อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด - บทที่ 21 ความเย่อหยิ่ง ปะทะ ความจองหอง โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด โดย ยักษาบรรพกาล @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!

ผู้แต่ง

ยักษาบรรพกาล

เรื่องย่อ

นพเก้าเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นแม่แต่น้อย

“ระบบการแสดงของข้าเป็นอย่างไรบ้าง” 

นพเก้าถาม

[ติ๊ง ประทับใจ]

ระบบตอบ

[ติ๊ง ของแสดงความยินดีโฮตส์ได้แสดงการวาดยันต์บุพภาลำเนาไพรฉบับสมบูรณ์ การกระทำของโฮสต์เริ่มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปรงด้าน อุตสาหกรรมยันต์วิญญาณระดับภูมิภาค รางวัล: เพิ่มช่องทรัพยากร + 5]

“ระบบ ข้าสามารถใช้งานได้อย่างไร”

[โฮสต์สามารถเรียกช่องทรัพยากรได้ผ่านทางจิตแล้วใส่วัตถุในช่อง ทรัพยากร]

นพเก้าหยิบสร้อยคอทองคำ 1 บาทที่น้องสาวให้เป็นของขวัญวันเกิดใส่ในช่องทรัพยากรตรงหน้า

[ช่องทรัพยากร]

[ความจุ 1/5]

[วัตถุ: สร้อยคอทองคำ 1 บาท (ระยะเวลาเพิ่มจำนวน 23 ชั่วโมง 59 นาที 53 วินาที: อัตราเพิ่มจำนวน 1 เท่าตัว)

“ระบบ ถ้ามันครบ 24 ชั่วโมงมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นจริงเหรอ แล้วมันมีข้อจำกัดหรือไม่” 

นพเก้าอดสงสัยไม่ได้

[จริงแท้แน่นอน]

[โฮสต์โปรดอย่าสงสัยในความสามารถของระบบ ต่อให้เป็นไอเทมระดับทำเจ้าก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ย่างไม่สิ้นสุด]

สารบัญ

ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 1 บทนำ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 2 เคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 3 กลับบ้าน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 4 นพเก้า ปะทะ หวงอี้เฟย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 5 กายาสวรรค์ จุติจักรพรรดิในก้าวเดียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 6 อัจฉริยะในรอบพันปี,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 7 อันตัวข้าผู้สืบทอดเป็นคนใจกว้าง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 8 เทศกาลสวมหมวกเขียว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 9 เจ้าอยากยกเลิกการหมั้นหมาย โอเคได้เลย,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 10 พบบุตรแห่งโชคชะตา,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 11 จิตใจของข้าแตกสลายเป็นล้านๆชิ้น,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 12 ความลับตระกูลหวง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 13 พบเจอกายาอมตะ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 14 บุกรังจักรพรรดิปักษาพิรุณ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 15 ครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 16 สร้างประตูมิติ,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 17 ฝากคำทักทายเจ้าเมือง,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 18 สอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 19 ใครบอกกันว่าข้าจะสอบปรุงยาระดับ 1 ดาว,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 20 การปรากฏขึ้นของโอสถระดับตำนาน,ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัด-บทที่ 21 ความเย่อหยิ่ง ปะทะ ความจองหอง

เนื้อหา

บทที่ 21 ความเย่อหยิ่ง ปะทะ ความจองหอง

ตอนนี้ปรากฏการณ์โอสถระดับตำนานกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญของเมืองหลวงสิงคำรณอย่างรวดเร็วทั้งผู้มีอำนาจ และนิกายชั้นนำต่างปิดล้อมสมาคมปรุงยาราวกับกำลังดักปล้นชิงก็ว่าได้

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกเจ้าเห็นหรือยัง เจ้าพวกภูมิภาคกลาง นี่คือพรสวรรค์ของพวงเราชาวเอลฟ์ สิ่งนี้พวกเจ้าไม่สามารถทำได้” ขณะนี้ฮาฟฟี่โลนกำลังตะโกนออกมาต่อหน้าสี่ผู้อาวุโสจากสภา และปรมาจารย์นักปรุงยาทั้ง 12 สำนัก

แทนที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกชื่นชมในพรสวรรค์ของเขา มันกลับทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไป 180 องศาทันที เหล่าตัวแทนมากกว่าครึ่งต่างจ้องไปที่ฮาฟฟี่โลนด้วยท่าทีโกรธเคือง เดิมทีพวกเขาต่างสงสัยว่าทำไมผู้มีพรสวรรค์เช่นนี้ถึงได้มาทดสอบที่สมาคมอันไกลโพ้น ณ ภูมิภาคกลาง ตอนนี้พวกเขากระจ่างแจ้งแล้ว ดูเหมือนสาเหตุจะมาจากดันเจี้ยนที่กั้นระหว่างเมืองสิงคำรณและเมืองนครเหนือ ซึ่งทั้งสองเมืองเป็นเส้นแบ่งระหว่างภูมิภาคทั้งสอง ตอนนี้ทั้งสองเมืองต่างถกเถียงกันมามากกว่า 2 ทศวรรษโดยไม่มีข้อสรุป

เมื่อพวกเขารู้สึกตัวมันก็สายเกินไป เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อปรมาจารย์ขั้นกลางคนใหม่เกิดขึ้น ตามข้อตกลงเดิมของภาคีปราชญ์ดั้งเดิม ผู้นั้นจะมีสิทธ์ตั้งถิ่นฐานในเมืองนั้นๆ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการไตร่ตรองใดๆ จากวุฒิสภาด้านการปกครอง

เดิมทีภาคีปราชญ์ทำสิ่งนี้ขึ้นเพื่อครอบครองตัวผู้มีพรสวรรค์ให้อยู่ในเขตปกครองของตนเอง เพราะก่อนที่จะมีการลงนามข้อตกลงนี้บรรดาขุมกำลังจากภูมิภาคอื่นๆ ต่างฉวยโอกาสช่วงหลังทำสงครามกับฝ่ายมารแย่งชิงตัวบุคคลผู้มีพรสวรรค์จากภาคตะวันออกและภาคกลางไปจนเกือบหมดสิ้น ส่งผลให้กลายเป็น 2 ภูมิภาคที่ล้าหลังที่สุดมาจวบจนปัจจุบัน

เมื่อมีผู้มีพรสวรรค์จากภูมิภาคอื่นๆ เข้ามา เดิมทีพวกเขาคิดว่ามันคงไม่ต่างจากชิ้นเนื้อที่วิ่งเข้าปากเสือด้วยตัวเอง แต่บุคคลผู้นี้ต่างออกไป เพราะเจ้านี่เป็นคนของราชวงศ์จากภูมิภาคอีสาน หากให้มันผู้นี้มาตั้งถิ่นฐานในเขตของพวกเขานี่ไม่ต่างจากการยกเมืองทั้งเมืองให้ราชวงศ์จาเร็ท หากสิ่งนี้เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ขุมกำลังของราชวงศ์จะกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่านั้น สิ่งต่อไปที่เกิดขึ้นคือการจลาจลของประชาชนอย่างบ้าคลั่ง เมื่อถึงเวลานั้นเตรียมเปลี่ยนตัวแทนผู้นำสภาฝ่ายปกครองได้เลย

“เป็นเพราะมันตัวเดียว” คาริสผู้มีหัวเป็นสิงโต ผู้อาวุโสจากสภาฝ่ายปกครองที่มีสิทธิ์หล่นเก้าอี้ตามไปด้วย มองไปที่หยางเก๋อที่กำลังมีสีหน้าเบิกบาน เจ้าคงมีความสุขใช่หรือไม่ที่ขายบ้านเกิดเมืองนอนให้คนอื่น เดิมทีก่อนการทดสอบจำเป็นต้องมีการคัดกรองอย่างถี่ถ้วน เห็นได้ชัดว่าหยางเก๋อใช้อำนาจในที่ลับแทรกแซง จนแม้แต่พวกเขาก็ไม่สามารถรับรู้ได้ มันผู้นี้ช่างต่างจากหัวหน้าสมาคมคนเก่ายิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะคุณปรูปของปู่ของมัน หลานที่เป็นสวะเช่นนี้จะมานั่งตำแหน่งสำคัญได้อย่างไร

หึ

เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจจากผู้ประเมินระดับสูงพวกนี้ หยางเก๋อไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย เหตุผลที่เขาช่วยฮาฟฟี่โลนก็เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า พวกเขาสัญญาว่าจะรับหยางเก๋อเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ เมื่อถึงเวลานั้นชีวิตของเขาจะโลดแล่นอยู่บนกองเงินกองทองสุขสบายไปทั้งชาติ ไม่จำเป็นต้องมานั่งตำแหน่งที่ไร้สาระนี้อีกต่อไป

ขณะที่หยางเก๋อกำลังคิดถึงการใช้ชีวิตอย่างราชามีสาวงามมากมาย อัตตาของฮาฟฟี่โลนก็กำลังสูงเสียดฟ้า เขาไม่สนใจเหตุการณ์รอบตัวแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาเป็นศูนย์กลางความสนใจของโลก ด้วยผลงานของเขาจะต้องทำให้องค์รัชทายาทจะต้องพอพระทัยอย่างแน่นอน บางทีฝ่าบาทอาจจะตบรางวัลเป็นทาสเชื้อสายไฮเอลฟ์ซึ่งเป็นสมบัติของราชวงศ์ให้เขาด้วย ด้วยสายเลือดของราชวงศ์เก่านี้ เขาสามารถให้กำเนิดจอมเวทระดับสูงได้ ไม่เพียงแค่นั้น ชื่อของเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์นายหลายศตวรรษเมื่อมีการยึดดินแดนได้สำเร็จ

“ผู้อาวุโสซั่ง เรากลับกันเถอะ” อัครเดชมองไปที่ซั่งกัวรุ่ยอย่างไม่เชื่อสายตา ซึ่งเขาเอาแต่พ่นคำว่า เป็นไปไม่ได้ออกมาจากปาก ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีเจตจำนงการรู้แจ้งโอสถแต่ก็ยังล้มเหลวในการกลั่นโอสถตระหนักรู้

“ฮึ ก็ยังคงต่ำทรามเหมือนเดิม”

หวงไท่หันหลังเดินนำจากไป เขารู้จักกับซั่งกัวรุ่ยมา 50 ปีกว่าปีจะไม่รู้สาเหตุได้อย่างไร ในเมื่อมีสีหน้าหลงระเริงขนาดนั้นเมื่ออยู่ในช่วงสำคัญที่สุดอย่างกระบวนการควบแน่นโอสถ เขาไม่รู้ว่ามันผู้นี้คิดถึงเด็กผู้หญิงที่ไหนอีกถึงขนาดส่งผลให้เตาปรุงยาระเบิดได้ ด้วยผลงานที่น่ารังเกียจครั้งนี้ จะต้องออกหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง กลายเป็นเรื่องซุบซิบนินทาเรื่องที่สองของปีนี้อย่างแน่นอน

ขณะที่เขาก้าวออกไปจากห้องทดสอบระดับ 4 ดาว เท้าของเขาก็หยุดชะงัก เขาขยี้ตาทั้งสองข้างเพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ดูผิดไป จะเป็นไปได้อย่างไรที่กลั่นโอสถระดับตำนานมีมังกรถึงสองตัว แต่ก่อนที่เขาจะเดินไปดูเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นจากด้านซ้าย

“ท่านตา การทดสอบเป็นอย่างไร ผู้อาวุโสซั่งกลั่นได้โอสถระดับใด” นพเก้าพูดขึ้น ขณะที่มองไปที่มังกรสีทองบนท้องฟ้า มันเล็กกว่าของเล็กน้อย

“อย่างให้ต้องพูดถึงมันเลย ว่าแต่เจ้าหล่ะ” หวงไท่ตอบแบบขอไปที เขาไม่ต้องการพูดถึงมันอีก กลัวว่าจะอับอายจนตาย

เฮ้ย

หวงไท่สะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นผู้ประเมินจำนวนมากเดินตามหลังนพเก้าด้วยสีหน้าแปลกๆ เจ้าหลานชายคนนี้คงไม่ได้ไปสร้างปัญหาเพิ่มอีกใช่หรือไม่

“แน่นอนว่าอาจารย์สอบผ่าน หนำซ้ำยังเป็นโอสถระดับตำนานอีกด้วย” ครั้งนี้ฉินอวี้หลิงเปิดปากก่อนหวงชิงจู้ซะอีก นางเชิดหน้าชูอกและมือเท้าสะเอวราวกับว่าเป็นผลงานของนางเอง

“อะไรน่ะ ระดับตำนาน” หวงไท่มองสลับไปที่นพเก้ากับกลุ่มนักปรุงยาด้านหลัง เมื่อเห็นพวกเขาพยักหน้าราวกับไม่ต้องการตอบก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นความจริง

“อา- โอว ยอดเยี่ยม สมแล้วที่เป็นหลายชายข้า ฮ่าฮ่า” ไม่จำเป็นต้องสนใจว่านพเก้าทำได้อย่างไร เพียงแค่ผลงานนี้เขาสามารถกลับขาวเป็นดำและบอกคนทั้งเมืองได้ว่าจุดประสงค์หลักที่มาสมาคมปรุงยาเพียงเพราะต้องดูผลงานของหลายชายด้วยตนเองเท่านั้น

หวงชิงจู้มองไปที่คุณตาของนาง นางสงสัยว่าตระกูลหวงรอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร

หลังจากนั้นอัครเดชและคนอื่นๆ ก็เดินออกมาจากห้องทดสอบ เมื่อทุกคนในตระกูลหวงรู้ว่านพเก้าสามารถปรุงโอสถระดับตำนานได้ พวกเขาก็เข้ามารุมล้อมนพเก้าทันที ดูเหมือนเจ้าเด็กคนนี้จะซ่อนความสามารถได้เก่งกาจนัก พวกเขาต้องการกลับไปตระกูลเพื่อจัดงานเฉลิมฉลองทันที

“ช้าก่อน ข้ายังทดสอบไม่เสร็จ” นพเก้าหลบเลี่ยงทุกคนและเดินไปที่โถงลงทะเบียนทันที

“ลูกเก้า เจ้าจะไปไหน” อัครเดชและหวงเม่ยมองลูกชายด้วยความงุนงง

“สอบปรุงยาระดับ 2 ดาว” นพเก้าหยุดฝีเท้าลงและพูดออกมา

อะไร!!

ไม่เพียงแค่คนในตระกูลหวงเท่านั้น แต่บรรดาคนที่ออกมาจากห้องทดสอบตั้งแต่ระดับ 1-4 ดาวต่างได้ยินประโยคนี้ เจ้ายังไม่ได้เหรียญตราระดับ 1 ดาวด้วยซ้ำ ก็คิดจะปีนป่ายขึ้นสวรรค์แล้วหรือ

“นพเก้า นี่เจ้าพูดจริงรึ” ครั้งนี้หวงไค่ไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เขารู้สึกชินชากันมันแล้ว ไม่ทราบเพราะเหตุใด เขารู้สึกว่าทุกครั้งมองทะลุเด็กคนนี้ได้ อีกฝ่ายก็มักจะมีสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจเสมอ

(ไม่ ตอนนี้ยังกินไม่ได้ ต้องรออีกหน่อย) โดยไม่มีใครสังเกตเห็น หวงไท่ยิ้มด้วยท่าทางประหลาดชั่วครู่ก่อนที่จะกลับเป็นปกติแล้วเดินตามนพเก้าไป

“ผลงานของเจ้า ข้าจะกลับไปรายงานฝ่าบาทอย่างแน่นอน” ฮาฟฟี่โลนพูดขึ้นขณะที่เดินออกจากโถงทดสอบระดับ 4 ดาว

“ข้าคงต้องรบกวนท่านแล้ว” หยางเก๋อพูดโดยไม่มีความละอายแม้แต่น้อย

“เฮ้อ ช่างต่างจากหยางซู่ ปู่ของมันยิ่งนัก” ฉินกวงอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบ ความสามารถนับว่าพอใช้ได้ แต่เรื่องของนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว

“ท่านจะสนใจไปทำไม มันหาใช่เรื่องของเราไม่” ฉินหนานไม่ได้ให้ความสนใจ สิ่งสำคัญคือเขาต้องรีบเลือกผู้สืบทอดตระกูลฉินให้เร็วที่สุด เพราะปลายปีเขาจำเป็นต้องเข้าร่วมกับ 1 ใน 9 นิกายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตำหนักสุริยัน

“โอว นี่มันท่านจักรพรรดิหวงใช่หรือไม่ เจ้าสอบผ่านได้ระดับใดล่ะ ดี ดีเยี่ยม หรือพอใช้ได้” เสียงพูดหยอกล้อของฮาฟฟี่โลนเกิดขึ้นที่โถงทางเดินหลัก

“เอาแล้วๆ พวกเรารีบไปดูเร็วเข้า” เกิดเสียงฮือฮาขึ้นโดยมีกลุ่มของนพเก้าเป็นจุศูนย์กลาง

“เกิดอะไรขึ้น” ฉินหนานรู้สึกสงสัยตาไม่นานเขาก็ได้คำตอบ ดูเหมือนละครจะยังไม่จบ

“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า” หลังจากนพเก้าสงบสติอารมณ์ได้ เขาไม่อยากจะสร้างปัญหามากนัก ถึงแม้โอสถวารีเล้นรับเขาจะสามารถสร้างได้อย่างไม่จำกัด แต่ก็อดที่จะรู้สึกเสียดายไม่ได้อยู่ดี เพราะชาติที่แล้วเขาเป็นเพียงคนยากจนเท่านั้น

“เจ้าเนี่ยน่ะ คนยากจน” ระบบอดที่จะแย้งไม่ได้ หากคนที่มีสมบัติเช่นมันเป็นคนยากจน คนทั้งโลกคงไม่ต่างจากขอทาน

“เสียมารยาท เจ้าไม่รู้ธรรมเนียมหรือว่าต้องปฏิบัติเช่นไรกับคนที่ดาวสูงกว่า” ในฐานะผู้ติดตามผู้ซื่อสัตย์คนใหม่ หยางเก๋อต้องทำตัวให้มีประโยชน์มากขึ้น โดยไม่ปกปิดการกระทำใดๆ เขาชี้ไปที่หน้าของนพเก้าทันที

นพเก้าเงียบ เขาเลือกที่จะเมินเฉย สำหรับคนที่ขายชาติ เขาไม่ต้องการเสียเวลาด้วย

“เจ้า” หยางเก๋อรู้สึกอับอายจนหน้าแดง เมื่อเห็นสีหน้าคนรอบข้าง หลังจากการสอบจบลงเขาต้องแน่ใจว่าผลสอบของนพเก้ากลายเป็นโมฆะ

“พอได้แล้ว” ครั้งนี้เป็นชัตชนที่กำลังลงทะเบียนให้นพเก้า เมื่อเห็นการกระทำนี้เขาก็อดที่จะกำหมัดแน่นไม่ได้ เจ้ารออีกหน่อยไม่ได้หรือ เห็นได้ชัดว่าหยางเก๋ออยากจะออกจากสมาคมเต็มที แต่การกระทำโจ่งแจ้งเช่นนี้มันเป็นที่น่าอับอายเกินไป

ขณะนี้ผู้ชมต่างรู้สึกเย็นเยียบพวกเขาสงสัยว่าจะมีการปะทะกันระหว่างนักเลงโตกับคนต่างภูมิภาคหรือไม่ หลายๆ มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อนพเก้าตั้งแต่การกระทำเมื่อเช้า ทุบตีหัวหน้าสมาคมนั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเพราะไม่มีใครชอบใจมันผู้นี้นัก แต่ฮาฟฟี่โลนต่างออกไปอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่เป็นนักปรุงยาระดับ 4 ดาว แม้แต่ผู้อาวุโสระดับ 5 ดาวก็ต้องพูดด้วยความนอบน้อม

“เหตุใดเราไม่เดิมพันกันสักหน่อยเล่า” นพเก้าพูดขึ้น ตอนนี้เขามีความคิดดีๆ อยู่ในใจแล้ว

“เงื่อนไขคืออะไร” ฮาฟฟี่โลนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี มันจะลงมือทุบตีเขาต่อหน้าผุ้คนหรือไม่

“ประลองโอสถ” นพเก้าพูดขึ้นโดยมือซ้ายยกนิ้วชี้ขึ้น ความหมายของเขาชัดเจน ในเมื่อเขาเป็นนักปรุงยาระดับ 1 ดาว อีกฝ่ายคงไม่ปฏิเสธหากต้องลดระดับลงมา

“1 ดาว? ก็เอาสิ ว่าแต่เจ้าจะเดิมพันสิ่งใด” ฮาฟฟี่โลนพูดด้วยแววตาเย่หยิ่ง ขณะที่ในใจรู้สึกโล่งอก เขาคิดมากเกินไป มันจะกล้าลงมือกลับเขาจริงๆ ได้อย่างไร

“หากข้าแพ้ ข้าจะเป็นคนรับใช้เจ้าสิบปี” นพเก้าพูดขึ้น

“เอาแล้วไง” หวงชิงจู้พูดขึ้น ดูเหมือนวันนี้จะมีคนที่ต้องพบเจอกับชะตากรรมแห่งหายนะ

“นพเก้า” หวงเม่ยต้องการเข้าไปหยุด แต่อัครเดชขวางนางไว้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ห่วง แต่รู้ดีว่าอีกฝ่ายคงวางแผนบางอย่างเช่นเคย แม้แต่หวงไท่ก็มองไปที่ฮาฟฟี่โลนแล้วส่ายหัวเล็กน้อย เจ้าเอลฟ์นี่จบสิ้นแล้ว

โอว

ทันใดรอบข้างก็ตกอยู่ในความโกลาหล เขาสงสัยว่าสมองของนพเก้ามีปัญหาหรือไม่ การเดิมพันนี้หากพ่ายแพ้ก็ไม่ต่างกับยกทั้งตระกูลหวงให้อีกฝ่าย ต้องรู้ก่อนว่าในฐานะตระกูลลำดับที่ 4 ที่พึ่งมีจักรพรรดิยุทธ์มาค้ำจุน ผู้ที่มีขอบเขตต่ำกว่าในตระกูลก็ต้องอยู่ภายใต้อีกฝ่ายเช่นกัน

“พวกมันบ้าไปแล้ว” ครั้งนี้ฉินหนานไม่อาจนิ่งได้อีกต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากฮาฟฟี่โลนใช้นพเก้าระรานขุมกำลังต่างๆ ในเมืองเวสสุวรรณ การเดิมพันนี้มันสิ้นคิดเกินไป

“ฮ่า ฮ่า ดี ดี ในเมื่อเจ้าอยากเป็นคนรับใช้เสียขนาดนั้นข้าก็จะสนองให้” ฮาฟฟี่โลนรู้สึกว่าอีกฝ่ายจองหองเกินไป เพียงแค่ปรุงโอสถระดับตำนานได้เพียงครั้งเดียวก็คิดว่าสามารถต่อกรกับเขาได้

“แล้วถ้าหากเขาชนะหล่ะ” ฉินกวงรู้สึกสนใจ เดิมทีหลังจากเขาสอบผ่านระดับ 4 ดาวก็ต้องการกลับไปอย่างเงียบๆ แต่เขาต้องการรับชมต่อไปอีกสักเล็กน้อย การประลองโอสถไม่ได้หาดูได้ง่ายๆ นอกจากนี้การเดิมพันที่สูงเสียดฟ้าก็ลกมากับผลตอบแทนที่มหาศาลเช่นกัน

“ถ้าข้าชนะ ข้าต้องการหัวของเจ้า” นพเก้าพูดออกมาด้วยรอยยิ้มขี้เล่น

บัดซบ!!

ความเท่าเทียมมันอยู่ที่ใดกัน เมื่อบรรดาผู้ชมได้ยินก็พูดคุยกันอย่างออกรส แต่บางคนที่คิดตามก็รู้สึกว่านี่มันไม่ได้ไม่ยุติธรรมแต่อย่างใด หากนพเก้ากลายเป็นคนรับใช้ของอีกฝ่าย ก็ไม่ต่างจากทาสรับใช้มากนัก ถึงแม้ฮาฟฟี่โลนจะไม่สามารถยึดทรัพย์สินของนพเก้าได้ แต่ก็เป็นเจ้าของชีวิตครึ่งหนึ่ง หากเขาบอกให้ไปทางซ้ายก็ต้องไปทางซ้าย ไม่อาจขัดขืนได้ เป็นที่รู้กันดีว่าเอลฟ์ส่วนใหญ่มองมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชั่นต่ำ และไม่เคยปฏิบัติด้วยอย่างเท่าเทียม

“เจ้า” ฮาฟฟี่โลนสะดุ้งโหยง แต่เมื่อเขาสงบลงเขาก็พยักหน้ารับคำท้าประลอง หากนพเก้าชนะขึ้นมาจริงๆ เขาก็ยังมีผู้พิทักษ์ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังเขา ซึ่งเป็นผู้ฝึกปรือขอบเขตครึ่งก้าวจ้าวสวรรค์ หลังจากสื่อสารผ่านกระแสจิตก็รับรู้ได้ว่านพเก้าอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงสุด ซึ่งลำพังก็ไม่สามารถต่อต้านได้คนของเขาได้

(เดี๋ยวนะ จักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงสุด?) เขาสามารถใช้ให้นพเก้าทำสิ่งใดได้บ้าง เขาคิดสิ่งต่างๆ มากมายขณะที่เดินไปที่โถงทดสอบระดับ 4 ดาว เนื่องจากคนเยอะเกินไปจึงเลือกสถานที่จุคนได้เยอะที่สุด ด้วยเรื่องที่เขาบดขยี้ผู้คนเมื่อช่วงบ่าย และชัยชนะในอนาคตอันใกล้ วันนี้เขาจะทำให้คนของภูมิภาคกลางรู้สึกอัปยศเป็นสองเท่า

การประลองครั้งนี้นอกจากผู้ประเมินที่มามุงดูทั้งหมดแล้ว ยังมีผู้มีอิทธิพลจากด้านนอกด้วย แม้แต่นักข่าวที่เข้ามาถ่ายทอดสดก็แน่นขนัด

จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ ผู้ประเมินจาก 4 สภา และ 12 สำนัก ครุ่นคิด แต่เมื่อมองดูคนที่นำพวกนักข่าวมา พวกเขารู้สึกหืดขึ้นคอ

ระยำ!!

เป็นมัน หยางเก๋อ สุนัขที่นั่งตำแหน่งหัวหน้าสมาคม

คาริสเห็นแล้วถึงกับหนังตากระตุก เขาหยิบมือถือขึ้นมาทันที เขาไม่รู้ว่าทั้งสองคนระหว่างเขาและฮาฟฟี่โลนมีความสัมพันธ์อย่างไร แต่อย่างน้อยก่อนที่เขาจะหล่นเก้าอี้ก็ขอให้ได้สั่งสอนอีกฝ่ายซักเล็กน้อย

“หัวข้อประเมินครั้งนี้คือโอสถหยางบริสุทธิ์ โอสถระดับ 1 ขั้นสูงสุด ด้านซ้ายเป็นวัตถุดิบที่จัดเตรียมไว้ให้...”

ชายชราร่างอ้วนพูดขึ้นราวกับคัดลอกประโยคเดิมซ้ำขึ้นมา เพิ่มเติมคือเปลี่ยนคำเล็กน้อย

“ในเมื่อพร้อมแล้วก็เริ่มได้” ผู้ตัดสินพูดด้วยความลำบากใจ เขาไม่ทราบว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร แต่มีความเป็นไปได้มากที่นพเก้าจะพ่ายแพ้ และเขาไม่แน่ใจว่าเมื่อถึงจุดที่ต้องตัดสิน เขาจะถูกอันธพาลผู้นี้ทุบตีจนตายหรือไม่ แค่เขาคิดก็หนาวสั่น เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีคนคุ้มกะลาหัวแล้วตอนนี้

สิ้นเสียงผู้ตัดสิน เสียงพูดคุยทั้งหมดในห้องโถงทดสอบก็เงียบลง มีเพียงเสียงของเปลวไฟในเตาหลอมกลั่นโอสถที่ส่งเสียงเปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เป็นระยะ

ฮึม

ผู้ที่ก้าวออกไปก่อนเป็นฮาฟฟี่โลน ต้องบอกว่าหยางเก๋อทำได้ดีจริงๆ ถึงขั้นเตรียมนักข่าวมาด้วย เขาเดินตรงไปที่เตาปรุงยาขนาดหกเมตรตรงหน้า

ฟึม!!

เกิดเปลวไฟสีฟ้าครามแทนที่เปลวไฟสีแดงในเตาหลอมกลั่นโอสถ

“เปลวเพลิงวายุคราม” ผู้ที่เคยดูก่อนหน้านี้ต่างไม่รู้สึกประหลาด แต่สำหรับผู้มาใหม่พวกเขาอ้าปากตาค้าง มันเป็นเปลวเพลิงในรายนามที่ 6 จาก 18 ของเปลวเพลิงระดับสวรรค์ขั้นสูงสุด

เมื่อนักปรุงยาใช้สิ่งนี้ประสิทธิภาพในการหลอมกลั่นจะเพิ่มขึ้นถึง 40% มากกว่าเจตจำนงการรู้แจ้งโอสถถึง 4 เท่าตัว

เมื่อทุกคนเห็นเช่นนี้ก็สลับไปมองที่นพเก้า อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายไม่ได้ขยับตัวแต่อย่างใด สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร ยอมแพ้แล้วหรือ

“เหตุใดเจ้าถึงยังไม่เริ่ม” หลังจากปรับแต่งเปลวเพลิงให้อยู่ในสภาวะคงที่และจัดเตรียมวัตถุดิบเสร็จภายใน 15 นาที ฮาฟฟี่โลนก็หันไปมองนพเก้า ต้องบอกว่าเขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ด้านการปรุงยาอย่างแท้จริงใช้เวลาน้อยกว่าคนปกติเพียงครึ่งเดียว

“ข้าต่อให้เจ้าก่อน เมื่อเจ้าเริ่มหลอมกลั่นข้าคงเสร็จทันที” นพเก้าพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

จองหอง จองหองอย่างถึงที่สุด อีกฝ่ายเป็นถึงระดับ 4 ดาว แต่เจ้ากลับต่อให้ก่อนอย่างนั้นหรือ นี่ไม่ต่างจากกันพนันบอลกับเพื่อนแล้วต่อให้ก่อน 10 ลูก เห็นได้ชัดว่านี่คือการโยมเกม

กร็อบ!!

ฮาฟฟี่โลนรู้สึกโกรธเคืองจนตัวสั่น เขาไม่ทราบว่านี่อีกฝ่ายใช้จิตวิทยาเพื่อปั่นหัวเขาหรือไม่ เขาเลิกสนใจสิ่งรอบข้างและปรุงยาต่อไป

“พี่เขาจะทำได้หรือไม่” หวงชิงจู้ไม่มั่นใจและมือทั้งสองกุมที่ชายกระโปรง นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ชายของนางไปซุ่มเรียนรู้เรื่องการปรุงยาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีวิชาลับที่จะพลิกล็อกได้จริงๆ

“ฮึ พี่ชิงจู้กังวลมากเกินไป ด้วยความสามารถของอาจารย์ เจ้าคนเอลฟ์สานนั่นจะต้องถูกบดขยี้ไม่เหลือซากอย่างแน่นอน” ฉินอวี้หลิงไม่สงสัยในความสามารถของนพเก้าแม้แต่น้อย ในหัวใจของนางไม่มีผู้ใดที่เก่งไปกว่าอาจารย์ของนาง

ควับ!!

ทุกคน ณ ที่นี้ต่างจ้องไปที่นางทันที พวกเขาลืมไปได้อย่างไรว่านางคือต้นเหตุเรื่องทั้งหมด และนอกจากนี้การเชิดชูบุคคลถึงระดับเจ้าทำไปได้อย่างไร ไม่คิดจะรักษาหน้าเวลาแพ้บ้างหรือ

ขณะที่ฮาฟฟี่โลนเข้าสู้สภาวะลืมตัวตนและกำลังควบแน่นของเหลวเป็นเม็ดยานพเก้าก็เริ่มลงมือ

เขาเดินไปที่วัตถุดิบด้านซ้ายและเรียกระบบออกมา

“ระบบ เปิดใช้งานหลอมกลั่นอัตโนมัติ” นพเก้าคิดในใจ นอกจากรางวัลเป็นคัมภีร์เทพอสถสองดาวแล้ว เขายังได้ฟังก์ชันใหม่ด้วย

[ติ๊ง เปิดใช้งานหลอมกลั่นโอสถอัติโนมัติ 1 ดาว]

สิ้นเสียงของระบบราวกับมีมือที่มองไม่เห็นพวกมันยกวัตถุดิบตรงหน้าของนพเก้าทั้งหมดขึ้นเหนือพื้น แล้วเริ่มสลายพวกมันเป็นละอองแสง นพเก้าเอื้อมมือขวาออกไป ทำท่าทางราวกับว่าเขาเป็นคนควบคุมมันเสียเอง

“นั่นมันอะไร พระเจ้า ข้าไม่เคยเห็นวิธีการปรุงโอสถเช่นนี้มาก่อน”

“นี่นั่น มันกำลังหลอมเป็นเม็ดยาแล้ว นี่มันไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ”

บรรดาผู้อาวุโสทั้งสี่จากสภาและ 12 สำนักต่างลุกขึ้นทันที สิ่งนี้มันคืออะไร

“เป็นไปไม่ได้” จางหลี่ที่อยู่ด้านข้างคาริสอุทานออกมา นางนึกถึงความเป็นไปได้หนึ่ง

“อะไรที่เป็นไปไม่ได้” คาริสเดินเข้าหานางและถามขึ้นอย่างรีบร้อน

“ถ้าข้าเดาไม่ผิด สิ่งนี้คือกายาเทพเจ้าที่สาบสูญ กายาเทพโอสถ” จางหลี่พูดขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือ

เชี่ย!!

บางคนสบถออกมาเสียงดังลั่น นี่มันบ้าไปแล้ว ลำพังแค่กายาเสมือนเทพในสามแดนศักดิ์ยังมีจำนวนนับนิ้วได้ แต่นางกำลังบอกว่ากายาเทพเจ้า กายาเทพเจ้าลำดับที่ 8 ในตำนาน ว่ากันว่าเพียงแค่คิดก็สามารถหลอมกลั่นโอสถระดับตำนานได้ ไม่ได้การพวกเขาต้องติดต่อขุมกำลังหลักทันที

นพเก้าหารู้ไม่ว่าการกระทำครั้งนี้จะทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามตามดึงตัวเขาถึงหน้าบ้าน

ตอนนี้คนที่ตกใจที่สุดไมใช่ใครอื่นแต่เป็นหยางเก๋อ เขาเหวอจนอ้าปากตาค้างเพราะตอนนี้เขาเห็นปรากฏการณ์ที่คุ้นเคยเหนือบนท้องฟ้า

โฮก!!

ครั้งนี้มีเสียงมังกรเกิดขึ้นนั่นหมายความว่าแม้แต่เต๋าสวรรค์ก็ให้ความสำคัญกับโอสถที่กำลังกำเนิดใหม่นี้

“เกิดอะไรขึ้น ใครมันบังอาจรบกวนเวลาสำคัญของข้า” ฮาฟฟี่โลนรู้สึกว่าฟางเส้นสุดท้ายของเขาใกล้จะขาดเต็มที กี่ครั้งแล้วที่เขาถูกยั่วโมโหเช่นนี้ในหนึ่งวัน เมื่อเขาหันไปมองผู้คนเขาก็งุนงง แม้แต่นักข่าวก็หันกล้องไปที่นพเก้า

อึก

เขาเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี เขาอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึกแล้วหันไปมองทิศทางนพเก้าอย่างช้าๆ และเห็นโอสถสี่สายที่มีควันลอยออกมาจากมือของอีกฝ่าย

“อะไรวะ” ฮาฟฟี่โลนรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าเหนือศีรษะ ในฐานะนักปรุงยามากประสบการณ์เขารู้ว่าานพเก้าไม่ได้โกงแต่อย่างใด แต่มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่และทำได้อย่างไร แต่ไม่นานเขาก็ได้คำตอบ หูที่ยาวของเอลฟ์ไม่ได้มีไว้ประดับเฉยๆ นอกจากได้ยินเสียงของภูติแล้วยังสามารถแยกแยะคำพูดแต่ละคนได้ฉับไวเหนือกว่ามนุษย์ถึง 10 เท่า

“ไม่ นี่มันไม่ยุติธรรม สิ่งที่เจ้าทำไม่ต่างจากการโกง” ฮาฟฟี่โลนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

“โกง โกงอย่างไร การใช้พลังฝึกปรือในการหลอมกลั่นโอสถนั่นถือเป็นสามัญ” คาริสพูดขึ้นด้วยความชอบธรรม ไม่ว่าอย่างไรสถานะของนพเก้าก็กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ หาไม่ประจบประแจงตอนนี้จะให้ทำตอนไหน

“นั่นมัน” ครั้งนี้ฮาฟฟี่โลนไม่อาจโต้แย้งใดๆ ได้ แต่เขาก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องอยู่ดี

“เจ้าจะเอาอย่างไรต่อ ยังต้องการแข่งต่อหรือไม่” นพเก้าส่งยิ้มไปให้ฮาฟฟี่โลน หากเป็นสถานการณ์อื่นทุกคนคงคิดว่าช่างเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่น แต่นี่

ช่างร้ายกาจ!!