หลินซือหยู หญิงสาวจากโลกปัจจุบัน ถูกจี้หยกพาดิ่งสู่อดีตอันโหดร้ายของเมืองฉางอานแห่งราชวงศ์ถัง เธอต้องเผชิญกับกบฏ สงคราม ความรัก และโชคชะตาที่ผูกพันกับแม่ทัพจ้าวหย่งเฉิน จี้หยกกลายเป็นทั้งพลังแห่งความหวังและคำสาป เธอจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ หรือยอมสละทุกสิ่งเพื่อคนที่รักได้หรือไม่?

เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู - ตอนที่ 16 แผนการใหญ่ โดย หลูซื่อเต๋อ 卢赐徳 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,จีน,เกิดใหม่,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,ดราม่า,จีนโบราณ,นิยายจีน ,นิยายจีนโบราณ,ย้อนเวลา,ย้อนยุค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,จีน,เกิดใหม่,ย้อนยุค,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,จีนโบราณ,นิยายจีน ,นิยายจีนโบราณ,ย้อนเวลา,ย้อนยุค

รายละเอียด

เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู โดย หลูซื่อเต๋อ 卢赐徳 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หลินซือหยู หญิงสาวจากโลกปัจจุบัน ถูกจี้หยกพาดิ่งสู่อดีตอันโหดร้ายของเมืองฉางอานแห่งราชวงศ์ถัง เธอต้องเผชิญกับกบฏ สงคราม ความรัก และโชคชะตาที่ผูกพันกับแม่ทัพจ้าวหย่งเฉิน จี้หยกกลายเป็นทั้งพลังแห่งความหวังและคำสาป เธอจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ หรือยอมสละทุกสิ่งเพื่อคนที่รักได้หรือไม่?

ผู้แต่ง

หลูซื่อเต๋อ 卢赐徳

เรื่องย่อ

หลินซือหยู นักศึกษาประวัติศาสตร์สาวจากยุคปัจจุบัน ถูกจี้หยกโบราณพาดิ่งสู่ราชวงศ์ถังอันรุ่งโรจน์แต่เต็มไปด้วยเงามืด เธอตื่นขึ้นในร่างของ หลินซือเยว่ ลูกสาวขุนนางที่ถูกวางยาพิษ และต้องเอาตัวรอดท่ามกลางแผนกบฏขององค์ชายสามที่หมายโค่นบัลลังก์ ด้วยไหวพริบและความรู้สมัยใหม่ ซือหยูจับมือกับ จ้าวหย่งเฉิน แม่ทัพหนุ่มผู้แบกปมจากตระกูลที่ล่มสลาย เพื่อล้างมลทินและปกป้องเมืองหลวง จากความไม่ลงรอยกลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งใต้แสงจันทร์

การผจญภัยข้ามกาลเวลา ความรักที่ท้าทายโชคชะตา และการตัดสินใจที่อาจเปลี่ยนประวัติศาสตร์ คุณพร้อมหรือยังที่จะตามซือหยูไปค้นหาคำตอบใต้เงาจันทร์?

สารบัญ

เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-บทนำ รอยร้าวแห่งกาลเวลา,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 1 จี้หยกแห่งโชคชะตา,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 2 ร่างใหม่ โลกเก่า,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 3 แม่ทัพผู้เย็นชา,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 4 ความลับในเงามืด,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 5 พันธมิตรจำเป็น,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 6 ปริศนาตระกูลหลิน,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 7 คำพูดจากโลกอนาคต,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 8 เงาขององค์ชาย,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 9 ความทรงจำ,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 10 กลยุทธ์จากอนาคต,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 11 หัวใจที่สั่นไหว,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 12 งานเลี้ยงมรณะ,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 13 คำสารภาพในเงาจันทร์,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 14 จี้หยกสั่นไหว,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 15 ศัตรูใกล้ตัว,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 16 แผนการใหญ่,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 17 การเตรียมตัว,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 18 ค่ำคืนแห่งโชคชะตา,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 19 การเผชิญหน้า,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 20 หัวใจที่ปิดกั้น,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 21 หลักฐานชี้ชัย,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 22 การเปลี่ยนแปลง,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 23 ศึกสุดท้าย,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 24 ราคาของชัยชนะ,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 25 ทางเลือกสุดท้าย,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 26 ชัยชนะของราชสำนัก,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 27 บาดแผลและความหวัง,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 28 บ้านหลังใหม่,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 29 คำสัญญา,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 30 เงาจันทร์นิรันดร์

เนื้อหา

ตอนที่ 16 แผนการใหญ่

กลิ่นคาวเลือดและฝุ่นควันที่ยังลอยคละคลุ้งอยู่รอบตัวภายในเต็นท์ของหย่งเฉิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทำให้ซือหยูยังรู้สึกตกอกตกใจไม่หาย เธอรีบบอกทหารให้พาหมอมาช่วยรักษาหย่งเฉินที่บาดเจ็บหนักจากการต่อสู้กับสายลับที่แฝงตัวอยู่ในค่าย เธอเริ่มรู้สึกว่าไม่มีที่ไหนปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ของตัวเองแต่ก็ยังมีสายลับของศัตรูแฝงเข้ามาจนได้

โชคดีที่ตามหมอมาได้ทันเวลา หย่งเฉินจึงได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หมอบอกว่าบาดแผลที่โดนฟันไม่ได้โดนจุดสำคัญมากนัก ทำให้รักษาตัวอีกสักพักก็จะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น เธอได้ฟังก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก แต่เธอก็รู้ดีว่าคนอย่างแม่ทัพจ้าวคงไม่ยอมให้ตัวเองต้องมาตายง่าย ๆ แบบนี้

แสงตะเกียงสลัวสั่นไหวราวกับพร้อมจะดับลงทุกเมื่อ สะท้อนเงาของเธอบนกำแพงไม้ที่ชำรุด เธอยืนอยู่หน้าโต๊ะไม้เก่าที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน หัวใจเต้นระรัวราวกับว่ามันจะระเบิดออกมา เสียงฝีเท้าของทหารที่ลาดตระเวนด้านนอกดังก้องเป็นจังหวะ แต่ทุกย่างก้าวเหมือนตอกย้ำว่าเวลาของเธอและหย่งเฉินกำลังจะหมดลง เธอมองไปที่จ้าวหย่งเฉินที่นอนพักอยู่บนเสื่อที่ปูอยู่บนพื้นยกขึ้นสูงจากดินเล็กน้อยหลังจากที่หมอทำแผลให้เสร็จ ใบหน้าคมเข้มของเขาดูซีดเซียวกว่าปกติ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของเขาลดน้อยลงเลย ดาบยาวที่เพิ่งผ่านการต่อสู้กับสายลับขององค์ชายสามวางพาดอยู่บนโต๊ะ แววตาที่อ่อนล้าของเขาหันมาจ้องเธอด้วยความกดดันก่อนจะเอ่ยพูดในสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกมัดด้วยโซ่ตรวนแห่งความรับผิดชอบ

“เราต้องรีบลงมือ รอเวลาไม่ได้แล้ว” ​เขาบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“แต่คุณยังไม่หายดี”

“ระหว่างรอข้าหายดี กับถูกพวกมันฆ่าตาย เจ้าจะเลือกอะไร”

“ฉัน...”

“เชื่อข้าเถอะ เราไม่มีเวลาแล้ว เจ้าพอจะมีกลยุทธ์อะไรบ้างไหม” เขาถามเพราะที่ผ่านมาแนวคิดของซือหยูใช้ได้ผลดีเสมอ

“ฉัน...” เธอนิ่งคิด “ฉันรู้แล้ว เราต้องใช้กลยุทธ์ใหญ่ในงานเลี้ยงของราชสำนัก”

“เจ้าบอกว่าเราต้องใช้กลยุทธ์ใหญ่ในงานเลี้ยงราชสำนักงั้นหรือ” หย่งเฉินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มที่หนักแน่นจนแทบจะบีบคั้น ก่อนจะเอ่ยถามต่อด้วยความอยากรู้ “ข้าต้องการรู้เดี๋ยวนี้ว่าเจ้าวางแผนอะไร ถ้ามันฟังดูเป็นไปไม่ได้ ข้าจะไม่เสี่ยงชีวิตทหารของข้า” เขายันตัวลุกขึ้นจากที่นอนก่อนจะเดินมาหย่อนตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานของเขา ฝ่ามือของเขากดลงบนโต๊ะจนไม้สั่น บาดแผลต่าง ๆ บนร่างกายของเขาดูราวกับเครื่องหมายแห่งความตายที่ยังไม่จบสิ้น

ซือหยูสูดลมหายใจลึก ขณะที่พยายามซ่อนความกลัวที่เริ่มก่อตัวในอก “เราต้องหยุดหย่งซานในงานเลี้ยงนั้น” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย “และเราจะใช้... บางอย่างที่พิเศษ”

หย่งเฉินขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาแคบลงด้วยความระแวง “บางอย่างที่พิเศษ?” เขาถาม “เจ้าพูดเหมือนมีดที่ซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อ อธิบายมาเดี๋ยวนี้ ถ้าข้าจะพาทหารของข้าไปเผชิญหน้ากับหย่งซาน ข้าต้องรู้ว่าเจ้ามีอะไรอยู่ในมือ” เขาก้าวเข้ามาใกล้ ใบหน้าของเขาเกือบแตะกับใบหน้าของเธอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกดดันที่ทำให้ซือหยูรู้สึกเหมือนถูกตรึงไว้กับที่ 

ซือหยูรู้สึกถึงความร้อนจากจี้หยกที่ห้อยคอ มันสั่นแรงขึ้นราวกับเตือนถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา 

วูบ! 

‘หลินเซี่ยงจือยืนอยู่ในห้องยุทธศาสตร์คล้ายกันนี้ในเมืองฉางอาน ถือถ้วยที่เต็มไปด้วยผงสีดำก่อนจะสั่งการทหารด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตาย’ 

นั่นมัน... ดินปืน! 

เธอหันมามองหย่งเฉิน “เราจะใช้ ‘ไฟพิฆาต’” เธอพูด “มันคือผงที่ระเบิดได้ ถ้าเรานำมันไปใช้ในงานเลี้ยง มันจะสร้างความโกลาหล และเราจะมีโอกาสจับตัวประกันสำคัญเพื่อเปิดโปงหย่งซานต่อหน้าฮ่องเต้ แต่ถ้าพลาด...”

“เราจะตายกันหมด” หย่งเฉินพูดเสริม 

“ใช่”

หย่งเฉินถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เพราะมันฟังดูเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงอยู่ไม่น้อย ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจก่อนจะเอ่ยถามต่อ “ผงที่ระเบิดได้งั้นหรือ” เขาถาม “เจ้ากำลังพูดถึงอะไรกันแน่? ข้าไม่เคยได้ยินของแบบนี้ในราชวงศ์ถังมาก่อน เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่หรือไม่ เพราะถ้ามันเป็นแบบนั้น ข้าคงต้องใช้ดาบเล่มนี้ลงโทษเจ้า” เขากระชากดาบจากโต๊ะขึ้นมาถือไว้ในมือ ปลายดาบชี้ลงพื้น แต่การเคลื่อนไหวของเขาทำให้ซือหยูรู้สึกแย่ขึ้นมาเล็กน้อย

“จนถึงป่านนี้คุณยังคิดจะตัดคอฉันอยู่อีกเหรอคะ” น้ำเสียงของเธอปนน้อยใจเล็กน้อย

“แม้เราจะรู้จักกันมากขึ้น แต่ข้ายังไม่อาจไว้ใจเจ้าทั้งหมดได้ หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ” เขาดูรู้สึกผิดเล็กน้อยที่เอ่ยปากพูดแบบนั้นออกไป แต่คงเพราะมันเคยชินกับการลงโทษเหล่าทหารเวลาทำผิด เขาจึงเผลอพูดแบบนั้นกับเธอ

“เข้าใจค่ะ แต่น้อยใจอยู่ดี”

“หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน เมื่อถึงเวลานั้นกาลเวลาจะเป็นสิ่งยืนยันเองว่าเธอเหมาะสมกับที่นี่หรือไม่ อ้อ! ยังมีพลังวิญญาณราชวงศ์อีก เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็ไม่อาจปิดบังสิ่งที่ซ่อนเอาไว้ได้ ไม่ว่าสิ่งใด” เขาเอ่ยบอกด้วยท่าทีเย็นชา “ทีนี้ก็เล่าแผนการของเจ้ามาได้แล้ว”

ซือหยูรู้สึกถึงน้ำหนักของคำขู่ เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “มัน... มันเป็นสิ่งที่ฉันเคยเห็นจากดินแดนที่ฉันจากมา” เธอตอบ ขณะที่พยายามควบคุมน้ำเสียงให้มั่นคง “มันทำจากกำมะถัน ถ่าน และดินประสิว ถ้าผสมถูกต้อง มันจะระเบิดและสร้างควันหนา แต่ถ้าผิดพลาด มันอาจฆ่าเราทั้งหมด” เธอรู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลลงจากขมับ แม้ว่าห้องจะเย็นจากลมฝนที่พัดเข้ามา

หย่งเฉินเงียบไปชั่วขณะ ดวงตาของเขามองเธอราวกับพยายามเจาะลึกเข้าไปในจิตใจ “กำมะถัน ถ่าน และดินประสิวหรือ” เขาพูดซ้ำด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ข้าเคยเห็นหมอในราชสำนักใช้ของเหล่านี้รักษาคน แต่ไม่เคยเห็นใครใช้มันเป็นอาวุธ ถ้ามันอันตรายอย่างที่เจ้าพูด ข้าจะเสี่ยงชีวิตทหารของข้าได้อย่างไร” เขาก้าวเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ใบหน้าของเขาเกือบแตะกับใบหน้าของเธอ ดวงตาของเขามีไฟแห่งความกดดันที่ทำให้ซือหยูรู้สึกเหมือนถูกบีบคั้น 

ซือหยูรู้สึกถึงความร้อนจากจี้หยกที่ร้อนขึ้นและสั่นแรงขึ้น เธอสัมผัสมันอีกครั้ง และเห็นภาพวาบหนึ่ง 

วูบ!

‘หลินเซี่ยงจือยืนในห้องยุทธศาสตร์ที่เมืองฉางอาน ถือถ้วยผงสีดำด้วยมือที่สั่น ขณะที่ทหารรอบตัวเขามองด้วยความหวาดกลัว เขาจุดมัน และควันหนาทำให้ศัตรูแตกตื่น แต่ทหารบางคนของเขาก็ล้มลงจากควันนั้น’ 

มันอาจฆ่าได้ทั้งสองฝ่าย 

เธอหันมามองหย่งเฉิน “ฉันรู้ว่ามันเสี่ยง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่น “แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย หย่งซานจะฆ่าทุกคนในงานเลี้ยงนั้น รวมถึงคุณด้วย” เธอหยิบปากกาขนนกจากโต๊ะ มือของเธอสั่นขณะขีดเส้นบนแผนที่ “งานเลี้ยงราชสำนักจะจัดในวังหลวงของฉางอาน ถ้าเรานำผงนี้ไปซ่อนไว้ที่มุมห้องโถงใหญ่ และจุดมันเมื่อหย่งซานเริ่มพูด ทุกคนจะแตกตื่น คุณจะมีโอกาสจับตัวเขา แต่ถ้าผิดพลาด...” เธอหยุดชะงัก ขณะที่หย่งเฉินยกดาบขึ้นชี้ไปที่เธอ

“ถ้าผิดพลาด ข้าจะตายพร้อมทหารของข้า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “และเจ้าจะต้องรับผิดชอบ” เขากดปลายดาบลงบนพื้นไม้จนพื้นสั่น “บอกข้ามาเดี๋ยวนี้ว่าเจ้ามั่นใจแค่ไหน”

ซือหยูมองปลายดาบที่อยู่ห่างจากเธอเพียงคืบ หัวใจของเธอเต้นแรงจนเจ็บ “ฉันมั่นใจ” เธอพูด “แต่เราต้องเตรียมมันให้ดี ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน คุณจะเสียโอกาสหยุดหย่งซาน” เธอชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่ “ที่นี่คือทางออกฉุกเฉิน ถ้ามันวุ่นวายเกินไป เราจะหนีไปทางนี้ แต่ถ้าเราสำเร็จ ฮ่องเต้จะเห็นความจริง”

หย่งเฉินมองตามเส้นที่เธอขีด ดวงตาของเขาที่มีแววของความกดดันเริ่มคลายลงชั่วขณะ “เจ้ามีหัวแม่ทัพอยู่ในตัวเสียจริง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นก่อนเขาจะก้าวเข้ามาใกล้เธอยิ่งขึ้น ใบหน้าของเขาเกือบแตะกับใบหน้าของเธอ หย่งเฉินวางดาบลง และยกมือขึ้นสัมผัสไหล่ของเธอแน่น “ข้าจะให้โอกาสเจ้า แต่ถ้ามันล้มเหลว ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ” เขาคลายมือจากไหล่ของเธอ แต่สายตาของเขายังคงจ้องเธอราวกับฝากชีวิตของเขาไว้ในมือของเธอ

ฝนเริ่มตกหนักนอกค่าย เสียงฝนกระทบหลังคาดังก้องราวกับคำเตือนถึงความตายที่รออยู่ข้างหน้า ซือหยูรู้สึกตื่นเต้นกับแผนการใหญ่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น จี้หยกที่ห้อยคอสั่นแรงขึ้นอีกครั้งราวกับต้องการจะบอกว่าโชคชะตาของเธอและหย่งเฉินกำลังจะถูกทดสอบในงานเลี้ยงของราชสำนัก