"ภีม ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นหาเงินจนลืมหัวใจ แต่เมื่อพรจากพระแม่ลักษมีพ่วงสามหนุ่มสุดป่วนมาด้วย ชีวิตที่เคยแน่วแน่กลับเต็มไปด้วยความวุ่นวาย และคำถามสำคัญ — สิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ คืออะไรกันแน่?
ตลก,รัก,ชาย-ชาย,ยุคปัจจุบัน,พล็อตสร้างกระแส,วายบันเทิง,คู่กัด,ปากร้าย,ปากแข็ง,ตกหลุมรัก,ตลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พระแม่ครับ..พรที่ขอ..ผมขอคืน"ภีม ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นหาเงินจนลืมหัวใจ แต่เมื่อพรจากพระแม่ลักษมีพ่วงสามหนุ่มสุดป่วนมาด้วย ชีวิตที่เคยแน่วแน่กลับเต็มไปด้วยความวุ่นวาย และคำถามสำคัญ — สิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ คืออะไรกันแน่?
##เมื่อชีวิตมันติดบั๊ก##
ภีมวัจน์ เจ้าหนุ่มไรเดอร์สุดแกร่ง x เจียหยาง หนุ่มลูกครึ่งสุดร้าย และหนุ่มๆ รอบตัว ที่ชวนปวดหัวในแต่ละวัน
เอริค ฮาเกน นักธุรกิจหนุ่มสายเนียน และ ฮารุ หนุ่มรุ่นน้อง ตัวดีที่รู้ทันทุกอย่าง!)
"ก็แค่หาเงินเลี้ยงปากท้อง… แต่ทำไมดันไปติดบั๊กหมาป่าเจ้าเล่ห์ เจ้าหมาโกลเด้นจอมปลอมเจ้าแผนการ และเสือที่พร้อมจะขย้ำได้ตลอดเวลา?"
ภีมวัจน์ เจ้าหนุ่มนักสู้ชีวิต สายหาเช้ากินค่ำ ผู้ใช้ชีวิตแบบ "ไม่กินบุญใคร" เช้าเป็นพนักงานบริษัท เย็นขับไรเดอร์หาเงินเสริม อุดมการณ์ชัดเจน "ผมไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใคร" แต่แล้วชีวิตก็เหมือนโดนโกงเมื่อเจอ หลี่เจียหยาง หนุ่มลูกครึ่งสุดเพอร์เฟกต์ที่ดูเหมือนจะ "มีแต่ให้" ...แต่แปลกที่เจ้าตัวกลับมองเขาด้วยสายตาล้อเลียนทุกครั้ง
???? จากไรเดอร์ส่งอาหาร สู่ของหวาน(?) ของใครบางคน
“คุณไรเดอร์ครับ เหนื่อยมั้ย?”
“...อะไรของนาย?”
??”? บั๊กแรก: เสือร้ายจอมขี้แกล้ง ??”?
เจียหยาง ลูกครึ่งจีน-เยอรมัน หล่อ รวย แถมขี้แกล้งระดับเทพ(?) ชอบหาเรื่องปั่นประสาทภีมทุกครั้งที่เจอ “ฉันอยากเลี้ยงแมวส้ม” เขาพูดเปรยๆ ก่อนจะเหลือบมองภีมที่กำลังทำหน้าเหมือนจะข่วนใส่!
??”? บั๊กสอง: หมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ ??”?
เอริค ฮาเกน มหาเศรษฐี/นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งนอร์เวย์ เจ้าของบริษัทที่ภีมต้องคอนซัลต์งานให้ ดันสนใจหนุ่มไรเดอร์คนนี้เข้าอย่างจัง... “เธอนี่เหมือนลูกจิ้งจอกจริงๆ นะ ระแวงไปหมด” ภีมขมวดคิ้ว เอริคแค่ยิ้มมุมปาก “แต่ฉันชอบจิ้งจอกนะ”
??”? บั๊กสาม: หมาโกลเด้นท์ผู้รู้ทันทุกอย่าง ??”?
ฮารุ เพื่อนสนิทตัวดีของภีมที่ไม่เคยพลาดสังเกตอะไร! ผู้คอยดูแลใส่ใจตลอด แต่แท้จริงแล้วกลับซ่อนความคลั่งรัก และความรักที่ยึดติด “ให้ผมเป็นหมาน้อยของภีมได้มั๊ยครับ? ผมอยากมีภีมเป็นเจ้าของของผมคนเดียว”
??”? แค่พล็อตเบสิค แต่บั๊กเยอะจนคาดไม่ถึง ??”?
✔️ ฮาแตกทุกซีน กับมุกจิกกัดสุดเฉียบของภีมที่รับมือกับพวกตัวร้าย(?)
✔️ เคมีระหว่างคนซื่อตรง vs คนเจ้าเล่ห์ มันคือสงครามประสาทที่ไร้ผู้ชนะ
✔️ หักมุมยิ่งกว่าถนนในเมือง ชีวิตภีมแค่จะหาเงิน แต่ทำไมมันกลายเป็นละครวายไปได้!?
???? เตรียมตัวให้พร้อมกับนิยายวายสุดปั่น! ที่พระเอกสู้ชีวิต…แต่ชีวิตติดบั๊ก!
#หนุ่มไรเดอร์สายลุย #แต่จะดันโดนหมาป่าจับกิน #ปากร้ายจิกกัด #หักมุมตลอดเรื่อง
ภีมปิดจ๊อบงานไรเดอร์ในวันนี้
อย่างน้อยก็ยังโชคดีที่ได้งานพาร์ทไทม์นี้แบบปาฏิหาริย์
หรือเขาควรจะอธิษฐานขอพรพระแม่บ่อยๆ บ้างก็น่าจะดีนะ?
เขาเดินตามพี่วัฒน์ไปตามทางเดินในคอนโด จนถึงห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง
เพื่อไปพบพี่เหมี่ยว สตรีสูงวัยร่างท้วม ผิวสองสี เธอเป็นอีกคนที่ดูแลเรื่องแม่บ้านในคอนโด
ภีมยกมือไหว้ตามสัญชาตญาณ
“เอ่อ สวัสดีครับพี่” เขาพนมมือไหว้อย่างเรียบร้อย
“ผมชื่อภีมครับ... มาทำพาร์ทไทม์ทำความสะอาดวันแรก”
ภีมยกมือไหว้พี่เหมี่ยวอย่างอ่อนน้อม จนพี่วัฒน์ไม่ทันต้องแนะนำ
พี่เหมี่ยวยิ้มรับไหว้แบบงงๆ เมื่อเห็นหนุ่มน้อยในชุดไรเดอร์เดินเข้ามากับวัฒน์ คนดูแลอาคาร
“เออดีๆ ดูหน่วยก้านดี นอบน้อมแบบนี้ หายากเด้อเด็กสมัยนี้ หน้าตาน่ารักจังล่ะเรา คนจังหวัดไหนล่ะน่ะ?”
พี่เหมี่ยวถามด้วยความเอ็นดู
ภีมยิ้มแห้งๆ “ผมคนขอนแก่นครับพี่”
“พี่เหมี่ยว น้องมันมาทำพาร์ทไทม์แทนพี่แหม่ม ห้องคุณเอริคน่ะ”
พี่วัฒน์บอก ขณะที่ภีมกำลังล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกระเป๋าสตางค์สีเข้มใบน้อย
เปิดหยิบบัตรประชาชนยื่นให้พี่เหมี่ยวเพื่อเตรียมเอกสาร
“เดี๋ยวนะ!! ห้องคุณเอริคเชียวนะ ได้ไงน่ะ? เดือนนี้รายที่ 3 แล้วนะ ห้องนั้นน่ะ! น้องมันจะไหวหรอ? ยังเด็กอยู่เลย
ประสบการณ์ยังไม่มีมากเลยมั้งน่ะ ไอ้หนู อย่าร้องไห้กลับไปซะก่อนล่ะ”
พี่เหมี่ยวพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ขณะรับบัตรประชาชนมาดูอายุ
พอเห็นตัวเลขในบัตร พี่เหมี่ยวถึงกับทำหน้าตกใจ
“ตายแล้ว!! 25 ปีนี้ เบญจเพสเลยนะนี่! ไปอาบน้ำมูกน้ำมนต์ที่ไหนมาบ้างรึยังล่ะลูก?”
เธอพูดขณะยื่นกระดาษให้ภีมกรอกรายละเอียด
ภีมรับกระดาษมาเตรียมกรอก พลางหัวเราะเบาๆ
“ยังครับ ยังไม่ตาย ผมไม่เคยอาบเลยครับ ยังไม่เคยไปเลยด้วย ถ้าพี่เหมี่ยวมีที่ดีๆ
แนะนำก็บอกผมบ้างนะครับ เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้นมาบ้าง”
เขายิ้มขำๆ และแซวพี่เหมี่ยวกลับ เพราะแม้จะไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงมากนัก
แต่พอเจอเหตุการณ์ในชีวิตช่วงนี้ ก็อดคิดไม่ได้ว่าบางทีพรพระแม่ลักษมีอาจช่วยเขาจริงๆ ก็ได้
+++++++++++++++++++
ภีมเปลี่ยนชุดแม่บ้านเรียบร้อยตามแบบฟอร์ม
ด้วยช่วงไหล่กว้างและรูปร่างที่สูงชะลูดราว 177 ซม.
หุ่นสมส่วนแบบ lean muscular ที่ดูแข็งแรง แต่ไม่ได้ล่ำจนเกินไป
เมื่อสวมชุดพนักงานทำความสะอาดเสื้อคอปกสีฟ้ากลับดูดีอย่างประหลาด
เส้นผมน้ำตาลอ่อน มีโทนแดงเบา ๆ คล้ายสีขนจิ้งจอก แต่ไม่ออกส้มมากเกินไป เมื่อกระทบแสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่าง
ก็ยิ่งเผยให้เห็นประกายแดงจาง ๆ ตามธรรมชาติ
เจ้าหนุ่มคิ้วเข้มเดินมาพบพี่เหมี่ยว
“โห!! เป็นนายแบบได้สบายเลยนะเราน่ะ” พี่เหมี่ยวแซวพลางกวาดตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
ภีมยกมือเกาหัวแก้เก้อ "ไม่เอาครับพี่ ผมเขินกล้อง ไม่ชอบอะไรแบบนั้นด้วย"
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขามักดูอ่อนโยน แต่หากสังเกตดี ๆ จะพบว่ามีความเฉียบคมบางอย่างซ่อนอยู่
คิ้วเข้มและดวงตาทรงเหยี่ยว หางตาชี้เล็กน้อย ส่งให้ใบหน้าคมชัดสไตล์เอเชีย
ดูเฉียบแต่ก็แฝงความอบอุ่น คล้ายกับภาพลักษณ์ของ "เจนนี่ BLACKPINK" เวอร์ชันผู้ชาย
พี่เหมี่ยวยิ้มขำก่อนพาเขาไปแนะนำตัวกับ ป้าต้อย
ป้าต้อยเป็นแม่บ้านรุ่นใหญ่ที่ดูแลระบบงานทำความสะอาดของคอนโดแห่งนี้
เธออายุราว 60 ปีขึ้นไป รูปร่างท้วมเล็กน้อย ผมสองสีที่ไม่ผ่านการย้อม ใบหน้าดูใจดี
แต่ก็จริงจังกับงาน ท่วงท่ากระฉับกระเฉง คล่องแคล่วสมกับประสบการณ์
ภีมยกมือไหว้ก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัด
“สวัสดีครับคุณป้า ผมชื่อภีมครับ มาทำพาร์ทไทม์วันแรก ห้องของคุณเอริค ฝากตัวด้วยนะครับ”
ปากอาจจะพูดทีหลัง แต่มือยกไหว้ไปก่อนแล้วโดยอัตโนมัติ ด้วยความเคยชิน
ป้าต้อยหัวเราะน้อย ๆ อย่างเอ็นดู “เออมือไม้อ่อนดี เรียกว่าป้าต้อยก็ได้ ป้าทำที่นี่มานานแล้ว... ยังเด็กอยู่เลย ไหวมั้ยล่ะเรา?”
สายตาของป้าต้อยพิจารณาเด็กหนุ่มตรงหน้า ตั้งแต่ไหล่กว้าง ใบหน้าคมเฉี่ยว
ไปจนถึงดวงตาเฉียบคมที่แม้จะดูเป็นมิตร แต่ก็แอบมีแววแสบซนซ่อนอยู่
"ไหวครับป้าต้อย ผมเคยทำงานทำความสะอาดร้านอาหารมาก่อนบ้างแล้ว ทั้งอบรมพื้นฐานก็พอได้" ภีมตอบหนักแน่น
ป้าต้อยยิ้มพอใจที่เห็นความกระตือรือร้นของเขา
"ก็ดี เดี๋ยวป้าสอนงานให้ แล้วไปห้องคุณเอริคกัน"
ป้าต้อยพาภีมไปที่ตู้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด เธอแนะนำอุปกรณ์แต่ละชิ้นอย่างละเอียด
ตั้งแต่ประเภทของผ้าที่ต้องใช้กับงานแต่ละประเภท ห้ามใช้ปะปนกัน รวมถึงน้ำยาทำความสะอาดที่ต้องเลือกให้เหมาะสม
เพราะหากใช้ผิดประเภท อาจทำให้พื้นผิวเสียหายได้ เธอสังเกตว่าเจ้าหนุ่มตรงหน้ามีแววตาประกาย
แสดงความสนใจและตั้งใจฟัง ทั้งที่ด้วยรูปร่างหน้าตาแบบนี้ ดูแทบไม่เหมาะกับงานลำบากเช่นนี้นัก—
แต่ก็คงต้องรอดูต่อไปว่าเขาจะผ่านบททดสอบนี้หรือไม่
เมื่ออธิบายเสร็จ ป้าต้อยยื่นคีย์การ์ดให้เขา
"นี่คีย์การ์ดของห้องคุณเอริค สำคัญมากนะ ใช้เปิดประตูได้
แต่ถ้าใช้เสร็จให้เอาไปคืนที่เคาน์เตอร์ ห้ามทำหายเด็ดขาดล่ะ!!" เธอย้ำกับภีม
ภีมรับมาอย่างระมัดระวัง และใส่กระเป๋ากางเกงไว้ก่อนจะเดินตามป้าต้อยไปยังชั้นบนสุดของคอนโด
ระหว่างทางเธอก็กำชับเขาอย่างจริงจังอีกครั้ง
"จำไว้นะไอ้หนู คุณเอริคน่ะเป็นคนเจ้าระเบียบมาก กระจกต้องไม่มีรอย พื้นก็ห้ามมีฝุ่น ห้องน้ำต้องเอี่ยม และที่สำคัญที่สุด..."
"คืออะไรเหรอครับ?" ภีมเลิกคิ้วสงสัย
"ต้นไม้ในห้องของเขา"
"ต้นไม้?"
"ใช่ คุณเอริคเลี้ยงต้นไม้ไว้หลายต้น พวกพนักงานบางคนไม่ใส่ใจ รดน้ำมากไปรากก็เน่า
หรือบางทีลืมรดจนน้ำต้นไม้เหี่ยว ก็โดนตำหนิไปหลายรายแล้ว" ป้าต้อยเน้นย้ำตรงจุดนี้แน่นหนัก
"เข้าใจแล้วครับ ผมจะระวัง" ภีมพยักหน้าอย่างตั้งใจ
จากนั้นป้าต้อยแตะคีย์การ์ดเปิดประตูห้องคุณเอริค
++++++++++++++++++++++++++++++++
ทันทีที่ประตูเลื่อนเปิดออก ห้องชุดหรูในสไตล์โมเดิร์นเรียบง่ายก็เผยให้เห็น
ภายในที่ดูสะอาดเป็นระเบียบ ทว่าหากสังเกตดี ๆ จะเห็นฝุ่นเกาะตามขอบเฟอร์นิเจอร์
และพรมที่เหมือนจะไม่ได้ดูดฝุ่นมาสักพัก กระจกบางบานมีรอยนิ้วมือจาง ๆ
ส่วนต้นไม้ประดับราคาแพงที่ตั้งอยู่ตรงระเบียงก็ดูเริ่มเฉาเล็กน้อย
ใจกลางห้องโถงเป็นพื้นที่โล่งที่เชื่อมต่อห้องนั่งเล่นกับครัวเปิด โซฟาสีขาวตัวใหญ่ตั้งอยู่หน้าทีวีจอใหญ่
โต๊ะกาแฟกระจกใสตั้งอยู่กลางห้อง เสริมความเรียบหรูด้วยพรมสีเทาเข้ม
ส่วนครัวติดเคาน์เตอร์หินอ่อนสีดำดูทันสมัยและสะอาดสะอ้าน มีเก้าอี้บาร์เรียงตัวอยู่ด้านหน้า
เพิ่มความรู้สึกเป็นพื้นที่ใช้สอยแบบมินิมอล
แสงแดดยามบ่ายสาดผ่านกระจกบานใหญ่ เชื่อมต่อไปยังระเบียงกว้างที่เต็มไปด้วยกระถางต้นไม้ดูแลอย่างดี—
หรืออย่างน้อยก็เคยเป็นเช่นนั้น
ภีมกวาดตามองรอบห้อง เผลอคิดในใจ... ห้องนี้สะอาดก็จริง แต่ดูเหมือนขาดการดูแลในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ
"ม่ะ!! เริ่มงานกันเลยดีกว่า" ป้าต้อยว่า พร้อมมองภีมอย่างจับตาดูว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหน
“ไหนยัยแหม่มบอกว่าทำแล้ว? ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ ก็สมควรแล้วที่จะโดนคุณเอริคตำหนิ”
ป้าต้อยยืนท้าวสะเอว บ่นถึงคนที่ลาออกกระทันหัน
“งั้นป้าจะปล่อยให้เราทำเองละนะ เดี๋ยวจะมาตรวจอีกทีตอนเสร็จ” เธอเงยหน้าบอกเจ้าหนุ่มน้อยร่างสูง
“ได้เลยครับป้าต้อย ขอบคุณมากครับ” ภีมยิ้มสดใส ทำมือตะเบ๊ะ แบบทหารรับคำสั่ง
กลิ่นเงินนี่มันหอมดีจริงๆ มีแรงทำงานขึ้นมาทันทีเลย
“ดีๆ เอาล่ะ งั้นเดี๋ยวป้าไปทำที่อื่นต่อ มีอะไรก็เรียกล่ะ”
เธอยิ้มพยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกไป
ภีมยืนอยู่ในห้อง พร้อมอุปกรณ์ในมือ เขาสูดลมหายใจลึกๆ มองรอบๆ ห้องราวกับกำลังประเมินสถานการณ์
“เอาล่ะเว้ย! เงินมางานเดิน”
Let’ s start!!!!.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เจ้าเด็กตาชี้ หน้าเหวี่ยง หยิบหูฟังไร้สายมาใส่ พร้อมเปิดเพลงโปรดจากโทรศัพท์ของตัวเอง
จากนั้นก็เริ่มลงมือทำงานอย่างรู้งานและคล่องแคล่ว
ร่างสูงโปร่งค่อยๆ ไล่ทำไปทีละส่วน ทั้งเช็ดกระจก ขยับโยกตัวตามจังหวะเพลงอย่างเป็นธรรมชาติ
เดินดูดฝุ่นไปพลาง ก็หมุนตัวเล่นกับเครื่องดูดฝุ่นไปตามจังหวะ เขาใช้มือเรียวใช้ไม้ปัดฝุ่นเช็ดขอบโต๊ะอย่างชำนาญ
ภีมทำท่าร้องเพลง ไปกับด้ามไม้ปัดฝุ่นด้วยอารมณ์สนุกสนาน ก่อนจะหยิบผ้าตามประเภทมาเช็ดโต๊ะกาแฟ
เก็บของให้เข้าที่ และจัดระเบียบห้อง
แต่สิ่งที่ภีมไม่รู้ก็คือ… มีใครบางคนกำลังจับดูเขาอยู่ผ่านกล้องวงจรปิดตัวเล็กที่เอริคซ่อนไว้
+++++++++++++++++++++++
หนุ่มตาน้ำข้าว เอริค เจ้าของห้องพักผู้มีความสูงเกือบ 190 ซม.
เส้นผมสีบลอนด์ทองธรรมชาติที่ดูอ่อนลงเมื่อกระทบแสงแดด
ถูกจัดเซ็ตอย่างลวกๆ แต่ยังดูดี สีตาฟ้าอมเทาแฝงประกายเย็นชา
ทว่าในบางครั้งกลับดูอบอุ่น ชายหนุ่มนั่งเอนสบายอยู่ในออฟฟิศ
เขาเท้าคางพลางกวาดสายตามองจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า อย่างเบื่อหน่าย
ใบหน้าคมสัน โครงหน้าชัด กรามเด่น ดั้งโด่ง หน้าผากกว้าง รูปหน้าเป็นเอกลักษณ์ของชาวสแกนดิเนเวียนแท้ ขับให้ดูเด่น
รูปร่างสูงโปร่ง แต่ยังเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นได้รูปของคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ อยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตกึ่งทางการแบรนด์ดังราคาแพง
สายที่โทรเข้ามาวันนี้ พี่วัฒน์แจ้งข่าวเรื่องเด็กพาร์ทไทม์คนใหม่ พร้อมทั้งรับรองเจ้าหนุ่มคนนั้นด้วยตัวเอง
เอริคอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมพี่วัฒน์ ถึงออกตัวรับประกันขนาดนั้น?
เขาเองก็อยากจะเห็นกับตาว่า เจ้าเด็กคนนี้จะทำได้ดีกว่าคนก่อนๆ หรือเปล่า
เพราะแม่บ้านที่ผ่านๆ มาแทบไม่ทำอะไรเลย บางคนมาแค่ปัดๆ เช็ดๆ
แถมบางคนยังแอบเปิดแอร์ เปิดทีวี นั่งเล่นอยู่บนโซฟาของเขา
ตอนแรกที่รู้ เขายังไม่ว่าอะไร แต่พอเกิดขึ้นบ่อยๆ เขาจึงต้องต่อว่าไป
ที่แย่กว่านั้นคือ บางคนทำแค่พอเป็นพิธี ให้ดูเหมือนทำ แต่ไม่ได้ใส่ใจจริงจัง และสิ่งที่เขารับไม่ได้ที่สุดก็คือ...
พวกที่รดน้ำต้นไม้ของเขาจนชุ่มไปหมด ทำให้รากเน่า เขาต้องเสียต้นไม้ราคาแพงไปหลายต้นแล้ว
เอริคหยิบโทรศัพท์มือถือ เขาเปิดแอปกล้องวงจรปิดขนาดเล็ก Hidden cameras
ที่ซ่อนไว้ตามสิ่งของและมุมในห้อง และสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้ต้องเลิกคิ้วขึ้น
แล้วภาพที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้เขาต้องเลิกคิ้ว............อมยิ้มด้วยความขบขัน
เจ้าเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่ง ตาชี้ๆ ผมสีเข้ม สวมชุดฟอร์มทำงานสีฟ้าอ่อน
กำลังใส่หูฟังแล้วโยกตัวไปมาเบาๆ ตามจังหวะเพลง ขณะทำงานไปด้วย
ดูจากลีลาท่าทางแล้ว คงไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกจับตามองอยู่
เอริคเลิกคิ้วหนา มองให้ชัดๆ ว่าเขากำลังดูอะไรกันนะ
แม้ว่าเจ้าเด็กนี่จะดูสนุกกับงานแต่ก็เก็บรายละเอียดงานได้ดี ทุกมุมปัดฝุ่นจริง ไม่ได้ทำแบบลวกๆ ขอไปที
เอริคเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ มองให้ชัดๆ —แม้เด็กนี่จะเต้นดุ๊กดิ๊กไปด้วย แต่กลับทำงานได้ดีทุกจุด
ไม่มีตรงไหนที่ถูกปัดกวาดแบบขอไปที มุมห้องถูกเช็ดถูอย่างเรียบร้อย งานสะอาดสะอ้านเกินกว่าที่เขาคาดไว้
ริมฝีปากของชายหนุ่มกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ
+++++++++++++++++++++++++++++
ภีมกำลังเช็ดกระจกตู้ปลาทองใบใหญ่ที่ตั้งอยู่มุมห้องนั่งเล่น
ในน้ำใสแจ๋วมีเจ้าปลาทองตัวอวบอ้วนว่ายวนไปมา ตากลมแป๋วของพวกมันจ้องมองเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น
เด็กหนุ่มชะงักไปนิด ก่อนจะทำปากเลียนแบบพวกมันอย่างล้อเลียน
“พวกนายหิวรึเปล่าน่ะ ได้กินอะไรรึยัง?”
เขาคุยกับเจ้าปลาทอง ตัวอ้วนหัววุ้นเป็นก้อนกลมๆ 3-4 ตัว อ้าปากพะงาบๆ ตามวิสัยพวกมัน
ก่อนใช้ดวงตาสีน้ำตาล กวาดสายตามองไปรอบๆ ขวดอาหารปลาวางอยู่ใกล้ๆ
เอริคกลั้นขำ เมื่อเห็นภาพเจ้าตัวพูดกับปลาแบบจริงจัง
ภีมเปิดฝาขวดอาหารปลา ค่อยๆ เทลงไปเบาๆ ทันทีที่อาหารกระทบน้ำ
เจ้าพวกหัววุ้นตัวอ้วนสีส้ม ก็พุ่งตัวมารุมแย่งกันกินอย่างเอาเป็นเอาตาย
พวกมันอ้าปากเล็กๆ ฮุบๆ น้ำและอาหารเป็นจังหวะ ราวกับพวกมันรอมานาน
“เจ้าอ้วนเอ๊ย! กินเก่งเป็นบ้าเลย” เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเก็บขวดอาหารปลา
แล้วเดินไปที่โซนระเบียงด้านนอก ที่มีต้นไม้ประเภทไม้ใบ หลายต้นของเอริค
ภีมยืนมองสำรวจต้นไม้อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงไปเด็ดใบเหลืองๆ ออกหลายกระถาง
จากนั้นใช้นิ้วสัมผัสดินในกระถางเช็กระดับความชื้น แล้วหยิบขวดสเปรย์ขึ้นมาฉีดพ่นเบาๆ ที่ใบไม้แทนที่จะรดลงดินโดยตรง
“โตไวๆ นะพวกนาย” เขาพูดกับต้นไม้พวกนี้ ราวกับพวกมันมีชีวิต และกลับไปทำงานของตนต่อ
+++++++++++
เอริคเฝ้ามองผ่านกล้องวงจรปิดแบบซ่อน (Hidden Cameras) ขนาดเล็กที่ซุกซ่อนไว้ในสิ่งของ แต่ละจุด
ในห้อง ชายหนุ่มได้ยินทุกคำ เห็นทุกการกระทำ เขาติดกล้องพวกนี้ซ่อนไว้ เพื่อตรวจสอบพฤติกรรม ของคนที่เข้ามาในห้อง
รวมถึงพวกแม่บ้านคนก่อนๆ ที่ให้ประสบการณ์แย่ๆ เขายังคงดูผ่านหน้าจอโทรศัพท์
เอริคที่นั่งดูอยู่ แทบหลุดหัวเราะออกมา นี่มันอะไรกัน? ทำไมถึงดูใส่ใจไปซะทุกอย่างแบบนี้—ทั้งปลา ทั้งต้นไม้
เขาพิงตัวกับพนักเก้าอี้ ดวงตาสีฟ้าอมเทาไล่มองเจ้าเด็กหนุ่มผ่านหน้าจอไปเรื่อยๆ
ท่าทางขี้เล่นแบบนั้น ดันทำให้เขานึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา
ยิ่งดู… ก็ยิ่งคุ้นตาแปลกๆ
หนุ่มตาน้ำข้าวควางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทำงานสีขาว และเปิดเช็คงานอีเมลล์รายวัน
ดวงตาสีฟ้าอ่อนสะท้อนแสงจากจอมอนิเตอร์ และข้อความสำคัญที่ปรากฏใน อีเมลล์
Subject: New Collaboration with GaleTech Solutions
Dear Team,
We are pleased to announce a new collaboration between NordByte Technologies and GaleTech Solutions. This partnership aims to enhance our software solutions through improved content localization, translation services, and tailored content development.
The Content & Localization Department will take the lead in ensuring that all materials meet high linguistic and cultural standards, optimizing user experience across different regions.
For any inquiries or coordination regarding this project, please refer to our designated contact person:
Contact Person: Pheemmawat Pheemayothin
Position: Content & Localization Coordinator
Email: pheemmawat.p@GaleTech.co.th
Phone: [+66 XXXXXXXXXX]
We look forward to a successful collaboration and appreciate your support in making this project a success.
Best regards,
เอริค ไล่สายตาอ่านอีเมลล์ฉบับนั้น เขาเอามือลูบคางที่มีสันกรามชัดเจน พลางครุ่นคิด
ดูเหมือนจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับกับการติดต่องานซะแล้วซิ
++++++++++++++++++++++++++++++++++
นาฬิกาดิจิทัลบนโต๊ะทำงานบอกเวลา 22.00 น.
แสงไฟสีอุ่นในห้องส่องสะท้อนบนพื้นไม้เรียบเนียนเป็นมันวาว
เอริค ฮาเกน ก้าวเข้ามาในห้องพักของตัวเอง สัมผัสแรกคือกลิ่นน้ำยาทำความสะอาดจางๆ
ตัดกับความเงียบสงบของห้องสไตล์โมเดิร์น
พื้นที่กว้างขวางแต่มีเฟอร์นิเจอร์ไม่มากนัก ทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ
โต๊ะทำงานกระจกสีดำสะท้อนแสงไฟ โต๊ะไม้โอ๊ควางอยู่ริมหน้าต่าง
พร้อมโคมไฟดีไซน์เรียบหรู โซฟาหนังสีขาวตัวใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง
ในขณะที่อีกมุมหนึ่งเป็นชั้นหนังสือเรียงรายไปด้วยเอกสารงานและหนังสือเล่มโปรดของเขา
ดวงตาสีฟ้าอมเทาของเขากวาดมองไปทั่วห้อง อย่างเคยชิน ทุกอย่างดูสะอาดเอี่ยมผิดปกติ ไม่มีฝุ่นแม้แต่นิดเดียว —
แม้กระทั่งมุมที่ปกติแล้วเขามักจะพบฝุ่นเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่
แต่แล้วสายตาของเขาก็สะดุดเข้ากับกระดาษโพสต์อิทสีเหลืองสดที่แปะอยู่ตรงตู้ปลา
“...?”
เอริคขมวดคิ้วเข้ม ก่อนจะสาวเท้าเดินไปดึงมันออกมาอ่านข้อความ
“ผมให้อาหารเจ้าพวกนี้แล้วนะครับ เห็นว่าเหมือนพวกมันจะหิว”
เอริคนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาสีฟ้าอมเทา จับจ้องกระดาษแผ่นเล็กๆ นั้น มือของเขาเผลอกำมันไว้เบาๆ
…คนทำความสะอาดพาร์ทไทม์คนใหม่?
ความคิดแวบผ่านเข้ามาในหัว เขารู้สึกคุ้นกับโพสต์อิทแบบนี้มาก่อน
ภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในความทรงจำ — ในลิฟต์ของบริษัทเมื่อวันก่อน มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
สภาพเปียกเหงื่อเล็กน้อย แม้ดูเหนื่อยแต่สีหน้าหงุดหงิด เหมือนเพิ่งผ่านอะไรบางอย่างมา
เอริคนึกออกแล้ว
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มอมส้มเมื่อกระทบแสง แผ่นหลังบางๆ ของเขาเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
แต่ที่ตลกคือบนหลังของเขาดันมีโพสต์อิทแปะอยู่
ข้อความบนแผ่นกระดาษสีเหลืองนั้นเขียนอะไรสักอย่างที่กวนประสาทพอตัว
"Post-it-gutten?"
เด็กหนุ่มคนนั้นรู้ตัวหรือเปล่าว่ามีอะไรติดหลังอยู่? หรือว่าเขาตั้งใจจะเดินไปทั้งอย่างนั้น?
ดวงตาของเด็กหนุ่มวันนั้นดูระแวดระวัง …
ราวกับกลัวว่าเอริคจะจับกินยังไงยังงั้น
เอริคทิ้งตัวลงบนโซฟา ถอนหายใจเบาๆ …
แต่แล้วกลับหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
"Lille rev med en post-it?"
จิ้งจอกน้อยกับโพสต์อิทสินะ…
ความคิดนั้นกวนใจเขาชะมัด เอริคมองโพสต์อิทในมืออีกครั้ง
ก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
ทำไมมันถึงรู้สึกกวนใจจัง เขานั่งเอนตัวลงกับโซฟา เขาไม่สามารถสลัดภาพเด็กหนุ่มคนนั้น
เต้นไปทำความสะอาดไป ขยับตัวเบาๆ โยกตามเสียงเพลงที่ฟังจากหูฟัง ยังติดอยู่ในหัวเขา
เอริคอดไม่ได้ที่จะหลุดขำกับตัวเอง มันดูไร้เดียงสาและเป็นธรรมชาติ ราวกับร่องรอยนั้น ยังอยู่ตรงนี้
มันกวนใจจริงๆ นั่นแหล่ะ เขากดโทรหาพี่วัฒน์ คนดูแลอาคาร
ดวงตาสีฟ้าอมเทายังจับจ้องอยู่ที่แผ่นโพสต์อิทในมือ
“ตื้ด ตื้ด” เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังอยู่2-3ครั้ง ก่อนจะพี่วัฒน์รับสาย
สายโทรศัพท์ดังขึ้น 2-3 ครั้งก่อนปลายสายจะรับ
"ครับคุณเอริค มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?"
"คุณวัฒน์ ผมเอริคนะครับ" เอริคพูดเรียบๆ แต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่แผ่นโพสต์อิท
"ครับ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ?"
"ก็ไม่รบกวนอะไรมากหรอกครับ แต่ผมอยากได้ข้อมูลของคนที่มาทำพาร์ทไทม์ที่ห้องผมวันนี้"
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง
"อ้อ! น้องภีมหรอครับ?" พี่วัฒน์พูดขึ้นก่อนจะถามอย่างกังวล
"เขาทำอะไรเสียหายในห้องคุณเอริคหรือเปล่าครับ?"
"ไม่ครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี พรุ่งนี้เขาจะเข้ามากี่โมงนะครับ?"
"ประมาณเก้าโมงเช้าครับ... ทำไมเหรอครับ?"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่ถามดู เขาเก็บงานดีใช้ได้เลย ขอบคุณนะครับพี่วัฒน์"
"...เดี๋ยวนะครับ คุณเอริคชมคน?" น้ำเสียงของปลายสายเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
"ฮ่าๆ ไม่มีอะไรหรอกครับ ขอบคุณนะครับ"
เอริควางสาย แต่สายตาของเขายังจับจ้องโพสต์อิทในมือ…
…ความรู้สึกแปลกๆ มันก่อตัวขึ้นในใจ
พรุ่งนี้วันอาทิตย์พอดี…
จะนอนตื่นสายดีไหมนะ? หรือว่าจะหาเรื่องคุยกับเด็กพาร์ทไทม์คนนั้นดี?