ความรักที่เธอเฝ้ารอกับคำสัญญาที่เขาพยายามรักษาไว้ไม่ต่างอะไรกับการวิ่งเทรลมีอุปสรรคมากมายรออยู่ ปลายทางที่วาดฝันร่วมกันสุดท้ายอาจไม่ใช่คำตอบของหัวใจเพราะระหว่างทางมีอะไรให้ต้องค้นหาให้ต้องคิดทบทวนตลอดเวลา บางทีการปล่อยมือกันอาจเป็นวิธีที่ดีกว่า

ให้รักคงอยู่ - 1 มีคนเดินจากไป มีคนเดินเข้ามา โดย สุดทางฝัน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,หญิง-หญิง,อาชญากรรม,รัก,ฆาตกรรม,สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,ผู้ชายข้ามเพศ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ให้รักคงอยู่

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,หญิง-หญิง,อาชญากรรม,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ฆาตกรรม,สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,ผู้ชายข้ามเพศ

รายละเอียด

ให้รักคงอยู่ โดย สุดทางฝัน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความรักที่เธอเฝ้ารอกับคำสัญญาที่เขาพยายามรักษาไว้ไม่ต่างอะไรกับการวิ่งเทรลมีอุปสรรคมากมายรออยู่ ปลายทางที่วาดฝันร่วมกันสุดท้ายอาจไม่ใช่คำตอบของหัวใจเพราะระหว่างทางมีอะไรให้ต้องค้นหาให้ต้องคิดทบทวนตลอดเวลา บางทีการปล่อยมือกันอาจเป็นวิธีที่ดีกว่า

ผู้แต่ง

สุดทางฝัน.

เรื่องย่อ

สารบัญ

ให้รักคงอยู่-1 มีคนเดินจากไป มีคนเดินเข้ามา,ให้รักคงอยู่-2 ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น,ให้รักคงอยู่-3 ความรู้สึกนี้ยังไงกันนะ

เนื้อหา

1 มีคนเดินจากไป มีคนเดินเข้ามา


กว่าจะรักกันได้ก็ว่ายากแล้วรักษาความรักนั้นไว้ให้ยาวนานยากยิ่งกว่า

 

  โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอแห่งหนึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอมีหลายอาคารเรียนด้านหน้าสุดเป็นอาคารห้าชั้นถูกทาด้วยสีขาวรวมไปถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวอาคารถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวทั้งสิ้นไม้ดอกไม้ประดับสีขาวสีเงินถูกนำมาตกแต่งทั่วบริเวณสมกับที่ชื่ออาคารสีขาวต้นละอองเงินเบญจมาศเงินไม้ด่างต่างๆ มีแม้กระทั่งต้นโพธ์ขาวที่ถูกจับยัดใส่กระถางเพื่อความสวยงามตั้งเรียงรายประดับตามที่ต่างๆ รอบอาคารเรียนชั้นหนึ่งของอาคารเป็นห้องฝ่ายปกครองธุรการและการเงินชั้นสองถึงชั้นห้าจะเป็นห้องเรียนของชั้นมัธยมปลาย อาคารด้านหลังห่างจากตึกสีขาวประมาณยี่สิบเมตรอาคารหลังนี้เป็นห้องเรียนของชั้นมัธยมต้นตัวอาคารรวมทั้งการตกแต่งรอบๆจะเป็นสีเขียวทั้งหมด ด้านข้างอาคารสีเขียวคือโรงอาหารขนาดใหญ่จำนวนโต๊ะอาหารเพียงพอต่อจำนวนนักเรียนทั้งหมดส่วนด้านหลังจนไปสุดกำแพงโรงเรียนเป็นสระน้ำขนาดใหญ่มีน้ำพุอยู่ตรงกลางรอบขอบสระปูด้วยหญ้าสนามมีต้นไม้เรียงรายรอบสระน้ำชุดโต๊ะม้าหินอ่อนเรียงรายสลับกับพุ่มไม้เป็นที่นั่งเล่นนั่งอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมต่างๆของนักเรียนและคุณครู

 เอี๊ยด เอี้ยด เอี๊ยด เสียงรองเท้าผ้าใบนักเรียนเสียดสีกับพื้นปูนบริเวณทางเดินภายในอาคารเรียนมาหยุดอยู่ประตูหน้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/4 ดึงดูดความสนใจจากคนด้านในห้องให้หันไปดู

หญิงสาวคนคุ้นตาเดินเคียงคู่เข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับชายหนุ่มที่เขาไม่รู้จักรอยยิ้มหายไปจากใบหน้าเมื่อทั้งคู่เดินกุมมือกันมาหยุดอยู่ตรงหน้าความรู้สึกแปลกๆบอกให้รู้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ

“นั่นฟ้าพาใครมาด้วยคะ” สายตาจับจ้องมองดูมือของคนทั้งคู่กอบกุมกันอยู่ค่อยๆปล่อยออกจากกันมือหนาของชายหนุ่มขยับขะเยื่อนเลื่อนเข้าข้างลำตัวของหญิงสาวออกแรงกระชับให้ขยับชิดใกล้กันมากขึ้นส่วนคนที่ถูกโอบเซถลาไปจนแนบชิดตัวติดกันแต่ไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืนหรือลำคานใจเหมือนการกระทำนั้นเป็นเรื่องปกติที่เคยชินกันอยู่แล้ว

"รันคะนี่บอยพึ่งย้ายมาใหม่”

 "บอยคะคนนี้ไงรันเพื่อนสนิทที่ฟ้าเคยเล่าให้ฟัง”

“คนนี้เองเหรอเพื่อนสนิทที่ฟ้าเล่าให้ฟังบ่อยๆอยากเจอตัวจริงมานานแล้ว”

 

“บอยเป็นอะไรกับฟ้า” การกระทำของคนทั้งคู่ไม่ต่างจากคู่รักแต่เขาก็ยังหวังว่าจะได้คำตอบที่แตกต่างออกไปยังหวังว่าเป็นเขาเองที่คิดมากเกินไปทั้งสองคนเป็นแค่เพื่อนพี่น้องที่สนิทกันมากๆเท่านั้นไม่ใช่คู่รักกัน

“รันคะ…..บอยเป็นคู่หมั้นของฟ้าค่ะ” น้ำฟ้าแนะนำคนข้างๆพร้อมกับสถานะอย่าชัดถ้อยชัดคำเธอรู้ว่าเขาต้องเจ็บปวดมากแค่ไหนแต่ถึงยังไงอีกไม่กี่เดือนเรียนจบก็ต้องแยกย้ายกันอยู่ดีจะบอกตอนนี้หรือตอนไหนความหมายก็ไม่ต่างกัน

"สวัสดีครับรันยินดีที่ได้รู้จักฟ้าพูดถึงคุณให้ผมฟังอยู่บ่อยๆได้เจอตัวจริงสักทีนะครับ”

น้ำฟ้าเดินเข้ามากอดชรันยาแล้วกระซิบข้างๆหูให้ได้ยินกันแค่สองคน "ขอโทษนะที่ต้องเป็นแบบนี้แต่ฟ้ายังรักรันเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ"

“คู่หมั้นงั้นเหรอ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” ชรันยาผลักน้ำฟ้าออกห่างสติที่เหลือเพียงน้อยนิดกำลังจะหลุดลอยหายไปตอนนี้ไม่อยากจะรับรู้อะไรทั้งนั้นสองคนนั่นเป็นคู่หมั้นกันแล้วฉันละฉันอยู่ตรงไหนของเรื่องราวบ้าๆนี้เขาทำได้เพียงหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้นออกมาก่อนจะห้ามน้ำตาตัวเองไว้ไม่ไหวเจ็บปวดไปทั้งหัวใจเจ็บเหมือนกำลังจะตาย ชรันยาเดินตรงไปยังห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดช่วงเวลานี้คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้อยู่กับตัวเองตามลำพัง ทุกอย่างรอบตัวเหมือนจะหยุดนิ่งไปแล้วโลกหยุดหมุนรอบตัวเองแต่ทว่า..มีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวออกมาจากดวงตากลมโตน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหลออกมาชำระล้างความเจ็บปวดมีคำถามเต็มไปหมดวกวนอยู่ภายในหัวสมองและหัวใจ

‘มันเกิดอะไรขึ้นไม่กี่นาทีที่แล้วเรายังเป็นแฟนกันอยู่เลยแต่ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนอื่นไปแล้วเรื่องระหว่างเราทุกอย่างมันดีมาตลอดดีจนไม่คิดว่าจะมีจุดจบแบบนี้ฉันทำอะไรผิดเธอถึงทำร้ายกันได้ขนาดนี้ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยวะ’ ชรันยาใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำกับตัวเองเป็นชั่วโมงกว่าจะหยุดร้องได้ถึงจะเจ็บมากแค่ไหนเขาจะไม่มีวันทำตัวไร้ค่าอ้อนวอนขอความรักจากผู้หญิงคนนั้นจะไม่มีการเสียน้ำตาให้กับความรักแย่ๆแบบนี้อีกเมื่อคุยกับตัวเองจนแน่ใจแล้วว่าน้ำตาจะไม่ไหลออกมาให้เห็นอีกชรันยาสูดลมหายใจเข้าสุดปอดแล้วปล่อยออกมาเฮือกเดียวก่อนจะผลักประตูห้องน้ำออกไปเผชิญหน้ากับความจริง

ปึ้ก! ! "โอ๊ย!! "

เสียงบานประตูกระแทกเข้ากับวัตถุบางอย่างหรืออาจจะเป็นหน้าใครบางคนที่อยู่อีกฝั่งขอบบานประตูอีกทั้งเสียงปากกาสมุดหนังสือร่วงหล่นกระเด็นกระจัดกระจายลงพื้น

"บ้าเอ้ย! เปิดให้มันเบาๆหน่อยเส้หัวแตกหรือเปล่าเนี่ย” ยุพายกมือขึ้นกุมจุดที่กระแทกกับประตู

 "ขอโทษไม่ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาตอนนี้แต่แค่นี้คงไม่ตายหรอกมั้งถ้าหัวแตกก็ไปห้องพยาบาลหายาทาซะ” ชรันยาพูดจาน้ำเสียงเรียบเฉยขณะเดียวกันก็ก้มเก็บของที่กระจัดกระจายอยู่

“นี่มันห้องน้ำส่วนรวมไม่ต้องใช้ความคิดในการวิเคราะห์หรอกนะยังไงก็ต้องมีคนเข้าออกได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว”

“ขอโทษไปแล้วจะเอาอะไรอีก”

 " แล้งน้ำใจชะมัดทำคนอื่นเจ็บตัวแล้วยังไม่พาไปห้องพยาบาลอีก" 

“อะนี่หนังสือของเธอ" ชรันยาลุกขึ้นยืนเต็มตัวจ้องมองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าและสายตาที่เรียบเฉยมีเพียงขอบตาแดงๆเท่านั้นที่บอกเล่าถึงความรู้สึกในตอยนี้ได้ดีที่สุด

“ขอบใจ”

“เธอนี่มันน่าลำคานจริงๆเลยห้องพยาบาลอยู่ใกล้ๆนี่เองแค่เจ็บหัวนิดหน่อยขาก็ไม่ได้เป็นอะไรเดินไปเองก็ได้มั้ง”

“ฉันพึ่งย้ายมาใหม่ไม่รู้หรอกนะว่าห้องพยาบาลอยู่ตรงไหน”

“เออๆพาไปก็ได้เรื่องเยอะจริงๆ”

“ไม่อยากไปแล้วจะไปห้องเรียน”

“เอ้า!เธอนี่มันยังไงกันเดี๋ยวไปเดี๋ยวไม่ไป”

“ไม่ไปหรอกแค่นี้เองทายาหม่องก็หายแล้ว”

“ตามใจ งั้นฉันไปเรียนก่อนนะ”

"เดี๋ยวก่อนสิเธอชื่ออะไรเหรอ"

"รัน"

"ฉันชื่อยุพานะ" 

"อือ" 

"รันช่วยบอกทางไปห้อง6/4หน่อยสิ"

   "จะไปก็ตามมาเงียบปากด้วยพูดมากจริงๆไม่รู้ตอนเกิดคาบนกหวีดออกมาด้วยรึเปล่าวี้ดๆอยู่ได้หรือโตมาพร้อมกับนกแก้วถึงได้พูดไม่หยุดเลย" 

   "ว่าคนอื่นเขาไม่ดูตัวเองปากร้ายแบบนี้ฉันคนนึงแหละไม่เอาทำแฟนหรอก”

“เธอพูดจาแบบนี้กับคนที่ตัวเองพึ่งขอความช่วยเหลือเหรอ”

“ก็เธอมาว่าฉันก่อนแล้วนี่จะบอกทางได้หรือยังเข้าเรียนไม่ทันกันพอดี"     

 "เออๆตามมาแต่วิชาแรกคงเข้าไม่ทันแล้วแหละ"

“เดี๋ยวๆรันหยุดก่อน”

“อะไรอีกละทีนี้”

“ขอบตาแกแดงมากเลยมานี่มา” ยุพาดึงแขนชรันยาเข้าไปในห้องน้ำแล้วหยิบแป้งพับในกระเป๋าออกมาตบๆทั่วทั้งใบหน้าให้ชรันยาไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพึ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาแต่ร้องไห้เพราะเรื่องอะไรเธอก็คงไม่กล้าละลาบละล้วงไปถาม เพียงไม่กี่นาทีฝีมือการแต่งหน้าของยุพาก็ทำให้หน้าตาของชรันยาดูสดใสขึ้นได้จริงๆ

“ขอบใจ”

“อือไม่เป็นไรเรารีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะเข้าเรียนไม่ทันอีก”

“อือ”

"ถึงแล้วนี่แหละห้อง6/4"

"ขอบใจมากนะเพื่อนรัก"

"พึ่งเจอกันไม่ถึงชั่วโมงเป็นเพื่อนรักเลยเหรอ"

"แหงละที่นี่ฉันมีแกเป็นเพื่อนแค่คนเดียวนิรันนี่" 

"ถ้าจะเป็นเพื่อนกันอย่าเรียกชื่อฉันแบบนั้นอีกมันน่าขนลุกขนพอง"

  "ฮ่าฮ่าฮ่า” ยุพาหัวเราะร่วนกับท่าทางของชรันยา

 

น้ำฟ้าเดินออกมาหาชรันยาที่หน้าห้องเรียนตอนนี้เขากำลังยืนคุยอยู่กับใครที่เธอไม่รู้จัก

"รันเป็นยังไงบ้างแล้วนี่ใครคะ" เธอหันสายตาไปทางยุพามองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า

ชรันยาไม่ตอบคำถามเขาเดินผ่านไปเหมือนไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้น

 น้ำฟ้าได้แต่ยืนอึ้งเขาทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนนี่คงเป็นสิ่งที่เธอสมควรจะได้รับจากคนๆนี้สินะคนที่เธอพึ่งจะทำร้ายจิตใจไปเมื่อกี้

"รันแกไปทำอะไรเขาทำไมถึงได้นิ่งเป็นหินถูกสาปอย่างนั้น"

"อย่าไปสนใจคนแบบนั้นเลยเข้าห้องกันเถอะ"

" เดี๋ยวนะ! เข้าห้องกันหมายความว่าแกก็เรียนอยู่ห้องนี้เหมือนกันเหรอ"

"ก็ใช่นะสิพามาถึงขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก"

 "กรี๊ด!กรี๊ด!..ดีใจว่ะ" ยุพากระโดดกอดชรันยาจนตัวเซไปด้านข้างไม่สนใจสายตาของอีกคนที่กำลังมองดูการกระทำของทั้งคู่อยู่

 "ฉันดีใจมากเลยนะรันที่ได้เรียนอยู่ห้องเดียวกันกับแก"

  "เวอร์นั่งลงได้แล้วโต๊ะข้างๆยังว่างอยู่" 

 "ถามจริง!”

 "เออ นั่งๆไปเถอะเเล้วหยุดพูดสักทีแค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว"

 

  "เธอ! เก็บของๆเธอออกไปจากโต๊ะเรียนของฉันเดี๋ยวนี้" น้ำฟ้าเข้ามายืนประชิดทันทีที่เห็นยุพาวางอุปกรณ์การเรียนลงบนโต๊ะข้างๆชรันยาโต๊ะตัวที่เธอเคยนั่งเรียนเป็นประจำ

 "ฉันชื่อยุพาค่ะจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งถ้าเธอจะกรุณาจำได้และเรียกให้ถูกส่วนเรื่องที่ฉันนั่งตรงนี้เพราะรันบอกว่าที่ตรงนี้ว่างอยู่"

  "จริงเหรอคะรัน" 

   " อือ” ชรันยาตอบโดยที่ไม่มองหน้าอีกคนด้วยซ้ำ

 “ทำไมให้คนอื่นมานั่งโต๊ะฟ้าแบบนี้ละ”

 “ขอร้องละกับไปที่ของเธอเถอะนะน้ำฟ้าอย่าทำให้ฉันรู้สึกแย่มากไปกว่านี้เลย”

 “รัน….” น้ำฟ้าจำใจต้องเดินกลับไปทั้งๆที่อยากจะอยู่ตรงนี้แต่จะให้ทำยังไงได้ที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอคนเดียวเธอที่รักเขาไม่เคยเปลี่ยนแต่ก็ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจ

 

………………

 

  "สวัสดีค่ะฉันชื่อไอรดา จันทร์เฉิดฉายชื่อเล่นน้องไอร์ ย้ายมาจากโรงเรียน AA พร้อมกับพี่สาวอีกหนึ่งคนเหตุผลที่ย้ายกลางเทอมเพราะพ่อต้องย้ายที่ทำงานกระทันหันยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆ ทุกคนนะคะ"

   "สวัสดีเราชื่อไวน์" 

  "ส่วนเราชื่อชัย" เอกชัยพูดแล้วทำตาเป็นประกายระยิบระยับ

  "ไอร์มานั่งข้างไวน์ก็ได้นะ"

  "ไม่ได้ไม่ได้มานั่งข้างๆชัยดีกว่า"

    "มึงหยุดเลยนะไอร์มานั่งข้างเราไอ้ชัยมันขี้หลี"

  "งั้นไอร์นั่งกับไวน์ดีกว่า"

  "เอ้า! ไวน์แกจะจีบไอร์ตัดหน้าฉันใช่ไหม”

  “ มึงจะบ้าเหรอชัยกูไม่กินเพื่อนตัวเองเว้ย ไม่ใช่แกนะจีบเขาไปทั่ว"

  " ไอร์อย่าไปเชื่อไอ้ไวน์มันเรานะพึ่งจะเจอรักแรกพบก็ตอนที่เจอไอร์นี่แหละ" 

  "อ๊วกก.. " ไวน์ทำท่าอาเจียนหลังจากที่เอกชัยพูดจบ

 

 

  ติ้ง. (Massenger)

ยุพา: ไอร์ ไอรดา: ว่ายังไงคะพี่สาว

ยุพา: เป็นยังไงบ้างมีเพื่อนหรือยัง

ไอรดา: มีแล้วค่ะ

ยุพา: ดีแล้ว ตอนพักเที่ยงไปกินข้าวด้วยกันสิจะได้รู้จักกับเพื่อนพี่ด้วย

ไอรดา: โอเคค่ะหนูจะชวนเพื่อนไปด้วย

ยุพา: โอเคไปเจอกันที่โรงอาหารเลยนะ

ไอรดา : ค่ะ

 

  "ไวน์ตอนเที่ยงไปกินข้าวด้วยกันไหมเราอยากแนะนำให้รู้จักกับพี่สาวของเราน่ะ"

 "ได้สิถ้าวันไหนมีโอกาสเราจะแนะนำให้รู้จักกับพี่สาวเรานะ"

  "ได้เลยค่ะ"

  "ขอไปด้วยคนสิอยากไปแนะนำตัวกับพี่สาวว่าที่แฟน" เอกชัยเดินมาหยุดอยู่ข้างๆโต๊ะของไอรดาทำตาละห้อยเหมือนเจ้าตูบรอขนมจากเด็กน้อย

  " ไอ้ขี้หลีเอ้ยเอาเวลาจีบสาวไปอ่านหนังสือนู่นไป"

  “ไวน์มึงก็ให้โอกาสกูได้จีบไอร์หน่อยดิวะเผื่อไอร์จะชอบกู”

  “กูกล้าพูดตอนนี้เลยว่ามึงไม่มีทางจีบไอร์ติด”

  “ให้เราไปด้วยนะไอร์ นะนะนะ”

  “อยากไปก็ไปสิไม่ได้ห้ามสักหน่อยเราบอกพี่สาวเราแล้วว่าจะพาเพื่อนไปด้วย”

  “ฮ่าฮ่าฮ่าแค่นี้ก็รู้แล้วว่าจะ จีบ ติด หรือ ไม่ ติด” นริสราจงใจเน้นเสียงทีละคำล้อเลียนเอกชัย

  “หุบปากไปเลยไอ้ไวน์”

 

 

  "รันตอนเที่ยงฉันชวนน้องสาวไปกินข้าวด้วยนะ”

  “ตามใจ”

 “ในฐานะเพื่อนรักฉันอยากแนะนำให้รู้จักกับน้องสาวเพียงคนเดียว”

 “แกนี่เวอร์ได้ทุกเรื่องเลยนะ”

 “เออแล้วแกมีพี่น้องหรือเปล่าฉันอยากรู้จักบ้าง”

 “ยุพามึงคิดอะไรกับกูหรือเปล่าเนี่ยรุกกูจัง”

 “คิดสิ”

 “ห๊ะ!”

 “ฮ่าฮ่าฮ่าล้อเล่นน่ะแต่เมื่อกี้กูมึงเลยนะนี่แสดงว่าเราสนิทกันจริงๆแล้วสินะ”

 “ตรรกะอะไรของมึงวะเนี่ย”

 “แล้วตกลงมึงมีพี่น้องหรือเปล่า”

 “ไม่มี”

 “เหงาแย่เลยอะดิไม่มีพี่น้องแบบฉัน”

 “ไม่นะถ้ามีพี่น้องแบบแกปวดหัวตายกันพอดีขออยู่คนเดียวแบบนี้ยังดีกว่า” “โอ้ยไอ้รันไอ้เลว”

 “รันคะเที่ยงแล้วไปกินข้าวกันค่ะ” น้ำฟ้าเดินมาหยุดอยู่ข้างๆชรันยาแล้ววางมือข้างหนึ่งลงบนหัวไหล่เขา

 “เอามือเธอออกแล้วช่วยไปไกลๆ” ชรันยาทำเสียงเรียบนิ่งไม่มองหน้าคู่สนทนาด้วยซ้ำ

 น้ำฟ้าทำได้เพียงเดินก้มหน้าหงอยกลับมาที่โต๊ะเรียนของตัวเองรู้ทั้งรู้ว่าถ้าเดินไปหาเขาแล้วจะเจอกับอะไรบ้างแต่เธอก็ยังอยากใกล้ชิดเขาอยู่ดีไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานสักแค่ไหนไม่รู้ว่าเขาจะให้อภัยเธอได้หรือเปล่า

 “แกกับน้ำฟ้าทะเลาะอะไรกันวะรัน” ยุพาพูดขึ้นตอนที่น้ำฟ้าเดินกลับไปที่โต๊ะตัวเองแล้ว

 “เป็นแฟนเก่าเลิกกันเมื่อเช้านี้ผู้หญิงคนนั้นนอกใจฉันไอ้หน้าหล่อที่นั่งอยู่ข้างๆกันนั่นแหละคู่มั่นของเธอละ”

 “ที่ตาแกแดงเมื่อเช้า”

 “อือ”

 “รัน..”

 “ความจริงอาจจะเป็นตัวฉันเองก็ได้ที่มาทีหลัง”

 “แกโอเคหรือเปล่า”

 “เที่ยงแล้วไปกินข้าวกันดีกว่าหิวจะแย่” ชรันยาเก็บอุปกรณ์การเรียนใส่กระเป๋าแล้วลุกพรวดออกไปจนยุพาเก็บของวิ่งตามแทบจะไม่ทัน

 “เอ๊าไอ้นี่พอจะไปก็ปุ้บปั้บเลย”

 


โรงอาหาร


"พี่ยุพี่ยุทางนี้ค่ะ" ไอรดาโบกมือไหวๆให้พี่สาวได้มองเห็นเธอและเพื่อน "พี่ยุคะไวน์กับชัยเป็นเพื่อนใหม่ของน้องเองค่ะ” ไอรดาคล้องแขนยุพามากอดไว้แล้วผายมือไปที่เพื่อนทั้งสองคน

“ไวน์ ชัย นี่ไงพี่สาวคนสวยที่เราเล่าให้ฟัง”

“สวัสดีค่ะพี่ยุ”

“สวัสดีครับพี่ยุ”

"สวัสดีจ้าพี่ฝากดูยัยน้องสาวตัวแสบของพี่ด้วยนะ"

“ได้ครับพวกเราจะดูแลไอร์เป็นอย่างดีเลย”

“รันยัยเด็กกระโปโลนี่น้องสาวฉันเอง”

"น้องไอร์นี่ไงไอ้รันที่พี่เล่าให้ฟังเมื่อเช้า" ยุพาวาดวงแขนอีกข้างเข้าคล้องคอชรันยาดึงเข้ามาใกล้จนหัวชนกัน

"สวัสดีค่ะพี่รัน"

“สวัสดีค่ะน้องไอร์” ชรันยาส่งยิ้มน้อยๆให้สาวสวยตรงหน้าแล้วเบนสายตาไปข้างๆไอรดามีคนที่เขาไม่อยากเจอหน้ายืนอยู่ตรงนั้น

“โลกกลมจังเลยนะไวน์”

“มีเพื่อนแบบนี้ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะคะน้องไอร์ให้ใจเมื่อไรมันก็หักหลัง” "พี่รัน!! อย่ามาพาลใส่ไวน์นะอย่าดึงเพื่อนไวน์เข้ามาเกี่ยวด้วย"

"ไวน์เป็นอะไรหรือเปล่ารู้จักกับพี่รันด้วยเหรอ”ไอรดากระซิบถามเพื่อนแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ

"เออ..ผมว่าเราไปหาดูของกินกันดีกว่านะคับมัวชักช้าเดี๋ยวของอร่อยหมดก่อนพอดี" เอกชัยเอ่ยขึ้นหวังทำลายบรรยากาศระอุบนโต๊ะอาหาร

“พี่ก็ว่างั้นแหละหิวจะแย่แล้ว” ยุพาพูดเสริมเอกชัยต่างคนต่างแยกย้ายกันไปซื้ออาหารร้านที่ตัวเองต้องการ

 

"น้องไอร์พี่ให้ไข่พะโล้" ชรันยาตักไข่พะโล้ของตัวเองวางลงบนจานข้าวไอรดา

"ขอบคุณค่ะ"

"รับไข่พี่ไปแล้วอย่าลืมให้ใจพี่กลับมาด้วยนะ"

"ห๊ะ!!อะไรนะคะ" 

 "รันมึงทำให้น้องกูเขินจนตัวแดงหมดแล้ว”

 "อย่าแซวน้องสิถ้าน้องไอร์ไม่มากินข้าวกับเราอีกฉันจะทำยังไง" ชรันยาหันไปขยิบตาใส่ไอรดา

‘ไอ้อาการหัวใจเต้นแรงหายใจไม่ทั่วท้องนี่มันอะไรกันเกิดมาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยแล้วยังร้อนวูบวาบบนใบหน้าอีกนี่ฉันแพ้เขาขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยเพื่อนของพี่สาวที่พึ่งเจอกันครั้งแรก’ "พี่รันพี่จะมาหยอดไอร์เล่นๆ แบบนี้ไม่ได้นะคับคนนี้ผมจองผมจีบอยู่อีกอย่างพี่ก็มีพี่ฟ้าเป็นแฟนอยู่แล้วทั้งคนยังจะมาจีบคนอื่นอีก"

ไอรดาเงยหน้าขึ้นมองชรันยาทันทีที่ได้ยินเอกชัยพูดแบบนั้น ‘ที่แท้ก็มีเจ้าของแล้วยังจะมาหยอดคำหวานใส่เราอีกเกลียดจริงๆคนที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น’

"มึงรู้ไดยังไงว่ากูแค่หยอดน้องไอร์เล่นๆกูอาจจะจีบน้องไอร์จริงๆก็ได้อีกอย่างนึงเพื่อนมึงคงยังไม่ได้บอกให้รู้สินะว่ากูกับน้ำฟ้าเลิกกันแล้วอีกความหมายนึงคือกูโสดกูจะหน้าม่อใส่ใครกี่คนก็ได้มันเรื่องของกู”

“พี่กับพี่ฟ้าเนี่ยนะเลิกกันรักกันปานจะกลืนกินขนาดนี้ใครจะไปเชื่อ”

“นั่นนะสิ! รักกันขนาดนั้นทำไมนะทำไมถึงเลิกกันได้ง่ายดายจังเลยวะกูก็สงสัยเหมือนมึงนี่แหละลองถามเพื่อนรักของมึงดูสิ"

ชรันยาดึงคอเสื้อเอกชัยกระชากเข้ามาใกล้ๆใช้มือข้างซ้ายที่ถนัดบีบสันกรามทั้งสองข้างแรงจนคนตรงหน้าต้องร้องออกมา

“โอ๊ย! พี่รันปล่อยผม”

“ไอ้รันพอแล้วน้องมันเจ็บจนจะร้องอยู่แล้ว” ยุพาตบไหลชรันยาเรียกสติเพื่อน

 ตุ้บ!!

“โอ้ย!!”

 ชรันยาเหวี่ยงเอกชัยลงกระแทกพื้นแล้วหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้นโดยไม่สนใจสายตานับร้อยคู่ภายในโรงอาหารกำลังมองมาที่เขา

 ยุพาวิ่งตามชรันยามาติดๆโดยไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอจะไปไหน

 สระน้ำขนาดใหญ่ด้านหลังอาคารโรงอาหารมีต้นไม้ล้อมรอบให้ความร่มรื่นขอบสระปูด้วยหญ้าเขียวขจีไปทั่วทั้งบริเวรให้บรรยากาศที่สดชื่นและผ่อนคลาย

“ขอโทษ…” ยุพายืนมองแผ่นหลังของคนตรงหน้าที่ถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

“ขอโทษอะไร”

“ฉันไม่น่าชวนน้องไอร์มาเลย”

"ไม่เป็นไรทั้งแกและน้องไอร์ไม่ได้ผิดอะไรฉันต่างหากต้องขอโทษที่ทำนิสัยแย่ๆแบบนั้นออกไปจนทำเสียบรรยากาศหมด”

“ฉันเข้าใจคิดว่าน้องไอร์ก็คงเข้าใจเหมือนกัน”

“ขอบใจ”

“โลกก็กลมจริงๆเลยเนาะน้องของน้ำฟ้ามาเป็นเพื่อนกับยัยไอร์เฉยเลย” "อือตกใจเหมือนกันไม่คิดว่าโชคชะตาจะเล่นตลกแบบนี้" 

“ตาแดงอีกแล้วแกโอเคหรือเปล่า”

“ฉันโอเค! ต้องขอบใจแกถึงจะถูกถ้าไม่มีแกคอยทำตัววุ่นวายให้ปวดหัวทั้งวันฉันก็คงจมอยู่กับเรื่องนั้น”

“เออ…นี่คือกำลังถูกชมอยู่ใช่ป่ะ”

“ก็ชมสิวะ”

“โอเคชมก็ชม”

“ฮ่าฮ่าฮ่า”