สามีที่ดีคือสามีใหม่แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ขอสามีเก่าเวอร์ชันอัปเกรด
รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ย้อนยุค,จีน,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า ,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,นางเอกเก่ง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่าสามีที่ดีคือสามีใหม่แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ขอสามีเก่าเวอร์ชันอัปเกรด
เมื่อบังเอิญได้มีโอกาสตายจริงวิญญาณของนางสาวอิงเสวี่ย แซ่คังได้เข้าไปอยู่ในร่างของคนที่มีชื่อและแซ่เดียวกัน เกิดวันเดือนปีเดียวกัน เวลาตายก็ดันมาตายพร้อมกัน และก็ไม่รู้ว่าจะตกใจอะไรมากกว่ากันดีระหว่างเรื่องที่เจ้าของร่างนี้ยังไม่เคยได้ร่วมหอกับสามีหรือว่าการที่ท่านรองแม่ทัพถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏแผ่นดินนางจึงต้องถูกเนรเทศมาอยู่ชายแดนให้ร่วมรับผิดชอบร่วมกันในฐานะภรรยาแต่จะส่งให้มามีชีวิตใหม่ทั้งทีก็อยากจะมีชีวิตอยู่แบบสบายๆ กับเขาบ้างท่านเทพแห่งโชคชะตากลับให้กันไม่ได้ยังคุมโทนชีวิตตีนถีบปากกัดอยู่เช่นเดิม
แล้วชีวิตที่เหมือนจะดีขึ้นกลับได้มาวุ่นวายเหมือนตายวันแรกอีกครั้งเมื่อสองปีให้หลังสามีที่หายลับเข้ากลีบเมฆไปได้กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเป็นผู้บริสุทธิ์โดยไร้สิ้นซึ่งข้อกล่าวหาแต่การจะกลับมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายแม้ฝ่ายภรรยาจะยื่นข้อเสนอให้หย่าขาดแล้วต่างคนต่างก็ไปเริ่มชีวิตใหม่แต่สามีกลับยืนยัน นั่งยัน นอนยันและสู้สุดใจว่าถึงอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมหย่าขาดจากนางอย่างแน่นอนแล้วเช่นนี้คุณหนูอิงเสวี่ยจะเลือกอะไรได้
หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ
กติกาการลงนิยาย
ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้
1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์
2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์
3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ
หลังจากที่วุ่นวายอยู่กับการจัดข้าวของอื่นๆ เข้าเรือนใหม่อยู่หลายวันคังอิงเสวี่ยก็เริ่มที่จะปรับตัวได้ซึ่งนอกจากที่อยู่อาศัยจะแปลกใหม่สำหรับนางแล้วตารางชีวิตในแต่ละวันก็ตั้งปรับเปลี่ยนไปทั้งหมดเนื่องจากที่เรือนใหม่มีอะไรให้ทำมากกว่าการขายขนมและดูแลเรือนที่พักอาศัย
เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าหลังจากตื่นนอนที่ระยะนี้คังอิงเสวี่ยจะใช้มันไปกับการฝึกสอนคนงานใหม่ทำขนมโดยใช้ครัวใหญ่ของเรือนหลักทำไปพลางๆ ก่อนโดยขนมส่วนหนึ่งที่ทำในแต่ละวันจะให้คนงานนำไปส่งที่แผงลอยตลาดฝั่งเหนือเพื่อที่จะยังรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ซึ่งหน้าที่ขายขนมคนงานที่ไปเฝ้าเรือนรองแม่ทัพหลังเก่าจะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ขายให้อีกทั้งยังดูแลทั้งเรือนและสวนเล็กๆ ของนางให้เหมือนเดิม
ส่วนขนมอีกส่วนก็จะถูกนำไปแจกจ่ายให้ทั้งคนงานและคนในสำนักคุ้มภัยแบ่งปันกันไปแม้จะได้ไม่ครบทุกคนแต่นางก็กำชับให้พวกเขาหมุนเวียนกันมารับขนมไปในแต่ละวันเพราะคนงานมีหลายร้อยคนแม่ครัวของนางที่มีจำนวนน้อยคงทำให้ครบทุกคนไม่ไหว
หลังจากออกจากครัวทำขนมมาได้คังอิงเสวี่ยก็จะรับประทานอาหารเช้าซึ่งในบางวันคุณชายจิวกังเป่าที่ตื่นแต่เช้าออกไปฝึกคนก็จะกลับมาร่วมโต๊ะด้วยกันจากนั้นนางก็จะไปดูความเรียบร้อยของร้านที่ใกล้จะตกแต่งเสร็จรวมถึงสำรวจวัตถุดิบในการทำขนมต่างๆ และทยอยซื้อกักตุนเอาไว้พอตกบ่ายก็กลับมาเข้าครัวทำอาหารเลี้ยงคนงานวนเวียนไปเป็นกิจวัตรประจำวัน
แม้จะมีงานให้ทำหลายอย่างแต่คุณหนูคังกลับไม่คิดว่ามันเหนื่อยยากลำบากอะไรด้วยคนที่สามีคัดเลือกมาให้ต่างก็เป็นงานครัวกันทั้งนั้นเมื่อนำมาสอนทำขนมทุกอย่างจึงเป็นไปโดยราบรื่นไม่มีติดขัดแม้ในช่วงแรกออกจะลำบากอยู่บ้างเพราะต้องสอนใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่คนงานไม่ค่อยจะคุ้นชินแต่เมื่อฝึกฝนกันไปในทุกวันฝีมือย่อมพัฒนาเพิ่มมากขึ้นแต่นางก็ยังคงไม่ประมาทยังคอยควบคุมการผลิตขนมทุกอย่างด้วยความเอาใจใส่ใกล้ชิด
“เสวี่ยเอ๋อร์วันนี้มีเรือขนส่งต่างแคว้นจะมาเทียบท่าเจ้าอยากไปเดินสำรวจวัตถุดิบมาทำขนมหรือไม่แต่จะไปเดินเล่นเฉยๆ ก็ได้นะที่ท่าเรือมีของแปลกๆ น่าสนใจมากมายเชียวล่ะ” จิวกังเป่าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เคยพูดคุยกับภรรยาในเรื่องของการหาวัตถุดิบที่แปลกใหม่มาทำขนม
ด้วยเมืองนี้มีท่าเรืออยู่ในอำเภอใกล้ๆ ซึ่งได้ข่าวมาว่าเรือจากต่างแคว้นจะเข้ามาเทียบท่าในวันนี้เขาจึงมาชวนนางปปซื้อของและอีกใจหนึ่งก็อยากจะพาภรรยาไปเปิดหูเปิดตานอกบ้านด้วยตั้งแต่แต่งกันมานั้นเขายังไม่ได้ทำหน้าที่สามีที่ดีเลยแม้แต่ครั้งเดียวเมื่อเวลานี้มีโอกาสแล้วก็จึงอยากจะดูแลเอาใจใส่นางให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ท่าเรือหรือเจ้าคะข้าอยากไปเจ้าค่ะท่านพี่” คังอิงเสวี่ยไม่ลังเลเลยที่จะตอบรับเพราะนางเองก็อยากไปเปิดหูเปิดตาจะแย่อยู่แล้วระยะเวลากว่าสองปีที่นางสาวอิงเสวี่ย แซ่คังวิญญาณจากต่างมิติได้เข้ามาอาศัยอยู่ในโลกนี้นางไม่เคยออกไปไหนเกินเขตอำเภอชายแดนที่ตนเองอาศัยอยู่ชีวิตที่ผ่านมาจะเรียกว่านางเป็นกบในกะลาก็คงไม่ผิดนัก
“ถ้าเช่นนั้นหลังจากกินข้าวเสร็จเจ้าก็ไปเตรียมตัวได้เลยพี่จะให้คนเตรียมรถม้าเอาไว้ให้อาจจะเลือกคันที่ใหญ่สักนิดเผื่อว่าเจ้าจะได้ของติดไม้ติดมือกลับมามาก” ถึงภรรยาจะไม่ซื้ออะไรแต่จิวกังเป่านี่แหละที่จะเป็นคนซื้อให้นางด้วยตัวเองเพราะตอนนี้เขาใช่ว่าจะขัดสนเงินทองที่เคยถูกริบไปก็ได้กลับคืนมาพร้อมกับค่าทำขวัญและค่าตกใจอีกหลายเท่าตัวต่อให้ไม่เปิดสำนักคุ้มภัยก็มีอยู่มีกินสบายไปตลอดชาติแต่เพราะอดีตรองแม่ทัพนั้นไม่ชอบการเอื่อยเฉื่อยลอยชายจึงตั้งใจนำวิชาความรู้ความสามารถที่ตนเองมีมาประกอบอาชีพใหม่
ที่ตลาดท่าเรือนั้นน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนักแม้จะต้องนั่งรถม้ามาเป็นนเวลามากกว่าหนึ่งชั่วยามกว่าจะไปถึงแต่เมื่อได้มาเห็นเรือลำใหญ่จอดเทียบท่าอยู่ตรงหน้าความเมื่อยล้าจากการเดินทางก็มลายหายไปแทบจะทันทีอีกทั้งเท้าเล็กๆ ของคังอิงเสวี่ยยังพร้อมที่จะพุ่งตัวเข้าไปหาเรือสินค้าอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลย
“เรือเพิ่งเทียบท่าคนคนที่มาเดินซื้อสินค้าจึงค่อนข้างเยอะเจ้าจับมือพี่เอาไว้ดีกว่าจะได้ไม่พลัดหลง”
อันที่จริงผู้คนบริเวณท่าเรือก็ไม่ได้มากมายถึงขนาดนั้นแต่เป็นเพราะส่วนหนึ่งเป็นคนต่างแคว้นที่แตกต่างกันทั้งรูปร่างหน้าตาและภาษาที่ใช้สื่อสารจิวกังเป่าจึงค่อนข้างจะเป็นห่วงภรรยาส่วนคนของนางเขาไม่ค่อยกังวลอะไรมากด้วยวันนี้มีคนจากสำนักคุ้มภัยตามมาช่วยดูแลกันอยู่หลายคน
“เอ่อ เจ้าค่ะ” แม้ใจจะอยากปฏิเสธแต่คุณหนูคังก็มิสามารถทำได้เพราะฝ่ามือใหญ่ที่สากเล็กน้อยจากการจับอาวุธมากว่าครึ่งชีวิตคว้ามือเล็กๆ ที่แสนบอบบางของนางไปเกาะกุมเอาไว้เสียแล้ว
“เจ้ามีอะไรที่ต้องการซื้อเป็นพิเศษหรือไม่เสวี่ยเอ๋อร์” ระหว่างเดินตามผู้คนไปบนถนนสายหลักของตลาดท่าเรือบุรุษตัวโตก็ก้มหน้าลงมาถามภรรยาที่เดินเคียงข้างกันด้วยความเอาใจใส่และอ่อนโยน
“ยังไม่มีอะไรที่ข้าอยากได้เป็นพิเศษเจ้าค่ะแต่หากเป็นไปได้ข้าอยากเดินดูสินค้าจากเรือทีละลำได้หรือไม่เจ้าคะ” มองจากตรงนี้แล้วคังอิงเสวี่ยเห็นว่ามีเรือลำใหญ่ที่มีหน้าตาแตกต่างกันไปเทียบท่าอยู่แล้วไม่ต่ำกว่าสี่ลำหากจะดูให้ครบน่าจะใช้เวลาอยู่ประมาณหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าบุรุษที่ใจดีพานางมานั้นจะมีเวลาว่างมากขนาดนั้นหรือไม่
“ย่อมได้ถ้าเช่นนั้นเราเริ่มดูสินค้าจากเรือลำในสุดก่อนเลยดีกว่าเพราะตามลำดับเป็นเรือที่เข้ามาเทียบท่าก่อนป่านนี้พ่อค้าน่าจะลำเลียงสินค้าลงมาจัดวางเสร็จสิ้นแล้ว” แม้จิวกังเป่าจะมีเวลาว่างทั้งวันแต่เขาก็ยังเลือกที่จะพาภรรยาเลือกซื้อสินค้าอย่างมีระเบียบแบบแผนเพื่อให้นางได้มีเวลาชมทุกอย่างได้เต็มที่ตามความต้องการ
สองข้างทางของถนนท่าเรือนั้นฝั่งหนึ่งนอกจะเป็นเรือลำใหญ่ที่จอดเทียบท่าอยู่แล้วอีกฝั่งหนึ่งก็เป็นร้านรวงถาวรที่ตั้งขายของกันซึ่งส่วนมากก็เป็นร้านของพ่อค้าคนกลางที่รับของจากเรือมาขายต่ออีกทอดหนึ่งหากร้านไหนมีสินค้าใหม่มาวางขายผู้คนก็ออกจะคึกคักมากเป็นพิเศษและนอกจากเรือใหญ่แล้วก็ยังมีเรือเล็กที่จะเข้าเทียบท่าซื้อขายสินค้าแทบทุกวันหากแต่วันไหนที่มีเรือใหญ่เทียบท่าเรือเล็กก็จะต้องหลบไปเพราะถ้าหากเข้าใกล้เรือใหญ่มากๆ ก็อาจจะทำให้เรือเล็กอับปางลงได้
ระหว่างเดินไปตามทางที่ทอดยาวสิ่งที่มองเห็นทำให้คังอิงเสวี่ยตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากเพราะที่นี่มีสินค้าทุกประเภทเท่าที่จะคิดออกวางขายอยู่มองจากที่ไกลๆ นางเห็นเรือที่บรรทุกเครื่องเทศ ถั่วเมล็ดแห้งไปจนถึงต้นไม้จริงๆ กำลังถูกนำมาวางเรียงรายอยู่เต็มด้านหน้าของเรืออีกทั้งเรือบางลำก็ยังมีสัตว์อย่างวัวนม เป็ด ไก่ตัวใหญ่และนกสีสันสดสวยหลากหลายสายพันธุ์
แค่เรือลำแรกก็ทำให้คังอิงเสวี่ยตาวาวเพราะเรือลำนี้ขายพวกเครื่องแก้วและเครื่องกระเบื้องตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ อย่างจอกน้ำชาไปจนถึงชามใบใหญ่ที่ดูไม่ต่างจากกะละมังเห็นแบบนี้แล้วก็ทำให้คิดถึงร้านขนมที่กำลังจะเปิดตัวถ้าหากได้จานชามสวยๆ ไปใส่ขนมบางชนิดวางโชว์ในร้านน่าจะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับร้านค้าของนางได้มากพอสมควร
“ข้าสนใจเครื่องแก้วเจ้าค่ะท่านพี่” ว่าแล้วก็เป็นฝ่ายกระตุกมือสามีเดินตรงเข้าไปหาพ่อค้าต่างแคว้นที่มีรูปร่างใหญ่โตดวงตาสีฟ้าและผมสีทองเป็นเอกลักษณ์ที่ใครๆ ก็รู้ดีว่าหากจะทำการค้ากับพวกคนผมแดงต้องอาศัยการจ้างล่ามแปลภาษาแต่สิ่งที่คังอิงเสวี่ยทำคือเดินตรงเข้าไปหาพ่อค้าแล้วเอ่ยทักทายเขาเป็นภาษาต่างถิ่น
“ข้าสนใจเครื่องแก้วของท่านไปใช้ในร้านค้าเจ้าค่ะไม่ทราบว่าท่านนำมาจำนวนมากหรือไม่”
“โอ้ แม่นางน่าแปลกใจนักที่เจ้าสามารถพูดภาษาของข้าได้ เครื่องแก้วนั้นข้านำมาเป็นพันๆ ใบเลยล่ะนอกจากจานชามแล้วก็ยังมีแก้วและแจกันแต่ข้ายังไม่ทันได้นำมันออกมาจัดวางเลย รอสักครู่ข้าจะรีบนำตัวอย่างออกมาให้เจ้าดู” นอกจากพ่อค้าผมแดงจะแปลกใจกับความสามารถของสตรีร่างเล็กผู้นี้แล้วแม้แต่จิวกังเป่ากับล่ามประจำท่าเรือต่างก็ตะลึงไปกับสิ่งที่ได้ยินกับหูพอๆ กัน
“ไม่ยักรู้ว่าเจ้าสามารถพูดภาษาของชาวผมแดงได้ด้วยภรรยาของข้าช่างมีความสามารถยิ่งนัก” แม้จะแปลกใจแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมภรรยาออกมาจากใจจริง
“ในตอนที่ข้าอยู่เมืองหลวงเคยได้เรียนอยู่บ้างเจ้าค่ะแต่ก็แค่เพียงอ่านออกเขียนได้พอสื่อสารเข้าใจเท่านั้นหาได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ” เรื่องนี้คังอิงเสวี่ยพูดตามความจริงคุณหนูคังเคยได้เรียนภาษาต่างแคว้นจริงแต่ก็เมื่อนานมาแล้วและที่ว่าพอสื่อสารได้นั้นก็เป็นความสามารถของนางสาวอิงเสวี่ย แซ่คังที่สามารถสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อเอาตัวรอดได้แบบงูๆ ปลาๆ ซึ่งบางครั้งก็ต้องอาศัยอวัจนภาษาประกอบการสนทนาด้วยแต่กว่าจะเข้าใจที่ตรงกันทำเอาเมื่อยมือกันเลยทีเดียว
แค่ร้านแรกสามีของคังอิงเสวี่ยก็จ่ายเงินไปถึงสิบสองตำลึงทองซึ่งพ่อค้าชาวผมแดงก็ดีใจกับยอดขายแรกของวันมากถึงขนาดแถมชุดเครื่องแก้วอย่างดีสำหรับใส่สุราให้อีกหนึ่งชุดซึ่งเป็นที่ถูกใจนางยิ่งนักเพราะตั้งใจจะเก็บไว้ให้สามีนำออกมาใช้ในยามที่ต้องรับรองสหายหรือว่าแขกเหรื่อที่มาเยี่ยมเยือนที่เรือนหรือที่สำนักคุ้มภัย
สินค้าที่ซื้อทั้งหมดในวันนี้ส่วนมากจะเป็นของที่จะนำไปใช้ที่ร้านค้าแทบจะทั้งนั้นซึ่งจิวกังเป่าจูงมือภรรยาเดินมาจนจะถึงเรือลำสุดท้ายแล้วนางก็ยังไม่ได้ซื้อของที่เป็นส่วนตัวเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
“ข้างหน้าเป็นเรือขายเครื่องประดับจากแคว้นใกล้ๆ นี่เองหยกของที่นั่นเนื้อดียิ่งนักพี่เคยมาเลือกซื้อกำไลให้เป็นของขวัญแรกคลอดบุตรสาวสหายเมื่อนานมาแล้ว พี่คิดว่าเจ้าเองก็ควรจะมีเครื่องประดับสวยๆ ใส่ติดกายบ้างสักชิ้นสองชิ้นอย่างน้อยๆ ข้อมือสวยๆ ของเจ้าก็ไม่ควรว่างเปล่าเช่นนี้”
ว่าแล้วก็จูงมือภรรยาตรงไปหาพ่อค้าขายเครื่องประดับด้วยความคุ้นเคยและจากที่คังอิงเสวี่ยฟังคนข้างๆ สนทนากับพ่อค้าแล้วก็พอจะทราบว่าอดีตรองแม่ทัพเคยซื้อสินค้าจากพวกเขาอยู่บ่อยๆ ซึ่งส่วนมากของที่มาซื้อก็มักจะเป็นหยกพกสำหรับเด็กผู้ชายและกำไลหยกสำหรับเด็กผู้หญิงซึ่งเครื่องประดับเหล่านี้มักจะถูกใช้เป็นของขวัญมอบให้สหายหรือทหารใต้บังคับบัญชาทั้งสิ้น
“วันนี้นายท่านจิวมาได้ถูกเวลายิ่งนักขอรับข้ามีเครื่องประดับหยกเนื้อดีเหมาะสำหรับฮูหยินของท่านอยู่พอดีเลยเป็นหยกจักรพรรดิสีเขียวสดตกแต่งด้วยทองคำแท้มีทั้งหมดสามชิ้นใหญ่ด้วยกันขอรับ ต่างหูหนึ่งคู่ สร้อยคอหนึ่งเส้นและกำไลอีกสี่คู่สามารถสวมใส่ที่ข้อมือได้ทั้งสองข้าง” ระหว่างที่โอ้อวดความงามของเครื่องประดับมือที่อวบป้อมของพ่อค้าก็ค่อยๆ ประคองกล่องเครื่องประดับออกมาจากหีบที่ปิดใส่กุญแจไว้อย่างแน่นหนาเมื่อเปิดกล่องเครื่องประดับที่เป็นไม้แกะสลักเป็นดอกมู่ตานก็พบกับเครื่องประดับที่งดงามกว่าคำพรรณนาของพ่อค้าตั้งไม่รู้กี่เท่าตัว
หยกจักรพรรดิสีเขียวมรกตตัดกับเส้นทองที่ขดเป็นลายดอกมู่ตานเช่นเดียวกับลายบนกล่องทำให้จิวกังเป่าพึงพอใจในเครื่องประดับชุดนี้ยิ่งนักและเขาก็คิดว่าไม่มีใครจะเหมาะสมกับหยกเนื้อดีนี้เท่าภรรยาของตนเองอีกแล้ว
“ข้าซื้อเครื่องประดับชุดนี้แล้วรบกวนเถ้าแก่เลือกกำไลหยกที่สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันให้ข้าอีกสักชุดได้หรือไม่ดูท่าแล้วภรรยาของข้าน่าจะไม่กล้าใส่เครื่องประดับหยกทั้งชุดในชีวิตประจำวันแน่เพราะนางเป็นคนขยันทำงานตลอดวันไม่ค่อยจะได้อยู่นิ่ง” มองตาคังอิงเสวี่ยก็รู้แล้วว่านางต้องการจะปฏิเสธเพราะความหรูหราของชุดเครื่องประดับหยกชุดนั้นจิวกังเป่าจึงถามหาแบบที่เรียบๆ หน่อยเพื่อให้นางสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน
“ย่อมได้ของรับนายท่านจิว ฮูหยินจิวข้ายังมีกำไลหยกมันแพะอีกหนึ่งคู่แม้ไม่ได้ตกแต่งด้วยทองคำแต่ตัวกำไลก็แกะสลักเป็นดอกมู่ตานรอบวงลวดลายประณีตและอ่อนช้อยยิ่งนักขอรับข้ารับรองได้ว่ามันมีเพียงคู่เดียวในแคว้นนี้”
ตอนที่ 10 เป็นตอนสุดท้ายที่จะเปิดให้อ่านฟรีตั้งแต่ตอนที่ 11 เป็นต้นไปจะติดเหรียญล่วงหน้าตามกติกาที่แจ้งไว้นะคะ
กติกาการลงนิยาย
ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้
1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์
2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์
3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ