สามีที่ดีคือสามีใหม่แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ขอสามีเก่าเวอร์ชันอัปเกรด

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า - ตอนที่ 2 เราควรมาหย่ากันให้มันจบๆ ไป โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ย้อนยุค,จีน,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า ,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,นางเอกเก่ง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ย้อนยุค,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า ,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,นางเอกเก่ง

รายละเอียด

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

สามีที่ดีคือสามีใหม่แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ขอสามีเก่าเวอร์ชันอัปเกรด

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

เมื่อบังเอิญได้มีโอกาสตายจริงวิญญาณของนางสาวอิงเสวี่ย แซ่คังได้เข้าไปอยู่ในร่างของคนที่มีชื่อและแซ่เดียวกัน เกิดวันเดือนปีเดียวกัน เวลาตายก็ดันมาตายพร้อมกัน และก็ไม่รู้ว่าจะตกใจอะไรมากกว่ากันดีระหว่างเรื่องที่เจ้าของร่างนี้ยังไม่เคยได้ร่วมหอกับสามีหรือว่าการที่ท่านรองแม่ทัพถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏแผ่นดินนางจึงต้องถูกเนรเทศมาอยู่ชายแดนให้ร่วมรับผิดชอบร่วมกันในฐานะภรรยาแต่จะส่งให้มามีชีวิตใหม่ทั้งทีก็อยากจะมีชีวิตอยู่แบบสบายๆ กับเขาบ้างท่านเทพแห่งโชคชะตากลับให้กันไม่ได้ยังคุมโทนชีวิตตีนถีบปากกัดอยู่เช่นเดิม

แล้วชีวิตที่เหมือนจะดีขึ้นกลับได้มาวุ่นวายเหมือนตายวันแรกอีกครั้งเมื่อสองปีให้หลังสามีที่หายลับเข้ากลีบเมฆไปได้กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเป็นผู้บริสุทธิ์โดยไร้สิ้นซึ่งข้อกล่าวหาแต่การจะกลับมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายแม้ฝ่ายภรรยาจะยื่นข้อเสนอให้หย่าขาดแล้วต่างคนต่างก็ไปเริ่มชีวิตใหม่แต่สามีกลับยืนยัน นั่งยัน นอนยันและสู้สุดใจว่าถึงอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมหย่าขาดจากนางอย่างแน่นอนแล้วเช่นนี้คุณหนูอิงเสวี่ยจะเลือกอะไรได้

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 1 สายตาคู่นั้น,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 2 เราควรมาหย่ากันให้มันจบๆ ไป,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 3 ร่วมชายคา,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 4 ว่าด้วยเรื่องของการค้าขาย,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 5 ความไว้วางใจ,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 6 ร้านค้าที่ไม่กล้าฝันใฝ่,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 7 สำนักคุ้มภัยสกุลจิว,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 8 ได้เวลาย้ายบ้าน,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 9 การปรับตัวครั้งใหญ่ในฐานะฮูหยินจิว,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 10 สามีสายเปย์,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 11 ร้านขนมหวานละมุน ปลดเหรียญอ่านฟรี 27 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 3 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 12 ข้าวห่อเหนียวหน้าหมูเค็ม หมูหวาน ปลดเหรียญอ่านฟรี 28 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 4 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 13 ความสัมพันธ์อันดี ปลดเหรียญอ่านฟรี 28 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 4 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 14 รายได้เป็นกอบเป็นกำ ปลดเหรียญอ่านฟรี 30 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 6 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 15 กลยุทธ์การขาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 31 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 7 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 16 พร้อมหน้าพร้อมตา ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 8 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 17 ครอบครัวใหญ่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 2 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 9 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 18 ความสุขไม่มีวันหมดอายุ ปลดเหรียญอ่านฟรี 3 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 10 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 19 ปรับทัศนคติ ปลดเหรียญอ่านฟรี 4 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 11 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 20 ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งที่ตามหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 5 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 12 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 21 หน้าหนาวกำลังจะมาถึง ปลดเหรียญอ่านฟรี 5 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 12 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 22 ปุยหิมะที่แสนอบอุ่น ปลดเหรียญอ่านฟรี 7 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 14 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 23 วันพักผ่อน ปลดเหรียญอ่านฟรี 8 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 15 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 24 ร้านขายข้าวเหนียวห่อหน้าหมู ปลดเหรียญอ่านฟรี 9 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 16 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 25 อิ่มหมีพีมัน ปลดเหรียญอ่านฟรี 10 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 17 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 26 ร้านอาหารคลังเสบียง ปลดเหรียญอ่านฟรี 11 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 18 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 27 มีอาการ ปลดเหรียญอ่านฟรี 12 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 19 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 28 การตัดสินใจครั้งใหญ่ของสกุลคัง ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 20 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 29 เมื่อเจ้าก้อนแป้งลืมตาขึ้นมาดูโลก ปลดเหรียญอ่านฟรี 14 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 21 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 30 เติมเต็มความสุข (จบ) ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 22 เมษายน 68

เนื้อหา

ตอนที่ 2 เราควรมาหย่ากันให้มันจบๆ ไป

คังอิงเสวี่ยจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าถูกพากลับมายังเรือนตอนไหนรู้ตัวอีกทีก็มานั่งประจันหน้าอยู่กับสามีที่หายตัวไปเป็นเวลาร่วมสองปีและที่ผ่านมานางเองก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวเลยว่าเขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ความทรงจำระหว่างคังอิงเสวี่ยและจิวกังเป่าไม่ได้มีอะไรให้จดจำเลยนอกเสียจากเรื่องที่เขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้นางต้องห่างจากอ้อมอกบิดามารดาอีกทั้งยังถูกเนรเทศชั่วคราวให้มาอยู่ที่อำเภอเล็กๆ ในเมืองชายแดนแห่งนี้

จิวกังเป่าและคังอิงเสวี่ยได้พบกันครั้งแรกในวันแต่งงานของทั้งคู่โดยนางต้องแต่งให้ท่านรองแม่ทัพจิวเพราะท่านแม่ทัพใหญ่เป็นคนมาจัดการทาบทามสู่ขอนางให้กับเขาด้วยตนเองโดยอ้างว่าเห็นชายหนุ่มที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานานผูกพันกันจนไม่ต่างกับเป็นลูกหลานคนหนึ่งจึงอยากให้เขามีครอบครัวที่สมบูรณ์เสียทีหลังจากที่อยู่ตัวคนเดียวมานาน

แต่ชะตาของคังอิงเสวี่ยกลับอาภัพยิ่งนักแค่เพียงดื่มสุรามงคลกับสามีเสร็จสิ้นเขาก็ถูกตามตัวกลับไปรบเป็นการด่วนทำให้นางต้องกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่จวนของบิดาเป็นการชั่วคราวเกือบๆ หนึ่งเดือนและก็ไม่ได้กลับไปยังจวนรองแม่ทัพอีกเลยเหตุเพราะสามีของนางที่ไปรบนั้นกลับกลายเป็นนักโทษที่กำลังหลบหนีในข้อหากบฏต่อบ้านเมืองทำให้ภรรยาต้องถูกส่งตัวมาชายแดนจนกว่าสามีจะพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จึงจะมีสิทธิ์กลับไปเหยียบเมืองหลวงได้แต่ถ้าหากมิเป็นเช่นนั้นนางก็จะต้องถูกประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกันหากการไต่สวนสรุปผลออกมาว่าจิวกังเป่านั้นมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา

“เห็นหน้าสามีเหตุใดต้องทำท่าคล้ายกับเห็นผีสาง... อันที่จริงข้าก็คิดว่าตนเองนั้นก็พอจะรูปงามอยู่ไม่น้อยเลยนะฮูหยินหรือว่าเจ้าไม่คิดเช่นนั้น” นั่งให้ภรรยาจ้องหน้าอยู่นานจนเกิดอาการคันปากทำให้อดีตรองแม่ทัพอดใจไม่ไหวต้องกระเซ้านางเสียหน่อยแม้รู้อยู่เต็มอกว่ามันจะไม่ใช่เวลาแต่ก็ยังทำลงไปเผื่อว่าความตึงเครียดระหว่างเราทั้งคู่นั้นมันจะบรรเทาเบาบางลงไปได้บ้าง

“ท่านรองแม่ทัพโปรดหยุดเรียกข้าว่าฮูหยินก่อนเถิดเจ้าค่ะมันฟังแล้วคันหู การที่ท่านมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่แสดงว่าข้อกล่าวหานั้นตัดสินแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะถ้าเช่นนั้นท่านก็หย่ากับข้าได้แล้วสิ” คังอิงเสวี่ยคิดว่าตนเองไม่น่าจะเข้าใจผิดเพราะถ้าหากว่าเขาเป็นกบฏอย่างที่ถูกกล่าวหาจริงๆ คงไม่มีทางมาเดินเปิดเผยตัวตนอยู่ในอำเภอชายแดนเช่นนี้หรอกเพราะถึงมันจะกันดารแต่ก็ใช่จะห่างไกลจากหูตาของทางการเสียที่ไหนมองไปทางใดก็เห็นแต่ทหารที่กำลังทำหน้าที่เป็นรั้วป้องกันบ้านเมือง

“ฮูหยินก็หยุดเรียกข้าว่ารองแม่ทัพก่อนเพราะมันเป็นตำแหน่งในอดีตไปแล้วในตอนนี้ข้าเป็นเพียงจิวกังเป่า เป็นเพียงท่านพี่ เป็นเพียงสามีของเจ้าตำแหน่งทางทหารที่ไม่ต่างจากหน้ากากนั้นมันไม่มีอีกต่อไปแล้วเพราะข้าตัดสินใจลาออกจากกองทัพเพื่อออกมาใช้ชีวิตครอบครัวช่วยฮูหยินทำมาหากิน”

เมื่อเขาเอาแต่พูดเองเออเองอยู่คนเดียวทำเอาคังอิงเสวี่ยนั่งหุบๆ อ้าๆ ปากอยู่เช่นนั้นคล้ายคนโง่งม อะไรคือเป็นเพียงสามี อะไรคือการใช้ชีวิตครอบครัวช่วยนางทำมาหากินที่ผ่านมานางยังลำบากเพราะเขาไม่พอหรืออย่างไรกันคุณหนูคังก็เพิ่งได้รู้ว่าคนเคยเป็นทหารนั้นก็เพ้อเจ้อเอาเรื่องเอาราวอยู่

“เรื่องนี้ออกจะเร็วไปอย่างไรแล้วขอให้ท่านไปคิดพิจารณาดูอีกสักครั้งเถิดแต่สำหรับข้าถ้าจะให้ง่ายและสบายใจกันทั้งสองฝ่ายข้าว่าวิธีการหย่านี่แหละเหมาะสมที่สุด อิงเสวี่ยเสียมารยาทขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะเจ้าคะ” คังอิงเสวี่ยไม่รอให้คนตรงหน้าได้ทักท้วงทัดทานนางรีบกล่าวขอตัวและเดินหายเข้าไปในห้องนอนของตัวเองในทันทีทิ้งเรื่องตรงนี้ให้สองพี่สาวคนสนิทของตนเองให้รับหน้าแทนไปก่อนชั่วคราว

“คุณหนูน่าจะยังตกใจอยู่ไม่น้อยเจ้าค่ะขอนายท่านอย่าได้ถือสา สองปีที่ผ่านมานี้คุณหนูของพวกเราผ่านอะไรมามากมายเหลือเกินทั้งเรื่องการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตและการทำงานต่างๆ ด้วยตัวเองหวังว่านายท่านจะเข้าใจและไม่ถือโทษโกรธนาง” ซางชุนหลิงใช้ความอาวุโสของตนเองออกหน้าแทนคุณหนูผู้เป็นที่รัก

“ข้าเข้าใจเสวี่ยเอ๋อร์ดีและต้องขอขอบคุณพวกเจ้าด้วยที่อยู่เคียงข้างนางมาตลอดแต่หลังจากนี้ไปข้าสัญญาว่าจะมาช่วยเป็นแรงกำลังในการดูแลนางด้วยตัวของข้าเองและจะไม่มีทางทอดทิ้งนางอย่างแน่นอนเจ้าทั้งสองคนไม่ต้องกังวลใจไปข้ากลับมาด้วยเจตนาดีจริงๆ

เอาล่ะหากมีงานอะไรก็ไปทำกันเถิดข้าจะขอสำรวจเรือนหลังนี้เสียหน่อยหากมีตรงไหนที่ผุพังต้องซ่อมแซมจะได้จัดการก่อนหน้าที่ฮูหยินจะย้ายมาตัวข้าเองก็ไม่ได้มาพักที่นี่บ่อยครั้งนักหรอกเรือนของรองแม่ทัพจึงไม่ต่างจากเรือนร้างเพราะข้าอาศัยกินอยู่หลับนอนแต่ในค่ายทหารเท่านั้นมันสะดวกมากกว่า”

สองสตรีได้ฟังก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดเมื่อสองปีก่อนตอนที่พวกนางและคุณหนูมาถึงเรือนหลังนี้จึงดูไม่สมศักดิ์ศรีของท่านรองแม่ทัพเท่าไรนักเรื่องขนาดเรือนนั้นไม่ว่ากันเพราะเมืองชายแดนเช่นนี้ใช่จะมีขุนนางหรือคหบดีมีเงินอาศัยอยู่มากนักบ้านเรือนที่นิยมสร้างจึงเน้นไปที่การใช้งานไม่ได้นิยมความหรูหราแต่เรื่องของความรกร้างนั้นพอได้ย้อนนึกถึงแล้วสองพี่น้องสกุลซางก็ถึงกับขนลุกเพราะพวกนางรวมทั้งคุณหนูช่วยกันทำความสะอาดบ้านตั้งแต่เพดานจรดพื้นใช้เวลาไปเกือบสิบวันเรือนทั้งเรือนจึงพอจะสะอาดและมีชีวิตชีวาดังเช่นเรือนที่ผู้คนจะอาศัยอยู่ได้

ฝั่งเจ้าของเรือนกำลังเริ่มสำรวจเรือนที่พักอาศัยโดยไม่ได้เร่งรีบส่วนทางด้านคนที่มาอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลากว่าสองปีกำลังนั่งนิ่งอยู่บนเตียงคล้ายกำลังใช้ความคิดทบทวนบางสิ่งบางอย่างที่ไม่พ้นต้องเกี่ยวพันกับเจ้าของเรือนตัวจริงอย่างช่วยไม่ได้

ต้นเหตุทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้คังอิงเสวี่ยต้องถูกเนรเทศมาที่นี่ก็เพราะว่าสามีที่เพิ่งจะแต่งงานกันปุบปับเกิดถูกกล่าวหาว่าซ่องสุมกองกำลังเพื่อก่อการกบฏแต่เนื่องจากยังไม่มีและไม่พบหลักฐานซึ่งหน้านางที่เป็นภรรยาและครอบครัวเพียงคนเดียวของจิวกังเป่าจึงถูกเนรเทศให้มาอยู่ที่เมืองชายแดนแต่ไม่ได้ถูกเนรเทศให้มาใช้แรงงานเช่นเดียวกับนักโทษทางการเมืองทั่วไปที่ได้รับการตัดสินโทษแล้วและด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้คังอิงเสวี่ยสามารถทำมาหากินเพื่อหาเงินมาดำรงชีวิตของตัวเองและคนสนิทอีกสองคนที่เดินทางมาด้วยกันให้มีชีวิตรอดไปได้

แต่สิ่งที่ทำให้คุณหนูคังกังวลใจเป็นอย่างมากนั่นก็คือเรื่องราวที่แม้แต่พี่ชุนหลิง พี่ซีไอ่ก็ไม่เคยได้มีโอกาสล่วงรู้ว่าอันที่จริงแล้วคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่คุณหนูคังอิงเสวี่ยแม้กายเนื้อจะยังเป็นคุณหนูคนเดิมแต่ไส้นั้นกลับเป็นดวงวิญญาณอีกดวงที่ถูกดึงให้เข้ามาสวมร่างใช้ชีวิตเป็นคังอิงเสวี่ยตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน

หากจะถามว่าไปยังไงมายังไงเรื่องนี้วิญญาณต่างถิ่นก็ไม่สามารถตอบได้เพราะนางเองก็ไม่รู้แต่ที่นางเดาๆ ดูจากข้อมูลที่ตัวเองมีอยู่ในหัวแล้วนำมาปะติดปะต่อกันสิ่งที่พอจะเป็นได้นั้นก็คือคังอิงเสวี่ยในชาตินี้กับนางสาวอิงเสวี่ย แซ่คังที่อาศัยอยู่ในต่างที่นั้นน่าจะมีความเชื่อมโยงกันด้วยอะไรบางอย่างเพราะนอกจากพวกนางจะเกิดในวันเดือนปีเดียวกันแล้วก็ยังมาตายในวันและเวลาเดียวกันมันซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยากจะหาคำตอบถึงจะอาศัยการเดาสุ่มจากความน่าจะเป็นก็ยังไม่สามารถฟันธงคำตอบที่แน่ชัดได้

“ถ้าทำตัวตามปกติคงไม่มีใครจับได้หรอกเพราะตัวท่านรองแม่ทัพก็ใช่ว่าจะรู้จักนิสัยใจคอของคังอิงเสวี่ยแค่เจอกันครั้งเดียวในงานแต่งงานแล้วก็แยกกันเลยขนาดพี่สาวสองคนอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กยังแยกไม่ออกแล้วจะต้องกลัวอะไร”

เมื่อคิดได้แบบนี้แล้วคุณหนูคังอิงเสวี่ยก็สบายใจขึ้นเล็กน้อยแต่กระนั้นนางก็ยังไม่ยอมออกจากห้องนอนเลยจนกระทั่งถึงเวลาอาหารกลางวันจึงยอมออกมาด้วยกลัวว่าหากขังตัวเองอยู่แต่ในห้องแบบนี้แล้วจะทำให้คนสนิทของตัวเองไม่สบายใจ

“ท่านรองแม่ทัพไปไหนเสียล่ะเจ้าคะพี่ซีไอ่” ปกติแล้วเวลานี้จะเป็นเวลาทำงานเตรียมวัตถุดิบในการทำขนมขายในวันรุ่งขึ้นคุณหนูคังจึงมุ่งตรงมาที่ครัวแต่ก็ไม่วายถามหาคนที่ทำให้นางตกใจจนขวัญหายเมื่อช่วงเช้าของวันนี้

“นายท่านจิวไปตามช่างซ่อมเรือนเจ้าค่ะเมื่อช่วงเช้าสำรวจรอบเรือนไปแล้วเห็นว่ามีหลายจุดที่ต้องซ่อมแซมเพราะเรือนหลังนี้ก็สร้างมานานมากแล้วอีกทั้งยังไม่ค่อยจะมีคนมาอาศัยอยู่จึงไม่ได้รับการดูแลทำให้ทรุดโทรมไปมาก”

“ก่อนออกไปนายท่านจับปลามาให้คุณหนูด้วยนะข้าเลยในนำปลามานึ่งใส่ขิงตามสูตรที่คุณหนูเคยสอนเป็นอาหารกลางวัน คุณหนูหิวหรือยังเจ้าคะ” ถึงจะยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่แต่คังอิงเสวี่ยก็ยังเลือกที่จะกินข้าวกลางวันเสียก่อนเพื่อที่จะได้มีแรงมาช่วยงานพี่สาวทั้งสองคนเพราะว่าพรุ่งนี้เป็นวันที่ต้องขายข้าวเหนียวกับหมูเค็มและหมูหวานทอดจึงต้องช่วยกันเตรียมเนื้อหมูหมักเอาไว้ล่วงหน้า

ร้านค้าของคังอิงเสวี่ยนั้นโดยปกติแล้วจะขายขนมหวานห้าวันและหนึ่งวันจะขายข้าวเหนียวห่อหน้าหมูเค็มและหมูหวานทอดและอีกหนึ่งวันคือวันหยุดแต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรือหวานก็ล้วนแต่ขายดีทั้งนั้นนางทำอะไรออกมาขายชาวบ้านก็ต่างให้ความสนใจมาอุดหนุนด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหาร

แรกเริ่มที่ขายขนมนั้นคังอิงเสวี่ยก็ใช้วัตถุดิบที่หาง่ายในท้องถิ่นมาเป็นส่วนผสมหลักโดยพื้นที่แถบนี้ขึ้นชื่อเรื่องข้าวเหนียวนางจึงเลือกใช้มันมาเป็นวัตถุดิบหลักในการทำขนมจนได้ต่อยอดขยับขยายมาขายอาหารหลังจากที่พวกนางทำข้าวเหนียวหมูทอดพกไปกินยามเช้าที่ตลาดแล้วมีพ่อค้าแม่ขายด้วยกันนั่นแหละที่สนใจมาสอบถามคังอิงเสวี่ยจึงพบช่องทางในการทำมาหากินเพิ่ม

 

“ฮูหยินเหนื่อยหรือไม่ เจ้ามีอะไรให้พี่ช่วยหรือเปล่า” กลับมาถึงเรือนปุ๊บเจ้าของเรือนตัวจริงก็เอ่ยวาจาที่ทำเอาคังอิงเสวี่ยถึงกับขนแขนขนขาลุกตั้งชันกันอย่างพร้อมเพรียง

“คุณชายจิวเจ้าคะข้าคิดว่าระหว่างเราสองคนไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้น ข้าสะดวกใจเรียกท่านว่าคุณชายจิวมากกว่ากรุณาเรียกข้าว่าคุณหนูคังหรืออิงเสวี่ยเถิดเจ้าค่ะ” คังอิงเสวี่ยละมือจากเนื้อหมูที่ตนเองกำลังเรียงใส่ถาดไม้ไผ่สานเพื่อนำไปตากแดดจัดๆ สักหนึ่งแดดเพื่อให้ทอดได้ง่ายขึ้นอีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาคุณภาพหรือถนอมอาหารด้วยเนื่องจากยุคนี้ไม่มีตู้เย็นเก็บรักษาความสดใหม่ของอาหารนอกจากโอ่งเย็นที่ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก

“สามีภรรยามิใช่คนอื่นไกล” จิวกังเป่ายังพูดแบบไม่สนใจสีหน้าของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของตัวเองทำเอาคุณหนูคังอยากจะเสียมารยาทยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเองเสียตอนนี้

“พี่เข้าใจว่าการจะไปจะมาโดยไม่ได้มีโอกาสอธิบายอะไรให้ฮูหยินได้เข้าใจอาจทำให้เจ้าสับสนและแคลงใจเอาเป็นว่าหลังจากนี้พี่จะค่อยๆ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เจ้าฟังก็แล้วกันนะส่วนเรื่องหย่าอะไรนั่นหากทำได้พี่ก็อยากขอว่าอย่าได้พูดมันอีกสกุลจิวของเราต่างถือเรื่องความสัมพันธNผัวเดียวเมียเดียวมาตั้งแต่บรรพบุรุษดังนั้นเมื่อแต่งงานแล้วก็จะอยู่ครองคู่กันไปจนแก่เฒ่าหากมีอะไรที่ปรับได้ก็ควรพูดคุยกันจะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข”

คังอิงเสวี่ยยืนฟังคนที่สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเขาเป็นสามีของนางอย่างถูกต้องด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันมีจริงๆ หรือผู้ชายที่ตั้งใจจะมีภรรยาเพียงคนเดียวไปตลอดชีวิตขนาดบิดาของนางที่เป็นเพียงขุนนางธรรมดาไม่มีพิษมีภัยวันๆ ทำแต่งานยังมีภรรยาตั้งสามคนเข้าไปแล้ว