อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!
แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัดอะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!
นพเก้าเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นแม่แต่น้อย
“ระบบการแสดงของข้าเป็นอย่างไรบ้าง”
นพเก้าถาม
[ติ๊ง ประทับใจ]
ระบบตอบ
[ติ๊ง ของแสดงความยินดีโฮตส์ได้แสดงการวาดยันต์บุพภาลำเนาไพรฉบับสมบูรณ์ การกระทำของโฮสต์เริ่มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปรงด้าน อุตสาหกรรมยันต์วิญญาณระดับภูมิภาค รางวัล: เพิ่มช่องทรัพยากร + 5]
“ระบบ ข้าสามารถใช้งานได้อย่างไร”
[โฮสต์สามารถเรียกช่องทรัพยากรได้ผ่านทางจิตแล้วใส่วัตถุในช่อง ทรัพยากร]
นพเก้าหยิบสร้อยคอทองคำ 1 บาทที่น้องสาวให้เป็นของขวัญวันเกิดใส่ในช่องทรัพยากรตรงหน้า
[ช่องทรัพยากร]
[ความจุ 1/5]
[วัตถุ: สร้อยคอทองคำ 1 บาท (ระยะเวลาเพิ่มจำนวน 23 ชั่วโมง 59 นาที 53 วินาที: อัตราเพิ่มจำนวน 1 เท่าตัว)
“ระบบ ถ้ามันครบ 24 ชั่วโมงมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นจริงเหรอ แล้วมันมีข้อจำกัดหรือไม่”
นพเก้าอดสงสัยไม่ได้
[จริงแท้แน่นอน]
[โฮสต์โปรดอย่าสงสัยในความสามารถของระบบ ต่อให้เป็นไอเทมระดับทำเจ้าก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ย่างไม่สิ้นสุด]
“ผลเพิ่มความฉลาด” นพเก้ารู้สึกตกตะลึง มันมีสมบัติวิเศษเช่นนั้นด้วยหรือ
“เจ้าไปได้ยินมาจากไหน”
“พี่ชายข้าบอกมาว่ามันอยู่ในป่าแห่งนี้” ฉินอวี้หลิงตอบโดยไม่กะพริบตา
“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เจ้าเข้ามาที่นี่หรือ” นพเก้าซักถาม เขาเริ่มเห็นถึงสัญญาณของปัญหา
“ใช่ พี่ชายบอกข้าว่าข้าโง่เกินไป นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ข้าไม่สามารถฝึกฝนได้ หากข้ากินผลเพิ่มความฉลาดเข้าไป มันจะทำให้ข้าเป็นอัจฉริยะ” เด็กสาวตอบด้วยแววตาใสซื่อ
“ระบบ มันมีจริงหรือ”
[จะไปมีได้อย่างไร] ระบบตอบอย่างเด็ดขาด ยีนเป็นตัวกำหนดค่าความฉลาดของมนุษย์ต่อให้ฝึกฝนมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
นพเก้าเข้าใจบางส่วนแล้ว เขารู้แล้วว่าเด็กหญิงตัวน้อยนี้โง่จริงๆ หากไม่ใช่เพราะเป็นบุตรแห่งโชคชะตาคงถูกสัตว์ร้ายกินตั้งแต่เข้าป่าเขตนอกแล้ว
“ข้าว่าเจ้าถูกพี่ชายหรอกแล้วหล่ะ”
“ไม่จริง พี่ชายข้าเป็นคนดี ไม่เคยโกหกข้า” เด็กสาวปฏิเสธเสียงแข็ง
“หากข้าเดาไม่ผิดการที่เจ้าหลบหนีออกมาจากคฤหาสน์เจ้าเมืองได้ ส่วนนึงเป็นเพราะพี่ชายเจ้าให้ความช่วยเหลือใช่หรือไม่” นพเก้าคาดเดา
“ท่านรู้ได้อย่างไร” ฉินอวี่หลิงตกตะลึง
นพเก้ารู้สึกพูดไม่ออก ชัดเจนว่าพี่ชายของนางไม่ใช่คนดี แต่กลับเป็นสารเลวโดยแท้จริง อย่างไรก็ตามเมื่อนพเก้าต้องการรับนางเป็นศิษย์ เขาก็ต้องช่วยแก้ปัญหาในโลกมนุษย์ให้นางเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามรังควานในอนาคต
“เอาล่ะ เจ้าไปเดินเล่นกับข้า” อย่างแรกคือต้องปลุกสายเลือดให้นางก่อน หากผู้คนรับรู้ว่าแท้จริงแล้วนางเป็นอัจฉริยะ พวกที่อยู่เบื้องหลังจะโผล่หางออกมาเอง เขาไม่เชื่อว่าจะมีแค่พี่ชายสารเลวของนางสามารถทำเรื่องต่างๆ ได้ด้วยตนเอง
ฉินอวี้หลิงไม่ได้ตอบกลับนางทำเพียงเดินตามออกจากหอคอย
“ยักษ์แดงเดือด นำทางข้าไปหาสัตว์อสูรประเภทนกระดับจักรพรรดิ” นพเก้าสั่ง เขาต้องการแก่นแท้โลหิตของอสูรปักษาเพื่อกระตุ้นการตื่นสายเลือดของนาง ลำพังแค่สมุนไพรระดับ 7 ในมือเขามันไม่เพียงพอ
“รับทราบนายท่าน ข้ารู้จักสถานที่หนึ่งเป็นรังของปักษาพิรุณ” ยักษ์แดงเดือดรู้สึกตื่นเต้น มันไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าสร้างปัญหา เพียงแต่ตอนนี้มันยังอ่อนแอเกินไปเท่านั้น
“จับมือข้าไว้” นพเก้าจับมือของเด็กสาวแล้วถ่ายเทพลังศักดิ์สิทธิ์ลงพื้น จากนั้นพวกเขาก็ลอยออกไปด้วยความเร็วสูงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
กรี๊ดด
เด็กสาวกรีดร้องออกมา นางตกใจมากจนใช้มือทั้งสองกอดแขนขวาของนพเก้าไว้แน่น นางเคยขึ้นเครื่องบินเป็นประจำตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยพบเจอประสบการณ์เช่นนี้ ต่อให้มีเงินมากมายก็ไม่สามารถจ้างนักรบขอบเขตจักรพรรดิมาเป็นเครื่องบินส่วนตัวได้
ห่างออกไปจากที่นี่ 30 กิโลเมตร จักรพรรดิปักษาพิรุณกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์พรางฟังการรายงานข่างของลูกน้องเบื้องล่าง
“ตอนนี้ปีศาจไม่ทราบที่มา มันรุกคืบเขตแดนของเรามาสามส่วนสี่แล้วพะยะค่าฝ่าบาท ข้าเกรงว่าด้วยการเติบโตของพวกมันอาจใช้เวลาไม่เกินหนึ่งเดือนพวกมันจะรุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของเราอย่างสมบูรณ์”
นกแร้งชราที่เป็นระดับราชันด้านล่างกำลังรายงานสถานการณ์ด้วยความหนักใจ ตั้งแต่ก่อตั้งถื่นฐานขึ้นมา พวกมันไม่เคยเจอภัยพิบัติเช่นนี้มาก่อน จากการรุกรานของพวกมันทำให้ทรัพยากรป่าไม้หมดไปอ่างรวดเร็ว ส่งผลให้สัตว์อสูรไร้สติปัญญาออกหากินนอกอาณาเขต ทำให้มันต้องลงมือจัดการหรือไล่พวกมันออกไปด้วยตนเอง
“เจ้ารู้หรือยังว่าใครอยู่เบื้องหลัง” จักรพรรดิปักษาพิรุณพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เราทราบผู้อยู่เบื้องหลังแล้วพะยะค่ะ อีกฝ่ายเป็นอสูรจิตวิญญาณขอบเขตจักรพรรดิขั้นต้น คาดว่ามันทำไปด้วยคำสั่งของผู้บงการเบื้องหลัง จากหน่วยข่าวกรองตอนนี้ผู้บงการได้ปรากฏตัวออกมาแล้วพะยะค่ะ”
เมื่อรองผู้นำในเผ่าได้ฟังก็มีสีหน้าหนักใจ ต้องเป็นตัวตนระดับใดกันแน่จึงควบคุมสัตว์อสูรของเขตจักรพรรดิได้ ละการที่อีกฝ่ายปรากฏตัวออกมาแล้วแสดงว่าต้องมีความมั่นใจในการรับมือกับอสูรร้ายทั่งป่ามรณะได้
“แต่กระหม่อมคิดว่าฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องกังวลพะยะค่ะ เนื่องจากผู้บงการจะอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเช่นเดียวกัน” นกแร้งชราพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ
“ดูเหมือนอีกฝ่ายจะอยู่ในขอบเขตขั้นสูงสิน่ะ” จักรพรรดิปักษาพิรุณคาดเดา ตัวมันเองอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิขั้นสูงสุดเขาเชื่อว่าตนเองสามารถรับมือกับผู้อยู่เบื้องหลังได้ อย่างไรก็ตามมันยังคงส่งข่าวดีนี้ออกไปเพื่อร่วมมือกับจักรพรรดิสัตว์อสูรตนอื่นๆ เพื่อความแน่นอนมันควรอาศัยพันธมิตรชั่วคราวเพื่อช่วยกันจัดการ
การต่อสู้ระดับจักรพรรดิไม่ส่งผลดีต่อใคร มันเปรียบเหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์ หากมีฝ่ายใดฝ่ายนึงบาดเจ็บ การรักษาอาการบาดเจ็บจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรระดับสูงจำนวนมาก และเวลานั้นหมายความว่าเผ่าพันธุ์ของพวกมันจะเข้าสู่สภาวะอ่อนแอในช่วงเวลานั้น
“ส่งสารออกไปเรียกรวมตัวอีกสามจักรพรรดิ” ในบรรดาจักรพรรดิอสูรในป่ามรณะยังมีอีกสามตัว คือ จักรพรรดิเสือขาวอัสนี จักรพรรดิกิ้งก่าเพลิง และจักรพรรดิกระทิงวายุ พวกมันทั้งสี่เป็นลูกหลานของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ในตำนานเมื่อห้าร้อยปีก่อนพวกมันเกิดมาพร้อมกับสายเลือดอันสูงส่งจึงมีอำนาจสะกดข่มเผ่าพันธุ์ชั้นล่างแต่กำเนิด นอกจากทั้งสี่จะต่อสู้กันเองเป็นครั้งคราวแล้ว จะไม่มีผู้บุกรุกอื่นๆ เข้ามาแย่งชิงมากนัก
ขณะที่มันกำลังเตรียมตัวไปจุดนัดพบนั้นเอง
ฟรึบ
มีนกกระยางตัวนึงบินมาด้วยเร็วสูงสภาพของมันเหมือนกับพึ่งโดนถอนขนและกำลังจะโดนต้มน้ำร้อน
“แย่แล้วท่านราชา เราถูกโจมตีจากทุกทิศทาง ขอพระองค์ทรงช่วยจัดการด้วย”
ไม่นานจากนั้นก็มีหัวหน้าเผ่าเล็กใหญ่บินมาโดยพูดประโยคเดียวกัน ต่อให้พวกมันเป็นผู้ฝึกยุทธขอบเขตราชัน การที่จะสู้กับอสูรเกือบสามแสนตัวนั้นเป็นไปไม่ได้
“ถูกโจมตี ใครกันช่างกล้านัก” จักรพรรดิปักษาพิรุณกำลังอยู่ในรังของมัน เป็นตัวไหนกันที่มีความกล้าหาญเช่นนี้
“เป็นปีศาจพวกนั้นพะยะค่ะ” นกแร้งชราที่สื่อสารกับทุกคนทางจิต มันเรียบเรียงสถานการณ์และรายงานผลกระทบภาพรวมทั้งหมด และดูเหมือนว่าผู้อยู่เบื้องหลังจะลงมือด้วยตนเอง
“ดี ดี ดูเหมือนพวกเราจะไม่ได้ออกไปนานจนเกินไป จนโลกลืมความน่ากลัวของเผ่าพันธุ์ปักษาเสียหมดแล้ว”
หลังจากพูดจบจักรพรรดิปักษาพิรุณก็แปลงร่างเป็นนกยักษ์สีฟ้าแล้วพุ่งออกไปทางค่ายป้องกันตะวันตกเฉียงใต้
ณ ตอนนี้ค่ายป้องกันทุกทำลายอย่างยับ โดยปีศาจสีแดงนับไม่ถ้วน นี่เป็นการรุมสกรัมอย่างแท้จริง พวกปีศาจดุร้ายพวกนี้หลังจากทำลายค่ายได้สำเร็จพวกมันกแย่งชิงเหยื่อกันเองด้วยความหิวโหยไม่ต่างกับซอมบี้
“ได้เวลาเริ่มแผนขั้นที่สองแล้ว” ขั้นแรกของนพเก้าคือการสร้างกองกำลังนักรบโลหิตจำนวนมหาศาลแล้วบุกยึดทรัพยากรให้มากที่สุด ขั้นต่อไปคือล่อผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาแล้วสยบพวกมัน ด้วยประสบการณ์ ความรู้และพลังงานที่ส่งต่อมาจากอสูรสามแสนตน ส่งผลให้จิตวิญญาณของเขาไม่ค่อยมั่นคง และเริ่มรู้สึกกระหายเลือดตลอดเวลา เขาจำเป็นต้องรีบทะลวงเขตแดนเพื่อปลุกจิตวิญญาณตัวที่สอง “สุวณฺณอหังการ” โดยเร็วที่สุดไม่เช่นนั้นตัวเขาอาจกลายเป็นคนบุคลิกบ้าคลั่ง นอกจากนี้ยังทำให้พันธสัญญากับยักษ์แดงเดือดถูกทำลาย แล้วอีกฝ่ายก็จะบ้าคลั่งเช่นกันก่อนที่จะแตกดับไป
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เขาไม่อยากควบคุมอสูรขอบเขตจักรพรรดิมากนัก ตัวของพวกมันล้วนเต็มไปด้วยผลกรรม และเจตนาสังหารที่ซึมซับจากความอาฆาตแค้นของศัตรู อย่างไรก็ตามหากพวกมันขัดขืนเขาก็ไม่เกรงใจนักที่จะเปลี่ยนพวกมันเป็นอสูรโลหิตระดับจักรพรรดิ
ฟรึบ
ไม่นานร่างนกยักษ์ก็ปรากฏขึ้นบนฟ้า มันสะบัดปีกเพื่อเรียกฝนออกมาชำระทะเลเพลิงทันที
โฮกก
อสูรโลหิตเดิมทีพวกมันเกิดจากธาตุไฟ ทำให้พวกที่อยู่ต่ำกว่าระดับราชันเสียชีวิตทันที
“ไอบัดซบ” ยักษ์แดงเดือดตะโกนด้วยความโมโห ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะรวบรวมอสูรมามากมายขนาดนี้ อีกฝ่ายลงมือครั้งเดียวส่งผลให้อสูรโลหิตตกตายไปเกือบหมื่นตัว มันรู้สึกได้ว่าพลังศักดิ์ขอบเขตจักรพรรดิของมันลดระดับลงจากขั้นกลางลงมาขั้นต้นอีกครั้ง ต้องรู้ก่อนว่าเพลิงแห่งความละโมบมันแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยอำนาจหนุนเสริมซึ่งกันและกัน
“เจ้าน่ะรึผู้นำของพวกมัน ข้าว่าเจ้ายอมถอยแต่โดยดีเสียเถอะ ข้าจะไม่ถือสาเอาความเรื่องนี้” จักรพรรดิปักษาพิรุณพยายามระงับความโกรธ แล้วพูดด้วยท่าทีประณีประนอม จังหวะนี้มันไม่ต้องการยั่วยุอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพียงถ่วงเวลารอกำลังเสริมจากอีกสามจักรพรรดิเท่านั้น
“นายท่าน ท่านเห็นหรือไม่ มันกำลังท้าทายพวกเรา มันหาว่าพวกเราเป็นพวกขี้ขลาดตาขาว ฟังน่ะไอนกเฒ่า หากอยากต่อสู้ก็มาสู้กับข้าสามร้อยยก” ยักษ์แดงเดือดควงแขนของมันต้องการจะลงมือทุบตีอีกฝ่าย
เมื่อจักรพรรดิปักษาพิรุณได้ยินประโยคนี้มันแทบสำลักกลางอากาศ เจ้าตีความเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร
“การถ่วงเวลาของเจ้าไร้ความหมาย หากยอมสวามิภักดิ์ต่อข้าขอบเขตจ้าวสวรรค์อยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น” นพเก้าพูดจาไร้สาระออกมา เขารู้ดีว่าอย่างไรก็ต้องจัดการอีกฝ่ายอยู่ดี แต่ในฐานะผู้มีคุณธรรมสูงส่งเขาจะกระทำการป่าเถื่อนโดยไร้เหตุผลได้อย่างไร
“พูดจาขี้โม้” จักรพรรดิพิรุณมีหรือจะยอมจำนน รอให้สหายอีกสามตนของมันมาก่อนเถอะ ดูสิว่าเด็กมนุษย์เหลือขอผู้นี้จะกล้าทำตัวกล่างแบบเมื่อครู่อีกหรือไม่
“เช่นนั้นแสดงว่าจ้าเลือกที่จะต่อต้าน ข้าไม่อยากทำเช่นนี้นัก แต่เป็นเจ้าบังคับข้าเอง” นพเก้ากำหมัดแน่นรู้สึกถึงความอยุติธรรม
“บัดซบ หากต้องการสู้นักก็เข้ามา” จักรพรรดิอสูรอย่างมันก็มีศักดิ์ศรีเช่นกัน มันจะทนการยั่วยุต่อไปโดนไม่ทำสิ่งใดได้อย่างไร
สิ้นเสียงของมัน มันพุ่งขึ้นไปกลางอากาศสูงกว่าเดิมจนเห็นว่ามันมีขนาดเท่ามด จักรพรรดิพิรุณต้องการใช้ท่าไม้ตายสูงสุดจบการต่อสู้ในทันที มันโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาหกส่วนในพริบตา จากนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ควบแน่นเป็นวารีที่มีสภาวะแรงโน้มถ่วงมหาศาล แต่ละหยดที่ควบแน่นมันมีน้ำหนักเกือบถึงหนึ่งกิโลกรัม ด้วยการก่อตัวที่เหมือนกับวังวนพายุนั้นเต็มไปด้วยหยดวารีควบแน่นมากกว่าสิบล้านหยด หากมันปลดปล่อยออกมาพื้นที่ป่ามรณะที่มีรัศมีร้อยกิโลเมตรตรงหน้าจะหายไปในพริบตา
“รับการโจมตีนี้ไปซะ” จักรพรรดิปักษาพิรุณพุ่งลงมาพร้อมกับเกราะวารีแรงโน้มถ่วงมันต้องการใช้กายาจักรพรรดิของมันเพิ่มแรงปะทะจากแรงโน้มถ่วงอีกเท่าตัว ด้วยไม้ตายของมันส่งผลให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า
พริบตาต่อมานพเก้าเห็นนกยักษ์ขนาดมากกว่า 10 เมตรปรากฏตรงหน้า เขาเพียงกำหมัดเสริมพลังธาตุทองลงไปเท่านั้น พลังศักดิ์สิทธิ์จากตันเถียนของเขาไหลออกมาอย่างบ้าคลั่งจนเสริมให้หมัดขวาของเขากลายเป็นเกราะกรงเล็บสีทอง มันแผงไปด้วยอำนาจสะกดข่มต่อธาตุน้ำ
“ยังไม่พอ” เขาเสริมพลังอัดแน่นลงไปอีกจนปรากฏวงแหวนเวทย์ร่ายวนตั้งแต่แขนท่อนปลายจนสุดโคนมือ
“รูปแบบที่ 9 กลืนวิมารสวรรค์” กระบวนท่านี้เป็นกระบวนท่าสุดท้ายของเคล็ดวิชาอสุราทองคำ เขาปล่อยพลังหมัดออกไปทันที ทันใดนั้นรูปร่างของพลังศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนไป มันเปลี่ยนลักษณ์กลายเป็นเทพสามตาหกแขนปล่อยหมัดทั้งหกออกไปติดๆ กัน
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง
พลังทั้งสองปะทะกันกลางอากาศส่งผลให้เกิดระลอกคลื่นมากกว่าหกสายกระจายออกไปรัศมีร้อยเมตร คลื่นพลังงานที่กระจายออกไปตัดภูเขาและต้นไม้ที่สูงกว่า 5 เมตรสลายหายไปอย่างสมบูรณ์
“เป็นไปได้อย่างไร” จักรพรรดิปักษาพิรุณรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีความสามารถทัดเทียมกับเขา โดยปกติมนุษย์ขอบเขตเดียวกันจะอ่อนแอกว่าอสูรมากนักหากใดออีกฝ่ายถึงต่อต้านได้
แต่ไม่รอให้มันตื่นตกใจ นพเก้าได้ปล่อยหมัดที่โคจรจากมือซ้ายออกไปอีกครั้ง แรงปะทะครั้งนี้พุ่งตรงไปที่กลางกระบาลของจักรพรรดิปักษาพิรุณเต็มๆ มันรู้สึกเหมือนมีค้อนทุบหัวของมันหกครั้งติดต่อกัน
อ๊ากกก
มันกรีดร้องออกมาขณะที่มันลอยไปไกลกว่าสิบกิโลเมตร ตอนนี้ร่างกายของมันรู้สึกเป็นนกสับ กระดูกทั่วร่างของมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่อาจขยับตัวได้
ตู้ม
ภูเขาที่อยู่ไกลออกไปพังทลายปรากฏหลุมครึ่งวงกลมมากกว่า 50 เมตรที่มีซากนกอยู่ข้างใน
“แข็งแกร่งมาก” ฉินอวี้หลิงตกตะลึง นางไม่เคยเห็นการต่อสู้ระดับจักรพรรดิมาก่อน แต่เท่าที่นางเคยฟังจากปู่ของนางมันไม่ได้เว่อวังขนาดนี้ นางนึกสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นเทพสงครามจากเมืองศักดิ์สิทธิ์ปลอมตัวมาหรือไม่ นางอดนึกถึงเทพสงครามไม่ได้ ปู่ของนางเคยบอกว่าเทพสงครามคือนักสู้ที่มีพลังมากกว่าขั้นเดียวกันถึงสิบเท่าเป็นอย่างน้อย
“โอว ข้าลงมือรุนแรงเกินไป” นพเก้าลืมไปเช่นกันว่าในชาติที่แล้วเขาก็เป็นสัตว์ประหลาดที่ต่อกรกับระดับเดียวกันได้ร้อยคนพร้อมกัน หากเขาไม่โดยรุมล้อมแล้วรอดไปได้ เป็นไปได้ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้
“ไปลากมันกลับมา” นพเก้าสั่งยักษ์แดงเดือดเขาจำเป็นต้องเอาแก่นแท้ของมันขณะที่มีชีวิต หากมันตกตายไปการมาครั้งนี้ของเขาจะเสียเปล่าไปเกินครึ่ง เขาไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกครั้งตอนไหน เพราะจักรพรรดิสายพันธุ์ส่วนใหญ่ล้วนอ่อนแอละไม่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียนอยู่
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาสำคัญมักจะมีคนมาขัดเสมอไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือชาตินี้
มีพลังศักดิ์สิทธิ์โจมตีเข้ามาหาเขาพร้อมกันสามทิศทาง
“เกราะโลหิต” สิ้นเสียงของนพเก้าอสูรรอบกายมากกว่าพันตัวที่เหลืออยู่ในรัศมีสิบกิโลเมตรกลายเป็นละอองเลือดพุ่งเข้ามากลายเป็นโดมสีแดงอย่างรวดเร็ว รูปแบบที่สองของเพลิงแห่งความละโมบ “สังเวยโลหิต” ตอนนี้ข้างในโดมเหลือเพียงเขา ฉินอวี้หลิงและยักษ์แดงเดือดเท่านั้น สัตว์อสูรขอบเขตราชันล้วนเปลี่ยนเป็นพลังงานป้องกันทั้งหมด
ตู้มม!
เกราะโลหิตที่มีพลังระดับจักรพรรดิขั้นสูงสุดแตกกระจายในพริบตา เขาจึงโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อสร้างโล่อีกชั้นขึ้นมา ไม่เช่นนั้นเด็กสาวคงจะเละกลายเป็นเต้าหู้ในพริบตา ส่วนยักษ์แดงเดือดมันเป็นอสูรจิตวิญญาณ หากเขาไม่ตายมันก็ไม่สามารถตายได้ต่อให้มันต้องการก็ตาม
“มนุษย์แข็งแกร่ง” วานรที่ปรากฏตัวเพียงครึ่งบนโดยที่ท่อนล่างเป็นสายลมพูดขึ้น จากนั้นอสูรที่เป็นเสือขาวและกิ้งก่าเพลิงก็ปรากฏตัวขึ้นตามมา พวกมันปิดล้อมเขาเป็นรูปสามเหลี่ยม จักรพรรดิอสูรแต่ละตัวมีความสูงมากกว่า 10 เมตรดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
“มนุษย์ตายเสีย” ทั้งสามไม่พูดพร่ำทำเพลงลงมือพร้อมกันอีกครั้ง พวกมันได้แอบดูการต่อสู้เมื่อครู่จากระยะไกล การโจมตีของนพเก้าทำให้พวกมันขนหัวลุกซู่ พวกมันแน่ใจแล้วว่าสหายผู้มีปีกของมันตายไปแล้วอย่างแน่นอน
พวกมันทั้งสามโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์แล้วโจมตีระยะไกล ตอนนี้พวกมันมั่นใจว่าการโจมตีของนพเก้าทั้งสองครั้งจะต้องเผาผลาญพลังไม่ต่ำกว่าครึ่ง ตอนนี้ทำเพียงรุมโจมตีให้อีกฝ่ายเผาผลาญพลังจนหมดสิ้นก็เป็นอันว่าชัยชนะอยู่ในมือของพวกมัน
“อย่าให้มันมากนัก” นพเก้ารู้สึกเดือดดาล หากเมื่อครู่เขาไม่ใช้วิชาสังเวยโลหิตเป็นไปได้เด็กสาวผู้นี้อาจตกตายไปแล้ว เขาจะยอมให้ผู้มีอนาคตมาตายให้กับเดรัจฉานสามตัวนี้ได้อย่างไร
ในเมื่ออีกฝ่ายอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิขั้นสูงสุด เขาก็ไม่มีทางเลือกมากนัก เขาหลับตาลงพร้อมกับทุกไปที่ทะเลปราณของเขา
ตู้ม
เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ขึ้นราวกับเวลาหยุดลง ผมของนพเก้าลอยขึ้นและเปลี่ยนเป็นสีเงิน
อสูรทั้งสามที่โคจรพลังรู้สึกว่าร่างกายถูกแช่แข็ง การโจมตีที่พวกมันกำลังส่งออกไปหายไปในอากาศ พวกมันไม่เคยรู้สึกไร้อำนาจขนาดนี้มาก่อน มันไม่ใช่ความรู้สึกคุกคามของอำนาจจักรพรรดิ แต่เป็นอำนาจต้นกำเนิดจากวิถีสวรรค์
“ข ขอบเขตจ้าวสวรรค์” พวกมันรู้สึกหวาดกลัว อีกฝ่ายมีพลังของสวรรค์ได้อย่างไร
“นายท่าน” ยักษ์แดงเดือดรู้สึกว้าวุ่น อย่างไรก็ตามมันไม่ได้รู้สึกว่าเจ้านายของมันทำเกินไป ด้วยการกลุ่มรุมจากจักรพรรดิขั้นสูงสุดสามตนจึงทำได้เพียงทำลายพลังของขอบเขตครึ่งก้าวสวรรค์เพื่อเปลี่ยนเป็นการโจมตีโดยใช้อำนาจกฎสวรรค์ แต่การกระทำเช่นนี้จะทำให้ทะเลปราณเสียหาย กฎสวรรค์ดั้งเดิมถูกทำลายไม่อาจสร้างใหม่ได้อีก ติดอยู่ในขอบเขตครึ่งก้าวจ้าวสวรรค์ตลอดชีวิต
ในทางกลับกันนพเก้าหาได้เสียดายไม่ เขามีตันเถียนถึงสองอันต่อให้เสียไปหนึ่งก็อย่างมีอีกหนึ่งที่ประคับประคองชีวิต มันไม่มีความหมายใดๆ หากต้องมาถูกฆ่าตายที่นี่โดยไม่ได้เริ่มแผนการแก้แค้นใดๆ
“กฎสวรรค์ อำนาจผู้ปกครอง” นพเก้ากำมือขวาเบาๆ แต่อำนาจแห่งกฎสวรรค์ส่งผลให้รัศมีพันกิโลเมตรตกอยู่ในความโกลาหล สัตว์อสูรที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเขาล้วนถูกพลังลึกลับสะกดข่มไม่อาจรุกขึ้นได้ รัศมีกระจายไปครึ่งเมืองเวสสุวรรณ ตั้งแต่นักล่าในเขตนอกป่ามรณะจนถึงผู้คนที่อาศัยในเขตตะวันตกล้วนไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
“เกิดอะไรขึ้นข้างในกันแน่” รองเจ้าเมืองรู้สึกหวาดกลัว สิ่งนี้เกิดจากตัวตนระดับใดกันแน่
ณ ร้านเกมแห่งหนึ่งมีบุรุษวัยกลางคนกำลังเล่นเกมแนว MOBA อยู่ จู่ๆ บรรยากาศรอบๆ ก็ถูกพลังกดทับ ตัดการเชื่อมต่อของเขาในพริบตา
“บัดซบ อีกนิดเดียวจะชนะแล้วเชียว” เขาสบถออกมาแล้วลุกขึ้นยืน ตอนนี้ทั้งร้านมีเพียงเขาเท่านั้นที่ยังดูปกติ
“มันเป็นฝีมือของใครกันแน่” บุรุษวัยกลางคนผู้ไว้ผมยาวสีทองขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าจะมีตัวตนขอบเขตจ้าวสวรรค์ในเขตพื้นที่กันดารเช่นนี้ คนผู้นี้ไม่ใช่ใครแต่เป็นเทพสงครามจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพจันทรา เป็นเวลาหลายปีแล้วที่พี่สาวของเขาหรือจักรพรรดินีเทพจันทรายอมปล่อยตัวเขาออกมา นอกจากฝึกฝนแล้ว เขาไม่มีอย่างอื่นทำ และเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกตามใจชอบ ครั้งนี้มีภารกิจให้สืบหาตัวตนของจักรพรรดิรุ่นเยาว์เขาจึงใช้โอกาสอยู่ข้างนอกให้นานๆ หน่อย สำหรับภารกิจเขาม่ได้สนใจนัก ที่ต้องทำเพียงพาอีกฝ่ายกลับไป หากปฏิเสธก็กำจัดทิ้ง นี่เป็นการกระทำปกติในโลกยุทธภพ ตอนนี้เขาบินตรงไปทางทิศตะวันตกของป่ามรณะ
นี่เป็นครั้งแรกที่นพเก้าใช้อำนาจกฎสวรรค์ เขาจึงไม่สามารถควบคุมพลังได้ เขาต้องรีบจบการต่อสู้ทันทีก่อนที่ผลกระทบจะมากไปกว่านี้
“ตาย” มีคำเดียวปรากฏขึ้นในใจของอสูรจักรพรรดิทั้งสาม มันรู้สึกเสียใจอย่างมาก มันไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ ด้วยการปล่อยหมัดออกไปสามทิศทาง จักรพรรดิอสูรทั้งสามหายไปในพริบตาไม่เหลือเศษซากใดๆ ไม่สามารถนำมาเป็นอสูรโลหิตได้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้ใครใช้ให้เขาแข็งแกร่งเกินไปในตอนนี้
อัคค
หลังจากการโจมตีสิ้นสุดลง อำนาจกฎแห่งสวรรค์ก็หายไป แรงกดดันจากอำนาจลึกลับหายไปราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมของนพเก้ากลับมาเป็นสีดำอีกครั้ง แต่ไม่ทั้งหมดยังคงมีบางส่วนที่แซมสีเงินเอาไว้เนื่องจากดูดซับกฎแห่งสวรรค์เข้าไปบางส่วน หากใช้เป็นวัตถุดิบปรุงโอสถระดับของมันคงเทียบกับระดับ 8 เป็นอย่างน้อย
เขาคุกเข่าลงเอามือกุมหน้าอก เขารู้สึกเหมือนสูญเสียบางอย่างไป กฎแห่งสวรรค์เพียงหนึ่งเดียวในชีวิตที่แล้วแตกสลายไป ตอนนี้เขาอยู่เพียงขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสมบูรณ์เท่านั้น แต่ดูเหมือนโชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ
“มันจบแล้ว รีบไปเอาศพของปักษาพิรุณมาเร็วเข้า” เขายังมีความหวังเล็กน้อยว่าอีกฝ่ายยังไม่ตาย
จากนั้นไม่นานยักษ์แดงเดือดลากร่างของนกยักษ์สีฟ้ากลับมา
“นายท่านดูเหมือนตอนนี้มันจะมีชีวิตอยู่”
“ดีแล้ว” นพเก้าโล่งอก เขาเรียกใช้รูปแบบที่หนึ่งของเพลิงแห่งความละโมบทันที ต้องรีบเปลี่ยนปักษาพิรุณเป็นอสูรโลหิตทันทีก่อนที่มันจะตายแล้วสูญเสียประสิทธิภาพแก่นแท้ไป
“นี่” ฉินอวี้หลิงที่ยังตกใจกับการต่อสู้ไม่หาย ก็รู้สึกพรั่นพรึงอีกครั้ง นี่มันวิชาอะไรกัน ภาพที่เห็นคือยกษ์ยักษ์ตรงหน้าค่อยๆเหือดแห้งเป็นซากศพแห้ง จากนั้นก็ปรากฏนกยักษ์สีแดงขึ้นด้านข้างที่มีรูปลักษณ์เหมือนกันอย่างชัดเจน เมื่อนักรบหรืออสูรโลหิตบรรลุถึงขอบเขตจักรพรรดิ พวกมันจะมีรูปร่างเหมือนกับตอนมีชีวิตทุกประการ แตกต่างตรงที่ตัวของมันเป็นสีแดงทั้งหมด
“นายท่าน” จักรพรรดิปักษาพิรุณรู้สึกซาบซึ้งที่เจ้านายของมันยังคงรักษาจิตวิญญาณดั้งเดิมไว้ให้ มันจึงยังจำเหตุการณ์เมื่อครู่ได้ทุกอย่าง ตอนนี้มันรู้สึกได้ว่าพลังของมันเชื่อมต่อกับนายท่านและอสูรทุกตนราวกับเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยการใช้เคล็ดวิชาระดับศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ส่งผลให้มันเคารพนพเก้าอย่างแท้จริง ด้วยพลังโคตรโกงเช่นนี้มันไม่จำเป็นต้องบ่มเพาะอีกต่อไป ทำเพียงฆ่าศัตรูเพื่อขยายกองทัพเท่านั้น
“เอาแก่นเลือดเก้าส่วนออกมา” นพเก้าสั่งมัน
“น้องรับบัญชา” มันไม่รู้สึกเสียดายแต่อย่างไร ทันใดนั้นตัวของมันก็มีขนาดเล็กลงจนเหลือเท่านกขมิ้น ระดับของมันเหลือเพียงขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ขั้นต้น
นพเก้ารับหยดเลือดตรงหน้าหลังจากโคจรพลังและบริกรรมคาถา เขาชี้นิ้วออกไปตรงหน้าฝากของฉินอวี้หลิน หยดเลือดเข้าไปในหน้าผากของนางทันที
ฉินอวี้หลิงตกตะลึงจากคำพูดและคาถาบางอย่างที่แฝงเข้ามาในหยดเลือด หยดเลือดมันกระจายไปทั่วร่างกายราวกับมีชีวิต มันวิ่งไปตามเส้นลมปราณต่างๆ ก่อนที่จะบรรจบลงศิลาในตันเถียนของนาง
ตอนนี้ตัวของนางนั่งลงทำท่าสมาธิเพราะกำลังโคจรทิศทางพลังตามคำพูดของนพเก้าในจิตใต้สำนึกของนาง ตอนนี้นางตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์