่างกายมันจะไม่มีวันทรยศ

“เรียนนายท่าน” เบอร์หนึ่งพูดขึ้น

“อย่าเรียกข้าว่านายท่าน ให้เรียกข้าว่าบอส” ยักษ์แดงเดือดโบกมือขวา มันรู้สึกอยากดูเป็นบอสมาเฟีย

“ก็ได้ บอส” เบอร์หนึ่งกัดฟันกรอด หากอีกฝ่ายไม่ใช่บรรพชนของมัน มันอยากจะสู้กับอีกฝ่ายสามร้อยยก หนึ่งวันที่ผ่านมามันถูกรับเลือกให้เป็นฝ่ายสนับสนุนรวบรวมสมบัติสวรรค์ต่างๆ และจัดเรียงแยกประเภท มันรู้สึกอยากจะบ้าตาย มันยังไม่เคยฝึกงานด้วยซ้ำต้องมาทำตำแหน่งบัดซบเช่นนี้ มันรู้สึกว่าบรรพชนของมันทำตัวอย่างกับพ่อค้าทาสที่จะใช้ประโยชน์จนกว่าชีวิตจะหาไม่

“ตลอด 14 ชั่วโมงที่ผ่านมาเรารวบรวมสมุนไพรระดับปฐพีได้ 7401 ชิ้น ระดับสวรรค์ 1605 ชิ้น และระดับเซียนขั้นต้น 7 ชิ้น นอกจากนี้สินแร่ต่างๆ ก็รวบรวมได้ 146 ชนิด ตอนนี้เรากำลังใช้แรงงานจากพวกสัตว์ร้ายในการสร้างคลังสมบัติขนาดใหญ่คาดว่าจะเสร็จในวันมะรืน” เบอร์หนึ่งกระดิกแว่นขึ้นมาหลังจากรายงานด้วยคำพูดรวดเดียว

“หินมิติตอนนี้ได้มาเท่าไหร่แล้ว” ยักษ์แดงเดือดเริ่มไม่อยากทำภารกิจอีกต่อไป

“ทางเรารวบรวมได้ 107 ชิ้น คิดเป็น 38 กิโลกรัม” ครั้งนี้มันรู้สึกหนักใจเมื่อรายงาน ตามค่ำสั่งของนายท่านของมันต้องหาให้ได้อย่างน้อย 1 ตัน เพื่อสร้างประตูมิติขนาดใหญ่ มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในหนึ่งเดือนจะหาได้ครบหรือไม่

“ช้าเกินไปแล้ว รวบรวมให้เสร็จภายในพรุ่งนี้” ยักษ์แดงเดือดโวยวาย

...

เบอร์หนึ่งไม่อยากจะคุยกับคนบ้าอีกต่อไป มันก้มหัวรับคำสั่งและรีบเดินจากไปแจกแจงรายงานวัสดุกับทีมงานต่อ

“เดี๋ยว ช้าก่อน” ก่อนที่เบอร์หนึ่งจะเดินไปได้สิบก้าว มันหันกลับมา มันกำหมัดเจ้าคนเอาแต่ใจผู้นี้จะเอาอะไรอีก

“เจ้าเป็นเลขาไม่ใช่หรือไง ทำไมเจ้าถึงไม่เป็นผู้หญิงซะล่ะ” ในความคิดของยักษ์แดงเดือด ตำแหน่งเลขาในฌลกนี้ต้องเป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่เท่านั้น

“ไอบ้า” เบอร์หนึ่งทนไม่ไหวอีกต่อไป มันเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังดูแคลนมันด้วยคำพูด

เพียะ

ยักษ์แดงเดือดตบมันจนไปชนทะลุติดกับผนัง มันร่วงลงมากลายเป็นหยดเลือดเหมือนกับก้อนสไลด์

“เมื้อกี้เจ้าพูดว่าใครบ้าฟ่ะ ข้าจะลงโทษเจ้าให้เป็นผู้หญิงตลอดไป” สิ้นเสียงยักษ์แดงเดือดก็โคจรพลังเป็นลำแสงทรงกลมขนาดเทาเล็บมือแล้วพุ่งออกไปเข้ากระทบกับก้อนสไลด์เลือด หลังจากนั้นก้อนสไลด์ก็เปลี่ยนเป็นหญิงสาวสุดเซ็กส์ซี่

“เอาล่ะ กลับไปทำงาน เมื่อข้าอารมณ์ดีเมื่อไหร่ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเปลี่ยนกลับไปตามใจชอบ” ยักษ์แดงเดือดลอยออกไปตรงหน้าถ้ำก็อบลิน

เบอร์หนึ่งรู้สึกงงงวยมันอยากร้องไห้ออกมาแต่ไม่มีน้ำตา เหตุใดมันถึงต้องเป็นผู้เคราะห์ร้ายตลอด สหายโลหิตของมันที่เห็นภาพนี้ก็รู้สึกเห็นใจ แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา ต่างคนต่างก้มหน้ากลับไปทำงาน

“กี้! กี้ย่า!” เกิดเสียงก็อบลินร้องออกมาจากถ้ำ ในคืนนั้นป่าเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องแห่งความหวาดกล้วและสิ้นหวัง

ในห้องนอนของนพเก้าหลังเขาเลิกใช้จิตสัมผัสเชื่อมต่อกับยักษ์แดงเดือด เขานอนลงบนเตียงด้วยสีหน้าครุ่งคิด ด้วยวิถีที่หนึ่งเพลิงแห่งความละโมบ เขาจึงไม่จำเป็นต้องฝึกฝนด้วยตนเอง ตอนนี้เขาเป็นเหมือนนางพญาผึ้งที่มีโครงสร้างโครงข่ายมากมาย เพียงซึมซับพลังจากนักรบโลหิตกว่าหมื่นตัว รัศมีพลังในศิลาของเขามีมากกว่าห้าหมื่นเมตรแล้ว เทียบเท่ากับขอบเขตราชันย์ยุทธ์ขั้นกลาง

สำหรับเขาตอนนี้ก็ค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเขามีพลังอำนาจสูงสุดจากชีวิตที่แล้วซึ่งเป็นจักรพรรดิขั้นสูงสุดในตันเถียนดั้งเดิมของชาติที่แล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตันเถียนหลักของเขามีพลังถึงระดับเดียวกัน เขาคิดจะใช้พลังระดับจักรพรรดิขั้นสูงสุดมาหลอมรวม รากฐานเก่าของเขาอ่อนแอเกินไป ไม่สามารถฝ่าทะลวงขอบเขตจ้าวสวรรค์ได้จึงวางแผนจะถ่ายโอนเป็นพลังเสริมตันเถียนใหม่

เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาคิดจะเป็นไปได้หรือไม่ เขาพยายามจะสร้างมิติที่อยู่อาศัยในจักรวาลตันเถียนของเขา โดยให้สมุนโลหิตเหล่านั้นเข้ามาจากประตูมิติทางป่าตะวันตกขนย้ายทรัพยากรมาในตัวเถียนของเขา ด้วยศาสตร์ลับโซ่ตรวนมรณะนิรันทร์ที่สามารถป้องกันทัณฑ์สวรรค์ได้แล้วมันยังสามารถป้องกันศิลาปราณระเบิดได้อีกด้วย ต้องบอกว่าสมกับเป็นศาสตร์มืดลึกลับอันดับหนึ่ง มันอาจจะเป็นสิ่งที่คนอื่นเคยทำมาก่อน เขาอาจไม่ใช่คนแรกแต่ก็ไม่ใช่คนสุดท้าย

“ได้เวลาแล้ว” สายตาของนพเก้าเป็นประกาย เมื่อเขามองดูนาฬิกามันเป็นช่วงเวลาสองทุ่มแล้ว เขาลุกออกจากเตียงแล้วหายตัวไปทันที

ที่ตำหนักสาขารองของหวงไค่

โครม

เสียงของตกแต่งในห้องทำงานแตกหัก คนรับใช้ไม่กล้าส่งเสียงออกมา

“บัดซบ ระยำที่สุด” หวงไค่เดือดดาลอย่างมากจนเขาพังข้าวของเป็นการระบายอารมณ์ เขาวางแผนกับอีกสามผู้อาวุโสสาขาเพื่อทำให้นพเก้าขายหน้า แต่สิ่งนี้กลับกลายเป็นการเพิ่มสถานะให้กับเขาแทน

ใครจะไปคิดกันว่าอายุเพียงเท่านี้จะมีสายตาที่เฉียบคมขอปรมาจารย์สามารถชี้จุดบกพร่องในวรยุทธ์ได้ ในห้องโถงใหญ่ในบางครั้งหลังจากให้ของขวัญตอบแทนเขาได้ชี้ข้อบกพร่องให้กับผู้อาวุโสในตระกูลสิบกว่าคน ส่งผลให้ผู้สนับสนุนของเขาลดน้อยลง ไม่เพียงเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นใช้วิธีการใดถึงรู้ความลับของผู้อื่นอย่างกับเปลื้องผ้าอีกฝ่ายกลางที่สาธารณะ เขาไม่สามารถเข้าใจได้ โชคยังดีที่ในการประชุมครั้งนี้อีกฝ่ายไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย เขาไม่รู้ว่าเป็นการวางแผนของสองพ่อลูกนี่หรือไม่

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ เขาต้องรีบเร่งแผนการที่เตรียมเอาไว้ก่อนที่จะสายเกินไป

“พ่อบ้าน เรียกหลานข้าให้เข้ามาพบ” หลังจากพ่อบ้านออกไปได้ห้านาที เขาปรากฏตัวพร้อมกับบุรุษหนุ่มหน้าตาดี

“คารวะท่านปู่” หลังจากรักษาตัวด้วยการแช่สมุนไพรระดับสูง พลังของเขาเริ่มกลับมาบ้างแล้วสามส่วนทำให้สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ

“อีกฝ่ายว่าอย่างไรบ้าง” หวงไค่สั่งให้พ่อบ้านออกไป จากนั้นก็นั่งตรงโต๊ะทำงาน เขาพูดเข้าประเด็นทันที

“หัวหน้าพรรคเหยี่ยวทมิฬ บอกว่าอาจใช้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์จึงปลุกศพของบรรพชนได้” หวงอี้เฟยรู้สึกว่าปู่ของเขาผู้นี้อารมณ์ไม่ดีนัก ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

“ก็ดี หลังจากควบคุมผู้ฝึกปรือระดับจักรพรรดิได้แล้ว จะมีใครที่สามารถต่อกรกับเราในเมืองเวสสุวรรณได้อีก” หากหวงไค่สามารถควบคุมศพของบรรพชนในสุสานตระกูลหวงได้ เขาจะใช้อำนาจในการควบคุมตระกูลหลักทันที

“ท่านปู่ ข้าไม่แน่ใจว่าเราควรทำข้อตกลงนี้หรือไม่” หวงอี้เฟยต่อให้เป็นศัตรูกับตระกูลหลัก เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่ลงมือมันไร้มนุษยธรรมเกินไป

“เราจะต้องไปใส่ใจทำไม หากต้องทำการใหญ่ก็ต้องมีการเสียสละบ้าง” หวงไค่หยิบชาร้อนขึ้นมาซดจดหมดแล้วกระแทกโต๊ะอย่างแรง เป็นที่รู้กันดีว่าพรรคเหยี่ยวทมิฬเป็นฝ่ายมาร เป็นเรื่องต้องห้ามในโลกมนุษย์ที่จะร่วมมือกับพรรคของอาชญากร หากถูกราชวงศ์จับได้จะถูกประหารเก้าชั่วโคตร

อย่างไรก็ตามหวงไค่ทางเลือกมากนัก เขาไม่มีพลังอำนาจมากพอ และเสียผู้สนับสนุนส่วนใหญ่ไปแล้ว ราคาที่ต้องจ่ายจากการร่วมมือกับพรรคเหยี่ยวทมิฬคือชีวิตทั้งหมดของตระกูลหลัก เขาไม่รู้ว่าพรรคนี้จะเอาร่างคนไปทำอะไร แต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา

หลังจากหารือแผนการกับหวงอี้เฟยเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม เขาสั่งให้หวงอี้เฟยกลับไป จากนั้นเขาก็ออกจากห้องทำงาน

“หึ พวกเจ้าชั่วช้าสมควรตาย!” นพเก้าที่แฝงตัวอยู่ในเงามืดเขาได้รู้เห็นแผนการทั้งหมด เดิมทีวันนี้เขาตั้งใจจะสังหารอีกฝ่ายให้สิ้นซาก แต่ดูเหมือนว่าเบื้องหลังจะมีพรรคเหยี่ยวทมิฬมาเกี่ยวข้อง เขาจำเป็นต้องตามสืบดูสาเหตุทั้งหมดที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมจนเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขา เขาจะกำจัดทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้

หลังจากนั้นเขาเคลื่อนย้ายมาที่ห้องทำงานในตำหนักหลังของอัครเดชในเวลาไม่ถึงห้านาที

“นี่ก็สี่ทุ่มแล้ว ท่านพ่อยังไม่นอนหรือ” นพเก้าเดินไปหาพ่อของเขาที่โต๊ะทำงาน ดูจะเป็นเอกสารเกี่ยวกับกำไรการค้าปัจจุบันต่างๆ

“เฮ้อ หากงานไม่เสร็จแม้ว่าข้าจะอยากหยุดก็หยุดไม่ได้” อัครเดชพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า

“เจ้ามีอะไรถึงมาหาข้าดึกดื่นเช่นนี้”

นพเก้าเล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่ปิดบัง

“อะไร พวกมันกล้าทำขนาดนี้เชียวหรือ” อัครเดชรู้สึกโมโหจนอยากฆ่าคน ร่วมมือกับพรรคมาร ควบคุมศพบรรพบุรุษ พวกมันสมควรตายอย่างแท้จริง

“เจ้าทำได้ดีมาก กลับไปพักสักหน่อยเถอะ ข้ารู้ว่าการตามสืบเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เดี๋ยวข้าจะไปคุยกับตาของเจ้าสักหน่อย” อัครเดชวางมือบนไหล่ของนพเก้า จากนั้นก็เดินทางไปที่ตำหนักบรรพบุรุษ

นพเก้าก็ไม่คิดอะไรมาก เขาเชื่อว่าเมื่อมีพ่อกับปู่ของเขาร่วมมือกัน ทุกอย่างจะคลี่คลาย แต่ก่อนที่เขาจะออกจากห้องทำงาน เขาได้รับข้อความบางอย่างจากสมาร์ตโฟนอย่างไม่คาดคิด