อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด - บทที่ 18 สอบปรุงยาระดับ 1 ดาว โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ผู้แต่ง

ยักษาบรรพกาล

เรื่องย่อ

นพเก้าเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นแม่แต่น้อย

“ระบบการแสดงของข้าเป็นอย่างไรบ้าง” 

นพเก้าถาม

[ติ๊ง ประทับใจ]

ระบบตอบ

[ติ๊ง ของแสดงความยินดีโฮตส์ได้แสดงการวาดยันต์บุพภาลำเนาไพรฉบับสมบูรณ์ การกระทำของโฮสต์เริ่มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปรงด้าน อุตสาหกรรมยันต์วิญญาณระดับภูมิภาค รางวัล: เพิ่มช่องทรัพยากร + 5]

“ระบบ ข้าสามารถใช้งานได้อย่างไร”

[โฮสต์สามารถเรียกช่องทรัพยากรได้ผ่านทางจิตแล้วใส่วัตถุในช่อง ทรัพยากร]

นพเก้าหยิบสร้อยคอทองคำ 1 บาทที่น้องสาวให้เป็นของขวัญวันเกิดใส่ในช่องทรัพยากรตรงหน้า

[ช่องทรัพยากร]

[ความจุ 1/5]

[วัตถุ: สร้อยคอทองคำ 1 บาท (ระยะเวลาเพิ่มจำนวน 23 ชั่วโมง 59 นาที 53 วินาที: อัตราเพิ่มจำนวน 1 เท่าตัว)

“ระบบ ถ้ามันครบ 24 ชั่วโมงมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นจริงเหรอ แล้วมันมีข้อจำกัดหรือไม่” 

นพเก้าอดสงสัยไม่ได้

[จริงแท้แน่นอน]

[โฮสต์โปรดอย่าสงสัยในความสามารถของระบบ ต่อให้เป็นไอเทมระดับทำเจ้าก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ย่างไม่สิ้นสุด]

สารบัญ

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 1 บทนำ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 2 เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 3 กลับบ้าน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 4 นพเก้า ปะทะ หวงอี้เฟย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 5 กายาสวรรค์ จุติจักรพรรดิในก้าวเดียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 6 อัจฉริยะในรอบพันปี,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 7 อันตัวข้าผู้สืบทอดเป็นคนใจกว้าง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 8 เทศกาลสวมหมวกเขียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 9 เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย โอเคได้เลย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 10 พบบุตรแห่งโชคชะตา,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 11 จิตใจของข้าแตกสลายเป็นล้านๆชิ้น,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 12 ความลับตระกูลหวง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 13 พบเจอกายาอมตะ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 14 บุกรังจักรพรรดิปักษาพิรุณ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 15 ครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 16 สร้างประตูมิติ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 17 ฝากคำทักทายเจ้าเมือง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 18 สอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 19 ใครบอกกันว่าข้าจะสอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 20 การปรากฏขึ้นของโอสถระดับตำนาน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 21 ความเย่อหยิ่ง ปะทะ ความจองหอง

เนื้อหา

บทที่ 18 สอบปรุงยาระดับ 1 ดาว

ปัง!

“ไม่มีทาง” อัครเดชตบโต๊ะ เขาปฏิเสธด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ราคา 5,000 หินวิญญาณระดับสูงนั่นคือเงินเดือนคนทั้งตระกูลถึงสามปี การขูดเลือดขูดเลือดนี้มันไม่สมเหตุสมผลเกินไป ต่อให้ในงานประมูลอย่างมากก็ไม่เกิน 3,000 หินวิญญาณระดับสูง

นอกจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขานำจำนวนเงินนี้ใช้สอยออกไป ต้องบอกก่อนว่าช่วงหลายปีมานี้เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านทางด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัย หากเขาไม่มีการลงทุนมากพอหน่วยงานภาครัฐจะไม่มีการสนับสนุนวิทยาการใดๆ ในสำรวจดินแดนรกร้อง เนื่องจากปัจจุบัน 80% รัฐบาลได้ผูกขาดความรู้ด้านเทคโนโลยีจากอารยธรรมโบราณทั้งหมด

เมื่อเป็นเช่นนั้นพวกเขาจะมีความลำบากด้านการขนส่งแร่จากเหมืองในกรรมสิทธิ์เข้าประเทศ พวกเขาจะต้องหานายทุนใหม่ที่เป็นเอกชน แน่นอนว่าส่วนแบ่งที่พวกเขาจะได้รับมีเพียงเล็บมือเท่านั้นเนื่องจากถูกหักภาษีมากมาย

สิ่งนี้จะทำให้ตระกูลหวงไม่มีเงินหมุนเวียนมากพอ การค้าและธุรกิจในเครือต้องหยุดชะงัก เมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาตระกูลหวงจะมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถตามคู่แข่งได้ทันได้ พวกเขาไม่สามารถหลีกหนีชะตากรรมตกตํ่าลงของตระกูลได้

“ท่านจะไม่ซื้อก็ได้ ยังไงซะเราก็ได้ตกลงกับตระกูลฉินไว้อยู่แล้ว” เฟิงซินหลานยักไหล่

เมื่อหวงเม่ยได้ยินคำพูดนี้นางกัดฟันจงได้ยินเสียงขบเคี้ยว ชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายมาหาเรื่องพวกเขา อย่างไรก็ตามการกระทำเช่นนี้มันต่ำช้าเกินไป นอกจากพวกเขาจะต้องมีปัญหากับตระกูลฉินแล้วยังต้องขูดเลือดขูดเนื้อเพื่อจ่ายออกไปในราคามหาศาล

“ท่านผู้นำ แล้วแต่ท่านตัดสินใจเถอะ หากไม่มีโอกาสข้าก็แค่รออีกสักสองสามปี” ซั่งกั่วรุ่ยเมื่อเห็นสถานการณ์นี้เขาก็เข้าใจทันที เขาเพียงแสดงท่าทีไม่ยี่หระ แต่ภายในใจของเขารู้สึกไม่สบายใจ หากอัครเดชไม่สามารถจัดหาให้เขาได้ เขาก็ไม่รังเกียจนักที่จะออกจากตระกูลหวงแล้วไปทำในสมาคมปรุงโอสถในเมืองหลวงของมณฑลสิงห์คำรน มันไม่ใช่เรื่องยากที่สมาคมที่ใหญ่ที่สุดจะไม่สามารถจัดหาให้ได้

“ท่านผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล ท่านเพียงเตรียมตัวกับการสอบเลื่อนระดับเป็นพอ” อัครเดชฝืนยิ้ม เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร ใครกันจะยอมปล่อยสภาวะเจตจำนงรู้แจ้งโอสถไป ต่อให้ใจกว้างแค่ไหนก็ไม่สามารถทำได้

“พวกเราตกลง แต่เราอาจต้องใช้เวลาสักสองสามวันในการเตรียมเงินจำนวนนี้” อัครเดชพูดขึ้น ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของพวกเขาเก็บออกไว้ในรูปแบบธนบัตร มันต้องใช้เวลาสักพักเพื่อเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณระดับสูง

“ฮ่า ฮ่า ไม่เป็นไรๆ เรื่องเล็กน้อย” เฟิงซินหยานหัวเราะออกมาด้วยท่าทีเบิกบาน เมื่อนางเสร็จธุระก็ไม่นั่งนอนอีกต่อไป เตรียมจะจากไปพร้อมกับความสุขของชัยชนะครั้งนี้

ขณะที่นางกำลังเดินออกไปหน้าประตูนางก็อดฮำเพลงไม่ได้ พวกเจ้าไม่สามารถโทษข้าได้ หากพวกเจ้าต้องการจัดการใครสักคนควรเป็นลูกชายของพวกเจ้า เมื่อคืนสามีน้อยของนางได้มาฟ้องนางถึงการกระทำอันน่ารังเกียจของนพเก้า เมื่อนางได้ฟังคำอธิบายที่มีการใส่สีตีไข่เข้าไปนางก็รู้สึกเดือดดาลทันที

อะไรน่ะ มันทุบตีคนในตระกูลวายุภักษ์และยังทำอนาจารให้อับอายต่อสาธารณชนอีกหรือ สิ่งนี้ไม่สามารถให้อภัยได้

แล้วนี่อะไร มาบอกว่าธุรกิจของพวกนางไม่บริสุทธิ์เป็นพวกเลี่ยงภาษี มีการปลูกสมุนไพรลับหลังรัฐบาล พวกมันรู้ได้อย่างไร หรือจะมีคนค้นพบฐานที่มั่นแล้ว สิ่งนี้ทำให้นางต้องปวดหัว ดูเหมือนนางจะต้องย้ายฐานที่มั่นในป่ามรณะใหม่เสียแล้ว

และสุดท้ายสิ่งที่ทำให้นางเดือดดาลที่สุด เด็กเปรตผู้นั้นบอกว่านางเป็นผู้หญิงอัปลักษณ์ และไม่สามารถหาสามีที่ดีได้ สิ่งนี้ทำให้เหตุผลของนางหายไปอย่างสมบูรณ์

ขณะที่นางกำลังเดินออกจากประตูคฤหาสน์ตระกูลหวง นางเห็นร่างเด็กหนุ่มและเด็กสาวคนหนึ่งกำลังบินข้ามหัวพวกเขาแล้วตรงไปที่ทางเข้าตำหนักหลัก

เชอะ

นางกระเดาะลิ้น หากอีกฝ่ายไม่ใช่จักรพรรดิยุทธ์นางคงส่งมือสังหารไปจัดการแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อนางมองดูโดยใช้สายตาโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์ นางไม่อาจมองทะลุฐานการฝึกปรืออีกฝ่ายได้ นางไม่ทราบว่าระดับที่แท้จริงของอีกฝ่ายจะอ่อนแอกว่านางหรือไม่ เพราะตอนนี้นางติดอยู่ในระดับจักรพรรดิยุทธ์ขั้นกลางมาเกือบ 80 ปีแล้ว

จะอย่างไรก็ช่าง เพราะตอนนี้นางได้ระบายความขุ่นเคืองแล้ว นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเมื่อพ่อแม่ผู้นั้นรู้ว่าลูกเป็นต้นเหตุ พวกเขาจะลงมือจัดการอย่างไร

ตัดมาที่ในห้องรับรองตระกูลหลัก ตอนนี้ซั่งกั่วรุ่ยพูดกับอัครเดชด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ด้วยการกระทำของอัครเดชเขาไม่จำเป็นต้องไปเข้าสมาคมปรุงยาอีกต่อไป เขาไม่ต้องการเป็นหนี้และปรุงยาชดใช้เป็นเวลาสิบกว่าปี

“ขอบคุณผู้นำตระกูล บุญคุญครั้งนี้ข้าซั่งกั่วรุ่ยจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน” ชายชราพูดด้วยสีหน้าเบิกบาน

“มิกล้า มิกล้า ขอเพียงผู้อาวุโสสอบเลื่อนระดับได้เป็นพอ ถึงตอนนั้นก็เป็นเรื่องของเวลาที่ตระกูลหวงจะผงาดขึ้นมาด้วยมีท่านเป็นผู้มีส่วนช่วย” อัครเดชเลิกคิดมากอีกต่อไป ตอนนี้เขาทำได้เพียงซื้อใจผู้อาวุโสท่านนี้ต่อไปเท่านั้น

“แน่นอน ยังไงซะข้าก็เป็นคนของตระกูลหวงกึ่งหนึ่ง” ซั่งกั่วรุ่ยรู้สึกพึงพอใจในท่าทีนอบน้อมของเจ้าตระกูล เมื่อเขาเลื่อนเข้าสู่ระดับ 4 ดาว เขาจะสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบในเมืองเวสสุวรรณ และมีลูกศิษย์มาเข้าหาเขามากมาย คงจะดีไม่น้อยท่ามีลูกศิษย์หญิงมากพรสวรรค์สักสองสามคน เมื่อเขาคิดเช่นนี้ก็อดที่จะยิ้มตาหยีไม่ได้

เอ๊ะ บางทีลูกสาวของเจ้าตระกูลก็อาจมีพรสวรรค์ด้านการปรุงยาเช่นกัน ข้าควรหาเวลาเพื่อคุยเรื่องนี้กับเจ้าตระกูลผู้นี้เสียแล้ว

ขณะที่เขากำลังคิดเรื่อยเปื่อยนพเก้าก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกับฉินอวี้หลิง

“คารวะผู้อาวุโสซั่งกัวรุ่ย” นพเก้าโค้งคำนับเล็กน้อย จะอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นกระปุกออกสินในตระกูล เขาควรให้กียรติซักเล็กน้อย

“อืม” ซั่งกั่วรุ่ยเพียพยักหน้าเล็กน้อย การมีจักรพรรดิยุทธิ์มาแสดงการทักทายก็ดีเช่นกัน ไม่ข้าต้องการมากกว่านี้ หากต้องการให้จักรพรรดิยุทธิ์ก้มหัวให้ข้าต้องไปให้ถึงระดัย 6 ดาว

ทันใดนั้นชายชราผู้นี้ก็รู้สึกกำลังใจมากขึ้น ด้วยพรสวรรคของเขาจะต้องสามารถไปถึงแน่นอนในเวลาไม่เกินหนึ่งร้อยปี

เฮ้อ

อัครเดชถอนหายใจแล้วก็เล่าทุกอย่างออกมา เมือนพเก้าฟังจนจบเขาก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมาหาเรื่องตระกูลหวง แต่เพราะอะไรตอนนี้เขาไม่สามารถคิดออกได้ เขาพึ่งมาถึงโลกนี้ได้เพียงสี่วันเท่านั้น เขาจำอะไรในอดีตไม่ค่อยได้มากนัก

“เด็กนี่คือ” อัครเดชสงสัย เขารู้สึกคุ้นหน้าเด็กคนนี้

“ข้าเห็นว่านางมีพรสวรรค์ ข้าเลยรับนางเป็นศิษย์” นพเก้าตอบกลับและเล่าเรื่องที่ระหว่างมาให้ฟัง

“โอว ช่างน่าสงสารนัก มาให้ข้ากอดที” เมื่อหวงเม่ยได้ยินเรื่องราวทั้มหด นางรู้สึกอยากจะทุบตีสองแม่ลูกผู้นั้น ช่างเป็นการกระทำของเดรัจฉาน นาอดที่จะอุ้มเด็กน้อยขึ้นมากอดไม่ได้

ฉินอวี้หลิงงุนงง ทำไมอาจารย์ยายผู้นี้ถึงกอดนาง อย่างไรก็ตามในไม่ได้รู้สึกต่อต้าน นางรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่ได้พบมานาน นางยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

“สายเลือดปักษากลืนสมุทรงงั้นรึ ยอดเยี่ยมมาก” อัครเดชและทุกคนในที่นี้ตกตะลึง วาสนาการได้ลูกศิษย์แบบนี้มันคืออะไรกัน นอกจากนี้เพียงออกไปได้คืนเดียวเท่านั้น หากปล่อยให้อีกฝ่ายออกไปอีกแล้วกลับมาจะมีเด็กเพิ่มขึ้นมาอีกหรือไม่ พวกเขาพ่อแม่ของนพเก้าอดที่จะคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ไม่ได้ ต้องบอกก่อนว่าพวกเขาพึ่งจะมีหลานชายเมื่อวาน ยังไม่ทันได้จัดงานฉลองด้วยซ้ำ

ซั่งกั่วรุ่ยมองสลับไปมาระหว่างนพเก้าและฉินอวี้หลิง เขารู้สึกอิจฉา

(ไม่ได้การ หลังจากเลื่อนเป็นระดับ 4 ดาวข้าต้องหาลูกศิษย์โดยเร็วที่สุด)

หลังจากดีใจพักใหญ่อัครเดชก็รู้สึกสงสัย ทำไมลูกชายถึงรู้เรื่องนี้ได้ เขาไม่มีทักษะการประเมินที่ยอดเยี่ยมเกินไปหน่อยหรือ ดูเหมือนเขาจะต้องไปบอกเรื่องนี้กับพ่อตาก่อน จากนั้นค่อยจัดการเรื่องเตรียมเงินซื้อสมุนไพรโสมมะพานพันปี

“จริงด้วย เรื่องโสมมะพานพันปีท่านพ่อท่านไม่จำเป็นต้องเตรียมการแล้วล่ะ ข้าไม่คิด่าพวกนั้นสามารถหามาให้ได้ตามสัญญา” นพเก้าพูดขึ้นด้วยอารมณ์บขัน

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” ก่อนที่อัครเดชจะพูดขึ้น ซั่งกั่วรุ่ยก็พูดออกมาก่อน สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร ตระกูลวายุภักษ์คิดจะเล่นตลกกับเขางั้นหรือ อีกฝ่ายไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยงั้นหรือ

“ก่อนหน้านี้ที่ข้าไปสำรวจในป่ามรณะ ดูเหมือนตระกูลวายุภักษ์จะมีฐานที่มั่นลับสำหรับปลูกสมุนไพรอยู่ในนั้น อย่างไรก็ตามด้วยปรากฏการณ์ประหลาด มันทำให้พวกสัตว์ระดับจักรพรรดิต่อสู้แย่งชิงอาณาเขตกัน ช่างโชคร้ายที่สถานที่นั้นถูกทำลายไป” นพเก้าถอนหายใจขณะพูดออกมา

“คิกคิก” ฉิวอวี้หลิงหัวเราะออกมา เป็นอาจารย์ของนางที่บุกปล้นชิงทุกอย่างในป่ามรณะจนไม่เหลือแม้แต่สมุนไพรต้นเดียว นางคิดว่าอีกไม่นานเมืองเวสสุวรรณจะต้องตกอยู่ในความโกลาหลเพราะขาดแคลนสมบัติล้ำค่า

“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป คิดสิท่านผู้นำตระกูลข้าไม่สามารถรอได้อีกต่อไป” ซั่งกั่วรุ่ยพูดด้วยความร้อนรน พึ่งจะมีความสุขไม่ทันไร ก็เหมือนมีคนมาสาดน้ำเย็นใส่ทำให้เขาตื่นจากความฝัน

สามีและภรรยาสบตากัน จะให้ข้าทำอย่างไร สิ่งนี้ไม่สามารถแก้ไขได้

“งั้นอันนี้ข้าให้ท่าน” นพเก้าพูดขึ้นขณะโยนสมุนไพรบางอย่างไปในมือซั่งกั่วรุ่ย

“นี่มันโสมมะพาน 1,500 ปี เจ้าได้สิ่งนี้มาได้อย่างไร” ซั่งกั่วรุ่ยตกตะลึง ด้วยประสบการณ์ของเขา เขาเห็นสมุนไพรต่างๆ มามากมาย นอกจากนี้เขายังศึกษาตำราสมุนไพรในตระกูลจนหมดสิ้น เขาจึงจำลักษณะของมันได้ทันที นี่คือโสมมะพาน 1,500 ปี ซึ่งหาได้ยากอย่างมาก โดยทั่วไปมันจะมีอายุขัยไม่เกิน 1,200 ปีเท่านั้นก่อนที่จะเสื่อคุณภาพและเหี่ยวเฉาไป

นพเก้าเพียงยิ้มแต่ไม่ตอบ ความจริงแล้วเขามีสมุนไพรระดับนี้อยู่มากมายเป็นภูเขา เขามีแม้กระทั่งจักรพรรดิโสมมะพานอายุ 3,000 ปีด้วยซ้ำ เขาคิดจะใช้สิ่งนี้ปรุงโอสถระดับ 7 ให้กับพ่อและปู่ของเขา

“ขอบคุณมากหลานเก้า เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้จริงๆ” ซั่งกั่วรุ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียถ่อมตน หากอีกฝ่ายไม่ตอบเขาก็ไม่อยากซักไซ้เช่นกัน

“พ่อบ้านไปเตรียมห้องและของใช้จำเป็นต่างๆ ให้ลูกศิษย์ข้าด้วย จำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นของดีที่สุด” นพเก้าเรียนพ่อบ้านชรามาและจัดแจงทุกอย่าง ขณะที่เขาพูดเขาได้แอบส่งนักรบโลหิตระดับราชันไปยังทุกคนในตระกูลอย่างลับ ประมาณสามร้อยคนที่เป็นสมาชิกหลักและสมาชิก โดยเฉพาะพวกมีส่วนสำคัญในตระกูล เช่นธุรกิจ และข่าวกรอง ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงภายในตระกูลหวงได้ตลอดเวลา

“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ทำไมไม่ให้นางอยู่กับน้องสาวเจ้าเล่า” หวงเม่ยพูดขัดขึ้น

นพเก้ารู้สึกแปลกใจ อย่างไรก็ตามเขาพยักหน้า นั่นเป็นสิ่งที่ดี ในตระกูลหวงน้องสาวของเขาไม่มีเพื่อนเล่นมากนัก เอาจริงคือไม่มีเลย มันไม่เสียหายที่สองคนนี้จะสนิทกัน เพราะยังไงสักวันเขาจะก่อตั้งนิกายและพาตระกูลหวงทั้งหมดเข้าร่วมด้วย

“ดี งั้นเจ้ามากับข้า” หวงเม่ยจูงมือฉินอวี้หลิงออกไปโดยทิ้งคนทั้งสามไว้ นางรู้สึกดีใจที่มีลูกสาวอีกคน จะว่าไปเด็กคนนี้ก็หน้าตาดี การจับคู่กับหลานชายนางตั้งแต่เล็กๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ยังไงซะภูมิหลังของนางก็มีภาษีดีกว่าเด็กทุกคนในเมืองเวสสุวรรณ

“ท่านพ่อ ท่านผู้อาวุโส ในครั้งนี้ข้าจะติดตามท่ายไปด้วย ข้าคิดมาสักพักแล้วว่าจะไปสอบเป็นนักปรุงโอสถที่มณฑลสิงห์คำรน” นพเก้าเซอร์ไพส์ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น

“เจ้าว่าอะไรน่ะ สอบปรุงโอสถ” อัครเดชและซั่งกั่วรุ่ยตกตะลึง แม้แต่ฉินเม่ยที่กำลังเดินจากไปก็หยุดเดินและหันหลังกลับมามอง

“ใช่ ข้าเตรียมตัวมาสักพักแล้วที่จะสอบปรุงโอสถระดับ 1 ดาว” ความจริงแล้วนพเก้าไม่เคยปรุงยาแต่อย่างใด ด้วยประสบการณ์และความรู้ที่ได้รับจากระบบมันไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะทำผิดพลาด ยกเว้นว่าเขาเองจะต้องการ สำหรับตอนนี้เขาเพียงสนใจการปรุงยาเล็กน้อยเท่านั้น

ในชาติที่แล้วเขาเป็นปรมาจารย์ยันต์คาถาระดับ 6 ดาวและนักศาสตราวุธระดับ 2 ดาว มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเขาได้ฉายาว่า “ปราชญ์ไตรภาคี” หรือนักปราชญ์สามสาขา นี่ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง นอกจากนี้เขาไม่เชื่อว่าระบบจะให้รางวัลเป็นทักษะการปรุงโอสถระดับ 1 ดาวมาแบบสุ่ม มันต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่นอน

อัครเดชและทุกคนรู้สึกได้ว่าพวกเขาไม่ได้คิดไปเอง เมื่อพวกเขาได้สติก็มองนพเก้าด้วยแววตาประหลาดใจ เด็กคนนี้ไม่มีอาจารย์ด้วยซ้ำแต่มั่นใจได้อย่างไรว่าจะสอบระดับ 1 ดาวผ่าน เขาเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างนั้นรึ แค่เป็นอัจฉริยะด้านการบ่มเพาะยังไม่พอใจอีกหรือ

“เป็นความจริงอย่างนั้นรึ” ซั่งกั่วรุ่ยถามขึ้นมา ทำไมตระกูลหลักถึงมีอัจฉริยะเยอะนัก พวกเขาสอนคนรุ่นหลังอย่างไร

“ท่านสามารถทดสอบข้าได้” นพเก้ายิ้มกว้างจนเห็นฟันหลังพูดจบ

“ไม่ต้องๆ ข้าไม่สงสัยเจ้าแม้แต่น้อย” ซังกั่วรุ่ยไม่กล้าคิดต่อ ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นอัจฉริยะในรอบพันปี บางทีการเป็นนักปรุงโอสถระดับ 1 ดาวอาจไม่ได้ยากเกินไปนัก

“ฮ่า ฮ่า งั้นก็ดี พรุ่งนี้เราจะไปเมืองหลวงสิงห์คำรนกัน” คราวนี้อัครเดชจากไปด้วยรอยยิ้มสดใส เขาต้องการไปแจ้งข่าวนี้กับหวงไท่ อีกฝ่ายต้องดูแลตระกูลในขณะที่พวกเขาไม่อยู่

คืนนั้นตระกูลหวงผ่านไปอย่างสงบราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ขณะที่โลกภายนอกกำลังตกอยู่ในความโกลาหล ข่าวที่เกิดขึ้นนอกป่ามรณะดังไปถึงมณฑลสิงห์คำรนในชั่วข้ามคืน

ด้วยคลิปวิดีโอต่างๆ และการถ่ายทอดสดเรื่องของนพเก้าได้ผลักดันชื่อเสียงของเขาไปถึงขีดสุด

“นี่พวกเจ้าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้” มีข้อความตั้งกระทู้ขึ้นในแฟลตฟอร์มพันทิป

“ข้าคิดว่าเขาหล่อมาก สามารถเป็นดาราระดับประเทศได้แน่นอน”

“ไร้สาระ ข้ากำลังพูดเรื่องอดีตเจ้าเมืองน้อยฉินเซี่ยเอิน เห็นได้ชัดว่ามันผู้นี้เป็นคนต่ำช้า ข้าไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเนรเทศตัวเองออกไปดินแดนรกร้างจริงหรือไม่”

“ข้าคิดว่าไม่ เจ้าไม่รู้หรือว่าเจ้าเมืองเวสสุวรรณมีผู้สืบสกุลคนเดียวที่เป็นผู้ชาย เท่าที่ข้ารู้เจ้าเมืองผู้นี้มีชื่อเสียงด้านอารมณ์ร้ายเป็นอย่างมาก ข้าคิดว่าอย่างไรอีกฝ่ายจะต้องตามแก้แค้นอย่างแน่นอน”

“โอวใช่ ข้าต้องพูดอีกประโยคนึง หลังข้าดูไลฟ์สดย้อนหลังจข้ารู้สึกขบขันเป็นอย่างมาก ดูเหมือนเด็กสาวที่เป็นขยะในตระกูลจริงๆ แล้วเป็นอัจฉริยะ ในขณะที่นางอยู่ในช่วงตกต่ำเจ้าเมืองไม่สนใจไยดีแต่อย่างใด คราวนี้เมืองเวสสุวรรณของเราเกือบสูญเสียอัจฉริยะที่มีสายเลือดปักษากลืนสมุทธไปเสีแล้ว หากไม่ได้จักรพรรดิหวงช่วยไว้มันคงเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในรอบร้อยปี” คนผู้นี้อดพูดขึ้นไม่ได้ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

“ใช่แล้ว ข้าคิดว่าจักรพรรดิรุ่นเยาว์ผู้นี้ควรเป็นเจ้าเมืองเวสสุวรรณแทนดีหรือไม่ ในขณะที่เจ้าเมืองกำลังหมกตัวอยู่ในคฤหาสน์โดยไม่สนใจนักผจญภัยอย่างพวกเราที่เดือดร้อน มีเพียงจักรพรรดิหวงเท่านั้นที่กล้าเข้าไปเผชิญหน้ากับหายนะในป่ามรณะ บางทีจากที่ปัญหาทุกอย่างภายในป่าสงบดี เขาอาจจะจัดการเองอย่างลับๆ ก็ได้ เพียงเพราะไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจ”

“ปิดทองหลังพระอย่างนั้นรึ ช่างเป็นผู้ชายที่ดี ข้าอยากแต่งงานกับเขา”

“บัดซบ เหตุใดทุกคนจึงไม่เตะผู้หญิงอ้วนผู้นี้ออกไปเสีย เจ้าคิดว่าน้ำหน้าอย่างเจ้ามีคุณสมบัติอย่างนั้นรึ” บางคนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าดูถูก

ในขณะเดียวกันเจ้าเมืองเวสสุวรรณกำลังเลื่อนสมาร์ตโฟนด้วยนิ้วมือที่สั่นเทา ขณะนี้เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หลักด้วยอารมณ์เดือดดาล โดยมีสองแม่ลูกนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นด้านล่าง

เพล้ง

เจ้าเมืองเวสสุวรรณเขวี้ยงสมาร์ตโฟนลงพื้นทันที เขาไม่ต้องการอ่านข่าวสารและความคิดเห็นอีกต่อไป ตอนนี้คฤหาสน์เจ้าเมืองกำลังกลายเป็นตัวตลกของสาธารณชน

“พวกเจ้าสองคมีสิ่งใดจะพูดหรือไม่” เจ้าเมืองเวสสุวรรณจ้องมองสองคนแม่ลูกด้วยดวงตาแดงก่ำ หากอีกฝ่ายไม่ใช่คนในครอบครัวเขาอาจจะทนไม่ไหวและลงมือทุบตีสองคนนี้จนตาย

“ท่านปู่ ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดส่งข้าไปดินแดนรกร้างด้วยเถิด ข้าต้องการสำนึกผิดในการกระทำของข้า” ฉินเซี่ยเอินพูดโดยไม่กล้าสบตาปู่ของเขา

ตู้ม

ทันใดนั้นลูกเตะก็ถูกส่งลอยออกไปยังหน้าเขา เขาลอยออกไปในอากาศก่อนที่จะหล่นลงมากระแทกพื้นแล้วกระอักเลือดออกมา

“เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าการเนรเทศเจ้าไปยังดินแดนรกร้างจะสามารถชดเชยความผิดได้” เจ้าเมืองยืนขึ้นพร้อมตวาดออกมา จังหวะนี้ไม่มีใครในโถงหลักกล้าสบตาเขา

“ท่านพ่อ” เมื่อเห็นสภาพลูกชายที่ถูกส่งลอยออกไปอย่างน่าอนาถ นางอดที่จะร้องออกมาไม่ได้

“หุปปาก” เจ้าเมืองตะโกนออกมาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะสงบสติอารมณ์แล้วนั่งลง เขารู้สึกคอแห้งเล็กน้อย

“รองเจ้าเมือง อธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้ข้าฟังอีกที รวมถึงสิ่งที่เจ้ามีส่วนร่วมทั้งหมดด้วย” เขาพูดกับน้องชายด้านข้างขณะที่เรียกคนรับใช้ให้รินน้ำให้เขา

น้องชายผู้ซื่อสัตย์ไม่กล้าปิดบังแต่อย่างใด เขาเล่าตั้งแต่เหตุการณ์วางยาพิษเมื่อห้าปีก่อนที่เขารับรู้ในภายหลัง และแผนการกำจัดนางในป่ามรณะ หากเขาปิดบังอย่างใดอย่างหนึ่งอาจจะเป็นเขาเองที่พิการด้วยลูกเตะเมื่อครู่นี้

“ดี ดีมาก พวกเจ้าทั้งคู่มันเป็นขยะ” เจ้าเมืองเวสสุวรรณตะโกนด่าด้วยความเดือดดาลก่อนที่จะเดินออกไปโดยมีน้องชายผู้ซื่อสัตย์ตามหลัง

“พรุ่งนี้เช้าเราจะไปเยี่ยมเยือนตระกูลหวง ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องนำนางกลับมาให้ได้” ด้วยข้อตกลงที่เขามีกับหวงไท่ เขาคิดว่าสามารถต่อรองกันได้ เขาไม่สามารถเสียผู้มีสายเลือดปักษากลืนสมุทธไปได้ หากใช้นางให้แต่งงานกับผู้มีศักดิ์ใหญ่ในเมืองหลวงหรือเข้าตาองค์ชายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อำนาจของเขาก็จะแผ่ขยายไปทั่วภูมิภาคกลาง

“ทราบแล้ว” รองเจ้าเมืองตอบกลับด้วยสีหน้าหนักใจ อย่างไรก็ตามไม่กี่วินาทีต่อมาเขาโดนโซซัดโซเซ

อัคค

ทันใดนั้นเขาก็คุกเข่าลงขณะมีเลือดไหลออกจากทวารทั้งห้า

“เกิดอะไรขึ้น” เจ้าเมืองรู้สึกตกใจกลัว มีมือสังหารหรือ ไม่น่าเป็นไปได้เขาเป็นยอดฝีมือระดับจักรพรรดิยุทธ์ นอกจากนี้จะมีใครกล้าท้าทายคนในสังกัดของ 12 นิกายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทพจันทรา

“ระ ระเบิดเวลา อ๊ากก” รองเจ้าเมืองตะโกนออกมาก่อนที่ตัวเขาจะถูกระเบิดเป็นชิ้น เลือดและอวัยวะสาดกระเซ็นไปทั่ว

กรี๊ด

บรรดาคนรับใช้ที่เห็นภาพเหตุการณ์สยดสยองนี้ต่างกรีดร้องออกมา ขณะที่บางคนเป็นลมหมดสติไป

“นี่มันอะไร” เจ้าเมือรู้สึกหวาดกลัว เพราะด้านหลังของศพมีคำๆ นึงเขียนอยู่ด้วยเลือดที่สาดกระเซ็น

“ห้ามยุ่งเกี่ยว ไม่งั้นตาย”

เขาไม่รู้ว่านี่มันวิชาอะไร อย่างไรก็ตามมันต้องเป็นศาสตร์มือลึกลับอย่างแน่นอน เป็นไปได้ไหมว่าตระกูลหวงจะมีอำนาจลึกลับสนับสนุน เมื่อเขาคิดถึงสิ่งนี้เขาก็ตัวสั่นทันที ดูเหมือนตระกูลหวงจะไม่ได้มีภูมิหลังเล็กน้อยอย่างที่คิด

ไม่นานจากนั้นเขาก็ได้สติ เขาสั่งให้ทุกคนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หากใครกล้าพูดถึงเรื่องนี้เขาจะประหารทั้งครอบครัวทันที

เช้านี้บรรยากาศสดใส ทั้งตระกูลหวงตระกูลหลักและตระกูลสาขากำลังเดินออกมาส่งผู้คนบางกลุ่มออกนอกคฤหาสน์

คนที่ออกเดินทางไปเมืองหลวงสิงห์คำรน นอกจากครอบครัวของนพเก้าและผู้คนบางส่วนของตระกูลสาขาที่สองแล้วยังมีผู้พิทักษ์ติดตามไปด้วยมากกว่า 200 คน สิ่งนี้ทำเพื่อแสดงอำนาจของพวกเขาเมื่อเดินทางไปถึงเมืองหลวง

ขณะที่นพเก้ากำลังปิดประตูรถเสียงของระบบก็ได้ดังขึ้นมา

[ติ๊ง ยินดีด้วยท่านได้สังหารรองเจ้าเมืองเวสสุวรรณขณะที่อยู่นอกรัศมี 30 กิโลเมตร รางวัล: ช่องทรัพยากร + 10]

“อืม ไม่เลว” อย่างน้อยระบบก็ไม่มากวนตอนที่เขากำลังหลับ เขาเปิดดูช่องทรัพยากรทันที ตอนนี้เขาอาจจะกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดรองลงมาจากตระกูลฉินแล้ว

“ผลกายาสถิตหกผล ข้าควรใช้มันอย่างไร” ตอนนี้เขาไม่คิดจะใช้มันกับคนในครอบครัว เขาประเมินดูแล้วว่ารากฐานคนในตระกูลส่วนใหญ่ล้วนธรรมดา พ่อแม่ของเขา เขาจำเป็นต้องหาวรยุทธ์ให้ฝึกใหม่เสียก่อน มันคงจะน่าเสียดายหาปลุกได้เพียงกายาระดับปฐพี ส่วนน้องสาวของเขา เขาวางแผนไว้ว่าจะปลุกกายาให้นางหลังจากการสอบปรุงยาครั้งนี้จบลง

“อาจารย์” ฉินอวี้หลิงที่นั่งกับน้องสาวขิงเขาที่นั่งเบาะด้านหลังกำลังทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนทั้งสองคนจะเข้ากันได้ไม่เลว

นพเก้าโบกมือทักทายตอบ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรต้องกังวล การเดินทางครั้งนี้เขาหวังเพียงว่าจะไม่เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น อย่างไรก็ตามการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบของเขาครั้งนี้จะทำให้เขาเสียใจไปอีกนาน