ปลายฟ้า นักเขียนแนววิชาการจำต้องมาเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งแฟนเก่า มิสชั่นนี้ว่าไม่ง่ายแล้ว แต่ชีวิตดันผลักเธอให้ไปรู้จัก 'เขาคนนั้น' ที่ลวงเธอให้รับดีลเป็นเพื่อนแลกประสบการณ์บนเตียง เพียงเพื่อใช้เธอเป็นนกต่อล่อเหยื่อ
ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ผู้ใหญ่,อิโรติก,สืบสวน ,ดราม่า,โรมานซ์,โรมานซ์สืบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พระเอกนิยายสุดปลายฟ้าปลายฟ้า นักเขียนแนววิชาการจำต้องมาเขียนนิยายอิโรติกตามใบสั่งแฟนเก่า มิสชั่นนี้ว่าไม่ง่ายแล้ว แต่ชีวิตดันผลักเธอให้ไปรู้จัก 'เขาคนนั้น' ที่ลวงเธอให้รับดีลเป็นเพื่อนแลกประสบการณ์บนเตียง เพียงเพื่อใช้เธอเป็นนกต่อล่อเหยื่อ
เมื่อนิตยสารสารคดีที่ ปลายฟ้า เป็นนักเขียนประจำปิดตัว ทำให้ปลายผ้าต้องหันเหจากการเขียนแนววิชาการ ไปต้องเลี่ยนแนวไปเป็นนักเขียนนิยาย เพื่อหาเงินเลี้ยงดู แม่และน้องสาว โดยเฉพาะแม่ของเธอต้องรับการผ่าตัดตาในสิ้นปี ปลายฟ้าจึงเขียนนิยายรัก แล้วนำไปให้ กรินทร์ คนรักเก่าที่เป็นซีอีโอของสำหนักพิมพ์อักษรารัญจวนช่วยพิจารณา แต่กรินทร์ไม่ให้ผ่านเพราะแนวเรื่องไม่ตรงกันแนวของอักษรารัญจวนที่เน้นขายแนวนิยายอิโรติก
แต่เพราะกรินทร์ยังมีใจให้ปลายฟ้า ด้วยความรักที่หลงเหลือ จึงให้ปลายฟ้าเขียนนิยายอิโรติกโดยที่มีเขาเป็นพระเอก และเธอเป็นนางเอก แลกกับเงินค่าจ้างที่เขาจะจ่ายให้เธอเป็นรายเดือนแต่ปลายฟ้ามีปมกับเรื่องเซกส์เพราะเคยถูก เปลว พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดในวัยเด็กและมักมีอาการทางประสาทกำเริบหากถูกกระตุ้น ทว่าด้วยเงินที่กรินทร์เสนอให้ จึงทำให้ปลายฟ้าตอบรับงาน แต่เพราะกลัวว่าจะเขียนให้ถึงตอนจบไม่ได้ ปลายฟ้าจึงตั้งใจหางานเสริม และเธอก็ได้งานแม่บ้านรีสอร์ตที่มีชื่อว่า Beyond The Horizon โดยบังเอิญจากแม่บ้านคนเก่าที่ลาออกกระทันหัน
ที่รีสอร์ตนี้ ปลายฟ้าต้องทำงานเป็นแม่บ้านประจำโซนวิลล่าการ์เด้น โดยมี แหวว หัวหน้าแม่บ้านเป็นคนคุมงาน เธอมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดและอำนวยความสะดวกให้แขกประจำโซน ซึ่งหนึ่งในแขกที่เธอต้องดูและคือ เข้ เจ้าของห้องหมายเลข 114 ที่เขาแอบเลี้ยงแมวโดยมีแค่เธอและเขาเท่านั้นที่รู้ นอกจากแหววแล้ว ปลายฟ้าได้เจอ ชิด บาร์เทนเดอร์ที่คอยสอนงานในห้องอาหารให้เธอ
ด้วยงานแม่บ้านนี้เองที่ปลายฟ้าจะยึดไว้เป็นอาชีพเสริมจนกว่าเธอจะเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์จบ แต่มีเหตุเกิดขึ้นกับปลายฟ้าคือเธอเหยียบหางแมวที่คุณเข้เลี้ยงไว้ที่ริมสระน้ำ จนทำให้เธอตกสระ แต่เข้ก็ช่วยเธอไว้ได้ทัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เข้รู้ว่าเธอต้องรับงานเขียนนิยายอิโรติกให้กรินทร์ แต่เธอไม่มีประสบการณ์เรื่องบนเตียง(แบบคู่รัก) เข้เลยเสนอว่าถ้าปลายฟ้ามาเป็นเพื่อนคุยให้เขา เขาจะเล่าประสบการณ์บนเตียงให้ฟัง ข้อตกลงแรกระหว่างปลายฟ้าและเข้จึงเริ่มขึ้น
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าฟาดดังลั่น ฉีกทะลุความเงียบงันของค่ำคืนจนร่างชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก ดวงตาเบิกโพลงขึ้นมาราวกับถูกกระชากจากความฝันอันหนักอึ้ง หัวสมองยังมึนงง ภาพตรงหน้าก็เลือนรางเหมือนภาพเบลอในกระจกที่เต็มไปด้วยไอน้ำ ทว่าเสียงสะอื้นไห้กลับคมชัด จนเหมือนบาดทะลุเข้ามากรีดก้อนเนื้อหัวใจที่กำลังเต้นแรงจนเจ็บร้าวไปทั่วอก
“คุณมันเจ้าชู้โดยสันดาน!”
เสียงตะโกนที่ปะปนกับความเจ็บช้ำกระแทกเข้าเต็มหน้าอก ฝ่ามือของเธอรัวฟาดลงมาบนตัวเขาไม่ยั้ง แต่ละจังหวะเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดจนไม่มีช่องว่างให้เขาได้หายใจ ราวกับโลกทั้งใบสมคบคิดกันลากเขาออกจากภวังค์ให้กลับมารับรู้ว่าเขาไม่ได้ฝัน
แต่ถ้าเลือกได้ เขาอยากตื่นในฝันร้ายมากกว่ารู้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับความจริง
“คุณไม่เคยรักฉัน!”
น้ำเสียงที่ครั้งหนึ่งเคยอ่อนโยน บัดนี้กลับกลายเป็นคมมีดเฉือนลึกถึงกระดูก ริมฝีปากแห้งแตกระบายถ้อยคำบาดลึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยเพราะพิษรักแรงหึงกัดกินเธอจนกลายเป็นคนละคน
“คุณไม่เคยรักฉันเลย ฮือๆ...”
ครืน!
เสียงลมพายุด้านนอกดังราวกับโลกภายนอกกำลังถล่ม แต่เสียงคร่ำครวญของเธอกลับดังกว่า เธอปีนขึ้นมานั่งคร่อมร่างเขาอย่างคนไร้สติ กักขังเขาไว้ใต้ร่างที่สั่นเทาไปด้วยอารมณ์รุนแรง
“พอได้แล้ว... ได้โปรด...”
เขาพยายามเปล่งเสียงอ้อนวอน ทั้งที่ลำคอแหบแห้งเหมือนทะเลทราย
“คุณบอกให้ฉันหยุด แล้วคุณล่ะ?” เธอตวาดเสียงสั่น “ทำไมคุณไม่หยุดเจ้าชู้เสียที! ทำไม!”
น้ำคำของเขาไม่มีความหมายสำหรับเธออีกแล้ว ชายหนุ่มรวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย ผลักเธอออกจากอก หวังจะหลุดจากวงล้อมของอารมณ์อันบ้าคลั่ง แต่ร่างกายของเขากลับอ่อนแรงอย่างน่าประหลาด แค่แรงสะบัดจากผู้หญิงคนหนึ่งก็ทำให้หนุ่มวัยฉกรรจ์อย่างเขาทรุดลงไปบนโซฟาเหมือนชายชรา
“คุณมันก็พูดแต่คำลวงหลอก ฮือๆ!” เธอพร่ำคำพูดปนเปด้วยความคับแค้น เหมือนคลื่นทะเลสาดซัดเข้าหาฝั่งไม่รู้จบ
“อย่าทำแบบนี้เลย...” เขาเอ่ยอย่างหมดแรง “ถ้าไม่ห่วงตัวเอง ก็ห่วงเด็กในท้องบ้าง” แต่คำพูดที่เขาหวังจะใช้เตือนสติกลับกลายเป็นมีดอีกเล่มที่เขาเผลอแทงใส่เธอโดยไม่รู้ตัว
“เพราะเด็กนี่ใช่ไหม! เพราะมันใช่ไหมคุณถึงไม่กลับมารักฉันอีก!”
เขานิ่งงัน ไม่เชื่อหูตัวเอง ความหึงหวงกัดกินเธอจนกลายเป็นคนที่เขาแทบจำไม่ได้
“ไม่ใช่! มันไม่เกี่ยวกับเด็กเลย!”
“แล้วทำไมเราถึงกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ หรือว่า... คุณไม่เคยรักฉันเลย”
น้ำตาของเธอหยดลงบนแผงอกที่เปียกชื้น เขาอยากยกมือโอบกอด อยากปลอบโยน อยากอธิบาย แต่ทุกอย่างกลับสายเกินไป เหลือเพียงกลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับกลิ่นเลือดที่คลุ้งอยู่ในอากาศ
“ไม่ใช่ว่าผมไม่รัก...” เขาเอ่ยช้า ๆ “แต่ถ้ายังฝืน เราทั้งคู่จะยิ่งทรมาน”
เพียะ!
ฝ่ามือของเธอฟาดเข้าหน้าเขาเต็มแรงจนใบหน้าหันไปอีกทาง
“กรี๊ดดด!!”
เธอกรีดร้องเสียงหลง เหมือนสัตว์ป่าที่บาดเจ็บ ตบตีเขาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับสติแตกจนไม่รู้ว่ากำลังทำร้ายใคร และเขาก็ไม่อาจทนเป็นกระสอบทรายต่อไป จึงผลักเธอออกไปอีกครั้ง คราวนี้แรงกว่าเดิมจนเธอหล่นลงไปก้นกระแทกพื้น
“พอเถอะ! คุณก็รู้ว่าเรื่องของเรา มันไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม!”
“กรี๊ดดด!!”
ร่างของเธอสั่นเทิ้ม มือขยุ้มท้องอย่างคนเจ็บ กรีดเสียงร้องแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางที่เต็มไปด้วยความทรมาน และแล้วเลือดสีแดงเข้มก็ไหลทะลักออกมาจากหว่างขา หยดลงบนพรมจนชุ่มโชก
แต่เขตต์ไม่มีเวลาไตร่ตรอง เขาลุกโซเซเดินออกจากโซฟา หัวใจเต้นแรงผิดจังหวะจนแทบจะทะลุออกจากอก ความร้อนพลุ่งพล่านแผ่ซ่านไปทั่วร่าง วูบวาบทั่วใบหน้าที่แดงก่ำ รู้สึกราวกับถูกไฟสุมเผาจากภายใน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เธอกรีดร้องดังจากด้านหลัง แต่เขาไม่คิดจะหยุดตามคำสั่ง เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นขยุ้มอกตัวเองอย่างแน่นหนา คล้ายจะกดหัวใจที่กำลังเต้นรุนแรงให้สงบลง แต่ยิ่งพยายามกดลงแรงเท่าไหร่ หัวใจก็ยิ่งเต้นแรงและเร็วกว่าเดิม คลื่นความคลื่นไส้ตีขึ้นมาเป็นระยะ ผสมกับความรู้สึกวิงเวียนรุนแรงจนแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น
“คุณจะกลับไปหาแพรวพลอยใช่ไหม!” เธอยังคงกระโชกคำถาม
“ผมไม่เคยอยากกลับไปหาแพรวพลอย!”
เสียงเขาแหบพร่า ฝืนเปล่งออกมาได้อย่างยากลำบาก ความรู้สึกกระวนกระวายรุนแรงปะปนกับความหวาดกลัวจนแยกไม่ออก ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองดังอื้ออึงในหู ประสาทสัมผัสทุกอย่างตื่นตัวอย่างผิดปกติ มองเห็นภาพตรงหน้าซ้อนทับกันไปมา
สติที่หลงเหลืออยู่บอกเขาว่า ต้องหนี ต้องออกไปจากห้องนี้ให้ได้เท่านั้น
“ผมไม่เคยอยากกลับไปหาแพรวพลอย!”
เขตต์พูดพลางพาร่างกายที่โซเซออกจากโซฟา หอบหายใจอย่างยากลำบาก มึนงงราวกับกำลังจมน้ำ ความรู้สึกวูบวาบปั่นป่วนในท้องทำให้เขาแทบอาเจียน แต่ยังพยายามลากตัวเองไปให้ไกลที่สุดจากเธอ
“โกหก! คุณกับแพรวพลอยสมสู่กัน!”
เพล้ง!!
เสียงแตกกระจายของขวดแก้วฉีกอากาศราวกับฟ้าผ่าอีกครั้ง เศษแก้วปลิวว่อนใต้แสงไฟสลัว เธอยืนอยู่กลางพรม เปื้อนเลือดคราบน้ำตาและอารมณ์ปั่นป่วน มือขวากำขวดปลายปากฉลามแน่นจนเส้นเลือดบนแขนปูดโปน ดวงตาแดงก่ำของเธอจ้องเขาเขม็งดุจสัตว์ป่าที่ถูกต้อนจนจนตรอก
“ที่คุณเห็นนั่น มันไม่ใช่ความจริง...” เขาตั้งสติ สูดหายใจเข้าลึก พยายามพูดช้า ๆ อย่างระมัดระวัง“ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ...”
“โกหก!” เธอก้าวเท้าเข้าหาเขาอย่างช้า ๆ แต่หนักแน่น ปลายขวดแหลมจ่ออกมาเหมือนเข็มพิษ
“เสียงครางของพวกคุณดังขนาดนั้น ยังจะมีหน้ามาอ้างว่าไม่รู้ตัวอีกเหรอ!”
เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ สายตามองเธออย่างประเมินทิศทาง ทั้งเพื่อป้องกันตัวเอง และเพื่อหาช่องหนี “งั้นคุณก็บอกผมหน่อย... ว่าทำไมคุณถึงได้ท้องกับเสี่ยปอง?”
เธอชะงักเล็กน้อย ราวกับไม่คิดว่าเขาจะย้อนถามกลับ คำถามนั้นแทงทะลุเกราะป้องกันบาง ๆ ที่เหลืออยู่
“ฉัน... ไม่เคยอยากเป็นของใครทั้งนั้น...” เสียงเธอสั่นเครือ ดวงตาพร่ามัว “แต่คุณ... คุณกลับนอนก่ายขากับแพรวพลอยอย่างมีความสุข คุณทรยศรักฉันมาตลอด!”
ร่างของเธอโซเซ ก้าวย่ำลงบนเศษแก้วที่เกลื่อนพื้น เลือดซึมออกมาจากฝ่าเท้า แต่เธอไม่แม้แต่จะก้มมอง
เขตต์ถอยหลังทีละก้าว สัมผัสกับลูกบิดประตูในที่สุด แต่อาการวิงเวียนคล้ายจะหมดสติทำให้เขาต้องกัดฟันตั้งสติไว้แน่น และก่อนจะได้หันหลังเปิดประตู ร่างของเธอก็หยุดอยู่ตรงหน้า ใกล้แค่ช่วงแขน
“บอกฉันที...” เสียงของเธอเบากว่าครั้งไหน ๆ “ว่าคุณจะกลับมารักฉัน...”
เขานิ่ง เงียบงัน สบสายตาเธอโดยไม่หันหนี แม้จะเกิดความรู้สึกสับสนปั่นป่วนแล่นพล่าน “ไม่... น้ำตาล... ไม่...”
เขาไม่กล้าสัญญา ไม่กล้าหลอกเธอแม้จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะความรักที่แท้จริง ไม่ควรพูดด้วยปาก หากแต่ต้องพิสูจน์ด้วยหัวใจ แล้วเขาก็พิสูจน์ไปแล้วเป็นร้อยเป็นพัน ทว่ามันไม่เคยเติมเต็มความต้องการของเธอเลย
“เราไม่มีทาง...กลับไปเหมือนเดิม” เขาตอบเธอชัดเจนอีกครั้ง
หญิงสาวยืนนิ่งไปชั่วครู่ แล้วริมฝีปากแห้งแตกก็ค่อย ๆ ขยับอีกครั้ง เปล่งถ้อยคำออกมาด้วยเสียงที่เจ็บปวดกว่าทุกคำที่เคยเอ่ย
“งั้นก็ขอให้คุณ... ไม่สมหวังกับผู้หญิงคนไหนเลย...”
วินาทีนั้น... แววตาของเธอเปลี่ยนไป จากเจ็บปวด เป็นว่างเปล่า จากว่างเปล่าเป็นมืดดำ
แขนบางแต่กลับมาแรงมหาศาลของเธอเหวี่ยงขวดในมือลงอย่างรวดเร็ว แต่เขตต์รู้ทัน ยกมือขึ้นกันปลายขวดไว้ทันก่อนมันจะปักเข้าคอ แต่ขอบคมบาดลึกลงบนฝ่ามือ เลือดพุ่งออกมาแทบจะทันที กลิ่นคาวโลหิตก็กระแทกจมูกชัดเจน ปะปนกับอาการหัวใจที่ยังเต้นแรงผิดจังหวะ ดวงตาก็เริ่มพร่าเลือน
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าซ้ำอีกครั้งราวกับสะท้อนแรงอารมณ์สุดท้ายของเธอ และทันใดนั้นเอง เสียงคำรามเล็ก ๆ ดังขึ้นจากมุมห้อง แมวดำลายขาวตัวน้อยที่เคยซุกอยู่ใต้โต๊ะกระโดดพรวดออกมาด้วยสัญชาตญาณ มันพุ่งเข้ากัดแขนเธอ ฝังคมเขี้ยวเข้ากล้ามเนื้ออย่างแรงจนขวดในมือเธอเบี่ยงเป้า แทนที่จะปักลงที่คอเขา กลับฟาดเข้าไปที่บานประตู
“กรี๊ด!!!”
เธอกรีดร้องลั่น ร่างบิดเบี้ยวอย่างคนสติหลุด กระชากคอแมวออกมาอย่างโหดร้าย ไม่สนใจว่าเขี้ยวที่ฝังลึกจะกรีดลากเนื้อของตัวเองเป็นแผลยาวแค่ไหน จากนั้นเหวี่ยงมันฟาดลงพื้นอย่างไร้เมตตา แล้วหันขวับมาทางเขา จ้องด้วยดวงตาของสัตว์ป่า
“น้ำตาล..” ชายหนุ่มส่ายหน้าช้า หวังเรียกน้ำตาลคนเดิมให้คืนกลับมา
แต่เธอไม่ฟัง เธอไม่เห็น เธอไม่สน... หญิงสาวพุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง ขวดในมือชูขึ้นสูง เลือดของเขายังหยดจากฝ่ามือข้างที่กันไว้ครู่ก่อน
“น้ำตาล อย่า!!!”
“ขอให้คุณไม่สมหวังกับผู้หญิงคนไหนเลย!”