อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด - บทที่ 13 พบเจอกายาอมตะ โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ผู้แต่ง

ยักษาบรรพกาล

เรื่องย่อ

นพเก้าเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นแม่แต่น้อย

“ระบบการแสดงของข้าเป็นอย่างไรบ้าง” 

นพเก้าถาม

[ติ๊ง ประทับใจ]

ระบบตอบ

[ติ๊ง ของแสดงความยินดีโฮตส์ได้แสดงการวาดยันต์บุพภาลำเนาไพรฉบับสมบูรณ์ การกระทำของโฮสต์เริ่มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปรงด้าน อุตสาหกรรมยันต์วิญญาณระดับภูมิภาค รางวัล: เพิ่มช่องทรัพยากร + 5]

“ระบบ ข้าสามารถใช้งานได้อย่างไร”

[โฮสต์สามารถเรียกช่องทรัพยากรได้ผ่านทางจิตแล้วใส่วัตถุในช่อง ทรัพยากร]

นพเก้าหยิบสร้อยคอทองคำ 1 บาทที่น้องสาวให้เป็นของขวัญวันเกิดใส่ในช่องทรัพยากรตรงหน้า

[ช่องทรัพยากร]

[ความจุ 1/5]

[วัตถุ: สร้อยคอทองคำ 1 บาท (ระยะเวลาเพิ่มจำนวน 23 ชั่วโมง 59 นาที 53 วินาที: อัตราเพิ่มจำนวน 1 เท่าตัว)

“ระบบ ถ้ามันครบ 24 ชั่วโมงมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นจริงเหรอ แล้วมันมีข้อจำกัดหรือไม่” 

นพเก้าอดสงสัยไม่ได้

[จริงแท้แน่นอน]

[โฮสต์โปรดอย่าสงสัยในความสามารถของระบบ ต่อให้เป็นไอเทมระดับทำเจ้าก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ย่างไม่สิ้นสุด]

สารบัญ

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 1 บทนำ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 2 เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 3 กลับบ้าน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 4 นพเก้า ปะทะ หวงอี้เฟย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 5 กายาสวรรค์ จุติจักรพรรดิในก้าวเดียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 6 อัจฉริยะในรอบพันปี,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 7 อันตัวข้าผู้สืบทอดเป็นคนใจกว้าง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 8 เทศกาลสวมหมวกเขียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 9 เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย โอเคได้เลย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 10 พบบุตรแห่งโชคชะตา,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 11 จิตใจของข้าแตกสลายเป็นล้านๆชิ้น,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 12 ความลับตระกูลหวง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 13 พบเจอกายาอมตะ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 14 บุกรังจักรพรรดิปักษาพิรุณ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 15 ครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 16 สร้างประตูมิติ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 17 ฝากคำทักทายเจ้าเมือง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 18 สอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 19 ใครบอกกันว่าข้าจะสอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 20 การปรากฏขึ้นของโอสถระดับตำนาน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 21 ความเย่อหยิ่ง ปะทะ ความจองหอง

เนื้อหา

บทที่ 13 พบเจอกายาอมตะ

“เป็นเจ้า” เหยี่ยวทมิฬประหลาดใจ นี่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากน้องชายของเขา ผู้ซึ่งเป็นจักรพรรดิรุ่นเยาว์หนึ่งเดียวในมณฆลสิงห์คำรน

“ที่นี่ท่านก็สามารถความลับได้แล้ว” นพเก้ากำลังเร่งรีบ เขารู้สึกว่าต่อให้อีกฝ่ายไม่เปิดเผย เขาก็ไม่คิดจะอยู่ต่อ หลังจากสังหารผู้ทรยศแล้ว เขายังต้องไปที่ป่ามรณะเพื่อจัดสรรทรัพยากรทั้งหมดที่ริบมาได้

เหยี่ยวทมิฬถอนหายใจ แล้วเริ่มเล่าออกมา ตั้งแต่เหตุการณ์ 20 ปีก่อนทำให้เขาตกตะลึง

อะไรนะ ค้ามนุษย์? มันจะเป็นไปได้อย่างไร

นพเก้ารู้สึกว่าเรื่องต่างๆ จะลึกลับกว่าที่คิด เขารู้เพียงว่าในฐานะตระกูลนักรบ พวกเขามีเส้นทางการเงินสองอย่างคือ เป็นตระกูลค้าขายแลกเปลี่ยนสิ่งของจากดินแดนรกร้องโดยทำหน้าที่เป็นคนกลาง อีกอย่างคือเปิดหอโอสถโดยรายได้ 70% มาจากตระกูลสาขาที่สอง

“เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน ปู่ของเจ้าต้องการบรรลุขอบเขตราชันย์ยุทธ์แต่การทะลวงทั้งสามครั้งล้วนล้มเหลว เขาจึงหันไปใช้วิธีศาสตร์มืดลึกลับด้วยวิชากลืนกินแก่นแท้สิ่งมีชีวิต เจ้าเมืองก็มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน เขาเป็นผู้จัดหานักโทษให้ตระกูลหวงชำแหละ และตระกูลหวงจะจัดแยกชิ้นส่วนต่างๆ ส่งที่โรงพยาบาลในเครือที่เจ้าเมืองปกครอง” เหยี่ยวทมิฬเปิดเผยเรื่องสะเทือนใจออกมา

“มีฝ่ายใดอีกบ้างที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด” เขาไม่คิดว่าคนใหญ่คนโตสองคนจะทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้

“ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลสาขาลำดับที่หนึ่ง พวกเขาทุกคนล้วนเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง” จากการเปิดเผยดูเหมือนจะเป็นผู้อาวุโสซะส่วนใหญ่ โชคดีที่ครอบครัวของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเขารู้สึกรับไม่ได้ที่มีครอบครัวเป็นอาชญากร

เมื่อระบบรับรู้ความคิดของนพเก้า มันอยากจะกระตุกมุมปากแต่มันไม่มี สิ่งที่คนเหล่านั้นทำเทียบไม่ได้กับเจ้านายของมันในชีวิตที่แล้ว

“เกี่ยวกับวิชากลืนกินแก่นแท้สิ่งมีชีวิต ข้าคาดว่ามันมาจากบันทึกลับเล่มนี้” เหยี่ยวทมิฬโยนบันทึกลับให้นพเก้า เมื่อเขาเปิดดูเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ทุกหน้าล้วนว่างเปล่า สิ่งนี้เกิดจากอักขระทำลายเนื้อหาของยันต์คาถาระดับที่ 6 ต้องรู้ก่อนว่าในโลกมนุษย์ผู้เชี่ยวชาญสูงสุดอยู่ที่ระดับ 6 ดาวเท่านั้น ในชีวิตที่แล้วเขาเป็นปราชญ์สองสาขาคือ วิชายันต์คาถา 6 ดาว และผู้สร้างอาวุธระดับ 3 ดาว

“อันที่จริงข้าก็ไม่รู้ความลับของบันทึกนี้ ข้าสัมผัสได้เพียงกลิ่นอายน่าขยะแขยงจากมัน” เหยี่ยวทมิฬมีพรสวรรค์นักฆ่าแต่กำเนิดที่เขาไม่รู้ตัว ทำให้สัมผัสที่หกของเขาครอบคลุมในสัมผัสเชิงลบต่างๆ

“ตลอด 20 ปี มีเพียงหวงไค่เท่านั้นที่ขึ้นไปหอตำราชั้นบนสุด” นั่นคือสิ่งที่เขาคาดการณ์

“มีอะไรอีกหรือไม่”

“ความจริงแล้ว ไม่มี” เหยี่ยวทมิฬตัดสินใจไม่พูดออกไป มันอาจส่งผลให้กระทบจิตใจได้

“ท่านจะทำอย่างไรต่อไป” นพเก้าถาม

“ข้าต้องการหยุดการกระทำหวงไค่ แต่ว่าข้าไม่มีหลักฐาน” เพราะสุดท้ายแล้ว พวกคนเหล่านี้ก็มีขบวนการมากเกินไป แม้แต่เจ้าเมืองก็มีส่วนเกี่ยวข้อง

“หากท่านต้องการความช่วยเหลือ สามารถมาหาข้าได้ ข้าจะทำสุดความสามารถ” ขณะที่กำลังพูด เขาได้แบ่งแก่นเลือดระดับจักรพรรดิเข้าในเสื้อคลุมของอีกฝ่าย ด้วยวิธีนี้เขาสามารถรับรู้ข่าวสารและติดต่อกับอีกฝ่ายเมื่อจำเป็นได้

เหยี่ยวทมิฬรู้สึกประหลาดใจ แต่เขาไม่ได้ตอบอีกฝ่าย

นพเก้าเพียงยักไหล่แล้วเดินจากไป อีกฝ่ายบอกเป็นนัยๆ ว่าการสนทนาจบแล้ว

“ข้าต้องรีบทะลวงสู่ขอบเขตขัดเกลาศิลาให้ได้ หากยังไม่เปิดจิตสัมผัส แม้แต่ยาสงบใจก็ไม่สามารถต่อต้านได้” นพเก้ารู้สึกถึงวิกฤต ด้วยวิชาหัวใจทศกัณฐ์ วิถีที่หนึ่ง เพลิงแห่งความละโมบ ยิ่งสังหารมากผู้ใช้เคล็ดวิชาก็ยิ่งกระหายเลือด มันเป็นสะท้อนที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ความจริงเขาไม่ต้องการลงมือโหดเหี้ยมกับหวงไค่และหวงอี้เฟย แต่เมื่อมีอารมณ์โกรธเขาจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มันมาจากผลสะท้อน “บันดาลโทสะ” ก่อนหน้านี้เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่ต้องเสียเวลาไล่ตามสองคนนี้

นพเก้าไม่เสียเวลาอีกต่อไป เขาบินออกไปด้วยความเร็วสูงสุดก่อนที่จะหยุดอยู่หน้าทางเข้าป่ามรณะ

“เหตุใดถึงมีคนเยอะนัก” นพเก้ารู้สึกงงงวย มันมีสมบัติลับโผล่ขึ้นอีกแล้วหรือ แม้แต่กองกำลังรักษาความสงบก็ตั้งขบวนเต็มอัตรา

“ดูนั่น มีคนลอยอยู่บนฟ้า” ผู้คนที่ตั้งกระโจมอยู่ริมซ้ายมือพูดขึ้น

“ข้ารู้จักเขา นั่นคือนพเก้า จักรพรรดิรุ่นเยาว์ ข้าจำหน้าตาของเขาได้” คนที่เป็นผู้หญิงพูดขึ้น นางไม่มีวันลืมผู้ชายหล่อเหลาเช่นนี้ได้

“ก็เห็นอยู่ว่าข่าวมีให้ว่อนเน็ตไปทั่ว มีเพียงคนเก็บตัวเท่านั้นที่ไม่รู้จัก” ชายผู้อยู่ด้านข้างแค่นเสียงออกมา เขารู้สึกอิจฉาพวกคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด

“ข้าได้ยินมาว่าอีกฝ่ายมีอาจารย์ลึกลับคอยช่วยเหลือ ไม่งั้นอีกฝ่ายคงไม่สามารถเติบโตได้เร็วเช่นนี้ ข้าอายุเพียง 37 ปีก็บรรลุขอบเขตราชันย์ยุทธ์เช่นกัน หากข้ามีทรัพยากรช่วยเหลือข้าคงไม่เป็นแบบนี้” ชายวัยกลางคนที่สะพายดาบใหญ่วิพากษ์วิจารณ์ออกมา

ผู้คนหันไปมองเขาด้วยสายตาดูถูก หากไม่มีพรสวรรค์ต่อให้มีทรัพยากรล้นฟ้าก็ไม่สามารถบรรลุขอบเขตในตำนานได้ พวกเขารู้สึกว่าชายผู้นี้ขี้โม้เกินไป

“ทำความเคารพจักรพรรดิหวง” รองเจ้าเมืองและขบวนทหารทั้งหมดประสานมือทำความเคารพบุคคลที่ลอยลงมาตรงหน้า

“มิต้องเกรงใจท่านรองเจ้าเมือง เรียกว่าหลานเก้าเหมือนทุกทีก็ได้” นพเก้ายิ้มออกมาจนเห็นฟัน สำหรับเขาหากเป็นคนรู้จักเขาอยากให้เป็นกันเองมากกว่า

“งั้นก็ได้ หลานเก้าเจ้ามาทำอะไรรึ” เมื่ออีกฝ่ายเสนอมาเขาก็กล้ารับ เขาผู้เป็นรองเจ้าเมืองสามารถคุยกับผู้อื่นได้ว่าจักรพรรดิรุ่นเยาว์เป็นคนสนิทของเขา

“ข้ามีของบางอย่างที่ต้องการด้านใน” นพเก้าพูดขึ้น

“โอ้วจริงรึ ถ้างั้นเยี่ยมไปเลย” รองเจ้าเมืองเบิกบานใจ

“อย่างที่เจ้าเห็น ตอนนี้เราเกณฑ์คนมามากมาย เนื่องจากเจ้าหญิงน้อยถูกลักพาตัวเข้าไปในป่า ตอนนี้ทั้งเมืองเวสสุวรรณไม่มีใครนั่งติดอยู่กับที่ พวกเขาต่างมีความต้องการเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือด้านใน” รองเจ้าเมืองเปิดเผยข้อมูลบางส่วนออกมา

“อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตไม่ทราบที่มาสองตัวนั้นทำให้พวกเราไม่สามารถเข้าไปได้” รองเจ้าเมืองมองไปที่สัตว์ประหลาดสองตัว เขาประเมินว่าระดับของพวกมันต้องเป็นราชันย์ยุทธขั้นกลางเป็นอย่างน้อย

เจ้าสองตัวนี้ไม่ใช่ใครอื่น มันคือช้างน้อยกับเจ้าลิงน้อย ที่ยักษ์แดงเดือดสร้างพวกมันขึ้นมา หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งวันพวกมันก็พัฒนามาอีกขั้นจากราชันยุทธขั้นต้นเป็นราชันย์ยุทธ์ขั้นกลาง ช่างเป็นความเร็วการฝึกปรือที่ท้าทายสวรรค์

สำหรับนพเก้าสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติ การแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยการสังหารและกลืนกินแก่นแท้ของศัตรูมันจะไม่โกงได้อย่างไร

หืม

นพเก้าเห็นผู้หญิงแต่งงานแล้วคนนึงกำลังวิ่งมาทางนี้

“ได้โปรดท่านจักรพรรดิ ช่วยลูกสาวข้าด้วย” นางพูดออกมาทั้งน้ำตาขณะที่หยุดลงต่อหน้านพเก้า นางกำลังจะคุกเข่าด้วยซ้ำ รองเจ้าเมืองห้ามไว้ 

 

“อย่างที่เจ้าเห็นนางผู้นี้คือภรรยาของเจ้าเมือง นางรออยู่ที่นี่มาหนึ่งคืนแล้ว” พวกเขารู้สึกเห็นใจ คิดว่าเจ้าหญิงน้อยไม่มีโอกาสรอดมากนัก พวกเขาไม่รู้ว่าเหตุใดป่ามรณะนี้ถึงได้เกิดความวิปลาสขึ้น มีแต่สิ่งมีชีวิตสีแดงเต็มไปหมด คนเก็บสมุนไพรไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ หากเป็นเช่นนี้ไม่เกิดหนึ่งสัปดาห์สภาวะเศรษฐกิจของทั้งมณฆลจะต้องซบเซาอย่างแน่นอน เพราะวัตถุดิบไม่เพียงพอต่อความต้องการ

“ท่านน้าโปรดลุกขึ้นเถอะ ข้าสัญญาว่าจะพานางออกมาให้ได้” นพเก้ากล้าให้สัญญา ตลอดหลายวันที่ผ่านมาพวกนักรบโลหิตรวมถึงอสูรเพียงไล่คนออกไปเท่านั้น ผู้ที่ต่อต้านก็ทุบตีเล็กน้อยแล้วโยนออกไป

“ขอบคุณ ขอบคุณท่านมากๆ” นายหญิงผู้นี้ร้องไห้มากกว่าเดิม จนคนรับใช้ต้องพาออกไป

“เอาล่ะ ข้าจะไปแล้ว” นพเก้าไม่ต้องการรออีกต่อไป เขาสื่อสารทางจิตให้ยักษ์ดงเดือดปล่อยคนบางส่วนที่จับไว้ออกไป มันจะมีบางคนที่นักรบโลหิตปล่อยไปแล้วกลับมาอีก เขารู้สึกว่าพวกนี้เป็นคนโง่ที่ไม่กลัวความตาย

“ระวังตัวด้วย” รองเจ้าเมืองพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ขนาดอสูรสองตัวที่อยู่รอบนอกยังแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่รู้ว่าลึกเข้าไปมีอสูรระดับจักรพรรดิหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ต่อมาทำให้ทุกคนตกตะลึง เจ้าราชันย์อสูรที่มักจะวางท่าเย่อหยิ่งมันกลับเปิดทางเดินหลักให้นพเก้าเข้าไปด้วยความนอบน้อม

“อะไรวะ ทำไมเขาถึงสามารถเข้าไปได้”

“บางทีพวกมันรู้ว่าไม่สามารถสู้กับชายผู้นี้ได้ จึงปล่อยให้เขาเข้าไป”

“ช่างขี้ขลาด มันสองตัวเป็นผู้พิทักษ์ภาษาอะไร”

ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์อย่างออกรส รองเจ้าเมืองได้แต่ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้คนพวกนี้กระโจนเข้าไปโดยอสูรตบตาย

“โอว ข้ารู้แล้ว เจ้าสัตว์สองตัวนั้นจะต้องเป็นสัตว์อัญเชิญของบุรุษผู้นั้นอย่างแน่นอน ไม่งั้นมันจะปล่อยให้เขาเข้าไปทำไม” ในเมื่อในโลกนี้มีคนที่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข มันก็จะมีผู้ที่ชอบสร้างหายนะให้ผู้อื่นเช่นกัน

“บัดซบ จับกุมมันผู้นั้นเสีย กล้าดีอย่างไรถึงว่าร้ายจักรพรรดิยุทธ์” รองเจ้าเมืองถึงกับเหงื่อตก จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนก่อจลาจลเพิ่มขึ้น จำนวนคณะรักษาความสงบของเขามีเพียงสามส่วนในที่นี้เท่านั้น

“ใช่แล้ว สิ่งนี้ฟังดูมีเหตุผล พวกเราบุกเข้าไปกันเถอะ” บางคนที่รอข้างนอกจนทนไม่ไหวต้องการใช้โล่มนุษย์เพื่อเข้าไปข้างใน เขามั่นใจว่าสมบัติล้ำค่าต้องปรากฏขึ้นแน่นอน ไม่งั้นเหตุใดถึงปรากฏสัตว์ประหลาดมากมายเช่นนี้ สำหรับเรื่องจักรพรรดิยุทธ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับสัตว์ประหลาด พวกเขาไม่เชื่อด้วยซ้ำ ใช้เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ต้องรู้ก่อนว่าต้องเป็นนักอัญเชิญระดับ 5 ดาวขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถกระทำได้ แต่ในมณฑลสิงห์คำรนไม่เคยมีปรากฏขึ้นมาก่อนแต่อย่างใด

เจ้าเมืองรู้สึกว่าสถานการณ์ต่างๆ เริ่มไม่สู้ดี แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไรเขารู้สึกว่ามีเงาขนาดใหญ่ข้ามหัวเขาไป

“บัดซบ รีบหลบเร็ว”

“เหตุใดมันถึงออกมา ไม่ใช่ว่ามันเป็นผู้พิทักษ์หรือ”

ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว ทำไมราชันหมีอรุณ กับคิงคองกำปนาทถึงได้บุกเข้ามาหาพวกเขา

ตู้ม มีคนบางส่วนและถูกทุบจนตายด้วยอสูรสองตัวนี้

“ตั้งขบวนรบ” รองเจ้าเมืองหยิบปืนบรรจุกระสุนวิญญาณออกมา และสั่งให้ตั้งเกราะกำบัง เขาไม่คิดจะให้ความช่วยเหลือใดๆ นักผจญภัยพวกนี้ออกมาหาที่ตายเอง

“อ๊าก ช่วยด้วย ใครก็ได้หยุดมันที”

น่าเสียดายที่ไม่มีใครตอบสนองความต้องการของเขา ไม่นานพื้นที่ตรงนั้นก็มีเศษซากมากมาย แต่ทั้งหมดที่มันจัดการล้วนเป็นผู้สร้างปัญหาก่อนหน้านี้

“นี่” ชายผู้ถือดาบใหญ่ในกระโจมซ้ายรู้สึกหวาดกลัว เขารู้สึกว่าราชันอสูรสองตนนี้มันเลือกจัดการเฉพาะผู้ที่ว่าร้ายนพเก้าเท่านั้น ต้องบอกว่าเขาคิดถูก ไม่นานหลังจากนั้นราชันช้างอรุณก็พุ่งตรงมาหาเขา

“เวรเอ้ย” ทุกคนในกระโจมหลบหนีออกไปแล้วสบถออกมา ชัดเจนแล้วว่ามันเล็งเฉพาะผู้ที่ว่าร้ายนพเก้า

ชายผู้ถือดาบใหญ่ เขาชักดาบที่หนัก 500 กิโลกรัมด้านหลังออกมาโดยไม่เกรงกลัว ตัวเขาเป็นถึงอัจฉริยะขอบเขตราชันย์ยุทธ์ขั้นกลาง เขาสามารถต่อสู้กับอสูรขอบเขตเดียวกันได้อย่างสูสี และถ้าหากเป็นมนุษย์เขาสามารถสังหารข้ามขั้นได้

“อย่าโทษข้า เป็นเจ้าที่อวดดีเอง” เขาคำรามออกมาแล้วพุ่งเข้าไป กล้ามเนื้อทั้งร่างขยายออกมา ดูเหมือนเขาจะเป็นผู้ฝึกกำลังภายนอกเป็นหลัก

“วิชาดาบแยกโลกา” เขาเหวี่ยงดาบออกไปขณะที่อยู่กลางอากาศ

เปรี้ยง

คมดาบที่หนัก 500 กิโลกรัมกระทบกับงาช้างจนเกิดประกายไฟ พลังลมปราณจากการปะทะระเบิดออกกระจายไปทั่วรัศมี 100 เมตรรอบตัวเขา

“ฮ่า แข็งแกร่งใช้ได้” บุรุษดาบใหญ่รู้สึกว่ากำลังขาดคู่ซ้อมพอดี โชคดีที่ราชันคิงคองเพียงยืนดูอยู่รอบนอกเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะลำบากหากปะทะสองต่อหนึ่ง

“เอานี่ไปกิน เขาเหวี่ยงดาบออกไปด้วยรูปแบบต่างๆ อย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนพลังกายที่ค่อยๆ เผาผลาญจนหมดไป

ราชันย์ช้างอรุณเพียงต้องการเล่นกับอีกฝ่ายเท่านั้น อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถทนได้อีกต่อไป อีกฝ่ายอ่อนแอเกินไป จากนั้นมันโคจรพลังปราณด้วยเขาทั้งสี่ข้างล้วนสร้างลูกบอลที่สว่างจ้าลูกหนึ่งออกมา ไม่นานลูกบอลนั่นก็เปลี่ยนกลายเป็นลำแสงยิงออกไป

“ไม่ได้การ” บุรุษดาบใหญ่ยกดาบมาป้องกันด้านหน้า แต่ไม่สามารถป้องกันได้ ลำแสงเจาะทะลุทะลวงดาบและเกราะป้องกันของเขา

“ราชันยุทธ์ขั้นสูงสุด” เขารวบรวมคำพูดออกมาก่อนจะสิ้นใจ เขาจำได้เพียงแค่ว่าครึ่งวันก่อน อสูรตนนี้อยู่เพียงขอบเขตขั้นกลางเท่านั้น เหตุใดระดับมันถึงกระโดดออกไปตั้งสองขั้น

“เจ้าโง่” รองเจ้าเมืองไม่รู้สึกเห็นใจแม้แต่น้อย เขามาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนและรู้ว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ยิ่งสังหารศัตรูมันยิ่งเก่งขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมไม่มีใครสักคนกล้าเข้าไปหลังจากรู้พลังโคตรโกงของพวกมัน

นพเก้าบินไปสักพักแล้วหยุดลงตรงหน้าหอคอยขนาดใหญ่ นี่เป็นคลังสมบัติที่อสูรโลหิตช่วยกันสร้างขึ้นมา อย่างไรก็ตามมันยังหยาบอยู่เนื่องจากพวกมันไม่มีความรู้ด้านสถาปัตยกรรมเหมือนมนุษย์ แต่เท่านี้ก็เพียงพอให้บรรจุสมุนไพรและวัสดุแร่ต่างๆ อย่างน้อยร้อยตัน

“นายท่าน ข้าทำงานตามที่ท่านมอบหมายเสร็จสิ้นแล้ว” ยักษ์แดงเดือดลอยออกมาจากหอคอย มันอยากออกไปจากป่านี้เต็มแก่แล้ว

“ได้หินมิติมาเท่าไหร่” นพเก้าเข้าเรื่องทันที ขณะนี้เขากำลังเลือกวัสดุและสมุนไพรระดับ 6 ขึ้นไปใส่ในช่องทรัพยากร ตอนนี้เขามีช่องมิติ 175 ช่อง เขาใส่มันจนเต็มจำนวนทั้งหมด สมบัติล้ำค่าระดับล่างเขาได้เคลียร์ออกไปทั้งหมดแล้ว นอกจากโอสถระดับ 1-8 แล้ว ล้วนแต่เต็มไปด้วยสมบัติระดับ 6 หรือระดับสวรรค์ขั้นสูงทั้งหมด มีสมุนไพรเซียนขั้นต้น หรือระดับ 7 มากกว่า 30 ชนิด

“เรียนนายท่าน ตอนนี้รวบรวมได้ 680 ชิ้น น้ำหนักมากกว่า 2.8 ตัน” ยักษ์แดงเดือดมันรู้สึกว่าโชคดีเล็กน้อย พวกเขานำสัตว์อสูรไปยึดรังของมดแดงยักษ์แล้วเจอหินมิติเป็นจำนวนมาก

“ทำได้ดีมาก” นพเก้านำพวกมันทั้งหมดเข้าช่องทรัพยากรทันที จากนั้นเขาค่อยหาที่ว่างนั่งขัดสมาธิ

“เอ่อ นายท่านรางวัลของข้าล่ะ” ยักษ์แดงเดือดมันคิดว่ามันทำผลงานได้ค่อนข้างดีควรมีรางวัลให้ใช่ไหม

เบอร์หนึ่งที่อยู่ด้านข้างรู้สึกมุมปากกระตุก บรรพบุรุษผู้นี้ของมันนอกจากออกอาละวาดแล้วเรื่องยิบย่อยแล้วเป็นพวกเขาที่จัดการเองเกือบทั้งหมด

“เจ้ายึดป่ามรณะได้เท่าไหร่แล้ว” นพเก้าถามขึ้น ตอนนี้เขากำลังนึกถึงยันต์คาถาที่ใช้เป็นสะพานเชื่อมมิติ

“ประมาณสามส่วนนายท่าน คือว่ามันมีปัญหาเรื่องอสูรระดับจักรพรรดิ ข้าผู้เดียวไม่สามารถจัดการได้” มันพูดด้วยความอับอาย พวกอสูรนั้นอยู่มานานเกินไปและผูกขาดทรัพยากรทั้งหมดพวกมันบางตัวเกือบถึงขอบเขตจักรพรรดิขั้นสูงสุดด้วยซ้ำ ตอนนี้ตัวมันเองเป็นเพียงจักรพรรดิยุทธ์ระดับกลางเท่านั้น หากมันเข้าไปยึดครองจะถูกอสูรขอบเขตจักรพรรดิรุมล้อมทันที

“ตอนนี้ช่างมันไปก่อน แล้วนักรบโลหิตทั้งสิบล่ะ” เมื่อพูดเช่นนี้ พวกนักรบที่ทำงานยิบย่อยต่างๆ ก็มาหาเขาอย่างรวดเร็วพร้อมคุกเข่าทันที พวกมันเป็นนักรบผู้มีเกียรติไม่ใช่คนงานจิปาถะ อย่างไรก็ตามดูเหมือนบรรพบุรุษของมันจะไม่สนใจเรื่องนี้ ใช้พวกอสูรโลหิตไปเล่นสนุกด้วยกันเท่านั้น พวกมันทำได้เพียงกินแก่นแท้เลือดส่วนน้อยที่นำกลับมาเท่านั้น

“อืม มีราชันยุทธ์หนึ่งคนถือว่าดี” เขามองไปที่เบอร์หนึ่งอีกฝ่ายได้เปลี่ยนรูปร่างเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์แล้ว

“เอาล่ะ ข้าจะมอบหมายงานแลกให้พวกเจ้า จงนำแก่นเลือดหนึ่งหยดของอสูรทุกตนมาให้ข้าภายในคืนนี้”

เมื่อได้ยินคำสั่งพวกมันถึงกับสั่นสะท้าน อสูรโลหิตมีมากกว่าสองแสนตัวเพิ่มจากเมื่อเกือบเท่าตัวด้วยซ้ำ

“ยังจะรออะไรอีก รีบไปเร็วๆ เข้า” ยักษ์แดงเดือดตวาดไล่พวกมัน

อย่างรวดเร็วไม่มีใครอยู่ต่อ พวกมันต้องทำงานที่มอบหมายให้สำเร็จแม้ว่าจะต้องพลีชีพจากการทำโอทีก็ตาม

“ยักษ์แดงเดือด” นพเก้าเรียกมันขึ้นมา เขานึกได้ว่ามีคำขอหนึ่งจากรองเจ้าเมือง

“อยู่นี่ขอรับนายท่าน” ยักษ์แดงเดือดยิ้มแย้มจนเผยให้เห็นเขี้ยว ถึงเวลารับโบนัสของมันแล้วใช่ไหม

“ไปเอาตัวเด็กผู้หญิงคนนั้นมา ส่วนที่เหลือแล้วแต่เวรแต่กรรม”

“รับทราบ” ยักษ์แดงเดือดจากไปด้วยความละเหี่ยใจ อย่างไรก็ตามมันต้องการระบายอารมณ์ของมันกับผู้บุกรุก ที่นายท่านของมันบอกว่าแล้วแต่เวรแต่กรรมคือฆ่าคนชั่วละเว้นคนดี ด้วยประสบการณ์จากชาติที่แล้วของมันทำให้มันสามารถมองเห็นกรรมในอดีตของสิ่งมีชีวิตได้ ดังนั้นจึงมีเพียงสามคนเท่านั้นที่มันปล่อยตัวไป ส่วนร้อยกว่าคนที่เหลือ แน่นอนว่าเป็นคนชั่วช้าสารเลว มันรู้สึกว่าการกระทำของมันเต็มไปด้วยความชอบธรรม ช่วยลดขยะในโลกมนุษย์ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น

“แง ท่านปีศาจอย่ากินข้าเลย เนื้อข้าไม่อร่อยจริงๆ น่ะ” เด็กผู้หญิงถูกยกขึ้นบนอากาศกำลังร้องไห้ฟูมฟายออกมา มันรู้สึกลำคาญอย่างมาก

“นายท่าน โชคดีที่ข้าเจอตัวนางก่อนหน้านี้ ไม่เช่นนั้นคงกลายเป็นอาหารของมดแดงยักษ์” อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่มันได้พูดออกมา ก่อนหน้าที่นายท่านของมันจะสั่งให้จับตัวเด็กผู้นี้ นางเด็กคนนี้ก็กลับมาอีกรอบในหนึ่งวัน มันโมโหอย่างมาก อย่างไรก็ตามมันไม่เคยลงมือกับผู้บริสุทธิ์ถึงมันจะเป็นอสูรดุร้ายก็ตาม

“แง นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ อย่ากินข้าเลย รอข้าโตกว่านี้ข้าสามารถช่วยอุ่นเตียงให้ท่านได้”

“แคก” นพเก้าสำลักออกมา เขาไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือองค์หญิงน้อยแห่งเมืองเวสสุวรรณ ทำไมช่างแปลกประหลาดนัก ดังนั้นเขาจึงใช้เนตรหมื่นพิภพสอดส่องดู

“เชี่ยเอ้ยย!” นพเก้าสบถออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

[ค่าสถานะของฉินอวี้หลิง]

อายุ: 14 (อายุขัย 10,000 ปี)

เขตแดน: หลอมศิลา ขั้นที่ 1 ขั้นต้น (ค่าพลังปราณ : 100 เมตร)

ทักษะการต่อสู้: มีก็เหมือนไม่มี ไม่เชี่ยวชาญสักอย่าง

เคล็ดวิชา: เจ้าโลกธาตุ (วิชาสวรรค์ขั้นสูง)

พรสวรรค์: ยักษาทิวากาล ปักษากลืนสมุทธ (2 สายเลือด)

พลังเทพ: ∞

โชคชะตา: บุตรแห่งโชคชะตา

รายละเอียด: นางเกิดมาพร้อมกับกายาเทพอมตะ กายาระดับเทพเจ้าซึ่งมีเพียงหนึ่งในพันล้านล้านเท่านั้น อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องปลุกสายเลือดระดับตำนานทั้งสองสายเลือดเสียก่อน จึงสามารถปลุกพลังกายาอมตะได้ ด้วยกายานี้นางไม่สามารถถูกทำลายดวงวิญญาณใดๆ ได้และผู้ที่ทำร้ายนางจะถูกความอัปโชคกัดกร่อนอย่างช้าๆ จนได้รับความเกลียดชังจากเต๋าสวรรค์ (นางเป็นที่รักของเทพทั้งปวง นางจึงเต็มไปด้วยค่าโชคชะตามหาศาล แนะนำให้โฮสต์รับเป็นศิษย์ทันที)

นี่มันโคตะระลูกจีเอ็ม!

นพเก้ารู้สึกว่าบุตรแห่งโชคชะตาที่พบเห็นผ่านมาล้วนแต่เป็นขยะทั้งสิ้น อายุขัยหมื่นปี ระดับพลังเทียบเท่าหนึ่งร้อยคน สายเลือดระดับตำนานสองสายเลือด แล้วนั่นอะไรอีก พลังเทพไม่จำกัด นพเก้ารู้สึกว่าเขาเป็นขยะเช่นกัน

[โฮสต์คิดมากเกินไป ด้วยการส่งเสริมของระบบ ต่อให้ไม่แข็งแกร่งที่สุด ก็สามารถเป็นผู้ที่เก่งรอบด้านได้]

“ไสหัวไป” นพเก้าไม่ต้องการคุยกับมันอีก เก่งรอบด้านแล้วอย่างไร ในโลกการบ่มเพาะความแข็งแกร่งคือทุกสิ่ง

ระบบถึงกับพูดไม่ออก ดูเหมือนเจ้านายของมันจะไม่รู้ว่าการเก่งรอบด้านคือสิ่งสำคัญที่สุดในการเอาตัวจากทุกสถานการณ์ คนที่แข็งแกร่งแต่ไม่มีสมองมันจะอยู่รอดได้อย่างไร

“แง” เมื่อเห็นนพเก้าตะโกนออกมา ฉินอวี้หลิงคิดว่าชายผู้นี้พยายามจะกำจัดนาง

“แม่สาวน้อย โปรดอย่าเข้าใจผิด ข้าเพียงไล่มันผู้นั้นไปเท่านั้น” นพเก้าเปลี่ยนสีหน้าดุร้ายเป็นคุณชายผู้สง่างามทันที จากนั้นเขาค่อยๆ เดินไปลูบหัวนางอย่างอ่อนโยน เขาไม่กล้าทำให้นางกลัวด้วยซ้ำ เขาอาจจะถูกโชคร้ายกัดกินจนตาย

อะไร!

ยักษ์แดงเดือดรู้สึกงุนงง เหตุใดอยู่ดีๆ เจ้านายของมันก็เตะมันออกจากหอคอย มันรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

ลูกน้องอสูรที่เหลือรู้สึกพึงพอใจในภาพเหตุการณ์นี้ อย่างไรก็ตามเมื่อพวกมันสบตากับยักษ์แดงเดือดมันรีบกลับไปทำงานต่อทันที

“ตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง” เมื่อเห็นสายตาที่มองมาด้วยความอ่อนโยนเด็กสาวก็เลิกงอแง นางเช็ดน้ำตาและถามขึ้น

“ท่านจะไม่กินข้าใช่ไหม” แม่ของนางเคยบอกอย่าเชื่อถือคนแปลกหน้าหากเขาบอกว่าไม่ทำ เขาก็จะทำ

“แน่นอน ข้าจะไม่กินเจ้า” หากทำเช่นนั้นข้าจะมีชีวิตอยู่อย่างไร นพเก้าเพียงคิดในใจไม่ได้พูดประโยคนี้ออกมา

แง!!!

ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่คิด นพเก้ารู้สึกปวดหัว เหตุใดเจ้าจึงร้องไห้อีกครั้ง

“ข้าบอกให้เย็นก่อน แม่ของเจ้าส่งข้ามาตามเจ้ากลับออกไป” นพเก้าไม่รู้จะปลอบนางอย่างไร

“ข้าไม่ออกไป ข้าไม่อยากถูกต่อว่า” นางจะชายกระโปรงขณะกั้นน้ำตา

“ทำไม เกิดอะไรขึ้นรึ เข้าเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่” นพเก้านั่งลงกับพื้นด้านข้างเด็กสาวแล้วลูกหัวนาง

“ข้ามันเป็นขยะ ข้าไม่อยากโดนพี่ชายดูถูก” นางพูดความรู้สึกในใจออกมา

นพเก้ากลอกตา หากเจ้าเป็นขยะแล้วคนทั้งโลกเป็นอะไร

“ฟังข้าน่ะ เจ้าไม่ใช่ขยะ แล้วก็จะไม่มีวันเป็นเช่นนั้นด้วย เจ้าเข้ามาที่นี่ทำไม” เขาไม่เชื่อว่าเด็กน้อยผู้นี้จะเข้ามาในที่อันตรายเพราะเรื่องแค่นี้

“ข้ามาตามหาผลเพิ่มความฉลาด” เด็กสาวพูดความลับออกมา