อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด - บทที่ 15 ครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์ โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ผู้แต่ง

ยักษาบรรพกาล

เรื่องย่อ

นพเก้าเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นแม่แต่น้อย

“ระบบการแสดงของข้าเป็นอย่างไรบ้าง” 

นพเก้าถาม

[ติ๊ง ประทับใจ]

ระบบตอบ

[ติ๊ง ของแสดงความยินดีโฮตส์ได้แสดงการวาดยันต์บุพภาลำเนาไพรฉบับสมบูรณ์ การกระทำของโฮสต์เริ่มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปรงด้าน อุตสาหกรรมยันต์วิญญาณระดับภูมิภาค รางวัล: เพิ่มช่องทรัพยากร + 5]

“ระบบ ข้าสามารถใช้งานได้อย่างไร”

[โฮสต์สามารถเรียกช่องทรัพยากรได้ผ่านทางจิตแล้วใส่วัตถุในช่อง ทรัพยากร]

นพเก้าหยิบสร้อยคอทองคำ 1 บาทที่น้องสาวให้เป็นของขวัญวันเกิดใส่ในช่องทรัพยากรตรงหน้า

[ช่องทรัพยากร]

[ความจุ 1/5]

[วัตถุ: สร้อยคอทองคำ 1 บาท (ระยะเวลาเพิ่มจำนวน 23 ชั่วโมง 59 นาที 53 วินาที: อัตราเพิ่มจำนวน 1 เท่าตัว)

“ระบบ ถ้ามันครบ 24 ชั่วโมงมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นจริงเหรอ แล้วมันมีข้อจำกัดหรือไม่” 

นพเก้าอดสงสัยไม่ได้

[จริงแท้แน่นอน]

[โฮสต์โปรดอย่าสงสัยในความสามารถของระบบ ต่อให้เป็นไอเทมระดับทำเจ้าก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ย่างไม่สิ้นสุด]

สารบัญ

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 1 บทนำ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 2 เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 3 กลับบ้าน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 4 นพเก้า ปะทะ หวงอี้เฟย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 5 กายาสวรรค์ จุติจักรพรรดิในก้าวเดียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 6 อัจฉริยะในรอบพันปี,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 7 อันตัวข้าผู้สืบทอดเป็นคนใจกว้าง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 8 เทศกาลสวมหมวกเขียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 9 เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย โอเคได้เลย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 10 พบบุตรแห่งโชคชะตา,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 11 จิตใจของข้าแตกสลายเป็นล้านๆชิ้น,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 12 ความลับตระกูลหวง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 13 พบเจอกายาอมตะ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 14 บุกรังจักรพรรดิปักษาพิรุณ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 15 ครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 16 สร้างประตูมิติ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 17 ฝากคำทักทายเจ้าเมือง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 18 สอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 19 ใครบอกกันว่าข้าจะสอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 20 การปรากฏขึ้นของโอสถระดับตำนาน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 21 ความเย่อหยิ่ง ปะทะ ความจองหอง

เนื้อหา

บทที่ 15 ครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์

ขณะที่ฉินอวี้หลิงกำลังบริกรรมคาถาปลุกสายเลือดของนาง อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ นพเก้าก็เปิดหน้าต่างระบบเขาจำได้ว่าเมื่อเช้าระบบได้ให้รางวัลสุ่มกาชาฟรี 10 ครั้ง

“สาธุมะยังภันเต ของให้ได้ขอให้โดน” นพเก้ายกมือขึ้นทำท่าสวดอ้อนวอนต่อเทพยดาต่างๆ บางทีเขาอาจได้ไอเทมระดับทองอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เข้าไปในมิติเอกเทศแล้วกดปุ่นอธิษฐาน

[ติ๊ง เปิดฟังก์ชันการอธิษฐานสมบัติมงคล] สิ้นเสียงของระบบมีวัตถุลงมาจากฟ้ารอบนี้มาปรากฏสีแดง 1 ดวง สีทอง 1 ดวง และสีม่วง 1 ดวง

“เยสส” ดูเหมือนการทำพิธีก่อนสุ่มรางวัลจะได้ผลจริง เขารีบเปิดดูไปเทมสีแดงที่สว่างจ้านี้ทันที

[รางวัล: ลูกบาศก์กำราบพระเจ้า (ไอเทมใช้ครั้งเดียว) ไอเทมระดับเสมือนเทพ มีอำนาจสยบผู้ฝึกปรือขอบเขตต่ำกว่าเซียนลงไป เมื่อถ่ายเทจิตสำนึกแล้วเลือกเป้าหมาย สามารถจับอีกฝ่ายเป็นทาสได้ 100% (ไม่สามารถคัดลอกได้)]

“ระบบ เหตุใดมันจึงคัดลอกไม่ได้” เมื่อนพเก้าอ่านคำอธิบายหัวใจของเขาพองโตทันที เขาไม่รู้ว่าระดับเซียนคืออะไร แต่มันต้องเหนือกว่าเทพศักดิ์สิทธิ์ในตำนานแน่นอน อย่างไรก็ตามหลังจากเขาอ่านจบ เขาอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

[ติ๊ง เพื่อป้องกันโฮสต์สร้างความวุ่นวาย ระบบต้องการให้โฮสต์แข็งแกร่งขึ้นด้วยกำลังของตนเอง การพึ่งพาสิ่งภายนอกมากเกินไปไม่ใช่วิถีทางของผู้ฝึกตน]

นพเก้ารู้สึกคุ้นๆ กับคำแนะนำนี้ อย่างไรก็ดี ตอนนี้เขามีสมบัติช่วยชีวิตหนึ่งชิ้นแล้ว ในโลกมนุษย์นี้เขาไม่จำเป็นต้องกลัวใครอีกต่อไป

“ฮ่า ฮ่า ตอนนี้ข้าแข็งแกร่งที่สุดในโลก” ต่อให้ไม่ใช่พลังของเขาเอง เขาก็รู้สึกสดชื่นอยู่ดี จะมีอะไรดีไปกว่าการไร้เทียมทานในโลก

“อันต่อไป” นพเก้าดูรางวัลต่อไปทันที หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกชะงัก

[รางวัล: เคล็ดวิชาคัมภีร์พุทธะสุญญตา (เคล็ดวิชาฝึกปรือสามารถถ่ายทอดได้) เคล็ดวิชาระดับเซียนขั้นสูงสุด เมื่อฝึกฝนเคล็ดวิชานี้ ผู้ใช้จะสามารถสำแดงพลังของทักษะวรยุทธ์ต่างๆ ในสายพุทธมากกว่าเดิม 100 เท่าได้ นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายของผู้ฝึกตนกลายเป็นทองคำในแต่ละระดับ โดยมีทั้งหมดหกระดับ ในระดับสูงสุดร่างกายจะเปลี่ยนเป็นทองคำ สร้างแสงศักดิ์สิทธิ์เพื่อกำราบหมู่มาร เปลี่ยนศัตรูกลายเป็นผู้นับถือพุทธศาสนา]

“ระบบ หากข้าฝึกมันข้าจะกลายเป็นไซตามะหรือไม่” นพเก้าไม่อยากหัวล้าน

[มีพระที่ไหนบ้างที่ไม่โกนหัว] ระบบมันไม่สนใจว่าโฮสต์ของมันจะกลายเป็นพระภิกษุหรือไม่ มันต้องการผู้ที่พึ่งพาได้ในการทำภารกิจยิ่งใหญ่ในอนาคต

“โอเค” นพเก้าเลือดเก็บไว้ก่อน เขาจะไม่คิดถึงมันอีกต่อไป แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เป็นตายก็ตาม

เมื่อมองดูรางวัลที่สามของระบบมันทำให้เขารู้สึกขยะแขยงและขนหัวลุก

[รางวัล: ไข่หรรษา 10 ใบ สมบัติระดับสวรรค์ขั้นกลาง เมื่อขว้างปาโดนศัตรูจะอัญเชิญปีศาจพันธนาการออกมา ผู้ที่ถูกพันธนาการจะไม่สามารถขยับร่างกายได้ภายในหนึ่งนาที พลังสูงสุดสามารถใช้พันธนาการขอบเขตจ้าวสวรรค์ได้เท่านั้นโดยจะพันธนาการได้ 10 วินาที]

“ระบบ เจ้าทำเช่นหมายความว่าอย่างไร” หากเขาใช้วัตถุเช่นนี้กับศัตรูชื่อเสียงของเขาจะไม่ป่นปี้หมดหรือ

[ติ๊ง ในอนาคตเมื่อศัตรูของโฮสต์เป็นบุตรแห่งโชคชะตา สิ่งนี้จะสามารถช่วยโฮสต์ได้] ระบบมันก็ไม่ชอบไอเทมอุบาทว์นี้เช่นกัน แต่มันก็ต้องยอมรับว่าไอเทมนี้ร้ายกาจอย่างแท้จริง สิ่งนี้เป็นของที่เจ้านายเก่าของระบบสร้างขึ้น

“แล้วข้าจะรอดู” ดุเหมือนว่าไข่พวกนี้จะมีความลับบางอย่างที่รอนพเก้าเปิดเผยมันในอนาคต

“ปักษาพิรุณพาพวกนักรบโลหิตไปรวบรวมสมบัติทั้งหมดมา และหาเจอหินมิติระดับสวรรค์ขึ้นไปเจ้าต้องกลับมารายงานข้าทันที” ตอนนี้ทั้งป่าไม่เหลือจักรพรรดิอสูรแม้แต่ตัวเดียว หมายความว่าทรัพยากรในพื้นที่มากกว่า 500 กิโลเมตรเป็นของเขาทั้งหมด ตอนนี้เขามั่นใจว่าสามารถรวบรวมสมบัติธรรมชาติระดับ 8 ติดมือมาบ้าง

“นายท่าน มีสวนสมุนไพรที่ข้าคุ้มกันให้กับมนุษย์กลุ่มหนึ่ง นายท่านต้องการจัดการหรือไม่” มันยังคงกังวลเล็กน้อย อย่างไรนายท่านของมันก็เป็นมนุษย์ มันไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของมนุษย์ในสังคมมีความซับซ้อนมากหรือไม่

“อย่างที่ข้าบอกไป เก็ทุกอย่างมาให้หมด” นพเก้าไม่ได้สนใจ มันไม่ใช่เรื่องของเขา การที่กลุ่มคนมาซ่อนแหล่งเพาะปลูกเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีไม่ใช้กลุ่มคนดีอันใด

ปักษาพิรุณก้มหัวลงแล้วจากไปพร้อมกับอสูรโลหิตทันที

แปะ แปะ

“ยอดเยี่ยม เจ้าลงมือได้โหดเหี้ยมมาก” ไม่นานหลังจากเสียงปรบมือหยุดลงก็ปรากฏบุคคลผู้หนึ่งขึ้น

“นั่นใคร” นพเก้ามองบุรุษวัยกลางคนด้วยสีหน้าระแวดระวัง ก่อนหน้านี้เขาไม่อาจสัมผัสตัวตนของอีกฝ่ายได้ หมายความว่าบุรุษผู้นี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

“ยินดีที่ได้รู้จักอัจฉริยะตัวน้อย เจ้าจะเรียกข้าว่าท่านมาวาลิคก็ได้” เทพสงครามจากแดนเทพจันทราแนะนำตัวอย่างขอไปที

“สวัสดีท่านผู้อาวุโส” นพเก้าประสานมือพรางดูข้อมูลที่ได้รับจากเนตรหมื่นพิภพ

เพียะ

“ช่างน่ารังเกียจ” เสียงตบหน้าดังขึ้นโดยที่นพเก้าไม่รู้ตัว อีกฝ่ายไม่ทันขยับตัวด้วยซ้ำ หลังจากเขาจับที่หน้ารู้สึกชาที่มุมปาก ปากของเขาแตกเล็กน้อยจนมีเลือดไหลออกมา

“ทำไมท่านถึงตบข้า” นพเก้าเก็บอารมณ์เดือดดาลไว้ในใจแล้วถามขึ้นมา เป็นไปได้หรือไม่วิอีกฝ่ายตรวจพบว่าเขาแอบส่งข้อมูล

คงจะเป็นเช่นนั้น นพเก้ารู้สึกว่าเขาประมาทเกินไปเพราะเขาส่องดูข้อมูลอีกฝ่ายมันบอกว่าบุรุษผู้นี้อยู่ในขอบเขตครึ่งเทพศักดิ์สิทธิ์ ระดับนี้หากไปอยู่บนแดนสวรรค์ก็อยู่ในระดับแนวหน้าเป็นอย่างน้อย ไม่เพียงเท่านั้นอีกฝ่ายยังเป็นเทพสงครามของแดงศักดิ์สิทธิ์เทพจันทราด้วย เขาไม่สามารถต่อกรกับเทพสงครามได้หากไม่อยู่ในขอบเขตเดียวกันกับอีกฝ่าย

นอกจากนี้ดูเหมือนว่าแดนศักดิ์สิทธิ์จะเร่มจับตาดูเขาแล้ว เขาไม่รู้ว่าออีกสองแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

“หุปปาก คุกเข่าลงไปซะ”

ตึง

นพเก้าคุกเข่าลงไปข้างหนึ่ง ตอนนี้เขาเดือดดาลอย่างมากและต้องการจะใช้สมบัติล้ำค่าที่ได้รับเมื่อครู่มาจัดการบุรุษตรงหน้านี้ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถขยับตัวได้

เมื่อเห็นภาพนี้มาวาลิคมองด้วยท่าทางพึงพอใจ อัจฉริยะแล้วอย่างไรต่อหน้าพลังอำนาจเช่นนี้อีกฝ่ายจะทำการใดได้ เขาต้องการกลั่นแกล้งเล็กน้อยให้อีกฝ่ายรู้สึดอัปยศ หากยังไม่ยินยอมเขาก็กลัวมือจะสกปรกที่จะตบคนเช่นนี้จนตาย

“เจ้าไม่คิดว่าตัวเองรังแกผู้เยาว์มากเกินไปหรือ” ร่างหนึ่งโผล่ขึ้นมาตรงหน้านพเก้าแล้วสลายพลังกฎแห่งเทพทั้งหมดไป

“เจ้าคือ” มาวาลิคงงงวย ตัวตนของอีกฝ่ายเป็นใครกันอยู่ดีๆ ก็ปรากฏตัว นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีความคล้ายคลึงกับพี่สาวของเขาเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ความคล้ายคลึงที่หน้าตาแต่เป็นพลังขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์

อะไรวะ!

มาวาลิคหันไปมองนพเก้าด้วยความตกตะลึง ทำไมอีกฝ่ายถึงมีคนหนุนหลังยิ่งใหญ่เช่นนี้

ยิ่งใหญ่จริงๆ

นพเก้าเงยหน้าขึ้นแล้วลูกตาเขาผสานกับด้านหลังของนาง มันยิ่งใหญ่และเต่งตึงมากๆ นพเก้าคิดในใจ

เมื่อหญิงสาวรู้สึกถึงสายตาแปลกๆ จากด้านหลังนางก็หันหลังกลับโดนไม่สนใจเทพสงครามตรงหน้า

“เจ้ากำลังมองอะไร” จิตตาภากรอกตามองอีกฝ่าย แต่ในใจของนางกำลังคิดอีกอย่าง นางไม่เคยเจอบุรุษที่หล่อเหลาเช่นนี้มาก่อน น่าเสียดายที่อีกฝ่ายมีภรรยาแล้ว

(หืม นี่ข้ากำลังคิดอะไร) นางรู้สึกประหลาดใจอีกฝ่ายมีวิชามนต์เสน่ห์หรือไม่

“ข้าขอถามชื่อผู้มีพระคุณได้หรือไม่” นพเก้าได้รับบทเรียนจากรอบที่แล้ว เขาจึงรีบใช้เนตรหมื่นพิภพตรวจสอบขณะที่นางหันกลับมา เขารู้สึกประหลาดใจกับคำอธิบายของระบบ

[ค่าสถานะของจิตตาภา]

อายุ: 278 (อายุขัย 2.26 ล้านปี)

เขตแดน: เทพศักดิ์สิทธิ์ขั้น 4 ขั้นสูงสุด (ค่าพลังปราณ : 4.7 พันล้านเมตร)

ทักษะการต่อสู้: มนต์เสน่ห์ซัคคิวบัส (วิชาเทพขั้นต้น) , ฝ่ามือลวงตา (วิชาเทพขั้นกลาง) , ย่างก้าวภูตินิทรา (วิชาเทพขั้นกลาง) , ลวงจิตบังคับร่าง (วิชาเทพขั้นสูงสุด)

เคล็ดวิชา: ภูผาจิตวิญญาณ (วิชาเทพขั้นสูงสุด)

พรสวรรค์: ผสานสองจิตวิญญาณ

พลังเทพ: 680

โชคชะตา: ผู้มีค่าศักยภาพสูง

บรรพกาลที่ 3: เผ่าพันธุ์มังกรจิตวิญญาณที่สาบสูญ

ถึงเขาจะรู้สึกงงงวยแต่เวลานี้ไม่ใช้เวลาถามระบบ เขาต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าผู้หญิงคนนี้มาดีหรือไม่

“เจ้าเป็นผู้หวนคืนหรือไม่” นางไม่ตอบ เพราะนางสัมผัสได้ถึงความผันผวนในวิญญาณของบุรุษตรงหน้า

อะไร!

นพเก้าใจเต้นรัว นี่คือความลับสูงสุดที่เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ ที่สำคัญอีกฝ่ายรู้ได้อย่างไร ความเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดนั้นมีทั่วไป เนื่องจากหากขอบเขตจักรพรรดิยุทธิ์ตายแล้วแต่จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่จะสามารถสิงร่างผู้อื่นได้ แต่สำหรับผู้หวนคืน เขาเข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ายอาจคาดเดาตัวตนของเขาได้แล้ว

“เหตุใดท่านจึงคิดเช่นนั้น” นพเก้าไม่ได้ตอบโดยตรง แต่บอกเป็นนัยๆ ว่าใช่ เขาไม่อยากเปิดเผยให้บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นรู้

“หึ เจ้ากังวลงั้นรึ” นางแค่นเสียงออกมาก่อนจะหันกลับไปมองมาวาลิคก่อนที่ดวงตาของนางจะกลายเป็นสีทองครู่หนึ่ง

“ต่อไปนี้เจ้าจะจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ กลับไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วรายงานว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ”

“รับทราบ” มาวาลิคตอบด้วยเสียงเฉยชา ตอนนี้เขาถูกควบคุมโดยสมบูรณ์ เขาหันหลังกลับแล้วบินจากไป

ซูด

นพเก้าอดที่จะสูดหายใจไม่ได้ นี่คือพลังของผู้ควบคุมจิตวิญญาณระดับสูง อาชีพจิตวิญญาณเป็นอาชีพที่หายากที่สุดโลกมากกว่านักทำนายเสียอีก

“เจ้าบอกมาซะว่าตัวตนของเจ้าเป็นใคร” นางกำลังจะใช้สิ่งนั้นอีกครั้ง

“ผู้อาวุโสปล่อยข้าไปได้หรือไม่ ข้าจะสิ่งนี้ตอบแทนท่าน ท่านคิดว่าอย่างไร” นพเก้าหยิบลูกบาสก์สีทองดำออกมาจากระบบ

อย่างไรก็ตามผู้หญิงตรงหน้าเขาไม่ได้สนใจ นางยังคงใช้วิชาต่อไป หลังจากผ่านไปชั่วครู่

หืม

นางรู้สึกประหลาดใจ อีกฝ่ายเป็นเพียงจักรพรรดิยุทธ์ ห่างจากนางถึงสองขอบเขตใหญ่ นางจึงโคจรเคล็ดวิชาลวงจิตบังคับร่างมากกว่าเดิม ตาแล้วก็ยังไม่ได้ผล

(ดูเหมือนผู้หวนคืนจะแตกต่างออกไป) จิตตาภาคิด

“ระบบ ผู้หญิงคนนี้กำลังจะควบคุมข้าหรือไม่”

[ติ๊ง เป็นเช่นนั้น แต่ด้วยอำนาจของระบบนางไม่สามารถทำสิ่งใดได้]

“เป็นเช่นนี้” เหมือนว่านพเก้าจะไม่ต้องหาวิชาเสริมจิตวิญญาณใดๆ ในเมื่อเขามีระบบจัดการให้ แต่เมื่อเขาคิดอีกทีมันควรจะมีไว้ ระบบมันคงจะไม่อยู่กับเขาตลอดไปใช่ไหม

“ผู้อาวุโส ข้าถือว่านี่เป็นของขวัญสำหรับพบหน้ากัน ท่านไม่ต้องจ้องหน้าข้าขนาดนั้นก็ได้ ข้าไม่ใช่คนใจแคบ” นพเก้าถ่ายเทพลังศักดิ์สิทธิ์ลงไปแล้วส่งให้นาง

นางรู้สึกแปลกๆ อีกฝ่ายไม่เห็นความผิดปกติในการกระทำของนางเลยหรือ ขณะที่นางกำลังคิดนพเก้าก็ยัดลูกบาศก์ใส่มือของนาง

“เสร็จโจ๋” ดูเหมือนอีกฝ่ายจะติดกับนพเก้าโดยไม่รู้ตัว

“แย่แล้ว” เมื่อนางสัมผัสได้ถึงพลังคุมคาม นางพยายามจะปัดลูกบาสก์ทิ้งอย่างไรก็ตาม วัตถุนั้นซึมเข้าไปในมือของนางและทะลุเข้าไปในจิตสำนึกหลักโดยตรง จากนั้นลูกบาศก์ทำงานเหมือนกับเทคโนโลยีล้ำหน้า มันเริ่มเปลี่ยนรูปร่างแล้วขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นเสาอากาศขนาดใหญ่ แล้วปล่อยวงแหวนที่มีอักขระระดับสูงออกมา

เมื่อนางต้องการเข้าไปในจิตสำนึกของนางก็ไม่สามารถทำได้ หลังจากนั้นสักพักนางรู้สึกถึงการเชื่อมต่อบางอย่างระหว่างนางกับนพเก้า จากนั้นนางก็หน้าซีด

พรึบ

นพเก้าไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขาหัวเราะออกมาอย่างกับคนบ้า เขาคิดว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะกลับตารปัตรแล้วจบลงอย่างง่ายดายเช่นนี้

“เจ้ามันสารเลว” จิตตาภาโกรธมากและต้องการทุบหัวนพเก้าให้แหลกเป็นเสี่ยงๆ อย่างไรก็ตามทันทีที่มือของนางถึงตัวนพเก้าพลังต่างๆ ก็สลายไปไม่ต่างจากการที่ผู้หญิงทุบเบาๆ

“ไม่จริง” นางรู้สึกรับไม่ได้ นางเคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มามากมายในยุคของนาง มันคือสัญญาทาส

[ติ๊ง ขอแสดงความยินดี โอสต์ได้กำราบผู้ฝึกปรือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นทาส นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ตอนนี้โฮสต์สามารถก่อตั้งนิกายได้อย่างปลอดภัย รางวัล: ช่องทรัพยากร +100]

โอ้วว

นพเก้ารู้สึกมีความสุขกับความใจป้ำนี้ เขามีพื้นที่มากมายในการใส่สมุนไพรและสมบัติล้ำค่าระดับสูง

อะแฮ่ม

นพเก้าเริ่มสงบลงแล้วต้องการถามความเป็นมาของผู้หญิงคนนี้ เขาต้องรู้ให้ได้ว่านางรู้เรื่องเกี่ยวกับผู้หวนคืนได้อย่างไร

“เอาล่ะ ตอนนี้จงรีบคุกเข่าและทักทายเจ้านายของเจ้าเสีย” นพเก้าต้องการสัมผัสความรู้สึกของการที่มีเทพคุกเข่าให้ การที่เทพคุกเข่าให้มนุษย์มันต้องเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่แน่ๆ

“หึ ฝันไปเถอะ เป็นเจ้าที่บังคับข้าทำเช่นนี้เอง” ขณะที่นางพูด เลือดก็ไหลออกจากดวงตา ปาก และจมูกของนาง นางต้องการทำลายจิตวิญญาณของนางทิ้งกว่าตกไปอยู่ในมือของคนอื่น

“เจ้ากำลังทำอะไร” นพเก้ารู้สึกพรั่งพรึง เขารู้สึกว่านางกำลังจะทำอย่างเขาในชาติที่แล้ว การระเบิดตัวตาย

[ไม่ใช่ นางกำลังทำลายจิตวิญญาณของนาง] ระบบถึงกับพูดไม่ออก จำเป็นต้องทำถึงเพียงนี้เชียวหรือ หากจิตวิญญาณถูกทำลายหมายความว่าดวงวิญญาณจะแตกดับตลอดกาลไม่อาจได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป

“อักก” นางกระอักเลือดออกมา จากนั้นนางรู้สึกว่านางสามารถยับยั้งมันได้บางส่วนแล้ว

“ระบบ ไหนเจ้าบอกว่าไม่ได้ผล ทำไมอีกฝ่ายถึงต่อต้านได้”

[ติ๊ง ดูเหมือนเคล็ดวิชาของนางจะก้าวขึ้นสู่ครึ่งเซียนแล้ว] ระบบไม่ลืมที่จะบอกความเป็นไปได้นี้

ตูม

เกิดเสียงระเบิดและรัศมีแสงได้กบวิสัยทัศน์ของนพเก้าไป หลังจากเขาเห็นภาพอีกครั้งเขาก็รู้สึกว่าสัญญาทาสที่ผูกมัดกับอีกฝ่ายได้เปลี่ยนไป

“ไม่มีทาง” และเป็นอีกครั้งที่นางรู้สึกตกใจ นางไม่สามารถทำลายดวงวิญญาณได้ สมบัติของอีกฝ่ายต้องอยู่ระดับเซียนเป็นอย่างน้อยถึงทำเช่นนี้ได้ นางอดไม่ได้ที่จะมองชายตรงหน้า ก่อนหวนคืนอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงมีสมบัติเช่นนี้ ในความคิดนางสมบัติเซียนมีอยู่เฉพาะโลกระดับสูงเท่านั้น

อย่างไรก็ตามนางรู้สึกสลายใจขึ้น เพราะตอนนี้สัญญาของนางกับนพเก้าได้เปลี่ยนจากสัญญาทาสกลายเป็นสัญญาเท่าเทียมแล้ว นั่นหมายความว่าถ้าหากนางตายอีกฝ่ายก็จะตายด้วยเช่นกัน

นพเก้ารู้สึกหนังตากระตุก ไม่ถึงชั่วโมงเหตุการณ์ต่างๆ พลิกไปมาหลายตลบเหลือเกิน

“ตอนนี้เจ้าไม่สามารถบังคับอะไรข้าได้ทั้งนั้น” ถึงการผูกมัดนี่จะเป็นสิ่งเลวร้าย แต่ตอนนี้นางไม่จำเป็นต้องทำลายจิตวิญญาณอีกต่อไป

“เจ้าอยากรู้อะไร” เมื่อพันธสัญญาเท่าเทียมถูกสร้างขึ้น ทำให้นพเก้ามีทางเลือก ตอนนี้เขามีถึงสองชีวิตนั่นหมายถึงความเสี่ยงสองเท่า เขาไม่สามารถทำสิ่งใดโดยประมาทได้

“ก่อนกลับมาเกิดใหม่เจ้าเป็นใครกันแน่” นางอดสงสัยไม่ได้ อีกฝ่ายจะต้องเป็นตัวตนที่เหนือกว่านางในชาติที่แล้วอย่างแน่นอน

“จูเรน” นพเก้าตอบ

“ใครน่ะ” นางไม่รู้จักคนชื่อนี้ เป็นไปได้หรือไม่ที่อีกฝ่ายจะเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่าเซียนกลับชาติมาเกิด

“จูเรน ขอบเขตครึ่งก้าวเจ้าสวรรค์” เมื่อรู้สึกถึงสายตาของนางเขาพูดด้วยท่าทีเคอะเขินเล็กน้อย ดูเหมือนอีกฝ่ายจะประเมินเข้าสูงเกินไป

นางนิ่งเงียบ นางไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังเช่นนี้มาก่อน นางถูกผู้ฝึกตนระดับต่ำกว่าจับเป็นทาส นี่จะเป็นประวัติศาสตร์ที่ด่างพร้อยที่สุดในชีวิตของนาง

“เอาล่ะ ในเมื่อมันไม่มีอะไรน่าสนใจ ทำไมเจ้าไม่แนะนำตัวหน่อยล่ะ คุณมังกรจิตวิญญาณ” นพเก้าพูดข้อมูลที่ระบบแสดงออกไป เขาต้องการทำตัวลึกลับเพื่อเข้าถึงข้อมูลอีกฝ่ายให้มากขึ้น

“เจ้ารู้ได้อย่างไร” คราวนี้เป็นนางเองที่พูดประโยคนี้ มันไม่ควรมีใครรู้ความลับนี้ได้ เนื่องจากมังกรจิตวิญญาญสูญพันธุ์ไปเกือบหมดแล้ว

“สำคัญด้วยรึ” นพเก้าพูดขึ้น เขาไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะตอบคำถามเขาหรือไม่เพราะข้อมูลของระบบแสดงให้เขาเห็นหมดแล้ว

“ฮึม ก็ได้” ดูเหมือนนางจะไม่มีทางเลือกมากนัก อีกฝ่ายอาจมีความลับมากกว่าที่คิดและตัวตนที่จูเรนนั่นอาจจะพูดขึ้นเพื่อหลอกนางเท่านั้น

หลังจากนั้นนางก็เริ่มเล่าเรื่องขึ้นมา นางบอกว่าขณะที่นางอยู่นอกอวกาศระหว่างสวรรค์ชั้นที่หนึ่งกับดาวเคราะห์โลก นางเห็นปรากฏการณ์ประหลาดที่สุดในชีวิตของนาง ภาพที่เห็นคืออยู่ดีๆ โลกก็หมุนย้อนกลับด้วยความเร็วสูงจนกระทั่งหยุดลง สภาพต่างๆ ของโลกมันย้อนกลับไปอีกครั้งก่อนที่พลังสวรรค์จะฟื้นฟู เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้มีอำนาจในสวรรค์ชั้นต่างๆ แตกตื่นเป็นอย่างมาก พวกเขารีบส่งกองกำลังเพื่อเข้าไปยึดครองทันที

อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่างผู้ที่มีพลังอำนาจต่ำกว่าเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถเข้ามาได้ จึงส่งผลให้พวกเขาไม่มีทางเลือกจึงส่งผู้มีพลังขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ลง ในช่วงเวลานี้ก็เป็นเวลาสามวันแล้ว ยังไม่มีใครกล้ากระทำการอย่างโจ่งแจ้ง พวกเขากำลังรวบรวมกองกำลังอย่างลับๆ

และข่าวที่ใหญ่ที่สุดก็คือในบรรดาผู้ที่ตายไปแล้วที่มีถิ่นกำเนิดในโลกมนุษย์ล้วนหายไปจนหมดสิ้น พวกเขาไม่ค้นพบการกระทำผิดจารีตอย่างขโมยศพแต่อย่างใด หลังจากส่งคนไปสืบดูทำให้พวกเขารู้ว่าผู้ที่ตายไปแล้วได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้กองกำลังต่างๆ จึงส่งคนไปทาบทามผู้มีพรสวรรค์อย่างๆลับ พวกเขาต่างรู้ดีถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

หลังจากนพเก้าได้ฟังคร่าวๆ เขารู้สึกเหมือนโลกนี้กำลังกลับตารปัตร ด้วยความฉลาดของเขา เขาสามารถเดาสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกมากมาย ตอนนี้มีเพียงโลกนี้เท่านั้นที่ย้อนเวลากลับมา สิ่งต่างๆ ในระบบสุริยะยังคงเหมือนเดิม

“ระบบ สิ่งนี้ใช่ผลกระทบที่เกิดจากเจ้าหรือไม่”

[ติ๊ง ใช่ มันคือของขวัญมือใหม่ที่มอบให้กับโฮสต์] ระบบตอบกลับไปโดยไม่ปิดบัง มันรู้ว่าเจ้านายของมันกังวลว่าอาจเป็นฝีมือของผู้อื่น หากเป็นเช่นนั้นจริงโลกจะไม่สงบสุขอีกต่อไป

อืม

นพเก้าเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ตอนนี้เขามีสีหน้าซับซ้อน เพราะในเมื่อคนตายในโลกมนุษย์กลับมาได้หมายความว่าศัตรูเก่าของเขาที่สังหารไปในชีวิตที่แล้วก็กลับมาด้วย เขาอดที่จะนึกถึงลูกศิษย์ของเขาไม่ได้

(ไม่ได้การข้าต้องรีบหานางให้เจอโดยเร็วที่สุด ต่อให้ต้องแรกด้วยอะไรก็ตาม) ตอนนี้อารม์ของนพเก้าไม่สงบอีกต่อไป

จิตตาภาของรู้สึกได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามนางรู้สึกว่าตัวเองได้เปรียบ บุคคลนี้เป็นผู้หวนคืนคนที่สองที่นางเจอ โดยทั่วไปนางพบว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้ย้อนกลับมาด้วยความทรงจำเดิม

“เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป ข้าไม่สามารถพาเจ้าไปในฐานะผู้ติดตามได้” นพเก้าตอบ ตอนนี้เขามีภรรยาและลูกแล้ว หากเขาพาหญิงงามล่มเมืองผู้นี้กลับไป เขาไม่กล้าคาดเดาต่อไปว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก

“ข้าจะไปกับเจ้า” หลังจากนางพูดจบนางก็กลายเป็นลำแสงแล้วพุ่งเขาไปที่ระหว่างคิ้วของนพเก้า ด้วยการที่นางเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณระดับ 8 ดาว นางสามารถสิงห์สถิตที่ร่างกายของใครก็ได้

โอ้วว

นพเก้ารู้สึกประหลาดใจ แต่เขาไม่ได้ปฏิเสธนาง การมีผู้คุ้มกันเช่นนี้ทำให้เขาสบายใจในการทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น ขณะที่นพเก้ากำลังกลับไป เขาก็นึกขึ้นได้จึงได้ถามระบบออกไป

“ระบบบรรพกาลที่ 3 คืออะไร” เขางงกับคำศัพท์นี้เป็นอย่างมาก

[ติ๊ง หลังจากสงครามระหว่างทวยเทพจบลง อารยธรรมต่างๆ ล่มสลาย สารระบบในโลกสูญสิ้น ยุคสมัยใหม่จะถูกสร้างขึ้น สารระบบจะสร้างพลังงานที่หนุนเสริมให้สิ่งมีชีวิตปรับตัวได้ มันจะถูกวิวัฒนาการมาแทนที่พลังงานเดิมตามธรรมชาติ เช่นบรรพกาลที่ 4 นับเป็นปัจจุบัน ปราณวิญญาณหล่อเลี้ยงฟ้าดิน สิ่งมีชีวิตใช้ปราณวิญญาณหล่อเลี้ยงชีวิต]

“แล้วสงครามระหว่างทวยเทพคือสิ่งใด” นพเก้ายังคงถามต่อไป

[ติ๊ง โฮสต์โปรดพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น ตอนนี้โฮสต์ยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลระดับสูงได้]

“เชอะ” นพเก้าเลิกสนใจมัน ตอนนี้เขาไม่ต้องการทำสิ่งใดนอกจากนั่งขัดสมาธิเพื่อวางแผนต่างๆ ใหม่ เพื่อเตรียมรับมืออนาคตอันใกล้ที่ไม่สามารถคาดเดาได้

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยามปราณวิญญาณฟ้าดินเริ่มปะทุขึ้นแล้ววนเข้าไปในทิศทางของฉินอวี้หลิง

เห้ย

นพเก้าตกใจ เหตุใดเด็กสาวผู้นี้จึงสามารถปลุกสายเลือดได้เร็วนัก เขายังไม่ทันเตรียมการต้มสมุนไพรแล้วให้นางแช่ตัวด้วยซ้ำ

ปัง ปัง

ราวกับคอขวดที่ติดอยู่ในตัวนางมานานได้หายไป ความเร็วของการทะลวงด่านไดพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้า นางทะลวงสองขั้นติดต่อกัน

รวดเร็วมาก

นพเก้ารำพึงในใจ นี่คือความสามารถของอัจฉริยะอย่างแท้จริง เพียงหนึ่งชั่วยามก็สามารถปลุกสายเลือดบรรพกาลระดับเซียนขั้นสูงสุดได้

ปัง ปัง

เหตุการณ์ต่างๆ ยังคงไม่หยุดลง นางยังคงทะลวงด่านต่อไปจนถึงขั้นที่ 8 นพเก้ากะพริบมาอยู่ด้านหลังของนางแล้ววาดอักขระวิญญาณลงไป

“อดทนไว้ รอให้ถึงขั้นสมบูรณ์ก่อนจึงค่อยทะลวงเขตแดน” นพเก้าพูดขึ้น มีเพียงผู้ที่ทะลวงขั้นสูงสุดไปสู่ขั้นสมบูรณ์ในทุกเขตแดนเท่านั้นจึงรับประกันได้ว่ารากฐานมั่นคง และเป็นอัจริยะอย่างแท้จริง

อึก

ฉินอวี้หลิงนางรู้สึกอึดอัด อย่างไรก้ตามนางยังคงอดทนทำตามคำแนะนะของผู้มีพระคุณผู้นี้

“เอาล่ะ เริ่มเลย” นพเก้าให้สัญญาณนางในเวลาที่เหมาะสมที่สุดทันที

ปัง

เหตุการณ์นี้ยิ่งใหญ่กว่าที่แล้ว ปราณวิญญาณจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้ามาจากทุกทิศทางและพลังศักดิ์สิทธิ์ที่หนุนเสริมจากนพเก้าคอยซ่อมแซมร่างกายของนางให้อยู่ในสภาวะสูงสุดตลอดเวลา ทำให้นางทะลวงขอบเขตไปได้อย่างปลอดภัย