ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ
ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,ดราม่า,แฟนตาซี,วาย,nc,18+,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เส้นเเบ่งระหว่างหัวใจเเละหน้าที่ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ
ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ วันแรกที่เจอกัน ภณทำถาดเครื่องมือผ่าตัดตกพื้นเพราะตื่นเต้น ธนัชต่อว่าเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า “ถ้าคุมสติตัวเองไม่ได้ ก็ออกไปจากห้องนี้ซะ” ภณอายมาก แต่แอบตั้งปณิธานว่าจะทำให้ธนัชยอมรับเขาให้ได้
หลังจากเหตุการณ์ที่ระเบียงโรงพยาบาล ภณและธนัชต่างอยู่ในสภาวะที่อึดอัด ภณพยายามทำตัวปกติในที่ทำงาน แต่อาการหน้าแดงและสายตาที่เผลอมองธนัชบ่อย ๆ ทำให้เขาเก็บอาการไม่ค่อยอยู่ ส่วนธนัชเลือกที่จะเย็นชากับภณมากขึ้น เขาเพิ่มงานให้ภณหนักกว่าเดิม ราวกับพยายามสร้างกำแพงหนาขึ้นระหว่างทั้งคู่
เช้าวันหนึ่ง ทีมศัลยกรรมกระดูกและข้อมีประชุมเคสใหญ่คนไข้เด็กชายวัย 12 ปีที่กระดูกสันหลังหักจากอุบัติเหตุ ธนัชเป็นหัวหน้าทีมผ่าตัด และภณถูกมอบหมายให้ช่วยเตรียมข้อมูลคนไข้ เขาทุ่มเทกับงานนี้มากเป็นพิเศษ เพราะอยากให้ธนัชเห็นความตั้งใจของเขา
ในห้องประชุม ภณยืนอธิบายผลเอ็กซเรย์ด้วยความมั่นใจ “ผมคิดว่าถ้าเราใช้เทคนิคการตรึงกระดูกแบบนี้ จะลดความเสี่ยงที่เส้นประสาทจะถูกกระทบได้ครับ” เขาชี้ไปที่ภาพบนจอ
ธนัชพยักหน้าเล็กน้อย “ใช้ได้ แต่นายต้องแน่ใจว่ามือไม่สั่นเหมือนครั้งก่อน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่คำพูดนั้นเหมือนตบหน้าภณต่อหน้าทีม ทุกคนหัวเราะเบา ๆ ภณหน้าแดงแต่พยายามยิ้ม “ผมจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ” เขาตอบ ก่อนนั่งลงด้วยหัวใจที่เต้นแรง
ความใกล้ชิดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
หลังประชุม ธนัชสั่งให้ภณตามไปที่ห้องทำงานเพื่อดูแผนผ่าตัดเพิ่มเติม ห้องทำงานของธนัชเป็นห้องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นกาแฟและเอกสารแพทย์ ภณยืนอยู่ข้างโต๊ะ ขณะที่ธนัชชี้จุดต่าง ๆ บนแผนผ่าตัด ทั้งสองอยู่ใกล้กันจนภณได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จากตัวธนัช หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น
“หมอครับ…” ภณพูดขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน “ผมขอโทษเรื่องเมื่อคืนนั้น ผมไม่อยากให้มันทำให้หมอเกลียดผม”
ธนัชหยุดมือ หันมามองภณด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก “ฉันไม่เกลียดนาย” เขาพูดสั้น ๆ “แต่มันไม่ควรเกิดขึ้น”
“ทำไมครับ?” ภณถามต่อ ดวงตาคู่สวยฉายแววจริงจัง “หมอรู้สึกอะไรกับผมบ้างไหม หรือผมคิดไปเองคนเดียว”
ธนัชกำมือแน่น “นายไม่เข้าใจอะไรเลย” เขาตอบเสียงต่ำ ก่อนหันหน้าหนี “ไปทำงานของนายเถอะ”
ภณกัดปากแน่น เขาอยากเถียงต่อแต่เลือกที่จะเงียบ และเดินออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่บอกไม่ถูก
วันผ่าตัดเด็กชายมาถึง ภณและธนัชทำงานร่วมกันอย่างเงียบ ๆ ห้องผ่าตัดเต็มไปด้วยความตึงเครียด ธนัชสั่งการด้วยความแม่นยำ ขณะที่ภณพยายามตามให้ทันทุกขั้นตอน มีจังหวะหนึ่งที่เครื่องมือเกือบหลุดจากมือภณ แต่เขาคว้ามันไว้ได้ทัน ธนัชเหลือบมองแต่ไม่พูดอะไร
การผ่าตัดสำเร็จลงด้วยดี เด็กชายรอดชีวิต และทีมแพทย์ต่างชื่นชมฝีมือของธนัช ภณยืนมองจากมุมห้อง รู้สึกภูมิใจในตัวอาจารย์ของเขา แต่ในใจก็ยังเจ็บที่ธนัชไม่เคยมองเขากลับมาแบบที่เขาหวัง
หลังผ่าตัด ภณตามธนัชไปที่ห้องพักแพทย์เพื่อเก็บของ ธนัชดูเหนื่อยล้า เขานั่งลงที่เก้าอี้และถอนหายใจยาว ภณลังเลครู่หนึ่งก่อนเดินเข้าไปใกล้ “หมอครับ วันนี้หมอเก่งมากเลย ผมภูมิใจที่ได้ทำงานกับหมอ”
ธนัชเงยหน้าขึ้นมอง “นายก็ทำได้ดี” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “แต่ถ้านายอยากเก่งจริง ๆ อย่ามัวแต่เสียสมาธิกับเรื่องไร้สาระ”
ภณชะงัก “เรื่องไร้สาระที่หมอพูดถึง…คือผมเหรอครับ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงสั่น
ธนัชเงียบไปครู่หนึ่ง “ฉันมีปมของฉัน” เขาพูดในที่สุด “นายไม่ต้องรู้ก็ได้”
“ผมอยากรู้ครับ” ภณก้าวเข้าไปใกล้ “ถ้ามันทำให้หมอผลักผมออก ผมอยากรู้”
ธนัชถอนหายใจ เขาลุกขึ้นยืนและมองออกไปนอกหน้าต่าง “พี่ชายฉัน…เขาเป็นเกย์” เขาเริ่มเล่า “ครอบครัวไม่ยอมรับ พ่อตัดขาดเขา เขาเสียไปตอนฉันเรียนแพทย์ปีสาม ฉันช่วยเขาไม่ได้ และฉันสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เดินทางนั้น”
ภณตาแดง “แต่หมอไม่ใช่พี่ชายหมอนี่ครับ..หมอมีสิทธิ์เลือกชีวิตของตัวเอง”
“มันไม่ใช่แค่เรื่องนั้น” ธนัชหันมามองภณ “นายยังเด็ก นายไม่เข้าใจว่ามันจะทำลายอนาคตนายยังไง”
“ผมไม่สนครับ” ภณตอบทันควัน “ถ้าผมได้อยู่กับหมอ ผมไม่สนว่าอนาคตจะเป็นยังไง”
ธนัชกำหมัดแน่น เขาอยากพูดอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายก็เงียบ และเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ภณยืนอยู่คนเดียวด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง
หลังจากวันนั้น ธนัชเริ่มหลีกเลี่ยงภณอย่างชัดเจน เขามอบงานให้ภณผ่านพยาบาลแทน และแทบไม่คุยกับภณโดยตรง ภณรู้สึกเหมือนถูกตัดขาด เขาเริ่มสงสัยว่าความรู้สึกของตัวเองอาจเป็นฝ่ายเดียวจริง ๆ
แต่แล้วโชคชะตาก็พาทั้งคู่มาเจอกันอีกครั้งในคืนที่ฝนตกหนัก มีเคสฉุกเฉินเข้ามา คนไข้ชายวัย 40 ปี ขาหักและมีเลือดออกในช่องท้อง ธนัชต้องลงผ่าตัดด่วน แต่ทีมอื่นติดเคสอยู่ ภณอาสาเข้ามาช่วยโดยไม่ลังเล
ในห้องผ่าตัด ทั้งคู่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ธนัชสั่งการด้วยความเยือกเย็น ขณะที่ภณตามทุกขั้นตอนได้อย่างแม่นยำ มีจังหวะหนึ่งที่ธนัชต้องใช้มือกดหลอดเลือดเพื่อหยุดเลือดไหล มือของภณเผลอไปทับมือธนัช ทั้งคู่ชะงักไปวินาทีหนึ่ง แต่ไม่มีเวลาคิดอะไร ทั้งสองรีบทำงานต่อจนคนไข้รอด
หลังผ่าตัด ฝนยังตกหนักอยู่ข้างนอก ธนัชและภณติดอยู่ในโรงพยาบาลด้วยกัน ภณตัดสินใจเดินไปหาธนัชที่ห้องพักแพทย์ เขาเคาะประตูเบา ๆ “หมอครับ ผมขอคุยด้วยได้ไหม”
ธนัชเงียบครู่หนึ่งก่อนเปิดประตู “มีอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบ
ภณสูดหายใจลึก “ผมรู้ว่าหมอพยายามผลักผมออก แต่ผมถอยไม่ได้แล้วครับ ผมขอโอกาสให้ตัวเองได้พิสูจน์ว่าผมจริงจังจริงๆ”
ธนัชจ้องตาภณ “นายไม่รู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน”
“ผมรู้ครับ” ภณก้าวเข้าไปใกล้ “แต่ผมยอมเสี่ยง”
ระยะห่างระหว่างทั้งคู่เหลือเพียงไม่กี่นิ้ว หัวใจของธนัชเต้นแรงขึ้น เขารู้ว่าถ้าเขาข้ามเส้นนี้อีกครั้ง มันจะไม่มีทางหวนกลับ แต่แววตาของภณที่มองเขาด้วยความจริงใจกำลังสั่นคลอนกำแพงในใจของเขา
ฝนยังตกหนักอยู่นอกหน้าต่างห้องพักแพทย์ แสงไฟสลัวจากโคมไฟตั้งโต๊ะส่องกระทบใบหน้าของธนัชและภณที่ยืนเผชิญหน้ากัน บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงฝนและลมหายใจของทั้งคู่ที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ธนัชกำมือแน่น มองตาภณที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขารู้ว่าถ้าเขายอมใจอ่อนตอนนี้ ทุกอย่างที่เขาสร้างมาจะสั่นคลอน
“นายควรกลับไปพัก” ธนัชพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามควบคุม “พรุ่งนี้มีเคสเช้า”
“ผมไม่ไปครับ” ภณตอบทันควัน เขาก้าวเข้าไปอีกก้าวจนระยะห่างแทบไม่เหลือ “ผมเบื่อที่หมอผลักผมออก ผมอยากรู้ว่าหมอรู้สึกอะไรกับผมบ้าง”
ธนัชหลบตา “ฉันบอกนายไปแล้ว ว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น”
“แต่ผมเห็นในสายตาหมอ” ภณพูดต่อ “ตอนที่หมอจูบผมคืนนั้น มันไม่ใช่แค่ความผิดพลาด หมอรู้สึกอะไรบางอย่าง ใช่ไหมครับ”
ธนัชเงียบไปนาน เขาหันหน้ามามองภณ ดวงตาคู่คมฉายแววขัดแย้ง “นายไม่เข้าใจ” เขาพูดเสียงต่ำ “ถ้าฉันยอม มันจะทำลายทุกอย่าง ทั้งชื่อเสียง อนาคตของนาย และของฉัน”
“ผมบอกแล้วว่าผมไม่สน” ภณยื่นมือไปแตะแขนธนัชเบา ๆ “ผมแค่ต้องการหมอ”
สัมผัสนั้นทำให้ธนัชสะดุ้ง เขาดึงแขนออกและถอยหลัง “นายกลับไปเดี๋ยวนี้” เขาสั่งด้วยน้ำเสียงแข็ง แต่ภณไม่ขยับ เขายืนนิ่ง มองธนัชด้วยสายตาที่ทั้งเจ็บปวดและท้าทาย
“ถ้าหมอไม่รู้สึกอะไรจริง ๆ หมอจะกลัวอะไร” ภณถาม “กลัวผม หรือกลัวตัวเอง”
คำพูดนั้นเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงใจธนัช เขาก้าวเข้าไปหาภณอย่างรวดเร็ว จับไหล่ของภณแน่น “นายอยากรู้จริง ๆ ใช่ไหม” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงสั่น “ฉันกลัว…กลัวว่านายจะทำให้ฉันเสียทุกอย่างที่ฉันพยายามปกป้อง”
ภณน้ำตาคลอ “แล้วหมอไม่คิดบ้างเหรอครับ ว่าผมยอมเสียทุกอย่างเพื่อหมอเหมือนกัน”
ทั้งคู่จ้องตากันนาน ฝนที่ตกหนักนอกหน้าต่างเหมือนเป็นฉากหลังของความรู้สึกที่กำลังปะทุ ธนัชค่อย ๆ ปล่อยมือจากไหล่ภณ เขาหันหลังและพูดเบา ๆ “ไปพักเถอะ ฉันขอร้อง”
ภณกัดปากแน่น เขาอยากอยู่ต่อ แต่สุดท้ายก็ยอมเดินออกจากห้องไป ทิ้งธนัชให้ยืนอยู่คนเดียวด้วยหัวใจที่สับสน