"ภาคิน" ทายาทมาเฟียผู้เย็นชาและแข็งกร้าว ถูกบังคับให้แต่งงานกับ "ศรัณย์" ทนายหนุ่มสุดแสนจะเรียบร้อย เพื่อล้างหนี้บุญคุณระหว่างสองตระกูล ไม่มีใครเต็มใจในข้อตกลงนี้ แต่เมื่ออยู่ร่วมกันไปติดตามต่อจ้าา
ชาย-ชาย,ดราม่า,รัก,ไทย,ผู้ใหญ่,ดราม่า,วาย,มาเฟีย,มาเฟีย ,มาเฟียโหด,yaoi,yaoi ,ชาย-ชาย,ชายชาย,ชายรักชาย,ชายรับ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รักร้ายพ่ายใจ"ภาคิน" ทายาทมาเฟียผู้เย็นชาและแข็งกร้าว ถูกบังคับให้แต่งงานกับ "ศรัณย์" ทนายหนุ่มสุดแสนจะเรียบร้อย เพื่อล้างหนี้บุญคุณระหว่างสองตระกูล ไม่มีใครเต็มใจในข้อตกลงนี้ แต่เมื่ออยู่ร่วมกันไปติดตามต่อจ้าา
แนว: โรแมนติก ดราม่า มาเฟีย อบอุ่นหัวใจ
เรื่องย่อ: "ภาคิน" ทายาทมาเฟียผู้เย็นชาและแข็งกร้าว ถูกบังคับให้แต่งงานกับ "ศรัณย์" ทนายหนุ่มสุดแสนจะเรียบร้อย เพื่อล้างหนี้บุญคุณระหว่างสองตระกูล ไม่มีใครเต็มใจในข้อตกลงนี้ แต่เมื่ออยู่ร่วมกันไป ความเย็นชาของภาคินกลับถูกทลายลงทีละนิด ขณะที่ศรัณย์ก็ค่อย ๆ เปิดเผยความลับบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปตลอดกาล
เสียงเพลงบรรเลงเบา ๆ คลอไปกับบรรยากาศของงานแต่งงานสุดหรูที่ถูกจัดขึ้นในโรงแรมระดับห้าดาว แขกเหรื่อมากมายแต่งกายหรูหราพากันพูดคุยและยิ้มแย้ม แต่บรรยากาศรอบตัวของเจ้าบ่าวกลับเต็มไปด้วยความเย็นชา
“ยิ้มหน่อยสิภาคิน อย่างน้อยก็ทำให้แขกเห็นว่าแกไม่ได้ถูกบังคับ”
เสียงทุ้มต่ำของบิดาดังขึ้นเบา ๆ ข้างหู ภาคิน เหลือบมองไปยังชายวัยกลางคนที่ยืนข้าง ๆ ก่อนจะแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ ริมฝีปากได้รูปกระตุกเป็นรอยยิ้มเยาะหยัน
“เรื่องบังคับมันชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ”
ภาคิน อัครเดช ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลมาเฟียใหญ่แห่งไทย คือชายหนุ่มผู้เย็นชาและเฉยเมยต่อทุกสิ่ง ไม่เคยมีใครสามารถอ่านใจเขาได้ และแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่เคยคิดจะเปิดใจให้ใคร
แต่วันนี้ เขาต้องมายืนอยู่ที่นี่… ในฐานะเจ้าบ่าวของใครบางคนที่เขาแทบไม่รู้จัก
เมื่อเสียงประกาศจากพิธีกรดังขึ้น สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปยังร่างของเจ้าสาว…ไม่สิ เจ้าบ่าวอีกคนหนึ่งที่กำลังก้าวเข้ามาในงาน
ศรัณย์ กฤตธีระ ทนายหนุ่มวัยยี่สิบแปด ผู้มีใบหน้าสงบนิ่งและดูเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว เขาสวมชุดสูทสีขาวสะอาดที่ขับให้ผิวขาวเนียนของเขาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
แต่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเฉยชาไม่ต่างจากภาคิน
นี่ไม่ใช่วันที่เขาอยากให้เกิดขึ้นเช่นกัน
ศรัณย์ก้าวขึ้นไปบนเวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับพิธี สายตาของเขาและภาคินสบกันเพียงแวบหนึ่งก่อนที่ทั้งคู่จะเบือนหน้าหนี
“ขอเชิญเจ้าบ่าวทั้งสองกล่าวคำปฏิญาณ”
ภาคินถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือออกไป ศรัณย์ลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ยอมให้อีกฝ่ายสวมแหวนให้โดยไม่พูดอะไร
“ผมสัญญาว่าจะดูแลคุณ… ในฐานะสามี”
คำพูดของภาคินฟังดูเย็นชาและประชดประชันเสียมากกว่าจริงใจ
ศรัณย์ยิ้มบาง ๆ ให้กับคำพูดนั้น ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แพ้กัน
“ผมเองก็สัญญา ว่าจะอยู่เคียงข้างคุณ… ตราบเท่าที่เงื่อนไขของข้อตกลงยังมีผล”
คำพูดของเขาไม่ได้ทำให้ภาคินแปลกใจเลยสักนิด
เพราะพวกเขา… ต่างก็ไม่ได้แต่งงานเพราะความรัก
เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ทั้งคู่ถูกเชิญให้ไปถ่ายรูปและร่วมโต๊ะกับแขกสำคัญ แต่แทบไม่มีบทสนทนาใดเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา นอกจากคำพูดที่จำเป็นต่อหน้าสายตาของสังคม
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงส่งตัวเข้าห้องหอ ภาคินเดินนำเข้ามาในห้องชุดสุดหรูของโรงแรมโดยไม่รอศรัณย์เลยสักนิด
“ฉันจะนอนฝั่งนี้ นายไปจัดการตัวเองตามสบาย”
ภาคินพูดจบก็ถอดสูทของตัวเองออกอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้ศรัณย์ยืนอยู่กลางห้องอย่างเงียบ ๆ
ศรัณย์มองแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่หายเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ สายตาของเขากวาดมองไปรอบห้องชุดสุดหรูที่ถูกจัดเตรียมไว้ราวกับเป็นห้องหอของคู่รักข้าวใหม่ปลามัน
แต่เขารู้ดีว่า… ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่มีวันเป็นเช่นนั้น
ดวงตาคมกริบสะท้อนแสงไฟสีเหลืองนวล เขาค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกอย่างเงียบเชียบ ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงน้ำไหลจากฝักบัวภายในห้องน้ำที่ภาคินเข้าไป
เจ้าบ่าวของเขา ไม่ได้พยายามแม้แต่จะรักษามารยาทพื้นฐานใด ๆ ไม่ถาม ไม่สนใจ และไม่คิดจะปรับตัวเข้าหากัน
แต่แบบนั้นก็ดีแล้ว…
เพราะศรัณย์เองก็ไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากการแต่งงานครั้งนี้เช่นกัน
เขาเดินไปยังมุมห้องซึ่งมีโต๊ะเล็ก ๆ อยู่ หยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะวางแก้วลง เสียงประตูห้องน้ำก็เปิดออกพร้อมกับไอร้อนที่ลอยออกมาตามแรงอากาศ
ภาคินก้าวออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูพันรอบเอว ร่างสูงโปร่งกำยำเต็มไปด้วยหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามเนื้อผิว เขาไม่ได้สนใจว่าอีกคนยังยืนอยู่กลางห้อง สายตาคมกริบเหลือบมองศรัณย์แวบหนึ่งก่อนจะหันไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับ
“ห้องน้ำว่างแล้ว” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้นสั้น ๆ
ศรัณย์พยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะหยิบชุดนอนแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรเช่นกัน
พวกเขาไม่ได้เกลียดกัน แต่ก็ไม่ได้รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ…
เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงช่วงที่ไฟในห้องถูกดับลง ศรัณย์เอนตัวลงบนเตียงขนาดใหญ่ที่ถูกแบ่งฝั่งชัดเจนโดยร่างของภาคินที่นอนหันหลังให้เขา
แผ่นหลังของอีกฝ่ายนิ่งสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ
แต่ศรัณย์รู้ดีว่า คนอย่างภาคินไม่มีทางหลับง่ายขนาดนั้น
และเขาเองก็เช่นกัน
“เราแต่งงานกันแล้วสินะ” ศรัณย์พูดขึ้นเบา ๆ ราวกับพูดกับตัวเอง แต่รู้ดีว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยิน
ไม่มีเสียงตอบกลับจากภาคินอยู่พักใหญ่ จนกระทั่ง…
“อืม”
เสียงทุ้มต่ำตอบกลับมาเพียงสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยความไม่ใส่ใจ
ศรัณย์หัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลง รู้สึกถึงความเย็นชาที่ปกคลุมระหว่างพวกเขา
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของพันธนาการที่ไม่มีใครต้องการ
แต่มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็ได้…