โต๊ะทำงานนี้ไม่ใช่ที่ทำงานอย่างเดียว (20+) เรื่องราวของ CEO กับเลขาจำเป็น
ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,รัก,ไทย,เล่าประสบการณ์,NC25++,NC+,NC,yaoi,yaoi ,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โต๊ะทำงานนี้ไม่ใช่ที่ทำงานอย่างเดียว (20+) เรื่องราวของ CEO กับเลขาจำเป็นโต๊ะทำงานนี้ไม่ใช่ที่ทำงานอย่างเดียว (20+) เรื่องราวของ CEO กับเลขาจำเป็น
โต๊ะทำงานนี้ไม่ใช่ที่ทำงานอย่างเดียว (20+) เรื่องราวของ CEO กับเลขาจำเป็น
คำเตือนเนื้อหา มีการบรรยายฉาก NC เเบบละเอียดผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ CEO สุดเท่ที่กวนประสาทและเลขาคนสนิทที่กวนไม่แพ้กัน เนื้อหาจะเป็นแนว 20+ มีฉาก NC เยอะๆ ลึกซึ้ง และบรรยายอย่างละเอียดโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ชีวิตคู่ของทั้งสองดูเหมือนจะลงตัว คีย์กลับมาโฟกัสที่บริษัท ขณะที่ไทร์เริ่มโปรเจกต์รีสอร์ทแห่งใหม่ที่เขาเป็นผู้ออกแบบหลัก สมชายพ่อของไทร์ย้ายมาอยู่ใกล้ๆ ในบ้านหลังเล็กที่คีย์ซื้อให้ เขาทำงานเป็นที่ปรึกษาให้ชุมชนท้องถิ่นในภูเก็ตผ่านทางออนไลน์ และเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับไทร์อย่างช้าๆ
วันหนึ่ง ขณะที่คีย์และไทร์กำลังกินข้าวเย็นด้วยกันที่บ้าน คุณหญิงวรางค์โทรมาหาคีย์ "ลูก แม่มีเรื่องจะคุยด้วย"
"เรื่องอะไรครับ?" คีย์ถาม
"เรื่องหลาน" คุณหญิงวรางค์พูด "แม่รู้ว่าลูกกับไทร์รักกันมาก แต่แม่ยังอยากมีหลานสืบสกุล แม่เลยอยากเสนอเรื่องการรับเลี้ยงเด็ก หรือไม่ก็... การหาคนอุ้มบุญ"
คีย์ชะงัก "แม่ ผมยังไม่เคยคุยเรื่องนี้กับไทร์เลย"
"แม่แค่อยากให้ลูกคิด" คุณหญิงวรางค์พูด "ถ้าลูกไม่สนใจ แม่จะไม่บังคับ"
คีย์วางสายแล้วหันไปมองไทร์ "แม่กูอยากมีหลานว่ะ"
ไทร์วางตะเกียบลง "แล้วมึงคิดยังไง?"
"กูไม่รู้" คีย์พูด "กูแค่รู้สึกว่าชีวิตเราสองคนมันดีอยู่แล้ว แต่ถ้ามึงอยากมีลูก กูก็ไม่ขัด"
ไทร์เงียบไปครู่หนึ่ง "กูเคยคิดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่กูกลัวว่ามันจะเปลี่ยนอะไรบางอย่างระหว่างเรา"
คีย์คว้ามือไทร์ "ไม่ว่ามึงตัดสินใจยังไง กูจะตามมึง"
ทั้งคู่ตกลงว่าจะคุยเรื่องนี้กันอีกครั้งในอนาคต แต่คำพูดของคุณหญิงวรางค์จุดประกายอะไรบางอย่างในใจของไทร์ เขาเริ่มค้นข้อมูลเรื่องการรับเลี้ยงเด็กและการอุ้มบุญอย่างเงียบๆ โดยไม่บอกคีย์
สองสัปดาห์ต่อมา ขณะที่คีย์กำลังประชุมกับธนัชที่ออฟฟิศ เลขาของเขาวิ่งเข้ามา "คุณคีย์ มีคนมาขอพบด่วนค่ะ บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว"
คีย์ขมวดคิ้ว "ใคร?"
"เขาไม่บอกชื่อค่ะ แต่บอกว่าเกี่ยวกับครอบครัวคุณ" เลขาตอบ
คีย์เดินออกไปที่ล็อบบี้ แล้วชะงักเมื่อเห็นผู้หญิงวัย 30 ปลายๆ ผมยาวสีน้ำตาล หน้าตาคล้ายเขาอย่างประหลาด เธอยิ้ม "สวัสดีคีย์ ฉันชื่อนลิน... ฉันเป็นน้องสาวของคุณ"
คีย์ตาโต "อะไรนะ?"
นลินหยิบรูปถ่ายเก่าออกมา "นี่คือรูปพ่อกับแม่ของเรา และฉันตอนเด็ก พ่อเคยบอกว่ามีลูกชายคนโตที่เขาเลิกติดต่อไปนานแล้ว"
คีย์ดูรูปพ่อของเขายืนกอดผู้หญิงที่ไม่ใช่คุณหญิงวรางค์ และเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ "คุณพูดจริงเหรอ?"
"จริง" นลินพูด "แม่ฉันเสียไปเมื่อห้าปีก่อน ฉันเพิ่งเจอบันทึกของพ่อว่ามีคุณ ฉันเลยตามหาคุณมา"
คีย์รู้สึกโลกหมุน "ผมต้องคุยกับแม่ผมก่อน"
เมื่อกลับถึงบ้าน คีย์เล่าเรื่องทั้งหมดให้ไทร์ฟัง ไทร์นิ่งไป "มึง... มีน้องสาวจริงๆ เหรอ?"
"กูไม่รู้" คีย์พูด "กูโทรหาแม่แล้ว แม่บอกว่าแม่รู้เรื่องนี้ แต่พ่อขอให้เก็บเงียบ เพราะมันเป็นความสัมพันธ์ก่อนที่พ่อจะแต่งงานกับแม่"
ไทร์วางมือบนไหล่คีย์ "แล้วมึงจะทำยังไง?"
"กูจะไปเจอนลินอีกครั้ง" คีย์พูด "กูต้องรู้ว่าเธอต้องการอะไร"
วันต่อมา คีย์และไทร์นัดเจอนลินที่ร้านกาแฟ เธอนั่งรออยู่แล้ว "ฉันไม่ได้มาขออะไรจากคุณ" นลินพูด "ฉันแค่อยากรู้จักพี่ชายที่ฉันไม่เคยเจอ"
คีย์มองเธอ "ถ้าคุณพูดจริง ผมยินดี แต่ผมต้องตรวจ DNA ก่อน"
นลินยิ้ม "ได้เลย ฉันเข้าใจ"
หลังจากนั้น คีย์ส่งตัวอย่าง DNA ของเขาและนลินไปตรวจ ผลออกมาสองสัปดาห์ต่อมา ทั้งคู่เป็นพี่น้องกันจริงๆ คีย์นั่งลงกับไทร์ "กูมีน้องสาวว่ะ ไทร์"
ไทร์ยิ้ม "ดีแล้วไม่ใช่เหรอ? มึงจะได้มีครอบครัวเพิ่ม"
"เออ" คีย์พูด "แต่มันแปลกๆ ว่ะ อยู่ๆ มีคนโผล่มาจากอดีตแบบนี้"
นลินเริ่มเข้ามาในชีวิตของคีย์และไทร์บ่อยขึ้น เธอเป็นคนร่าเริง ตรงไปตรงมา และดูเหมือนจะจริงใจ คีย์ชวนเธอมาทานข้าวที่บ้านหลายครั้ง คุณหญิงวรางค์ยอมรับเธออย่างไม่เต็มใจนัก แต่ก็ไม่ขัดขวาง "ถ้าลูกอยากมีน้อง แม่จะไม่ว่า" เธอบอกคีย์
สมชายเองก็เริ่มสนิทกับนลิน เขามองเธอเหมือนหลานสาว "น้องนลินนี่น่ารักดีนะ" เขาบอกไทร์ "เหมือนได้เห็นครอบครัวขยายขึ้น"
แต่ความสงบนั้นเริ่มมีรอยร้าว วันหนึ่ง ขณะที่คีย์และไทร์กำลังดูหนังด้วยกัน โทรศัพท์ของไทร์ดังขึ้น เป็นข้อความจากนลิน: "พี่ไทร์ ฉันมีเรื่องอยากปรึกษา เป็นเรื่องส่วนตัว คุยกับพี่คีย์ไม่ได้" ไทร์ขมวดคิ้ว แล้วเก็บโทรศัพท์
คีย์สังเกต "ใครวะ?"
"นลิน" ไทร์ตอบ "เธอบอกมีเรื่องจะคุย แต่ไม่บอกว่าอะไร"
คีย์เลิกคิ้ว "ทำไมต้องคุยกับมึง ไม่คุยกับกู?"
"กูไม่รู้" ไทร์พูด "เดี๋ยวกูถามเธอพรุ่งนี้"
วันต่อมา ไทร์นัดเจอนลินที่ร้านกาแฟ เธอนั่งรออยู่ ดูเครียด "พี่ไทร์ ฉันกลัวว่าถ้าบอกพี่คีย์ เขาจะโกรธ"
"เรื่องอะไร?" ไทร์ถาม
นลินถอนหายใจ "ฉันเจอบันทึกของแม่ฉันเพิ่ม เธอบอกว่าพ่อของฉันกับคีย์ทิ้งเงินก้อนหนึ่งไว้ให้ฉัน แต่ถูกคนอื่นยักยอกไปหลังจากพ่อตาย ฉันสงสัยว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับ K-Venture"
ไทร์ชะงัก "คุณแน่ใจเหรอ?"
"ไม่แน่ใจ" นลินพูด "ฉันเลยไม่อยากบอกพี่คีย์ตรงๆ กลัวเขาคิดว่าฉันมาหาเรื่อง"
ไทร์กลับมาบ้านแล้วเล่าให้คีย์ฟัง คีย์หน้าแดง "ชิบหาย... ถ้ามันจริง กูต้องหาความจริง"
คีย์โทรหาคุณวินัยทันที "ช่วยเช็คให้หน่อยว่ะ มีเงินก้อนไหนจากพ่อที่หายไปไหม"
คุณวินัยใช้เวลาสามวันก่อนจะโทรมา "คีย์ มีร่องรอยจริงๆ มีเงินห้าสิบล้านที่พ่อคุณโอนไปบัญชีลับก่อนตาย แต่ถูกถอนออกไปโดยคนที่ชื่อ 'ชัย' อดีตผู้จัดการของ K-Venture"
คีย์กำหมัด "ไอ้ชัยนี่มันตายไปแล้ว แต่ถ้ามันยักยอกเงินน้องกูจริง กูต้องหาทางชดใช้ให้"
ไทร์มองคีย์ "มึงจะบอก นลินไหม?"
"บอกสิ" คีย์พูด "กูจะไม่ปล่อยให้ครอบครัวกูเสียหายเพราะอดีตอีก"
คีย์นัดเจอนลิน แล้วเล่าทุกอย่างให้ฟัง "ถ้าเงินนั้นเป็นของคุณจริง ผมจะหาทางชดใช้ให้"
นลินน้ำตาคลอ "ขอบคุณพี่คีย์ ฉันไม่ได้อยากได้เงิน ฉันแค่อยากรู้ความจริง"
แต่เรื่องไม่จบง่ายๆ วันต่อมา ธนัชโทรมาหาคีย์ "คีย์ มีคนปล่อยข่าวลือในวงการธุรกิจว่าน้องสาวมึงมาทวงมรดก แล้วมึงกำลังจะล้มละลาย"
คีย์หน้าเปลี่ยน "ใครวะ?"
"ยังไม่รู้" ธนัชพูด "แต่กูจะตามให้"
คีย์หันไปบอกไทร์ "มีคนเล่นงานกูอีกแล้วว่ะ"
ไทร์คว้ามือคีย์ "เราจะผ่านมันไปด้วยกัน"