ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ
ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,ดราม่า,แฟนตาซี,วาย,nc,18+,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เส้นเเบ่งระหว่างหัวใจเเละหน้าที่ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ
ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ วันแรกที่เจอกัน ภณทำถาดเครื่องมือผ่าตัดตกพื้นเพราะตื่นเต้น ธนัชต่อว่าเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า “ถ้าคุมสติตัวเองไม่ได้ ก็ออกไปจากห้องนี้ซะ” ภณอายมาก แต่แอบตั้งปณิธานว่าจะทำให้ธนัชยอมรับเขาให้ได้
ธนัชปิดประตูเสียง "คลิก" ดังขึ้นเบา ๆ เขาเดินเข้าไปใกล้ ฝีเท้าของเขาดังก้องบนพื้นไม้ ก่อนหยุดยืนตรงหน้าภณ "ทำไมนายถึงมานอนตรงนี้" เขาพูดน้ำเสียงนุ่มลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ผม...เพลียนิดหน่อยครับ เลยมานอนพักเอาแรง" ภณตอบ เขาดึงขาเข้ามานั่งตัวตรงท่าทางที่เหมือนพยายามตั้งกำแพงป้องกันตัวเอง
ธนัชวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ แก้วกระทบไม้ดัง "ก๊อก" เบา ๆ เขานั่งลงบนโซฟาข้างภณ ระยะห่างระหว่างทั้งคู่แค่หนึ่งฟุต เขามองภณ ใบหน้าซีด ๆ ดวงตาที่แดงก่ำ และท่าทางที่ดูอ่อนล้า "นายดูไม่ค่อยดีเลยนะ" เขาพูด "เมื่อวาน...ฉันขอโทษจริงๆ กับการกระทำแบบนั้น"
ภณชะงัก หัวใจของเขาเต้นแรง "ขอโทษอะไรครับ" เขาถามน้ำเสียงสั่น
ธนัชสูดหายใจลึก "ขอโทษที่ทำให้ทุกอย่างมันซับซ้อน" เขาตอบ "ขอโทษที่ฉันหนีจากนาย" เขาหยุดมองตาภณดวงตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยคำถาม "และขอโทษที่ฉันไม่ยอมบอกความจริง"
ภณกำมือแน่น เล็บจิกลงบนฝ่ามือ "ความจริงอะไรครับ" เขาถามน้ำตาคลอในตา
ธนัชเงียบไปครู่หนึ่ง เขายกมือขึ้น นิ้วของเขาสั่นเล็กน้อย ก่อนวางลงบนไหล่ของภณ "ฉันกลัว" เขาพูด "กลัวที่จะยอมรับว่าฉันรู้สึกอะไรกับนาย เพราะมันขัดกับทุกอย่างที่ฉันเคยบอกตัวเอง"
ภณน้ำตาคลอ "หมอรู้สึกอะไรครับ" เขาถามน้ำเสียงแทบเป็นกระซิบ
ธนัชมองตาเขา ดวงตาคู่ลึกของเขาฉายแววอ่อนโยนที่ไม่เคยมีมาก่อน "ฉันชอบนาย" เขาพูด "มากกว่าที่ฉันอยากยอมรับ และฉันเกลียดตัวเองที่ปล่อยให้มันนานขนาดนี้"
ภณชะงัก น้ำตาไหลลงมาเงียบ ๆ เขายกมือขึ้นสัมผัสมือของธนัชที่วางบนไหล่เขา "นี่หมอพูดจริง ๆ เหรอครับ" เขาถามน้ำเสียงสั่น
ธนัชพยักหน้า "ฉันพูดจริงๆ" เขาตอบ เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้ ลมหายใจของเขาสัมผัสกับใบหน้าของภณ "ฉันสัญญาว่า ฉันจะไม่หนีอีกแล้ว"
ภณยิ้ม รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวังและความเจ็บปวด "ผมรอคำนี้มานานแล้วครับ" เขาพูดทั้งที่น้ำตาก็ยังคงไหลลงมา เขายกมือขึ้นโอบรอบคอธนัช สัมผัสที่อบอุ่นและสั่นเทา
ธนัชก้มลง ริมฝีปากของเขาประทับลงบนปากของภณ การจูบที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่เก็บกดมานาน ภณตอบรับ มือของเขาจิกที่ไหล่ธนัชแน่นขึ้น ห้องพักแพทย์ที่เงียบสงัดถูกเติมเต็มด้วยความอบอุ่น ความอบอุ่นที่ทั้งคู่รอคอย
ในขณะเดียวกัน ที่โรงอาหาร ฟางและกรณ์ยังคงนั่งคุยกัน ข้าวต้มในถ้วยของฟางเย็นชืดแล้ว ข้าวผัดของกรณ์เหลือครึ่งจาน เขาดูไม่หิวอีกต่อไป ฟางมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา เธอรู้ว่าเธอได้กรณ์มาเป็นพันธมิตรแล้ว และเธอพร้อมที่จะเริ่มแผนการ
"หมอกรณ์" ฟางพูด น้ำเสียงนุ่มแต่แฝงด้วยเล่ห์ "ถ้าเราจะดูทั้งคู่ หมอคิดว่าเราควรเริ่มจากไหน"
กรณ์ครุ่นคิด "ถ้าจะดูหมอธัน ฉันคงต้องหาโอกาสคุยกับเขา" เขาตอบ "ส่วนภณ...เธอสนิทกับเขา เธอน่าจะรู้วิธีเข้าใกล้เขาได้ดีกว่า"
ฟางพยักหน้า "ฉันจะลองคุยกับภณค่ะ" เธอพูด "แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ฉันอยากให้หมอช่วยฉันจัดการ"
"จัดการยังไง" กรณ์ถาม น้ำเสียงเริ่มสงสัย
ฟางยิ้ม รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความแค้น "ถ้าภณกับหมอธันมีอะไรกันจริง" เธอพูด "ฉันอยากให้ทุกคนรู้ รู้ว่าภณเลือกอะไร และรู้ว่ามันพังยังไง"
กรณ์ชะงัก "ฟาง" เขาเริ่ม "เธอแน่ใจเหรอว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการ"
ฟางมองตาเขา "แน่ใจค่ะ" เธอตอบ "ภณเคยทำร้ายฉัน ไม่ใช่ด้วยคำพูด แต่ด้วยการที่เขาไม่เคยมองฉัน ฉันแค่อยากให้เขาเจ็บเหมือนที่ฉันเคยเจ็บ"
กรณ์เงียบ เขารู้สึกถึงความแค้นในน้ำเสียงของฟาง และเขารู้ว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องความห่วงใย เขาลังเล แต่ความเป็นห่วงภณทำให้เขาพยักหน้า "ได้" เขาพูด "แต่ถ้ามันไม่จริง ฉันจะหยุด"
ฟางยิ้มกว้างขึ้น "ตกลงค่ะ" เธอพูด เธอลุกขึ้นจากโต๊ะ ฝีเท้าของเธอดังเบา ๆ บนพื้นกระเบื้อง ก่อนหันกลับมามองกรณ์ "พรุ่งนี้เจอกันที่นี่อีกนะคะ เราจะเริ่มกัน"
กรณ์พยักหน้า แต่ในใจของเขา ความไม่สบายใจเริ่มก่อตัว เขามองตามหลังฟางที่เดินออกไป เงาของเธอยาวขึ้นในแสงแดดยามเช้า เขารู้ว่าเขากำลังก้าวเข้าสู่พายุ พายุที่ฟางจุดขึ้น และเขาหวังว่าเขาจะไม่เสียใจ
เย็นวันนั้น โรงพยาบาลศรีธัญญาค่อย ๆ เงียบลงหลังจากความวุ่นวายของวัน แสงแดดสีส้มทองลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มปนม่วง เมฆบาง ๆ ลอยตัวต่ำสะท้อนแสงสุดท้ายของวัน โถงทางเดินชั้นล่างที่เคยเต็มไปด้วยเสียงฝีเท้าและคำสั่งการตอนนี้เหลือเพียงความเงียบ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดัง "วี๊ง" เบา ๆ และเสียงพยาบาลกะดึกที่คุยกันเบา ๆ ที่เคาน์เตอร์ แสงไฟนีออนสีขาวจากเพดานส่องสว่าง สะท้อนบนพื้นกระเบื้องสีขาวเงาวับ กลิ่นยาฆ่าเชื้อจาง ๆ ลอยคละคลุ้งในอากาศ
ธนัชยืนอยู่ที่โถงใกล้ห้องพักแพทย์ เสื้อกาวน์ของเขาถูกถอดออกแล้ว วางพาดบนแขนซ้าย เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ยับเล็กน้อยจากวันอันยาวนาน กระดุมเม็ดบนสุดถูกปลดออก เผยให้เห็นคอและไหปลาร้าที่แข็งแรง ผมสีดำเข้มของเขาเปียกชื้นจากเหงื่อ บางเส้นตกลงมาปรกหน้าผาก เขาถือกระเป๋าเป้สีเทาในมือขวา กระเป๋าที่มีรอยยับจากการใช้งานมานาน เขากำลังรอภณ รอเพื่อชวนเขาไปที่ที่เขาตัดสินใจไว้ตั้งแต่เช้า
ประตูห้องพักแพทย์เปิดออก ภณเดินออกมาด้วยท่าทางอ่อนล้า เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาอ่อนที่ยับยู่ยี่ กาวน์ของเขาถูกพับเก็บในกระเป๋าสะพายสีดำที่ห้อยอยู่บนไหล่ขวา ผมสีน้ำตาลอ่อนของเขายุ่งเหยิง เส้นผมติดกันจากเหงื่อ ดวงตาคู่สวยของเขายังมีรอยแดงจาง ๆ จากน้ำตาเมื่อวาน แต่แววตาของเขาสว่างขึ้นเมื่อเห็นธนัช
"หมอธัน" ภณเรียก น้ำเสียงนุ่มและสั่นเล็กน้อยจากความตื่นเต้น "ยังไม่กลับเหรอครับ"
ธนัชหันมามองเขา ดวงตาคู่คมของเขาอ่อนลง "ฉันรอนาย" เขาตอบ น้ำเสียงนุ่มแต่หนักแน่น "วันนี้...ไปกินข้าวด้วยกันไหม"
ภณชะงัก หัวใจของเขาเต้นแรง "กินข้าว?" เขาถาม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
"ใช่" ธนัชพยักหน้า เขาก้าวเข้าไปใกล้ กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จากตัวเขาลอยไปถึงภณ "ที่คอนโดผม ผมอยากคุยกับนายแบบสบาย ๆ สักหน่อย"
ภณกำกระเป๋าสะพายแน่น นิ้วของเขาสั่นเล็กน้อย "ได้ครับ" เขาตอบ รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนหน้า "ผมจะไป"
ธนัชยิ้ม รอยยิ้มที่หายากและเต็มไปด้วยความอบอุ่น "งั้นเราไปกันไปกันเถอะ" เขาพูดพร้อมหันหลังแล้วเดินนำไปที่ลานจอดรถ ฝีเท้าของเขาดังก้องบนพื้นกระเบื้อง ภณตามหลัง หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความหวังและความตื่นเต้น
ลานจอดรถของโรงพยาบาลเต็มไปด้วยรถยนต์ที่จอดเรียงกัน แสงจากโคมไฟถนนสีเหลืองนวลส่องลงมา สะท้อนบนตัวถังรถสีเงินของธนัช เขาเดินไปที่รถ BMW สีเงิน รถคันเรียบหรูที่สะอาดสะอ้าน เขากดรีโมท ไฟหน้ากะพริบสองครั้งพร้อมเสียง "บี๊บ" เขาเปิดประตูฝั่งคนขับ กลิ่นหนังแท้จากเบาะลอยออกมา ก่อนหันไปบอกภณ "ขึ้นมาสิ"
ภณพยักหน้า เขาเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร เบาะหนังสีดำเย็นสัมผัสกับขาของเขาผ่านกางเกง เขานั่งลง วางกระเป๋าสะพายไว้ที่ตัก กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของธนัชที่ติดอยู่ในรถทำให้เขารู้สึกอบอุ่น ธนัชสตาร์ทรถ เครื่องยนต์ดัง "ครืด" เบา ๆก่อนขับออกจากลานจอดรถ แสงไฟจากถนนส่องผ่านกระจก สะท้อนบนใบหน้าคมของเขา