จากคนที่ส่งมาให้สังหารศัตรูกับเเปรเปลี่ยนความคิดเเละเลือกฝั่งศัตรูเเทน เพราะเหตุผลบางอย่าง

จากศัตรูกลับกลายเป็นคนรู้ใจ - บทที่ 4 เงาในป่าลึก โดย Raine Whitmore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ชาย-ชาย,ญี่ปุ่น,รัก,ดราม่า,ดราม่า,nc,ผจญภัย,มาเฟีย,มาเฟีย ,วาย,yaoi,yaoi ,นิยายเกย์,นิยายโรแมนติก,นิยายโรมานซ์,นิยาย18+,นิยายNC,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

จากศัตรูกลับกลายเป็นคนรู้ใจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ชาย-ชาย,ญี่ปุ่น,รัก,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,nc,ผจญภัย,มาเฟีย,มาเฟีย ,วาย,yaoi,yaoi ,นิยายเกย์,นิยายโรแมนติก,นิยายโรมานซ์,นิยาย18+,นิยายNC

รายละเอียด

จากศัตรูกลับกลายเป็นคนรู้ใจ โดย Raine Whitmore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จากคนที่ส่งมาให้สังหารศัตรูกับเเปรเปลี่ยนความคิดเเละเลือกฝั่งศัตรูเเทน เพราะเหตุผลบางอย่าง

ผู้แต่ง

Raine Whitmore

เรื่องย่อ

ในเมืองทมิฬที่แสงไฟจากตึกระฟ้าถูกกลบด้วยควันปืนและกลิ่นคาวเลือด “ริว” หัวหน้าแก๊งมาเฟียหนุ่มที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมและเย็นชา เขาคือเงามืดที่ครอบครองใต้ดินของเมืองนี้ ด้วยดวงตาสีเทาดุจเหล็กกล้าและรอยแผลเป็นที่พาดผ่านคิ้วซ้าย ริวไม่เคยไว้ใจใคร นอกจากปืนในมือและลูกน้องที่พร้อมตายเพื่อเขา

แต่แล้ววันหนึ่ง ชีวิตของริวก็ต้องสั่นคลอน เมื่อ “ไค” ชายหนุ่มปริศนาที่มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และสายตาที่อ่านยาก ปรากฏตัวในฐานะนักฆ่ารับจ้างที่ถูกส่งมาเพื่อปลิดชีวิตเขา ไคมีผมสีดำสนิทและรอยสักรูปงูที่คอ เขาคืออาวุธที่สมบูรณ์แบบ เงียบ รวดเร็ว และไร้ความปราณี แต่ในคืนที่เขาควรจะลงมือ ไคกลับเลือกที่จะทรยศนายจ้าง และยื่นข้อเสนอให้ริวแทน

จากจุดเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยความระแวงและการต่อสู้ ริวกับไคกลายเป็นคู่หูที่ไม่มีใครในเมืองกล้าท้าทาย ไคกลายเป็นเงาของริว คนที่คอยกำจัดศัตรูในความมืด ขณะที่ริวปกป้องไคจากอดีตที่ตามหลอกหลอนเขา แต่เมื่อแก๊งคู่แข่งเริ่มขุดคุ้ยความลับว่าไคเคยถูกส่งมาเพื่อฆ่าริว ความไว้วางใจที่เปราะบางของทั้งคู่ก็ถูกทดสอบ

สารบัญ

จากศัตรูกลับกลายเป็นคนรู้ใจ-บทที่ 1 เงามืดในสายฝน,จากศัตรูกลับกลายเป็นคนรู้ใจ-บทที่ 2 คำสัญญา,จากศัตรูกลับกลายเป็นคนรู้ใจ-บทที่ 3 รอยแผลและแสงรุ่งสาง,จากศัตรูกลับกลายเป็นคนรู้ใจ-บทที่ 4 เงาในป่าลึก,จากศัตรูกลับกลายเป็นคนรู้ใจ-บทที่ 5 เงามืดเคลื่อนไหว

เนื้อหา

บทที่ 4 เงาในป่าลึก

หลังจากพักฟื้นที่เซฟเฮาส์ได้สองวัน ริวตัดสินใจพาไคออกเดินทางไปตามล่าต้นตอของศัตรูที่ยังซ่อนตัวอยู่ ข่าวลือจากโทมะบอกว่าหัวหน้าลับของแก๊งเสือแดงหลบซ่อนอยู่ในป่าสนที่ทอดยาวไปทางทิศเหนือของเมืองทมิฬ ป่าผืนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความลึกลับและอันตราย เต็มไปด้วยโขดหินสูงชัน หนองน้ำที่ปกคลุมด้วยหมอก และเสียงหอนของสัตว์ป่าที่ดังก้องในยามค่ำคืน

รถตู้สีดำของทั้งคู่หยุดลงที่ขอบป่า ฝุ่นจากล้อรถฟุ้งกระจายเมื่อล้อกระทบพื้นกรวดแห้งที่เต็มไปด้วยรอยแตก ริวเปิดประตูรถ มือหนึ่งถือปืนลูกโม่สีเงินที่ขัดเงาจนสะท้อนแสงแดดยามบ่าย อีกมือหนึ่งถือมีดพร้าสั้นที่มีรอยบากจากการใช้งานหนัก เขาสวมเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำที่ขาดวิ่นและกางเกงยีนสีเข้มที่เปื้อนโคลนจากภารกิจก่อนหน้า

ไคลงจากรถตามหลัง แม้แผลที่ท้องของเขาจะยังไม่หายดี เขาก็ยืนหยัดด้วยความมุ่งมั่น เขาสวมเสื้อคลุมสีเข้มที่ซ่อมแซมด้วยผ้าปะชุ่ยชาย และมีดสั้นสองเล่มเหน็บอยู่ที่เอว รอยสักงูที่คอของเขาดูเด่นชัดยิ่งขึ้นเมื่อแสงแดดส่องกระทบ “พร้อมแล้ว” เขาพูด มองริวด้วยรอยยิ้มมุมปาก

ป่าสนที่อยู่เบื้องหน้ากว้างใหญ่และเงียบสงัด ต้นสนสูงตระหง่านเรียงตัวหนาที่ยอดเข็มสนสีเขียวเข้มบังแสงแดดจนแทบไม่ถึงพื้น กลิ่นหอมของยางสนผสมกับกลิ่นดินชื้นลอยคละคลุ้งในอากาศ พื้นป่าปกคลุมด้วยใบสนแห้งที่กรอบแกรบ ส่งเสียงดังกรอบแกรบทุกครั้งที่เท้าของทั้งคู่เหยียบลงไป หมอกบาง ๆ ลอยต่ำเหนือพื้นดิน ทำให้ทัศนวิสัยเลือนรางราวกับอยู่ในความฝัน

ทั้งสองเดินลึกเข้าไปในป่า เงาของต้นสนทอดยาวตามแสงแดดที่ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า เสียงนกป่าที่ร้องเจื้อยแจ้วเมื่อตอนเช้าถูกแทนที่ด้วยความเงียบที่หนักอึ้ง มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านยอดสน ส่งเสียงหวีดเบา ๆ คล้ายคำเตือนจากธรรมชาติ

“ระวังเท้า” ริวพูด ขณะใช้มีดพร้าตัดกิ่งไม้ที่ขวางทาง ใบไม้สีเขียวเข้มที่ถูกตัดหล่นลงพื้น ปล่อยกลิ่นน้ำยางขม ๆ ออกมา เขาหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงกิ่งไม้หักดังมาจากด้านขวา มือของเขาคว้าปืนขึ้นเล็งทันที ดวงตาสีเทาสอดส่ายไปรอบ ๆ

ไคหยุดตาม มือหนึ่งวางบนด้ามมีดสั้น เขาก้มลงมองพื้น เห็นรอยเท้าขนาดใหญ่ที่ฝังลึกในดินโคลน “ไม่ใช่คน” เขากระซิบ “หมาป่า หรืออาจจะแย่กว่านั้น”

ไม่ทันที่ริวจะตอบ เสียงคำรามต่ำ ๆ ดังขึ้นจากพุ่มไม้หนาทางด้านซ้าย ต้นไม้เล็ก ๆ สั่นไหวเมื่อร่างขนาดใหญ่เคลื่อนผ่าน หมาป่าสีเทาขนดกสองตัวก้าวออกมา ดวงตาสีเหลืองของมันเรืองรองในเงามืด ปากของมันเปื้อนคราบเลือดแห้งจากเหยื่อก่อนหน้า

ริวผลักไคไปด้านหลังทันที “อยู่ข้างหลังข้า” เขาพูด ก่อนจะยิงปืนลูกโม่ใส่ตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด เสียงปืนดังสนั่นสะท้อนไปทั่วป่า กระสุนเจาะเข้าที่หัวของหมาป่า มันล้มลงทันที เลือดสีแดงเข้มไหลซึมลงบนใบสนแห้ง

ตัวที่สองกระโจนเข้าหาริวด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ กรงเล็บของมันตะกุยอากาศ ริวหลบได้ทัน แต่ถูกมันข่วนที่แขนจนเสื้อหนังขาดเป็นทางยาว เขากัดฟันแน่นจากความเจ็บ ก่อนจะใช้มีดพร้าฟันเข้าที่คอของมันเต็มแรง เลือดสาดกระจายไปทั่วใบหน้าและหน้าอกของเขา

ไครีบวิ่งเข้ามา ใช้มีดสั้นแทงซ้ำที่ลำตัวของหมาป่าจนแน่ใจว่ามันตายสนิท เขาหอบหายใจ มองริวด้วยความกังวล “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ริวเช็ดเลือดจากใบหน้าด้วยหลังมือ “แค่รอยข่วน” เขาพูด แต่แววตาของเขาอ่อนลงเมื่อเห็นความห่วงใยในดวงตาของไค

ทั้งสองนั่งพักชั่วครู่ข้างโขดหินใหญ่ที่ปกคลุมด้วยมอสสีเขียวเข้ม กลิ่นคาวเลือดจากหมาป่าผสมกับกลิ่นดินและยางสนทำให้อากาศหนักอึ้ง ไควางมือบนแขนของริว ตรวจดูรอยข่วน “ต้องล้างแผล” เขาพูด หยิบขวดน้ำจากเป้สะพายหลังที่โทมะเตรียมไว้ให้

น้ำเย็นจากขวดไหลลงบนแผลของริว เขาสะดุ้งเล็กน้อยจากความแสบ “ข้าบอกแล้วว่าไม่เป็นไร” เขาพูด แต่ยอมให้ไคฉีกผ้าจากเสื้อของตัวเองมาพันแผลให้

ไคมองริวขณะพันผ้า “เจ้าไม่ต้องแกล้งเข้มแข็งกับข้าตลอดก็ได้” เขาพูดเบา ๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าเจ็บ”

ริวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปจับคางของไคให้เงยหน้าขึ้น “และข้าก็รู้ว่าเจ้ากำลังฝืนตัวเอง” เขาตอบ “แผลของเจ้ายังไม่หายดี แต่เจ้าก็ยังตามข้ามา”

ไคยิ้ม “เพราะข้าสัญญาแล้วไง” เขาขยับเข้าใกล้ วางหน้าผากพิงหน้าผากของริว “และข้าจะไม่ยอมให้เจ้าตายในป่านี้แน่”

ริวหัวเราะเบา ๆ เสียงแหบพร่า “เจ้ามันดื้อ” เขาพูด ก่อนจะก้มลงจูบไคสั้น ๆ ริมฝีปากของทั้งคู่เย็นจากลมในป่า แต่สัมผัสนั้นอบอุ่นราวกับแสงแดด

เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ป่าผืนนี้ถูกปกคลุมด้วยความมืดสนิท มีเพียงแสงจันทร์สีเงินที่ลอดผ่านช่องว่างของยอดสนลงมาเป็นเส้นบาง ๆ อากาศเย็นลงจนลมหายใจของทั้งคู่กลายเป็นไอขาว กลิ่นยางสนเริ่มจาง ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นน้ำค้างและดินชื้น

ริวและไคตั้งแคมป์ชั่วคราวในโพรงหินที่ซ่อนอยู่ใต้รากต้นสนขนาดยักษ์ รากไม้สีน้ำตาลเข้มโค้งงอเป็นกำแพงธรรมชาติ ปกป้องทั้งคู่จากลมหนาว ริวก่อกองไฟเล็ก ๆ โดยใช้กิ่งไม้แห้งที่เก็บได้จากรอบ ๆ แสงไฟสีส้มส่องสว่างใบหน้าของทั้งคู่ และสะท้อนกับโขดหินที่เต็มไปด้วยรอยแตก

ไคนั่งพิงรากไม้ มือหนึ่งกุมท้องที่ยังเจ็บอยู่ เขามองริวที่กำลังใช้มีดพร้าปอกเปลือกกิ่งไม้เพื่อเติมไฟ “เจ้าเคยคิดไหม ว่าถ้าเราไม่ใช่มาเฟีย ชีวิตเราจะเป็นยังไง” เขาถาม

ริวหยุดมือ มองเปลวไฟที่เต้นระริก “บางทีข้าอาจเป็นแค่คนตัดไม้” เขาพูด “ส่วนเจ้า … คงเป็นนักล่าที่เก่งที่สุดในป่า”

ไคหัวเราะ “ข้าคงล่าเจ้าเป็นคนแรก” เขาพูดติดตลก แต่ดวงตาของเขาอบอุ่น

ริววางมีดลง ขยับมานั่งข้างไค “ถ้าเจ้าจะล่าข้า ข้าก็ยอมให้จับ” เขาพูด ดึงไคเข้ามากอด แขนของเขาสัมผัสผ้าพันแผลที่หยาบกร้าน “แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะไม่ปล่อยข้าไป”

ไคพิงอกของริว ฟังเสียงหัวใจที่เต้นสม่ำเสมอ “ข้าสัญญา” เขากระซิบ “ไม่ว่าจะในป่านี้หรือที่ไหน ข้าจะอยู่กับเจ้า”

ทั้งคู่นั่งกอดกันอยู่นาน เสียงไม้ที่ไหม้ในกองไฟดังเปรี๊ยะ ๆ ผสมกับเสียงลมที่พัดผ่านยอดสน ความมืดของป่าล้อมรอบ แต่ความอบอุ่นจากกันและกันทำให้ทั้งสองรู้สึกปลอดภัย

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากระยะไกล เงาดำ ๆ เคลื่อนไหวในหมอก ริวและไคเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน มือของทั้งคู่คว้าอาวุธทันที ศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ในป่ากำลังใกล้เข้ามาแล้ว