ผมจะถูกโยไคพวกนี้กินไหมขอรับ

Yokai Village - 3 Ep.3 โดย Palm_Oil @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ญี่ปุ่น,ลึกลับ,พล็อตสร้างกระแส,ลึกลับ,โยไค,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Yokai Village

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ญี่ปุ่น,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ลึกลับ,โยไค,แฟนตาซี

รายละเอียด

Yokai Village  โดย Palm_Oil  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผมจะถูกโยไคพวกนี้กินไหมขอรับ

ผู้แต่ง

Palm_Oil

เรื่องย่อ


เมืองโยไค



สถานที่ที่ซึ่งเหล่าโยไคทั้งหลายจะมาอาศัยอยู่ร่วมกัน ซึ่งมีการแบ่งเขตในการปกครองเป็น 4 เขต ได้แก่



เขตอสูร ขึ้นชื่อว่า อสูร แล้วนั้นย่อมมีเหล่าโยไคที่มีรูปร่างหน้าตาน่ากลัวและน่าเกรงขาม ส่วนใหญ่มักมีเขาและมีกระบองเป็นอาวุธคู่ใจ


เขตสัตว์เหนือธรรมชาติ เป็นเขตของเหล่าโยโคที่สามารถกลายร่างเป็นสัตว์ได้


เขตวิญญาณธรรมชาติ เป็นเขตของเหล่าโยไคที่สามารถสื่อถึงธรรมชาติได้


และเขตสุดท้าย เขตสิ่งของมีชีวิตหรือเขตสึกุโมงามิ เป็นเขตที่เหล่าโยโคที่เกิดจากสิ่งของที่ถูกทิ้งหรือใช้งานมานานจนได้รับจิตวิญญาณและมีชีวิต





ถ้าคุณต้องอาศัยอยู่ร่วมกับพวกเขา....คุณจะทำเช่นไร

สารบัญ

Yokai Village -1 Ep.1,Yokai Village -2 Ep.2,Yokai Village -3 Ep.3,Yokai Village -4 Ep.4 NC18+,Yokai Village -5 Ep.5

เนื้อหา

3 Ep.3

วันรุ่งขึ้น

 

ร่างสูงได้พาร่างบางออกจากเรือนญี่ปุ่นของตนเพื่อไปคฤหาสน์หลักในเขตนี้

 

“วันนี้เราจะไปคฤหาสน์หลักของเขตกันนะ ฮารุโตะ”ร่างสูงเดินมาบอกร่างบางที่กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ชานบ้านพร้อมกับหยิบฮาโอริมาคลุมไหล่ของร่างบางเอาไว้

 

“ข้างนอกอากาศเย็นนัก สวมฮาโอริของข้าเอาไว้เสียก่อนเถอะ” คิทสึเนะร่างสูงผมเทาหม่นได้ยื่นมือมาให้ร่างบางจับ แต่ทว่าฮารุโตะนั้นก็ได้ลังเลอยู่สักพักก่อยจะยื่นมือบางอันสั่นเทาไปสัมผัสกับมือหนาที่ยื่นมาตรงหน้า ก่อนที่จะพาเดินออกไปจากเรือนญี่ปุ่นของตน

 

“เอ่อ...คุณดันคิขอรับ” เมื่อร่างบางได้เดินอออกมาจากเรือนได้สักพักแล้วก็ได้เอ่ยถามร่างสูงผมเทาหม่นข้างๆกายด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

 

“มีอะไรหรือ ฮารุโตะ” ร่างสูงได้เอ่ยตอบเขาก่อนจะหันมามองคู่สนทนาของตน ดวงเนตรสีอำพันได้สบเข้ากับดวงเนตรสีน้ำตาลอมส้มของร่างบางเข้าอย่างจัง ทำให้ร่างบางรีบหลุบตาลงเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามต่อ

 

“ทะ...ที่ว่าจะพาไปคฤหาสน์หลักนี่ คะ...คุณหมายถึง” ร่างบางพูดตะกุกตะกักราวกับกลัวสิ่งที่ตนเองนั้นกำลัง

 

“อ่อ...ข้าหมายถึงคฤหาสน์ที่คอบกำชับดูแลในเขตนี้น่ะ”

 

“เจ้าดูหวาดกลัวนะ” 

 

“เสียงของเจ้าสั่นเชียวนะ ฮารุโตะ”ร่างสูงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ทว่าท้ายประโยคนั้นกลับมีเสียงอ่อนนุ่มขึ้นพร้อมกับสัมผัสอุ่นๆบนหัวของร่างบาง

 

“ขะ...ขอรับ” ร่างบางพยักหน้าตอบกลับเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้ารับสัมผัสเพราะในตลอดชีวิตที่ผ่านมาของร่างบางนั้นไม่เคยโดนลูบหัวอย่างอ่อนโยนเช่นนี้มาก่อน

 

“สถานที่อาจจะน่ากลัวไปหน่อยสำหรับเจ้านะ”

 

“แต่ข้าขอรับรองเลยว่าคนในนั้นเป็นคนดีพอสมควรเลยนะ”

 

“ข้าอยู่ด้วยเจ้าไม่ต้องกลัวหรอกนะ ฮารุโตะ” ร่างสูงของดันคิผละมือออกจากหัวน้อยๆของร่างบาง ก่อนจะเปลี่ยนไปจับที่มือบางที่โผล่พ้นฮาโอริออกมา

 

“ขอรับ” ร่างบางไม่ได้ปฏิเสธการสัมผัสของปีศาจที่อยู่ข้างเขาเลยแม้แต่น้อย ในช่วงแรกๆตัวเขายอมรับเลยว่ากลัวปีศาจตนนี้เอามากๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ตัวเขากลับรู้สึกสบายใจและอบอุ่นเป็นอย่างมาก เมื่อร่างสูงได้มาอยู่ข้างๆตัวเขา

 

เมื่อทั้งคู่ได้เดินมาถึงคฤหาสน์ใจกลางเมืองสัตว์เหนือธรรมชาติก็ได้พบกับปีศาจทั้งสองตนที่ยืนเฝ้าระวังคฤหาสน์หลังนี้อยู่ เมื่อปีศาจทั้งสองได้เห็นร่างสูงจึงได้ทำความเคารพในฐานะผู้ปกครองเขต

 

“สวัสดีขอรับท่านคิทสึเนะ” หนึ่งในสองปีศาจที่ยืนเฝ้าคฤหาสน์แห่งนี้เอ่ยทักทายดันคิผู้ซึ่งเป็นผู้ปกครองเขตแห่งนี้

“อืม สวัสดีนะ” เมื่อร่างสูงได้ทักทายปีศาจทั้งสองที่ยืนอยู่หน้าคฤหาสน์แล้ว ก็ได้ขอตัวเข้าไปในคฤหาสน์

 

“เข้าไปข้างในกันเถอะ” ร่างสูงได้เอ่ยบอกกับร่างบางพร้อมกับพาร่างบางเดินไปตามทางของคฤหาสน์

 

ตัวของดันคิที่รู้สึกได้ว่าร่างบางที่อยู่ข้างๆเขากำลังสั่นกลัวขึ้นก็ค่อยๆประคองให้ร่างบางเดินเข้าไปโดยที่ตนเองนั้นยังคงอยู่ข้างๆ เมื่อทั้งคู่ได้เดินมาถึงที่ห้องของใจกลางคฤหาสน์แห่งนี้แล้ว ก็ได้ยินเสียงหนึ่งเอ่ยทักพวกเขาทั้งสองขึ้นมา

 

“นั้นคือมนุษย์ที่ได้ยินข่าวลือเมื่ออาทิตย์แล้วหรือ ท่านดันคิ”ปีศาจแมวสองหางเอ่ยถามกับร่างสูง

 

“ใช่แล้วล่ะ อุนคิจิ” ดันคิเอ่ยตอบกลับไป

 

เมื่อร่างบางได้หันไปมองก็ได้สะดุ้งกับปีศาจตรงหน้า เพราะปีศาจตรงหน้าร่างบางนั้นคือปีศาจแมวสองหาง

 

“มนุษย์ผู้นี้คือมนุษย์ที่ข้าช่วยเอาไว้จากเจ้าสึชิกุโมะไว้น่ะ” ดันคิเอ่ยบอกแก่ปีศาจแมวสองหางอย่างอุนคิจิ

 

“ทำไมท่านถึงคิดอยากช่วยมนุษย์ตนนี้ไว้ล่ะ”ปีศาจแมวเอ่ยตั้งข้อสงสัยของตนกับผู้ปกครองอย่างดันคิ

 

“ข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่เมื่อข้าได้ลองจ้องมองใบหน้าของมนุษย์ตนนี้กลับรู้สึกหลงเสน่ห์และถูกชะตาด้วยก็เท่านั้นเอง” ดันคิตอบกลับข้อสงสัยของอุนคิจิ เพราะสำหรับดันคิเองแล้วนั้นก็ไม่ได้เข้าใจในความคิดของตนเสียมากนัก ว่าทำไมตนถึงเลือกช่วยมนุษย์ตนนี้เอาไว้

 

“ท่านยังคงอธิบายได้ซับซ้อนเหมือนเดิมเลยนะ” อุนคิจิกล่าวอย่างเอือมๆแก่ปีศาจคิทสึเนะตนนี้

 

ร่างบางที่ได้แต่ยืนอยู่เงียบๆเพื่อฟังบทสนทนาของปีศาจทั้งสอง

 

“แล้วพวกที่เหลือไปไหนเสียแล้วล่ะ”

 

“ทำไมถึงเหลือแค่เจ้าที่อยู๋ที่คฤหาสน์” ดันคิเอ่ยถามหาพวกปีศาจที่เหลือที่เขาคิดว่าตอนนี้ควรอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้เพื่อสะสางงาน

 

“พวกแฝดริโอะ-ริโตะไปเที่ยวเมืองมนุษย์เห็นว่าอยากลองชิมอาหารของฝีมือมนุษย์”

 

“ส่วนเจ้ายูอิโตะก็ตามพวกแฝดไปไม่ต้องกังวลว่าเจ้าพวกแฝดจะเผลอไปแผลงฤทธิ์หรอกนะ”

 

“แล้วก็ชิเอโกะบอกเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวเยี่ยมเพื่อนเขตอสูรน่ะ” ปีศาจแมวได้ตอบคำถามของปีศาจจิ้งจอกคิทสึเนะ

 

“งั้นหรือ”

 

“อ่อ...ข้าเกือบไปเสียสนิทเลย”

 

“พวกเจ้าควรทำความรู้จักกันนะ เพราะไหนๆก็จะมาอาศัยอยู่ที่เมืองปีศาจนี้แล้ว”

 

“ควรจะมาทำความรู้จักกันเสียก่อนดีหรือไม่” ดันคิกล่าวเสนอให้แก่ทั้งสอง

 

“ถ้าเจ้าเห็นว่าสมควร...ข้าก็จะทำ” อุนคิจิตอบกลับอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

“มนุษย์ผู้นี้มีนามว่าฮารุโตะ หากข้าจะขอแนะนำแทนเจ้าตัว เจ้าคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ” จิ้งจอกคิทสึเนะร่างสูงได้เอ่ยแนะนำให้แก่ร่างบาง โดยไม่ลืมที่จะผายมือมาที่ร่างบาง

 

“ไม่หรอก ส่วนข้ามีนามว่าอุนคิจิ”

 

“เจ้าเลิกกลัวข้าเสียเถอะนะ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเจ้าหรอกนะ เพราะข้าไม่ชอบการทำร้ายมนุษย์น่ะ” รปีศาจแมวผมสองสีได้เอ่ยคำวาจาสัญญากับร่างบาง เผื่อว่าเจ้าตัวนั้นจะเลิกกลัวตัวเขาขึ้นมาบ้าง

 

“ขะ..ขอรับ” ร่างบางตกปากรับคำก่อนที่จะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองปีศาจแมวตนนี้อย่างหวาดๆ

 

“เจ้ายังกลัวอยู่หรือ เอาเถอะในช่วงแรกก็เป็นเช่นนี้ละ”

 

“เดี๋ยวเจ้าก็ชินเองนะ” ร่างสูงที่ยังเห็นท่าทีของร่างบางเช่นนั้นจึงได้ยกมือขึ้นมาลูบหัวของฮารุโตะอย่างแผ่วเบา

 

“พามนุษย์ผู้นี้กลับไปเสียก่อนเถอะนะ ท่านดันคิ”

 

“ไว้พวกเขากลับมาแล้วจะแจ้งให้ท่านทราบ”

 

“เพราะอากาศ ณ ตอนนี้มันหนาวเย็นนะ ร่างกายของมนุษย์นั้นมิได้ทนร้อนทนหนาวได้เฉกเช่นเดียวกับพวกเรานะ” ปีศาจแมวได้เอ่ยขึ้นมาก่อนพร้อมกับชี้ให้ปีศาจจิ้งจอกคิทสึเนะที่อยู่ข้างร่างบางได้เห็น

 

เมื่อร่างสูงได้เห็นว่าร่างบางข้างๆตนนั้นเริ่มออกอาการหนาวสั่นขึ้นมาแล้ว จึงได้ขอตัวกลับ

 

“คงต้องเป็นเช่นนั้นเสียแล้วล่ะ”

 

“งั้นข้าขอตัวก่อนนะ ปีศาจมาเนะกิเนโกะ”

 

“เดี๋ยวข้าอุ้มเจ้าเองนะ ฮารุโตะ” ดันคิได้เอ่ยบอกลาอุนคิจิก่อนที่จะช้อนตัวร่างบางขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาว โดยไม่ได้รับคำตอบรับจากร่างบางเลยแม้แต่น้อย

 

เมื่อทั้งคู่ได้มาถึงเรือนญี่ปุ่นขนาดใหญ่แล้ว ร่างสูงก็ได้พาร่างบางไปยังห้องนอนพร้อมกับวางร่างบางอย่างเบามือและได้เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

 

“เจ้ายังหนาวอยู่หรือ ฮารุโตะ” ดันคิเอ่ยถามออกไปพร้อมกับเป็นความห่วงต่อร่างบาง

 

“ข้ายังหนาวขอรับ ได้โปรดช่วยทำให้ข้าอุ่นขึ้นทีขอรับ” ร่างสูงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้โผล่เข้ากอดร่างบาง เมื่อกอดกันไปได้สักพัก มือของร่างบางนั้นก็เริ่มอยู่ไม่สุข

 

มือบางนั้นได้เริ่มไปจับที่หูของปีศาจร่างสูงก่อนที่จะไปสัมผัสกับตรงส่วนหางที่กำลังกอดรัดตัวของร่างบางอยู่ ทำให้ปีศาจร่างสูงเริ่มหมดความอดทน

“หากเจ้ายังไม่หยุดการกระทำเช่นนี้ ข้าเกรงว่าเส้นสติของข้าอาจจะได้เตลิดไปเสียแน่” ปีศาจจิ้งจอกคิทสึเนะเอ่ยเตือนให้หยุดการกระทำที่ร่างบางกำลังกระทำอยู่ แต่ทว่ามนุษย์ร่างบางตรงหน้าก็ยังไม่ได้หยุดการกระทำนั้น ทำให้เส้นสติของร่างสูงเส้นสุดท้ายได้ขาดออกจากกัน พร้อมกับค่อยๆกดร่างบางลงบนฟูก

 

 

 

 

 

 

 

 

See you next ep.