จากอนาคตแสนไกลย้อนคืนเป็นโลกใบใหม่ ดินแดนที่ความจริงสูญหายและสิ่งลี้ลับหวนคืน บาร์ตัน แบล็คฮาร์ท เด็กชายอายุเพียงสิบเอ็ดพลันต้องเรียนรู้โลกใหม่เพื่อเอาชีวิตรอด
แฟนตาซี,ไซไฟ,พารานอมอล,ผจญภัย,แฟนตาซี,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำจากอนาคตแสนไกลย้อนคืนเป็นโลกใบใหม่ ดินแดนที่ความจริงสูญหายและสิ่งลี้ลับหวนคืน บาร์ตัน แบล็คฮาร์ท เด็กชายอายุเพียงสิบเอ็ดพลันต้องเรียนรู้โลกใหม่เพื่อเอาชีวิตรอด
“พวกมันหิว พวกมันกระหาย ความสิ้นหวังของมนุษย์คืออาหารที่มันปรารถนาเจียนตาย และเมื่อมันเสพสมจนพอใจ... มันก็ทำให้ความฝันอันโหดร้ายหลั่งเลือดออกมาเป็นความจริง” - ทหารโดมิเนี่ยน, กล่าวถึงพาเรลในแดนมืด
นิยายแนวผจญภัย - ไซไฟ ผสมแฟนตาซี (และสตีมพังค์)
‘พ-พาเรล…?’
บาร์ตันกลืนน้ำลายเอื้อก เบื้องหน้าของเขาคือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตประหลาดที่มาจากต่างมิติ มันมีลักษณะเหมือนหมาหกขาไร้ขน ผิวสีน้ำเงินม่วงเป็นเกล็ดเลื่อม สันหลังเป็นครีป ดวงตานั้นมีถึงแปดดวง และกำลังใช้ฟันแหลมคมน่าขยะแขยะแทะซากศพมนุษย์ตรงหน้าอย่างสบายใจ
บาร์ตันกลืนน้ำลายเอื้อก แต่ไม่มีทางเลือกเมื่อด้านหลังนั้นเป็นทางตัน เด็กชายพลันให้สัญญาณกับเพื่อนตัวเองช้าๆ ก้าวขาอย่างระมัดระวังไปตามพื้นโล่งเพื่อไม่ให้เกิดเสียงใดๆ
มันเป็นสิ่งที่พวกเขาถนัด หลายปีในแดนใต้ขยะนั้นทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้เงียบกริบราวกับเป็นเงามืด บาร์ตันเองก็คอยมองร่างใหญ่ยักษ์ที่กำลังหันหลังนั้นเป็นจังหวะ ดูท่าทางว่ามันกำลังสนใจอาหารอันโอชะจนไม่ได้สนใจใครเลยแม้แต่น้อย
ทว่า… บางครั้งบาร์ตันเองก็ลืมไป ว่ามันมักมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นเสมอ
หมับ!
อะไรบางอย่างคว้าที่ต้นขา เด็กชายถึงกับหน้าซีด หัวใจหล่นไปที่ตาตุ่ม เขารีบหันขวับไปยังตำแหน่งนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเบิกตาโพลงกับสิ่งที่เห็น
มนุษย์… ท่ามกลางศพอีกนับสิบ แขนขวาซีกหนึ่งนั้นแหลกเหลว ทว่าดวงตาที่ยังมีชีวิตนั้นจับจ้อง มือที่คว้าขาเล็กๆของเขานั้นบีบเขาเอาไว้แน่น
“ช่วย… ด้วย…”
ผู้รอดชีวิตนั้นกล่าวด้วยเสียงกระซิบ ทว่าเสียงกระซิบนั้นก็มากพอที่จะทำให้พาเรลหูผึง ครีปบนหลังของมันพลันเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนดวงตาวาวโรจน์นั้นจะหันขวับมามอง
‘บาร์ตัน…’
‘วิ่ง’
“วิ่ง!” ไม่ต้องรีรอ เด็กชายสะบัดขาก่อนวิ่งพรวดอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนด้านหลังก็วิ่งตามมา พลันสัตว์ประหลาดหกขานั้นก็ลุกขึ้นก่อนจะคำรามลั่น
กี๊ซซซซซซซซซซซซซซซ---!!!
“ช่วย--ด้วยย ช่วย--ด้วยยย---! อ้าาา--!!!”
แคว็กกก---!!!
นั้นคือเสียงสุดท้ายที่พวกเขาได้ยินจากห้องด้านหลัง บาร์ตันกัดฟันกรอดพร้อมกับปากสั่น ทว่าก็ยังวิ่งต่อไปโดยทิ้งความรู้สึกผิดเอาไว้ด้านหลัง
“เลี้ยวขวาหน้า! ตัดห้องเม็ดเบย์! หนึ่งในกระสวยน่าจะอยู่ตรงนั้น!” อาเนียร์ เด็กสาวที่จำโครงสร้างแผนที่ยานได้ดีที่สุดกล่าว บาร์ตันที่เหงื่อซกพยักหน้า ก่อนจะวิ่งนำพวกเขาด้วยร่างกายที่อ่อนปวกเปียก ในระหว่างที่กฤษณะซึ่งรั้งท้ายสุดตะโกนเข้ามา
“บาร์ตัน! มันตามมาแล้ว!”
ตึง! ตึง! ตึง!
บาร์ตันหน้าซีด ไม่ต้องหันหลังเขาก็รู้ได้เลยว่าอยู่ใกล้แค่ไหน พลันเสียงในหัวก็ดังขึ้นอีกครั้ง
‘ไม่ทันแล้ว!’
‘บาร์ตัน! อย่าไปทางนั้น!’
“บาร์ตัน! มันมาแล้ว!” กฤษณะตะโกนไล่หลัง บาร์ตันก็รีบเปลี่ยนแผน เขารีบเปลี่ยนไปเลี้ยวซ้ายเข้าห้องพยาบาลหรือห้องเม็ดเบย์ เลี้ยวเข้าไปยืนตรงเซนเซอร์ข้างประตูด้านในก่อนจะตะโกนลั่น
“เข้ามาด้านใน! เร็ว!” เขากล่าว อาเนียร์พุ่งตามเข้ามาได้ทัน ทว่ากฤษณะนั้นตอนนี้อยู่แค่ปลายเล็บพาเรลเท่านั้น
“เวรเอ้ย!” ชายผิวน้ำผึ้งตะโกนลั่น กระโดดพุ่งหลาเข้ามาด้านในก่อนจะหันหลัง ปืนกลสีดำในมือก็พลันถูกลั่น เสียงกระสุนรัวดังสนั่นจนหูอื้ออึง ก่อนจะกระโดดพุ่งหลาเข้ามาด้านใน
‘ได้ผล!’ บาร์ตันเบิกตากว้าง เมื่อกระสุนที่ลั่นออกไปนั้นมากพอจะทำให้พาเรลชะงัก พลันเมื่อร่างของเพื่อนตัวเองพุ่งเข้ามาด้านใน เด็กชายก็รีบกดเซนเซอร์เพื่อปิดประตูทันที
ตึง!
กี๊ซซซซซซซซซซซซซซซ---!!!
“?” เด็กชายหน้าเครียด เมื่อก่อนที่ประตูจะปิดลง หัวหมาเป็นครีปนั้นสามารถผ่านเข้ามาได้พร้อมกับขาอีกข้าง มันพยายามดันตัวเข้ามาจนประตูโลหะที่พยายามเลื่อนปิดนั้นค่อยๆฉีกกระชาก พลางตะวัดกรงเล็บจากขาอีกข้างพยายามคว้ากฤษณะที่อยู่บนพื้น
“ย๊ากกกกก! ไปตายซะ!!!!!” กฤษณะบนพื้นร้องคำราม ปืนกลสีดำในมือนั้นลั่นกระสุนไปมาอย่างมั่วซั่ว แรงถีบของปืนนั้นแทบจะทำให้กระดูกไหล่เด็กชายหัก แต่ถึงเช่นนั้นก็พยายามอย่างหนักเพื่อจะเล็งให้โดนหัวให้ได้
‘ต้องทำอะไรสักอย่าง!’ บาร์ตันเครียดหนักจนเหงื่อท่วม เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อาเนียร์วิ่งเข้ามาพร้อมถังดับเพลิงในมือ เด็กสาวกดปุ่มด้านข้าง ปล่อยควันสีขาวพุ่งทะยานใส่หน้าสัตว์ประหลาดร่างยักษ์จนมันต้องสะบัดหัวไปมา
“ดีมากอาเนียร์! ถ่วงเวลาเอาไว้!” เด็กชายกล่าว ก่อนจะหันไปมองรอบข้างอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เห็นตู้เม็ดเบย์อยู่ด้านข้าง มันเป็นตู้นอนแคปซูลทรงราบที่สามารถเลื่อนได้เหมือนเตียงผู้ป่วย
จากหนังสือที่เขาเคยอ่าน สิ่งนี้คือเครื่องรักษาล้ำสมัย มันสามารถปกคลุมตัวผู้ป่วยด้วยของเหลวบางอย่าง แล้วรักษาบาดแผลได้จนบาดแผลสมานดี
‘น่าจะได้ผล’ เด็กชายรีบพุ่งเข้าไปด้านข้าง ใช้ท่อนโลหะบางอย่างงัดแผงข้างตู้จนเปิดออก มันเผยให้เห็นสายระโยงระยางด้านใน จัดไม่เป็นระเบียบ มองก็รู้เลยว่านี้คือตู้นอนเม็ดเบย์ราคาถูก
รุ่นที่เขามักจะเคยเห็นข่าวว่ามันเคยเผาผู้ป่วยทั้งเป็นอยู่เสมอ
เด็กชายตัดต่อสายภายใน โยงสายท่อน้ำผิดให้ไปยังจุดเชื่อมระบบไฟฟ้า จากนั้นรีบเปิดเครื่อง ของเหลวบางอย่างก็ไหลเข้ามาใส่ตู้นอนด้านใน ทว่าครู่มาก็เกิดไฟฟ้าช็อตภายใน จนของเหลวใสนั้นลุกไหม้ขึ้นมาทันที
“ทุกคน! หลบ!” เด็กชายกล่าว กัดฟันกรอด ก่อนจะออกแรงถีบตัวเองดันตู้นอนนั้นไถลไปด้านหน้าประตู อาเนียร์รีบหลบ กฤษณะเห็นเช่นนั้นก็กลิ้งตัวไปด้านข้าง ตู้นอนล้ำสมัยที่กำลังลุกโชนไปด้วยเปลวไฟก็พุ่งหาพาเรลร่างยักษ์ทันที
กี๊ซซซซซซซซซ---!!!
ตู้ม!
กรงเล็บแหลมตะวัด มันทะลวงตู้เม็ดเบย์จนเกิดไฟฟ้าช็อตแล้วระเบิด บาร์ตันก็พลันหมอบลงกับพื้น ก่อนจะเงยหน้ามองผลงานตัวเอง
ปรากฏว่าได้ผลเกินคาด
เศษระเบิดปลิวไปรอบข้างพร้อมกับเศษเนื้อของพาเรล เปลวเพลิงลุกโชนราวกับติดน้ำมัน ทว่าระบบกรองอากาศก็ทำงานฉุกเฉิน ช่องแอร์ตามท่อบนหัวนั้นเร่งดูดควันดำจนเปลวไฟดับลงอย่างรวดเร็ว
อาเนียร์นั้นหลบอยู่ด้านหลังสุด ในระหว่างที่กฤษณะนั้นชะเง้อหน้ามองจากอีกฝากของกำแพง พลันขมวดคิ้วย่นเล็กน้อยเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวในเปลวไฟที่กำลังดับ
“มันยังไม่ตาย!” เขากล่าว ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปใกล้
“กฤษณะ ระวัง” บาร์ตันกล่าวเตือน ชายผิวน้ำพึ้งก็พยักหน้า เขายกปืนกลขึ้นมา เล็งไปยังหน้ายักษ์ของพาเรลที่กำลังดิ้นไปมา ก่อนยันปืนเอาไว้แล้วลั่นไกใส่หัว
กระสุนถูกลั่น แสงสีส้มสว่างขึ้นประมาณหกถึงเจ็ดครั้งก่อนจะหยุดเพราะกระสุนหมด เสียงที่ดังอื้ออึงนั้นทำให้บาร์ตันต้องปิดหู ทว่าครู่ต่อมาก็ได้ยินเพียงแค่เสียง ‘แกรกๆๆ’ ที่ดังออกมา พลันเมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่ากฤษณะนั้นใช้กระสุนจนหมดแล้ว
“กฤษณะ?” บาร์ตันกล่าว ดันร่างตัวเองลุกขึ้นมาช้าๆ ชายผิวน้ำผึ้งเองก็ส่งสัญญาณว่าอย่าพึ่งเข้ามา ก่อนจะจับปืนกลกลับหัวแล้วฟาดใส่ศีรษะของพาเรลเต็มแรงมากกว่าสิบที
และมันแน่นิ่ง… ไม่ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย
“มัน… ตายแล้ว?” กฤษณะแทบไม่อยากเชื่อภาพที่เห็น บัดนี้พาเรลตรงหน้านั้นไหม้เกรียม ไม่มีลมหายใจ ไม่มีอะไรสักอย่างนอกจากร่างที่แน่นิ่ง “มัน.. ตายแล้ว! ฮ-ฮ่าๆๆ”
เด็กชายหัวเราะ ก่อนหันหน้ากลับมาด้วยรอยยิ้ม
“บาร์ตัน! เห็นไหม? มันตายแล้ว! เราฆ่าพาเรลได้! พวกเราฆ่ามันได้!-”
แควก!
“!?” เลือดสีแดงสาดกระเซ็น ม่านตาของบาร์ตันเบิกกว้าง จ้องภาพเบื้องหน้าที่สาดกระเซ็นไปด้วยโลหิต โลกทั้งใบก็ราวกับช้าลงในชั่วพริบตา
จากก้อนศพพาเรลสีดำ… แขนข้างหนึ่งของมันโผล่ออกมาจากตัวราวกับลอกคราบ อุ้งเล็บแหลมคมนั้นตะวัดเป็นทางยาว
สะบั้นร่างของกฤษณะจนกลายเป็นสามส่วนในพริบตา
“ไม่….”
ดวงตาของบาร์ตันสั่นระริก ทุกอย่างราวกับภาพสโลวโมชั่น เลือดสีแดงสาดกระเซ็นจนเขาต้องล้มถอยหลัง ก่อนบางสิ่งจะกลิ่งกับพื้นมาหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของเด็กชาย
ศีรษะ และใบหน้าที่เขารู้จัก
ดวงตาตื่นตกใจนั้นยังเบิกค้าง จับจ้องมาที่เขาก่อนจะดับแสงไป…
กฤษณะ…. ตายไปแล้ว
‘วิ่ง! บาร์ตัน’
‘วิ่ง!’
เสียงในหัวดังก้องกังวาน บาร์ตันพลันเรียกสติ เขาหันหลังก่อนจะตะโกนลั่น
“อาเนียร์! หนีไป!-”
กร็อบ!
“!?”
เหมือนกับบางสิ่งทิ่มแทงอยู่ในลำคอ หัวใจของบาร์ตันบีบคั้นกับสิ่งที่เห็น
ตัวประหลาดบางอย่างราวกับอสรพิษ ทว่ามีปากเป็นแฉกเหมือนดอกไม้ เลื่อยตัวออกจากจากท่อระบายอากาศก่อนจะฉกลงมา เขมือบทั้งศีรษะของอาเนียร์จนไม่เห็นใบหน้า
มันยกตัวเธอขึ้นช้าๆ เด็กหญิงพยายามดิ้นรนสุดความสามารถ กรีดร้องอยู่ด้านในทว่าไร้เสียง และด้วยการบีบกรามเป็นแฉกของมันเพียงแค่หนึ่งครา โลหิตสีแดงก็พุ่งกระจุยออกมาจากปากของมัน
พลันร่างของเด็กหญิงตรงหน้าก็แน่นิ่งไป
‘อาเนียร์…?’ บาร์ตันช็อคจนไม่อาจตอบสนองอะไรได้
มันไม่ทันแม้แต่จะได้ยินเสียงร้ำร้องของทั้งคู่
ไม่แม้แต่จะได้บอกร้ำลาเป็นครั้งสุดท้าย
ไม่แม้แต่จะได้มีโอกาสทำสิ่งใดเพื่อช่วยเพ่ื่อนของตน
สองสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเด็กชายก็หายวับไปในพริบตา
ความตาย… มาถึงอย่างรวดเร็ว จนหัวใจของบาร์ตันไม่อาจรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทัน
‘บาร์ตัน!’
เสียงภูติผีร้องกึกก้องในโสตประสาท ทว่าบาร์ตันที่กำลังเสียสติพลันร้องออกมาไม่เป็นเสียง ก่อนจะเริ่มดำดิ่งลึกลงสู่ความบ้าคลั่งในจิตใจ
ทว่าในขณะนั้น… อะไรบางอย่างก็ผลักเขาลงสู่ใต้ทะเลแห่งจิตสำนึก ก่อนจะพุ่งขึ้นไปแทนที่
หลังจากนั้น จู่ๆร่างกายของบาร์ตันก็เคลื่อนไหวเองโดยไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
และสติที่เกือบขาดผึงของเด็กชาย… ก็ได้ดับวูบลง