หลินซือหยู หญิงสาวจากโลกปัจจุบัน ถูกจี้หยกพาดิ่งสู่อดีตอันโหดร้ายของเมืองฉางอานแห่งราชวงศ์ถัง เธอต้องเผชิญกับกบฏ สงคราม ความรัก และโชคชะตาที่ผูกพันกับแม่ทัพจ้าวหย่งเฉิน จี้หยกกลายเป็นทั้งพลังแห่งความหวังและคำสาป เธอจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ หรือยอมสละทุกสิ่งเพื่อคนที่รักได้หรือไม่?
ชาย-หญิง,จีน,เกิดใหม่,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,ดราม่า,จีนโบราณ,นิยายจีน ,นิยายจีนโบราณ,ย้อนเวลา,ย้อนยุค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เงาจันทร์ซ่อนพันฤดูหลินซือหยู หญิงสาวจากโลกปัจจุบัน ถูกจี้หยกพาดิ่งสู่อดีตอันโหดร้ายของเมืองฉางอานแห่งราชวงศ์ถัง เธอต้องเผชิญกับกบฏ สงคราม ความรัก และโชคชะตาที่ผูกพันกับแม่ทัพจ้าวหย่งเฉิน จี้หยกกลายเป็นทั้งพลังแห่งความหวังและคำสาป เธอจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ หรือยอมสละทุกสิ่งเพื่อคนที่รักได้หรือไม่?
หลินซือหยู นักศึกษาประวัติศาสตร์สาวจากยุคปัจจุบัน ถูกจี้หยกโบราณพาดิ่งสู่ราชวงศ์ถังอันรุ่งโรจน์แต่เต็มไปด้วยเงามืด เธอตื่นขึ้นในร่างของ หลินซือเยว่ ลูกสาวขุนนางที่ถูกวางยาพิษ และต้องเอาตัวรอดท่ามกลางแผนกบฏขององค์ชายสามที่หมายโค่นบัลลังก์ ด้วยไหวพริบและความรู้สมัยใหม่ ซือหยูจับมือกับ จ้าวหย่งเฉิน แม่ทัพหนุ่มผู้แบกปมจากตระกูลที่ล่มสลาย เพื่อล้างมลทินและปกป้องเมืองหลวง จากความไม่ลงรอยกลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งใต้แสงจันทร์
การผจญภัยข้ามกาลเวลา ความรักที่ท้าทายโชคชะตา และการตัดสินใจที่อาจเปลี่ยนประวัติศาสตร์ คุณพร้อมหรือยังที่จะตามซือหยูไปค้นหาคำตอบใต้เงาจันทร์?
หลินซือหยูรู้สึกถึงกลิ่นกำมะถันที่ฉุนจมูกขณะนั่งคุกเข่าบนพื้นโรงเก็บของขนาดเล็กในค่ายทหารชั่วคราวใกล้เมืองฉางอาน แสงตะเกียงสลัวสาดลงบนใบหน้าของเธอ เผยให้เห็นเหงื่อที่เริ่มซึมจากความตื่นเต้นและความกดดัน เธอมองไปที่ชามหินหยาบ ๆ ตรงหน้า ซึ่งเต็มไปด้วยส่วนผสมที่เธอกำลังพยายามผสมให้สมดุล
กำมะถันสีเหลืองอ่อนที่บดละเอียด ถ่านไม้สีดำที่เธอทุบจนเป็นผง และดินประสิวสีขาวที่เธอค่อย ๆ เทจากถุงผ้าเก่าด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เสียงฝีเท้าของทหารที่เดินลาดตระเวนด้านนอกดังเป็นจังหวะ ขณะที่เธอใช้ไม้คนส่วนผสมอย่างระมัดระวัง กลัวว่าถ้าผสมผิดสัดส่วน มันอาจระเบิดก่อนถึงงานเลี้ยงราชสำนัก
“เจ้ากำลังทำอะไรกันแน่?” เสียงทุ้มของจ้าวหย่งเฉินดังขึ้นจากมุมโรงเก็บ เขายืนพิงประตูไม้เก่า ใบหน้าคมเข้มของเขาครึ่งหนึ่งอยู่ในเงามืดจากแสงตะเกียง ดวงตาอันแสนเย็นชาของเขามองเธอด้วยแววสงสัยปนความสนใจ “เจ้าบอกว่ามันคือ ‘ไฟพิฆาต’ แต่มันดูเหมือน ‘ผงไร้ค่า’ มากกว่า” เขาก้าวเข้ามาใกล้ มือของเขาคลายจากด้ามดาบที่วางพาดข้างตัว และหยิบถ้วยไม้เล็ก ๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยเธอตักกำมะถันจากถุงผ้า
“มันไม่ใช่ของไร้ค่า” ซือหยูยกมุมปากยิ้มเล็ก ๆ ระหว่างพูดก่อนจะรับถ้วยจากมือของเขา นิ้วของเธอสัมผัสปลายนิ้วของเขาโดยไม่ตั้งใจ ความรู้สึกอุ่นจากฝ่ามือของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นเร็วขึ้น “มันคือสิ่งที่... เอ่อ จะช่วยเราในงานเลี้ยงราชสำนัก” เธอพูดต่อ ขณะที่พยายามกลบเกลื่อนความตื่นเต้นด้วยการก้มหน้ากวนส่วนผสม “ถ้าเราผสมมันถูกต้อง มันจะระเบิดและสร้างความโกลาหลให้หย่งซาน แล้วเราก็จะมีโอกาสจับเขาได้” เธอหยิบก้อนถ่านที่บดแล้วจากกองข้าง ๆ เทลงในชามด้วยความระวัดระวัง หยาดเหงื่อไหลลงจากขมับของเธอ
หย่งเฉินนั่งลงข้างเธอ ใบหน้าของเขาใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าวของเขา “ระเบิดหรือ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ผสมความสงสัยและความตื่นเต้น เขายื่นมือไปหยิบถุงดินประสิวจากพื้น และค่อย ๆ เทมันลงในชามตามคำบอกของเธอ ฝ่ามือของเขาทำงานอย่างมั่นคง ขัดกับความสั่นของมือเธอ “เจ้ารู้มากเกินไปสำหรับหญิงสามัญ” เขาพูดต่อ ขณะที่สายตาของเขามองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ “กำมะถัน ถ่าน ดินประสิว ข้าเคยเห็นหมอในราชสำนักใช้ของพวกนี้รักษาคน แต่ไม่เคยเห็นใครผสมมันแบบนี้ เจ้าไปเรียนรู้จากไหน” เขาคลายมือจากถุงผ้า และวางมันลงข้างชาม ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของเธอด้วยปลายนิ้วอย่างอ่อนโยน
ซือหยูรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงจากสัมผัสนั้น เธอหลบสายตาของเขา “ฉัน... ฉันเคยเห็นจาก... ผู้รู้ในแดนไกล” เธอตอบมั่ว ๆ ขณะที่พยายามโฟกัสกับการกวนส่วนผสม เธอหยิบไม้คนจากชาม และค่อย ๆ ผสมกำมะถัน ถ่าน และดินประสิวในอัตราส่วน 1:3:6 ที่เธอจำได้จากวิชาเคมีสมัยเรียน “ต้องระวัง” เธอพูดต่อ “ถ้าผสมผิดสัดส่วน มันอาจระเบิดก่อนถึงงานเลี้ยง หรือไม่ก็จุดไม่ติด” เธอค่อย ๆ ใช้ปลายไม้เกลี่ยผงให้เข้ากัน กลิ่นฉุนของกำมะถันเริ่มลอยขึ้นมา จนเธอต้องยกแขนเสื้อปิดจมูกไว้
หย่งเฉินมองการเคลื่อนไหวของเธอด้วยความสนใจ เขายื่นมือไปช่วยเธอถือชามหินให้มั่นคง “เจ้าเก่งกว่าที่ข้าคิด” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำและนุ่มนวล ขณะที่ฝ่ามือของเขาสัมผัสขอบชาม ปลายนิ้วของเขาแตะกับมือของเธออีกครั้งโดยไม่ตั้งใจ “แดนไกลของเจ้ามันแปลกประหลาดนัก” เขากระซิบ ขณะที่โน้มตัวเข้ามาใกล้จนใบหน้าของเขาเกือบแตะกับไหล่ของเธอ “ข้าจะค้นหาความจริงจากเจ้าให้ได้” เขาพูดต่อ ขณะที่ยกมือขึ้นปัดผมเปียกเหงื่อที่ตกลงมาบนหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน ดวงตาของเขามีแววของความสนใจที่ลึกซึ้งเกินกว่าความสงสัย
อยู่ ๆ ซือหยูรู้สึกถึงความร้อนจากจี้หยกที่ห้อยคอ มันร้อนขึ้นและสั่นเล็กน้อยเมื่อหย่งเฉินเข้าใกล้ เธอสัมผัสมันเบา ๆ และภาพในหัวก็ปรากฏขึ้น
‘หลินเซี่ยงจือกำลังยืนอยู่ในโรงเก็บของคล้ายกันในเมืองหลัวหยาง คลุกเคล้าส่วนผสมที่คล้ายดินปืนหยาบด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะจุดมันในศึกใหญ่เพื่อปกป้องเมือง’
นี่มัน... เขาก็เคยทำแบบนี้เหมือนกัน!
เธอหันมามองหย่งเฉิน “เชื่อฉันเถอะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงขึ้น ขณะที่วางไม้คนลง “มันจะช่วยเราได้” เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขา และรู้สึกถึงความอบอุ่นจากรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เขาเผยให้เห็น
หย่งเฉินมองเธอนิ่ง ๆ ดวงตาของเขาคลายความสงสัยลงชั่วขณะ ก่อนจะยกมือไปวางทับมือของเธอที่ยังจับชามหินไว้ “ข้าจะให้โอกาสเจ้า” จากนั้นเขาคลายมือออกช้า ๆ ราวกับไม่ค่อยเต็มใจนัก ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบถุงผ้าจากมุมโรงเก็บของมายื่นให้กับเธอ “ใส่ของเจ้าไว้ในนี้”
“ขอบคุณ” เธอรับถุงนั้นมาวางไว้ข้างตัวก่อนจะหันกลับไปสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าต่อ
เขาหย่อนตัวนั่งลงอีกครั้งแล้วช่วยเธอเทส่วนผสมจากชามลงในถุงด้วยมือของเขาเอง เขาคลายปมที่ถุงผ้าอย่างระมัดระวัง ระหว่างที่ซือหยูกำลังจะเทส่วนผสมเหล่านั้นเก็บลงในถุง มือของเธอก็เกิดอาการสั่นขึ้นมา เธอจึงหยุดการกระทำของเธอไว้แล้วร้องขอให้แม่ทัพหนุ่มตรงหน้าช่วย
“คุณช่วยฉันหน่อย ระวังอย่าให้มันหกนะ” เธอบอกก่อนจะส่งต่อชามหินที่ใส่ผงดินปืนให้อีกฝ่าย
เขาค่อย ๆ เทส่วนผสมเหล่านั้นลงในถุงอย่างมั่นคง ก่อนจะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ข้าจะช่วยเจ้าเก็บมันให้ปลอดภัย” เขาวางถุงผ้าลงในมุมโรงเก็บ ขณะที่หันมามองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง “เจ้านี่เก่งกว่าที่ข้าคิด” เขากระซิบ ขณะที่ยกมือขึ้นแตะไหล่ของเธอเบา ๆ ราวกับต้องการปลอบโยน
ตึก ๆ ตึก ๆ
ซือหยูรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงจากสัมผัสนั้นก่อนจะเอ่ยบอกพร้อมมองเขาด้วยดวงตาฉายแววอบอุ่น “ขอบคุณนะคะ ฉันก็หวังว่ามันจะสำเร็จ”
หย่งเฉินยิ้มเล็ก ๆ “ถ้ามันสำเร็จ ข้าจะเป็นหนี้ชีวิตเจ้า” เขาพูด ขณะที่โน้มตัวเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น “แต่ถ้ามันล้มเหลว ข้าก็จะยังปกป้องเจ้าอยู่ดี” เขากระซิบ ขณะที่มือของเขาคลายจากไหล่ของเธอ แต่ยังคงวางไว้ใกล้ ๆ ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปจากสายตา
ซู่!!!
สายฝนสาดกระหน่ำลงมาอย่างหนักด้านนอกโรงเก็บ เสียงฝนกระทบหลังคาดังก้องราวกับคำเตือนถึงอันตรายที่รออยู่ข้างหน้า ซือหยูรู้สึกโหวง ๆ ในใจอย่างบอกไม่ถูก เรื่องที่เธอทำมันดูเป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่ว่าผลจะออกมาสำเร็จหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่ตามมามันจะเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน
“คุณเก็บให้ดีนะ ระวังอย่าให้เปียกฝนเด็ดขาด” ซือหยูย้ำเตือน
“ข้าจะรักษามันเท่าชีวิต”
ถ้าฉันใช้ดินปืนนี้สำเร็จ แผนกบฏของหย่งซานจะถูกยับยั้ง แต่ถ้าฉันล้มเหลว... ฉันจะปกป้องเขาได้ยังไงนะ
ซือหยูในขณะที่จ้องมองใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มตรงหน้า ระหว่างนั้นจี้หยกที่ห้อยคออยู่ก็เริ่มสั่นแรงขึ้นพร้อมกับประกายแสงสีเขียวออกมา เหมือนเป็นสัญญาณแจ้งเตือนบางอย่างให้หย่งเฉินและซือหยูเตรียมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้