อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!
แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัดอะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!
สนใจดูนิยายเสียง + Animation + Soundtrack + SFX ดูได้ 2 ช่องทาง:
YouTube: YAKSAHBANPHAKHAN STUDIO
Fanpage Facebook: ยักษาบรรพกาล สตูดิโอ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พล็อตเรื่อง การต่อสู้เพื่อให้ไปสู่จุดสุงสุด ไม่ นั่นมันแค่ทางผ่าน แล้วการแสวงหาความเข้าใจในมนุษย์ล่ะ นั่นก็เป็นสิ่งที่ระบบตัวติดหนึบมันวางไว้ให้เขาเช่นกัน ส่วนความจริงนั้นเป็นอะไรรึ ฮ่าฮ่า เรื่องพวกนั้นเจ้าคงต้องดูชีวประวัติของข้าจากปกรณัมเอากระมัง
นพเก้า หรืออีกชื่อที่ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญหาย 1 ใน 3 ตัวตนแห่งหายนะ “มหาบาป จูเรน” จอมทรราชผู้กบฏสวรรค์ สิ่งมีชีวิต 2 ใน 10 ส่วน หรือหลายพันล้านชีวิตจากสวรรค์ชั้นที่ 1 ล้วนตกตายด้วยน้ำมือของเขา ไม่เพียงเท่านั้น การฝ่าฝืนกฏเกณฑ์แห่งสวรรค์ สังหารลูกหลานเหล่าทวยเทพ นั่นจึงทำให้เขาถูกตามล่าโดยเต๋าสวรรค์ 1 ใน 4 ผู้พิทักษ์สวรรค์ชั้นที่ 1 “ท้าวเวสสุวรรณ” แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขาแต่อย่างใด ด้วยเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์จากพันธะสัญญาแห่งความแค้น ทำให้เขาปลุก 4 ใน 7 บัญญัติจากบรรพกาล เหล่าร่างสถิตยักษาผู้สร้างกลียุคในยุคสมัยต่างๆ ถึง 4 ตน ด้วยบัญญัติ 4 ประการ ทำให้เขาพิชิตใต้หล้าไปถึง 1 ใน 18 ของทวีปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการโดนกลืนกินจิตใจเช่นกัน
แต่แล้วก็ถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต ถูกคนที่ไว้ใจทรยศหักหลัง ไม่อาจปกป้องศิษย์ผู้เป็นที่รักได้ พระเจ้าจึงมอบโอกาศให้ย้อนเวลาไปแก้แค้น นพเก้าครุ่นคิด นั่นเป็นพล็อตเกิดใหม่ตามปกติใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ดี
แต่แล้วทำไมกัน! ทำไมถึงมีแต่โลกมนุษย์ที่ย้อนเวลากลับมา บางคนที่ตายไปแล้วก็หวนคืนกลับมาพร้อมความทรงจำเดิม แม้แต่โชคชะตาบางคนก็เปลี่ยนไป บุตรแห่งสวรรค์ที่แต่ละยุคสมัยจะถือกำเนิดขึ้นในบางครั้งกลับผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด พระเจ้าช่างเล่นตลก แต่เดี๋ยวก่อน ข้าเองก็มีระบบเช่นกัน แล้วก็เป็นความผิดของมันด้วย
[ติ๊ง โฮสต์โปรดอย่าลืมภารกิจหลัก หากเจ้าทำไม่ได้ข้าก็มีสิทธิ์เลือกคนใหม่เช่นกัน]
ช้าก่อน! เฮ้อ นพเก้ารู้สึกว่าชีวิตเขารันทดเป็นอย่างมาก ต่อให้มีทรัพยากรสนับสนุนมากแค่ไหนก็ตามที เดิมทีการตามหาบุตรแห่งสวรรค์ในโลกมนาย์ก็ยากเต็มที แต่ด้วยความสามารถของหน้าจอ (ระบบ) เวรนี่ ทำให้เขาต้องข้ามเวลาไปแต่ละบรรพกาลด้วยซ้ำ เจ้าคิดว่ามันน่าตลกหรือไม่ที่ข้าต้องเดินทางไปทวีปแห่งดาบและเวทย์มนตร์เพื่อไปเชิญผู้ใช้มานามาฝึกพลังปราณฟ้าดิน นั่นยังไม่รวมไปถึงจิตวิญญาณ ออร่า ฟรอซ และผู้ใช้อนิกม่าที่กำเนิดมาก่อนหมดยุคสมัย จนทำให้ถูกทุกขุมกำลังตามล่าเพราะทำให้กลียุควันสิ้นโลกเกิดขึ้นมาก่อนกำหนด
[ติ๊ง ประตูกาลเวลาพร้อมแล้ว โปรดเตรียมตัวเข้าสู่บรรพกาลที่ 2]
อะไร! นพเก้านิ่งงัน ครั้งนี้เขาคงไม่ต้องไปแย่งชิงตัวเหล่าผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญเพื่อไปปราบจอมมารอีกครั้งใช่หรือไม่
หรือไปโผล่ที่อโยธยาด้วยร่างกายสามัญแล้วต้องกลายเป็นกระสอบทรายให้นักมวยทุบตี
หรือกระทั่งไปสิงห์ร่างนักโทษแหกคุกแล้วกลายเป็นโจรสลัดถึง 2 ทศวรรษ และจบลงด้วยการเป็นแกนนำปฏิวัติทำลายระบอบการปกครองกษัตริย์ของทวีปยุโรปยุคกลางได้สำเร็จ
เฮ้อ ชีวิตล้วนไม่อาจคาดเดา เขามีแต่ต้องพยายามต่อไปเพื่อไขความลับของจักรวาลก่อนที่พวกมันจะซ้อนทับกัน และแน่นอน เขาสาบานว่าจะต้องไปตบหัวล้านของเจ้า “นนทก” บัดซบนั่นให้ได้ นอกจากเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์มันจะใช้งานสะดวกแล้ว ยังต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล ย้อนเวลาไปแก้ปมในจิตใจของจิตวิญญาณยักษาผู้เป็นตัวแทนของบาป 7 ประการ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในอดีตพวกมันก่อกรรมอะไรไว้บ้าง
[ติ๊ง โฮสต์โปรดอย่าท้อแท้ ในฐานะจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ มันคงไม่มีใครเลวร้ายไปกว่าเจ้า]
...
บัดซบ! นพเก้าเมินระบบแล้วก้าวเดินต่อไป
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ระดับพลัง
ดินแดนมนุษย์ (มี 7 ขอบเขตใหญ่)
1.หลอมศิลา ขั้นที่ 1-9
2.ขัดเกลาศิลา
3.จิตรู้แจ้ง
4.ก่อลักษณ์
5.ราชันยุทธ์
6.จักรพรรดิยุทธ์
7.จ้าวสวรรค์
ดินแดนเซียน สวรรค์ชั้นที่ 1 (ยังไม่เปิดเผย)
1.เทพศักดิ์สิทธิ์
2.???
ช่องนิยายเสียง + อนิเมชั่น + Soundtrack + SFX https://youtu.be/_lBZqy1i5ic
สำหรับฉินโหย่วเอ๋อการถูกตามตื๊อโดยนายน้อยเสเพลผู้นี้ทำให้นางรู้สึกเบื่อหน่ายในทุกวัน นางให้ความสำคัญกับพลังยุทธ์เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยความหนักแน่นและพรสวรรค์ของนางบวกกับเป็นลูกของรองผู้นำตระกูล ทำให้นางสามารถไปได้ไกลกว่าคนอื่นในรุ่นเดียวกัน
ตอนนี้นางเป็นผู้มีพรสวรรค์อันดับหนึ่งในตระกูลฉินและถูกจัดอันดับเป็นลำดับที่ 10 ในบรรดาหญิงงามล่มเมือง ทำให้บรรดานายน้อยตระกูลต่างๆ มาสู่ขอนางอย่างไม่หยุดหย่อน
สาเหตุที่นางเลือกผู้ชายคนนี้เพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายใช้งานเป็นไม้กันหมาได้ดี หากมีผู้ชายคนอื่นตามจีบนาง นพเก้าจะไล่กัดอย่างเอาเป็นเอาตายทันที
เดิมทีนางคิดว่าจะรอให้มีฐานฝึกปรือถึงขอบเขตจิตรู้แจ้งก่อนจึงค่อยถอนหมั้น ในความเป็นจริงนางมีคนในใจอยู่แล้ว บุรุษผู้นั้นคือชายผู้มากพรสวรรค์อันดับหนึ่งในเมืองเวสสุวรรณ อีกฝ่ายเป็นเพียงสามัญชนเท่านั้น แต่สามารถต่อกรกับผู้มีอิทธิพลทุกคนได้โดยไม่แสดงความเกรงกลัวใดๆ เมื่อนางเริ่มรู้จักบุคคลผู้นี้เมื่อสี่ปีก่อน
นางประหลาดใจในทัศนคติที่ถือดีของเขา จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปความสัมพันธ์เริ่มผลิบาน นางตกหลุมรักบุคคลผู้นี้โดยไม่รู้ตัว รวมถึงรูปร่างหน้าตาที่เหมือนผู้หญิงเล็กน้อยด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อนางได้ยินข่าวลือว่านพเก้าได้เข้าถึงขั้นจักรพรรดิยุทธ์แล้ว นางรู้สึกเหมือนสิ่งที่นางกำลังทำมาทั้งหมดนั้นสูญเปล่า ด้วยพรสวรรค์และทรัพยากรที่นางได้รับ นางคาดว่าต้องใช้เวลาอีก 30 ปีถึงบรรลุความก้าวหน้าในระดับจักรพรรดิยุทธ์ได้ หากเป็นเรื่องฝึกปรือนางสามารถอดทนได้ แต่การแต่งงานเมื่อนางอายุ 20 ปี ไม่สามารถชะลอออกไปได้
“คุณหนูฉินมีอะไรก็พูดมาเถอะ”
บอกตามตรงบรรยากาศต่างฝ่ายต่างเงียบงันทำให้นพเก้ารู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก เพราะนี่ไม่ใช่เกมแข่งจ้องตากัน
“พี่- คุณชายนพเก้า ข้ามาที่นี่เพื่อถอนการหมั้นหมาย”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่เรียกนางเหมือนอย่างเคยนางก็สะดุดคำพูดเล็กน้อย ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเห็นนางมาอย่างไม่เป็นมิตรจึงอาจเตรียมแผนการบางอย่าง อย่างไรก็ตามนางไม่สนใจ ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องถอนหมั้นให้ได้ นางไม่สามารถทำให้คนรักของนางผิดหวังได้
“เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย ได้สิเอาเลย”
เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นในชีวิตที่แล้วของเขา คงจะดีถ้าทำให้มันจบลงโดยเร็ว
“คุณชาย นี่ข้ากำลังจริงจังนะ”
ฉินโหย่วเอ๋อเริ่มรู้สึกหงุดหงิด เหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับเรื่องนี้จึงพูดจาอย่างประชดประชัน
“อะไรอีกล่ะ?”
นพเก้ารู้สึกงุนงง เจ้าได้สิ่งที่ต้องการไปแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงต้องรบกวนเวลาฝึกฝนของข้าด้วย นพเก้ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ข้ายอมรับว่าครั้งนี้ข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ได้บอกคนในตระกูล หากท่านต้องการใช้กำลังกดขี่ข่มเหง วันนี้ข้าจะขอสู้ตายกับท่าน”
ฉินโหย่วเอ๋อรูปด้ามดาบที่อยู่ด้านขวามือ การมาของนางในครั้งนี้นางไม่ได้บอกพ่อของนาง ไม่เช่นนั้นนางจะถูกต่อว่าและลงโทษให้กักบริเวณเป็นเวลาหนึ่งปี
เมื่อพ่อของนางทราบว่านพเก้าบรรลุขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ เขาได้หารือกับคนในตระกูลเพื่อขอคำแนะนำจัดงานแต่งงานให้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังใช้อำนาจว่าที่พ่อตาของจักรพรรดิยุทธ์รุ่นเยาว์ในด้านของการแข่งขันธุรกิจจนทำกำไรได้อย่างมหาศาลให้กับตระกูล สถานะของเขายกระดับขึ้นจนผู้นำตระกูลรู้สึกสั่นคลอน หากพ่อของนางรู้เรื่องการถอนหมั้น นางไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับพ่อของนางอย่างไร แต่ถึงอย่างไรนางก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อนางกลับไปนางจะยอมรับโทษแต่โดยดีต่อให้ถูกทำให้พิการเพื่อให้อยู่กับคนรักได้นางก็ยอม
“แล้วมันทำไมล่ะ? หากต้องการถอนหมั้นก็ส่งสัญญามาเสีย ข้าจะลงนามเดี๋ยวนี้”
นพเก้าไม่เข้าใจการกระทำของผู้หญิงคนนี้ แต่เขาไม่อยากใส่ใจมากนัก เป็นเรื่องปกติในวัยรุ่นที่มักจะมีอารมณ์แปรปรวณ
ฉินโหย่วเอ๋อรู้สึกมึนงง จากนั้นก็ส่งสัญญาให้นพเก้า ขณะที่กำลังดูอีกฝ่ายลงนามในสัญญานางรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ทำไมพฤติกรรมถึงแตกต่างออกไป หรือเพราะบรรลุขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์หรือไม่ จึงหมดอารมณ์รักในมนุษย์ แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้เช่นกัน
“เมื่อหมดธุระแล้วก็เชิญ ข้าไม่ไปส่งนะ”
นพเก้าพูดขึ้นแล้วเดินจากไป เขาทิ้งให้อีกฝ่ายนั่งนิ่งอยู่กับที่
หลังจากนพเก้ากลับมาถึงห้องเขาสั่งระบบ
“ระบบ เปิดให้ข้าดูอีกครั้ง”
ทันใดนั้นข้อมูลสถานะของผู้หญิงก่อนหน้าที่ถูกบันทึกไว้ก็ปรากฏขึ้น
[ค่าสถานะของฉินโหย่วเอ๋อ]
อายุ: 18 (อายุขัย 226 ปี)
เขตแดน: ขัดเกลาศิลาขั้นที่ 8 ขั้นสูงสุด (ค่าพลังปราณ: 4,507 เมตร)
ทักษะการต่อสู้: กระบี่เพลิงนรก (วิชาสวรรค์ขั้นกลาง) , ฝ่ามือมังกรมรกต (วิชาสวรรค์ขั้นต้น) , ก้าวอเวจีสพัด (วิชาสวรรค์ขั้นกลาง) , หมัดบูรพา (วิชาปฐพีขั้นกลาง)
เคล็ดวิชา: กลืนกินขุมนรก (วิชาสวรรค์ขั้นสูงสุด)
พรสวรรค์: กลืนกินจิตมาร
พลังเทพ: 0
โชคชะตา: ผู้มีค่าศักยภาพสูง
สูงมาก!
นพเก้ารู้สึกสะเทือนใจ สมกับเป็นอัจฉริยะอันดับสองในเมืองเวษสุวรรณ ค่าแสตทสูงมาก หากเป็นเกมคงเรียกได้ว่าผู้เล่นระดับสูงที่มีอุปกรณ์ครบครันสามารถโซโล่เพลเยอร์ได้
“ระบบ ผู้มีค่าศักยภาพสูงนี่ควรเป็นบุตรแห่งโชคชะตาหรือไม่?”
[บุตรแห่งโชคชะตาก็คือบุตรแห่งโชคชะตา สำหรับผู้มีค่าศักยภาพสูงในอนาคตความสามารถล้วนมีขีดจำกัด]
นพเก้าไม่ได้คิดอะไรมาก ตัวตนอย่างบุตรแห่งโชคชะตาจะหาเจอได้ง่ายได้อย่างไร เขาปิดหน้าจอระบบแล้วเริ่มเชื่อมต่อการมองเห็นกับยักษ์แดงเดือด
ภายในป่ามรณะตอนใต้เมื่อเวลากลางคืนมาถึง สัตว์หากินกลางคืนจะส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาทั่วผืนป่า
อ๊าก!!
อีวานเจอรีนนางรู้สึกหวาดกลัวจนกรีดร้องออกมา นางอดที่จะเอามือกุมแขนชายหนุ่มด้านหน้าไม่ได้
“ชู่ว อย่าส่งเสียงดัง เจ้าไม่อยากออกจากป่านี้แล้วหรือ?”
กิตติศักดิ์รู้สึกสะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่ได้สะบัดแขนปล่อยนาง ทำไงได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้การมีแตงโมมาสัมผัสมันช่างทำให้รู้สึกอบอุ่น อะแฮ่ม เขาหมายถึงควรใกล้ชิดกันมากขึ้นในเวลากลางคืนเพื่อระวังอันตราย
เป็นเวลาสองวันแล้วที่พวกเขาไม่สามารถออกจากป่าเขตนอกนี้ได้ เนื่องจากฝูงสัตว์ร้ายปรากฏตัวออกมาจำนวนมากอย่างผิดธรรมชาติ อาจเป็นไปได้ที่เกิดจากเสียงราชันย์สัตว์อสูรเมื่อวานตอนเย็น ส่งผลให้สัตว์อสูรหวาดกลัวจนถึงขั้นย้ายถิ่นฐานรุกคืบออกมาภายนอกป่ามรณะ
“รีบไปหลบหลังต้นไม้ตรงนั้นเร็วเข้า!”
ขณะที่กิตติศักดิ์กำลังถือคบเพลิงเดินไปในป่าเขาเห็นแสงสีแดงเลือด 20 กว่าดวงกำลังร่องลอยไปมา
“มันคือผีกระสือใช่หรือไม่?”
อีวานเจอรีนพูดขึ้น
“เงียบซะ เจ้าคิดว่านี่ยังน่ากลัวไม่พอหรือ”
กิตติศักดิ์หลบหลังต้นไม้มองดูอย่างไม่กะพริบตา หากมีอะไรเกิดขึ้นเขาจะต้องป้องกันให้เพื่อนสาวของเขาหนีออกไปให้ได้
แสงสีแดงหยุดลงชั่วขณะ ก่อนที่จะลอยเข้าไปทางหน้าปากถ้ำของก็อบลิน จากนั้นแสงสีแดงนำหน้าดวงใหญ่ก็หายไป และกะพริบอีกครั้งตรงหน้าทั้งสองคน
ว๊ากก!!
อีวานเจอรีนกอดรัดกิตติศักดิ์ด้วยความตกใจ จากนั้นนางน้ำลายฟูมปากแล้วสลบไสลไป
“พวกเจ้าเป็นบ้าอะไรกัน?”
ยักษ์แดงเดือดไม่เข้าใจ
“ผ- ผี!!”
กิตติศักดิ์รวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก ตอนนี้เขาตกใจกลัวและรู้สึกแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก
“ไหนผี ข้าไม่เห็นว่าจะมีอะไร พวกเจ้าอยู่ในป่าจนประสาทหลอนไปแล้วหรือไม่?”
ยักษ์แดงเดือดรู้สึกเหมือนมันจะโชคร้าย เจอกลุ่มคนเสียสติจากการที่อยู่ในป่านานจนเกินไป
“ผู้อาวุโสพวกเราสองคนเพียงต้องการฝึกฝนในป่ารอบนอกเท่านั้น และด้วยความผิดปกติของพฤติกรรมสัตว์ป่าย้ายถิ่นฐาน ทำให้พวกเรายังหาทางออกไม่ได้”
กิตติศักดิ์รวบรวมความกล้าแล้วพูดกับอีกฝ่าย ดูเหมือนสัตว์อสูรตนนี้จะมีสติปัญญาและสื่อสารกับมนุษย์ได้ มันควรจะเป็นจักรพรรดิอสูร ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกมากนัก
“สรุปก็คือพวกเจ้าเป็นคนหลงป่าจริงๆ”
ยักษ์แดงเดือดตีความเป็นเช่นนี้
“ใช่ๆ ตามนั้นเลยผู้อาวุโส”
กิตติศักดิ์รู้สึกใจเต้นถึงตาตุ่มเมื่ออีกฝ่ายจ้องมองมาที่เขา เขาจะถูกกินหรือไม่ โดยทั่วไปสัตว์อสูรร้ายมันจะชอบกินเนื้อมนุษย์มากที่สุด
“เอาล่ะ เห็นแก่ที่ข้าเป็นยักษ์ใจดี ข้าจะปล่อยเจ้าไปสักครั้ง ไสหัวไปทางนั้นเสีย”
เดิมทียักษ์แดงเดือดไม่อยากสนใจมดปลวกพวกนี้นัก แต่ติดตรงที่นายท่านของมันกำลังดูการเคลื่อนไหวทุกอย่างอยู่ในขณะนี้
“อะแฮ่ม ข้าหมายถึงให้พวกเจ้าไปทางนั้น ข้าจะเปิดทางให้”
มันรีบเปลี่ยนคำพูดเมื่อรู้สึกว่านายท่านของมันเริ่มหงุดหงิด
“เจ้าช้างน้อย เจ้าลิงน้อยมาหาข้าตรงนี้”
สิ้นเสียงของยักษ์แดงเดือด มีลูกบอลสีดำสองลูกพุ่งลงมาจากฟากฟ้าจนฝุ่นฟุ้งกระจาย ปรากฏช้างสูงสามเมตร ที่มีเขี้ยวสี่คู่ และอีกตัวที่พุ่งลงมาด้วยท่าฮีโร่ซูเปอร์แลนดิ้ง มันคือคิงคองยักษ์สูงห้าเมตร พวกมันเป็นสัตว์อสูรขอบเขตราชันย์ที่อยู่ลึกเข้าไปด้านใน อย่างไรก็ตามลักษณะของพวกมันค่อนข้างผิดธรรมชาติ พวกมันอยู่ในรูปของออร่าโลหิตกึ่งโปร่งแสงสีแดง ดวงตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือด แผ่ซ่านปราณคุกคามตลอดเวลา
ด้วยวิถีที่หนึ่งของเพลิงแห่งความละโมบ หลังจากสังหารสัตว์อสูรยักษ์แดงเดือดได้ใช้อิทธิฤทธิ์ของมันสร้างนักรบโลหิตขึ้นมา โดยความแข็งแกร่งจากร่างเดิมจะลดลงเหลือเพียงห้าส่วนสิบเท่านั้น เนื่องจากพลังปราณ จิตวิญญาณ สารกายเนื้อต่างๆ ส่วนหนึ่งถูกนำไปหล่อเลี้ยงฟื้นฟูพลังของยักษ์แดงเดือด หลังจากผ่านไปหนึ่งวันมันเข่นฆ่าทุกสรรพสิ่งในรัศมี 50 กิโลเมตร มีสัตว์อสูรมากกว่าหมื่นตัวที่ตกตายด้วยน้ำมือของมันและเปลี่ยนซากศพให้กลายเป็นนักรบโลหิต ไม่เพียงแต่จะได้กำลังรบเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล มันยังรวมไปถึงความทรงจำบางส่วนของพวกมันด้วย หลังจากย่อยส่วนสำคัญในเศษเสี้ยวความทรงจำ ทำให้ยักษ์แดงเดือดรู้ถึงตำแหน่งสมบัติสวรรค์และสมุนไพรต่างๆ นับเป็นผลพลอยได้อย่างมหาศาล
“นี่มันราชันช้างอรุณไม่ใช่รึ?”
กิตติศักดิ์รู้สึกกลัวจากแรงกดดันของราชัน เขาไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป เขาล้มลงโดยไม่มีเรี่ยวแรงลุกขึ้นยืน เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายคือราชันย์ช้างรุ่งอรุณกับราชันย์คิงคองกำปนาท แต่ถูกเปลี่ยนเป็นสิ่งอัญเชิญบางอย่างโดยจักรพรรดิอสูร ไม่สิ ต้องบอกว่าผู้อาวุโสลึกลับท่านนี้
“พวกเจ้าสองตัวไปส่งมนุษย์ผู้นี้ที่ขอบนอกของป่า หลังเสร็จแล้วให้กลับมาหาข้า เราจะฟาร์มไอเทมกันต่อ”
ยักษ์แดงเดือดพูดขึ้นโดยมีอิทธิพลของเด็กติดเกมเล็กน้อย หลังจากมันฟื้นขึ้นมามันได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมเดิมเมื่อนายของมันอยู่ในช่วงวัยเยาว์ หลังจากสัมผัสประสบการณ์ได้ไม่เกินหนึ่งชั่วยาม มันรู้สึกติดใจอย่างมาก หลังจากมันทำภารกิจสำเร็จมันจะขอลาหยุดสักสองสามวันเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมที่เรียกว่าเกม MMORPG เพิ่มเติม
สิ้นเสียงของยักษ์แดงเดือด “เจ้าช้างน้อย” กับ “ลิงน้อย” ที่เป็นชื่อเล่นของมันก็นำทั้งสองคนขึ้นหลังแล้วเดินจากไปที่เขตปลอดภัย
“เบอร์หนึ่งรายงานสินสงครามที่เก็บได้มาหน่อย”
ยักษ์แดงเดือดสั่งนักรบโลหิตที่สวมแว่นตาและมือขวาถือเอกสารจดบันทึกในบรรดาพวกมัน เจ้านี่ถือว่ามีความแข็งแกร่งและสติปัญญามากที่สุดมันจึงเลือกให้เป็นเลขานุการส่วนตัว ยักษ์แดงเดือดขี้เกียจตั้งชื่อให้พวกมันทั้ง 20 ตัว หลังจากที่นพเก้าอัญเชิญพวกมันออกมาเมื่อหนึ่งวันก่อน ตัวของพวกมันพัฒนาจนมีขนาดและรูปร่างเหมือนกับมนุษย์มากขึ้น มีทั้งเป็นผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก คนชราตามแล้วแต่ความปรารถนาพื้นฐานของพวกมันแต่ละตัว เนื่องจากทุกตัวของนักรบโลหิตถูกสร้างโดยใช้แก่นแท้เลือดของนพเก้าพวกมันจึงได้รับเศษเสี้ยวจิตวิญญาณไปในตัว
หลังจากพวกมันเข่นฆ่าและซึมซับพลังของสัตว์อสูรมาหนึ่งวัน พวกมันส่วนใหญ่ทะลวงสู่ขอบเขตที่สาม ขอบเขตจิตรู้แจ้ง ซึ่งขอบเขตนี้ทำให้วิชาศักดิ์สิทธิ์ระดับสวรรค์ขึ้นไปมีความคิดพื้นฐานเป็นของตนเอง แต่ด้วยการที่ต้นกำเนิดของพวกมันมาจากผู้สร้าง พวกมันจะไม่สามารถทรยศผู้ให้กำเนิดหรือเจ้าของเคล็ดวิชาได้ ยิ่งเป็นสิ่งที่ถูกสร้างด้วยเลือดเนื้อในร่างกายแล้วมันจะไม่มีวันทรยศ
“เรียนนายท่าน”
เบอร์หนึ่งพูดขึ้น
“อย่าเรียกข้าว่านายท่าน ให้เรียกข้าว่าบอส”
ยักษ์แดงเดือดโบกมือขวา มันรู้สึกอยากดูเป็นบอสมาเฟีย
“ก็ได้ บอส”
เบอร์หนึ่งกัดฟันกรอด หากอีกฝ่ายไม่ใช่บรรพชนของมัน มันอยากจะสู้กับอีกฝ่ายสามร้อยยก หนึ่งวันที่ผ่านมามันถูกรับเลือกให้เป็นฝ่ายสนับสนุนรวบรวมสมบัติสวรรค์ต่างๆ และจัดเรียงแยกประเภท มันรู้สึกอยากจะบ้าตาย มันยังไม่เคยฝึกงานด้วยซ้ำแล้วต้องมาทำตำแหน่งบัดซบเช่นนี้ มันรู้สึกว่าบรรพชนของมันทำตัวอย่างกับพ่อค้าทาสที่จะใช้ประโยชน์จนกว่าชีวิตของมันจะหาไม่
“ตลอด 14 ชั่วโมงที่ผ่านมาเรารวบรวมสมุนไพรระดับปฐพีได้ 7401 ชิ้น ระดับสวรรค์ 1605 ชิ้น และระดับเซียนขั้นต้น 7 ชิ้น นอกจากนี้สินแร่ต่างๆ ก็รวบรวมได้ 146 ชนิด ตอนนี้เรากำลังใช้แรงงานจากพวกสัตว์ร้ายในการสร้างคลังสมบัติขนาดใหญ่คาดว่าจะเสร็จในวันมะรืน”
เบอร์หนึ่งกระดิกแว่นขึ้นมาหลังจากรายงานด้วยคำพูดรวดเดียว
“หินมิติตอนนี้ได้มาเท่าไหร่แล้ว?”
ยักษ์แดงเดือดเริ่มไม่อยากทำภารกิจอีกต่อไป
“ทางเรารวบรวมได้ 107 ชิ้น คิดเป็น 38 กิโลกรัม”
ครั้งนี้มันรู้สึกหนักใจเมื่อรายงาน ตามคำสั่งของนายท่านของมันต้องหาให้ได้อย่างน้อย 1 ตัน เพื่อสร้างประตูมิติขนาดใหญ่ มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในหนึ่งเดือนจะหามาได้ครบหรือไม่
“ช้าเกินไปแล้ว รวบรวมให้เสร็จภายในพรุ่งนี้”
ยักษ์แดงเดือดโวยวาย
...
เบอร์หนึ่งไม่อยากจะคุยกับคนบ้าอีกต่อไป มันก้มหัวรับคำสั่งและรีบเดินจากไปแจกแจงรายงานวัสดุกับทีมงานต่อ
“เดี๋ยว!! ช้าก่อน”
ก่อนที่เบอร์หนึ่งจะเดินไปได้สิบก้าว มันหันกลับมา มันกำหมัด เจ้าคนเอาแต่ใจผู้นี้จะเอาอะไรอีก
“เจ้าเป็นเลขาไม่ใช่รึ? ทำไมเจ้าถึงไม่เป็นผู้หญิงซะล่ะ”
ในความคิดของยักษ์แดงเดือด ตำแหน่งเลขาในโลกนี้ต้องเป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่เท่านั้น
“ไอ้บ้า!!”
เบอร์หนึ่งทนไม่ไหวอีกต่อไป มันเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังดูแคลนมันด้วยคำพูด
เพียะ!!
ยักษ์แดงเดือดตบมันจนไปชนทะลุติดกับผนังถ้ำ มันร่วงลงมากลายเป็นหยดเลือดเหมือนกับก้อนสไลม์
“เมื้อกี้เจ้าพูดว่าใครบ้าฟะ ข้าจะลงโทษเจ้าให้เป็นผู้หญิงตลอดไป”
สิ้นเสียงยักษ์แดงเดือดก็โคจรพลังเป็นลำแสงทรงกลมขนาดเท่าเล็บมือแล้วพุ่งออกไปเข้ากระทบกับก้อนสไลด์เลือด หลังจากนั้นก้อนสไลด์ก็เปลี่ยนเป็นหญิงสาวสุดเซ็กส์ซี่
“เอาล่ะ กลับไปทำงาน เมื่อข้าอารมณ์ดีเมื่อไหร่ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเปลี่ยนกลับไปตามใจชอบ”
ยักษ์แดงเดือดลอยออกไปตรงหน้าถ้ำก็อบลิน
เบอร์หนึ่งรู้สึกงงงวยมันอยากร้องไห้ออกมาแต่ไม่มีน้ำตา เหตุใดมันถึงต้องเป็นผู้เคราะห์ร้ายตลอด สหายโลหิตของมันที่เห็นภาพนี้ก็รู้สึกเห็นใจ แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา ต่างคนต่างก้มหน้ากลับไปทำงาน
“กี้! กี้ย่า!!”
เกิดเสียงก็อบลินร้องออกมาจากถ้ำ ในคืนนั้นป่าเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องแห่งความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง
ในห้องนอนของนพเก้าหลังเขาเลิกใช้จิตสัมผัสเชื่อมต่อกับยักษ์แดงเดือด เขานอนลงบนเตียงด้วยสีหน้าครุ่นคิด ด้วยวิถีที่หนึ่งของเพลิงแห่งความละโมบ เขาจึงไม่จำเป็นต้องฝึกฝนด้วยตนเอง ตอนนี้เขาเป็นเหมือนนางพญาผึ้งที่มีโครงสร้างโครงข่ายมากมาย เพียงซึมซับพลังจากนักรบโลหิตกว่าหมื่นตัว รัศมีพลังในศิลาของเขามีมากกว่าห้าหมื่นเมตรแล้ว เทียบเท่าได้กับขอบเขตราชันย์ยุทธ์ขั้นกลาง
สำหรับเขาตอนนี้ก็ค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเขามีพลังอำนาจสูงสุดซึ่งเป็นขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงสุดในตันเถียนดั้งเดิมของชาติที่แล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตันเถียนหลักของเขามีพลังถึงระดับเดียวกัน เขาคิดจะใช้พลังระดับจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงสุดมาหลอมรวม รากฐานเก่าของเขาอ่อนแอเกินไป ไม่สามารถฝ่าทะลวงขอบเขตจ้าวสวรรค์ได้จึงวางแผนจะถ่ายโอนเป็นพลังเสริมไปยังตันเถียนใหม่
เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาคิดจะเป็นไปได้หรือไม่ เขาพยายามจะสร้างมิติที่อยู่อาศัยในจักรวาลตันเถียนของเขา โดยให้สมุนโลหิตเหล่านั้นเข้ามาจากประตูมิติทางป่ามรณะทางตะวันตกขนย้ายทรัพยากรมาในตันเถียนของเขา ด้วยศาสตร์ลับโซ่ตรวนมรณะนิรันทร์ที่สามารถป้องกันทัณฑ์สวรรค์ได้แล้วมันยังสามารถป้องกันศิลาปราณระเบิดได้อีกด้วย ต้องบอกว่าสมกับเป็นศาสตร์มืดลึกลับอันดับหนึ่ง มันอาจจะเป็นสิ่งที่คนอื่นเคยทำมาก่อน เขาอาจไม่ใช่คนแรกแต่ก็ไม่ใช่คนสุดท้าย
“ได้เวลาแล้ว”
สายตาของนพเก้าเป็นประกาย เมื่อเขามองดูนาฬิกามันเป็นช่วงเวลาสองทุ่มแล้ว เขาลุกออกจากเตียงแล้วหายตัวไปทันที
ที่ตำหนักสาขารองของหวงไค่
โครม!!
เสียงของตกแต่งในห้องทำงานแตกหัก คนรับใช้ไม่กล้าส่งเสียงออกมา
“บัดซบ!! ระยำที่สุด”
หวงไค่เดือดดาลอย่างมากจนเขาพังข้าวของเป็นการระบายอารมณ์ เขาวางแผนกับอีกสามผู้นำสาขาเพื่อทำให้นพเก้าขายหน้า แต่สิ่งนี้กลับกลายเป็นการเพิ่มสถานะให้กับมันแทน
ใครจะไปคิดกันว่าอายุเพียงเท่านี้จะมีสายตาที่เฉียบคมของปรมาจารย์สามารถชี้จุดบกพร่องในวรยุทธ์ได้ ในห้องโถงใหญ่ในบางครั้งหลังจากให้ของขวัญตอบแทน นพเก้าได้ชี้ข้อบกพร่องให้กับผู้อาวุโสในตระกูลสิบกว่าคน ส่งผลให้ผู้สนับสนุนของเขาลดน้อยลง ไม่เพียงเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นใช้วิธีการใดถึงรู้ความลับของผู้อื่นอย่างกับเปลื้องผ้าอีกฝ่ายกลางที่สาธารณะ เขาไม่สามารถเข้าใจได้ โชคยังดีที่ในการประชุมครั้งนี้อีกฝ่ายไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย เขาไม่รู้ว่าเป็นการวางแผนของสองพ่อลูกนี่หรือไม่
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ เขาต้องรีบเร่งแผนการที่เตรียมเอาไว้ก่อนที่จะสายเกินไป
“พ่อบ้าน เรียกหลานข้าให้เข้ามาพบ”
หลังจากพ่อบ้านออกไปได้ห้านาที เขาก็ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับบุรุษหนุ่มหน้าตาดี
“คารวะท่านปู่”
หลังจากรักษาตัวด้วยการแช่น้ำสมุนไพรระดับสูง พลังของหวงอี้เฟยเริ่มกลับมาบ้างแล้วสามส่วนทำให้สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ
“อีกฝ่ายว่าอย่างไรบ้าง?”
หวงไค่สั่งให้พ่อบ้านออกไป จากนั้นก็นั่งตรงโต๊ะทำงาน เขาพูดเข้าประเด็นทันที
“หัวหน้าพรรคเหยี่ยวทมิฬ บอกว่าอาจใช้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์จึงปลุกศพของบรรพชนได้”
หวงอี้เฟยรู้สึกว่าปู่ของเขาผู้นี้อารมณ์ไม่ดีนัก ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
“ก็ดี หลังจากควบคุมผู้ฝึกปรือระดับจักรพรรดิได้แล้ว จะมีใครที่สามารถต่อกรกับเราในเมืองเวสสุวรรณได้อีก”
หากหวงไค่สามารถควบคุมศพของบรรพชนในสุสานตระกูลหวงได้ เขาจะใช้อำนาจในการควบคุมตระกูลหลักทันที
“ท่านปู่ ข้าไม่แน่ใจว่าเราควรทำข้อตกลงนี้หรือไม่?”
หวงอี้เฟยต่อให้เป็นศัตรูกับตระกูลหลัก เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่จะลงมือกระทำมันไร้มนุษยธรรมเกินไป
“เราจะต้องไปใส่ใจทำไม หากต้องทำการใหญ่ก็ต้องมีการเสียสละกันบ้าง”
หวงไค่หยิบชาร้อนขึ้นมาซดจนหมดแล้วกระแทกโต๊ะอย่างแรง เป็นที่รู้กันดีว่าพรรคเหยี่ยวทมิฬเป็นฝ่ายมาร เป็นเรื่องต้องห้ามในโลกมนุษย์ที่จะร่วมมือกับพรรคของอาชญากร หากถูกราชวงศ์จับได้จะถูกประหารเก้าชั่วโคตร
อย่างไรก็ตามหวงไค่ไม่มีทางเลือกมากนัก เขาไม่มีพลังอำนาจมากพอ และเสียผู้สนับสนุนส่วนใหญ่ไปแล้ว ราคาที่ต้องจ่ายจากการร่วมมือกับพรรคเหยี่ยวทมิฬคือชีวิตทั้งหมดของตระกูลหลัก เขาไม่รู้ว่าพรรคนี้จะเอาร่างคนไปทำอะไร แต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
หลังจากหารือแผนการกับหวงอี้เฟยเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม เขาสั่งให้หวงอี้เฟยกลับไป จากนั้นเขาก็ออกจากห้องทำงานไป
“หึ พวกเจ้าชั่วช้าสมควรตาย!”
นพเก้าที่แฝงตัวอยู่ในเงามืดเขาได้รู้เห็นแผนการทั้งหมด เดิมทีวันนี้เขาตั้งใจจะสังหารอีกฝ่ายให้สิ้นซาก แต่ดูเหมือนว่าเบื้องหลังจะมีพรรคเหยี่ยวทมิฬมาเกี่ยวข้อง เขาจำเป็นต้องตามสืบดูสาเหตุทั้งหมดที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมจนเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขา เขาจะกำจัดทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
หลังจากนั้นเขาเคลื่อนย้ายมาที่ห้องทำงานในตำหนักหลักของอัครเดชในเวลาไม่ถึงห้านาที
“นี่ก็สี่ทุ่มแล้ว ท่านพ่อยังไม่นอนหรือ”
นพเก้าเดินไปหาพ่อของเขาที่โต๊ะทำงาน ดูจะเป็นเอกสารเกี่ยวกับกำไรการค้าปัจจุบันต่างๆ
“เฮ้อ หากงานไม่เสร็จแม้ว่าข้าจะอยากหยุดก็หยุดไม่ได้”
อัครเดชพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
“เจ้ามีอะไรถึงมาหาข้าดึกดื่นเช่นนี้?”
นพเก้าเล่าถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่ปิดบัง
“อะไร! พวกมันกล้าทำขนาดนี้เชียวหรือ”
อัครเดชรู้สึกโมโหจนอยากฆ่าคน ร่วมมือกับพรรคมาร ควบคุมศพของบรรพบุรุษ พวกมันสมควรตายอย่างแท้จริง
“เจ้าทำได้ดีมาก กลับไปพักสักหน่อยเถอะ ข้ารู้ว่าการตามสืบเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เดี๋ยวข้าจะไปคุยกับตาของเจ้าสักหน่อย”
อัครเดชวางมือบนไหล่ของนพเก้า จากนั้นก็เดินทางไปที่ตำหนักบรรพบุรุษ
นพเก้าก็ไม่คิดอะไรมาก เขาเชื่อว่าเมื่อมีพ่อกับตาของเขาร่วมมือกัน เรื่องทุกอย่างจะคลี่คลาย แต่ก่อนที่เขาจะออกจากห้องทำงาน เขาก็ได้รับข้อความบางอย่างจากสมาร์ตโฟนอย่างไม่คาดคิด