"เมื่อเจ้านายผู้เป็นดั่งโลกทั้งใบจากไป... เหลือเพียงแมวตัวหนึ่งและต้นฉบับที่ยังไม่จบ!" ไรเตอร์ แมวข้างถนนที่ได้รับการช่วยเหลือจากโจคิน นักเขียนชื่อดัง แต่วันหนึ่งชะตากลับเล่นตลก... เมื่อเจ้านายของมันจากไป ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าและภารกิจสุดท้าย—สานต่อนิยายมหากาพย์ที่ยังไม่จบ! ท่ามกลางสายตาของผู้คนทั้งโลก อุ้งเท้าคู่นี้จะสามารถจรดปลายปากกาแทนมนุษย์ได้หรือไม่? และที่สำคัญ... พินัยกรรมของเจ้านายได้พลิกชีวิตของมันไปตลอดกาล
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,แฟนตาซี,แมว,ความรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อุ้งเท้าและหยดหมึก"เมื่อเจ้านายผู้เป็นดั่งโลกทั้งใบจากไป... เหลือเพียงแมวตัวหนึ่งและต้นฉบับที่ยังไม่จบ!" ไรเตอร์ แมวข้างถนนที่ได้รับการช่วยเหลือจากโจคิน นักเขียนชื่อดัง แต่วันหนึ่งชะตากลับเล่นตลก... เมื่อเจ้านายของมันจากไป ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าและภารกิจสุดท้าย—สานต่อนิยายมหากาพย์ที่ยังไม่จบ! ท่ามกลางสายตาของผู้คนทั้งโลก อุ้งเท้าคู่นี้จะสามารถจรดปลายปากกาแทนมนุษย์ได้หรือไม่? และที่สำคัญ... พินัยกรรมของเจ้านายได้พลิกชีวิตของมันไปตลอดกาล
เมื่อแมวตัวหนึ่ง ต้องสานต่อนิยายระดับโลกที่ยังไม่จบ!
ไรเตอร์ แมวข้างถนนผู้เคยถูกทอดทิ้ง โชคชะตานำพามันมาพบกับ โจคิน นักเขียนชื่อดังที่รับมันมาเลี้ยง วันเวลาผ่านไป แมวส้มตัวจิ๋วกลายเป็นเพื่อนแท้เพียงหนึ่งเดียวของนักเขียนผู้โดดเดี่ยว พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกันในห้องทำงานอันเงียบเหงา โดยที่ไรเตอร์เองก็คอยเฝ้าดูเจ้านายของมันสร้างสรรค์เรื่องราวในนิยายแฟนตาซีระดับตำนาน "ตำนานเพลิงอมตะ"
แต่แล้ว... โจคินกลับล้มลงอย่างกะทันหัน เขาจากไปโดยทิ้งนิยายเล่มสุดท้ายไว้เพียงครึ่งเรื่อง
ในขณะที่โลกของนักอ่านกำลังรอคอยบทสรุปของมหากาพย์ที่ไม่มีใครรู้ว่าจบอย่างไร พินัยกรรมของโจคินกลับสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน—ทายาทเพียงผู้เดียวที่จะได้รับมรดกทั้งหมด คือ ไรเตอร์... แมวของเขา!
และเงื่อนไขของพินัยกรรมคือ... นิยายต้องถูกเขียนให้จบ!
แต่ใครกันล่ะ ที่จะสามารถสานต่อผลงานของนักเขียนอัจฉริยะผู้นี้?
หรือว่า...อุ้งเท้าสองข้างของไรเตอร์ จะเป็นผู้หยิบปากกาแล้วเขียนมันขึ้นมาเอง!?
ท่ามกลางแรงกดดันจากทายาทสายเลือดแท้ผู้โลภโมโทสัน และเหล่าแฟนคลับที่เฝ้ารอการปิดฉากตำนานแห่งวรรณกรรม ไรเตอร์จะสามารถเติมเต็มบทสุดท้ายของเรื่องราวนี้ได้หรือไม่?
📖🐾 "อุ้งเท้าและหยดหมึก" เรื่องราวของมิตรภาพ ความฝัน และพันธะสัญญาที่ถูกส่งต่อ...แม้ในวันที่เจ้าของมันจากไป
โจคินเคยเล่าเกี่ยวกับลูกชายคนเดียวในสายเลือดให้ผมฟังเป็นระยะ ข้อมูลเหล่านั้นแทบไม่ได้อยู่ในสมองอันน้อยนิดของผมนอกจากเรื่องเล่าที่น่าสนใจยิ่งกว่า แต่ผมจำชื่อ ‘มาร์คัส’ ได้ขึ้นใจ เขายืนต่อหน้าผมและโลงศพของเจ้าทาสด้วยท่าทางวางมาดเบ่งบารมี
“นี่คือเจ้าแมวที่พ่องี่เง่าเล่าให้ฟังผ่านจดหมายสินะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำมองอย่างเหยียดหยามก่อนยกมือป้องจมูก “น่าขยะแขยงสิ้นดี ยิ่งแพ้ขนแมวแบบนี้ ยิ่งแขยงเข้าไปใหญ่”
ผมไม่รู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร แต่ออร่าความเกลียดชังแผ่รังสีทมิฬจนผู้คนรอบข้างสัมผัสได้ เขาเบี่ยงหน้าเผชิญรูปภาพบิดาด้วยท่าทางองอาจไม่มีท่าทีจะคุกเข่าทำความเคารพหรือไว้อาลัยแต่อย่างใด สายตาแฝงความชั่วร้ายรวมถึงเพลิงริษยาพร้อมแผดเผารอบทิศราวกับตัวละครหลักในเรื่อง ‘ตำนานเพลิงอมตะ’ ภายใต้เสียงซุบซิบนินทางึมงำซึ่งเขาเลือกให้ความสนใจ
“พ่องี่เง่าดันตายจริงเสียได้” เขาพูดพึมพำในลำคอ ใบหูใบหน้าแดงก่ำ มือกำแน่นจนไม่เหลือส่วนแดง ต่อมาเขาผ่อนคลายอารมณ์ลงก่อนหันไปหาเหล่าแฟนคลับและผู้ร่วมงาน “ขอบคุณที่ทุกท่านช่วยจัดงานศพของพ่อให้ หลังจากนี้ผมจะเป็นคนรับช่วงต่อเองครับ ในส่วนของค่าใช้จ่ายผมจะจัดการเองทั้งหมด ไม่ต้องห่วงครับ”
สิ้นเสียงชายหนุ่ม พวกเขาจึงถอนหายใจกันถ้วนหน้า
ไม่กี่อึดใจต่อมา ชายวัยกลางคนสวมสูทสีดำหรูหราดูมีระดับ พร้อมหมวกปีกทรงสูงรัดข้ามเวลาถือกระเป๋าหนังแบรนด์เนมราคาแพงก้าวเข้ามาในงานด้วยท่าทางนิ่งสงบสยบผู้คนรอบข้างให้จับจ้องมามองเป็นตาเดียว เนตรน้ำตาลอมเหลืองอำพันหลังเลนส์ใสไร้กรอบ จังหวะการก้าวมั่นคงไร้ลังเลหยุดอยู่ข้าง ‘ทายาทแห่งเจ.โจคิน’ ห่างเพียงศอกครึ่งท่าทางนิ่งสงบดั่งพระสังขราช
“คุณมาร์คัส เรื่องที่เราคุยกันทางโทรศัพท์ ผมยังยืนยันคำเดิมว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมจะเปิดพินัยกรรมของพ่อคุณ” ชายวัยกลางคนมองลอดผ่านเลนส์แว่นเป็นกังวล ทุกคนในงานจากพูดคุยฮือฮาหลังจากได้ยินคำว่า ‘พินัยกรรม’ “คุณโจคินเขา…”
“ห้ามเปิดพินัยกรรมจนกว่าพิธีเสร็จและร่างถูกฝัง” มาร์คัสกล่าวขัดอีกฝ่ายทันควัน “นั่นเป็นเงื่อนไขของพ่อถูกไหม? งั้นผมก็จะสั่งให้ฝังศพเขาวันนี้ให้มันจบ ๆ ไปเลย ผมไม่สนพิธีบ้าบอแบบนี้หรอก เสียเงินเสียเวลา”
“ก่อนคุณวางสาย ยังมีอีกหนึ่งเงื่อนไขที่ผมยังไม่ได้ชี้แจงให้ทราบ” ชายวัยร่างคนเอ่ยเสียงเครียด “ในฐานะทนายของลูกค้าผู้ล่วงลับ ผมจึงขอแจ้งให้คุณมาร์คัส รวมถึงผู้เข้าร่วมงานศพเป็นพยานถึงเงื่อนไขสุดท้ายครับ”
“...” มาร์คัสไม่ตอบอะไร พยายามวางท่าอย่างรอบคอบ แต่ภาษาทางการของทนายนั้นเหนือความเข้าใจผมไปนิดหน่อย แต่ผมพอเดาได้ว่าทรัพย์สินของเจ้าทาสโจคินจะตกเป็นของลูกชายซึ่ง… ผมไม่ถูกชะตากับ ‘มัน’ แม้แต่นิด
ขอโทษนะ รายชื่อของเจ้าหลุดจากบัญชีทาสของข้านับแต่บัดนี้เป็นต้นไป!
ท่ามกลางความเงียบภายในงานศพ เหล่าผู้เข้าร่วมงานและแฟนคลับต่างตกใจให้กับการตัดสินใจของทายาทและเงื่อนไขสุดท้ายของโจคิน ทำเอานั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว แน่นอนว่าผมเองก็ตั้งใจฟังทุกคำพูด
“พินัยกรรมในกระเป๋าล็อกรหัสของผมนี้…” เขาชี้กระเป๋าเอกสารหนังสีดำซึ่งหูหิ้วสีกุญแจเหล็กคล้องพันธนาการกับข้อมือทนายไว้ สร้างความตกใจแก่มาร์คัสอย่างคาดไม่ถึง “จะถูกเปิดต่อเมื่อนิยายตำนานเพลิงอมตะเขียนจบและเพื่อให้มั่นใจมากกว่านี้ คุณโจคินมอบหมายให้ บ.ก.ต้นกล้าดูแลรูปเล่มจนกว่าจะตีพิมพ์วางขายโดยทายาทของเขาอยู่ในจดหมายลายมือของโจคินฉบับนี้”
“ทนายมด… นี่คุณ” คิ้วเข้มดกดำขมวดลงเมื่อเห็นซองจดหมายสีขาวในมือทนายราวกับถูกมันตบหน้าฉาดใหญ่กลางสี่แยก เขาเปิดผนึกเทียนไขออกอย่างใจเย็นให้เกียรติแด่ผู้ล่วงลับก่อนชักกระดาษเนื้อความคลี่หมุนตัวโชว์ไปรอบพลางชี้ลายเซ็นของโจคิน
ผมจดจำลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าทาสชรานั่นได้ดี แต่ผมกลับไม่เคยเห็นกระดาษประทับลายเซ็นนี้เลยในชีวิต
“นี่คือจดหมายถึงเหล่าทายาทแห่ง เจ.โจคิน” ทนายมดประกาศเสียงทรงพลังพร้อมหมุนไปรอบตัวยื่นกระดาษประทับลายเซ็นให้เหล่าพยานรับรู้ “แน่นอนว่าคุณโจคินแต่งตั้งทายาทเอาไว้สองคน หนึ่งคือคุณมาร์คัส ไวเปอร์ ลูกชายคนเดียวของคุณโจคิน และ สอง ไรเตอร์ ไวเปอร์ สัตว์เลี้ยงของคุณโจคิน…”
“เป็นไปไม่ได้!!” มาร์คัสฉุนขาดคำรามก้องพุ่งเข้าคว้ากระดาษจดหมายไปอ่าน เนื้อหาภายในไม่ได้มีเปลี่ยนแปลงจากที่ทนายมดประกาศจึงทวีโทสะมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งมีลายเซ็นลายมือของโจคิน จึงยืนยันความถูกต้องได้ร้อยเปอร์เซ็นต์มิคาดเคลื่อน เขากระชากคอเสื้อดึงเขาประชิด ใบหน้ายิ่งแดงก่ำดั่งกระจกสะท้อนโทสะทะลุปรอท “แมว? แมวอย่างนั้นหรือ? ไอ้แมวห่าตัวนี้เนี่ยนะจะเขียนนิยายมหากาพย์ที่คนทั้งโลกรอคอยให้จบ!? อย่าว่าแต่นิยายเลย ตัวหนังสือสักตัวมันยังเขียนไม่ได้เลย! ต้องมีแต่ผมสิ! ผมคนเดียวเท่านั้น!!”
‘เฮ้! พูดอะไรเกรงใจเขี้ยวเล็บผมบ้าง!’
“นี่เป็นความประสงค์ของคุณโจคินเอง ผมเป็นเพียงคนส่งสารเท่านั้น” ทนายมดกล่าวเสียงทรงพลัง ดวงตาเรียบนิ่งจ้องกลับอย่างไม่เกร็งกลัว “ถ้าทำอะไรผม อย่าหาว่าผมไม่เตือน และแมวตัวนั้นเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉาน เขียน กอ ไก่ถึง ฮอ นกฮูก นับหนึ่งถึงสามยังไม่ได้ คิดว่ามันจะเขียนนิยายมหากาพย์ให้จบได้หรือไม่ล่ะ!? อย่างที่คุณเพิ่งกล่าวมาเมื่อกี้นี่มันถูกต้องไหมล่ะครับ?”
ชายหนุ่มถลึงตาอยู่ได้ชั่วครู่ก่อนคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ
“ก็ได้ คุณทนาย” มาร์คัสตั้งสติยอมปล่อยอีกฝ่ายพร้อมจัดคอเสื้อให้เข้าที่พลางเอาน้ำเย็นเข้าลูบแล้วแสยะยิ้มกว้าง ดวงตาเรืองแสงสีแดงเป็นประกาย “ผมเรียกคุณมาก็เพื่อการนี้แหละ ทุกอย่างกระจ่าง พ่อทิ้งภารกิจสุดท้ายให้ผมพิชิตโดยมีเหล่าแฟนคลับเป็นพยานกันพร้อมหน้า เชื่อเถอะว่าผมจะสานต่อเรื่องราวของพ่อให้จบเอง!!”
เมื่อเหล่าแฟนคลับได้ยินคำพูดดั่งเปล่งมาจากสรวงสวรรค์จึงส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจลั่นศาลา ทายาททางสายเลือดแห่งโจคินกางแขนพลางเงยหน้ามองเพดานราวกับตัวเองเป็นพระเจ้า แสงไฟจากเพดานสาดส่องมายังเขาราวกับถูกเลือกโดยพระผู้เป็นเจ้า ผมมองอีกฝ่ายนิ่ง เจ้าหมอนั่นจะสามารถพานิยาย ‘ตำนานเพลิงอมตะ’ ไปสู่ตอนจบได้อย่างไร ในเมื่อข้อมูลเหล่านั้นอยู่ในหัวผมทั้งหมด!!
……………………………
อย่างที่เจ้าทนายคนนั้นบอก ผมเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉาน คิดอ่านซับซ้อนไม่เท่ามนุษย์ ส่วนแมวอย่างเราเป็นสัตว์นักล่า เกิดมามีชีวิตภารกิจอย่างเดียวคือเอาชีวิตรอดด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งทำตัวน่ารักและบ้าคลั่งในเวลาเดียวกันเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
ทายาทแห่งเจ.โจคิน งั้นหรือ?
เหอะ ๆ ช่างน่าขัน แมวอย่างผมจะแบกรับความหวังของคนทั้งโลกได้อย่างไร ทำเพียงได้แต่มองพระจันทร์เต็มดวงจากบนหลังคาบ้านเท่านั้น
โจคิน ทาสผู้ซื่อสัตย์ของผม คืนนี้คงเป็นคืนที่เงียบเหงาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลูกชายของนายไม่คิดแม้แต่ย่างกรายที่จอดรถอพาร์ทเม้นท์นี้ด้วยซ้ำเพียงเพราะระดับความสมฐานะมันต่างกันโดยสิ้นเชิง
ชิ! มนุษย์แบบนี้มันน่าประทับรอยข่วนสักแผลสองแผล
เวลาผ่านไปพระจันทร์ดวงโตเริ่มคล้อยข้ามศีรษะ ลมหนาวพัดโชยมาจนขนและไขมันไม่สามารถต้านทานจึงตัดสินใจกระโดดลงจากหลังคาร่อนสู่ต้นไม้ จากนั้นดีดตัวพุ่งไปยังขอบระเบียงห้อง เมื่อกระโดดดิ่งลงพื้นระเบียงแล้วใช้ศีรษะผลักบ้านประตูจิ๋วสำหรับทางเข้าออกเฉพาะของผมด้วยฝีมืองานไม้อันน่าทึ่งของเจ้าทาสสร้างเพื่อให้ผมออกไปเที่ยวเล่นโลกกว้างคลายเครียด ในความเป็นจริงผมไม่เคยไปไกลกว่าเขตอพาร์ทเม้นท์หลังนี้อยู่แล้ว
ภายในห้องมืดและเงียบ ชวนให้ใจน้อย ๆ หดหู่ ปกติหากผมผลักประตูแมวเข้ามา โจคินมักจะทักทายประจำ
“กลับมาแล้วเหรอไรเตอร์”
“แง๋ว!!” ‘ผมกลับมาแล้วครับ!’ ผมร้องกลับโดยไม่ทันนึกว่าเสียงแว่วเมื่อกี้เกิดขึ้นเพียงในโสตประสาทตัวเอง
ผมดีดตัวพุ่งขึ้นไปบนโต๊ะทำงานของเจ้าทาสผู้ล่วงลับ ปึกต้นฉบับวางซ้อนกัน หลังจากร่างนักเขียนในสังกัดถูกฝังตามความต้องการของทายาท นั่นสร้างความไม่พอใจแด่แฟนคลับเท่าไหร่ แต่มาร์คัสดันขู่หากไม่พอใจในการตัดสินใจของเขา นิยายเรื่อง ‘ตำนานเพลิงอมตะ’ จะไม่ถูกเขียนขึ้น ซึ่งทำให้พวกเขาสงบลงอย่างจำใจ
ต้นฉบับนิยายเล่มสุดท้ายถูกจัดวางเป็นระเบียบ เหลือเพียงกระดาษจ่าหัวว่า ‘บทสรุป’ คำเดียว ไม่มีทรีตเม้นต์ ไม่มีข้อมูลอะไรนอกจากความทรงจำในหัวสัตว์เลี้ยงแสนรักตัวเดียว…ให้ตายสิ… ผมคือความหวังของมนุษยชาติหรือไงกันนะ ใช่… ผมจำตอนจบของนิยายที่โจคินเล่าให้ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมันฝังอยู่ภายในส่วนลึกของความทรงจำ ผมมองอุ้งเท้านุ่มนิ่มของตัวเองสลับกับปากกาหัวแร้งและกระปุกน้ำหมึกสีดำก่อนส่ายหน้าอย่างละเหี่ยใจ
‘แบบนี้ไม่ไหวหรอก…’ ผมถอนหายใจยาว ‘สุดท้ายไอ้ลูกชายงี่เง่านั่นคงจัดการเองได้แหละ ผมคงทำได้แต่นอนตายอยู่ที่นี่โดยไม่มีใครรู้ จากนั้นมหากาพย์นิยายของนายจะจบลงด้วยฝีมือของมาร์คัส จากนั้นเขาจะพลิกชีวิตตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว’
“ช่างอัปมงคลแท้ ๆ ทายาทแห่ง เจ.โจคินเอ๋ย” เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาสะดุ้งสุดตัวพลางแยกเขี้ยวขู่และพองขนใส่บุคคลนิรนามตามสัญชาตญาณ ร่างชายหนุ่มรูปงานผิวซีดเหมือนกระดาษ ตาสีดำทั้งดวงไร้แวว สวมสูทดำดั่งเงาไร้สิ้นสุด มันแสยะยิ้มก่อนดีดนิ้วหนึ่งที บรรยากาศแสนอึดอัดรอบข้างกลับมลายอย่างน่าประหลาด “สวัสดีไรเตอร์ ข้าชื่อ ‘ดรีม’ เทพแห่งความฝัน ลงมาหาเจ้าตามคำเรียกร้องของเจ้านายผู้น่าสงสาร”
“โจคินเหรอ… เอ๊ะ!?” ผมสะดุ้งอีกครั้งเมื่อคำพูดออกจากปากจึงเผลอใช้ขาหน้าปิดปาก ทันใดนั้นขาหลังสามารถรับน้ำหนักจนสามารถยืนหลังตรงด้วยสองขาได้!! “เฮ้ย!! นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย!?”
“ถูกต้อง” ดรีมตอบพลางยิ้มอย่างพอใจ “ข้าแค่ทำตามคำร้องขอของเขาแลกกับของมีค่าจำนวนที่เขาไม่อาจแลกได้ มันคืออะไรรู้ไหม?”
ผมส่ายหน้าพลางยืนตรงทิ้งขาหน้าข้างลำตัว
“แหวนแห่งการเกิดใหม่ยังไงล่ะ วิญญาณทุกดวงจะได้รับสิ่งนี้ นับว่ามีค่าที่สุดบนสวรรค์ ไม่มีใครเขาให้กันยกเว้นเจ้านายของเจ้า ข้านับถือที่ยอมสละโอกาสเกิดใหม่ชาติหน้าเพื่อไหว้วานข้ามอบสติปัญญาและข้อความกับเจ้า” เทพแห่งความฝันกล่าว “โจคินรู้ว่าข้าสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้พร้อมถอดแหวนยื่นให้พร้อมคุกเข่าแล้วบอกว่า ‘เทพผู้ทรงอานุภาพ โปรดนำแหวนล้ำค่าวงนี้ไปและช่วยให้เขาได้เขียนนิยายของผมให้จบด้วยเถิด’ เขาไม่ลังเลเลยที่จะมอบแหวนวงนี้ให้กับข้า เพราะเจ้ามีค่ายิ่งกว่า”
ผมยืนนิ่ง ไม่พูดอะไร รู้สึกถึงสมองกำลังประมวลผลซับซ้อนเกินเผ่าพันธุ์ ดวงตาเบิกโพลงพร้อมหยดน้ำเอ่อคลอเบ้า
“โจคิน… นาย… นายนี่มันจริง ๆ เลยนะ…” ผมยกขาหน้าเช็ดน้ำตา แต่ดูเหมือนว่าจะมีหยดน้ำมากเกินคาดทำให้ขนเปียกหมด “กะจะตามแกไปสักหน่อย ดันยัดเยียดให้เขียนงานต่อเนี่ยนะ เหอะ ๆ ถ้าเป็นคำขอสุดท้ายของเจ้าทาสผู้ซื่อสัตย์ ฉันก็จะทำให้ก็ได้”
“ได้ความสามารถไปแล้ว คราวนี้ถึงเวลาของข้อความจากเจ้านายของเจ้าแล้ว” ฝ่ามือของดรีมเปล่งแสงสีทองอร่ามสว่างไสว ไม่กี่อึดใจต่อมาเสียงอันคุ้นหูดังขึ้น
“ว่าไงเจ้าตัวน้อย! แกยังสบายดีอยู่ใช่ไหม!? ขอโทษที่ฉันต้องจากแกไปแบบนี้ ฉันรู้ว่าแกต้องเสียใจแน่ ๆ เลยอ้อนวอนให้ท่านดรีมนำข้อความสุดท้ายมาส่ง…
ไม่ว่ายังไงก็ตาม ไรเตอร์ ฉันได้บอกทนายมดไว้แล้วว่ามาร์คัสจะกลับมาทวงสมบัติของฉันทั้งหมด ลูกไม่ได้เรื่อง เอาแต่ผลาญเงินที่ฉันอุตส่าห์หลังขดหลังแข็งหามาได้ใช้ไปกับสิ่งไร้สาระ สุราและนารีไม่เคยขาดในแต่ละวัน แต่ก็นั่นแหละ ฉันเลยเล่าตอนจบของนิยายกรอกหูแกทุกวัน โดยที่ไม่เคยเล่าให้ บ.ก.ต้นกล้าเลย เพราะฉันรู้ว่าแกคือสัตว์เลี้ยงที่ไว้ใจได้มากกว่าลูกในไส้
ตอบจบของนิยายน่ะได้ถูกกำหนดเอาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว จงเอาสิ่งที่ฉันเล่าไปเขียนต่อจนจบทีเถอะนะ ไรเตอร์ แกคือความสุขของฉัน แกคืออายุวัฒนะที่ทำให้ฉันมีกำลังใจสู้ต่อจนถึงวาระสุดท้าย แกคือลูกชายสุดที่รักของฉัน และฉันรักแกมาก ๆ นะรู้ไหม… เอาล่ะ ถ้าหนังสือตีพิมพ์แล้วช่วยจุดธูปบอกและเอาหนังสือเล่มนั้นมาวางที่หลุมศพฉันด้วยละกัน ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะไรเตอร์ แล้วเจอกันบนสวรรค์”
ผมกัดฟันพร้อมกำนิ้วเท้าแน่นปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มหยดลงบนโต๊ะเกิดเป็นรอยวงน้ำ
“เจ้าทาสบ้า… เล่นแบบนี้กันเลยเหรอ…”
“เอาล่ะ หน้าที่ของฉันจบลงเพียงเท่านี้ ขอลาไปก่อนล่ะ”
“เดี๋ยวก่อน!” ผมตะโกนเรียก แต่ดันสำลักน้ำลาย เทพแห่งความฝันหยุดชะงัก “ถ้าผมตาย…ช่วยพาผมไปหาเจ้าทาสงี่เง่านั่นทีได้ไหม?”
ดรีมครุ่นคิดเพียงอึดใจก่อนตอบ
“คำขอนั่นเท่ากับแหวนเกิดใหม่หนึ่งวงแล้วกัน” สิ้นประโยคของเทพแห่งความฝัน ร่างของเขาหายวับไปกับตาปล่อยให้ผมยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงลมหายใจตัวเอง
ผมใช้ขาหน้าหยิบปากกาหัวแร้งพลางบิดฝาผนึกขวดหมึกก่อนจุ่มหัวปากกา จากนั้นนำกระดาษเปล่าวางบนโต๊ะแทนที่กระดาษบนสุดท้ายแล้วเริ่มเขียนชื่อตัวเอง
‘ไรเตอร์ ไวเปอร์’ จากนั้นชื่อเจ้าทาส ‘โจคิน ไวเปอร์’
แม้ลายมือยังยึกยืออ่านไม่ค่อยออกอยู่บ้าง แต่หากได้ฝึกฝนอีกหน่อยคงดีขึ้น
จากนั้นผมตัดสินใจหยิบหนังสือนิยาย ‘ตำนานเพลิงอมตะ’ ทั้งหมดหกเล่มออกมาจากชั้นหนังสือเปิดอ่านพร้อมคัดทุกตัวอักษรไปด้วย ทันทีที่จรดหัวปากกาบนกระดาษแล้วคัดลอกเนื้อหาตั้งแต่บทที่หนึ่ง
ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล
___________________________________
To Be Continue CHAPTER 3