ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ
ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,ดราม่า,แฟนตาซี,วาย,nc,18+,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เส้นเเบ่งระหว่างหัวใจเเละหน้าที่ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ
ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ วันแรกที่เจอกัน ภณทำถาดเครื่องมือผ่าตัดตกพื้นเพราะตื่นเต้น ธนัชต่อว่าเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า “ถ้าคุมสติตัวเองไม่ได้ ก็ออกไปจากห้องนี้ซะ” ภณอายมาก แต่แอบตั้งปณิธานว่าจะทำให้ธนัชยอมรับเขาให้ได้
หลังจากการประชุม ฟางเดินออกจากห้องด้วยท่าทางสงบ เธอถือแฟ้มเคสในมือ ผมยาวสีดำที่มัดสูงสะบัดไปมาเล็กน้อยตามจังหวะก้าวของเธอ เธอแวะที่เคาน์เตอร์พยาบาลเพื่อหยิบกาแฟแก้วใหม่ แก้วกระดาษสีขาวที่มีควันร้อนลอยขึ้นจากฝา เธอจิบกาแฟช้า ๆ ขณะเดินไปที่ระเบียงด้านนอกตึก
ระเบียงกว้างขวางมองเห็นวิวเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงและถนนที่คับคั่ง ลมเย็นจากฝนเมื่อคืนยังคงพัดผ่าน เธอยืนพิงราวเหล็กสีเงิน มองลงไปที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล สายตาของเธอเย็นเยือกแต่เต็มไปด้วยความคิด
ฟางนึกถึงวันรับปริญญา วันที่เธอใส่ชุดครุยสีดำยาว ผมยาวถูกปล่อยสยายลงตามธรรมชาติ เธอยืนอยู่ใต้ต้นจามจุรีหน้าคณะแพทย์ มองภณที่ยิ้มกว้างขณะถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อบอกความรู้สึกกับเขา หัวใจเต้นแรงจนแทบจะระเบิด แต่คำตอบของภณกลับกลายเป็นมีดที่กรีดใจเธอให้ฉีกขาด
“ฟาง ฉันเห็นเธอเป็นเพื่อนสนิทจริง ๆ ขอบคุณที่ชอบฉัน แต่ฉัน…ให้แบบนั้นกับเธอไม่ได้”
เธอยิ้มในวันนั้น ยิ้มทั้งที่น้ำตาไหลในใจ และบอกตัวเองว่าเธอจะลืมเขา แต่เมื่อเห็นภณทุ่มเทให้ธนัช คนที่ผลักเขาออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเจ็บปวดนั้นกลายเป็นความแค้น เธอเกลียดที่ภณไม่เคยมองเธอ เกลียดที่เขายอมให้ตัวเองเจ็บเพราะคนอย่างธนัช และเกลียดตัวเองที่ยังคงห่วงเขาแม้จะผ่านมานาน
ฟางจิบกาแฟอีกครั้ง รสขมของมันซึมลงลิ้น เธอมองไปที่ห้องฉุกเฉินที่อยู่ชั้นล่าง จุดที่เธอรู้ว่าภณอยู่ที่นั่นซึ่งกำลังดูแลเคสเด็กหญิงที่กระดูกแขนหักอยู่
ฟางยืนอยู่ที่ระเบียงชั้นบนของโรงพยาบาล ลมเย็นจากฝนเมื่อคืนยังคงพัดผ่านระเบียงกว้างขวาง ราวเหล็กสีเงินที่เธอพิงเย็นเฉียบสัมผัสกับข้อศอกของเธอผ่านชุดกาวน์บาง ๆ เธอสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวที่เริ่มมีรอยเปื้อนจากโคลนเล็กน้อย ผลจากการเดินฝ่าฝนเมื่อเช้า ผมยาวสีดำสนิทที่มัดสูงปลิวไหวไปตามลม เผยให้เห็นใบหน้าคมที่ดูสงบแต่ซ่อนอะไรบางอย่างไว้ลึก ๆ ดวงตาคู่ลึกของเธอมองลงไปที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล รถพยาบาลสีขาวจอดเรียงกันเป็นแถว รถยนต์ของบุคลากรกระจายอยู่รอบ ๆ และต้นไม้ใหญ่ที่ใบเขียวชอุ่มยังมีหยดน้ำเกาะจากฝนเมื่อคืน
มือขวาของเธอถือแก้วกาแฟกระดาษสีขาวที่เริ่มเย็นลงแล้ว ควันร้อนที่เคยลอยขึ้นจากฝาเริ่มจางหายไป เธอยกแก้วขึ้นจิบช้า ๆ รสขมของกาแฟดำไร้น้ำตาลซึมลงลิ้น ขมเหมือนความรู้สึกที่เธอเก็บไว้ในใจมานาน เธอมองไปที่ห้องฉุกเฉินชั้นล่างหน้าต่างกระจกใสที่สะท้อนแสงแดดอ่อน ๆ เผยให้เห็นเงาของบุคลากรที่เคลื่อนไหววุ่นวายอยู่ภายใน เธอรู้ว่าภณอยู่ที่นั่นรู้ว่าเขากำลังพยายามหนีจากบางอย่างในใจตัวเอง
ฟางนึกถึงอดีต ภาพวันรับปริญญายังคงชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เธอจำได้ถึงกลิ่นหญ้าที่ถูกตัดใหม่ในลานคณะแพทย์ เสียงหัวเราะของเพื่อน ๆ ที่ดังก้องไปทั่ว และความร้อนจากแดดที่แผดเผาผ่านชุดครุยสีดำยาวของเธอ เธอยืนอยู่ใต้ต้นจามจุรี ต้นไม้ใหญ่ที่ใบหนาที่ยื่นเงาครอบคลุม เธอสวมหมวกครุยที่เอียงเล็กน้อยจากลม ผมยาวถูกปล่อยสยายลงตามธรรมชาติ เธอมองภณที่ยิ้มกว้างขณะถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ เขาสวมชุดครุยเหมือนกัน ใบหน้าหวาน ๆ ของเขาดูสดใสราวกับเด็กที่เพิ่งได้รับของขวัญวันเกิด เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมด หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิด เดินเข้าไปหาเขา มือของเธอสั่นขณะยื่นดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่เธอซ่อนไว้ข้างหลัง
“ภณ” เธอเรียกชื่อเขาในวันนั้น น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย “ฉันมีอะไรจะบอก”
ภณหันมามองเธอ รอยยิ้มยังคงอยู่บนหน้า “อะไรเหรอฟาง” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไร้เดียงสา
เธอสูดหายใจลึก “ฉันชอบนาย” เธอพูดออกไปตรง ๆ “ชอบมานานแล้ว”
ภณชะงัก รอยยิ้มของเขาค่อย ๆ จางลง เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความรู้สึกผิด “ฟาง…” เขาเริ่ม “ฉันเห็นเธอเป็นเพื่อนสนิทจริง ๆ ขอบคุณที่ชอบฉัน แต่ฉัน…ให้แบบนั้นกับเธอไม่ได้”
คำพูดนั้นเหมือนค้อนที่ทุบลงบนใจของฟาง เธอยิ้มในวันนั้น ยิ้มทั้งที่น้ำตาไหลในใจ และพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ” แต่เธอไม่เคยเข้าใจจริง ๆ เธอเดินจากไปในวันนั้นด้วยหัวใจที่แตกสลาย และตั้งแต่วันนั้น เธอเก็บความเจ็บปวดนั้นไว้เงียบ ๆความเจ็บที่กลายเป็นความแค้นเมื่อเห็นภณทุ่มเทให้คนอื่น โดยเฉพาะธนัช คนที่ผลักเขาออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ฟางวางแก้วกาแฟลงบนขอบระเบียง เธอกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วขาว “นายไม่เคยเห็นฉัน” เธอพูดกับตัวเองเบา ๆ “แต่กลับยอมให้คนแบบนั้นทำร้ายนาย ฉันจะรอดูวันที่นายเสียใจ” ดวงตาของเธอฉายแววเย็นชา เธอไม่ใช่คนใจร้าย แต่ความแค้นที่ฝังลึกทำให้เธออยากเห็นภณเจ็บ เจ็บเหมือนที่เธอเคยเจ็บ
ห้องฉุกเฉินชั้นล่างของโรงพยาบาลเต็มไปด้วยความโกลาหลตามปกติ แสงไฟสีขาวนวลจากโคมไฟเพดานส่องสว่างทุกมุม ผนังสีขาวสะอาดมีรอยคราบเลือดจาง ๆ ที่ยังไม่ได้เช็ด เตียงผู้ป่วยถูกจัดเรียงเป็นแถว บางเตียงมีม่านสีเขียวขุ่นกั้นไว้ บางเตียงเปิดโล่งเผยให้เห็นคนไข้ที่นอนรอการรักษา เสียงเครื่องวัดชีพจรดัง “ปิ๊บ ปิ๊บ” สลับกับเสียงร้องไห้ของเด็กและคำปลอบโยนจากพยาบาล กลิ่นยาฆ่าเชื้อฉุนขึ้นจมูกผสมกับกลิ่นเหงื่อและโคลนจากเสื้อผ้าของคนไข้ที่ถูกหามเข้ามา
ภณยืนอยู่ข้างเตียงของเด็กหญิงวัย 10 ปี น้องมิวที่กระดูกแขนหักจากอุบัติเหตุจักรยาน เธอสวมเสื้อยืดสีฟ้าที่เปื้อนโคลนและฝุ่น แขนขวาของเธอบิดงอผิดรูป ผิวขาวซีดของเธอเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนเล็ก ๆ จากการล้ม แม่ของน้องมิวยืนอยู่ข้างเตียง ผู้หญิงวัยกลางคนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีเหลืองและกางเกงยีนส์ มือของเธอกุมปากแน่น น้ำตาไหลลงมาเป็นสายขณะมองลูกสาวด้วยความกังวล
“คุณหมอ ช่วยลูกฉันด้วยค่ะ” เสียงของแม่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาด้วยหลังมือ
ภณพยักหน้า “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูให้ดีที่สุด” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่พยายามปลอบโยน เขาคุกเข่าลงข้างเตียงเพื่อให้อยู่ในระดับสายตาของน้องมิว “เจ็บตรงไหนบ้าง” เขาถาม ดวงตาคู่สวยของเขามองเด็กด้วยความอ่อนโยน
“เจ็บ…ตรงนี้ค่ะ” น้องมิวตอบ เสียงของเธอสั่นจากความเจ็บปวด มือซ้ายชี้ไปที่แขนขวาที่บวมแดง
ภณค่อย ๆ สัมผัสแขนของเธอด้วยนิ้วที่ระมัดระวัง ผิวของเด็กเย็นและชื้นจากเหงื่อ เขาสังเกตเห็นจุดที่กระดูกหักจากท่าทางที่ผิดรูปและอาการบวม เขาหันไปสั่งพยาบาลที่ยืนอยู่ด้านหลัง “เตรียมเครื่องเอ็กซเรย์ให้หน่อยครับ แล้วเอาที่ตรึงแขนมาด้วย”