อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง

Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว - 10 แผนกินเนื้อ โดย ราชาวาฬ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว โดย ราชาวาฬ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง

ผู้แต่ง

ราชาวาฬ

เรื่องย่อ

แม้พวกอสูรจะพ่ายแพ้กลับไป ทว่าอารยธรรมของมนุษย์ทั้งหมดก็ถูกทำลาย เหล่าผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในกลุ่มเล็กๆ กระจัดกระจายกันอยู่ไม่กี่สิบกลุ่มทั่วโลก

แมรี่ เด็กสาวจากกลุ่มอื่นที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เธอถูกอสูรไล่ล่า ดีที่ได้ เจนนิเฟอร์ ยัยเนิร์ดบ้าเครื่องจักรขับหุ่นยนต์มาช่วยไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการต่อสู้และความรักของทั้งสอง

 

นิยายเรื่องใหม่ของราชาวาฬ ลงวันเว้นวันตอนหกโมงเย็น!

สารบัญ

Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-0 บทนำ : ผู้ปกป้อง,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-1 บทที่ 1 : วิชาหุ่นยนต์,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-2 บทที่ 2 : สปาร์ก,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-3 เครื่องซิม,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-4 แมรี่ ไอออนฮาร์ท สปาร์ก อิคิมัส!,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-5 อสูรเมือก,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-6 อาคารร้าง,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-7 ดาบสะบั้นเศียร,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-8 โซเมน,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-9 การประชุมผู้บริหาร,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-10 แผนกินเนื้อ,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-โปรไฟล์อสูร 01 อสูรงู,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-11 กล่องดำ,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-12 บุรุษปริศนา,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-13 แมรี่ของฉัน,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-14 คราวหน้าขอไรเฟิลนะเจน!,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-15 ชิลลี่กับเป็บเปอร์,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-16 ระบบไฮบริด,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-17 แผนกคหกรรม,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-18 ลองไรเฟิล,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-19 หุ่นยนต์ปริศนา,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-20 HOPE System,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-โปรไฟล์อสูร 02 อสูรลิง,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-บทคั่น สูญสิ้น,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-21 เครื่องบินกระดาษ,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-22 จดหมายของแคทเธอรีน,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-23 ผู้ถอดรหัส,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-24 จูบแรก,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-25 โอวี่,Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาว-26 ผู้ปกป้องทั้งห้า

เนื้อหา

10 แผนกินเนื้อ

 

 “สวัสดีครับ ผมโอวี่ ‘อสูรรายสัปดาห์’ วันนี้อยากจะขอแสดงความยินดีที่ได้ทราบข่าวว่ากลุ่ม 16 ได้ซ่อมแซมหุ่นรบสมัยสงครามได้หนึ่งตัว แต่ถึงแม้จะมีแค่ตัวเดียวก็ไม่ใช่หุ่นยนต์ธรรมดานะครับ เพราะจากข่าวกรองที่ผมได้มา หุ่นยนต์ตัวนี้ หรือชื่อเล่นของมันคือเจ้า “สปาร์ก” เป็นหุ่นรบประสิทธิภาพสูงที่สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ตามการใช้งาน ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่หุ่นยนต์รบทั่วไปไม่ได้เป็นแบบนี้นะครับ อาจจะมีแค่เจ้าสปาร์กตัวนี้ตัวเดียวบนโลกก็ได้ที่เปลี่ยนชิ้นส่วนได้อย่างอิสระ ก็หวังว่าทางกลุ่ม 16 และกลุ่มอื่นๆ จะเร่งสร้างหุ่นยนต์ออกมาเพื่อต่อกรกับอสูรที่นับวันจะมีจำนวนและความร้ายกาจมากขึ้นทุกที”

 “มาเข้าหัวข้อของเราในวันนี้กันเลยดีกว่า อยากจะพูดถึงอสูรเทียร์สูงที่หนีไปได้ก่อนสงครามครั้งที่แล้วสิ้นสุด เจ้านี่มีโค้ดเนมว่า “ลูซิเฟอร์” นอกจากสติปัญญาที่ดีกว่าอสูรทั่วๆ ไปเป็นอย่างมากแล้ว ลูซิเฟอร์ยังมีพลังทำลายมหาศาล เคลื่อนที่ได้รวดเร็ว รวมถึงบินได้ โดยเฉพาะเมื่อมันงอกปีกสีดำที่กลางหลัง ลูซิเฟอร์จะปล่อยคลื่นทำลายล้างออกมารอบกาย ทำให้ไม่มีผู้ใดเข้าใกล้มันได้ และอาวุธคู่กายของมัน หอก “ลองกินุส” นั้นก็มีอานุภาพขนาดที่ว่าทำลายเมืองๆ หนึ่งได้ในเวลาไม่กี่วินาที กรุงโตเกียว ฐานที่มั่นสุดท้ายของชาวญี่ปุ่นในตอนนั้นก็ถูกทำลายไปเพราะหอกนี้ครับ”

 “หลังจากที่มนุษยชาติทำลายกองกำลังส่วนใหญ่ของอสูรในตอนนั้นได้สำเร็จ เอซไพลอตหรือพลขับฝีมือดีที่จนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครทราบชื่อก็ได้ขับหุ่นยนต์ที่มีความสามารถคล้ายกับตัวที่กลุ่ม 16 ซ่อมได้ไปต่อกรร่วมกับกองทัพพันธมิตร แต่ก็ยังสังหารมันไม่ได้ ลูซิเฟอร์หนีเข้าไปในรอยแยก แต่พวกเราก็คิดว่าฝ่ายมนุษย์ชนะสงครามแล้วเพราะเรากำจัดอสูรไปมหาศาล จนวันนี้ที่ดูเหมือนว่าเราจะคิดผิดครับ”

 “เอาล่ะครับ ‘อสูรรายสัปดาห์’ ก็ขอลาคุณไปเพียงเท่านี้ หวังว่าทุกคนจะปลอดภัยครับ”

 

 …………….

 

 “ทำไมไม่ฟังที่ห้องตัวเองเนี่ย” ฉันบ่นช่างเครื่องผมบลอนด์ที่นอนคว่ำเท้าชี้ฟ้าอยู่บนเตียง ยังดีที่เธอเปิดพอดแคสต์ไม่ดังจนไปรบกวนคนข้างห้อง

 “อ้าว ก็อยากให้ฟังด้วยกันไง พวกเราต้องต่อสู้กับอสูรก็ควรจะฟังเอาไว้” เจนให้เหตุผล ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็จริง แต่ข้อมูลจากพอดแคสต์บ้านๆ อย่างนี้จะเชื่อถือได้สักแค่ไหนกัน

 “ว่าแต่เธอคิดยังไงกับการประชุมวันนี้” ฉันพยายามเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เนิร์ดหุ่นยนต์จะอธิบายอะไรให้ฟังยาวเหยียด

 “ก็ไม่ผิดคาดหรอกนะ แต่ฉันนึกว่าพวกเราจะถูกทำโทษที่เอาสปาร์กออกไปโดยพลการ” เจนทำท่าครุ่นคิด จะว่าไปก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย อาจจะเป็นเพราะทุกคนไหลไปตามคุณควาเมก็ได้ เขาเป็นคนที่ชี้นำการสนทนาได้เก่งจริงๆ

 “มันคงเป็นเหตุสุดวิสัยน่ะ กฎก็คงมีข้อยกเว้นได้บ้างล่ะมั้ง” ฉันเดา อสูรสามตัวนั้นร้ายกาจมาก ถ้าพวกเราไม่ออกไปต่อสู้ ถึงบังเกอร์ของที่นี่จะแข็งแรงแต่มีแค่ป้อมปืนไม่กี่อันก็ไม่น่าจะต่อกรกับพวกมันได้ “เดี๋ยวพอพวกเขารวบรวมอะไหล่มาได้ เธอกับอาจารย์ทาคุมิก็ต้องทำงานหนัก มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้บ้างไหม” จำได้ว่าแค่ซ่อมสปาร์กตัวเดียวก็ต้องเสียเวลาเป็นเดือนๆ แล้ว นี่จะต้องสร้างหุ่นขึ้นมาใหม่ทั้งตัว แถมมีคนทำเป็นอยู่แค่สองคน

 “แค่มีเธออยู่ข้างๆ ก็ช่วยได้มากแล้วล่ะ” เจนนิเฟอร์พูดพร้อมกับสบตากับฉัน ฉันรู้สึกแปลกๆ ในใจจนต้องหลบตา

 “มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ” ฉันตอบ รู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าและหัวใจก็เต้นเร็ว อาจจะเป็นเพราะวันนี้เหนื่อยกันมามากแล้วก็ได้ “เอางี้ ให้ฉันทำอะไรไว้ให้กินไหม เห็นแบบนี้ฉันก็เคยเรียนคหกรรมมานะ พวกอาหารกับเครื่องดื่มง่ายๆ ก็มั่นใจอยู่”

“จริงเหรอแมรี่! เธอเก่งมากเลย!” เจนกระโจนเข้ามากอด ฉันพยายามแกะแขนของเธอพอเป็นพิธี “แล้วจะรอกินนะ”

“อื้อ เตรียมท้องรอได้เลย” ฉันว่า “คืนนี้ก็ดึกแล้ว เดี๋ยวฉันจะนอนแล้ว เธอกลับห้องไปก่อนได้ไหม”

“ให้ฉันนอนนี่เลยไม่ได้เหรอ มันไกลฉันขี้เกียจเดินกลับ” เจนส่งสายตาออดอ้อน

“ไม่ได้!” ฉันแกล้งทำเสียงแข็ง “ขอความเป็นส่วนตัวบ้างค่ะ” ฉันดันหลังเธอออกไป ถึงจะถูกเนื้อต้องตัวกันมาหลายครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มือของฉันได้สัมผัสกับแผ่นหลังของเธอ มันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ หัวใจที่กลับมาเต้นเป็นปกติเมื่อสักครู่เริ่มเต้นเร็วอีกครั้งแต่ฉันฝืนทำตัวเป็นปกติ

เจนผงกหัวอย่างเศร้าสร้อยแล้วเดินลากขาออกจากห้องไป “ฝันดีนะแมรี่ พรุ่งนี้เจอกัน”

“ฝันดีเหมือนกันนะ” ฉันตอบ ถึงจะไม่ค่อยมั่นใจเรื่องความฝันของตัวเองเท่าไหร่ ก่อนจะปิดไฟเพื่อเข้านอน

 

……………..

 

 วันรุ่งขึ้นฉันตื่นมาด้วยแววตาแบบคนอดนอนเพราะเสิร์ชหาสูตรอาหารในเน็ตทั้งคืน พูดจาอวดเก่งไปอย่างนั้นแต่ก็ร้างมือจากการทำอาหารไปนาน พอเอาเข้าจริงก็ไม่รู้จะทำอะไรให้สองคนนั้นกินดี สุดท้ายก็มาลงเอยที่สเต็กเนื้อเพราะน่าจะทำให้อร่อยได้ไม่ยาก

ปัญหาคือ… เนื้อที่มีขายในกลุ่มค่อนข้างจะราคาสูงทีเดียว

ถึงแม้ว่าเนื้อสัตว์ต่าง ๆ จะแพงเป็นปกติก็เถอะ แต่เนื้อวัวก็ถือว่าแพงที่สุด สงสัยจากที่จะทำอาหารให้กินทุกวัน ก็คงต้องทำเป็นมื้อพิเศษหลังจากงานเสร็จแทน แล้วในแต่ละวันก็ทำพวกเครื่องดื่มให้ความสดชื่นไป ถึงอย่างนั้นการทำสเต็กแค่มื้อเดียวลำพังแค่เงินค่าขนมที่ได้มาจากพ่อแม่ก็ไม่พอซื้อแล้ว แต่ฉันก็ไม่คิดจะออกทั้งหมดอยู่แล้วล่ะ เราเป็นคนใช้แรงงานทำอาหารให้แล้ว อีกสองคนนั้นช่วยควักกระเป๋าด้วยก็น่าจะเหมาะสมดี อีกอย่าง ถึงฉันจะไม่ได้ทำอาหารให้ ทุกคนก็ต้องใช้เงินซื้อมากินอยู่แล้วด้วย แถมยังมีเรื่องของตู้เย็นที่ต้องมีไว้แช่เนื้อ นั่นก็ต้องใช้บริการจากทาคุมิ

 วันนี้เจนนิเฟอร์ไม่ได้มาปลุก ฉันเป็นคนบอกเธอไว้เองว่าไม่ต้องปลุกทุกวันก็ได้ โดยเฉพาะวันที่เหนื่อยกันมากๆ เจนเองก็ต้องพักผ่อนเหมือนกัน โทรศัพท์ก็มีฟังก์ชันนาฬิกาปลุกอยู่แล้ว ไว้วันไหนที่นอนพักผ่อนเพียงพอแล้วอยากจะปลุกก็ค่อยมาปลุกก็ได้ ฉันออกจากห้องแล้วไปแวะซื้อโคล่าไปให้สองคนนั้นที่ตู้ขายของอัตโนมัติ ระหว่างที่หยิบกระป๋องแรกขึ้นมาฉันเผลอทำมันตก จังหวะที่หยิบกระป๋องที่พื้น ฉันได้สบตากับเขา

 “คุณควาเม…” ฉันทักทายเขาตามมารยาท แววตาของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนหนูที่ถูกแมวจับได้ เพิ่งสังเกตว่าควาเมไม่ได้ผิวคล้ำมากเหมือนคนแอฟริกาที่มีอยู่ในกลุ่มนี้อยู่บ้าง แต่ผิวของเขาดูจะเป็นสีแทนมากกว่า เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะเป็นลูกครึ่ง

 “ไง” หัวหน้า รปภ. ร่างสูงใหญ่ทักตอบพลางกดเลือกเครื่องดื่ม เขาเลือกกาแฟ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่แพงที่สุดในตู้ “เอาเครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหม ผมเลี้ยง” ไม่ฟังคำตอบ เขากดเลือกน้ำเกลือแร่ให้ฉันทันที “งดน้ำอัดลมได้ก็ดีนะครับ มันไม่ดีต่อสุขภาพ” รอยยิ้มนั้นดูทรงพลังจนฉันเผลอถอยหลังมาชิดผนังตู้โดยไม่รู้ตัว ยกมือขึ้นมารับขวดเครื่องดื่มอย่างว่าง่าย

  “ขอบคุณค่ะ” ฉันพึมพำ ก้มหน้าหลบสายตาคมกริบของเขา ก่อนจะกดซื้อโคล่าอีกกระป๋องแล้วรีบปลีกตัวออกมาทันที อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้แล้วรู้สึกอึดอัดแปลกๆ ไม่ชอบเลย

 เมื่อถึงเวิร์กช็อป ฉันเห็นหุ่นยนต์สองตัว ตัวแรกคือสปาร์กที่ได้รับการล้างและขัดจนดูเหมือนใหม่ กับสปาร์กทูที่ยังมีสภาพเหมือนตอนที่เราเจอมัน ดาบสะบั้นเศียรถูกเก็บอยู่ที่ผนัง ฉันเห็นมันแล้วยังตื่นเต้นไม่หาย

 “มาแล้วเหรอแมรี่!” เจนรีบผละจากงานที่ทำอยู่เข้ามาหา เป็นคนไทป์หมาสินะ ฉันยื่นกระป๋องโคล่าให้ “ซื้อมาฝาก กินสิเดี๋ยวมันหายเย็น” ช่างเครื่องผมบลอนด์คว้าโคล่าไปดื่มอย่างรวดเร็ว แล้วรีบอวดให้ฉันดูสปาร์ก

 “ดูสิแมรี่ ฉันล้างขัดเหมือนใหม่เลย คอมปาวด์ยี่ห้อนี้ดีมาก ขัดแล้วเงาวับแทบจะใช้แทนกระจกได้เลย!” เธอว่าพร้อมกับจูงกึ่งลากฉันให้ไปส่องภาพสะท้อนจากสปาร์ก อืม เงาจริงๆ แหละ ฉันชมไปแบบแกนๆ ก่อนจะถามถึงทาคุมิ

 “อ๋อ ออกไปหาอุปกรณ์น่ะ สปาร์กทูมันเก่าจนถอดชิ้นส่วนลำบาก” นี่คงเป็นเหตุผลที่มันยังอยู่ในสภาพเดิมสินะ

 “เออนี่ เรื่องทำอาหารน่ะ” ฉันสรุปไอเดียให้เจนฟังคร่าวๆ ปฏิกิริยาของเธอไม่ผิดจากที่คิดเลย ตาลุกวาว “เนื้อเหรอ เนื้อ!”

 “ยังไม่ต้องน้ำลายไหลก็ได้ ยังไม่ได้ทำวันนี้ แล้วต้องปรึกษาทาคุมิอีกคนด้วย”

 “อื้มๆ เนื้อ!” พยักหน้าเหมือนเข้าใจแต่ในหัวคงจะเห็นแต่ภาพเนื้อสินะ ระหว่างนี้ทาคุมิเดินเข้ามาแล้ว เขาสะพายถังฉีดสารเคมีมาด้วย

 “ทั้งสองคนเดี๋ยวออกไปก่อน ผมจะฉีดสารละลายสนิม มันอันตราย” ทาคุมิว่า เขาถือหน้ากากป้องกันสารเคมีในมือข้างหนึ่ง ฉันเอาโคล่าไปให้ “อาจารย์ดื่มก่อนสิคะจะได้สดชื่น”

 “ขอบใจมาก” เขาว่าก่อนจะจิบโคล่าไปเล็กน้อย “สภาพแบบนี้นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าพวกคุณจะใช้มันฆ่าอสูรได้ตั้งสองตัว นี่ผมยังไม่รู้เลยว่าเอาสนิมออกหมดแล้วจะเหลือชิ้นส่วนอะไรให้ใช้ได้บ้าง” ฉันมองไปที่สปาร์กทูที่สภาพทรุดโทรม อันที่จริงฉันถือวิสาสะไปตั้งชื่อมันว่า “ทู” แต่ถ้าเดาจากสภาพของมัน ไม่แน่ว่าสมัยตอนยังเป็นของปีเตอร์ เลอกู้ด เขาอาจจะใช้มันมาก่อนสปาร์กก็ได้ ทั้งความเก่า ทั้งเทคโนโลยีการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สปาร์กทูไม่มี มีเพียงการขับเคลื่อนแบบพื้นฐานเท่านั้น

 “ไปกันเถอะเจน” ฉันคว้าข้อมือเจนออกไปรอให้อาจารย์ทาคุมิฉีดสารละลายสนิมอย่างเงียบๆ

 สองชั่วโมงผ่านไปทาคุมิก็ออกมา เขายังสวมหน้ากากป้องกันสารเคมีอยู่ ในมือของเขามีวัตถุเล็กๆ รูปร่างลูกบาศก์สีส้มอยู่ด้วย ฉันเพียงสงสัยว่ามันคืออะไร แต่แววตาของเจนนิเฟอร์เบิกกว้างอย่างตื่นเต้น

 “มันคืออะไรเหรอ” ฉันอดถามไม่ได้

 “มันคือกล่องดำ เอาไว้บันทึกข้อมูลการขับ ปกติฮาร์ดดิสก์ของกล่องดำช่วงสงครามจะเสื่อมไปแล้วทำให้อ่านข้อมูลในนั้นไม่ได้ เรามักจะทิ้งมัน แม้แต่กล่องดำของเจ้าสปาร์ก”

 “แต่การที่ทาคุมิถือมันออกมาก็แปลว่า…”

 “ใช่แมรี่ ข้อมูลในนั้นอาจจะอ่านได้”

 ด้วยความที่ปีเตอร์ เลอกู้ด เคยขับหุ่นยนต์ตัวนี้ ฉันจึงเข้าใจเหตุผลที่แววตาของเจนนิเฟอร์เต็มไปด้วยความหวังและความตื่นเต้น จนต้องเก็บคำถามที่ว่ากล่องนี้สีส้ม แต่ทำไมเรียกว่ากล่องดำ เอาไว้ในใจก่อน