โต๊ะทำงานนี้ไม่ใช่ที่ทำงานอย่างเดียว (20+) เรื่องราวของ CEO กับเลขาจำเป็น
ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,รัก,ไทย,เล่าประสบการณ์,NC25++,NC+,NC,yaoi,yaoi ,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โต๊ะทำงานนี้ไม่ใช่ที่ทำงานอย่างเดียว (20+) เรื่องราวของ CEO กับเลขาจำเป็นโต๊ะทำงานนี้ไม่ใช่ที่ทำงานอย่างเดียว (20+) เรื่องราวของ CEO กับเลขาจำเป็น
โต๊ะทำงานนี้ไม่ใช่ที่ทำงานอย่างเดียว (20+) เรื่องราวของ CEO กับเลขาจำเป็น
คำเตือนเนื้อหา มีการบรรยายฉาก NC เเบบละเอียดผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ CEO สุดเท่ที่กวนประสาทและเลขาคนสนิทที่กวนไม่แพ้กัน เนื้อหาจะเป็นแนว 20+ มีฉาก NC เยอะๆ ลึกซึ้ง และบรรยายอย่างละเอียดโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ไทร์ดึงบ็อกเซอร์ของคีย์ลง แล้วใช้ก้อนน้ำแข็งวนรอบส่วนที่แข็งขึงของคีย์ช้าๆ ความเย็นทำให้คีย์ครางดังขึ้น "อ้ะ... ไทร์... เสียว..." ไทร์ตามด้วยการใช้ปากที่อุ่นจากลมหายใจครอบลงไป ความเย็นและร้อนสลับกันทำให้คีย์แทบเสียสติ "มึง... กูจะไม่ไหว..."
ไทร์ดูดและเลียสลับกับการใช้ก้อนน้ำแข็งถูไปตามโคน คีย์จิกที่แขนเก้าอี้แน่น "ไทร์... กู... อ้ะ..." เขาถึงจุดสุดยอด ปลดปล่อยออกมาเต็มปากของไทร์ ไทร์เลียน้ำแข็งที่ละลายผสมกับของเหลวนั้นช้าๆ "มึงนี่มัน... อร่อยว่ะ"
คีย์หอบ "มึงนี่มัน... บ้าไปแล้ว"
"ยังไม่จบ" ไทร์ลุกขึ้น ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมด
"มึง... จะทำอะไรอีก?" คีย์ถามด้วยน้ำเสียงสั่น
"ให้มึงรู้ว่ากูจริงจังกับมึงแค่ไหน" ไทร์พูดแล้วนั่งคร่อมตักคีย์ เขาค่อยๆ หยิบน้ำมันหอมระเหยจากโต๊ะมาเทลงบนตัวเอง น้ำมันไหลเยิ้มลงตามผิวเนียนของเขา ไทร์ใช้ร่างกายที่ลื่นจากน้ำมันถูไปตามตัวคีย์ ความลื่นและความร้อนจากผิวของไทร์ทำให้คีย์คราง "ชิบหาย... ไทร์..."
ไทร์จับส่วนที่แข็งขึงของคีย์ แล้วค่อยๆ นั่งลงช้าๆ ให้มันสอดเข้าไปในร่างกายของเขา เขาคราง "อ้ะ... คีย์... ใหญ่..." คีย์กัดฟัน "มึง... แน่นชิบหาย..." ไทร์เริ่มขยับตัวขึ้นลงช้าๆ น้ำมันทำให้ทุกอย่างลื่นไหล เขาใช้มือลูบไปที่หน้าอกของคีย์ นวดและบีบเบาๆ สลับกับการขยับสะโพก
คีย์ที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ถึงความร้อนและความลื่นจากร่างกายของไทร์ ร้องคราง "ไทร์... กูจะตาย... อ้ะ..." ไทร์เร่งจังหวะเร็วขึ้น เสียงเนื้อกระทบกันดังผสมกับดนตรีแจ๊ส ไทร์คราง "คีย์... กู... อ้ะ..." เขาถึงจุดสุดยอด ปลดปล่อยลงบนหน้าท้องของคีย์ คีย์ตามมาด้วยการปลดปล่อยข้างในร่างกายของไทร์
ไทร์คลายผ้าปิดตาและเชือกออก คีย์มองไทร์ด้วยสายตาหอบเหนื่อย "มึงนี่มัน... บ้าจริงๆ"
ไทร์ยิ้ม "ชอบไหม?"
"ชอบชิบหาย" คีย์ดึงไทร์เข้ามากอด "มึงทำให้กูมีแรงสู้ต่อแล้ว"
วันรุ่งขึ้น คีย์และไทร์เตรียมตัวไปเจรจากับนักลงทุนจากสิงคโปร์ที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ดี นักลงทุน มิสเตอร์ลี ตกลงเซ็นสัญญาโดยไม่มีเงื่อนไขยุ่งยาก "ผมเชื่อในวิสัยทัศน์ของคุณคีย์ และคุณไทร์ก็ดูเป็นเลขาที่น่าประทับใจมาก" มิสเตอร์ลีพูดพร้อมยิ้ม
แต่ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะกลับ ตระกูลวรวิทย์ส่งตัวแทนมา คุณวรวิทย์ พ่อของลูกสาวที่คีย์ถูกบังคับให้แต่งงานด้วย เขายื่นคำขาด "ถ้าคุณไม่ยอมแต่งงานกับลูกสาวผม ผมจะฟ้องคุณ และทำให้แน่ใจว่านักลงทุนของคุณถอนตัว"
คีย์ยิ้มเย็นชา "ลองดูสิครับ แต่ผมมีหลักฐานว่าคุณเคยผิดสัญญากับบริษัทผม ถ้าคุณฟ้อง ผมจะสวนกลับจนคุณเสียมากกว่าได้"
คุณวรวิทย์หน้าแดง "คุณจะเสียใจ!"
"ผมไม่เสียใจแน่" คีย์คว้ามือไทร์ "เพราะผมมีสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่กับผมแล้ว"
หลังจากนั้น คีย์และทนายจัดการยื่นฟ้องตระกูลวรวิทย์ก่อน ใช้หลักฐานจากแฟ้มเก่าเป็นอาวุธ สุดท้ายตระกูลวรวิทย์ยอมถอย เพราะรู้ว่าแพ้แน่หากสู้ต่อ
คืนนั้น คีย์และไทร์ฉลองชัยชนะที่คอนโด คีย์เปิดแชมเปญ "เราชนะแล้ววะ ไทร์"
ไทร์ยิ้ม "มึงนี่มันเก่งจริงๆ"
"เพราะมีมึง" คีย์ดึงไทร์เข้ามาจูบ "จากนี้ไป ไม่มีอะไรมาขวางเราได้อีก"
หลังจากชัยชนะเหนือตระกูลวรวิทย์ บริษัท K-Venture ของคีย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง นักลงทุนจากสิงคโปร์มิสเตอร์ลี เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ทำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอที่จะเคลียร์หนี้เก่าและเริ่มโปรเจกต์ใหม่ คีย์และไทร์กลายเป็นทีมที่ทุกคนในออฟฟิศชื่นชม ไม่ใช่แค่ในฐานะเจ้านายกับเลขา แต่เป็นคู่ที่ทำงานเข้าขากันอย่างสมบูรณ์แบบ
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่คีย์นั่งเซ็นเอกสารในห้องทำงาน ไทร์เดินเข้ามาพร้อมกาแฟสองแก้ว "มึงทำงานหนักเกินไปแล้วนะ พักบ้างสิ"
คีย์ยิ้ม "มึงนี่มันเป็นห่วงกูตลอดเลยวะ"
"ก็ถ้ามึงล้มป่วย ใครจะมาดูแลกู?" ไทร์วางแก้วกาแฟลง แล้วนั่งพิงขอบโต๊ะ "ว่าแต่... มึงเคยคิดเรื่องอนาคตของเราบ้างไหม?"
คีย์วางปากกาลง หันมามองไทร์ "อนาคต? หมายถึงอะไร?"
"ก็... เราเป็นแบบนี้กันมาเกือบสองปีแล้ว มึงเคยคิดไหมว่ามันจะไปต่อยังไง?" ไทร์ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง "หรือมึงแค่สนุกกับกูเฉยๆ?"
คีย์ลุกขึ้น เดินไปยืนตรงหน้าไทร์ "มึงคิดว่ากูสู้กับตระกูลวรวิทย์เพื่อแค่สนุกกับมึงเหรอ?" เขาจับคางไทร์ให้เงยหน้าขึ้น "กูจริงจังกับมึงมากกว่าที่มึงคิด ไทร์"
ไทร์หน้าแดง "แล้วมึงคิดถึงอะไรบ้างล่ะ?"
"กูอยากให้เราอยู่ด้วยกันแบบถาวร" คีย์พูด "ไม่ใช่แค่ที่คอนโด หรือที่ออฟฟิศ กูอยากสร้างอะไรที่มันเป็นของเราจริงๆ"
ไทร์ชะงัก "แบบ... บ้าน? หรือ..."
"เออ บ้าน" คีย์ยิ้ม "แล้วอาจจะมีอะไรเพิ่มมาอีกในอนาคต แต่ตอนนี้ กูแค่อยากให้มึงรู้ว่ากูไม่เคยมองมึงเป็นแค่เลขา หรือแค่คนที่กู... เออ คลายเครียด"
ไทร์หัวเราะเบาๆ "มึงนี่มันหวานเกินไปแล้ว"
"หวานแล้วไง?" คีย์ดึงไทร์เข้ามากอด "มึงชอบไม่ใช่เหรอ?"
ก่อนที่ทั้งคู่จะได้คุยกันต่อ โทรศัพท์ของคีย์ดังขึ้น คราวนี้เป็นเบอร์ที่เขาไม่รู้จัก เขากดรับสาย "คีย์ ครับ ใคร?"
"สวัสดีครับคุณคีย์ ผมชื่อธนัช จากตระกูลวรวิทย์" เสียงจากปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ "ผมอยากนัดเจอคุณเป็นการส่วนตัว มีเรื่องที่อยากคุยด้วย"
คีย์ขมวดคิ้ว "ตระกูลวรวิทย์? เรื่องอะไร?"
"เรื่องที่อาจเปลี่ยนอนาคตของบริษัทคุณได้" ธนัชพูด "ผมไม่ใช่พ่อผม และผมไม่ได้มาสู้กับคุณ ผมแค่อยากเสนออะไรบางอย่าง"
คีย์เงียบไปครู่หนึ่ง "ได้ วันไหน?"
"พรุ่งนี้ บ่ายสอง ที่ร้านกาแฟหน้าโรงแรมแกรนด์" ธนัชตอบแล้ววางสาย
ไทร์มองคีย์ "ใคร?"
"ไอ้หมอนี่ชื่อธนัช จากตระกูลวรวิทย์" คีย์พูด "มันบอกอยากนัดเจอ"
"มึงจะไปเหรอ?" ไทร์ถาม "ระวังมันเล่นตุกติกนะ"
"กูจะไป" คีย์พูด "แต่มึงต้องไปด้วย กูไม่ไว้ใจให้มึงอยู่คนเดียว"
ไทร์พยักหน้า "ได้เลย"
วันรุ่งขึ้น คีย์และไทร์เดินทางไปที่ร้านกาแฟตามนัด ธนัช ชายหนุ่มวัย 30 หน้าตาคมเข้ม ผมสั้นเรียบร้อย สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นั่งรออยู่แล้ว เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นทั้งคู่ "คุณคีย์ และคุณไทร์ ใช่ไหม?"
"เออ" คีย์นั่งลง ไทร์นั่งข้างๆ "มึงมีอะไรจะพูด?"
ธนัชยกมือขึ้น "ผมไม่ได้มาสู้กับคุณ ผมแค่อยากขอโทษแทนพ่อผมที่ทำเรื่องวุ่นวาย" เขาหยิบแฟ้มเอกสารออกมา "นี่คือข้อเสนอของผม ผมอยากซื้อหุ้นส่วนหนึ่งของ K-Venture ในราคาที่สูงกว่าตลาด เพื่อชดเชยความเสียหายที่ครอบครัวผมเคยทำไว้"