หลินซือหยู หญิงสาวจากโลกปัจจุบัน ถูกจี้หยกพาดิ่งสู่อดีตอันโหดร้ายของเมืองฉางอานแห่งราชวงศ์ถัง เธอต้องเผชิญกับกบฏ สงคราม ความรัก และโชคชะตาที่ผูกพันกับแม่ทัพจ้าวหย่งเฉิน จี้หยกกลายเป็นทั้งพลังแห่งความหวังและคำสาป เธอจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ หรือยอมสละทุกสิ่งเพื่อคนที่รักได้หรือไม่?

เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู - ตอนที่ 18 ค่ำคืนแห่งโชคชะตา โดย หลูซื่อเต๋อ 卢赐徳 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,จีน,เกิดใหม่,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,ดราม่า,จีนโบราณ,นิยายจีน ,นิยายจีนโบราณ,ย้อนเวลา,ย้อนยุค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,จีน,เกิดใหม่,ย้อนยุค,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,จีนโบราณ,นิยายจีน ,นิยายจีนโบราณ,ย้อนเวลา,ย้อนยุค

รายละเอียด

เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู โดย หลูซื่อเต๋อ 卢赐徳 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หลินซือหยู หญิงสาวจากโลกปัจจุบัน ถูกจี้หยกพาดิ่งสู่อดีตอันโหดร้ายของเมืองฉางอานแห่งราชวงศ์ถัง เธอต้องเผชิญกับกบฏ สงคราม ความรัก และโชคชะตาที่ผูกพันกับแม่ทัพจ้าวหย่งเฉิน จี้หยกกลายเป็นทั้งพลังแห่งความหวังและคำสาป เธอจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ หรือยอมสละทุกสิ่งเพื่อคนที่รักได้หรือไม่?

ผู้แต่ง

หลูซื่อเต๋อ 卢赐徳

เรื่องย่อ

หลินซือหยู นักศึกษาประวัติศาสตร์สาวจากยุคปัจจุบัน ถูกจี้หยกโบราณพาดิ่งสู่ราชวงศ์ถังอันรุ่งโรจน์แต่เต็มไปด้วยเงามืด เธอตื่นขึ้นในร่างของ หลินซือเยว่ ลูกสาวขุนนางที่ถูกวางยาพิษ และต้องเอาตัวรอดท่ามกลางแผนกบฏขององค์ชายสามที่หมายโค่นบัลลังก์ ด้วยไหวพริบและความรู้สมัยใหม่ ซือหยูจับมือกับ จ้าวหย่งเฉิน แม่ทัพหนุ่มผู้แบกปมจากตระกูลที่ล่มสลาย เพื่อล้างมลทินและปกป้องเมืองหลวง จากความไม่ลงรอยกลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งใต้แสงจันทร์

การผจญภัยข้ามกาลเวลา ความรักที่ท้าทายโชคชะตา และการตัดสินใจที่อาจเปลี่ยนประวัติศาสตร์ คุณพร้อมหรือยังที่จะตามซือหยูไปค้นหาคำตอบใต้เงาจันทร์?

สารบัญ

เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-บทนำ รอยร้าวแห่งกาลเวลา,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 1 จี้หยกแห่งโชคชะตา,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 2 ร่างใหม่ โลกเก่า,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 3 แม่ทัพผู้เย็นชา,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 4 ความลับในเงามืด,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 5 พันธมิตรจำเป็น,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 6 ปริศนาตระกูลหลิน,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 7 คำพูดจากโลกอนาคต,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 8 เงาขององค์ชาย,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 9 ความทรงจำ,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 10 กลยุทธ์จากอนาคต,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 11 หัวใจที่สั่นไหว,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 12 งานเลี้ยงมรณะ,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 13 คำสารภาพในเงาจันทร์,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 14 จี้หยกสั่นไหว,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 15 ศัตรูใกล้ตัว,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 16 แผนการใหญ่,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 17 การเตรียมตัว,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 18 ค่ำคืนแห่งโชคชะตา,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 19 การเผชิญหน้า,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 20 หัวใจที่ปิดกั้น,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 21 หลักฐานชี้ชัย,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 22 การเปลี่ยนแปลง,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 23 ศึกสุดท้าย,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 24 ราคาของชัยชนะ,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 25 ทางเลือกสุดท้าย,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 26 ชัยชนะของราชสำนัก,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 27 บาดแผลและความหวัง,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 28 บ้านหลังใหม่,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 29 คำสัญญา,เงาจันทร์ซ่อนพันฤดู-ตอนที่ 30 เงาจันทร์นิรันดร์

เนื้อหา

ตอนที่ 18 ค่ำคืนแห่งโชคชะตา

หลินซือหยูรู้สึกถึงความกดดันที่บีบรัดหัวใจแน่นจนแทบหายใจไม่ออก ขณะยืนอยู่ในเงามืดของห้องโถงใหญ่ในวังหลวงเมืองฉางอาน แสงจากโคมไฟสีแดงนับร้อยดวงสั่นไหวราวกับพร้อมจะดับลงทุกขณะ เสียงดนตรีจากพิณและขลุ่ยดังก้องคลอเคล้ากับการสนทนาของขุนนางที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นปนระแวง

เธอมองไปรอบ ๆ ห้องโถงที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนในชุดผ้าไหมสีสันฉูดฉาด บางคนซุบซิบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา บางคนมองไปที่แท่นสูงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว กลิ่นเครื่องหอมและเหล้าสาลี่เริ่มถูกกลบด้วยกลิ่นเหงื่อและความกดดัน 

เธอสัมผัสจี้หยกที่ห้อยคอ มันร้อนจัดและสั่นสะเทือนราวกับจะระเบิดออกจากมือของเธอ

จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นไหมนะ... 

เธอคิดพลางหันมองไปยังจ้าวหย่งเฉินที่ยืนข้าง ๆ เขาสวมชุดขุนนางสีน้ำเงินเข้ม ซ่อนดาบสั้นไว้ใต้แขนเสื้อ ใบหน้าคมเข้มของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตัว ดวงตาที่แสนเย็นชาของเขาจ้องไปที่ฝูงชนราวกับเหยี่ยวที่พร้อมจู่โจม

“ถึงเวลาแล้ว” หย่งเฉินกระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้มที่สั่นสะท้านจากความกดดัน เขายกมือขึ้นแตะไหล่ของเธอแน่น ขณะที่มองไปยังแท่นสูงที่องค์ชายสามกำลังยืนอยู่ “ถ้าเราพลาด คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของเรา” 

ซือหยูพยักหน้า มือของเธอสั่นขณะที่ซ่อนถุงผ้าที่เต็มไปด้วยดินปืนหยาบไว้ใต้ชุดผ้าไหมสีคราม “เรามีโอกาสเดียว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบขาดหาย “ถ้าผิดพลาด... หย่งซานจะฆ่าทุกคนที่นี่” 

เธอสัมผัสจี้หยกอีกครั้ง มันร้อนจนแทบลวกผิว และสั่นแรงราวกับเตือนถึงจุดจบที่ใกล้เข้ามา

ห้องโถงเริ่มเงียบลงเมื่อถังหย่งซานก้าวขึ้นแท่นสูง ชุดผ้าไหมสีดำเข้มของเขาขับเน้นใบหน้าคมเข้มที่มีรอยแผลเป็นที่มุมปาก ดวงตาคู่หนึ่งแหลมคมและเย็นชาดุจน้ำแข็งจ้องมองฝูงชน เขายกถ้วยเหล้าขึ้นด้วยท่าทางที่สง่างามแต่เต็มไปด้วยคำขู่ “ข้าขอถวายพระพรแด่ฮ่องเต้ถังเต๋อจง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มที่ดังก้องราวฟ้าคำราม “และขอให้ราชวงศ์นี้ปราศจากศัตรูทั้งปวง” เขายิ้มเย็นชาในขณะที่ฝูงชนปรบมืออย่างฝืน ๆ 

ซือหยูสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดที่ลอยอยู่ในอากาศ บางคนเริ่มมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว บางคนจับถ้วยเหล้าแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด 

เขารู้ทันหรือเปล่านะ... 

เธอคิดเมื่อเห็นท่าทีของหย่งซานว่ากำลังมองไปรอบห้อง ราวกับกำลังค้นหาเหยื่อ

“ตอนนี้!” หย่งเฉินกระซิบพลางผลักเธอไปยังมุมห้องโถงที่ตกลงกันไว้

ซือหยูกึ่งวิ่งกึ่งคลานอย่างหลบซ่อนไปยังเสาหินอ่อนขนาดใหญ่ เธอพยายามทำตัวให้อยู่ต่ำที่สุดท่ามกลางฝูงชนคงทำให้สังเกตเห็นได้ยากมากขึ้นสักหน่อย หัวใจของเธอเต้นแรงจนเจ็บอกด้วยความตื่นเต้น เธอรู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องจากฝูงชน ก่อนจะได้ยินเสียงเอ่ยทักที่ดังขึ้น

นั่นใครน่ะ? 

เธอไม่สนใจเสียงเรียกนั้น ก้มหน้าก้มตาไปให้ถึงจุดหมายทีคุยกันไว้ จากนั้นเธอก็พยายามดึงถุงดินปืนออกจากใต้ชุดด้วยมือที่สั่นอย่างรุนแรง ความตื่นเต้นทวีคูณด้วยกลัวว่าจะไม่สำเร็จตามแผน ระหว่างที่เธอหยิบถุงดินปืนออกมานั้นความเร่งรีบทำให้ผงสีดำร่วงลงพื้นเล็กน้อยขณะที่เธอเทมันลงในรางน้ำตื้นที่หย่งเฉินเตรียมไว้ เธอหยิบตะเกียงที่ซ่อนไว้ใกล้ ๆ และพยายามจุดเชื้อไฟ แต่เปลวไฟจากตะเกียงดับลงจากลมที่พัดผ่านมาพอดี เธอรู้สึกถึงเหงื่อเย็นที่ไหลลงจากขมับ 

ซวยแล้ว! ไม่นะ! ติดสิ! ติดๆๆๆ!!

เธอคิดขณะที่รีบหยิบไม้ขีดไฟออกมาพยายามจุดซ้ำอย่างเร่งรีบ

ทหารคนหนึ่งจากมุมห้องเริ่มหันมามองเธอ “นั่นเจ้าทำอะไรน่ะ!” เขาเอ่ยเสียงดังพลางก้าวเดินเข้ามาใกล้

“ซือหยู! เร็ว!!” หย่งเฉินตะโกนจากระยะไกล ขณะที่วิ่งฝ่าฝูงชนไปยังแท่นสูงของหย่งซาน 

ซือหยูจุดเชื้อไฟได้สำเร็จในวินาทีสุดท้าย 

ตูม! 

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นทั่วบริเวณ ควันสีดำหนาทะลักออกจากมุมห้องโถง กลิ่นกำมะถันฉุนจนแสบตา ขุนนางกรีดร้องและวิ่งแตกตื่น บางคนล้มลงขณะพยายามหนี บางคนตะโกนเรียกทหาร เสียงกระจกแตกดังจากโคมไฟที่ถูกชนล้ม 

ซือหยูรู้สึกถึงแรงระเบิดที่สั่นสะเทือนพื้นหินอ่อนจนเธอเกือบล้ม ควันหนาทำให้เธอไอและมองอะไรไม่เห็น 

มันได้ผล...

ใช่ไหมนะ?

เธอคิดพลางสอดส่ายสายตาพยายามมองหาหย่งเฉินในกลุ่มควันนั้น แม้เธอจะรู้สึกแสบตาและหายใจไม่ค่อยออกก็ตาม

หย่งเฉินกระโจนขึ้นแท่นสูง ดึงดาบสั้นจากใต้ชุด และพุ่งเข้าหาหย่งซานที่ยืนตะลึงอยู่ 

“เจ้า!” หย่งซานตะโกน พร้อมรีบยกดาบยาวขึ้นป้องกันด้วยความเร็วราวสายฟ้า

แกร๊ง!

ดาบของทั้งสองกระทบกันด้วยเสียงที่ดังก้องท่ามกลางควันหนา หย่งซานฟันดาบลงอย่างดุร้าย ปลายดาบเฉียดไหล่ของหย่งเฉินจนชุดขาด เลือดไหลซึมจากบาดแผลนั้น หย่งเฉินกัดฟันทน เป็นครั้งแรกที่เขาได้ประลองฝีมือกับหย่งซาน ทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดา ฝีดาบของหย่งซานดีเสียจนน่ากลัว หย่งเฉินแอบฮึดฮัดไม่พอใจตัวเองอยู่เล็กน้อยที่ดันฟันพลาด เขาหมุนตัวหลบการโจมตีครั้งต่อไป และใช้ปลายเท้าเตะเข้าที่ข้อมือของหย่งซาน ดาบของหย่งซานหลุดจากมือ แต่เขาคว้าข้อมือของหย่งเฉินเอาไว้ได้และบิดอย่างแรง 

“เจ้าคิดว่าทำอะไรได้?!” หย่งซานตะโกนก่อนจะยกหมัดต่อยเข้าที่ใบหน้าของหย่งเฉิน เลือดไหลจากมุมปากของหย่งเฉิน แต่เขากลับยิ้มเย็นชา 

“ข้าจะหยุดเจ้าไง” หย่งเฉินพูดพร้อมคว้าดาบจากพื้นและฟันกลับไป หย่งซานหลบได้ฉิวเฉียด แต่เสื้อของเขาขาดยาว มีเลือดซึมจากบาดแผลที่แขน

ทหารของหย่งซานกรูเข้ามา ดาบและหอกพุ่งเข้าใส่หย่งเฉินจากทุกทิศ หย่งเฉินหมุนตัวตวัดดาบตัดหอกของทหารคนหนึ่งขาด ก่อนจะตามมาด้วยเลือดสาดกระจายเมื่อเขาแทงดาบเข้าที่ท้องของทหารอีกคน เสียงกรีดร้องของทหารผสมกับควันที่หนาทำให้หย่งเฉินต้องยกแขนป้องกันใบหน้า 

“ซือหยู! ไปทางออก!” เขาตะโกน ขณะที่ต่อสู้กับหย่งซานที่ลุกขึ้นคว้าดาบจากพื้น ดาบของทั้งสองกระทบกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

หย่งซานยิ้มเย็นชา “เจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่พร้อมกับนังหนูของเจ้า!” เขาพูดก่อนที่จะฟันดาบลงไปด้วยแรงทั้งหมด 

หย่งเฉินยกดาบป้องกันได้ทัน แต่แรงกระแทกทำให้เขาล้มลงไปกองกับพื้น 

หย่งซานยกดาบขึ้นสูงพร้อมยกยิ้มร้าย แววตาดุดันฉายประกายความสุขราวกับรอคอยเวลาเอาคืนนี้มานานแสนนาน “ลาก่อน” เขากล่าวขณะที่กำลังจะแทงดาบลงบนร่างของหย่งเฉิน

“หย่งเฉิน!” ซือหยูตะโกนด้วยความตกใจ เธอรีบวิ่งฝ่าควันมาถึงเขาแล้วหันไปคว้าตะเกียงที่ตกอยู่ใกล้ ๆ ขว้างใส่หย่งซานด้วยแรงทั้งหมดที่มี ตะเกียงกระแทกเข้าที่ร่างกายของถังหย่งซานแตกกระจาย น้ำมันร้อน ๆ สาดใส่ใบหน้าของหย่งซาน เขากรีดร้องและร่นถอยออกไปในทันที

“วิ่ง!” หย่งเฉินฉวยโอกาสลุกขึ้น คว้ามือของเธอแน่น และพุ่งไปยังทางออกฉุกเฉิน เขายกเท้าเตะประตูไม้ให้พังลง ทหารของหย่งซานกลุ่มหนึ่งวิ่งกรูมาตามหลัง เสียงดาบกระทบพื้นหินและตะโกนสั่งการดังก้อง

เราจะตายไหม...

ซือหยูรู้สึกถึงความกลัวที่พุ่งขึ้นในอก ขณะที่วิ่งตามหย่งเฉินไปในลานนอกวังหลวง

ฝนตกหนักตกลงมาทันทีที่ทั้งสองพ้นจากประตู เสียงฝนกระทบพื้นดังกลบเสียงฝีเท้าของทหารที่ไล่ตาม หัวใจของซือหยูเต้นไม่เป็นระส่ำ เธอรู้ว่าสิ่งประดิษฐ์ของเธอมันใช้ได้ผล แต่มันก็ไม่ได้ราบรื่นนัก ฝีเท้าของเธอและหย่งเฉินยังคงวิ่งหนีอย่างต่อเนื่องก่อนจะแอบหลบอยู่ที่มุมนึกของซอยเล็ก ๆ ในตรอกแถวนั้น

หย่งเฉินหันมามองเธอ ใบหน้าของเขาเปื้อนเลือดและฝน “เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่” เขาถามด้วยน้ำเสียงหอบพลางยกมือเปื้อนเลือดขึ้นสัมผัสใบหน้าของเธอแน่น ฝ่ามือของเขาสั่นขณะที่เช็ดน้ำฝนจากแก้มของเธอ 

ซือหยูรู้สึกถึงน้ำตาที่ไหลปนกับฝน “ฉัน... ฉันกลัว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้าน “ฉันกลัวว่าเราจะไม่รอด กลัวว่าคุณ...” เธอหยุดพูด ขณะที่รู้สึกถึงหัวใจที่เจ็บปวดจากความกลัวว่าจะเสียเขา

“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าข้าจะไม่ตายง่าย ๆ” หย่งเฉินมองเธอด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกก่อนที่จะดึงเธอเข้ามากอดแน่นท่ามกลางสายฝน “ข้าจะพาเจ้าออกไปให้ได้” เขากระซิบที่ข้างหูแล้วฝ่ามือของเขาก็กอดเธอแน่นกว่าเดิม 

ซือหยูรู้สึกถึงความอบอุ่นจากร่างของเขาแม้ในความหนาวเย็น

“ไปกันเถอะ” เขาพูด ขณะที่ดึงเธอให้วิ่งต่อไปในความมืดของเมืองฉางอาน

เงาของทหารยังคงตามหลังอย่างไม่ลดละ ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยโชคชะตาที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย จี้หยกที่ห้อยอยู่บนลำคอขาวของเธอยังคงร้อนและสั่นเตือนไม่หยุด

เมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบลงสักที...