สามีที่ดีคือสามีใหม่แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ขอสามีเก่าเวอร์ชันอัปเกรด

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า - ตอนที่ 21 หน้าหนาวกำลังจะมาถึง ปลดเหรียญอ่านฟรี 5 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 12 เมษายน 68 โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ย้อนยุค,จีน,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า ,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,นางเอกเก่ง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ย้อนยุค,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า ,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,นางเอกเก่ง

รายละเอียด

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

สามีที่ดีคือสามีใหม่แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ขอสามีเก่าเวอร์ชันอัปเกรด

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

เมื่อบังเอิญได้มีโอกาสตายจริงวิญญาณของนางสาวอิงเสวี่ย แซ่คังได้เข้าไปอยู่ในร่างของคนที่มีชื่อและแซ่เดียวกัน เกิดวันเดือนปีเดียวกัน เวลาตายก็ดันมาตายพร้อมกัน และก็ไม่รู้ว่าจะตกใจอะไรมากกว่ากันดีระหว่างเรื่องที่เจ้าของร่างนี้ยังไม่เคยได้ร่วมหอกับสามีหรือว่าการที่ท่านรองแม่ทัพถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏแผ่นดินนางจึงต้องถูกเนรเทศมาอยู่ชายแดนให้ร่วมรับผิดชอบร่วมกันในฐานะภรรยาแต่จะส่งให้มามีชีวิตใหม่ทั้งทีก็อยากจะมีชีวิตอยู่แบบสบายๆ กับเขาบ้างท่านเทพแห่งโชคชะตากลับให้กันไม่ได้ยังคุมโทนชีวิตตีนถีบปากกัดอยู่เช่นเดิม

แล้วชีวิตที่เหมือนจะดีขึ้นกลับได้มาวุ่นวายเหมือนตายวันแรกอีกครั้งเมื่อสองปีให้หลังสามีที่หายลับเข้ากลีบเมฆไปได้กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเป็นผู้บริสุทธิ์โดยไร้สิ้นซึ่งข้อกล่าวหาแต่การจะกลับมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายแม้ฝ่ายภรรยาจะยื่นข้อเสนอให้หย่าขาดแล้วต่างคนต่างก็ไปเริ่มชีวิตใหม่แต่สามีกลับยืนยัน นั่งยัน นอนยันและสู้สุดใจว่าถึงอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมหย่าขาดจากนางอย่างแน่นอนแล้วเช่นนี้คุณหนูอิงเสวี่ยจะเลือกอะไรได้

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 1 สายตาคู่นั้น,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 2 เราควรมาหย่ากันให้มันจบๆ ไป,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 3 ร่วมชายคา,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 4 ว่าด้วยเรื่องของการค้าขาย,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 5 ความไว้วางใจ,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 6 ร้านค้าที่ไม่กล้าฝันใฝ่,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 7 สำนักคุ้มภัยสกุลจิว,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 8 ได้เวลาย้ายบ้าน,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 9 การปรับตัวครั้งใหญ่ในฐานะฮูหยินจิว,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 10 สามีสายเปย์,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 11 ร้านขนมหวานละมุน ปลดเหรียญอ่านฟรี 27 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 3 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 12 ข้าวห่อเหนียวหน้าหมูเค็ม หมูหวาน ปลดเหรียญอ่านฟรี 28 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 4 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 13 ความสัมพันธ์อันดี ปลดเหรียญอ่านฟรี 28 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 4 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 14 รายได้เป็นกอบเป็นกำ ปลดเหรียญอ่านฟรี 30 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 6 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 15 กลยุทธ์การขาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 31 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 7 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 16 พร้อมหน้าพร้อมตา ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 8 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 17 ครอบครัวใหญ่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 2 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 9 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 18 ความสุขไม่มีวันหมดอายุ ปลดเหรียญอ่านฟรี 3 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 10 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 19 ปรับทัศนคติ ปลดเหรียญอ่านฟรี 4 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 11 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 20 ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งที่ตามหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 5 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 12 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 21 หน้าหนาวกำลังจะมาถึง ปลดเหรียญอ่านฟรี 5 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 12 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 22 ปุยหิมะที่แสนอบอุ่น ปลดเหรียญอ่านฟรี 7 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 14 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 23 วันพักผ่อน ปลดเหรียญอ่านฟรี 8 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 15 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 24 ร้านขายข้าวเหนียวห่อหน้าหมู ปลดเหรียญอ่านฟรี 9 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 16 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 25 อิ่มหมีพีมัน ปลดเหรียญอ่านฟรี 10 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 17 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 26 ร้านอาหารคลังเสบียง ปลดเหรียญอ่านฟรี 11 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 18 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 27 มีอาการ ปลดเหรียญอ่านฟรี 12 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 19 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 28 การตัดสินใจครั้งใหญ่ของสกุลคัง ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 20 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 29 เมื่อเจ้าก้อนแป้งลืมตาขึ้นมาดูโลก ปลดเหรียญอ่านฟรี 14 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 21 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 30 เติมเต็มความสุข (จบ) ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 22 เมษายน 68

เนื้อหา

ตอนที่ 21 หน้าหนาวกำลังจะมาถึง ปลดเหรียญอ่านฟรี 5 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 12 เมษายน 68

เมื่ออากาศเริ่มเย็นลงบรรยากาศภายในอำเภอก็เริ่มคึกคักเพราะชาวบ้านพร้อมใจกันออกมาเตรียมกักตุนเสบียงและข้าวของเอาไว้รับหน้าหนาวไม่ว่าจะร้านขายข้าวสาร ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายเนื้อหรือแม้แต่ร้านขนมหวานละมุนเองก็มีลูกค้าแน่นร้านตั้งแต่เช้าด้วยเถ้าแก่เนี้ยเปิดขายเนื้อหมูปรุงรสเค็มและรสหวานตากแห้งเป็นวันแรก

ลูกค้าที่ทำการสั่งจองล่วงหน้าและชำระเงินเอาไว้เรียบร้อยแล้วทางร้านจะเตรียมเนื้อใส่ห่อตามคำสั่งซื้อเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วเพียงแค่ถือใบจองมาต่อแถวก็สามารถรับเนื้อกลับไปได้ในทันทีส่วนลูกค้าที่ไม่ได้จองก็เข้าแถวแบกไปอีกแถวหนึ่งและต้องยืนรอสักเล็กน้อยเท่านั้น

“เถ้าแก่เนี้ยวันนี้ข้าหยิบเงินมาไม่พอเพราะว่าไปซื้อข้าวของอย่างอื่นมาก่อนแล้วไม่ทราบว่าท่านจะยังขายเนื้อไปอีกกี่วันขอรับ” ลูกค้าที่ไม่ได้รู้ข่าวมาก่อนว่ามีการเปิดขายเนื้อหมูปรุงรสตากแห้งรสเค็มและรสหวานแสนอร่อยต่างก็เสียดายที่ตัวเองไปจับจ่ายซื้อของอย่างอื่นจนหมดแล้วจนไม่มีเงินเหลือมาซื้อสินค้าของเถ้าแก่เนี้ยคนงาม

“ข้าคิดว่าจะมีขายไปจนกว่าหิมะจะตกเจ้าค่ะ หากพี่ชายกังวลว่าจะไม่ได้สินค้าท่านสามารถมาเขียนใบสั่งจองเอาไว้ได้ไม่มีเงินมัดจำก็ไม่เป็นไรเอาไว้ค่อยมาจ่ายในวันที่รับสินค้านะเจ้าคะ” คังอิงเสวี่ยเข้าใจดีว่าชาวบ้านทุกคนต่างก็เร่งรีบในการกักตุนข้าวของไม่ว่าจะเป็นของกินหรือว่าของใช้อีกทั้งตัวนางก็มีคนงานทำเนื้อหมูตากแห้งออกมาให้ทุกวันจึงมั่นใจว่ายังมีสินค้าให้พอขายไปอีกพักใหญ่

อีกทั้งการเปิดจองไว้ก่อนโดยไม่เก็บเงินแม้จะมีความเสี่ยงแต่ชาวบ้านก็ซื้อไปเพียงคนละเล็กละน้อยอย่างมากสุดก็ซื้อแค่ห้าจินสิบจินถึงจะไม่มารับสินค้านางก็สามารถเก็บเอาไว้รับประทานเองได้มันไม่ได้เน่าเสียง่ายเช่นของสดหรือขนมที่มีอายุสั้นเก็บเอาไว้นานไม่ได้ต้องรีบกินให้หมดก่อนที่จะเน่าเสีย

“ขอบคุณเถ้าแก่เนี้ยขอรับแล้วพรุ่งนี้ข้าจะรีบมารับเนื้อเค็มตั้งแต่ตอนร้านเปิดและข้าจะไปบอกคนในหมู่บ้านให้มาอุดหนุนท่านด้วย” นอกจากลูกค้าท่านนี้ก็ยังมีลูกค้าด้านหลังอีกหลายคนที่ประสบปัญหาเดียวกันดังนั้นคนที่ยังพอมีเงินเหลืออยู่เล็กน้อยจึงเข้าแถวซื้อเนื้อปรุงรสไปเก็บไว้เท่าที่พอจ่ายได้ในวันนี้ก่อนจากนั้นก็ไปลงชื่อจองสินค้าไว้เพื่อจะกลับมารับอีกครั้งในวันพรุ่งนี้พร้อมกับนำเงินมาชำระในวันเดียวกันเลย

การค้าขายแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยทำให้ชื่อเสียงของฮูหยินจิวเป็นที่กล่าวถึงในหมู่ชาวบ้านกลุ่มเล็กๆ คนส่วนมากชื่นชมนางในเรื่องความงดงาม ความขยันขันแข็งและความมีน้ำใจไม่เคยเอาเปรียบลูกค้าส่งผลให้ชาวบ้านต่างพากันมาอุดหนุนทั้งขนมและสินค้าอื่นๆ ที่นางขายกันอย่างต่อเนื่องช่วงนี้ตลาดทิศบูรพาของเมืองจึงค่อนข้างคึกคักเป็นอย่างมากและเพื่อความเสมอภาคกันคังอิงเสวี่ยยังส่งเนื้อปรุงรสตากแห้งไปวางขายที่แผงลอยในตลาดทิศอุดรของเมืองอีกด้วยชาวบ้านที่เป็นลูกค้าอยู่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางข้ามฝั่งเมืองมาซื้อสินค้ากัน

ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึงคังอิงเสวี่ยมีความคิดที่อยากจะทำห้องเก็บน้ำแข็งเอาไว้เพื่อนำมาใช้ผลิตเครื่องดื่มเย็นๆ ขายในตอนหน้าร้อนซึ่งทันทีที่นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับจิวกังเป่าเขาก็รับปากนางโดยไม่คิดทบทวนเลยว่าสามารถทำได้เพียงแต่ต้องปรับแต่งห้องใต้ดินที่สร้างเอาไว้กักตุนอาหารสักที่เสียใหม่เพื่อใช้สำหรับการเก็บรักษาน้ำแข็งที่มีความเย็นโดยเฉพาะ

และสถานที่ที่ได้รับเลือกคือห้องใต้ดินของเรือนหลักหลังจากจัดการขนเสบียงที่กักตุนเอาไว้ย้ายไปในครัวและที่ห้องใต้ดินในเรือนเล็กของคังอิงเสวี่ยรวมถึงเรืองรองเรือนอื่นๆ แล้วคนงานก็เข้ามาปรับปรุงสถานที่ให้เหมาะสมกับการเก็บรักษาน้ำแข็งในทันทีซึ่งโชคดีเหลือเกินที่คนของสำนักคุ้มภัยต่างเคยเป็นอดีตทหารที่รับผิดชอบหน้าที่แตกต่างหลากหลายนางเพิ่งมาทราบว่าอดีตนายทหารที่หน้าที่ตัดน้ำแข็งในทะเลสาบก็ยังมาทำงานที่สำนักคุ้มภัยด้วยเช่นเดียวกัน

เป็นโชคดีที่ห้องใต้ดินภายในเรือนหลักนั้นขุดลึกลงไปจากพื้นดินค่อนข้างมากอดีตนายทหารที่เข้ามาจัดการเรื่องนี้จึงเริ่มทำการเสริมกำแพงให้สามารถเก็บความเย็นได้มากขึ้นด้วยก่อกำแพงเพิ่มอีกสองชั้นที่สร้างจากหินและอิฐอีกทั้งยังทำการเตรียมแกลบสะอาดเอาไว้เป็นจำนวนมากเพื่อทำการรักษาความเย็นให้กับก้อนน้ำแข็ง

แต่สำหรับน้ำแข็งที่จะนำมาเก็บเอาไว้ในห้องนี้นั้นคังอิงเสวี่ยบอกว่าจะไม่ใช้น้ำแข็งจากธรรมชาติเพราะมันไม่สะอาดหากรับประทานเข้าไปมากๆ จะทำให้เกิดอาการปวดท้องและท้องร่วงได้นางจึงเลือกที่จะน้ำแข็งเองจากน้ำในบ่อที่ผ่านการต้มจนสุกแล้วเท่านั้นระหว่างที่รอการปรับปรุงห้องเก็บน้ำแข็งคนงานอีกส่วนจึงช่วยกันเตรียมภาชนะที่มีลักษณะเป็นถาดสี่เหลี่ยมใบใหญ่ขนาดเท่าๆ กันมาเตรียมเอาไว้รวมถึงตักน้ำจากบ่อมาต้มให้สุกและเก็บใส่โอ่งขนาดใหญ่รอให้ถึงเวลาที่หิมะตกลงมาหนาๆ และอากาศเย็นจัดการทำน้ำแข็งจึงจะเริ่มต้นขึ้น

ไม่มีใครที่จะไม่ชอบน้ำชาเย็นๆ หวานๆ ที่ฮูหยินต้มแจกคนงานในยามหน้าร้อนพอได้รู้ว่าหลังจากนี้พวกเขาจะมีโอกาสได้กินน้ำชาที่เย็นชื่นใจมากกว่าเดิมด้วยน้ำแข็งทุกคนก็พร้อมใจช่วยเตรียมงานกันคนละไม้คนละมือ

“เพราะเจ้าติดสินบนพวกเขาด้วยของกินอย่างไรเล่าคนงานของเราจึงขยันขันแข็งเช่นนี้” จิวกังเป่าหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเมื่อพาภรรยาออกมาดูคนงานที่กำลังสร้างแม่พิมพ์สำหรับทำน้ำแข็งด้วยการทำถาดไม้สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ยาแนวกันรั่วกันซึมเอาไว้ด้วยยางไม้ธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

“ดีแล้วนี่เจ้าคะของอร่อยทำให้คนเรามีแรงกำลังที่จะทำงาน คนขยันก็ควรได้รับรางวัลตอบแทนแม้จะเล็กน้อยก็ยังดี” คังอิงเสวี่ยไม่คิดว่าสิ่งที่คนงานทำนั้นจะเป็นเรื่องที่สร้างให้เกิดความเดือดร้อนเพราะพวกเขาเป็นคนของสำนักคุ้มภัยสกุลจิวก็เท่ากับเป็นครอบครัวเดียวกันกับนางทั้งหมดการที่อยากให้คนในครอบครัวได้กินดีอยู่ดีและได้เห็นทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันก็นับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมเป็นที่สุด

เรื่องนี้คังอิงเสวี่ยไม่ได้คิดเองเออเองแต่นางเห็นตัวอย่างที่มารดาและบิดาทำมาตลอดในเรื่องของการให้เกียรติผู้คนแม้เขาจะเป็นคนที่อยู่ในฐานะทางสังคมที่ต่ำกว่าด้วยเหตุนี้แม้คนที่จวนของท่านพ่อจะมีไม่มากแต่ก็มีความขยันขันแข็งและซื่อสัตย์สามารถเชื่อใจและไว้วางใจพวกเขาได้เลย

“ภรรยาของพี่ดีที่สุด” เห็นนางมีความสุขแล้วจิวกังเป่าก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะคนพวกนี้ต่างก็เป็นพี่น้องกับตัวเขามาตั้งแต่ที่อยู่ในสนามรบการฝ่าฟันมาด้วยเลือดเนื้อทำให้อดีตทหารกล้าทั้งหลายยิ่งมีความผูกพันทางใจกันอย่างแน่นแฟ้น

“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้สวัสดียามสายเจ้าค่ะ” เป็นจิวเจียวจูที่อุ้มบุตรชายตัวน้อยเดินออกมาจากเรือนด้านหลังโดยข้างๆ ตัวนั้นยังมีจิวจินไฉ จิวเจียวฝางและจิวโยวอิงน้องชายสามีและหลานๆ เดินตามมาด้วยกัน

“จูเอ๋อร์จะพาเด็กๆ ไปที่ไหนกันเหรอ” คังอิงเสวี่ยทักทายน้องสะใภ้และเด็กๆ อย่างเป็นกันเองแม้จะได้พบหน้าพวกเขาไม่บ่อยนักเพราะอาศัยอยู่ไกลกันและต่างคนต่างก็มีภาระหน้าที่แต่นางก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีโดยการส่งขนมและอาหารอร่อยๆ ไปยังเรือนลูกพี่ลูกน้องของสามีอย่างสม่ำเสมอ

“เด็กๆ บอกว่าอยากไปตลาดน่ะเจ้าค่ะข้าเองก็คิดว่าหากถึงหน้าหนาวแล้วพวกเขาคงจะไม่ได้ออกมาเล่นนอกเรือนกันอีกนานจึงถือโอกาสพาออกมาสักหน่อยนี่ก็ตั้งใจจะแวะไปหาพี่สะใภ้ที่ร้านแต่ก็มาเจอท่านและพี่ชายที่นี่ก่อน” จิวเจียวจูกล่าวซึ่งเด็กๆ เองก็ยืนยันคำพูดเหล่านั้นด้วยการส่งสายตาที่เป็นประกายวับวาวมาให้

“ถ้าอย่างนั้นให้ป้าสะใภ้ไปด้วยคนได้หรือไม่เด็กๆ จูเอ๋อร์เจ้าคนเดียวดูแลเด็กๆ ถึงสี่คนไม่ไหวหรอกในตลาดช่วงนี้ผู้คนพลุกพล่านนักมีพี่ไปด้วยจะได้ช่วยดูแลพวกเขาได้” คังอิงเสวี่ยเห็นว่าน่าจะไปเดินสำรวจตลาดก่อนหน้าหนาวสักหน่อยก็น่าจะดีจึงขอติดตามไปด้วยซึ่งทั้งจิวเจียวจูและเด็กๆ ต่างก็ยินดีเนื่องจากป้าสะใภ้ใจดีทุกๆ คนเลยชอบที่จะอยู่ใกล้

“ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าก็ระวังตัวด้วยอยากซื้ออะไรก็บอกป้าสะใภ้นะเด็กๆ” 

ถุงใส่เงินถุงใหญ่ของจิวกังเป่าถูกปลดจากเอวเพื่อยื่นให้ภรรยาและหลังจากที่เขาช่วยสำรวจเครื่องแต่งกายของเด็กๆ ว่ารัดกุมดีแล้วจึงออกเดินทางไปยังตลาดในทันที

ในกลุ่มเด็กๆ อย่างจิวจินไฉ จิวเจียวฝางและจิวโยวอิงแม้คนที่อายุมากสุดคือสิบสองหนาวแล้วแต่ก็ยังมีความซุกซนแบบเด็กๆ อยู่ในยามที่เห็นร้านของเล่นก็อยากจะเข้าไปดูซึ่งจิวเจียวจูไม่ได้อยากให้เข้าไปทุกร้านแต่กลับเป็นคังอิงเสวี่ยที่ปล่อยให้พวกเขาเลือกดูตามสบายโดยให้เหตุผลว่าเด็กๆ ไม่ได้ออกมาบ่อยปกติก็ช่วยทำงานทุกวันนานๆ ทีควรปล่อยให้พวกเขาได้เที่ยวเล่นตามประสาเด็กๆ บ้าง

“หนาวนี้หากอยู่ที่เรือนกันไม่ไหวเจ้าย้ายกลับมาพักที่เรือนด้านหน้าได้นะจูเอ๋อร์เรือนของเจ้าพื้นที่ด้านหลังอยู่ติดภูเขาอากาศจึงมักจะหนาวเย็นกว่าปกติอีกทั้งฤดูหนาวที่นี่ก็ค่อนข้างโหดร้ายและยาวนานพี่กลัวว่าเด็กๆ และเจ้าจะล้มป่วยไป” ด้วยน้องสาวคนนี้เดินทางตามสามีมาจากพื้นที่ที่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมากนักคังอิงเสวี่ยที่อยู่อำเภอนี้มาก่อนจึงมั่นใจว่าร่างกายของพวกนางและเด็กๆ น่าจะไม่สามารถทนกับฤดูหนาวของที่นี่ได้

“เรื่องนี้สามีข้าก็บอกว่าพี่ชายใหญ่มาขอให้พาเด็กๆ กลับไปอยู่ที่เรือนด้านหน้าเช่นกันค่ะแต่เป็นข้าที่เกรงใจพี่สาวและพี่ชายใหญ่จึงขอเวลาคิดทบทวนดูก่อน” การต้องมาพึ่งพาอาศัยลูกพี่ลูกน้องของสามีเขาให้ที่อยู่ ที่กิน ให้อาชีพการงานนางก็เกรงใจมากแล้วแต่นี่ยังจะให้ไปอยู่ร่วมเรือนเดียวกันกับเจ้าของบ้านอีกเช่นนี้นางก็ยิ่งรู้สึกละอายใจอีกทั้งยังคิดว่าตัวเองยังไม่สามารถช่วยทำงานอะไรได้มากเพราะลูกยังเล็กอีกทั้งยังมีเด็กๆ ให้ต้องดูแลจึงยิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนใจไปกันใหญ่

“เหตุใดเจ้าจึงคิดว่าพี่และพี่ชายคล้ายกับเป็นคนอื่นเช่นนั้นเล่าจูเอ๋อร์ เจ้าเป็นสะใภ้สกุลจิวพี่ก็เป็นสะใภ้สกุลจิว สามีของเจ้าเป็นคนสกุลจิวและสามีของพี่ก็เป็นคนสกุลจิวซึ่งนั่นก็หมายความว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันอย่าได้คิดว่ามันเป็นการรบกวนหรือว่าทำให้พวกข้าต้องลำบากเลย ใจของพี่ชายเจ้าคืออยากให้พี่น้องที่ยังคงเหลืออยู่ของสกุลจิวได้มาอยู่ร่วมกัน ได้รับการศึกษา ได้มีอาชีพการงานหรือว่ามีกิจการที่มั่นคงให้ทำไปจนชั่วลูกชั่วหลาน 

สกุลจิวเหลือกันอยู่เพียงแค่นี้หากเราไม่ดูแลกันแล้วจะให้เป็นหน้าที่ของใครเล่าหลังพ้นเรื่องราวยุ่งๆ ของสำนักคุ้มภัยพี่ชายของเจ้ายังต้องการจะจัดการเรื่องการศึกษาของเด็กๆ ให้ด้วยนะในเมืองข้างๆ มีสำนักศึกษาอยู่แต่ถ้าหากอยากจะเรียนที่บ้านพี่ชายของเจ้าก็สามารถจัดการให้ได้เจ้าอย่าได้คิดว่าเป็นการรบกวนเลย”

คังอิงเสวี่ยไม่ได้ตั้งใจตำหนิอีกคนแต่ที่นางพูดเพราะอยากให้จิวเจียวจูเข้าใจถึงความต้องการของตัวนางและสามีไม่ได้ต้องการให้พี่น้องมานั่งเกรงใจกันจนทำตัวเหินห่างคล้ายเป็นคนอื่นเช่นนี้

ส่วนเรื่องการศึกษาของเด็กๆ นั้นจิวกังเป่าไม่ได้ละเลยแต่เพราะงานการต่างๆ ยังไม่ได้เข้าที่เข้าทางมากพอพวกเขาจึงอาศัยศึกษาเรียนรู้กันด้วยตนเองหรือจากที่จิวเกอตงและจิวอี้หมิงมาสั่งสอนในยามที่ว่างจากการทำงานแต่หลังจากพ้นหนาวนี้ไปชายหนุ่มตั้งใจที่จะปรึกษาเรื่องการศึกษาของเด็กๆ กับลูกพี่ลูกน้องของตนเองอย่างจริงจังโดยมีแนวโน้มว่าจิวกังเป่าจะเชิญอาจารย์มาสั่งสอนให้ที่เรือนมากกว่าส่งเด็กๆ ออกไปเรียนยังสำนักศึกษา

“จูเอ๋อร์เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณพี่สาวเหลือเกินนะเจ้าคะกลับไปถึงเรือนข้าจะไปคุยกับท่านพี่เรื่องย้ายกลับเข้าไปอยู่ที่เรือนหลักเจ้าค่ะ”