“ความฝัน” อาจเป็นเพียงภาพหลอน หรือเป็นลางบอกเหตุของความตาย.... ปามและเพื่อนๆ นัดกันไปทำรายงานที่ห้องสมุด แต่เมื่อเพื่อนคนสุดท้ายหายตัวไปอย่างลึกลับ ปามจึงออกตามหา—และพบกับภาพสยองที่ไม่มีวันลืม... ชายชุดแดง... กับศพเพื่อนของเขาที่เย็นเฉียบบนพื้น....และเสียงกรีดร้องสุดท้ายของตนเอง ทว่าเมื่อลืมตาตื่น ทุกอย่างกลับเป็นเพียง “ความฝัน” หากความฝันนั้นเป็นคำเตือน... ปามเเละเพื่นของเขาจะเปลี่ยนโชคชะตาได้หรือไม่?

Final Blood - ตอนที่1 นัดไปทำรายงาน โดย TK_TSUKI @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,อาชญากรรม,เลือดสาด,เรื่องสั้น,ดาร์ค,อาชญากรรม,เเก้เเค้น,เเอคชั่น,ไม่ฮาเร็ม,ความแค้น,ความฝัน,ความสูญเสีย,เรื่องสั้น,ต่อสู้,รุนแรง,เลือดสาด,น่ากลัว,ฆาตกรรม,ฆาตกรรม ,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรต่อเนื่อง,ฆาตกร,ลึกลับ,ดราม่า,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Final Blood

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,อาชญากรรม,เลือดสาด,เรื่องสั้น,ดาร์ค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อาชญากรรม,เเก้เเค้น,เเอคชั่น,ไม่ฮาเร็ม,ความแค้น,ความฝัน,ความสูญเสีย,เรื่องสั้น,ต่อสู้,รุนแรง,เลือดสาด,น่ากลัว,ฆาตกรรม,ฆาตกรรม ,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรต่อเนื่อง,ฆาตกร,ลึกลับ,ดราม่า,สยองขวัญ

รายละเอียด

Final Blood โดย TK_TSUKI  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“ความฝัน” อาจเป็นเพียงภาพหลอน หรือเป็นลางบอกเหตุของความตาย.... ปามและเพื่อนๆ นัดกันไปทำรายงานที่ห้องสมุด แต่เมื่อเพื่อนคนสุดท้ายหายตัวไปอย่างลึกลับ ปามจึงออกตามหา—และพบกับภาพสยองที่ไม่มีวันลืม... ชายชุดแดง... กับศพเพื่อนของเขาที่เย็นเฉียบบนพื้น....และเสียงกรีดร้องสุดท้ายของตนเอง ทว่าเมื่อลืมตาตื่น ทุกอย่างกลับเป็นเพียง “ความฝัน” หากความฝันนั้นเป็นคำเตือน... ปามเเละเพื่นของเขาจะเปลี่ยนโชคชะตาได้หรือไม่?

ผู้แต่ง

TK_TSUKI

เรื่องย่อ

ความฝัน....มันอาจจะมีอะไรที่มากกว่าที่คิด

“ความฝัน” อาจเป็นเพียงภาพหลอน หรือเป็นลางบอกเหตุของความตาย...


ปามและเพื่อนๆ นัดกันไปทำรายงานที่ห้องสมุด แต่เมื่อเพื่อนคนสุดท้ายหายตัวไปอย่างลึกลับ ปามจึงออกตามหา—และพบกับภาพสยองที่ไม่มีวันลืม... ชายชุดแดง... กับศพเพื่อนของเขาที่เย็นเฉียบบนพื้น....และเสียงกรีดร้องสุดท้ายของตนเอง  


ทว่าเมื่อลืมตาตื่น ทุกอย่างกลับเป็นเพียง “ความฝัน”  


หากความฝันนั้นเป็นคำเตือน... ปามเเละเพื่นของเขาจะเปลี่ยนโชคชะตาได้หรือไม่?




[ เรื่องราวเป็นเรื่องสั้นที่มาจากความฝัน เเละทำมาเป็นมังงะเเล้วด้วยทำคริปพากส์เสียงด้วยผมเลยเอามาเเต่งเป็นนิยายด้วย หวังว่าทุกคนจะชอบมันนะครับ]

สารบัญ

Final Blood-ตอนที่1 นัดไปทำรายงาน

เนื้อหา

ตอนที่1 นัดไปทำรายงาน

วันศุกร์... วันที่ควรจะเป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายก่อนเข้าสู่สุดสัปดาห์ แต่กลับกลายเป็นวันที่นักเรียนทั้งห้องต้องพากันถอนหายใจพร้อมบ่นพึมพำ เมื่อครูมินนี่ อาจารย์ประจำวิชา [ชื่อวิชา] ประกาศสั่งงานรายงานกลุ่มอย่างกะทันหัน


"....." ทั้งห้องเงียบเพื่อรอครูปล่อยออกจาห้งโดยที่ไท่รู้เบยว่าขะเจอศักหนัก


"ครูให้เวลาทำแค่สองวันนะ ส่งวันจันทร์หน้า" น้ำเสียงของครูมินนี่สดใสราวกับไม่รู้สึกผิดอะไรที่ทำลายวันหยุดของทุกคน "พวกเธอจะได้ทำงานกันแบบไฟลนก้น! แบบนี้แหละ เวิร์กสุด ๆ เชื่อครูสิ!"


" ...โอ๊ยไม่นะๆๆ นี่มันความฝัน" 

"นึกจะรอดเเล้วเชียวทำมายยยยย"

"เเงงงรายงานอีกเเล้ววว"

".....ขอครูทำคนเดียวได้ไหมนะ"

"โอ...! ถึงเวลากลายเป็นนักพูดหน้าห้องล่ะ"


เสียงโอดครวญดังขึ้นทั่วห้อง นักเรียนหลายคนถึงกับฟุบลงไปบนโต๊ะอย่างหมดแรง บ้างก็จับกลุ่มพูดคุยกันอย่างเร่งรีบเพื่อจัดทีมให้เรียบร้อยก่อนหมดคาบ ปามเองก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่น เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันไปมองหาเพื่อนสนิท


“เฮ้อ... ไม่น่าเลยจริงๆ” ปามพึมพำกับตัวเองก่อนเดินไปหาสึกิกับกานน เพื่อนสนิทที่เขาคิดว่าไม่น่าจะปฏิเสธ


“เฮ้ พวกนาย สนใจทำรายงานกลุ่มด้วยกันมั้ย?”


“ให้ตายสิ ครูมินนี่นี่มันสุดยอดเลยนะ” กานนบ่นพลางเอนตัวพิงโต๊ะด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก “ทำไมต้องเป็นวันศุกร์ด้วยวะเนี่ย... ยังไม่ได้พักเลยก็ต้องมานั่งปั่นงานละ”


“เอาน่า....มันมาขนาดนี้เร่ก็จับกลุ่มกันไปนั่นเเหละ... ช่างมันเถอะ” สึกิยิ้มบาง ๆ “จะไปทำที่ไหนดีล่ะ? ”


ปามคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสนอขึ้นมา “ห้องสมุดไง เงียบดี มีหนังสือเยอะด้วย”


ทั้งสามคนพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะตกลงกันว่าจะไปทำรายงานที่ห้องสมุดในวันเสาร์ เวลาบ่ายโมงตรง 


"วันศุกร์ที่ควรจะเป็นวันพักผ่อน" ปามบ่น...อ่าเขาก็อยากเล่นเกมส์อยู่บ้านเฉยๆเเหละ


".....เอาเถอะมาคุยเรื่อฃหัวข้อกันเถอะ"


สึกิพยักหน้าเบาๆ ส่วนกานนก็ไม่มีท่าทีขัดอะไร พวกเขานัดกันว่าเย็นนี้จะคุยกันเรื่องหัวข้อรายงานก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน


พอถึงตอนเย็น ทั้งสามคนก็มานั่งคุยกันถึงหัวข้อที่จะทำ กานนเสนอเรื่องหนึ่ง สึกิเสนออีกเรื่อง แต่ปามกลับส่ายหัว


"ไม่ ๆ เอาเรื่องนี้ดีกว่า ง่ายกว่าเยอะ!" ปามพูดพลางยื่นหัวข้อของตัวเองให้ดู


สึกิถอนหายใจ แต่ก็ไม่ได้เถียงอะไร กานนเองก็พยักหน้าตาม ๆ ไป ไม่มีใครอยากเถียงกับปามที่ดูเหมือนจะตัดสินใจไปแล้ว


หลังจากตกลงกันเสร็จ สึกิก็เก็บของแล้วเดินไปนั่งเล่นที่สนามเด็กเล่นข้าง ๆ รอพ่อมารับ ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีส้มอมชมพู ลมเย็น ๆ พัดเบา ๆ จนใบไม้ไหว


ไม่นานนัก รถของพ่อสึกิก็มาจอดที่หน้าโรงเรียน สึกิลุกขึ้นยืน ก่อนจะได้ยินเสียงบ่นจากพ่อที่เดินมาเปิดประตูรถให้


"หัดทำตัวเป็นสาวหน่อยได้ไหมเรา" พ่อพูดเสียงเรียบ สึกิถอนหายใจเบา ๆ แต่ไม่ได้เถียงอะไร ก่อนจะก้าวขึ้นรถแล้วหายไปกับถนนที่ทอดยาว


ส่วนปามกับกานนยังคงนั่งรอคนมารับ ปามเล่นโทรศัพท์ไปพลาง ส่วนกานนนั่งนิ่ง ๆ มองไปที่ถนนที่เริ่มมีรถแล่นผ่านไปมา


ไม่นานนัก รถของพ่อปามก็มาถึง ปามลุกขึ้นก่อนจะโบกมือลากานนแบบลวก ๆ แล้วเดินขึ้นรถไปทันที


แต่สิ่งที่ปามไม่ทันเห็น คือสีหน้าของกานนที่รอยยิ้มค่อย ๆ เลือนหายไป และมือที่กำแน่นขึ้นเพียงแค่เสี้ยววินาที ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นแล้วเดินไปขึ้นรถของแม่ที่เพิ่งแล่นเข้ามาจอดเช่นกัน...


ปามมาถึงห้องนอนก็ทิ้งตัวลงบนเตียงทันที รู้สึกเหนื่อยจากวันที่ยาวนาน พ่อเดินเข้ามาลูบหัวเบาๆ พร้อมชมเชย “เก่งมากลูก” ปามยิ้มรับ แม้จะไม่ได้คิดว่าตัวเองทำอะไรเป็นพิเศษ


หลังจากนั้น ทั้งครอบครัวก็มานั่งกินข้าวกันตามปกติ ขณะกำลังทานอาหาร แม่พูดขึ้นมาลอยๆ ด้วยน้ำเสียงกึ่งเยาะเย้ย


“วันนี้ฉันเจอเมียหลวงของคุณมารับลูกชายไปด้วยล่ะ”


พ่อเหลือบตามองแม่แวบหนึ่ง แต่ก็เพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “ช่างเถอะ ฉันไม่สนใจหรอก” เขาหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบ “มีเมียน้อยแบบเธอก็ดีกว่าอยู่แล้ว”


ปามไม่ได้พูดอะไร ฟังอยู่เงียบๆ แล้วก็กินข้าวต่อไป


“ลูกชายของคุณ หรือก็คือพี่ชายของปาม คุณยังจำหน้าเขาได้อยู่ไหม?” แม่ถามต่อ ราวกับต้องการจุดไฟในวงสนทนา


พ่อหัวเราะในลำคอ ก่อนตอบอย่างไม่ยี่หระ “ลืมไปแล้วล่ะ ไม่เห็นต้องไปสนใจ”


ปามเพียงแค่ยักไหล่ ไม่ได้สนใจเช่นกัน


ปามเดินขึ้นห้องอย่างเงียบๆ ปิดประตูเบาๆ ก่อนทิ้งตัวลงบนเตียง ความเหนื่อยล้าจากทั้งวันทำให้เปลือกตาหนักอึ้ง เขาดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัว หลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้ความเงียบกลืนกินทุกความคิด ไม่นานนัก ลมหายใจของเขาก็เริ่มสม่ำเสมอ จมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทรา