ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ
ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,ดราม่า,แฟนตาซี,วาย,nc,18+,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เส้นเเบ่งระหว่างหัวใจเเละหน้าที่ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ
ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ วันแรกที่เจอกัน ภณทำถาดเครื่องมือผ่าตัดตกพื้นเพราะตื่นเต้น ธนัชต่อว่าเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า “ถ้าคุมสติตัวเองไม่ได้ ก็ออกไปจากห้องนี้ซะ” ภณอายมาก แต่แอบตั้งปณิธานว่าจะทำให้ธนัชยอมรับเขาให้ได้
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำของกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยเสียงเครื่องมือแพทย์และความเร่งรีบของบุคลากรในยามเช้า กลิ่นยาฆ่าเชื้อลอยอบอวลในอากาศ บรรยากาศตึงเครียดเป็นปกติของแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ ที่นี่คือสนามรบของ นายแพทย์ธนัช หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า “หมอธัน” ศัลยแพทย์กระดูกและข้อวัย 30 ปี ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม รูปร่างสูงโปร่งในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตา ดวงตาคู่คมมองทุกอย่างด้วยความเย็นชา เขาคือตำนานที่ทุกคนในโรงพยาบาลรู้จัก ฝีมือฉมังแต่ปากร้าย ไม่เคยยอมให้ใครทำอะไรผิดพลาดต่อหน้าเขา
วันนี้เป็นวันแรกที่ นายแพทย์ภณ เด็กฝึกหัดวัย 24 ปี ก้าวเข้ามาในแผนกนี้ ภณเป็นหนุ่มหน้าหวาน ผิวขาวใส ตาสวยที่มักฉายแววตื่นเต้น เขาใฝ่ฝันอยากเป็นศัลยแพทย์กระดูกและข้อมาตั้งแต่เรียนแพทย์ และการได้ฝึกงานกับหมอธันคือโอกาสทองของเขา แต่ความฝันอันสวยงามนั้นพังทลายตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเจอหมอธัน
“นายแพทย์ภณใช่ไหม” เสียงทุ้มเย็นชาของธนัชดังขึ้น ขณะที่เขายืนกอดอกมองภณจากหัวจรดเท้า “ดูท่าทางแล้ว ไม่น่าจะทนงานหนักได้เกินอาทิตย์”
ภณสะดุ้งเล็กน้อย แต่รีบยิ้มกว้าง “ผมทนได้ครับหมอ! ผมตั้งใจมาฝึกกับหมอธันมากเลยครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
ธนัชยกคิ้ว “ตั้งใจแค่ไหน เดี๋ยวก็รู้” เขาหันหลังเดินไปที่ห้องผ่าตัด โดยไม่รอให้ภณตามทัน
เคสแรกของวันคือคนไข้ที่ขาหักจากอุบัติเหตุรถยนต์ ภณยืนอยู่ข้างธนัชในฐานะผู้ช่วย เขาตื่นเต้นจนมือสั่นเล็กน้อย ขณะหยิบเครื่องมือผ่าตัด แต่แล้วโชคร้ายก็มาเยือน ถาดเครื่องมือหลุดจากมือเขาตกลงพื้น เสียงโลหะกระทบพื้นดังก้องในห้องผ่าตัดที่เงียบสงัด
ทุกสายตาหันมามอง ธนัชถอนหายใจยาว หันหน้ามามองภณด้วยสายตาเย็นเยือก “ถ้าคุมสติตัวเองไม่ได้ ก็ออกไปจากห้องนี้ซะ” เขาพูดช้า ๆ แต่ทุกคำหนักแน่นราวกับตีตราบนหน้าผากของภณ
ภณหน้าแดงก่ำ รีบก้มลงเก็บของ “ขอโทษครับหมอ ผมจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก” เขากัดฟันพูด แม้ในใจจะอายจนอยากหายไปจากโลก
“ไม่มีครั้งหน้า” ธนัชตัดบท ก่อนหันไปสั่งพยาบาลให้เตรียมเครื่องมือชุดใหม่ ภณยืนนิ่ง มือกำแน่น เขาสาบานกับตัวเองว่า จะไม่ยอมให้หมอธันดูถูกเขาอีก
หลายสัปดาห์ผ่านไป ภณเริ่มชินกับความเข้มงวดของธนัช เขาทำงานหนัก เรียนรู้ทุกอย่างจากหมอธันอย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะถูกต่อว่าบ่อย ๆ แต่ภณก็เริ่มสังเกตเห็นบางอย่าง ธนัชไม่เคยยิ้ม ไม่เคยพูดถึงตัวเอง และมักจะอยู่คนเดียวเสมอ ความเย็นชาของธนัชเริ่มกลายเป็นปริศนาที่ภณอยากค้นหา
วันหนึ่ง มีเคสฉุกเฉินเข้ามา ชายหนุ่มวัย 30 ปี ขาหักหลายท่อนจากการตกนั่งร้าน ธนัชสั่งให้ภณเตรียมฟิล์มเอ็กซเรย์และช่วยผ่าตัด ขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวาย ภณสังเกตเห็นรอยแตกเล็ก ๆ บนกระดูกสะโพกของคนไข้ที่ทีมอื่นมองข้าม เขากลั้นใจพูดขึ้น “หมอธันครับ ผมว่าสะโพกคนไข้มีรอยร้าวด้วย ต้องตรวจเพิ่มไหมครับ”
ธนัชหยุดมือ หันมามองภณด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก “แน่ใจ?” เขาถามสั้น ๆ
ภณพยักหน้า “ครับ ผมดูจากมุมนี้ เห็นชัดเจน”
ธนัชสั่งให้ทีมเอ็กซเรย์เพิ่ม และผลออกมาว่าภณพูดถูก เขายอมให้ภณช่วยผ่าตัดส่วนนั้นด้วย หลังจากผ่าตัดเสร็จ ธนัช
พูดกับภณครั้งแรกโดยไม่มีคำต่อว่า “ฝีมือไม่เลว”
ภณยิ้มกว้างจนตาหยี “ขอบคุณครับหมอ! ผมจะทำให้ดีกว่านี้แน่นอน” เขาตอบด้วยน้ำเสียงสดใส
ธนัชเหลือบมองรอยยิ้มนั้นครู่หนึ่ง ก่อนหันหน้าหนี แต่ในใจของเขาเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ความรู้สึกที่เขาไม่ยอมให้เกิดขึ้นมานาน
หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดขึ้น ภณมักหาโอกาสอยู่ใกล้ธนัช ช่วยงานดึก ๆ หรือแอบหยิบกาแฟมาให้ คืนหนึ่ง หลังจากผ่าตัดเคสยาว 12 ชั่วโมง ทั้งคู่เหนื่อยล้าจนแทบขยับตัวไม่ไหว ธนัชสั่งให้ทีมกลับบ้าน แต่ภณยืนยันว่าจะอยู่ช่วยเก็บของ
ทั้งสองเดินไปที่ระเบียงโรงพยาบาลเพื่อสูดอากาศ ฟ้ามืดสนิท มีเพียงแสงจันทร์สลัว ๆ ส่องลงมา ภณมองธนัชที่ยืนพิงระเบียง แสงจันทร์ตกกระทบใบหน้าคมของเขา ภณเผลอพูดออกมา “หมอธันครับ ผมอยากเก่งให้สมกับที่หมอสอน ผมไม่อยากให้หมอผิดหวังในตัวผม”
ธนัชหันมามอง “ฉันไม่เคยผิดหวังในตัวนาย” เขาตอบด้วยน้ำเสียงนิ่ง แต่แววตากลับอ่อนลง
ภณกลั้นใจ “ผมชอบหมอครับ” เขาพูดออกไปตรง ๆ “ไม่ใช่แค่แบบลูกศิษย์ ผมชอบหมอจริง ๆ”
ธนัชตัวแข็งทื่อ “อย่าพูดอะไรที่นายจะเสียใจ” เขาพูดเสียงสั่น แต่ภณไม่หยุด เขาก้าวเข้าไปใกล้ จับมือธนัชแน่น “ผมรู้ว่ามันผิด แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้”
ธนัชพยายามผลักภณออก แต่เมื่อเห็นน้ำตาคลอในตาของภณ ความอดกลั้นของเขาพังทลาย เขาดึงภณเข้ามากอดแน่น และจูบลงไปอย่างดุดัน
ลมหายใจของทั้งคู่ร้อนผ่าว ธนัชผลักภณพิงกำแพงระเบียง มือหนากดลงที่ไหล่ของภณแน่นจนภณสะดุ้ง แต่เขากลับโอบคอธนัชตอบอย่างไม่ยอมแพ้ การจูบของทั้งคู่เต็มไปด้วยความหิวโหย ธนัชฉีกกระดุมเสื้อกาวน์ของภณออก เผยให้เห็นผิวขาวเนียนที่ตอนนี้แดงระเรื่อจากความร้อนในตัว มือของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นอกของภณ กระชากเสื้อชั้นในออกอย่างไม่ปราณี
“หมอ…” ภณครางเบา ๆ ใบหน้าแดงก่ำ แต่ธนัชไม่ฟัง เขาก้มลงกัดที่ไหล่ของภณจนเป็นรอยแดง ก่อนเลื่อนริมฝีปากลงไปที่ลำคอ ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความดิบเถื่อน ภณจิกเล็บลงที่หลังธนัช ขาเริ่มอ่อนแรงจนต้องยึดกำแพงไว้
ธนัชถอนจูบออก หายใจหอบ “นายทำให้ฉันเสียสติ” เขากระซิบเสียงแหบ ก่อนดึงภณเข้ามาแนบชิดอีกครั้ง มือของเขาล้วงเข้าไปใต้กางเกงของภณ สัมผัสที่ร้อนแรงทำให้ภณตัวสั่นสะท้าน เขากัดปากแน่นเพื่อกลั้นเสียง แต่ธนัชไม่ยอม เขากระซิบข้างหูว่า “อย่ากลั้น ฉันอยากได้ยิน”
ทั้งคู่ปลดปล่อยทุกอย่างในคืนนั้น ภายใต้แสงจันทร์และลมเย็นที่ตัดกับความร้อนของร่างกาย ฉากนี้เต็มไปด้วยความดิบ ความต้องการ และความขัดแย้งในใจของธนัชที่ยังไม่ยอมรับตัวเองเต็มที่
เช้าวันต่อมา ธนัชตื่นขึ้นมาในห้องพักแพทย์ ภณนอนหลับอยู่ข้าง ๆ เสื้อผ้ายังกระจัดกระจาย เขามองภณด้วยสายตาสับสน ก่อนลุกขึ้นแต่งตัวและเดินออกไปโดยไม่ปลุก ภณตื่นมาเจอตัวเองอยู่คนเดียว เขารู้สึกเจ็บปวดแต่ก็เข้าใจว่าธนัชยังไม่พร้อม
ธนัชเรียกภณไปคุยที่ห้องทำงาน “เมื่อคืนเป็นความผิดพลาด” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ลืมมันซะ”
ภณน้ำตาคลอ “ผมลืมไม่ได้ครับ” เขาตอบ ก่อนเดินออกไป ใจของเขายิ่งมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ธนัชยอมรับ ไม่ใช่แค่ในฐานะแพทย์ แต่ในฐานะคนรัก