อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
ไซไฟ,sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาวอารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
แม้พวกอสูรจะพ่ายแพ้กลับไป ทว่าอารยธรรมของมนุษย์ทั้งหมดก็ถูกทำลาย เหล่าผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในกลุ่มเล็กๆ กระจัดกระจายกันอยู่ไม่กี่สิบกลุ่มทั่วโลก
แมรี่ เด็กสาวจากกลุ่มอื่นที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เธอถูกอสูรไล่ล่า ดีที่ได้ เจนนิเฟอร์ ยัยเนิร์ดบ้าเครื่องจักรขับหุ่นยนต์มาช่วยไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการต่อสู้และความรักของทั้งสอง
นิยายเรื่องใหม่ของราชาวาฬ ลงวันเว้นวันตอนหกโมงเย็น!
ชิลลี่กับเป็บเปอร์ช่วยกันเปิดประตูเหล็กหนาหนักนั้นขึ้น มันเป็นประตูบานใหญ่กว่ามนุษย์มาก คล้ายว่าสร้างขึ้นเพื่อให้หุ่นยนต์เข้าออกได้ กลไกที่เคยใช้เปิดพังไปตามกาลเวลา ถ้าพื้นที่ข้างบนเคยเป็นฐานทัพของ Protector นี่ก็คือส่วนใต้ดินที่แข็งแรงยิ่งกว่า อาจจะไว้ใช้ปกป้องสิ่งที่สำคัญมากกว่า
แสงไฟจากหุ่นยนต์ทั้งสองช่วยนำทาง อันที่จริงที่ใต้ดินนั้นก็ไม่ได้มืดสนิทเสียทีเดียว มันยังมีแสงลอดลงมาได้รำไร
“ดูนั่น” เจนนิเฟอร์ชี้ไปเบื้องหน้า ฉันมองตามมือของเธอไป ภาพที่ได้เห็นคือสุสานเล็กๆ ที่ไม่ปราณีตนัก ดูเหมือนจะใช้แรงงานคนสร้างขึ้น มีแท่งไม้ผูกกันเป็นรูปไม้กางเขนอย่างง่ายๆ ตามหลุมต่างๆ แม้กระนั้น หลุมฝังศพของพวกเขาก็ดูเรียบร้อยและสะอาดราวกับว่ามีคนคอยดูแลอยู่เสมอ
แล้วสายตาของฉันก็ไปหยุดอยู่ที่หลุมศพหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าผู้ขุดหลุมนี้จะตั้งใจมากกว่าหลุมอื่นๆ เขาหรือเธอคนนี้มีแผ่นป้ายหลุมศพหินที่สลักชื่อไว้
[ไซโต เนซึโกะ]
[จดจำเธอไว้ตลอดไป]
ด้านหน้าป้ายหลุมศพมีฮิกังบานะขึ้นอยู่… ที่ใต้ดินนี้แตกต่างจากข้างบนตรงที่ไม่มีพืชอะไรขึ้นอยู่เลย แต่มีเพียงตรงนี้เท่านั้น ที่ที่แสงส่องลอดลงมาเพียงพอให้ดอกไม้นี้ขึ้นได้
คนๆ นี้คงมีความสำคัญกับเจ้าของหุ่นตัวนั้นสินะ
ฉันคุกเข่าลงมองหาเบาะแสเพิ่มเติม ใช้แสงไฟจากโทรศัพท์ช่วย แล้วก็มีแสงสะท้อนจากสิ่งหนึ่ง
นั่นคือกล่องไม้ที่มีขอบโลหะ มันถูกฝังอยู่ตื้นๆ ใกล้ป้ายหลุมศพ อะไรบางอย่างทำให้มีบางส่วนโผล่พ้นผืนดิน ฉันหยิบมันขึ้นมา ใช้มือปัดเศษดินที่ติดอยู่ออก และเปิดกล่องนั้นออกดู
เครื่องบินกระดาษ…
เครื่องบินกระดาษหลายสิบลำอัดแน่นอยู่ภายในกล่องนั้น ฉันเห็นตัวอักษรที่ดูคล้ายกับข้อความเป็นภาษาญี่ปุ่น บางแผ่นเขียนด้วยลายมือโย้เย้ของเด็ก ไม่แน่เครื่องบินพวกนี้อาจจะเป็นจดหมายก็ได้ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะเปิดแอปแปลภาษา แต่แล้วกลับเปลี่ยนใจ ให้เจ้าของภาษามาอ่านเลยคงจะดีกว่า
“อาจารย์คะ”
ฉันหันไปเรียก ทาคุมิกำลังสำรวจอยู่ที่แท่นจอดหุ่นยนต์คล้ายกับที่เราเคยพบที่อาคารร้าง แต่ดูจะมีเครื่องมือที่ซับซ้อนกว่ามากอยู่ข้างๆ เขากับเจนนิเฟอร์ใช้สมาธิกับเครื่องมือเหล่านั้นอย่างมากจนฉันต้องเรียกหลายครั้ง
“...ไม่แน่ว่าที่นี่อาจจะเป็นที่สร้างสปาร์กก็ได้” ดูเหมือนเขาจะพึมพำกับตัวเองก่อนที่เสียงของฉันจะปลุกเขาออกจากภวังค์ “...มีอะไรเหรอแมรี่”
“อยากให้อาจารย์มาอ่านหน่อยค่ะ” ฉันชี้ไปที่เครื่องบินกระดาษในกล่อง เอาเข้าจริงฉันก็รู้สึกแปลกๆ หากจะต้องไปแตะต้องของสำคัญของคนอื่น และดูเหมือนจะเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างมากด้วย อาจารย์ทาคุมิหันไปพูดอะไรบางอย่างกับเจนนิเฟอร์ คงฝากให้ช่วยดูอุปกรณ์ต่อ ก่อนจะเดินมา
“เครื่องบินกระดาษเหรอ” ทาคุมิพูดก่อนจะหยิบขึ้นมาลำหนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนที่จะโค้งคำนับให้กับหลุมศพนั้น ฉันทำตาม แล้วเขาก็คลี่เครื่องบินกระดาษลำนั้นออก
สวัสดีควาเม
วันนี้คุณพ่อรื้อการ์ตูนเรื่องใหม่มาให้อ่านล่ะ เป็นเรื่องของเด็กผู้ชายคนนึงที่อยู่กับปิศาจที่หน้าตาเหมือนลูกหมาแต่มีเลื่อยไฟฟ้าแทนจมูก! สนุกมากๆ เลย แต่ควาเมต้องทำแบบฝึกหัดที่ฉันให้ก่อนนะ ไม่งั้นอ่านไม่รู้เรื่องแน่
ไว้จะเขียนมาใหม่นะ
เนซึโกะ
“เนซึโกะคนนี้เป็นเพื่อนกับควาเม งั้นที่เดาว่าควาเมหลอกพวกเธอมาที่นี่ก็ยิ่งมีน้ำหนัก” น้ำเสียงของทาคุมิฟังดูเคร่งเครียดเหมือนทุกครั้งที่เขาพูดถึงเรื่องนี้ “ผมว่าจะลองอ่านจดหมายพวกนี้อีกสักหน่อยเผื่อว่าจะได้ข้อมูลอะไรมากขึ้น”
เนซึโกะ
วันนี้อสูรบุกหมู่บ้าน ลุงโจเกือบหนีมาที่ฐานใต้ดินไม่ทัน แกถูกพวกมันทำร้ายนิดหน่อยด้วยแต่ไม่เป็นอะไรมาก ที่แย่คือพูดว่าคนญี่ปุ่นอีกแล้ว บอกว่าดอกไม้ของคนญี่ปุ่นอัปมงคลเรียกความตาย กับย้ำกับฉันทุกวันว่าไม่ให้ไปเจอเธออีก
อยากเล่นกับเธอ
ควาเม
ถึงควาเม
มีคนบ้ามาด่าที่หน้าบ้าน ฉันไม่กลัวพวกมันหรอก แต่น่าเสียดายดอกฮิกังบานะที่โดนเด็ดไปน่ะสิ โดนกระทืบด้วย คุณพ่อไม่ให้ฉันออกไปช่วยทำความสะอาด ฉันเห็นเหมือนท่านจะร้องไห้เลย
เนซึโกะ
เนซึโกะ
พวกอสูรมาบ่อยขึ้นทุกที เธอกับคุณพ่อต้องระวังตัวนะ
ควาเม
หลังจากจดหมายอีกหลายฉบับผ่านไป ใจความส่วนใหญ่เป็นการนัดกันเล่นและเรื่องสัพเพเหระของเด็กสองคน มีเรื่องอสูรบ้างประปราย กับเรื่องชาวบ้านชอบมาเหยียดพวกเนซึโกะ แต่ก็ยังไม่มีอะไรร้ายแรง
“อาจารย์ ฉันว่าพอได้แล้วมั้งคะ เราได้รู้ว่าเนซึโกะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของควาเม และการที่เขาฝังศพให้อย่างดีก็แสดงว่าเธอน่าจะเป็นคนสำคัญของเขา จดหมายพวกนี้ก็ไม่ได้บอกอะไรไปมากกว่านั้น เรายังไม่รู้เลยว่าทำไมควาเมถึงหลอกเรามาที่นี่ และมีเบาะแสไปถึงพวกปีเตอร์หรือเปล่า”
“จริงนะ ผมจะได้ไปเช็คอุปกรณ์ต่อ ทางนั้นน่าจะมีเบาะแสถึงปีเตอร์แน่ๆ มีเอกสารกระดาษที่มีชื่อของปีเตอร์ด้วย เจนนิเฟอร์กำลังเช็คอยู่” ทาคุมิพับกระดาษเป็นเครื่องบินอีกครั้ง ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่าจดหมายทุกฉบับที่เขาอ่านให้ฟัง ทาคุมิพับเป็นเครื่องบินอย่างเดิมก่อนจะเก็บลงกล่อง เขาให้ความเคารพกับผู้ตายจริงๆ
“...นั่นเป็นเพราะจดหมายฉบับที่สำคัญที่สุด เป็นฉบับที่ส่งไม่ถึงยังไงล่ะ” เสียงนั้นดังพร้อมกับเครื่องบินกระดาษอีกลำหนึ่งที่ลอยมาสัมผัสฉันเบาๆ ก่อนที่จะร่วงลงสู่พื้นดิน ฉันมองไปยังที่มาของเสียง ได้พบกับอดีตหัวหน้า รปภ. ผิวสี อารมณ์หลายอย่างปะปนกันในสีหน้าของเขา คนๆ นี้นำอดีตของตนกลบฝังไว้ที่นี่ แต่เขากลับต้องการให้พวกเรารับรู้… แต่ว่าอยากจะฆ่าพวกเราด้วยงั้นเหรอ
“ควาเม!” ฉันร้อง มองไปทางเจนนิเฟอร์ แต่ดูเหมือนเธอจะมีสมาธิกับพวกเครื่องยนต์กลไกเป็นอย่างมาก ทาคุมิออกมายืนขวางไว้ กางแขนทั้งสองออก
“ควาเม ฉันขอล่ะ อย่าทำอะไรสองคนนี้เลย พวกเธอยังเด็ก”
ควาเมยืนอยู่ไม่ห่าง ข้างกายของเขาเป็นอสูรงูที่ถูกล่ามอีกสองตัว เป็นอันว่าเขาคือคนร้ายแน่แล้วสินะ ดูเหมือนอาจารย์ของฉันจะสั่นนิดๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอสูรสองตัว แต่เขาก็เลือกที่จะปกป้องพวกฉัน
“แหมๆ อะไรกัน คนรู้จักกันไม่ต้องทำอย่างนี้ก็ได้” หมอนั่นยังยิ้มกวนประสาทแบบที่เขาชอบทำ ก่อนที่จะชี้นิ้วมาที่จดหมาย “ก่อนอื่นก็อ่านมันซะก่อนสิ”
ทาคุมิก้มลงหยิบเครื่องบินกระดาษที่พื้นแล้วคลี่มันออกอ่านช้าๆ
เนซึโกะ
ฉันเกลียดพวกมัน ทั้งพวกอสูรที่มันเอาแม่ ลุงโจ เธอ กับทุกๆ คนไป แต่ที่เกลียดกว่านั้นคือปีเตอร์ เลอกู้ด กับหน่วย Protector ของพวกมัน ที่บอกว่าจะปกป้องคุ้มครอง แต่สุดท้ายก็โกหกทั้งนั้น
หุ่นยนต์แห่งความหวังอะไรกัน มันคือความสิ้นหวังซะมากกว่า
คอยดูนะ ฉันจะทำให้พวกมันได้ลิ้มรสความสิ้นหวังดูบ้าง
ฉันเกลียดเธอด้วย ทำไมเธอถึงไม่ให้ฉันอยู่ด้วย รู้หรือเปล่าว่าฉันต้องอยู่คนเดียว
ควาเม
ทาคุมิค่อยๆ วางจดหมายนั้นลง แล้วมองไปที่ควาเม แม้แต่ฉันที่เกิดไม่ทันช่วงสงครามยังรู้สึกสงสารเขาขึ้นมา นับประสาอะไรกับคนที่เคยผ่านช่วงเวลาเดียวกัน
“เห็นไหมว่าหุ่นยนต์ที่พวกแกภาคภูมิใจกันนักหนา ความจริงมันก็แค่คำโกหก! ความหวังอะไรกัน มันไม่มีจริงหรอก!” ควาเมชี้หน้าพวกเรา ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “ฉันน่าจะทำลายไอ้หุ่นของปีเตอร์ก่อนหน้านี้ ดันปล่อยเอาไว้ได้ ไม่นึกว่าจะมีคนไปซ่อมมันขึ้นมาอีก! เห็นเป็นแค่เด็กผู้หญิง ก็เลยส่งอสูรงูไปตัวเดียว ดันรอดมาได้อีก ฮ่าๆๆๆๆ!” มันหัวเราะอย่างวิกลจริต “เห็นว่านามสกุลเลอกู้ดด้วยนี่ จะเกี่ยวข้องกับปีเตอร์หรือเปล่าไม่รู้แหละ แต่แค่เห็นว่าแกนามสกุลนี้ ฉันก็เกลียดแกแล้ว!”
“รู้อะไรไหม พวกแกรอดมาได้ก็ดี! จะได้รู้ว่าไปปลุกของที่ไม่ควรจะปลุกแล้วจะต้องเจอกับอะไร! รู้ความจริงแล้วก็รีบตายๆ ไปซะ!” ชายหนุ่มผิวสีคล้ำชี้นิ้วมาเบื้องหน้า พลางสั่งอสูรงูทั้งสองให้เข้าโจมตี
“ชิลลี่ เป็บเปอร์ คุ้มกันด้วย!” ทาคุมิรีบส่งสัญญาณไปยังฝาแฝด พวกเขาเข้าคุ้มกันได้ทันท่วงที
“ไอ้หุ่นกระป๋องสองตัวนี้มันจะทำอะไรได้!” ควาเมวิ่งไปขึ้นขับหุ่นยนต์ของเขาที่อยู่ทางด้านหลัง แขนทั้งสองข้างของมันยังคงขาด แต่สิ่งที่ทำงานได้คือเขาอสูรที่อยู่ใจกลางร่างกาย มันเปล่งแสงสีแดงสว่างจ้า แล้วชิลลี่กับเป๊บเปอร์ก็หยุดการทำงาน
“เหมือนตอนนั้นเลย!” ฉันอุทาน “มีแต่ HOPE System ที่สู้กับมันได้ แต่พวกเราก็ทิ้งสปาร์กไว้ข้างบน เอ๊ะ เจนล่ะคะอาจารย์ เจนไปไหน” ฉันมองหาเจนนิเฟอร์ แต่เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว
โครม!
สปาร์กกระโดดลงมาที่พื้น โดยผู้ที่ขับมันคือเจนนิเฟอร์!