อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด - บทที่ 17 ฝากคำทักทายเจ้าเมือง โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ผู้แต่ง

ยักษาบรรพกาล

เรื่องย่อ

นพเก้าเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นแม่แต่น้อย

“ระบบการแสดงของข้าเป็นอย่างไรบ้าง” 

นพเก้าถาม

[ติ๊ง ประทับใจ]

ระบบตอบ

[ติ๊ง ของแสดงความยินดีโฮตส์ได้แสดงการวาดยันต์บุพภาลำเนาไพรฉบับสมบูรณ์ การกระทำของโฮสต์เริ่มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปรงด้าน อุตสาหกรรมยันต์วิญญาณระดับภูมิภาค รางวัล: เพิ่มช่องทรัพยากร + 5]

“ระบบ ข้าสามารถใช้งานได้อย่างไร”

[โฮสต์สามารถเรียกช่องทรัพยากรได้ผ่านทางจิตแล้วใส่วัตถุในช่อง ทรัพยากร]

นพเก้าหยิบสร้อยคอทองคำ 1 บาทที่น้องสาวให้เป็นของขวัญวันเกิดใส่ในช่องทรัพยากรตรงหน้า

[ช่องทรัพยากร]

[ความจุ 1/5]

[วัตถุ: สร้อยคอทองคำ 1 บาท (ระยะเวลาเพิ่มจำนวน 23 ชั่วโมง 59 นาที 53 วินาที: อัตราเพิ่มจำนวน 1 เท่าตัว)

“ระบบ ถ้ามันครบ 24 ชั่วโมงมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นจริงเหรอ แล้วมันมีข้อจำกัดหรือไม่” 

นพเก้าอดสงสัยไม่ได้

[จริงแท้แน่นอน]

[โฮสต์โปรดอย่าสงสัยในความสามารถของระบบ ต่อให้เป็นไอเทมระดับทำเจ้าก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ย่างไม่สิ้นสุด]

สารบัญ

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 1 บทนำ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 2 เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 3 กลับบ้าน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 4 นพเก้า ปะทะ หวงอี้เฟย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 5 กายาสวรรค์ จุติจักรพรรดิในก้าวเดียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 6 อัจฉริยะในรอบพันปี,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 7 อันตัวข้าผู้สืบทอดเป็นคนใจกว้าง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 8 เทศกาลสวมหมวกเขียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 9 เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย โอเคได้เลย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 10 พบบุตรแห่งโชคชะตา,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 11 จิตใจของข้าแตกสลายเป็นล้านๆชิ้น,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 12 ความลับตระกูลหวง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 13 พบเจอกายาอมตะ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 14 บุกรังจักรพรรดิปักษาพิรุณ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 15 ครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 16 สร้างประตูมิติ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 17 ฝากคำทักทายเจ้าเมือง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 18 สอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 19 ใครบอกกันว่าข้าจะสอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 20 การปรากฏขึ้นของโอสถระดับตำนาน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 21 ความเย่อหยิ่ง ปะทะ ความจองหอง

เนื้อหา

บทที่ 17 ฝากคำทักทายเจ้าเมือง

“ที่นี่มีหมอระดับ 3 ดาวอยู่หรือไม่” นพเก้าไม่ตอบแม่ของฉินอวี้หลิง

“ข้าเป็นหมอเทวะ 3 ดาว” ผู้คนที่นี่ไม่สามารถทำอะไร ตอนนี้เขาถูกสะกดให้อยู่กับที่

“ดี” ข้ามีบางอย่างรบกวนท่าด้วย

เป๊าะ

หลังจากนพเก้าดีดนิ้ว หมอชราของจวนเจ้าเมืองก็รู้สึกเป็นอิสระ เขาเดินเข้ามาหานพเก้าด้วยท่าทีนอบน้อม มีเพียงการเป็นหมอเทวะ 4 ดวง หรือหมอ เทวะระดับกลางเท่านั้น ที่จะทำให้เขายืนต่อหน้าจักรพรรดิยุทธ์อย่างทัดเทียมได้

“ช่วยตรวจสอบสิ่งนี้ได้หรือไม่ ว่ามันคืออะไร” นพเก้าหยิบถุงพลาสติกใบเล็กที่บรรจุผลสีเขียวปนของเหลวสีแดงอยู่ด้านใน

“อืม มันคือพิษสลายปราณ” ในฐานะหมดเทวะระดับ 3 ดาว เขารู้จักสิ่งนี้เป็นอย่างดี เพราะเขาเคยรักษาผู้ป่วยที่ถูกพิษนี้มาหลายครั้ง หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจะไม่สามารถตรวจสอบที่มาของพิษไร้สีไร้กลิ่นนี้ได้

“งั้นเจ้าบอกได้หรือไม่ว่าทำไมมันถึงมีอยู่ตัวลูกศิษย์ข้า” นพเก้ามองหมอชราผู้นี้อย่างมีเลศนัย

“ท่านกำลังพูดเรื่องอะไร” หมอชราตกใจ เขาจะไปรู้ได้อย่างไร

“คำตอบของเจ้ามันผิด” นพเก้าหันไปมองเจ้าเมืองน้อย ดูเหมือนหมอชราคนนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง งั้นเป็นไปได้อย่างเดียวคือเจ้าเมืองน้อยลงมือด้วยตนเอง

“ดอกกระจันสามขุม ไม้ผาสุกเบ่งบาน และด่างทับทิมทองคำ นี่คือสารประกอบหลักที่ส่งผลให้เกิดการตีกลับของพลังปราณในร่างกาย มันเพียงให้ผลแบบเดียวกับพิษสลายปราณเท่านั้น” นพเก้าแยกสารทั้งสามที่ผสมเข้าด้วยกันแยกมันออกมาในระดับอนุภาค จากเทคนิคชั้นสูงของทักษะปรุงยา 1 ดาวที่เขาได้รับจากระบบ

“เป็นไปได้อย่างไร” ไม่เพียงคำตอบของนพเก้าจะทำให้เขาตกใจเท่านั้น เขารู้สึกประหลาดใจกับวิธีการแยกสสารเช่นนี้ เขาไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินมาก่อน ดูเหมือนชายหนุ่งผู้นี้จะมีทักษะด้านสมุนไพรด้วย

“ท่านดูแล้วเป็นคิดว่าอย่างไร” นพเก้าส่งผลของดอกกระจันสามขุมให้หมอชราบางส่วน

หมดชราหยิบมาสูดดม จากนั้นเขาหลับแล้วชิมดู มันทำให้เขาประหลาดใจ มันเป็นดอกกระจันสามขุมจริงๆ

โอวว

บรรดาคนที่อยู่โดยรอบก็ตกตะลึงเช่นกัน ดูเหมือนการแสดงวันนี้จะมีเรื่องน่าประหลาดใจซ่อนอยู่ให้รับชม การกระทำของนพเก้าวันนี้ทำให้หลายคนสงสัยว่าเขามีความสามารถด้านการปรุงโอสถหรือไม่ เพราะทักษะการจำแนกเช่นนี้ในสายตาของคนทั่วไปมองว่าอย่างน้อยก็ต้องเป็นปรมาจารย์

เจ้าเมืองน้อยยังคงรักษาท่าทีสงบนิ่ง แต่กลับรู้สึกกระวนกระวายใจ เขาหันไปมองลุงของเขาซึ่งเป็นรองเจ้าเมืองเพื่อช่วยหาทางให้เขาออกไปจากสถานการณ์นี้

รองเจ้าเมืองทำเป็นไม่เห็นสิ่งใด ตอนนี้ชีวิตเขาตกอยู่ในมือจักรพรรดิยุทธ์ เขาไม่อยากทำให้นพเก้าขุ่นเคืองเพื่อเด็กเหลือขอผู้นี้

“น้องเซี่ยเอิน ต้องบอกว่าการกระทำของเจ้ามีการวางแผนได้แยบยลมาก เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว” นพเก้าหัวเราะออกมาก่อนจะมองไปทางเจ้าเมืองน้อย

“นี่ท่าน” ฉินเซี่ยเอินกำลังจะพูดแก้ต่างให้ตัวเอง แต่เขารู้สึกว่าปากเป็นอัมพาต ไม่สามารถขับริมฝีปากได้

“ไหนๆ ข้าก็จะเปิดเผยการกระทำของเจ้าแล้ว ข้าควรจะพูดให้หมดเปลือกไปเลยดีไหม” นพเก้าพูดขึ้นขณะเดินไปตบไหล่อีกฝ่าย

อือ

ฉินเซี่ยเอินไม่สามารถขยับตัวได้ เขาไม่ต้องการทำสิ่งใดไปมากกว่าหลบหนีออกไปจากสถานการณ์นี้ หากเขาถูกเปิดโปงสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะต้องสูญเปล่า

“มันมีเหตุผลสามอย่างที่ทำให้ข้าคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ข้อแรกเจ้าอิจฉาพรสวรรค์ของนางเจ้าจึงลอบวางยานางอย่างลับๆ มาตลอด 8 ปี ข้อสองเจ้าต้องการสร้างภาพลักษณ์เป็นพี่ชายแสนดี เพื่อให้ผู้อื่นเห็นว่าเจ้าเป็นคนมีเมตตา และข้อสามเจ้าต้องจัดการทุกความเป็นไปได้ที่จะส่งผลต่ออำนาจของเจ้า” นพเก้าพูดถึงทุกความเป็นไปได้ออกมา

“อะไรน่ะ นี่เจ้าเมืองน้อยวางยาน้องสาวตัวเองจริงรึ”

“ดูเหมือนว่าเขาผู้นี้จะเป็นคนเจ้าเล่ห์ ทุกการกระทำของเขาวางแผนมาอย่างดี”

จังหวะนี้ไม่มีใครสามารถโต้แย้งอะไรได้ เพราะชีวิตของพวกเขากำลังตกอยู่ในมือนพเก้า หรือต่อให้ไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาก็จะเลือกเข้าข้างนพเก้าอยู่ดี ไม่มีใครต้องการทำให้จักรพรรดิยุทธ์ขุ่นเคืองในสถานการณ์นี้

“อวี้หลิง ตลอด 8 ปีมานี้เจ้ารู้สึกว่าการฝึกฝนไม่สามารถก้าวหน้าได้ใช่หรือไม่ แม้ว่าจะเรียกหมอเทวะระดับสูงมาตรวจอาการแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ” นพเก้าพูดขึ้น

“ใช่คะ” เด็กสาวก้มหน้าลงขณะตอบ ทุกครั้งที่หมอเทวะมาตรวจอาการของนาง พวกเขาจะจากไปพร้อมกับทิ้งท้ายว่านางไม่มีพรสวรรค์ในการฝึกปรือ พวกเขาเกรงใจเจ้าเมืองเกินกว่าจะพ่นคำว่าขยะออกมา

“เจ้าเคยบอกข้าว่าในเรือนของเจ้ามีเพียงพี่ชายของเจ้าเท่านั้นที่ไปหาเจ้าทุกวัน และหาสมุนไพรขั้นสูงให้กินทุกวันเพราะรู้สึกเห็นใจเจ้า เจ้ารู้ไหมว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น” นพเก้าถามอีกครั้ง

กรอด

“เพื่อให้ข้าเป็นขยะ” ฉินอวี้หลิงกำหมัดแน่นและน้ำตาไหลออกมา ตั้งแต่นางเกิดมานางถูกเลี้ยงดูอย่างเจ้าหญิง จนกระทั่งมันเปลี่ยนไปเมื่อนางอายุ 7 ขวบ หลายคนคิดว่านางเป็นอัจฉริยะที่เริ่มฝึกฝนได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ขณะที่เด็กส่วนใหญ่ต้องมีอายุ 10-11ปีถึงจะพัฒนารากวิญญาณอย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตามนางไม่สามารถก้าวข้าวคอขวดไปได้แม้ว่าจะพยายามอย่างหนักแค่ไหนก็ตาม เมื่อผู้อาวุโสในตระกูลฝั่งพ่อของนางให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถแล้ว ทั้งเคล็ดวิชาระดับสูง อาบน้ำยาเพื่อเสริมร่างกาย หรือแม้กระทั่งสมุนไพรล้ำค่าพวกนี้มันไม่สามารถช่วยนางให้ก้าวหน้าได้ สายตาของทุกคนที่มองนางจึงเปลี่ยนไปเป็นเย็นชา

ในช่วงเวลานั้นนางรู้สึกห่างเหินกับทุกคน มีเพียงพี่ชายของนางเท่านั้นที่จะคอยมาแวะเล่นกับและแอบเอาสมุนไพรระดับสูงมาให้ทุกๆ วัน

นพเก้าอดไม่ได้ที่จะรูปหัวนาง เขารู้สึกว่าสวรรค์นั้นไม่ยุติธรรม ทำไมต้องให้เด็กคนนึงต้องอดทนกับภาระจิตใจมากขนาดนี้

“ใช่ ขณะที่ยาต้มที่เจ้าดื่มทำจากดอกกระจันสามขุม สมุนไพรล้ำค่าระดับ 4 ดาวที่ให้เจ้ากินทุกวันก็คือไม้ผาสุกเบ่งบาน และด่างทับทิมทองคำ เมื่อพวกมันส่งเสริมซึ่งกันและกันจะเกิดผลสองอย่างนั้นก็คือการสลายปราณในร่างกายอย่างช้าๆ และที่ร้ายแรงกว่าคือทำให้ผู้ที่กินถูกทำให้สมองฝ่ออย่างช้าๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เจ้าไม่สามารถจำวรยุทธ์ใดๆ ได้แม้ว่าจะฝึกหนักแค่ไหนก็ตาม หากเจ้ากินติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปีข้ารับรองได้ว่าเจ้าจะกลายเป็นคนปัญญาอ่อนอย่างแน่นอน” นพเก้าได้เปิดเผยความลับอันน่าสะพรึงกลัวออกมา

“อะไรน่ะ มีผลทำให้ปัญญาอ่อนด้วยหรือ พระเจ้า เจ้าเซี่ยเอินผู้นี้ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่”

“ช่างเป็นเดรัจฉานสมควรตาย การที่ทำกับคนในครอบครัวได้เช่นนี้ข้าไม่เคยเจอคนชั่วร้ายขนาดนี้มาก่อน”

“ข้าช่างสายตามืดบอด ดันไปตกหลุกรักชายอำมหิตผู้นี้”

บรรดาผู้คนอุทาน และวิจารณ์ออกมาอย่างร้อนแรง นี่เป็นข่าวใหญ่พวกเขาไม่สามารถห้ามตัวเองให้กระจายข่าวไปยังบรรดาเพื่อนฝูงได้ เมื่อพวกเขากลับไปในเมือง พวกเขาจะต้องโพสต์ลงฟอรัมอย่างแน่นอน แล้วทให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายจนพวกเขามีผู้ติดตามเยอะขึ้น นี่คือความน่ากลัวของมนุษย์ พวกเขามีสัญชาตญาณดินที่อยากจะเห็นผู้คนตกต่ำ และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้ที่พวกเขาเห็นใจ

อือ อือ

ฉินเซี่ยเอินรู้สึกตื่นตระหนก เขาต้องการจะบอกว่าเขาไม่เคยคิดร้ายต่อน้องสาวตัวเอง

“เซี่ยเอิน นี่เป็นความจริงรึ” แม่ของพวกเขาพี่น้องรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เหตุผลที่นางถูกขับไล่ออกมาจากจวญผู้นำตระกูลฉินเพราะมีบุตรไร้ความสามารถถึงสองคน นางไม่สามารถต่อกรกับบรรดาอนุภรรยาของผู้นำตระกูลฉินได้ หากสิ่งที่นพเก้าพูดเป็นความจริงแสดงว่าบุตรชายของนางได้กระทำเรื่องต่ำทรามลงไป

ไม่นานบรรยากาศก็กลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง บรรดาชาวบ้านต้องการดูการถ่ายทอดสดละครน้ำเน่านี้ต่อไป

“แต่ถึงแม้ข้าจะเปิดเผยความจริง ทุกคนก็ยังสงสัยใช่ไหมว่าจุดเริ่มต้นมันมาจากสิ่งใด เหตุใดถึงต้องวางยานางด้วย”

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์พยักหน้าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“จริงอยู่ที่นางไม่สามารถยกระดับความก้าวหน้าได้ อย่างไรก็ตามพละกำลังของนางในการต่อสู้ก็ยังสูงกว่าปกติ นางสามารถต่อกรกับผู้ฝึกปรือเขตแดนหลอมศิลาขั้น 4 ได้อย่างสูสี ท่านน่าจะรู้เรื่องนี้” ครั้งนี้นพเก้าหันไปหาแม่ของเด็กสาว

นางพยักหน้าตอบ เมื่อนางคิดย้อนกลับไปก็เป็นเช่นนั้นก็จริงๆ นางสามารถสู้กับผู้ที่มีระดับสูงกว่าได้อย่างน้อย 3 ระดับ หากวัดในด้านพละกำลังเนื่องจากนางไม่สามารถใช้ทักษะต่อสู้ได้ เมื่อนางสอบถามหมอเทวะพวกเขาให้คำตอบที่คล้ายกันว่าร่างกายของนางผิดปกติ

“ร่างกายผิดปกติ” นพเก้าอดที่พูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามไม่ได้ ด้วยกายาระดับเทพเจ้า และสองสายเลือดชั้นเซียน มันจะผิดปกติได้อย่างไร หากเป็นเช่นนั้นคนทั้งโลกคงเป็นขยะ

“อวี้หลินได้เวลาแสดงความสามารถของเจ้าแล้ว” นพเก้าได้เตรียมการบางอย่างไว้แล้ว เพื่อยกระดับชื่อเสียงให้กับลูกศิษย์ของเขา

“เจ้าคะ” ฉินอวี้หลินตอบ จากนั้นนางเดินออกไปกลางฝูงชนแล้วโคจรพลังปราณออกมาพร้อมกับพลังสายเลือด มันปรากฏเป็นปราณก่อรูปของนกยักษ์ตัวสีฟ้าด้านหลังนาง

“เป็นไปได้อย่างไร” ครั้งนี้เป็นรองเจ้าเมืองที่ตกตะลึง เขารู้จักสิ่งนี้เป็นอย่างดี มันคือสายเลือดปักษากลืนสมุทธในตำนานของตระกูลอวี่ของเมืองเวสสุวรรณ มันเคยปรากฏขึ้นเมื่อหนึ่งพันปีก่อนเท่านั้นจากนั้นก็หายสาบสูญไป มีเพียงเจ้าเมืองคนแรกเท่านั้นที่มีความสามารถนี้

จากนั้นไม่นานฝูงชนก็เกิดความโกลาหล เพราะมีพวกเขาที่เคยได้ยินตำนานนี้มาก่อน พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางฉินเซี่ยเอินอย่างสมเพช เจ้าปัญญาอ่อนหรือไม่ คิดทำร้ายผู้ที่มีสายเลือดบรรพบุรุษเชียวหรือ เพียงค่เจ้าเกาะขานางในอนาคตเจ้าสามารถมีตัวตนในแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยซ้ำ

อะไรวะ

ฉินเซี่ยเอินรู้สึกเหมือนมีค้อนมาทุบหัว ทำไมเรื่องราวถึงกลายเป็นเช่นนี้ได้ ทำไมเด็กคนนี้ถึงมีสายเลือดบรรพบุรุษ หากข่าวนี้หลุดรอดออกไปเขาจะกลายเป็นอาชญากรที่โจดจันไปนับพันปีอย่างแน่นอน

“ข้าเห็นว่าสายเลือดของนางหลับใหลมานานเพราะถูกวางยาพิษ ข้าเลยช่วยเหลือนางเล็กน้อยเพื่อปลุกสายเลือดของนาง” นพเก้าพูดจาโกหกหน้าตายออกมา จริงๆ แล้วหากไม่ได้แก่นเลือดของจักรพรรดิอสูรปักษามันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะปลุกสายเลือดระดับเริ่มต้นของนาง

“อาจารย์” ฉินอวี้หลิงมองไปที่ดวงตาของนพเก้า นางรู้ดีว่าที่นางปลุกสายเลือดได้เป็นหาอาจารย์ของนางยอมต่อสู้เสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้แก่นเลือดของจักรพรรดิอสูรมา การต่อสู้ครั้งนั้นส่งผลให้พวกเขาทั้งหมดเกือบเอาชีวิตไปทิ้ง ตอนนี้ในหัวใจของนางมีเพียงความเคารพสุดลึกล้ำที่มีต่อนพเก้าเท่านั้น

[ติ๊ง ขอแสดงความยินดี โฮสต์ได้ทำให้ลูกศิษย์นับถือโฮสต์อย่างสุดหัวใจ รางวัล: ช่องทรัพยากร + 30]

“ฉินเซี่ยเอิน ทุกคนรู้ดีว่าเจ้ามีเพียงชื่อเสียงด้านความเป็นนักบุญเท่านั้น สำหรับพรสวรรค์ด้านการฝึกปรือ เจ้า ธรรมดา” นพเก้าพูดเว้นเล็กน้อยและย้ำประโยคสุดท้าย

อึค

ฉินเซี่ยเอินมองไปที่นพเก้า เขารู้สึกอับอายจนอยากกระอักเลือดออกมา เหตุใดคนผู้นี้ถึงมีลิ้นที่เฉียบคมนัก มันเป็นความจริงที่เขาไม่มีพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธ์ ดังนั้นเขาจึงสร้างตัวตนที่เป็นนักบุญขึ้นมา ด้วยการคว้าหัวใจของประชาชนและมีชื่อเสียงเรื่องการช่วยเหลือขยะอย่างน้องสาวของเขา โดยใช้สมุนไพรระดับสูงอย่างลับๆ แล้วจงใจปล่อยข่าวลือออกไป สิ่งนี้จะทำให้บรรดาคนที่อิจฉาฉินอวี้หลิงรู้สึกเกลียดชังนางมากยิ่งขึ้น และมองเขาเป็นพี่ชายแสนดี

ต่อให้เขาไม่มีพรสวรรค์ด้านการฝึกปรือแล้วอย่างไร ตาของเขาไม่มีบุตรชาย เขามีหลายชายเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวซึ่งก็คือเขา ประกอบกับชื่อเสียงของเขาที่สะสมมามันจะไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่เขาจะนั่งตำแหน่งเจ้าเมือง

“ดูเหมือนข้าจะพูดถูก เจ้ามีจุดประสงค์ทั้งสองข้อแรก เจ้าอิจฉาในพรสวรรค์ของน้องสาวตัวเอง และใช้นางในการเพิ่มชื่อเสียงของเจ้า และอย่างสุดท้าย” นพเก้าเว้นประโยคเล็กน้อย

“เจ้าเห็นว่านางไม่เคยยอมแพ้แม้ว่าจะไม่สามารถพัฒนาได้ เจ้ากลัวว่าสักวันหนึ่งศักยภาพของนางจะสามารถกลับมาได้ แต่ข้าขอบอกว่าเจ้าคิดมากเกินไป เจ้ามันเป็นพวกด้อยค่าตนเอง จนเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิต” ยิ่งพูดนพเก้าก็ยิ่งเกลียดชายผู้นี้ เพียงเพราะตนเองไม่สามารถเอาชนะ จึงต้องทำร้ายผู้อื่นโดยใช้เล่ห์เหลี่ยม กระทั่งคนในครอบครัวก็สามารถลงมือได้ เขาไม่อยากคิดถึงผลที่ตามมาหากอีกฝ่ายกลายเป็นเจ้าเมือง

“ไม่ ข้า” ฉินเซี่ยเอินไม่รู้ว่าเขาหลุดจากอำนาจศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร มันเลยทำให้เขาก้าวถอยหลังพลาดแล้วล้มจำเบ้าลงไปกับพื้น

“ดังนั้นเจ้าจึงหลอกนางให้เข้าไปหาสมบัติล้ำค่าที่สามารถยกระดับพรสวรรค์ของนางได้ ผลเพิ่มความฉลาด มันมีสิ่งนี้จริงหรือ” นพเก้าหันไปมองผู้คนรอบๆ

ทุกคนต่างส่ายหัว หากมีผลเช่นนี้จริงๆ พวกเขาจะยอมเสี่ยงตายเพื่อได้มันมาแม้ว่าจะต้องช่วงชิงชีวิตผู้อื่นก็ตาม หากพวกเขาฉลาดขึ้น ความเข้าใจด้านการฝึกปรือจะพัฒนาอย่างรวดเร็วแน่นอน

“เมื่อเจ้าหลอกนางสำเร็จ เจ้าก็หาทางหนีที่ไล่ให้นางอย่างลับๆ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่นางจะหนีออกมาเองในคฤหาสน์ที่มีทหารองครักษ์มากกว่า 500 คน นอกจากนี้เจ้าไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง” นพเก้าหันไปมองเจ้าเมืองหลังพูดจบ

เฮ้ย

รองเจ้าเมืองตกตะลึงระคนหวาดกลัว อีกฝ่ายรู้ได้อย่างไร

“เจ้าจงกลับสารภาพทุกความผิดที่เจ้าทำกับเจ้าเมืองซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา” นพเก้ายกมือตบไหล่ของอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินไปหาฉินเซี่ยเอิน

รองเจ้าเมืองไม่พูดอะไร เพียงผสานมือโค้งคำนับ เขารู้สึกขอบคุณที่อีกฝ่ายไว้ชีวิตเขา อย่างไรเจ้าหญิงน้อยก็เป็นลูกศิษย์ของจักรพรรดิยุทธ์

ตอนนี้ทุกคนรู้สึกตัวแล้วว่าไม่ถูกสะกดด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป พวกเขาสามารถถอยกลับไปได้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีผู้คนคิดกลับไป บางคนแอบหยิบมือถือออกมาถ่ายทอดสด ไม่ก็ถ่ายวิดีโอ

“สำหรับเจ้า ใครก็ตามที่ทำร้ายศิษย์ของข้ามันจะต้องพบกับชะตากรรมที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตาย” นพเก้าย่างสามขุมเข้าไป ขณะที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมปรากฏจิตสังหารออกมา

“ไม่ ข้าผิดไปแล้วได้โปรดอย่าฆ่าข้า” ตอนนี้ฉินเซี่ยเอินไม่อยู่ในสภาพของคุณชายรูปงามอีกต่อไป เขาคลานเข้ามาร้องขอความเมตตาขณะน้ำจากกางเกงเจิ่งนองเต็มพื้น

บรรดาผู้คนที่มองดูก็รีบถอยห่างออกไปแล้วเอามือปิดจมูกด้วยท่าทางรังเกียจ

“หลิงเอ๋อ ช่วยข้าด้วย ข้าผิดไปแล้ว ข้าจะเนรเทศตัวเองออกไปดินแดนรกร้าง” เขาหันไปมองน้องสาวของเขา อย่างไรก็ตามเขาได้รับเพียงสายตาเย็นชาตอบกลับมาเท่านั้น

“แต่ไหนแต่ไรเจ้าก็ไม่มีพรสวรรค์อยู่แล้ว เลิกฝึกปรือเป็นอย่างไร จะได้ไม่ต้องเปลืองทรัพยากรไปเปล่าๆ” ขณะที่นพเก้าพูดเขาก็ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในท้องน้อยของอีกฝ่าย

เป๊าะ เกิดเสียงแตกหักราวกับกระจกขึ้น

“แค๊ก” ฉินเซี่ยเอินกระอักเลือดออกมา และล้มลงไปกับพื้น ตอนนี้ที่ตัวของเขามีเลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเก้า เขากลายเป็นคนพิการอย่างสมบูรณ์ไม่อาจฝึกฝนได้อีกต่อไป

“เซี่ยเอิน” โดยไม่คาดคิดแม่ของเขารีบเข้าไปดูเขาทันทีด้วยมือที่สั่นเทา

เมื่อนางเห็นสภาพเช่นนี้นางรู้สึกเสียใจ จากนั้นนางมองดูนพเก้าด้วยสายตาอาฆาตแค้น

นพเก้ารู้สึกพูดไม่ออก อย่างไรก็ตามเขายังรักษาท่าทีสงบและพูดบางอ่างออกไป

“กับลูกสาวตนเองไม่เคยให้ความสนใจแม้แต่ในตอนที่นางสิ้นหวัง เหตุผลที่เจ้าออกมาตามหานางเป็นเพราะเจ้าเมืองสั่งมาใช้หรือไม่” นพเก้าต้องการสร้างความร้าวฉาน จะดีกว่าถ้าลูกศิษย์ของเขาสามารถตัดสัมพันธ์ไปได้ เพื่อให้ไม่มีปัญหาในอนาคต

ผู้หญิงคนนี้ไม่ตอบ เพียงมองไปที่ฉินอวี้หลิงด้วยความเดือดดาล

“เจ้า เป็นเพราะเจ้าคนเดียว” ดูเหมือนตอนนี้นางจะกลายเป็นแม่ลิงคลั่งที่พึ่งเสียลูกของมันไป

“ท่านแม่” เมื่อมองดูภาพนี้ หัวใจของฉินอวี้หลิงรู้สึกเจ็บปวด เป็นความจริงที่เวลานางรู้สึกเสียใจและต้องการใครปลอบใจสักคน ไม่เคยมีภาพของแม่มาปรากฏในหัวของนางเลยสักครั้ง

นางเดินออกไปโดยไม่รู้ตัว ต้องการจะถามว่าทำไมแม่ของนางถึงไม่เคยสนใจใดๆ นางเลย

เพียะ

ขณะที่เด็กสาวพยายามจับมือแม่ของนาง นางถูกปัดมือทิ้งไป

“ไสหัวไปซะ เจ้าไม่ใช่ลูกของข้า” นางตะโกนออกไปอย่างเดือดดาล

ฮือ ฮือ

ฉินอวี้หลิงรู้สึกกระทบจิตใจอย่างมากกับคำพูดนี้ นางร้องไห้ออกมาอย่างหยุดไม่ได้

“บัดซบ ช่างเป็นแม่กับลูกชายที่บัดซบ” บางคนที่ชมเหตุการณ์สบถออกมา เขาชักดาบต้องการจะเข้าไปจัดการแต่มีเพื่อนห้ามไว้ทัน

ขณะเดียวกันไลฟ์สดในเมืองก็มีผู้ชมมากกว่าห้าหมื่นคน พวกเขาแสดงความคิดเห็นราวกับพายุทอร์นาโด ด้วยความรวดเร็วเกินไปส่งผลให้ระบบค้าง แถบความคิดเห็นไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

ขณะที่นางร้องไห้ นางรู้สึกถึงความอบอุ่นถาโถมเข้ามา เป็นอาจารย์ของนางที่เข้ามาสวมกอดนางแล้วลูบหัวน้อยๆ ของนาง

“เจ้าอย่าได้เสียใจไป นับจากนี้เจ้าจงไปอยู่กับข้าที่ตระกูลหวง คิดซะว่าที่นั่นเป็นบ้านของเจ้า” นพเก้าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ฮือ ฮือ ดีเหลือเกิน” บางคนที่เห็นภาพนี้อดที่จะรู้สึกขอบตาแดงไม่ได้ พวกเขารู้สึกดีใจและอิจฉานางในเวลาเดียวกัน การเป็นศิษย์ของจักรพรรดิยุทธ์เป็นเพียงความฝันสำหรับพวกเขาที่ไม่มีวันเป็นจริงได้

“เอาล่ะ กลับกันเถอะ” นพเก้าพูดขึ้นก่อนจากไปเขาไม่ลืมที่พูดกับรองเจ้าเมืองเล็กน้อย

“ข้าฝากคำทักทายถึงเจ้าเมืองด้วย เมื่อมีเวลาข้าจะไปเยี่ยมเยือน” หลังพูดจบเขาและเด็กสาวก็บินจากไป

รองเจ้าเมืองตัวสั่นทันที หากเขากลับไปในสภาพนี้และบอกว่าเข้าฝากคำทักทาย เขาอาจจะถูกตบจนกระเด็นหัวทะลุกำแพง พี่ชายเจ้าเมืองของเขาผู้นี้เป็นคนอารมณ์ร้าย

ในขณะเดียวกันที่ตำหนักหลักตระกูลหวง ในห้องรับแขกมีหญิงวัยกลางคนที่แต่งหน้าหนาเตอะกำลังนั่งไขว่ห้างขณะพูดคุยกับสองสามีภรรยาตระกูลหวง

“ข้าขออภัย ตอนนี้โสมมะพาน 1,000 ปียังไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ ทำไมท่านถึงไม่รอสักสองสามปีล่ะ”ผู้นำตระกูลซึ่งเป็นนายหญิงตระกูลวายุภักษ์พูดขึ้นด้วยท่าทีแข็งกระด้าง

“นั่นไม่ใช่ที่เราตกลงกันไว้ ไฉนท่านถึงกลับคำ เราเคยตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ” อัครเดชทักท้วงด้วยความไม่พอใจ ตอนนี้ผู้อาวุโสนักปรุงโอสถกำลังจะสอบเลื่อนเป็นระดับปรมาจารย์ 4 ดาว ซึ่งไม่อาจรั้งรอได้ หากเลยช่วงเวลานี้ไปเจตจำนงการรู้แจ้งโอสถอาจดลง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสามารถรื้อฟื้นปรากฏการณ์นี้ได้ โดยทั่วไปเจตจำนงการรู้แจ้งโอสถยากที่เกิดขึ้นได้ ปรจารย์บางคนอาจตายก่อนด้วยซ้ำก่อนที่จะรู้แจ้งได้ ด้วยสภาวะนี้จะทำให้ผู้ปรุงโอสถยกระดับประสาทสัมผัสได้ถึง 10 เท่า

อัครเดชมั่นใจว่าผู้อาวุโสซั่งกัวรุ่ยจะต้องผ่านการทดสอบได้อย่างสวยงามแน่นอน อย่างไรก็ตามวัตถุดิบอย่างโสมมะพานเป็นสิ่งที่ปลูกได้ยากอย่างมาก ในเมืองเวสสุวรรณมีเพียงผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพียงตระกูลวายุภักษ์เท่านั้น อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้ว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงกระทำเช่นนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่ตระกูลค้าขายสมุนไพรอันดับหนึ่งจะไม่สามารถจัดหาได้

“ข้าต้องขออภัยจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถจัดหาได้ อย่างไรก็ตามสำหรับโสมมะพานที่สมบูรณ์เรามีข้อตกลงกับตระกูลฉินแล้ว พวกเขาเสนอราคาให้ 1,000 หินวิญญาณระดับสูง” นางพูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างมีเลศนัย

“นี่” อัครเดชไม่สามารถพูดอะไรได้ ดูเหมือนการสอบครั้งนี้ผู้อาวุโสซั่งกัวรุ่ยจะมีคู่แข่งเสียแล้ว เป็นที่รู้กันดีว่าโสมมะพาน 1,000 ปี เป็นสมุนไพรสำคัญในการช่วยให้ปรุงโอสถตระหนักรู้ที่มีคุณสมบัติเพิ่มโอกาสทะลวงสู่เขตแดนผู้พิทักษ์ได้ถึง 10% นอกจากนี้หากใส่สมุนไพรนี้ลงไปในกระบวนการกลั่นโอสถ จะมีโอกาสสำเร็จอย่างน้อยหกส่วน สำหรับผู้ที่ฝึกฝนมาอย่างยาวนานเพื่อเตรียมความพร้อมในการสอบสิ่งนี้ไม่สามารถขาดไปได้

อย่างไรก็ตามการซื้อตัดหน้าตระกูลฉินซึ่งเป็นตระกูลลำดับหนึ่งทำให้เขาลำบากใจ ด้วยอำนาจที่มีจักรพรรดิยุทธ์ถึง 10 คน และมีบรรพบุรุษขอบเขตกึ่งจ้าวสวรรค์ในตำนาน ทำให้ไม่มีใครอยากต่อกรด้วย

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นกับดัก แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมอีกฝ่ายถึงทำเช่นนี้ หรือคนในตระกูลจะมีใครบางคนทำให้ตระกูลวายุภักษ์ขุ่นเคือง

“ท่านหัวหน้าตระกูลท่านจะให้ข้ารออีกนานแค่ไหน” มีเสียงชายชราเดินเข้ามาอย่างร้อนรน

“ผู้อาวุโสซั่งกั่วรุ่ย” ทั้งสามคนยืนขึ้นโค้งคำนับเล็กน้อย นี่คือมารยาทพื้นฐานที่มีต่อปรมาจารย์โอสถ แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งก็ตามแต่พวกเขาก็เป็นกลุ่มคนที่มีศักดิ์ศรีและผู้สนับสนุนมากมาย

“ข้าต้องขออภัยที่ทำให้ท่านรอนาน เราติดปัญหาเล็กน้อย” อัครเดชพูดด้วยน้ำเสียงหนักใจ

“ติดปัญหาอะไรรึ” ซั่งกั่วรุ่ยขมวดคิ้ว จะมีปัญหาอะไรไปมากกว่าการที่เขาไม่สามารถสอบเลื่อนระดับได้ทันเวลาโดยขาดสภาวะเจตจำนงการรู้แจ้งโอสถ

“นายหญิงท่านบอกราคามาเป็นอย่างไร พวกเราต่อรองราคากันได้” หวงเม่ยพูดขึ้น มันไม่สำคัญแล้วว่าจะเป็นการซื้อตัดหน้าตระกูลฉินหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากปฏิเสธการซื้อโสมมะพานพันปีครั้งนี้ ผู้อาวุโสนักปรุงโอสถเพียงคนเดียวในตระกูลหวงจะต้องขุ่นเคืองและเกิดความขัดแย้งกับตระกูลสาขาแน่นอน ในอนาคตเขามีสิทธิ์ที่จะไม่แบ่งโอสถสนับสนุนตระกูลหลักได้ด้วยซ้ำ สิ่งนี้จะทำให้เกิดปัญหามากมายกับครอบครัวของนางจากบรรดาผู้ที่เสียผลประโยชน์ กรณีเลวร้ายที่สุด การที่ซั่งกั่วรุ่ยไม่สามารถสอบเลื่อนระดับครั้งนี้ได้เขาอาจจะตัดขาดจากตระกูลหวงโดยสมบูรณ์

“5,000 หินวิญญาณระดับสูงไม่มีการต่อรอง” นายหญิงตระกูลวายุภักษ์แสยะยิ้มและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉยชา