ธนิดาถูกจับไปเป็นตัวประกันระหว่างรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อนไว้ ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่

สัญญาใจใต้รัตติกาล - บทที่ 15 โดย กชญาณ์พัฒน์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ยุคปัจจุบัน,เลือดสาด,ดราม่า,มาเฟีย,นางเอกเก่ง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สัญญาใจใต้รัตติกาล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ยุคปัจจุบัน,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,มาเฟีย,นางเอกเก่ง

รายละเอียด

สัญญาใจใต้รัตติกาล โดย กชญาณ์พัฒน์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ธนิดาถูกจับไปเป็นตัวประกันระหว่างรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อนไว้ ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่

ผู้แต่ง

กชญาณ์พัฒน์

เรื่องย่อ

 

นาวิน หัวหน้าแก๊งมาเฟียเงาจันทรา ดึง ธนิดา หญิงสาวธรรมดา เข้ามาในโลกอันตรายของเขาด้วยข้ออ้างหนี้ 50 ล้านของพ่อเธอ แต่เมื่อการทรยศของ ภูมิ ลูกน้องคนสนิท และการโจมตีจากแก๊งเสือดาวรุนแรงขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับลึกซึ้งเกินคาด ธนิดาค้นพบความลับของพ่อเธอ ขณะที่นาวินเผยความเปราะบางและความปรารถนาที่จะปกป้องเธอ

ทั้งสองต้องเผชิญสงครามเลือดกับเสือดาว ฝ่าฟันการต่อสู้สุดดุเดือด และการสูญเสียที่เจ็บปวด ธนิดากลายเป็นนักสู้เคียงข้างนาวิน 

เรื่องราวของนาวินและธนิดาคือการเดินทางของความรักที่เกิดท่ามกลางความโหดร้าย การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และคำสัญญาที่แข็งแกร่งกว่าความตาย 

สารบัญ

สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 1,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 2,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 3,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 4,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 5,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 6,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 7,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 8,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 9,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 10,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 11,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 12,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 13,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 14,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 15,สัญญาใจใต้รัตติกาล-บทที่ 16

เนื้อหา

บทที่ 15

แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาบนชายหาดที่เงียบสงบ ผ่านหน้าต่างไม้บานใหญ่ของบ้านพักริมทะเลหลังเล็กๆ คลื่นซัดเข้าฝั่งอย่างแผ่วเบา เสียงของมันดังเป็นจังหวะที่สงบและนุ่มนวล ต่างจากค่ำคืนแห่งสงครามเมื่อสองสัปดาห์ก่อน 

ลมทะเลพัดพากลิ่นเค็มของน้ำและกลิ่นหญ้าสดจากสวนเล็กๆ หน้าบ้านเข้ามาในห้อง ผนังไม้สีน้ำตาลอ่อนของบ้านพักถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีโต๊ะไม้ตัวเล็กวางอยู่กลางห้อง ข้างๆ กันเป็นโซฟาผ้าสีครีมที่ดูนุ่มนวล ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย สิ่งที่ทั้งนาวินและธนิดาไม่เคยสัมผัสมาเนิ่นนาน

นาวินนั่งอยู่บนโซฟา ขาข้างซ้ายของเขายังคงพันผ้าพันแผล แต่บาดแผลที่ไหล่และแขนของเขาเริ่มหายดี เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ปลดกระดุมสองเม็ดด้านบน และกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินที่ดูสบายๆ ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายมากกว่าที่เคยเป็น ดวงตาคู่คมที่เคยเต็มไปด้วยความโกรธและความระแวงตอนนี้สงบนิ่ง เขาถือแก้วกาแฟในมือ และมองออกไปที่ทะเลที่ทอดยาวไปถึงขอบฟ้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่าแต่เต็มไปด้วยความหวัง

ธนิดานั่งอยู่ข้างเขา เธอสวมชุดเดรสสีขาวบางเบาที่ปลิวไหวไปตามลม ผมสีน้ำตาลเข้มของเธอถูกรวบไว้หลวมๆ และแขนของเธอยังมีผ้าพันแผลพันรอบรอยแผลที่ถูกมีดเฉือนจากการต่อสู้ครั้งล่าสุด เธอวางถ้วยชาบนโต๊ะและหันมามองนาวินด้วยรอยยิ้มบางๆ เธอรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในร่างกาย แต่ในใจของเธอ เธอรู้สึกเบาสบายราวกับยกภูเขาออกจากอก

ทั้งคู่รอดมาจากการต่อสู้กับกลุ่มเสือดาวบนชายหาดได้ด้วยความช่วยเหลือจากลูกน้องของนาวินที่มาถึงในวินาทีสุดท้าย หลังจากนั้น ไพโรจน์และคนอื่นๆ ก็พานาวินและธนิดาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้ๆ และเมื่อทั้งคู่หายดีพอที่จะเดินทางได้ พวกเขาก็ตัดสินใจมาที่บ้านพักริมชายหาดแห่งนี้ สถานที่ที่ไพโรจน์จัดหาให้เป็นที่หลบภัยชั่วคราว เป็นสถานที่ที่ห่างไกลจากเมืองและความโกลาหลของโลกมาเฟียที่พวกเขาเคยอยู่

“คุณเคยคิดไหม ว่าเราจะได้มาอยู่ในที่แบบนี้” ธนิดาถามเบาๆ เธอขยับตัวเข้าไปใกล้นาวินและพิงไหล่ของเขา

นาวินหันมามองเธอ เขาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะและยิ้มให้เธอ “ไม่เคย ฉันคิดว่าฉันจะตายไปกับเงาจันทรา แต่เธอก็เข้ามาเปลี่ยนทุกอย่าง”

ธนิดายิ้มกว้างขึ้น เธอจับมือของเขาและบีบเบาๆ “คุณก็เปลี่ยนฉันเหมือนกัน” เธอพูด “จากคนที่กลัวทุกอย่าง กลายเป็นคนที่กล้าสู้เพื่อสิ่งที่ฉันรัก”

นาวินมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก เขายกมือขึ้นลูบผมของเธอเบาๆ “ฉันมีอะไรต้องบอกเธอ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

ธนิดาขมวดคิ้ว เธอนั่งตัวตรงและมองเขา “อะไรเหรอ หรือพวกเสือดาวมันยังตามล่าเราอยู่”

“เปล่า” เขาตอบแล้วส่ายหน้า “พวกเสือดาวมันจบแล้ว ไพโรจน์รายงานมาว่าลูกน้องที่เหลือของพวกมันแตกกระจายไปหลังจากหัวหน้าตาย ไม่มีใครกล้าต่อกรกับเงาจันทราอีก”

“แล้วอะไรล่ะ” เธอถามต่อ

นาวินสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาลุกขึ้นจากโซฟาด้วยความยากลำบาก และเดินไปหยิบกล่องไม้เล็กๆ จากชั้นวางหนังสือที่มุมห้อง เขากลับมานั่งข้างเธอและเปิดกล่องนั้นออก ภายในมีรูปถ่ายของเด็กชายตัวเล็กที่ยิ้มกว้าง และจดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนด้วยลายมือ

“นี่คือน้องชายของฉัน” เขาพูดพร้อมยื่นรูปถ่ายให้ธนิดาดู “ฉันส่งเขาไปอยู่ต่างประเทศแล้ว”

ธนิดามองรูปถ่ายนั้นด้วยความประหลาดใจ เด็กชายในรูปมีดวงตาคล้ายนาวิน และรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา “คุณส่งเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่”

“หลังจากที่เรารอดจากโกดัง ฉันรู้ว่าเงาจันทรายังไม่ปลอดภัยสำหรับเขา ฉันเลยติดต่อเพื่อนเก่าที่ต่างประเทศให้ดูแลเขา เขาจะได้เรียนหนังสือและมีชีวิตที่ดี โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับโลกของฉัน”

ธนิดายิ้มให้เขา เธอรู้ว่าน้องชายคือเหตุผลที่เขาต่อสู้มาทั้งชีวิต “คุณทำถูกแล้ว เขาไม่ควรต้องเจออะไรแบบที่เราเจอ”

นาวินพยักหน้ารับ เขาหยิบจดหมายออกจากกล่องและวางลงบนโต๊ะ “นี่คือจดหมายที่ฉันเขียนถึงไพโรจน์ ฉันมอบอำนาจเงาจันทราให้เขา เขาจะดูแลมันต่อจากฉัน”

ธนิดาชะงัก เธอมองเขาด้วยความตกใจ “คุณหมายถึง... คุณจะเลิกเป็นมาเฟียจริงๆ เหรอ”

“ใช่” เขาตอบแล้วหันมามองเธอด้วยสายตาที่มั่นคง “ฉันบอกเธอแล้วที่โรงแรม ว่าฉันอยากเริ่มต้นใหม่ และตอนนี้ ฉันได้ทำมันแล้ว”

ธนิดารู้สึกถึงความอบอุ่นที่พุ่งขึ้นมาในอก เธอยื่นมือไปจับมือของเขาแน่น “แล้วเราจะทำอะไรต่อ ถ้าเราไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเงาจันทราอีกต่อไป”

นาวินยิ้มให้เธอ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวัง “เราจะทิ้งชีวิตมาเฟียไว้เบื้องหลัง เราจะอยู่ที่นี่ หรือไปที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีใครรู้จักเรา  แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน”

ธนิดามองเขานานกว่าปกติ เธอรู้สึกถึงน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาในดวงตา แต่คราวนี้ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเจ็บปวด มันคือน้ำตาแห่งความสุข “คุณแน่ใจเหรอ คุณจะไม่เสียดายเหรอ”

“ไม่ สิ่งเดียวที่ฉันเสียดายคือเวลาที่ฉันเสียไปกับความโหดร้าย แต่ตอนนี้ ฉันมีเธอ และนั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ”

คำพูดของเขาทำให้ธนิดายิ้มกว้าง เธอโผเข้ากอดเขา และทั้งคู่ยืนอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน ความอบอุ่นจากร่างของกันและกันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกถึงความปลอดภัยและความสงบ

“ฉันรักคุณ” เธอพูดเบาๆ ขณะซบหน้าลงที่ไหล่ของเขา

“ฉันรักเธอเหมือนกัน” เขาตอบพลางกอดเธอแน่นขึ้น และทั้งคู่รู้สึกถึงความผูกพันที่ไม่มีอะไรมาทำลายได้

เมื่อทั้งคู่ปล่อยจากอ้อมกอดของกันและกัน ธนิดาเดินไปเปิดหน้าต่างบานใหญ่ให้กว้างขึ้น ลมทะเลพัดเข้ามาในห้อง และแสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาบนใบหน้าของทั้งคู่ เธอหันมามองนาวินและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง “แล้วเราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กันยังไงดี”

นาวินลุกขึ้นและเดินไปยืนข้างเธอ เขามองออกไปที่ทะเลและพูด “วันนี้เป็นวันแรกของเรา” เขาหันมามองเธอ “เราจะใช้ชีวิตแบบที่เราอยากใช้ ไม่มีปืน ไม่มีเลือด มีแค่เรา”

ธนิดาพยักหน้ารับ เธอจับมือของเขาและพูด “ตกลงค่ะ”

ทั้งคู่ยืนมองทะเลอยู่นาน เสียงคลื่นและลมเป็นเหมือนบทเพลงแห่งอิสรภาพที่ดังขึ้นในหัวใจของพวกเขา ทุกปมในอดีต การทรยศของภูมิ ความจริงเกี่ยวกับพ่อของธนิดา และสงครามกับเสือดาว ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง รุ่งอรุณแห่งชีวิตใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว และทั้งนาวินและธนิดารู้ว่าไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร พวกเขาจะเผชิญหน้ามันด้วยกัน