ธนิดาถูกจับไปเป็นตัวประกันระหว่างรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อนไว้ ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่

สัญญาใจใต้รัตติกาล - บทที่ 1 โดย กชญาณ์พัฒน์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ยุคปัจจุบัน,เลือดสาด,ดราม่า,มาเฟีย,นางเอกเก่ง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สัญญาใจใต้รัตติกาล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ยุคปัจจุบัน,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,มาเฟีย,นางเอกเก่ง

รายละเอียด

สัญญาใจใต้รัตติกาล โดย กชญาณ์พัฒน์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ธนิดาถูกจับไปเป็นตัวประกันระหว่างรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อนไว้ ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่

ผู้แต่ง

กชญาณ์พัฒน์

เรื่องย่อ

 

นาวิน หัวหน้าแก๊งมาเฟียเงาจันทรา ดึง ธนิดา หญิงสาวธรรมดา เข้ามาในโลกอันตรายของเขาด้วยข้ออ้างหนี้ 50 ล้านของพ่อเธอ แต่เมื่อการทรยศของ ภูมิ ลูกน้องคนสนิท และการโจมตีจากแก๊งเสือดาวรุนแรงขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับลึกซึ้งเกินคาด ธนิดาค้นพบความลับของพ่อเธอ ขณะที่นาวินเผยความเปราะบางและความปรารถนาที่จะปกป้องเธอ

ทั้งสองต้องเผชิญสงครามเลือดกับเสือดาว ฝ่าฟันการต่อสู้สุดดุเดือด และการสูญเสียที่เจ็บปวด ธนิดากลายเป็นนักสู้เคียงข้างนาวิน 

เรื่องราวของนาวินและธนิดาคือการเดินทางของความรักที่เกิดท่ามกลางความโหดร้าย การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และคำสัญญาที่แข็งแกร่งกว่าความตาย 

สารบัญ

สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 1,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 2,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 3,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 4,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 5,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 6,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 7,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 8,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 9,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 10,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 11,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 12,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 13,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 14,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 15,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 16

เนื้อหา

บทที่ 1

ซู่ๆๆ!!!!

ฝนตกหนักราวกับฟ้าจะถล่มลงมาในค่ำคืนนั้น เสียงเม็ดฝนตกกระทบหลังคาบ้านไม้เก่าของธนิดาดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ บ้านสองชั้นที่สร้างจากไม้สักเก่าแก่ตั้งตระหง่านท่ามกลางความมืดมิด ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ใบหนาที่ยื่นออกมาบดบังแสงจันทร์จนแทบมองไม่เห็นอะไรรอบตัว บรรยากาศเย็นชื้นและเงียบสงัด มีเพียงเสียงแมลงกลางคืนที่ดังแว่วมาจากป่าด้านหลังบ้าน และกลิ่นดินเปียกที่ลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศ

ธนิดา วัย 25 ปี หญิงสาวร่างบางที่มีผมยาวสีน้ำตาลเข้ม ยืนอยู่ริมหน้าต่างชั้นสอง เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวที่ขาดเล็กน้อยตรงชายเสื้อ และกางเกงยีนส์เก่าที่ดูไม่เข้ากับใบหน้าสวยหวานของเธอ ดวงตาคู่คมของเธอจ้องมองออกไปในความมืดที่ห่อหุ้มรอบบ้านราวกับพยายามมองหาความหวังบางอย่าง แต่สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงเงาต้นไม้ที่โอนเอนไปตามแรงลม และสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง

 

“ฝนตกหนักแบบนี้ คงไม่น่ามีใครมาแล้วหรอกมั้ง...” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ น้ำเสียงของเธอแฝงด้วยความเหนื่อยล้าและความกังวล เธอยกมือขึ้นลูบหน้าผากที่เริ่มเปียกชื้นจากไอฝนที่ลอยเข้ามาทางช่องหน้าต่างที่ปิดไม่สนิท

ตั้งแต่พ่อของเธอหายตัวไปเมื่อสามเดือนก่อน ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากหญิงสาวที่เคยใช้ชีวิตเรียบง่ายในเมืองเล็กๆ กลายมาเป็นคนที่ต้องดูแลบ้านเก่าหลังนี้เพียงลำพัง ลุงสมชาย คนขับรถเก่าที่เคยทำงานให้ครอบครัวเธอตั้งแต่สมัยพ่อยังอยู่ เป็นเพียงคนเดียวที่ยังคอยช่วยเหลือเธอในยามที่ไม่มีใครเหลือ แต่ถึงอย่างนั้น ความรู้สึกหวาดกลัวที่ค่อยๆ กัดกินหัวใจของเธอก็ยังไม่เคยหายไป

ทันใดนั้น เสียงดังสนั่นจากด้านล่างบ้านทำให้ธนิดาสะดุ้งสุดตัว

ปัง!

มันไม่ใช่แค่เสียงฝนหรือลมที่พัดประตูให้กระแทก มันเป็นเสียงระเบิดเล็กๆ ที่ดังก้องสะท้อนไปทั่วทั้งบ้าน ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของลุงสมชายที่ดังลั่นจากชั้นล่าง

“คุณหนู! หนีไปเดี๋ยวนี้!” เสียงของลุงสมชายดังขึ้นอย่างตื่นตระหนก แต่เพียงไม่กี่วินาที เสียงนั้นก็เงียบลงทันที ตามมาด้วยเสียงปืนดัง 

ปัง! ปัง!

สองนัดติดต่อกัน

หัวใจของธนิดาเต้นรัวราวกับจะหลุดออกจากอก เธอรีบหันตัววิ่งไปที่ประตูห้องนอน แต่ก่อนที่เธอจะได้แตะลูกบิด เสียงฝีเท้าหนักๆ หลายคู่ก็ดังขึ้นจากบันไดไม้เก่าที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่มีคนเหยียบ ธนิดาหยุดชะงัก สายตาของเธอเหลือบไปมองลิ้นชักข้างเตียงที่เธอเคยซ่อนปืนพกเก่าๆ ไว้ ปืนที่พ่อของเธอสอนให้เธอยิงตั้งแต่ยังเด็ก เธอเคยฝึกยิงปืนกับเขาในป่าหลังบ้านสมัยที่เธออายุแค่สิบขวบ แต่หลังจากนั้นเธอก็เก็บมันไว้และไม่เคยหยิบขึ้นมาอีกเลย

“ไม่ทันแล้ว...” เธอกัดฟันแน่น ความกลัวทำให้มือของเธอสั่น แต่ก่อนที่เธอจะตัดสินใจได้ว่าจะหยิบปืนหรือหนี เสียงดังสนั่นที่ประตูห้องนอนของเธอก็เกิดขึ้น

ปัง!

ประตูไม้เก่าถูกเตะจนแตกกระจาย เศษไม้ปลิวว่อนไปทั่วห้อง กลุ่มชายชุดดำสี่คนบุกเข้ามาด้วยท่าทีดุดัน แต่ละคนสวมเสื้อสูทสีดำเปียกชุ่มฝน และถือปืนกลสั้นในมือ ใบหน้าของพวกเขาถูกซ่อนไว้ใต้หมวกกันน็อกสีดำที่สะท้อนแสงจากหลอดไฟเก่าบนเพดาน หนึ่งในนั้นยกปืนขึ้นเล็งมาที่เธอทันที

“อย่าขยับ!” เสียงตะโกนดังลั่น หยาบกระด้างและเย็นชา “ลงไปชั้นล่างเดี๋ยวนี้!”

ธนิดายกมือขึ้นช้าๆ หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะได้ยินเสียงมันดังอยู่ในหู เธอพยายามสงบสติและมองหาทางหนี แต่ชายชุดดำทั้งสี่คนยืนขวางทุกทางออกของเธอไว้ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินตามคำสั่ง

เมื่อเธอเดินลงบันไดไม้ที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดทุกย่างก้าว สายตาของเธอก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น ลุงสมชายนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นห้องรับแขก เลือดไหลนองจากบาดแผลที่หน้าอกของเขา กลิ่นคาวเลือดผสมกับกลิ่นฝนลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งบ้าน เธออยากจะกรีดร้อง อยากจะวิ่งเข้าไปหาเขา แต่ขาของเธอกลับแข็งทื่อราวกับถูกตรึงไว้กับพื้น

“ลุงสมชาย!!!” เธอร้องออกมา น้ำตาไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว แต่ก่อนที่เธอจะได้ก้าวไปข้างหน้า ชายชุดดำคนหนึ่งก็ยกปืนขึ้นเล็งมาที่เธออีกครั้ง

“เงียบ!” เขาตะคอก “ถ้าไม่อยากตายตามมันไปด้วย”

ธนิดากัดริมฝีปากแน่นจนเจ็บ เธอพยายามกลืนน้ำตาและความกลัวลงไปในลำคอ ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเธอ แต่เธอรู้ดีว่าตอนนี้เธอไม่มีพลังมากพอที่จะทำอะไรได้ เธอได้แต่ยืนนิ่ง มองร่างของลุงสมชายที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยเขาได้

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นและฟังดูเชื่องช้ากว่าคนอื่นๆ ดังขึ้นจากหน้าประตูบ้าน ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างหนัก ร่างสูงของเขาสวมเสื้อโค้ตสีดำยาวที่เปียกชุ่มจนน้ำหยดลงพื้น ใบหน้าคมเข้มของเขาถูกเน้นด้วยแสงจากหลอดไฟที่สั่นไหว ดวงตาคู่คมที่เต็มไปด้วยอำนาจจ้องมองมาที่เธอราวกับมองทะลุเข้าไปถึงวิญญาณ ในมือขวาของเขา เขาถือปืนพกสีเงินที่ยังมีควันลอยออกจากปลายกระบอกเล็กน้อย

“หนี้ของพ่อเธอถึงเวลาชดใช้แล้ว” เสียงของเขาดังขึ้น เย็นชาและหนักแน่นราวกับคำตัดสินที่ไม่อาจโต้แย้งได้

ธนิดามองชายคนนั้นด้วยความหวาดกลัวปนสงสัย เธอเคยได้ยินเรื่องของ “เงาจันทรา” จากพ่อของเธอสมัยที่เขายังอยู่ เขาเคยเล่าให้ฟังถึงแก๊งมาเฟียที่โหดเหี้ยมและมีอิทธิพลครอบคลุมเมืองนี้ แต่เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาเผชิญหน้ากับมันด้วยตัวเอง

“คุณ... คุณเป็นใคร?” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา แต่พยายามรักษาความกล้าไว้ให้มากที่สุด

ชายคนนั้นยิ้มมุมปาก รอยยิ้มที่เย็นเยียบและเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “ฉันคือนาวิน หัวหน้าแก๊งเงาจันทรา และพ่อของเธอติดหนี้ฉัน 50 ล้านบาทจากการพนันใต้ดินที่เขาไม่มีวันจ่ายคืนได้”

“50 ล้าน?!” ธนิดาตกใจจนแทบล้ม เธอรู้ว่าพ่อของเธอเคยมีปัญหาเรื่องการพนัน แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะมากขนาดนี้ “พ่อของฉันหายตัวไปแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหนด้วยซ้ำ แล้วฉันจะหาเงินขนาดนั้นมาจากไหน!”

“นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉัน” นาวินตอบกลับทันควัน เขาก้าวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นจนเธอรู้สึกถึงไอเย็นจากร่างของเขาที่เปียกฝน “ถ้าเขาไม่จ่าย ฉันจะเผาบ้านหลังนี้ทิ้ง และทุกคนที่เกี่ยวข้องจะต้องตาย รวมถึงเธอด้วย”

ธนิดาหายใจถี่ขึ้น หัวใจของเธอเต้นแรงจนเจ็บหน้าอก เธอมองไปรอบๆ ห้อง เห็นร่างของลุงสมชายที่นอนจมกองเลือด และชายชุดดำที่ยังคงเล็งปืนมาที่เธอ เธอรู้ดีว่าเธอไม่มีทางเลือกมากนักในสถานการณ์นี้ แต่เธอก็ไม่ยอมให้ตัวเองยอมจำนนง่ายๆ

“ถ้าคุณฆ่าฉัน คุณจะไม่ได้เงินคืนสักบาท” เธอพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้หนักแน่น “ถ้าคุณต้องการเงิน ฆ่าฉันไปก็ไม่มีประโยชน์”

นาวินหยุดชะงัก เขามองเธอด้วยสายตาที่พิจารณา รอยยิ้มเย็นชาของเขาค่อยๆ จางลงเล็กน้อย “ฉลาดกว่าที่คิดไว้อีกนะ” เขากล่าว “งั้นฉันจะให้ทางเลือกเธอ มาเป็น 'หลักประกัน'ของฉัน อยู่กับฉันจนกว่าหนี้จะถูกชดใช้ หรือ...”

เขาหยุดพูด และหันไปสั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือก “ถ้ามันไม่เลือก ก็ฆ่ามันซะ แล้วเผาบ้านนี่ให้วอด”

ลูกน้องคนหนึ่งยกปืนขึ้นเล็งมาที่หน้าผากของธนิดาทันที เธอรู้สึกถึงความเย็นของปลายกระบอกปืนที่แตะผิวหนังของเธอ ความกลัวพุ่งขึ้นถึงขีดสุด แต่ในใจของเธอกลับมีบางอย่างที่บอกให้เธอต้องสู้ต่อไป เธอเคยเห็นพ่อของเธอต่อสู้กับสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ และเธอจะไม่ยอมให้ตัวเองตายที่นี่โดยไม่ทำอะไรเลย

“หยุด!” เธอตะโกนออกไปก่อนที่ลูกน้องของนาวินจะเหนี่ยวไก “ฉัน... ฉันจะไปกับคุณ”

นาวินยกมือขึ้นสั่งให้ลูกน้องหยุดทันที เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ “ดี” เขากล่าวสั้นๆ “พามันไปที่รถ”

ธนิดารู้สึกถึงมือหนาของชายชุดดำที่จับแขนเธอแน่นและลากเธอออกไปจากบ้าน เธอหันกลับไปมองร่างของลุงสมชายเป็นครั้งสุดท้าย น้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง แต่เธอกัดฟันแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา เธอถูกผลักขึ้นรถยนต์สีดำคันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าบ้าน สายฝนยังคงตกลงมาอย่างหนัก ซัดลงบนกระจกรถจนมองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืดมิด

นาวินขึ้นนั่งข้างเธอบนเบาะหลัง เขาไม่พูดอะไรเพิ่มเติม เพียงแค่นั่งนิ่งและมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่เย็นชา รถเคลื่อนตัวออกไปจากบ้านไม้เก่าที่เธอเคยเรียกว่าบ้าน ทิ้งไว้เพียงความเงียบและกลิ่นคาวเลือดที่ยังคงลอยอยู่ในอากาศ

ในใจของธนิดาเต็มไปด้วยความโกรธ ความกลัว และคำถามมากมาย เธอไม่รู้ว่าพ่อของเธอไปไหน หรือทำไมเขาถึงทิ้งหนี้ก้อนโตนี้ไว้ให้เธอ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้แน่ชัดคือ เธอจะต้องหาทางเอาตัวรอดจากนาวินและโลกอันโหดร้ายที่เขาพาเธอเข้ามาให้ได้

ฝนยังคงตกลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่รถยนต์คันนั้นพาเธอมุ่งหน้าสู่จุดหมายที่เธอไม่อาจคาดเดาได้ และในความมืดมิดนั้น เงาของนาวินที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอก็ดูเหมือนเงามืดที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ