อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง

Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว - 5 อสูรเมือก โดย ราชาวาฬ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว โดย ราชาวาฬ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง

ผู้แต่ง

ราชาวาฬ

เรื่องย่อ

แม้พวกอสูรจะพ่ายแพ้กลับไป ทว่าอารยธรรมของมนุษย์ทั้งหมดก็ถูกทำลาย เหล่าผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในกลุ่มเล็กๆ กระจัดกระจายกันอยู่ไม่กี่สิบกลุ่มทั่วโลก

แมรี่ เด็กสาวจากกลุ่มอื่นที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เธอถูกอสูรไล่ล่า ดีที่ได้ เจนนิเฟอร์ ยัยเนิร์ดบ้าเครื่องจักรขับหุ่นยนต์มาช่วยไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการต่อสู้และความรักของทั้งสอง

 

นิยายเรื่องใหม่ของราชาวาฬ ลงวันเว้นวันตอนหกโมงเย็น!

สารบัญ

Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-0 บทนำ : ผู้ปกป้อง,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-1 บทที่ 1 : วิชาหุ่นยนต์,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-2 บทที่ 2 : สปาร์ก,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-3 เครื่องซิม,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-4 แมรี่ ไอออนฮาร์ท สปาร์ก อิคิมัส!,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-5 อสูรเมือก,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-6 อาคารร้าง,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-7 ดาบสะบั้นเศียร,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-8 โซเมน,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-9 การประชุมผู้บริหาร,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-10 แผนกินเนื้อ,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-โปรไฟล์อสูร 01 อสูรงู,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-11 กล่องดำ,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-12 บุรุษปริศนา,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-13 แมรี่ของฉัน,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-14 คราวหน้าขอไรเฟิลนะเจน!,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-15 ชิลลี่กับเป็บเปอร์,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-16 ระบบไฮบริด,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-17 แผนกคหกรรม,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-18 ลองไรเฟิล,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-19 หุ่นยนต์ปริศนา,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-20 HOPE System,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-โปรไฟล์อสูร 02 อสูรลิง,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-บทคั่น สูญสิ้น,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-21 เครื่องบินกระดาษ,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-22 จดหมายของแคทเธอรีน,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-23 ผู้ถอดรหัส,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-24 จูบแรก,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-25 โอวี่,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-26 ผู้ปกป้องทั้งห้า

เนื้อหา

5 อสูรเมือก

 

 “จับมีดไม่ค่อยอยู่เลย เมือกมันทำให้ลื่นไปหมด” ฉันบ่นหลังจากพยายามดิ้นรนจนถือมีดในมือได้เล่มหนึ่ง แต่ทุกส่วนของตัวหุ่นยนต์เหมือนจะถูกเมือกแทรกซึมอยู่ทั่วไปหมด มันทำให้เคลื่อนไหวได้ค่อนข้างลำบาก มือข้างที่จับก้านบังคับสัมผัสได้ถึงความลื่นอย่างไม่น่าเชื่อ เทคโนโลยีของคนสมัยก่อนทำได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ

 “ถือมีดได้แล้วค่ะ แกนกลางของมันอยู่ตรงไหนคะ” เจนยังถือสายคุยกับอาจารย์ทาคุมิ 

 “อยู่กลางลำตัวของมัน เดี๋ยวมันจะพยายามดึงพวกคุณไปตรงนั้นอยู่แล้ว เพราะเป็นอวัยวะย่อยของมันด้วย”

 “ก็หมายความว่าต้องทำลายมันให้ได้ก่อนโดนย่อย” เจนยิ้มแบบกลัวแต่กล้าอีกแล้ว ใบหน้านั้นมีเหงื่อหยดลงมาที่คาง “แมรี่ เธอไหวไหม”

 “ไม่ไหวก็ตายน่ะสิ!” ฉันพูดลอดไรฟัน เมื่อได้ฟังว่าอสูรเมือกจะดึงอาหารของมันเข้าไปหาแกนกลางทำให้ฉันเลิกฝืนที่จะหนีออกมาจากตัวมัน เพราะตอนนี้มันทั้งลื่นทั้งยาก เจ้าอสูรตัวนี้มีแรงมากกว่าที่เราคิด “ว่าแต่สปาร์กมีกล้องหลังหรือเปล่า แบบนี้มองไม่เห็นแกนกลางของมันแน่”

 “มีสิ นี่ไง” เจนเอื้อมมือมากดปุ่มหนึ่งบนหน้าจอ มันฉายภาพจากกล้องหลังของหุ่นยนต์ มันมืดมาก มองแทบไม่เห็นเลย

 “เปิดไฟด้วยสิ เดี๋ยวจะตั้งค่าให้เปิดกล้องหลังไว้ตลอดเลยจะได้ไม่ต้องมาคอยเปิด” เจนกดอีกปุ่มบนหน้าจอ ไฟส่องสว่างขึ้น ลำแสงนั้นเผยให้เห็นแกนกลางของมัน ซึ่งมีลักษณะเหมือนแท่งโลหะ เมือกสีคล้ำเริ่มซึมผ่านเข้ามาในห้องโดยสาร ฉันพยายามเอื้อมมือข้างที่ถือมีดเข้าไปหามัน แต่มันยังไกลมาก และรู้สึกเหมือนขยับตัวอยู่ในเยลลี่

 “คงต้องยอมรอให้มันดึงเราเข้าไปมากกว่านี้อีก” ฉันพูด พยายามทำใจให้กล้าทั้งที่รู้สึกหวาดหวั่นมากขึ้นเรื่อยๆ สัมผัสของสารเย็นเฉียบที่เท้าทำให้รู้สึกขยะแขยง

 “ลืมบอกไปว่าเมือกมันเป็นกรดอ่อนๆ ด้วยนะ พยายามอย่าสัมผัสมันนาน” เสียงทาคุมิดังอยู่ในโทรศัพท์ หมอนั่นดูไม่ตื่นเต้นอะไรเลย แสดงว่าเจ้านี่ไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรือเปล่านะ

 กรดอ่อนๆ อะไรกัน ฉันคิดเมื่อนิ้วเท้าได้สัมผัสกับเมือกโดยตรงเพราะรองเท้าเริ่มเปื่อยขาด ฉันรีบหดขาขึ้นมานั่งชันเข่าก่อนที่กรดอ่อนๆ จะละลายเท้าไปด้วย นั่นยิ่งทำให้แออัดเมื่อต้องนั่งอยู่กับยัยเจนในท่าเดียวกัน สาบานได้ว่าฉันไม่เคยแนบชิดกับใครขนาดนี้มาก่อน แถมความรู้สึกร้อน ๆ ที่แก้มบวกกับจังหวะการเต้นของหัวใจที่แยกไม่ออกว่ากำลังกลัว หรือใจเต้นเพราะคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันแน่

 “อึดอัดอะ” ฉันต้องเป็นคนพูดหรือเปล่ายะ

 “อยู่แบบนี้นานไม่ได้แน่ เธอต้องใช้หมัดจรวด เปลี่ยนมาถือมีดด้วยมือซ้ายซะแมรี่” เจนสั่ง พอเห็นฉันยังช้าก็เร่ง “หมัดจรวดจะเข้าถึงแกนกลางของมันได้แน่ แล้วยังควบคุมมือจากระยะไกลได้ด้วย” เธอว่า ลืมปัญหาของเจ้าหมัดนี่ไปซะสนิท

 “แล้วเรื่องพลังงานล่ะ” ฉันย้ำความทรงจำ แต่เจนหันมาด้วยสายตาจริงจัง มุ่งมั่นแบบที่ฉันกลัว “เราจะดึงพลังงานทั้งหมดไปที่หมัดจรวด แล้วจะฆ่าอสูรให้ได้ทันที!”

 “มันเสี่ยงเกินไป!” ฉันพยายามเถียง

 “แมรี่ ยิ่งเวลาผ่านไป สปาร์กก็ใช้พลังงานไปเรื่อยๆ อยู่ดี ถ้าเราไม่ทำอะไรเราจะตายอยู่ในนี้นะ หรือเธอมีวิธีอื่น”

 “อย่างน้อยก็ถามอาจารย์ก่อนสิ” ฉันเอาผู้ใหญ่มาอ้างเป็นไม้ตายสุดท้าย

  (“ใช้หมัดจรวดไปเลย”)  ทาคุมิตอบมาในโทรศัพท์โดยไม่ต้องรอให้ถาม ลืมไปว่าสองคนนี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยถ้าเป็นเรื่องหมัดจรวด ฉันเปลี่ยนมาถือมีดด้วยมือซ้าย กดปุ่มย้ายพลังงานไปที่แขนท่อนล่าง ภาพจากกล้องมืดลงทันที นี่เราจะทำลายมันได้จริงๆ เหรอ เหงื่อไหลออกมาท่วมมืออีกแล้ว ฝ่าเท้าเริ่มสัมผัสถึงเมือกได้ ตอนนี้เมือกมันท่วมขึ้นมาจนเกือบถึงเข่า ถ้าไม่รีบมีหวังได้ตายจริงๆ แน่

 “แมรี่ ใช้หมัดจรวดเลย!” เจนย้ำอีกครั้ง

 “ทำยังไงล่ะ! ในเครื่องซิมมันไม่มีนะไอ้หมัดจรวดเนี่ย!” ฉันเริ่มลน มือกดไปบนหน้าจออย่างไร้จุดหมาย แต่เจนจับข้อมือของฉันไว้ “ใจเย็นๆ กดเข้าไปตรงนี้” เธอชี้ไปที่รูปหุ่นเล็กๆ ที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ พอกดเข้าไปมันก็ขยายออกมาให้เห็นอวัยวะต่างๆ ของสปาร์ก 

 “หมัดจรวดอยู่ที่แขนขวา กดใช้เลย” ฉันเอื้อมนิ้วที่สั่นระริกไปกดที่แขนขวา หน้าจออวัยวะของหุ่นหายไป เปลี่ยนเป็นหน้าจอให้เล็งเหมือนตอนที่ใช้ปืนใหญ่

 “น่าจะทำให้สลับอาวุธง่ายๆ เหมือนอาวุธอย่างอื่น” ฉันบ่นทั้งที่ยังคงตื่นเต้น แกนกลางของอสูรในหน้าจอสั่นไหวไปมาทำให้ล็อกเป้าได้ลำบาก ยังไม่นับว่าในหน้าจอค่อนข้างมืดจนแทบมองไม่เห็น

 “ระบบอวัยวะนี่แหละที่ทำให้สปาร์กแตกต่างจากหุ่นตัวอื่น แต่ไว้ค่อยอธิบายทีหลัง” เจนรู้กาลเทศะพอที่จะไม่พูดเรื่องเครื่องยนต์กลไกที่เธอชอบมากที่สุดในตอนที่สถานการณ์คับขัน เธอเงียบปล่อยให้ฉันได้ใช้สมาธิกับการล็อกเป้าเต็มที่ ใช้เวลาไปไม่กี่วินาทีแต่ฉันรู้สึกว่ามันยาวนานเหลือเกิน แต่ในที่สุดก็ล็อกเป้าจนสำเร็จ

 “อย่าดิ้นไปไหนอีกก็แล้วกัน!” ฉันเหนี่ยวไกที่ก้านบังคับ หมัดจรวดที่อัดพลังงานทั้งหมดของสปาร์กเข้าไปพุ่งตรงเข้าไปหาแกนกลางของอสูร ถ้าหากทำลายมันไม่สำเร็จก็จะไม่เหลือพลังงานให้หนีอีกแล้ว

 เคร้ง เสียงเหมือนโลหะกระทบกัน ฉันยิงโดน!

 แต่ทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยล่ะ หรือว่าพลังทำลายยังไม่พอ

 “ใจเย็นๆ แมรี่” ใครจะเย็นได้ล่ะแม่คุณ

 ทันใดนั้นหน้าจอที่เกือบจะมืดสนิทก็มีแสงสว่างขึ้น แกนกลางของอสูรนั่นเอง มันสว่างขึ้น และสว่างขึ้นเรื่อยๆ

 “ฉันว่ามันกำลังจะระเบิด!”

 “หมายความว่าฆ่ามันได้แต่พวกเราก็จะตายเพราะแรงระเบิดอยู่ดีเหรอ!”

 “ไม่ตายหรอกน่า หมอบลงเร็ว!”

 เจนผลักฉันนอนลงบนพื้นด้านหน้าที่นั่งนักบินที่ยังเต็มไปด้วยเมือกจากตัวอสูร ตัวเธอเองนอนทับฉันไว้ แขนทั้งสองข้างโอบกอดฉันไว้แน่น ฉันก็กอดเธอแน่นเหมือนกันด้วยความกลัวและตื่นเต้น

 แสงจากแกนกลางของอสูรสว่างจ้าจนมองไม่เห็นอะไร ตามมาด้วยเสียงระเบิดดังลั่น สปาร์กกระเด็นออกมาจากร่างของมัน เมือกอสูรสีม่วงคล้ำกระจัดกระจายไปทั่ว พวกเราลอยขึ้นสูงเหมือนนกบิน เจนนิเฟอร์เอื้อมมือไปกดอะไรบนหน้าจอ

 “ระบบเซฟตี้จะเหลือพลังงานไว้ 10% เสมอเพื่อความปลอดภัย” นางบอก ทรัสเตอร์ที่เท้าสปาร์กทำงาน ช่วยให้เราตกถึงพื้นช้าลง แต่ไม่นานนักเราก็เกือบถึงพื้น

 “แย่หน่อยนะ พลังงานจากระบบเซฟตี้ไม่พอ” เจนพูดเมื่อไฟทุกดวงของสปาร์กดับลง พวกเราตกลงมาจากความสูงประมาณยอดไม้ สะบักสะบอมไปหมด

“เราต้องรีบออกไป ไม่งั้นกรดเมือกจะกัดเอา”

“จริงด้วย ฉันก็เริ่มแสบแล้ว”

ประตูห้องโดยสารเปิดออกพร้อมกับเมือกที่ไหลทะลักออกมา และคนสองคนที่เสื้อผ้าเปื่อยไปบ้าง เพราะโดนกรดกัด บางส่วนขาดออก ผิวหนังส่วนที่โดนกรดก็รู้สึกแสบ แต่โดยรวมก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก

“แลัวจะทำยังไงต่อ สปาร์กไม่มีพลังงานแล้ว อสูรยังเหลืออีกสองตัวไม่ใช่เหรอ” 

“หนี เราต้องหนี” เจนตอบ แต่ทั้งที่เธอเป็นคนพูด แต่ช่างเครื่องของฉันก็ไม่ได้ก้าวเท้าเลยแม้แต่ก้าวเดียว! เพราะอสูรงูและลิงอยู่ตรงหน้า!

“วิ่ง!” ฉันตะโกนลั่น ฉวยข้อมือของเจนแล้วออกวิ่งสุดแรงเกิด