อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!
แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัดอะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!
สนใจดูนิยายเสียง + Animation + Soundtrack + SFX ดูได้ 2 ช่องทาง:
YouTube: YAKSAHBANPHAKHAN STUDIO
Fanpage Facebook: ยักษาบรรพกาล สตูดิโอ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พล็อตเรื่อง การต่อสู้เพื่อให้ไปสู่จุดสุงสุด ไม่ นั่นมันแค่ทางผ่าน แล้วการแสวงหาความเข้าใจในมนุษย์ล่ะ นั่นก็เป็นสิ่งที่ระบบตัวติดหนึบมันวางไว้ให้เขาเช่นกัน ส่วนความจริงนั้นเป็นอะไรรึ ฮ่าฮ่า เรื่องพวกนั้นเจ้าคงต้องดูชีวประวัติของข้าจากปกรณัมเอากระมัง
นพเก้า หรืออีกชื่อที่ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญหาย 1 ใน 3 ตัวตนแห่งหายนะ “มหาบาป จูเรน” จอมทรราชผู้กบฏสวรรค์ สิ่งมีชีวิต 2 ใน 10 ส่วน หรือหลายพันล้านชีวิตจากสวรรค์ชั้นที่ 1 ล้วนตกตายด้วยน้ำมือของเขา ไม่เพียงเท่านั้น การฝ่าฝืนกฏเกณฑ์แห่งสวรรค์ สังหารลูกหลานเหล่าทวยเทพ นั่นจึงทำให้เขาถูกตามล่าโดยเต๋าสวรรค์ 1 ใน 4 ผู้พิทักษ์สวรรค์ชั้นที่ 1 “ท้าวเวสสุวรรณ” แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขาแต่อย่างใด ด้วยเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์จากพันธะสัญญาแห่งความแค้น ทำให้เขาปลุก 4 ใน 7 บัญญัติจากบรรพกาล เหล่าร่างสถิตยักษาผู้สร้างกลียุคในยุคสมัยต่างๆ ถึง 4 ตน ด้วยบัญญัติ 4 ประการ ทำให้เขาพิชิตใต้หล้าไปถึง 1 ใน 18 ของทวีปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการโดนกลืนกินจิตใจเช่นกัน
แต่แล้วก็ถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต ถูกคนที่ไว้ใจทรยศหักหลัง ไม่อาจปกป้องศิษย์ผู้เป็นที่รักได้ พระเจ้าจึงมอบโอกาศให้ย้อนเวลาไปแก้แค้น นพเก้าครุ่นคิด นั่นเป็นพล็อตเกิดใหม่ตามปกติใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ดี
แต่แล้วทำไมกัน! ทำไมถึงมีแต่โลกมนุษย์ที่ย้อนเวลากลับมา บางคนที่ตายไปแล้วก็หวนคืนกลับมาพร้อมความทรงจำเดิม แม้แต่โชคชะตาบางคนก็เปลี่ยนไป บุตรแห่งสวรรค์ที่แต่ละยุคสมัยจะถือกำเนิดขึ้นในบางครั้งกลับผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด พระเจ้าช่างเล่นตลก แต่เดี๋ยวก่อน ข้าเองก็มีระบบเช่นกัน แล้วก็เป็นความผิดของมันด้วย
[ติ๊ง โฮสต์โปรดอย่าลืมภารกิจหลัก หากเจ้าทำไม่ได้ข้าก็มีสิทธิ์เลือกคนใหม่เช่นกัน]
ช้าก่อน! เฮ้อ นพเก้ารู้สึกว่าชีวิตเขารันทดเป็นอย่างมาก ต่อให้มีทรัพยากรสนับสนุนมากแค่ไหนก็ตามที เดิมทีการตามหาบุตรแห่งสวรรค์ในโลกมนาย์ก็ยากเต็มที แต่ด้วยความสามารถของหน้าจอ (ระบบ) เวรนี่ ทำให้เขาต้องข้ามเวลาไปแต่ละบรรพกาลด้วยซ้ำ เจ้าคิดว่ามันน่าตลกหรือไม่ที่ข้าต้องเดินทางไปทวีปแห่งดาบและเวทย์มนตร์เพื่อไปเชิญผู้ใช้มานามาฝึกพลังปราณฟ้าดิน นั่นยังไม่รวมไปถึงจิตวิญญาณ ออร่า ฟรอซ และผู้ใช้อนิกม่าที่กำเนิดมาก่อนหมดยุคสมัย จนทำให้ถูกทุกขุมกำลังตามล่าเพราะทำให้กลียุควันสิ้นโลกเกิดขึ้นมาก่อนกำหนด
[ติ๊ง ประตูกาลเวลาพร้อมแล้ว โปรดเตรียมตัวเข้าสู่บรรพกาลที่ 2]
อะไร! นพเก้านิ่งงัน ครั้งนี้เขาคงไม่ต้องไปแย่งชิงตัวเหล่าผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญเพื่อไปปราบจอมมารอีกครั้งใช่หรือไม่
หรือไปโผล่ที่อโยธยาด้วยร่างกายสามัญแล้วต้องกลายเป็นกระสอบทรายให้นักมวยทุบตี
หรือกระทั่งไปสิงห์ร่างนักโทษแหกคุกแล้วกลายเป็นโจรสลัดถึง 2 ทศวรรษ และจบลงด้วยการเป็นแกนนำปฏิวัติทำลายระบอบการปกครองกษัตริย์ของทวีปยุโรปยุคกลางได้สำเร็จ
เฮ้อ ชีวิตล้วนไม่อาจคาดเดา เขามีแต่ต้องพยายามต่อไปเพื่อไขความลับของจักรวาลก่อนที่พวกมันจะซ้อนทับกัน และแน่นอน เขาสาบานว่าจะต้องไปตบหัวล้านของเจ้า “นนทก” บัดซบนั่นให้ได้ นอกจากเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์มันจะใช้งานสะดวกแล้ว ยังต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล ย้อนเวลาไปแก้ปมในจิตใจของจิตวิญญาณยักษาผู้เป็นตัวแทนของบาป 7 ประการ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในอดีตพวกมันก่อกรรมอะไรไว้บ้าง
[ติ๊ง โฮสต์โปรดอย่าท้อแท้ ในฐานะจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ มันคงไม่มีใครเลวร้ายไปกว่าเจ้า]
...
บัดซบ! นพเก้าเมินระบบแล้วก้าวเดินต่อไป
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ระดับพลัง
ดินแดนมนุษย์ (มี 7 ขอบเขตใหญ่)
1.หลอมศิลา ขั้นที่ 1-9
2.ขัดเกลาศิลา
3.จิตรู้แจ้ง
4.ก่อลักษณ์
5.ราชันยุทธ์
6.จักรพรรดิยุทธ์
7.จ้าวสวรรค์
ดินแดนเซียน สวรรค์ชั้นที่ 1 (ยังไม่เปิดเผย)
1.เทพศักดิ์สิทธิ์
2.???
ช่องนิยายเสียง + อนิเมชั่น + Soundtrack + SFX https://youtu.be/c3Q9fnX12nE
ขณะที่นพเก้ากำลังทำการรักษา อีกฟากหนึ่งของเมืองเวสสุวรรณ คุกตุลาการขององค์กรมหามนตรา ลึกเข้าไปมีชายผู้หนึ่งนั่งห้อยต่องแต่งจากโซ่ล็อกข้อมือทั้งสองข้างในกรงขังเดี่ยว พ่อมดทมิฬสามตาถูกทรมาณเพื่อเค้นข้อมูลมาตลอดครึ่งวัน
สภาพของเขาไม่เหลือเค้าโครงเดิมแม้แต่น้อย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ชุดนักโทษโชกเลือด และนิ้วทั้ง 20 ที่ไร้เล็บมือ เขาถูกทรมาณอย่างแสนสาหัส อย่างไรก็ตาม ต่อให้อีกฝ่ายใช้วิธีการใดเขาก็ไม่ยอมปริปาก วิชามนต์ดำต่างๆ เป็นสิ่งที่เขาหามาได้ด้วยการเสี่ยงชีวิตในดินแดนรกร้าง เมื่อไม่มีผู้สืบทอดที่เหมาะสม เขาก็อยากจะนำมันไปด้วยในปรภพ
“สภาพของเจ้าช่างน่าสมเพชยิ่งนัก”
เสียงแหบพร่าดังขึ้นที่ด้านซ้ายของผนังห้องขัง
“เจ้าเป็นใคร?”
พ่อมดทมิฬสามตาไม่รู้สึกตกใจแต่อย่างใด เป็นเรื่องปกติที่บุคคลชั่วร้ายต้องการเคล็ดวิชาของเขา วิชาการควบคุมจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่หาได้ยากที่สุดในดินแดนภาคกลาง ต่อให้หามาได้ ก็จำเป็นต้องเป็นผู้มีพรสวรรค์ด้านจิตวิญญาณแต่กำเนิดเท่านั้นถึงฝึกฝนได้สำเร็จ
“ไม่ได้เจอกันนาน เฒ่าเฉียว”
ปรากฏเท้าสีดำออกมาจากเงาของกำแพง จากนั้นมีชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีดำเดินออกมา
“หัวหน้าพรรคเหยี่ยวทมิฬ!”
เฒ่าเฉียวเบิกตากว้าง อีกฝ่ายไม่ใช่ใครอื่นใด นอกจากผู้หาตัวจับยากที่สุดในบรรดาฝ่ายมาร คนผู้นี้เชี่ยวชาญเรื่องรวบรวมข่าวสารมากที่สุดในเมืองเวสสุวรรณ แม้แต่นิกายฝ่ายธรรมะก็ต้องซื้อข้อมูลจากหอเหยี่ยวทมิฬของคนผู้นี้
“ข้ามีข้อเสนอให้เจ้าว่าอย่างไร?”
“ตอนนี้ข้ามีทางเลือกด้วยหรือ?”
เฒ่าเฉียวเย้ยหยัน
“ฮ่า ฮ่า นั่นก็จริง ข้าต้องการหนอนแมลงกู่ระดับจักรพรรดิ แลกกับการที่เจ้าเข้าร่วมพรรคของข้าเป็นอย่างไร?”
เหยี่ยวทมิฬพูดขึ้นพร้อมข้อเสนอด้วยท่าทีจริงใจ
“ผายลม เหตุใดเจ้าไม่เอาชีวิตข้าไปเลยล่ะ”
เฒ่าเฉียวรู้สึกเหมือนกำลังถูกกวนประสาท แมลงกู่ระดับจักรพรรดิถือว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของเขา ราคาแลกเปลี่ยนนี้เขารู้สึกขาดทุนเกินไป
“ช้าก่อน อย่าพึ่งปฏิเสธ เจ้าไม่อยากแก้แค้นตระกูลหวงหรือ?”
“เจ้ามีแผนการ?”
เฒ่าเฉียวมีแววตาวาวโลด ตอนนี้เขาไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าทำให้ตระกูลหวงถูกทำลาย และเล่นกับผู้หญิงทุกคนในตระกูลแล้วทำเป็นหุ่นเชิด
หัวหน้าพรรคเหยี่ยวทมิฬเล่าถึงแผนการยึดครองตระกูลหวงทั้งหมด
“สรุปคือเจ้าจะใช้หนอนแมลงกู่กับหวงไค่ผู้อาวุโสสาขาเพื่อควบคุมตระกูลหวงอีกที”
เฒ่าเฉียวรู้สึกงุนงง ทำไมอีกฝ่ายต้องเพ่งเล็งตระกูลหวง ตระกูลนี้ซ่อนความลับอันยิ่งใหญ่อะไรไว้หรือไม่
“เจ้าตกลงหรือไม่? หากเจ้าตกลงข้าจะบอกความลับของตระกูลหวงให้ บางทีมันอาจจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวให้เจ้าก้าวข้ามไปสู่ขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์”
จักรพรรดิยุทธ์!
แค่คำคำเดียวก็สามารถบอกได้ถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ ใครบ้างจะไม่ใฝ่ฝันเป็นจักรพรรดิ หากเฒ่าเฉียวผู้นี้สามารถไปถึงขั้นนั้นได้ เขาจะมีอายุยืนยาวอีก 500 ปีเป็นอย่างน้อย หรืออย่างมากคือ 2,000 ปี ร่างกายของเขาจะกลับสู่วัยเยาว์อีกครั้งแล้วเขาจะปึ๋งปั๋งขึ้นโดยไม่ต้องใช้สมุนไพรใดๆ
“เอาล่ะ เจ้าว่าอย่างไร?”
“ไม่มีอะไรต้องคิด ข้าตกลง”
เขาไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าทำลายตระกูลหวงให้สิ้นซาก และต้องการความลับของขอบเขตจักรพรรดิที่ซ่อนอยู่ นี่ยังไม่รวมถึงความช่วยเหลือด้านข่าวกรองของหอเหยี่ยวทมิฬ เขาสามารถได้รับข่าวลับต่างๆ อย่างรวดเร็ว โอกาสฉกชิงจากผู้อื่นได้สำเร็จก็จะมีมากขึ้น หากเขาตกลงนี่ถือว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว
“ก็ดี ข้าจะได้เล่าแผนการร่วมมือระยะยาวของพวกเรา”
หัวหน้าพรรคเหยี่ยวทมิฬโคจรพลังแล้วทำลายพันธนาการของอีกฝ่าย
“ตอนนี้ก็มากับข้า”
ขณะที่หัวหน้าพรรคเหยี่ยวทมิฬจะพาอีกฝ่ายออกไปจากช่องทางลับ เฒ่าเฉียวก็ยืนแข็งค้างกลางอากาศด้วยดวงตาเบิกโพลง
“ร-ระ”
“อะไร?”
หัวหน้าพรรคเหยี่ยวทมิฬไม่เข้าใจ เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาแล้วก้าวถอยหลังออกไปโดยไม่รู้ตัว
“ระเบิดเวลา อ๊าก”
สิ้นเสียงเฒ่าเฉียว จู่ๆ เขาก็เริ่มมีรอยแตกร้าวรอบตัว แล้วระเบิดกระจุยกระจายด้วยพลังปราณเป็นวงกว้าง
ตู้ม!!
เกิดเสียงดังขึ้นที่คุกใต้ดิน คุกขังเดี่ยวมากกว่า 10 ห้องบริเวณใกล้เคียงถูกทำลาย โชคดีที่ไม่มีนักโทษในคุก เนื่องจากนักโทษระดับ B ส่วนใหญ่จะถูกส่งไปเมืองหลวงหลังถูกรีดเค้นข้อมูลเป็นเวลา 1 เดือน
อั๊ก!!
“บัดซบ แฮก”
หัวหน้าพรรคเหยี่ยวทมิฬหลบหนีไม่ทัน เพียงได้แต่เอามือป้องกัน เขาลุกขึ้นมาขณะที่ด้านหลังกำแพงช่องทางลับถูกทำลาย
“เราถูกโจมตี รีบขอกำลังเสริมเร็วเข้า”
“ดูนั่น! มีผู้บุกรุก จับตัวมันไว้”
ชิ
หัวหน้าพรรคเหยี่ยวทมิฬแค่นเสียง ขณะที่เขาหนีออกไปทางช่องทางลับ เขากลายเป็นเงาใต้พื้นแล้วพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง ดูเหมือนแผนการของเขาจะถูกบุคคลอื่นมองออกหรือไม่ หรือบางทีอาจเป็นความแค้นส่วนบุคคล
ตอนนี้เขาไม่สามารถนึกออกได้ เขาทำได้เพียงชะลอแผนการออกไป แล้วใช้แผนสำรองจัดการแทน
ช่วงเวลาก่อนรุ่งสาง นพเก้ารีบออกไปทางหน้าต่างของโรงแรมแล้วกลับไปตำหนัก เขาฮัมเพลงขณะที่กลับไป เขารู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
[ติ๊ง~ ขอแสดงความยินดี โฮสต์ได้สังหารพ่อมดทมิฬสามตา อาชญากรในตำนานที่ก่อกรรมมามากกว่า 30 ปี รางวัล: ช่องทรัพยากร + 15]
[ติ๊ง~ ขอแสดงความยินดี ด้วยความบังเอิญผลจากการสังหารพ่อมดทมิฬสามตา ทำให้ขัดขวางแผนการของหัวหน้าพรรคเหยี่ยวทมิฬ ทำให้แผนการใช้แมลงกู่ระดับจักรพรรดิยุทธ์ยึดครองตระกูลหวงไม่สำเร็จ รางวัล: ช่องทรัพยากร + 20]
นพเก้าหยุดอยู่บนตึกสูงหลังหนึ่งแล้วดูรายละเอียดความสำเร็จ จากนั้นเขาจึงเข้าใจ ดูเหมือนอีกฝ่ายต้องการความลับบางอย่างในตระกูลหวง เพื่อความแน่นอนจึงต้องการใช้หวงไค่เป็นหุ่นเชิด โดยไม่คาดคิดว่าการกระทำของเขาจะแทรกแซงแผนการของอีกฝ่าย
[ติ๊ง~ ขอแสดงความยินดี โฮสต์ได้ให้กำเนิดบุตรแห่งสวรรค์ 1 คน ระดับความคืบหน้าของภารกิจจำกัดเวลา “เปิดตัวสำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนมนุษย์” รับบุตรแห่งสวรรค์ได้ 1/5 คน รางวัลย่อย: สุ่มฟรีการอธิษฐาน 10 ครั้ง]
“ระบบ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
นพเก้ารู้สึกงงงวย
“เมื่อถึงเวลาโฮสต์จะรู้เอง”
ระบบไม่ต้องการตอบ
นพเก้าทำหน้ามุ่ย นับวันระบบนี่มักจะไม่ยอมตอบคำถามอย่างจริงๆ จังๆ เขาเลิกสนใจมัน แล้วบินออกจากตึกสูงกลับไปยังตระกูลหวง
หลังจากกลับมาถึง เขากำลังจะกลับไปห้องนอน เขารู้สึกอยากพักผ่อนเล็กน้อย เมื่อคืนเขาทำการรักษานานเกินไปจนรู้สึกเหนื่อยล้า
“เจ้าตระกูลน้อย ท่านฉินหย่งมาขอเข้าพบขอรับ เขารอท่านอยู่ที่ห้องรับแขก”
“ฉินหย่ง?”
นพเก้าพึมพำ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเป็นบิดาของฉินโหย่วเอ๋อ เขาไม่ทราบว่าบุคคลนี้ต้องการอะไร ในเมื่อยกเลิกการหมั้นหมายไปแล้ว เมื่อเขาเดินไปถึงห้องรับแขกก็ปรากฏบุคคลสามคนคือ พ่อและแม่ของนพเก้า และอดีตพ่อตาคนนั้น เขาเป็นคนที่มีความสูง 2.5 เมตร มีเขาสีม่วงสองเขาคดเคี้ยวยืดออกไปด้านบน
“คารวะจักรพรรดิหวง”
ฉินหย่งรู้สึกกระอักกระอ่วน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ มันเป็นกฎในยุทธภพที่ต้องนอบน้อมให้กับบุคคลที่มีระดับสูงกว่า หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงกล้าเรียกอีกฝ่ายว่าลูกเขย แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
(บัดซบสิ้นดี มันเป็นความผิดของซ่งอวี้หาน)
ฉินหย่งรู้สึกโกรธเคืองในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะสามัญชนผู้นี้ มีหรือลูกสาวของเขาจะทำเรื่องโง่เขลาได้
“อืม ท่านมีเรื่องอะไร รึเกี่ยวกับการขอถอนหมั้นเมื่อวานหรือไม่?”
นพเก้าเพียงโต้ตอบเล็กน้อยเป็นพิธีแล้วพุ่งเข้าประเด็น เขาไม่ต้องการอะไรไปมากกว่ากลับไปนอน เขาไม่รู้ทำไมพลังจักรพรรดิยุทธ์ของเขาถึงถูกสูบจนแห้งได้
“ใช่ ข้าต้องขออภัยด้วย ดูเหมือนลูกสาวข้าจะทำผิดมหันต์ ทางตระกูลฉินของเราไม่รู้เรื่องนี้เลย ข้าหวังว่าพวกท่านจะให้อภัยกับการรู้เท่าไม่ถึงการในเรื่องนี้ด้วย”
ฉินหย่งไล่ประโยคที่เคยท่องไว้ในใจออกมา
“ฮึ้ม ให้อภัยงั้นรึ เจ้าต้องการให้หมั้นกันใหม่อีกรอบรึ น่าขันสิ้นดี เจ้าอยากทำให้ตระกูลหวงของเรากลายเป็นตัวตลกหรืออย่างไร?”
หวงเม่ยรู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไป นางรู้ดีว่าลูกชายของนางพยายามมาตลอดเพื่อเด็กสาวคนนั้น นางรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับอีกฝ่ายกำลังเล่นกับความรู้สึกของลูกชายของนาง
“เม่ยเอ๋อ เจ้าใจเย็นก่อน”
อัครเดชก็รู้สึกเดือดดาลเช่นกัน เมื่อวานนี้เขายุ่งอยู่กับเอกสารในห้องทำงานทั้งวัน จึงรู้ข่าวสารตอนช่วงเที่ยงคืนจากภรรยาเท่านั้น ตอนแรกเขาคิดว่าจะพาผู้อาวุโสในตระกูลเพื่อไปขอคำอธิบายเช่นกัน ด้วยการกระทำเช่นนี้ทั้งสองตระกูลจะไม่สามารถปรองดองกันได้อีกต่อไป
“พวกท่านพอเถอะ ข้าเข้าใจการตัดสินใจของนางดีแล้ว ข้าจะไม่พยายามอีกต่อไป”
นพเก้าพูดตัดพ้อทันที
“นี่!”
ฉินหย่งสะดุ้งเฮือก ต้องรู้ว่าธุรกิจต่างๆ ที่เขาได้มาส่วนใหญ่มาจากพลังอำนาจของนพเก้าทั้งสิ้น เมื่อทุกคนในตระกูลที่ประจบประแจงเขาก่อนหน้านี้รู้ว่าการถอนหมั้นได้เกิดขึ้น หลายๆ คนต้องการคำอธิบาย เขาจึงต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง หากผลลัพธ์เป็นเช่นนี้ต่อไป อนาคตของเขาในตระกูลจะดิ่งลงเหว และลืมความฝันที่จะเป็นหัวหน้าตระกูลไปได้เลย
“ท่านฉินหย่งข้าขอลา ตอนนี้ข้าไม่มีความผูกพันใดๆ กับนางอีกต่อไป นอกจากนี้เมื่อนางปฎิเสธข้าอย่างไร้เยื่อใย จิตใจของข้ารู้สึกเหมือนแตกสลายเป็นล้านๆ ชิ้น”
นพเก้าประสานมือแล้วเดินจากไปด้วยความเหนื่อยล้า ในสายตาของบิดามารดา สภาพของเขาเหมือนกับคนที่มีภาวะความเครียดทางอารมณ์มากเกินไปจนหน้าซีดเซียว ซึ่งความเป็นจริงเพียงแค่ไตของนพเก้าผลิตน้ำมากจนเกินไปเท่านั้น
(เฮ้อ เมื่อคืนนี้ข้าทำการรักษาหนักเกินไป)
นพเก้าพึมพำ เขาเริ่มรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยของแพทย์จากการรักษาคนไข้มันเป็นเช่นนี้ หากมีผู้อื่นได้ยินความคิดนี้ของเขา จะต้องสาปแช่งเขาให้ไปตายอย่างแน่นอน
“ลูกเก้า”
หวงเม่ยรู้สึกเสียใจ นางเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตา นางไม่เคยเห็นลูกชายในสภาพนี้มาก่อน หัวใจของคนเป็นแม่รู้สึกปวดร้าวเป็นอย่างมาก
ฉินหย่งเพียงประสานมือขอลากลับไปเท่านั้น เขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลังจากลูกสาวของเขาสร้างปัญหาก็หายตัวไปแล้วโยนเรื่องทั้งหมดให้ผู้เป็นพ่อจัดการคนเดียว
“รอก่อนเถอะเจ้าลูกไม่รักดี หากข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่ไหน ข้าจะตามไปทุบตีเจ้าให้ตาย”
ฉินหย่งกำหมัดแน่น มันเป็นความผิดของซ่งอวี้หาน สามัญชนผู้นี้ต่อให้เป็นอัจฉริยะแล้วอย่างไร เจ้ามีอำนาจเบื้องหลังหรือไม่ หากไม่มีก็เป็นแค่จอมยุทธ์พเนจรทั่วไป เมื่อเขาคิดถึงจุดนี้ เขาก็นึกถึงความเป็นไปได้หนึ่ง ลูกสาวของเขาที่หายตัวไปจะไปอยู่กับคนผู้นี้หรือไม่ เขาคิดถึงความเป็นไปได้นี้ไว้แล้ว แต่เมื่อส่งคนไปสืบดูที่บ้านของซ่งอวี้หาน เขาไม่เจอบุคคลใดเลย
อย่าบอกนะว่าทั้งสองคนหนีตามกันไปแล้ว เขาสลัดความคิดนี้ออกไป เขาเชื่อว่าลูกสาวของเขาคงไม่ทำถึงขนาดนั้น
ขณะที่เขากำลังออกไปที่ประตูคฤหาสน์ตระกูลหวงเขาเห็นนักข่าวมากมาย สิ่งนี้คงเกิดขึ้นอีกสักพัก ระดับความนิยมของจักรพรรดิยุทธ์รุ่นเยาว์ควรเป็นที่จับตามองเช่นนี้
หืม
เมื่อเขากำลังจะก้าวออกจากประตูธรณี เขาเห็นหญิงสาวสวมชุดคลุมคนนึงเดินสวนกับเขา เขารู้สึกประหลาดใจเพราะความรู้สึกที่คุ้นเคย มันเป็นความเกลียดชังซ่งอวี้หาน
“ฮ่า ฮ่า ข้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
ดูเหมือนเขาต้องกลับไปปิดด่านฝึกตนสักหน่อย เขารู้สึกว่าความคิดกำลังฟุ้งซ่านเกินไป ผู้หญิงคนนี้จะเกี่ยวข้องกับซ่งอวี้หานได้อย่างไร
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน? ทำไมถึงมีพ่อบ้านเดินนำ”
“ข้าไม่รู้จัก แต่เจ้าเห็นใต้ผ้าคลุมหรือไม่ ดูเหมือนนางจะตั้งครรภ์มาหลายเดือนแล้ว”
พวกนักข่าวต่างสำนักซุบซิบกัน เป็นเรื่องปกติที่จะมีภรรยาหลายคนหากท่านมีความสามารถเลี้ยงดูให้พวกนางกินอิ่มนอนหลับได้ เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นนางคณิกาที่กำลังอาศัยอำนาจของตระกูลใหญ่ให้สุขสบาย หรือเป็นหญิงสาวผู้ถูกล่อลวงโดยนายน้อยคนใดคนนึง แล้วมาเรียกร้องให้อีกฝ่ายรับผิดชอบ
ขณะนี้ซูหลันกำลังเดินเข้าคฤหาสน์ตระกูลหวง นางมีความรู้สึกซับซ้อนเป็นอย่างมาก ใครจะไปคิดว่าผู้ที่มีความสัมพันธ์กับนางเมื่อคืนจะเป็นคู่หมั้นเก่าของพี่สาวนาง
“ข้าไม่อยากจะเชื่อ”
ซูหลันรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนขณะกุมท้องที่โตของนาง เมื่อนางตื่นขึ้นมา นอกจากคราบเลือดบนเตียงและเงินบางส่วนบนโต๊ะหัวนอนแล้ว ท้องของนางก็ตั้งครรภ์ราวกับคนท้องสามเดือน เพียงผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงมันก็ใหญ่ขึ้นอย่างมาก
ตอนแรกนางไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น นางคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนนิสัยไม่ดีที่ใช้ศาสตร์บางอย่างกลั่นแกล้งนาง อย่างไรก็ตาม หลังนางใช้พลังจิตตรวจสอบร่างกายพบว่ามีเด็กในครรภ์จริงๆ
(มันเป็นไปได้อย่างไร?)
โชคดีที่เมื่อนางเดินทางออกจากเมือง นางเห็นรูปของชายผู้นี้กำลังโชว์อยู่บนจอทีวีขนาดใหญ่กลางเมือง นางจึงรู้ว่าบุคคลผู้นี้คือจักรพรรดิยุทธ์รุ่นเยาว์ นพเก้าผู้สืบทอดตระกูลหวง เมื่อนางรู้ถึงที่อยู่จึงไม่ได้เตรียมการใดๆ แล้วรีบเดินทางมาที่นี่ทันที นางต้องถามให้ได้ว่าอีกฝ่ายทำอะไรกับนาง
ภายในห้องโถงรับแขก หวงเม่ยผู้เป็นมารดาของนพเก้ากำลังนั่งพักอยู่บนโซฟาในสภาพไม่สู้ดีนัก ขณะที่สามีของนางเดินวนเป็นวงกลม เวลาที่สามีของนางคิดอะไรไม่ตกก็มักจะทำนิสัยเช่นนี้
“สามี เราไปทวงความยุติธรรมที่ตระกูลฉินกันเถอะ ข้าต้องคุยกับเด็กสาวผู้นั้นให้ได้”
นางตบหน้าตักของนาง ต้องการจะไปเรียกกองพันองครักษ์ประจำตระกูลหวงทันที
“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพียงแค่รอไปก่อน ข้าอยากรู้ว่าพ่อตาจะตัดสินใจทำอย่างไรต่อ”
อัครเดชจะไม่รู้ความคิดของภรรยาได้อย่างไร นางแค่อยากจะอาละวาดเพื่อระบายความโกรธ
“ฮึม หากท่านพ่อไม่ทำอะไร ข้าจะไปหาเด็กสาวผู้นั้นด้วยตัวเอง”
หวงเม่ยกำหมัดแน่น กล้าดีอย่างไรถึงหนีตามผู้ชายไปแล้วสวมหมวกเขียวให้ลูกชายของนาง
เฮ้อ~
ไม่เพียงแต่อัครเดชและหวงเม่ยที่รู้สึกมีอารมณ์เท่านั้น ตอนนี้ทั้งตระกูลหวงเหมือนเสือถูกเหยียบหาง หากหวงไท่สั่งให้บุก ทั้งตระกูลหวงก็พร้อมจะทำสงครามเช่นกัน นับตั้งแต่ก่อตั้งตระกูลมานับพันปี พวกเขาไม่เคยเจอความอัปยศเช่นนี้มาก่อน ขณะที่คลื่นใต้น้ำเริ่มก่อตัวขึ้น พ่อบ้านชราก็ได้เดินเข้ามาพร้อมหญิงสาวสวมผ้าคลุมคนหนึ่ง
“หัวหน้าพ่อบ้าน นี่คือ?”
อัครเดชถามด้วยความสงสัย เจ้านำผู้หญิงท้องแก่มาทำอะไร
พ่อบ้านชรารู้สึกหนักใจ เดิมทีเขาก็ไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของผู้หญิงคนนี้เช่นกัน แต่เมื่อเขาส่งคนไปสืบดูจากร่องรอยกล้องวงจรปิดในเมืองเมื่อวาน เขาก็ทราบว่าสาวสวยผู้นี้ได้ใช้เวลากับเจ้าตระกูลน้อยของพวกเขาเมื่อคืน
“ท่านหัวหน้าตระกูล นี่คือของท่าน”
พ่อบ้านชราพูดติดขัดเล็กน้อย
อะไร!!
อัครเดชรู้สึกตกใจ เจ้าหมายความว่าเช่นไรของข้า
“ไอเชี่ยเดช!!”
หวงเม่ยสบถออกมา นางกำหมัดจนกระดูกส่งเสียงแตกหัก ปัญหาของบุตรชายของนางยังไม่จบไป ไม่คิดว่าจะมีเรื่องระทึกยิ่งกว่าเกิดขึ้น
“พ่อบ้าน เจ้าระวังคำพูดด้วย ข้าไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้”
อัครเดชสาปแช่งในใจ ข้าเคยทำอะไรผิดต่อเจ้าหรือไม่ ทำไมถึงวางแผนฆ่าข้าเช่นนี้
“ไม่ใช่ๆ ท่านหัวหน้าตระกูล ท่านหญิง นี่คือลูกสะใภ้ของท่าน”
เมื่อพ่อบ้านรู้ตัวว่าพูดผิดไปแล้วเรื่องกำลังบานปลาย เขารีบแก้ไขคำพูดทันที
ห่ะ!!
ภายในห้องโถงรับแขกทุกคนตกตะลึง จากนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้น บรรดาแม่บ้านกระโตกกระตากทันที
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
อัครเดชนิ่งงัน เขาไม่คิดว่าบุตรชายจะทำตัวเหลวแหลกเช่นนี้ แต่ทันใดนั้นก็ประหลาดใจ เขาจำได้ว่าสองวันก่อนลูกชายของเขาเข้ามาในห้องทำงานแล้วขอโทษด้วยน้ำตา มันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่
“นี่เป็นความจริงรึ?”
หวงเม่ยนำหญิงสาวคนนี้มานั่งด้วยกันที่โซฟา แล้วถามสถานการณ์ทั้งหมด นางรู้สึกอยากทุบตีบุตรชายของนาง ทำไมถึงไม่พาลูกสะใภ้เข้าบ้าน ทำไมถึงปล่อยให้นางลำบากข้างนอก แต่ก็รู้สึกดีใจเช่นกัน นางไม่รู้เลยว่านางจะได้อุ้มหลานเร็วขนาดนี้
“คือ”
ซูหลันทำอะไรไม่ถูก หลังจากถูกซักไซ้นางก็ได้แต่บอกความจริง แต่ไม่ได้บอกความลับเรื่องที่นางเป็นราชวงศ์หรือเรื่องที่นางปลอมตัวเป็นซ่งอวี้หาน ความลับเช่นนี้เก็บไว้กับตัวดีที่สุด
“อะไรนะ แค่คืนเดียว? มันจะเป็นไปได้อย่างไร ลูกชายข้าบังคับให้เจ้าพูดโกหกรึ?”
หวงเม่ยถามด้วยสีหน้าจริงจัง
อัครเดชรอฟังคำตอบ เขารู้สึกว่าลูกชายของเขาไม่น่าจะทำเรื่องไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ จะเกิดอะไรขึ้นหากเขากลายเป็นเจ้าตระกูลแล้วปล่อยเมล็ดพันธุ์ไว้มากมาย
ซูหลันรู้สึกอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เหตุใดนางพูดความจริงถึงไม่มีใครเชื่อ
ขณะที่ทั้งคู่กำลังสอบสวน พ่อบ้านชราก็ได้ไปเชิญนพเก้าเข้ามา
ห้าว
“ท่านพ่อ ท่านมีอะไรรึ?”
นพเก้ารู้สึกอยากนอนเพิ่ม จู่ๆ ก็ถูกหัวหน้าพ่อบ้านเรียกตัวกะทันหัน
เมื่อนพเก้าเห็นผู้หญิงเมื่อวาน เขาก็รู้สึกตกใจ ทำไมนางถึงอยู่ที่นี่ แล้วตรงท้องนั่นอะไร ทำไมถึงใหญ่เช่นนั้น
“นพเก้า เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่?”
หวงไท่สั่งให้คนทั้งหมดออกไป เหลือเพียงหวงเม่ย อัครเดช และหญิงสาวผู้นี้
นพเก้าพูดไม่ออก เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น
“ระบบ เจ้าทำอะไรลงไป?”
นพเก้าคิดว่าระบบมันจะต้องทำอะไรสักอย่างแน่ๆ
[โฮสต์พูดบ้าอะไร! เห็นได้ชัดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเจ้า]
บางครั้งระบบก็รู้สึกว่าเจ้านายของมันปัญญาอ่อน มันเป็นเพียงโปรแกรมชนิดหนึ่งจะไปทำเด็กได้อย่างไร
“แล้วเจ้าพอรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อนพเก้ารู้ว่าสติของเขาไม่อยู่กับร่องกับลอย เขาก็ปรับความเข้าใจใหม่
[จากสถานการณ์ปัจจุบัน เกิดจากผลของผลกายาสถิตในตันเถียนของโฮสต์ มันยังซึมซับไม่หมดแล้วถ่ายทอดพลังปลุกกายาลงไปในครรภ์ของผู้หญิงคนนี้ แล้วเด็กในครรภ์ก็ปลุกกายาระดับเซียนขึ้นจึงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว]
เมื่อทราบเช่นนี้นพเก้าก็เข้าใจ เขาหันไปมองซูหลัน ดูเหมือนอีกฝ่ายก็ต้องการคำอธิบายเช่นกัน
“นั่นเป็นลูกของข้าจริงๆ ซูหลัน ข้าจะรับผิดชอบเอง”
เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้เขาก็มีแต่ต้องยอมรับ ไม่งั้นเขาคงจะไม่ต่างอะไรจากเดนมนุษย์หากปฏิเสธบุตรในท้อง
โอว!!
ทั้งสามคนตระกูลหวงตกตะลึงอีกครั้ง พวกเขามั่นใจแล้วว่าหญิงสาวคนนี้เป็นลูกสะใภ้จริงๆ
“นพเก้า เจ้าเล่ามาให้หมด อย่าให้ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย”
อัครเดชพูดแทรกขึ้น
นพเก้าได้แต่เล่าเรื่องทั้งหมดโดยไม่ปิดบัง ตั้งแต่เรื่องของผลกายาสถิตมีผลอย่างไร และกำลังให้กำเนิดเด็กที่มีกายาเซียนจึงเติบโตเร็วผิดปกติ รวมถึงผู้หญิงคนนี้จริงๆ แล้วนางคือซูหลันเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์สีชาดที่ปลอมตัวเป็นซ่งอวี้หาน
เมื่อเด็กคนนี้คลอดออกมาเขาไม่สามารถปิดบังอะไรได้ เนื่องจากคำให้การของระบบกายาของบุตรของเขาเป็นกายาเซียนสูงสุด กายาอาทิตย์สีชาดที่หายสาบสูญไปในราชวงศ์มากกว่าพันปี ยังดีที่เขาไม่เล่าเรื่องชาติที่แล้วออกมา ไม่งั้นทุกคนอาจหัวใจวายตายด้วยความตกใจ
อะไร!
สมบัติสวรรค์ปลุกกายา! พวกเขาไม่เคยได้ยิน
อะไรนะ!
องค์หญิงแห่งราชวงศ์สีชาด งานนี้ตระกูลหวงเกาะต้นขาคนใหญ่คนโตเข้าแล้ว
แล้วนี่อะไรอีก!
นางผู้นี้คือซ่งอวี้หานบุรุษอันดับหนึ่งในการจัดอันดับทำเนียบสวรรค์ แล้วความจริงเป็นผู้หญิงและลูกสะใภ้ตระกูลหวง
แล้วนี่!
กายาเซียนสูงสุด กายาที่หายสาบสูญไปมากกว่าพันปี
“อา~”
หวงไท่ไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้ ด้วยทิศทางต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันมีแต่เรื่องดี เขาไม่รู้ว่าจะแสดงออกอย่างไรดี ความสุขมันมาเร็วเกินไป
“ฮ่า ฮ่า ดีจริงๆ ลูกชายข้าไม่เคยทำให้ผิดหวัง”
หวงเม่ยรู้สึกดีใจจนน้ำตาไหล นางเลิกคิดถึงเรื่องตระกูลฉินให้รกสมองทันที บุตรสาวตระกูลฉินจะเทียบกับองค์หญิงแห่งราชวงศ์ได้อย่างไร
อัครเดชขมวดคิ้ว เขารู้สึกแปลกๆ เรื่องราวทุกอย่างมันบังเอิญเกินไป สิ่งนี้เป็นแผนระยะยาวของลูกชายเขาหรือไม่
ต้องใช่แน่ๆ ตอนนี้อัครเดชรู้สึกว่าลูกชายของเขาสมควรเป็นผู้สืบทอดอย่างแท้จริง การวางแผนระยะยาวเช่นนี้ต่อให้มีร้อยเจ้าตระกูลก็ยังไม่มีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลเช่นนี้
ตระกูลฉิน ตระกูลอันดับหนึ่งหรือ ลูกสะใภ้ข้าคือราชวงศ์ พวกเจ้านับเป็นอะไร อัครเดชลูบเคราที่ไม่มีอยู่จริงและฉีกยิ้มคิดไปไกล
อย่างไรก็ตามคนที่ช็อกที่สุดไม่ใช่ใคร แต่เป็นซูหลัน
(เกิดอะไรขึ้น! ทำไมอีกฝ่ายถึงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับข้า?)
ขณะที่นางคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ นางก็รู้สึกปวดทรมาณยังกับมีมีดมากรีดแทงที่ท้อง
อ๊ากก!!
ร่างกายของนางเริ่มสั่นเทาอย่างเจ็บปวด
“โอว พระเจ้า! ลูกสะใภ้ข้ากำลังจะคลอด ไปตามหมอและเตรียมตำหนักแพทย์เดี๋ยวนี้”
หวงเม่ยที่รู้สึกตัวเร็วที่สุด รีบอุ้มลูกสะใภ้ของนางไปที่ตำหนักแพทย์ทันที
เพียะ!
“เจ้ากำลังรออะไรอยู่ ยังไม่รีบไปอีก เจ้าไม่อยากไปดูหน้าลูกหรือ?”
หวงไท่อดที่จะตบกบาลเด็กคนนี้ไม่ได้ เหตุใดถึงยังทำตัวโง่งมอยู่อีก
โอว
เมื่อนพเก้าถูกเรียกสติกลับมาได้ เขารีบไปที่ตำหนักการแพทย์ด้วยความเร็วแสง เขาสั่งปิดกั้นทุกสถานที่ทันที แล้วไปลากหมอตำแยบินเข้าไปตำหนักการแพทย์ด้วยความเร็วดุจพายุ
หมอชราที่อยู่ในมือของนพเก้ากำลังบินอยู่บนอากาศด้วยเนื้อตัวสั่นเทา ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนเช่นนี้ ภรรยาของเจ้ากำลังจะคลอดหรืออย่างไร
ไม่รอให้เขาคิดไปไกล เมื่อเขาถึงตำหนัก หัวหน้าหมอเรียกเขาไปเป็นผู้ช่วยทันที
เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยามโดยมีหวงไท่และผู้อาวุโสในตระกูลหลักเฝ้าอยู่ข้างนอก ขณะที่นพเก้า อัครเดชและหวงเม่ยเข้าไปให้กำลังใจลูกสะใภ้อยู่ด้านใน