ธนิดาถูกจับไปเป็นตัวประกันระหว่างรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อนไว้ ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่
รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ยุคปัจจุบัน,เลือดสาด,ดราม่า,มาเฟีย,นางเอกเก่ง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สัญญาใจใต้รัตติกาลธนิดาถูกจับไปเป็นตัวประกันระหว่างรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อนไว้ ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่
นาวิน หัวหน้าแก๊งมาเฟียเงาจันทรา ดึง ธนิดา หญิงสาวธรรมดา เข้ามาในโลกอันตรายของเขาด้วยข้ออ้างหนี้ 50 ล้านของพ่อเธอ แต่เมื่อการทรยศของ ภูมิ ลูกน้องคนสนิท และการโจมตีจากแก๊งเสือดาวรุนแรงขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับลึกซึ้งเกินคาด ธนิดาค้นพบความลับของพ่อเธอ ขณะที่นาวินเผยความเปราะบางและความปรารถนาที่จะปกป้องเธอ
ทั้งสองต้องเผชิญสงครามเลือดกับเสือดาว ฝ่าฟันการต่อสู้สุดดุเดือด และการสูญเสียที่เจ็บปวด ธนิดากลายเป็นนักสู้เคียงข้างนาวิน
เรื่องราวของนาวินและธนิดาคือการเดินทางของความรักที่เกิดท่ามกลางความโหดร้าย การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และคำสัญญาที่แข็งแกร่งกว่าความตาย
บทที่ 16
แสงแดดยามสายสาดส่องลงมาผ่านหลังคามุงจากของร้านกาแฟริมทะเลหลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนชายหาดอันเงียบสงบ ลมทะเลพัดเบาๆ พัดพากลิ่นเค็มของน้ำทะเลและกลิ่นหอมของกาแฟคั่วใหม่เข้ามาในร้าน โต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้มที่วางเรียงรายอยู่นอกชานร้านถูกประดับด้วยแจกันดอกไม้ป่าขนาดเล็ก เก้าอี้หวายที่ดูเรียบง่ายแต่สะดวกสบายวางคู่กันเป็นระเบียบ เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งดังแผ่วเบาเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ผสมกับเสียงนกร้องที่ลอยมาจากต้นมะพร้าวสูงใหญ่ที่เรียงรายตามแนวชายฝั่ง ทุกอย่างในที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่น เป็นโลกที่ห่างไกลจากความโหดร้ายและความตายที่เคยครอบงำชีวิตของนาวินและธนิดา
นาวินนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่งของชานร้าน เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่ปลดกระดุมเม็ดบน และกางเกงยีนส์สีเข้มที่ดูสบายๆ รอยแผลเป็นที่แขนและขาของเขายังคงมองเห็นได้ แต่บาดแผลส่วนใหญ่หายดีแล้ว เขาดูผ่อนคลายมากกว่าที่เคยเป็น ดวงตาคู่คมของเขาที่เคยเต็มไปด้วยความโกรธและความระแวงตอนนี้สงบนิ่งและเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขาถือแก้วกาแฟในมือ และมองออกไปที่ทะเลที่ทอดยาวไปถึงขอบฟ้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่าแต่เต็มไปด้วยความหวัง
ธนิดานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา เธอสวมชุดเดรสสีเหลืองอ่อนที่ปลิวไหวไปตามลม ผมสีน้ำตาลเข้มของเธอถูกรวบเป็นหางม้าสบายๆ และรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าของเธอสะท้อนถึงความสุขที่เธอรู้สึกอยู่ในขณะนี้ รอยแผลที่แขนของเธอจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกลายเป็นรอยแผลเป็นจางๆ ที่เธอไม่สนใจอีกต่อไป เธอจิบชาสมุนไพรจากถ้วยเซรามิกสีขาว และมองไปที่นาวินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบที่บ้านพักริมชายหาดมาได้หนึ่งเดือนหลังจากสงครามกับเสือดาวจบลง ไพโรจน์และลูกน้องที่ยังภักดีรับช่วงดูแลเงาจันทรา และน้องชายของนาวินก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างประเทศตามที่เขาต้องการ ทุกอย่างในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการทรยศหรือความสูญเสียใด ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง และวันนี้เป็นวันแรกที่ทั้งคู่ตัดสินใจออกจากบ้านพักเพื่อมาที่ร้านกาแฟแห่งนี้ เป็นเหมือนการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของชีวิตใหม่ที่ทั้งคู่ฝันถึง
“คุณชอบที่นี่ไหม” ธนิดาถาม เธอวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและพิงเก้าอี้ไปด้านหลังเล็กน้อย
นาวินหันมามองเธอ เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน “ชอบสิ มันเงียบสงบ ไม่มีปืน ไม่มีคนตาย มีแค่เรา”
ธนิดาหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของเธอดังใสราวกับระฆังลมที่แขวนอยู่หน้าร้าน “ฉันไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเราจะได้นั่งจิบกาแฟแบบนี้ สมัยก่อน ฉันกลัวคุณแทบตาย”
นาวินยิ้มมุมปาก เขาวางแก้วกาแฟลงและยื่นมือไปจับมือของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะ “ฉันก็กลัวตัวเองเหมือนกัน แต่เธอทำให้ฉันเห็นว่าฉันยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้”
ธนิดาบีบมือของเขาเบาๆ เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขาและเห็นความจริงใจที่ซ่อนอยู่ “คุณเปลี่ยนไปจริงๆ จากคนที่ฉันเคยคิดว่าโหดร้าย กลายเป็นคนที่ฉันรักมากที่สุด”
คำพูดของเธอทำให้นาวินเงียบไปครู่หนึ่ง เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก “ฉันมีอะไรต้องบอกเธอ” เขาพูดในที่สุด น้ำเสียงของเขานุ่มนวลแต่จริงจัง
ธนิดาขมวดคิ้ว เธอขยับตัวเข้าไปใกล้เขา “อะไร มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้เหรอ”
“ไม่ใช่แบบนั้น” เขาตอบ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดต่อ “ฉันแค่อยากขอบคุณเธอ”
“ขอบคุณ? ขอบคุณเรื่องอะไร”
“ขอบคุณที่เธอยอมอยู่เคียงข้างฉัน ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามาในชีวิตฉัน เธอต้องเจอกับอะไรที่แย่ที่สุด ทั้งการฆ่า ความตาย การทรยศ แต่เธอไม่เคยหนีไปไหน เธอสู้เคียงข้างฉัน แม้กระทั่งตอนที่ฉันไม่สมควรได้รับมัน”
ธนิดารู้สึกถึงความอบอุ่นที่พุ่งขึ้นมาในอก เธอยิ้มให้เขาและส่ายหน้า “คุณไม่ต้องขอบคุณฉัน ฉันเลือกเอง ฉันไม่เคยเสียใจที่เลือกคุณ”
คำพูดของเธอทำให้นาวินยิ้มกว้างขึ้น เขาจับมือของเธอแน่นขึ้นและพูด “ฉันเคยคิดว่าฉันไม่สมควรมีชีวิตแบบนี้ ไม่ว่าจะชีวิตที่สงบสุข หรือชีวิตที่มีความรัก แต่เธอทำให้ฉันเชื่อว่ามันเป็นไปได้”
“มันเป็นไปได้จริงๆ” เธอตอบ เธอยื่นมืออีกข้างไปแตะที่ใบหน้าของเขา “เราผ่านอะไรที่เลวร้ายที่สุดมาแล้ว และตอนนี้ เราได้ในสิ่งที่เราสมควรได้”
นาวินพยักหน้ารับ เขาดึงมือของเธอมาจูบเบาๆ ที่หลังมือ และทั้งคู่เงียบไปชั่วขณะ มีเฉพาะเสียงคลื่นและเสียงนกร้องเท่านั้นที่ดังขึ้นรอบตัวพวกเขา ธนิดามองไปที่ทะเลที่ระยิบระยับภายใต้แสงแดด และรู้สึกถึงความสงบที่แท้จริงครั้งแรกในชีวิตของเธอ
“คุณเคยคิดถึงอนาคตบ้างไหม” เธอถามในที่สุด เธอหันมามองเขา “ว่ามันจะเป็นยังไง”
นาวินมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน “คิดสิ ฉันเห็นเราใช้ชีวิตด้วยกัน อาจจะอยู่ที่นี่ หรือไปที่ไหนสักแห่งที่เราอยากไป ไม่มีอะไรมาขวางเราได้อีก”
ธนิดายิ้มกว้าง เธอจินตนาการถึงภาพนั้น บ้านเล็กๆ ริมทะเล การตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน และชีวิตที่ไม่ต้องกลัวอะไรอีก “ฉันชอบภาพนั้น แล้วเราจะทำอะไรกันดีต่อจากนี้”
นาวินหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความสุข “อะไรก็ได้ที่เราอยากทำ อาจจะเปิดร้านกาแฟแบบนี้ หรือแค่เดินเล่นริมทะเลทุกวัน ฉันไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นยังไง ขอแค่มีเธออยู่ด้วย”
ธนิดารู้สึกถึงน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาในดวงตา แต่คราวนี้เป็นน้ำตาแห่งความสุข เธอโผเข้ากอดเขา และนาวินกอดเธอตอบแน่น ความอบอุ่นจากร่างของกันและกันเป็นสิ่งที่ทั้งคู่รู้สึกได้ถึงความมั่นคงและความรักที่ไม่มีวันสั่นคลอน
“ฉันสัญญา” เขาพูดเบาๆ ขณะซบหน้าลงที่ไหล่ของเธอ “ฉันจะไม่ปล่อยมือเธออีก”
“ฉันก็สัญญา” เธอตอบ เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะอยู่กับคุณ”
ทั้งคู่ปล่อยจากอ้อมกอดและหันไปมองคลื่นทะเลที่ซัดเข้าฝั่ง แสงแดดสะท้อนบนผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ และทั้งคู่จับมือกันแน่น นาวินยกมือของเธอขึ้นจูบอีกครั้ง และธนิดาพิงศีรษะของเธอลงบนไหล่ของเขา ทั้งคู่รู้ว่านี่คือจุดจบของการเดินทางที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด และจุดเริ่มต้นของชีวิตที่เต็มไปด้วยความหวัง
“เราจะไปไหนต่อดี” ธนิดาถาม เธอมองเขาด้วยรอยยิ้ม
“ไปไหนก็ได้ ขอแค่ไปด้วยกัน”
“อื้อ” ธนิดาพยักหน้ารับ และทั้งคู่ลุกขึ้นจากโต๊ะ พวกเขาเดินออกจากร้านกาแฟไปด้วยกัน
มือของทั้งคู่ยังคงจับกันแน่น ขณะที่เดินไปตามชายหาด แสงแดดอุ่นๆ สาดส่องลงมาบนใบหน้าของทั้งคู่ และคลื่นทะเลยังคงซัดเข้าฝั่งเป็นจังหวะแห่งความสงบ สัญญาใจที่แท้จริงของนาวินและธนิดาได้เกิดขึ้นแล้ว และไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร พวกเขาจะไม่ปล่อยมือจากกันอีก