สามีที่ดีคือสามีใหม่แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ขอสามีเก่าเวอร์ชันอัปเกรด

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า - ตอนที่ 23 วันพักผ่อน ปลดเหรียญอ่านฟรี 8 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 15 เมษายน 68 โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ย้อนยุค,จีน,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า ,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,นางเอกเก่ง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ย้อนยุค,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า ,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,นางเอกเก่ง

รายละเอียด

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

สามีที่ดีคือสามีใหม่แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ขอสามีเก่าเวอร์ชันอัปเกรด

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

เมื่อบังเอิญได้มีโอกาสตายจริงวิญญาณของนางสาวอิงเสวี่ย แซ่คังได้เข้าไปอยู่ในร่างของคนที่มีชื่อและแซ่เดียวกัน เกิดวันเดือนปีเดียวกัน เวลาตายก็ดันมาตายพร้อมกัน และก็ไม่รู้ว่าจะตกใจอะไรมากกว่ากันดีระหว่างเรื่องที่เจ้าของร่างนี้ยังไม่เคยได้ร่วมหอกับสามีหรือว่าการที่ท่านรองแม่ทัพถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏแผ่นดินนางจึงต้องถูกเนรเทศมาอยู่ชายแดนให้ร่วมรับผิดชอบร่วมกันในฐานะภรรยาแต่จะส่งให้มามีชีวิตใหม่ทั้งทีก็อยากจะมีชีวิตอยู่แบบสบายๆ กับเขาบ้างท่านเทพแห่งโชคชะตากลับให้กันไม่ได้ยังคุมโทนชีวิตตีนถีบปากกัดอยู่เช่นเดิม

แล้วชีวิตที่เหมือนจะดีขึ้นกลับได้มาวุ่นวายเหมือนตายวันแรกอีกครั้งเมื่อสองปีให้หลังสามีที่หายลับเข้ากลีบเมฆไปได้กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเป็นผู้บริสุทธิ์โดยไร้สิ้นซึ่งข้อกล่าวหาแต่การจะกลับมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายแม้ฝ่ายภรรยาจะยื่นข้อเสนอให้หย่าขาดแล้วต่างคนต่างก็ไปเริ่มชีวิตใหม่แต่สามีกลับยืนยัน นั่งยัน นอนยันและสู้สุดใจว่าถึงอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมหย่าขาดจากนางอย่างแน่นอนแล้วเช่นนี้คุณหนูอิงเสวี่ยจะเลือกอะไรได้

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 1 สายตาคู่นั้น,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 2 เราควรมาหย่ากันให้มันจบๆ ไป,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 3 ร่วมชายคา,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 4 ว่าด้วยเรื่องของการค้าขาย,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 5 ความไว้วางใจ,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 6 ร้านค้าที่ไม่กล้าฝันใฝ่,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 7 สำนักคุ้มภัยสกุลจิว,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 8 ได้เวลาย้ายบ้าน,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 9 การปรับตัวครั้งใหญ่ในฐานะฮูหยินจิว,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 10 สามีสายเปย์,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 11 ร้านขนมหวานละมุน ปลดเหรียญอ่านฟรี 27 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 3 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 12 ข้าวห่อเหนียวหน้าหมูเค็ม หมูหวาน ปลดเหรียญอ่านฟรี 28 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 4 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 13 ความสัมพันธ์อันดี ปลดเหรียญอ่านฟรี 28 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 4 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 14 รายได้เป็นกอบเป็นกำ ปลดเหรียญอ่านฟรี 30 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 6 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 15 กลยุทธ์การขาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 31 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 7 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 16 พร้อมหน้าพร้อมตา ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 8 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 17 ครอบครัวใหญ่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 2 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 9 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 18 ความสุขไม่มีวันหมดอายุ ปลดเหรียญอ่านฟรี 3 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 10 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 19 ปรับทัศนคติ ปลดเหรียญอ่านฟรี 4 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 11 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 20 ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งที่ตามหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 5 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 12 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 21 หน้าหนาวกำลังจะมาถึง ปลดเหรียญอ่านฟรี 5 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 12 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 22 ปุยหิมะที่แสนอบอุ่น ปลดเหรียญอ่านฟรี 7 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 14 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 23 วันพักผ่อน ปลดเหรียญอ่านฟรี 8 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 15 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 24 ร้านขายข้าวเหนียวห่อหน้าหมู ปลดเหรียญอ่านฟรี 9 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 16 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 25 อิ่มหมีพีมัน ปลดเหรียญอ่านฟรี 10 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 17 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 26 ร้านอาหารคลังเสบียง ปลดเหรียญอ่านฟรี 11 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 18 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 27 มีอาการ ปลดเหรียญอ่านฟรี 12 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 19 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 28 การตัดสินใจครั้งใหญ่ของสกุลคัง ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 20 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 29 เมื่อเจ้าก้อนแป้งลืมตาขึ้นมาดูโลก ปลดเหรียญอ่านฟรี 14 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 21 เมษายน 68,เสวี่ยเอ๋อร์คนดีสามีจะไม่หย่า-ตอนที่ 30 เติมเต็มความสุข (จบ) ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 22 เมษายน 68

เนื้อหา

ตอนที่ 23 วันพักผ่อน ปลดเหรียญอ่านฟรี 8 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 15 เมษายน 68

ในที่สุดก็มาถึงวันที่หิมะตกหนักทับถมกันอยู่บนพื้นดินจนมีความสูงเกือบหนึ่งจั้งถึงอยากจะออกไปกวาดให้พ้นทางแต่ก็มิอาจทำได้เนื่องจากหิมะยังโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่องผู้คนจึงพากันขลุกตัวอยู่ในเรือนกันมากกว่ารวมถึงคนของทางสกุลจิวทั้งสายหลักสายรองที่ตอนนี้มารวมตัวกันอยู่ในห้องโถงหลักของเรือนพร้อมด้วยเตาไฟที่มีปล่องระบายควันออกไปด้านนอกห้องที่จุดเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อให้ความอบอุ่นเป็นการถือโอกาสได้อยู่ว่างๆ พักผ่อนกันไปในตัว

แต่การที่ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่มารวมตัวอยู่ด้วยกันหลายๆ วันเข้ามันออกจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อลำพังคนโตๆ ก็นั่งอ่านตำราทำบัญชีร้านค้า ปักผ้าไม่ก็นั่งเดินหมากฆ่าเวลากันไปได้แต่เด็กที่ต้องมานั่งนิ่งๆ อยู่นานๆ นั้นไม่ใช่เรื่องดีคังอิงเสวี่ยจึงกระซิบให้คนสนิทไปนำข้าวของที่นางจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใช้ทำกิจกรรมกับเด็กๆ เข้ามาให้

“เด็กๆ อยากมาทำอะไรสนุกๆ ด้วยกันหรือไม่” ทันทีที่ได้ยินคำว่าสนุกเด็กๆ อย่าจิวจินไฉ จิวเจียวฝางและจิวโยวอิงต่างก็ทำตาโตสลัดอาการง่วงซึมพากันลุกขึ้นจากที่นั่งมารุมล้อมรอบตัวของคังอิงเสวี่ยแทบจะทันทีและก็ไม่มีใครตำหนิพวกเขาเพราะเด็กๆ นั่งเล่นกันเงียบๆ มามากกว่าครึ่งวันแล้ว

“ท่านป้าสะใภ้จะชวนพวกเราเล่นอะไรหรือเจ้าคะ” เป็นจิวเจียวฝางสาวน้อยอายุย่างแปดหนาวที่ถามออกมาแทนทุกคนโดยนางชื่นชอบป้าสะใภ้ยิ่งนักเพราะมีขนมอร่อยๆ ให้นางกินอยู่เสมออีกทั้งยังเล่านิทานสนุกอีกด้วย

“วันนี้เราจะยังไม่เล่นกันหรอกเสี่ยวฝางแต่ป้าสะใภ้จะพาพวกเจ้าทำขนมอร่อยๆ กินกันนี่ก็ใกล้จะได้เวลาน้ำชาแล้วด้วย” เป็นจังหวะเดียวกันที่พี่ชุนหลิงและพี่ซีไอ่กลับเข้ามาในห้องโถงพร้อมตะกร้าใบใหญ่สองใบที่ใส่ทั้งวัตถุดิบและอุปกรณ์ทำขนมง่ายๆ มาสามสี่ชิ้นอันได้แก่หม้อใบเล็กที่มีฝาปิดสองใบ ชามอ่างขนาดใหญ่และชามสำหรับแบ่งขนมส่วนวัตถุดิบในการทำขนมก็มีแค่เมล็ดข้าวโพดทั้งแบบแห้งและแบบสดที่แกะออกจากซังนึ่งสุกมาเรียบร้อยแล้วเพื่อเป็นการประหยัดเวลา น้ำตาล เกลือและเนยสดที่คังอิงเสวี่ยใช้นมวัวสดๆ มาทำเองกับมือ

แม้เด็กผู้ชายจะไม่ค่อยชอบการทำอาหารแต่ทั้งจิวจินไฉและจิวโยวอิงต่างก็ล้อมวงเข้ามาหาคังอิงเสวี่ยด้วยความสนใจใคร่รู้เพราะอย่างน้อยๆ การได้ขยับเนื้อขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบถเสียบ้างก็ยังดีกว่านั่งง่วงซึมอยู่ท่าเดิมๆ ภายใต้บรรยากาศหนาวเหน็บและเงียบงันแห่งเหมันตฤดู

“ถ้าเช่นนั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าขนมหรือจะเรียกว่าของว่างที่เราจะทำกันนั้นคือข้าวโพดคั่วรสหวานและรสเค็มอีกอย่างหนึ่งคือข้าวโพดคลุกเนยน้ำตาล เจ้าก้อนสีเหลืองอันนี้ทำมาจากนมวัวมันเรียกว่าเนยเป็นอาหารที่สำคัญของพวกพ่อค้าผมแดงเขาจะใช้มันต่างน้ำมันในการปรุงอาหารรับประทานเหมือนกับเราที่ใช้น้ำมันจากไขมันของหมูนั่นแหละ” คังอิงเสวี่ยอธิบายถึงวัตถุดิบแปลกตาที่สุดในที่ก่อนจะขออาสาสมัครจากเด็กๆ ทั้งสามคน

เป็นจิวจินไฉลูกพี่ลูกน้องของสามีและเป็นเด็กโตที่สุดในที่นี้ยกมือขอเป็นผู้ช่วยคนที่หนึ่งนางจึงสอนให้เขาตัดเนยใส่ลงไปในหม้อพอประมาณจากนั้นก็นำไปอังบนเตาไฟให้เนยละลายเป็นน้ำจากนั้นก็กอบเมล็ดข้าวโพดดิบแห้งใส่ลงไปหนึ่งกำมือเล็กๆ โรยเกลือจากนั้นก็ปิดฝานำกลับขึ้นไปตั้งไฟอีกครั้ง

เมื่อมีเสียงแตกเปรี๊ยะๆ ดังออกมาจากในหม้อคังอิงเสวี่ยจึงให้เด็กน้อยเขย่าหม้อเบาๆ ไปมารอจนกระทั่งเสียงเงียบลงจึงจัดการเปิดฝาหม้อ

“หอมจังเลยขอรับพี่สะใภ้” จิวจินไฉยิ้มกว้างเมื่อเห็นเมล็ดข้าวโพดสีเหลืองแห้งๆ กลายเป็นสีขาวพองๆ คลายข้าวตอกที่เคยเห็นแต่มันแตกต่างกันตรงที่ข้าวโพดในหม้อนั้นมีกลิ่นที่หอมกว่ามาก

“เทใส่ชามตรงนั้นรอให้เย็นลงสักครู่ก็กินได้แล้วแต่ขนมชนิดนี้เสียอย่างเดียวตรงที่ต้องลมไม่ได้เลยเพราะจะทำให้เหนียวต้องแบ่งออกมากินทีละน้อยส่วนที่เหลือก็เก็บใส่เอาไว้ในกล่องหรือไหที่ปิดสนิท เอาล่ะต่อไปเป็นข้าวโพดคั่วรสหวานใครจะเป็นคนลองทำดี”

ข้าวโพดคั่วอีกรสนั้นจิวโยวอิงเป็นคนยกมืออาสาซึ่งวิธีการทำก็ไม่ต่างจากข้าวโพดคั่วรสเค็มเพียงแค่เปลี่ยนจากเกลือเป็นน้ำตาลและต้องเคี่ยวให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกันไปกับเนยจึงจะใส่เมล็ดข้าวโพดแห้งตามลงไปได้ดูแล้วเด็กๆ น่าจะถูกใจกับข้าวโพดคั่วรสหวานแต่สำหรับผู้ใหญ่นั้นกลับชอบรสเค็มมากกว่ายิ่งจิบชาหอมๆ ตามไปยิ่งทำให้รู้สึกดี

แน่นอนว่าจิวเจียวฝางจะต้องเป็นคนทำขนมชนิดที่สามคังอิงเสวี่ยสอนให้นางตักข้าวโพดนึ่งสุกใส่ลงไปในหม้อจากนั้นก็เติมเนยกะให้พอเคลือบเมล็ดข้าวโพดทั้งหม้อให้ทั่วแต่จะไม่ใส่เยอะเกินไปจนมันเยิ้ม น้ำตาลก็เติมลงไปให้พอหวานปะแล่มๆ สุดท้ายคือตัดรสชาติให้กลมกล่อมด้วยเกลือเพียงหยิบมือเท่านั้นก็เพียงพอ

ระหว่างที่นำหม้อขึ้นตั้งไฟเบาๆ เด็กหญิงต้องคอยคนเมล็ดข้าวโพดในหม้อไปด้วยจนกว่าเนยจะละลายและส่วนผสมทั้งหมดเคลือบเมล็ดข้าวโพดจนทั่วดีก็สามารถตักแบ่งใส่ชามรับประทานตอนอุ่นๆ ได้เลย ท้ายที่สุดแล้วขนมที่ได้ใจเด็กๆ ไปในวันนี้ก็คือข้าวโพดคลุกเนยเพราะมันทั้งหวาน ทั้งหอมอีกทั้งเมล็ดข้าวโพดนึ่งก็ยังนุ่มไม่แข็งแห้งเหมือนข้าวโพดคั่วแต่พวกเขาก็สามารถกินกันได้หมดทั้งสองอย่างไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด

“เจ้าไปเอาสูตรอาหารและขนมมาจากไหนมากมายนักแต่ละอย่างก็ล้วนแต่แปลกใหม่พี่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” จิวกังเป่าถามภรรยาที่นั่งเคี้ยวข้าวโพดคลุกเนยจนแก้มเป็นก้อนกลมคล้ายเด็กกำลังอมข้าวอยู่ในตอนนี้

“ข้าเพียงจดจำจากการที่ได้สนทนากับพ่อค้าผมแดงรวมถึงดัดแปลงจากในตำราอาหารที่เคยอ่านมาจากนั้นก็นำมาลองผิดลองถูกลองชิมจนมันได้รสอร่อยถูกใจจึงลองทำออกมาให้ทุกคนได้ชิมกัน ในหัวของข้าจดจำหลายสิ่งหลายอย่างเอาไว้เป็นร้อยเป็นพันเวลาว่างๆ ก็จะเอาสิ่งนั้นมาผสมสิ่งนี้ทดลองปรุงดูเผื่อจะค้นพบสูตรอาหารหรือสูตรขนมใหม่ๆ ทำออกมาวางขายที่ร้านและทำให้คนในครอบครัวรับประทานกัน”

คังอิงเสวี่ยตอบตามความจริงกว่าเจ็ดส่วนเพราะนอกจากสูตรอาหารที่เรียนรู้มาจากตำราและการพูดคุยกับพ่อค้าผมแดงจริงๆ แล้วอีกส่วนหนึ่งคือนางได้มาจากความทรงจำในชีวิตก่อนที่ไม่สามารถเอ่ยปากบอกกับใครได้จริงๆ มิเช่นนั้นนางอาจจะถูกมองว่าเป็นปีศาจหรือวิญญาณผีร้ายสุดท้ายแล้วก็จะถูกจับถ่วงน้ำฆ่าให้ตายเอาง่ายๆ เลย

หลังจากกินของว่างกันเสร็จแล้วเด็กๆ ก็ดูจะคึกคักและมีชีวิตชีวาขึ้นมากพวกผู้ใหญ่ก็เดินหมากประชันกันอย่างออกรสออกชาติรวมไปถึงเจ้าก้อนแป้งจิวจวิ้นจุนที่แม้จะไม่ได้กินอะไรกับเขาก็ยังร่าเริงตามเสียงหัวเราะของพี่ชายพี่สาวไปด้วยเลย

“ข้าเองก็อยากฝึกทำอาหารและทำขนมกับพี่สาวนะเจ้าคะแต่ก็ติดเจ้าก้อนแป้งที่ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิดแต่ข้าตั้งใจเอาไว้แล้วว่าถ้าหากจุนเอ๋อร์รู้ความมากกว่านี้สักหน่อยจะไปขอเรียนวิชาการครัวกับท่าน” สำหรับจิวเจียวจูนั้นนางมองคังอิงเสวี่ยไม่ต่างจากเห็นเทพเซียนด้วยพี่สาวคนนี้หยิบจับอะไรก็ออกมาเป็นอาหารที่หน้าตาน่ารับประทานไปเสียหมดอีกทั้งความคิดความอ่านของนางก็ช่างแตกต่างจากคุณหนูในห้องหอที่นางคบหามาทั้งชีวิต

ทุกวันนี้พี่สาวที่มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของสกุลจิวเป็นแรงกำลังสำคัญในการช่วยพี่ใหญ่ดูแลสำนักคุ้มภัยและร้านค้าในเมืองชายแดนแห่งนี้น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักคนสกุลจิวใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าคนสกุลนี้เป็นเจ้าของสำนักคุ้มภัยฝีมือดีและร้านขนมที่มีรสชาติอร่อยเป็นอันดับหนึ่งของอำเภอเลยก็ว่าได้

“เอาไว้จุนเอ๋อร์หย่านมก่อนก็ยังไม่สายเจ้าสามารถพาเขาไปที่ร้านได้ตลอดเวลาที่นั่นมีท่านน้าท่านป้าหลายคนที่ช่วยดูแลเด็กเล็กได้เพราะมีหลายบ้านที่ลูกเล็กต้องติดสอยห้อยตามมารดาหรือพี่สาวไปทำงานที่ร้านขนม”

เพราะแม่ครัวทั้งหมดของคังอิงเสวี่ยเป็นภรรยาไม่ก็มารดาหรือญาติพี่น้องของทหารที่ปลดประจำการแล้วบางบ้านก็ยังมีลูกหลานตัวเล็กตัวน้อยที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเถ้าแก่เนี้ยก็อนุญาตให้พาเด็กๆ ไปที่ร้านได้แต่จะมอบหมายให้เด็กที่โตแล้วช่วยกันดูแลน้องไม่ให้มาวุ่นวายที่ในครัวเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากฟืนไฟ

ส่วนมากเด็กๆ จึงเล่นกันอยู่บริเวณลานกว้างหลังร้านไม่ก็ช่วยทำงานง่ายๆ อย่างการคัดเมล็ดถั่วที่เสียออกไม่ก็ล้างผักและผลไม้ในช่วงบ่ายก็ไปนอนกลางวันกันที่เรือนพักด้านหลังไม่มีใครโยเยวุ่นวายอีกทั้งยังมีผู้ใหญ่สลับกันไปดูทุกๆ หนึ่งชั่วยามจึงมั่นใจได้ว่าเด็กทุกคนอยู่ดีมีความสุขและปลอดภัย

“อันที่จริงหลังพ้นหน้าหนาวนี้ข้าตั้งใจจะเปิดร้านขายข้าวเหนียวห่อหน้าหมูแยกออกไปเป็นสัดส่วนตั้งใจจะทำให้เป็นร้านอาหารพร้อมรับประทานที่มีรายการอาหารสองสามอย่างหมุนเวียนกันไปแต่ส่วนมากจะขายอาหารที่สามารถกินกับข้าวเหนียวได้และสามารถเก็บไว้กินระหว่างเดินทางได้ถึงสองสามวัน ที่สำคัญคือขายกับข้าวที่เป็นอาหารแห้งใช้เป็นเสบียงในการเดินทางได้ดีจูเอ๋อร์สนใจไปดูแลร้านค้าให้พี่หรือไม่”

คังอิงเสวี่ยมีความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวหลังจากที่เปิดขายและรับจองเนื้อหมูตากแห้งเป็นเสบียงสำหรับหน้าหนาวนางคิดว่ามันน่าจะทำเงินได้ดีจึงอยากจะเปิดกิจการแยกไปอย่างจริงจังแต่ติดที่ยังหาคนดูแลไม่ได้สักที่พี่ชุนหลิงและพี่ซีไอ่ก็ยังไม่อยากรับเพราะคิดว่าตนเองยังมีความสามารถไม่พอแต่ตัวของคังอิงเสวี่ยคิดว่าพวกนางคงเกรงใจมากกว่าจึงนำเรื่องนี้มาลองปรึกษาคนสกุลจิวดูก่อน

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ข้าไม่กล้ารับปากหรอกเจ้าค่ะพี่สาวหากทำให้การค้าพี่เสียหายขึ้นมาคงไม่มีปัญญาจะชดใช้ได้” จิวเจียวจูเป็นคุณหนูที่ถูกสอนให้เรียนรู้แต่เรื่องของงานบ้านงานเรือนและศึกษาวิธีปรนนิบัติสามีนางจึงไม่ค่อยกล้าที่จะทำในสิ่งที่คังอิงเสวี่ยทำเมื่อถูกถามเช่นนี้นางจึงรีบปฏิเสธแบบที่ไม่ต้องตรึกตรองอะไรก่อนเลย

“หากไม่ลองก็คงไม่รู้เจ้าเองก็เคยมาช่วยพี่ทำเนื้อหมูปรุงรสก็พอรู้ขั้นตอนในการทำอยู่บ้างแต่เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องการทำอาหารพี่จะคัดเลือกพ่อครัวและแม่ครัวให้เองให้พวกเขาทำหน้าที่ในส่วนนี้ไปเพราะถึงอย่างไรก็ต้องทำตามสูตรอยู่แล้วส่วนเจ้านั้นมีหน้าที่จัดการบริหารร้านและต้อนรับลูกค้าเช่นที่พี่ทำเอาไว้อากาศอุ่นลงเราลองไปนั่งสังเกตการณ์ที่ร้านดู” พี่สะใภ้อธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผลนางต้องการให้จิวเจียวจูมาดูร้านค้าจริงๆ เพราะต่อไปในภายภาคหน้าร้านค้านี้ยังสามารถส่งต่อให้ลูกๆ ของนางได้

“จูเอ๋อร์พี่ก็คิดว่าเจ้าควรจะลองทำดูนะอย่างน้อยๆ การออกไปพบปะผู้คนบ้างจะได้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในบ้านหากมีอะไรก็มาปรึกษาพี่สะใภ้หรือพี่ชายได้เสมอไม่มีใครทอดทิ้งเจ้าให้ทำงานตามลำพังอย่างแน่นอน” จิวเกอตงสามีของนางเป็นคนเอ่ยปากสนับสนุนเพราะตั้งแต่ภรรยาเดินทางติดตามเขามาอยู่ที่นี่ความสดใสของนางจางหายไปกว่าครึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ทุกๆ วันนี้สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้มีเพียงแค่ลูกและเขาเท่านั้นตัวจิวเกอตงจึงอยากให้นางได้ออกไปเห็นโลกภายนอกที่สวยงามบ้างเผื่อความร่าเริงสดใสที่จางหายไปนั้นจะคืนกลับมา

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสกุลจิวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทำให้บุตรหลานหลายต่อหลายรุ่นได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้าแต่วันนี้พี่ชายของพวกเขาพยายามรวบรวมพี่น้องสกุลจิวเข้าไว้ด้วยกันให้ชีวิตใหม่ ให้อาชีพ ให้อนาคตดังนั้นหากมีสิ่งที่พอจะทำได้เพื่อความเจริญรุ่งเรืองทั้งของสกุลจิวและครอบครัวเล็กๆ ของจิวเกอตงคิดว่าควรที่จะเปิดใจลองดู