จากสตรีสามัญชน สู่ว่าที่พระชายาแห่งองค์รัชทายาท—ทว่าเส้นทางของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ศัตรูในวังหลวงพร้อมจะทำลายเธอ ขุนนางชั้นสูงต้องการขับไล่เธอ และความลับของ กระจกศักดิ์สิทธิ์ อาจเป็นกุญแจ
รัก,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ผจญภัย,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ดราม่า,ผจญภัย,รัก,ข้ามเวลา,ย้อนยุค,ย้อนเวลา,ราชวงศ์,โรแมนติก,โรแมนติก ,โรแมนติกแฟนตาซี,แฟนตาซี ,แฟนตาซีน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ข้ามภพมารักองค์ชายจากสตรีสามัญชน สู่ว่าที่พระชายาแห่งองค์รัชทายาท—ทว่าเส้นทางของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ศัตรูในวังหลวงพร้อมจะทำลายเธอ ขุนนางชั้นสูงต้องการขับไล่เธอ และความลับของ กระจกศักดิ์สิทธิ์ อาจเป็นกุญแจ
"อาริสะ" นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 22 ปี กำลังศึกษาเอกประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นโบราณ เธอมีความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับยุคเฮอัน ยุคแห่งความรุ่งเรืองของเหล่าขุนนางและองค์จักรพรรดิ วันหนึ่งระหว่างที่เธอเข้าชมวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในเกียวโต อาริสะบังเอิญพบกับกระจกโบราณที่ว่ากันว่าเป็นขององค์ชายลึกลับในตำนาน
ทันใดนั้นเอง… กระจกเกิดเรืองแสงขึ้น ลมแรงพัดโหมกระหน่ำ ก่อนที่อาริสะจะหมดสติไป
เมื่อรู้สึกตัวอีกที เธอพบว่าตัวเองอยู่กลางสวนดอกซากุระ… แต่ที่น่าตกใจกว่าคือ ทุกสิ่งรอบตัวเป็นยุคญี่ปุ่นโบราณ!
และที่น่าตกใจที่สุดคือ… ชายหนุ่มในชุดกิโมโนหรูหราพร้อมตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์ ที่กำลังจ้องมองเธอด้วยดวงตาคมเข้ม เขาคือ "องค์ชายมิโนรุ" รัชทายาทผู้สูงศักดิ์ และเป็นบุคคลที่ไม่เคยปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์
ตำหนักองค์ชายแห่งวังหลวง
อาริสะเดินตามหลังมิโนรุผ่านสวนกว้างที่เต็มไปด้วยต้นซากุระ ศาลาหิน และสระน้ำขนาดใหญ่ ทุกอย่างดูสวยงามราวกับภาพวาด แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเงียบสงบจนน่าประหลาด
เมื่อเดินเข้าไปในอาคารไม้ขนาดใหญ่ อาริสะก็พบกับเหล่าข้าราชบริพารที่คุกเข่าลงพร้อมกันทันทีที่เห็นองค์ชายมิโนรุเดินผ่าน พวกเขามองเธอด้วยสายตาสงสัย บางคนกระซิบกระซาบกันเบา ๆ
"นางเป็นใครกัน?"
"แต่งกายแปลกประหลาดเสียจริง..."
อาริสะก้มมองตัวเองทันที เพิ่งจะตระหนักได้ว่าเธอยังสวมเสื้อแขนยาวและกระโปรงยาวแบบนักศึกษาสมัยใหม่อยู่ ในสายตาคนยุคนี้คงดูแปลกประหลาดไม่น้อย
องค์ชายมิโนรุไม่ได้สนใจเสียงซุบซิบเหล่านั้น เขาพาเธอเดินเข้าไปยังห้องโถงใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเบาะรองนั่งอย่างสง่างาม
"เจ้าชื่ออะไร?" มิโนรุเอ่ยถาม
"ข้า... ชื่ออาริสะ"
"เป็นชาวเมืองใด?"
"เอ่อ... เกียวโต" เธอตอบไปตามความจริง
"เกียวโต?" มิโนรุเลิกคิ้วเล็กน้อย "ข้าไม่เคยได้ยินชื่อเมืองนี้มาก่อน"
อาริสะสะดุ้ง รู้ตัวทันทีว่าเธออาจหลุดอะไรไป
‘ตายล่ะ... ในยุคเฮอัน เกียวโตอาจยังไม่ได้ใช้ชื่อนี้!’
"ข้า... เอ่อ... หมายถึงข้าเป็นชาวเฮอัน..." เธอรีบแก้ตัว
มิโนรุจ้องเธอนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจ "ข้าจะให้เจ้าอยู่ที่นี่ชั่วคราวจนกว่าจะได้ความจริงว่ามาจากที่ใด หากเจ้าพูดโกหก..."
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย เสียงเย็นเยียบขึ้น "ข้าจะไม่ปรานี"
อาริสะตัวแข็งทื่อ นี่เป็นการขู่กันใช่ไหม!?
"เข้าใจแล้วเพคะ..." เธอพึมพำเบา ๆ
ยามค่ำคืน ณ ตำหนักใน
หลังจากถูกพาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดกิโมโนสีอ่อน อาริสะก็ถูกพาตัวมายังห้องพักของนางกำนัล ข้ารับใช้คอยดูแลเธออย่างดีแม้จะยังระแวงอยู่บ้าง
เธอนั่งมองพระจันทร์ผ่านหน้าต่างไม้กระดาษ หัวใจยังคงเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
"นี่มัน... เกิดอะไรขึ้นกันแน่?" เธอพึมพำกับตัวเอง
เธอข้ามเวลามาจริง ๆ ใช่ไหม?
และที่สำคัญ เธอจะกลับไปได้อย่างไร...?
ค่ำคืนแรกในยุคเฮอันของอาริสะผ่านไปอย่างกระสับกระส่าย
เธอนอนไม่หลับ
ผืนฟ้าในยามราตรีทอดยาวสุดสายตา พระจันทร์สีเงินลอยเด่นท่ามกลางความเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านม่านกระดาษบางเบา เธอนั่งอยู่ตรงหน้าต่าง กอดเข่าขณะทอดสายตามองท้องฟ้า
"เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันแน่..." เธอพึมพำกับตัวเอง
ราวกับเป็นฝัน แต่สัมผัสทุกอย่างจริงเกินกว่าจะเป็นแค่ภาพลวงตา กลิ่นหอมของดอกบ๊วย เสียงจักจั่นที่ร้องเบา ๆ ในสวน และผิวสัมผัสของเสื้อกิโมโนที่เธอสวมอยู่ตอนนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นของจริง
นี่ไม่ใช่ความฝันแน่ ๆ
"ฉันต้องหาทางกลับไปให้ได้..."
แต่ปัญหาคือ เธอไม่มีเบาะแสอะไรเลยเกี่ยวกับกระจกบานนั้น มันนำเธอมาที่นี่ได้อย่างไร และเธอจะกลับไปทางไหน?
ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิด เสียงฝีเท้าเบา ๆ ก็ดังขึ้นนอกรั้วไม้
อาริสะหันไปมองอย่างระแวดระวัง
เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเงาของใครบางคนปรากฎขึ้น
ร่างสูงสง่าในชุดกิโมโนเข้ม เดินตรงมาทางห้องของเธอ
หัวใจของอาริสะเต้นแรงขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
องค์ชายมิโนรุ
เขามาทำอะไรที่นี่ตอนกลางคืนกัน...?
อาริสะรีบลุกขึ้นยืน ใจเต้นโครมคราม ไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไรดี
มิโนรุหยุดยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนจะเลื่อนบานประตูไม้กระดาษออกอย่างเงียบ ๆ สายตาคมมองตรงมาที่เธอ
"เจ้ายังไม่นอนหรือ?"
"เอ่อ..." อาริสะอึกอักเล็กน้อย "ข้านอนไม่หลับเพคะ"
มิโนรุพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องของเธอโดยไม่พูดอะไร อาริสะถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความประหม่าขณะที่เขาทรุดตัวลงนั่งข้างโต๊ะเล็กกลางห้อง
"มานั่งสิ"
"เพคะ?"
"ข้าจะถามอะไรเจ้าสักหน่อย"
อาริสะลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปนั่งตรงข้ามเขา
มิโนรุนั่งอย่างสง่างาม แผ่รัศมีของชนชั้นสูงออกมาโดยธรรมชาติ แม้แต่ท่วงท่าการจับพัดที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดูสมบูรณ์แบบ เขาจ้องมองเธอราวกับกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง
"เจ้าดูแตกต่างจากหญิงอื่น ๆ ในวังนี้"
"ข้าหรือเพคะ?" อาริสะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
"ใช่" มิโนรุเอ่ยเสียงเรียบ "เจ้ามีท่าทีไม่เหมือนหญิงชาวเฮอันเลย ทั้งกิริยาท่าทางและการพูดจา"
อาริสะสะดุ้ง เธอพยายามปรับตัวให้กลมกลืนมากที่สุดแล้วแท้ ๆ แต่ดูเหมือนจะยังไม่รอดพ้นสายตาขององค์ชาย
"ข้า..." เธอเม้มปาก ก่อนจะเอ่ยอย่างระมัดระวัง "ข้าเติบโตมาในดินแดนที่ห่างไกลเพคะ อาจไม่คุ้นเคยกับขนบธรรมเนียมของที่นี่มากนัก"
มิโนรุจ้องเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับ
"แล้วเจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อไป?"
อาริสะชะงัก "เพคะ?"
"เจ้าบอกว่าพลัดหลงมา เช่นนั้นเจ้าจะอยู่ที่นี่ไปตลอดหรือไม่?"
"ข้า... ข้าอยากกลับบ้าน"
คำพูดของเธอหลุดออกไปโดยไม่ทันคิด เธอมองหน้ามิโนรุแล้วเห็นบางสิ่งเปลี่ยนไปในดวงตาของเขา
มีแววบางอย่างที่อ่านไม่ออก...
"กลับบ้าน..." เขาทวนคำเบา ๆ ก่อนจะเบือนสายตาไปทางหน้าต่าง มองออกไปยังท้องฟ้าสีดำสนิท
"ข้าก็เคยคิดเช่นนั้น"
อาริสะขมวดคิ้ว "องค์ชายหมายความว่าอย่างไรเพคะ?"
มิโนรุเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ "ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เจ้าไม่ต้องใส่ใจ"
แม้เขาจะพูดเช่นนั้น แต่ท่าทางของเขากลับเต็มไปด้วยความเงียบเหงา
อาริสะมองเขาอย่างสงสัย แต่เลือกที่จะไม่ซักไซ้
"ข้าให้เจ้าพักอยู่ที่นี่ชั่วคราว" มิโนรุกล่าว "แต่หากเจ้าสร้างปัญหา ข้าจะไม่ลังเลที่จะส่งตัวเจ้าออกไปจากวัง"
"เข้าใจแล้วเพคะ"
มิโนรุพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืน "พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนพาเจ้าไปดูวังหลวง"
อาริสะมองตามแผ่นหลังของเขาขณะที่เขาก้าวออกจากห้องไป
หัวใจเธอยังคงเต้นแรง
แม้จะเป็นเพียงการพูดคุยสั้น ๆ แต่เธอกลับรู้สึกว่า... องค์ชายมิโนรุเป็นคนที่มีเรื่องราวมากมายเก็บซ่อนไว้
และเธอเอง... อาจจะเป็นคนเดียวที่สามารถค้นหาความลับนั้นได้
รุ่งอรุณแรกในยุคเฮอันของอาริสะมาถึง
เสียงนกกระเรียนร้องเบา ๆ ท่ามกลางสายหมอกบาง ๆ ที่ลอยคลอเคลียอยู่เหนือสวน ต้นซากุระที่แผ่กิ่งก้านอยู่หน้าตำหนักยังคงมีดอกสีชมพูบานสะพรั่ง แม้สายลมเย็นของยามเช้าจะพัดเอื่อย ๆ แต่ก็ไม่อาจพัดพาความสับสนในใจของอาริสะออกไปได้
เมื่อคืนเธอแทบไม่ได้นอนเลย ความคิดฟุ้งซ่านเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเองเต็มไปหมด
เธออยู่ในยุคเฮอันจริง ๆ
เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับไปได้หรือไม่
และที่สำคัญที่สุด... องค์ชายมิโนรุเป็นคนแบบไหนกันแน่?
อาริสะคิดถึงคำพูดของเขาเมื่อคืน
"ข้าก็เคยคิดเช่นนั้น..."
ราวกับว่าเขาก็เคยปรารถนาจะ "กลับบ้าน" เช่นกัน แต่ทำไมองค์ชายผู้สูงศักดิ์แห่งวังหลวงถึงพูดเช่นนั้น?