วันหนึ่งเขาได้เจอนาฬิกาเรือนหนึ่งจากร้านขายของเก่าหลังจากนั้นชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป...

ดั่งปรารถนา - ตอนที่ 4 เรื่องเล่า โดย คุณสีชา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ข้ามเวลา,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ดั่งปรารถนา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ดั่งปรารถนา โดย คุณสีชา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วันหนึ่งเขาได้เจอนาฬิกาเรือนหนึ่งจากร้านขายของเก่าหลังจากนั้นชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป...

ผู้แต่ง

คุณสีชา

เรื่องย่อ

สารบัญ

ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 1 ฉายซ้ำ,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 2 กลับบ้าน,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 3 วันแรก,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 4 เรื่องเล่า,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 5 ขอโทษ,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 6 เพื่อนบ้าน,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 7 เพื่อนใหม่,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 8 ความรู้สึก,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 9 สารภาพ,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 10 ห่างเหิน

เนื้อหา

ตอนที่ 4 เรื่องเล่า

ช่วงสายในช่วงสุดสัปดาห์เสียงเจื้อยแจ้วรอบบ้านเล็ดลอดเข้ามาภายในห้องของชายหนุ่ม อากาศที่กำลังนอนหลับอย่างสบายใจเริ่มแสดงสีหน้าและขมวดคิ้วเมื่อเสียงนั่นรบกวนการนอนของเขา จนท้ายที่สุดชายหนุ่มก็ไม่สามารถข่มตานอนภายใต้เสียงรบกวนได้เขาจึงลืมตาตื่นพร้อมบิดตัวและมือของเขาก็มาขยี้ตาเพื่อไล่อาการง่วงออกไป

ชายหนุ่มลืมตาในห้องนอนที่มีแสงลอดเข้าทางผ้าม่านเพียงเล็กน้อย เขานอนนิ่ง ๆ อยู่พักใหญ่กว่าจะลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงและนั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบเวลาผ่านไปประมาณสิบนาทีชายหนุ่มก็ลุกออกจากเตียงพร้อมยืดแขนทั้งสองข้างขึ้นสูงบิดขี้เกียจอีกครั้ง

‘อื้อ!’

อากาศเดินไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเพียงชั่วครู่เดียวเขาก็ออกมาพร้อมผ้าขนหนูที่พันเอวพร้อมหยดน้ำที่เกาะตามร่างกาย ชายหนุ่มเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบเสื้อผ้าออกมาสวมใส่และลงไปชั้นล่างด้วยผมที่ยังคงเปียกหมาด ๆ เพราะคิดว่าเดี๋ยวมันก็แห้ง

“อากาศลูกทำไมไม่เช็ดผมให้แห้งก่อนล่ะ?” คุณแม่ของเขาที่นั่งอยู่ที่โซฟาตั้งใหญ่ที่อยู่ใจกลางบ้านทักขึ้นเมื่อเห็นลูกชายลงมาพร้อมหัวหมาด ๆ

แม่ของอากาศนั่งซ่อมเสื้อผ้าที่ชำรุดเพียงเล็กน้อยแต่ตาของเธอก็มองทีวีเป็นพัก ๆ รายการโทรทัศน์ช่วงสาย ๆ คงไม่มีอะไรนอกจากรายการซุบซิบเหล่าซูเป้อร์สตาร์

“เดี๋ยวก็แห้งครับแม่” อากาศตอบกลับแม่ของเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“หิวไหม? ข้าวอยู่ในครัวนะ ตักกินได้เลย” คนเป็นแม่ถามขึ้น

“ครับ แม่กินอะไรหรือยังครับ?” ชายหนุ่มถามกลับ

“เรียบร้อยจ้ะ”

ชายหนุ่มเปิดหม้อก็เห็นว่าวันนี้คุณแม่ทำกับข้าวอะไรบ้างหม้อแรกเป็นซุปเนื้อของโปรดพ่อเปิดหม้อต่อไปก็อดยิ้มไม่ได้เพราะนั่นเป็นของโปรดของเขาอย่าง ‘ผัดเผ็ดปลา’ อย่างไรล่ะ ว่าแล้วชายหนุ่มก็รีบหยิบจานมาตักข้าวและผัดเผ็ดปลาดุกอย่างไม่รีรอ วันนี้เขาทานข้าวเยอะเป็นพิเศษอาจจะเป็นเพราะวันนี้มีของโปรดของเขาหรือไม่ก็เพราะได้ทานอาหารฝีมือคุณแม่ที่ตั้งแต่ไปเรียนมหาลัยมาก็มีครั้งนี้นี่แหละที่เขาได้ทานอาหารฝีมือคุณแม่หลายวันติดต่อกัน ถ้าให้เดาคงจะเป็นอย่างหลัง

เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อยอากาศก็นำจานที่ตัวเองทานข้าวไปล้างทันทีเขาติดนิสัยตั้งแต่สมัยเด็กแล้วล่ะว่าทานเสร็จและเก็บล้างทันทีซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ดีเขาเลยทำมันอย่างต่อเนื่อง

อากาศเดินออกจากห้องครัวและเดินขึ้นไปบนห้องของตัวเองเพื่อหยิบไอแพดและปากกาไว้วาดรูปและเดินลงชั้นล่างเช่นเดิม

เขาเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามแม่ของเขาและหยิบไอแพดออกมา อย่างที่รู้กันว่าอากาศชอบวาดรูปมาก ๆ เปรียบเสมือนว่ามันเป็นเพื่อนของเขาในยามว่างก็ได้ไม่ว่าจะวาดบนกระดาษ ผ้าใบ หรือวาดบนเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เขาก็ชอบมันหมด

ทั้งคุณแม่และอากาศตกอยู่ในความคิดของตัวเอง คุณแม่ก็ซ่อมผ้าและดูรายการทีวีนั่นต่อไปส่วนอากาศก็นั่งวาดรูปในไอแพดของตัวเอง สักพักคุณแม่ก็พูดขึ้นมาว่า ‘คิดถึงเนอะ’ อากาศที่ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับทำหน้าสงสัยในสิ่งที่แม่ของเขาพูด

“เมื่อกี้คุณแม่พูดว่าอะไรนะครับ?” ชายหนุ่มถามย้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้หูฝาด

“แม่บอกว่าคิดถึง”

“คิดถึง? คิดถึงใครเหรอครับ?”

“คิดถึงน้องฟองฝน”

“น้องฟองฝน...อีกแล้วเหรอครับ แม่ช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับน้องได้ไหมครับ ทำไมผมไม่คุ้นชื่อนี้เลย”

“น้องฟองฝนย้ายมาอยู่ข้างบ้านเราเมื่อหลายปีก่อน นิสัยน้องเป็นเด็กซน ๆ ตามวัยเขานั่นล่ะแต่น้องเป็นเด็กน่ารัก ชอบมาเล่นกับเราบ่อยจะตาย แรก ๆ เราทั้งหนีน้องเมินน้องแต่สุดท้ายแม่ก็เห็นเราทั้งสองนั่งเล่นด้วยกัน” คุณแม่พูดพลางอมยิ้มไปด้วยเมื่อนึกถึงวันเก่า ๆ ที่มีเด็กที่ชื่อฟองฝนย้ายมาข้างบ้าน

“…” ชายหนุ่มเงียบและฟังคุณแม่อย่างตั้งใจ

“เนี่ย ถ้าวันไหนเป็นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์แบบนี้นะ สาย ๆ จะได้ยินเสียงกดกริ่งหน้าบ้านแล้ว จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากฟองฝนนั่นล่ะที่รอมาเล่นกับเรา บ่อยครั้งที่น้องขึ้นไปเคาะประตูปลุกเรา จำไม่ได้เหรอ?”

“จำไม่ได้เลยครับ” ชายหนุ่มส่ายหน้า

“แล้วช่วงเย็น ๆ อากาศร่ม ๆ ไม่มีแดดเราสองคนก็ชอบไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อน น้องก็นั่งมองเราวาดรูปส่วนเราก็วาดรูปไม่คุยกับน้องเลย แม่เองก็คอยยกน้ำ ยกผลไม้ให้เราสองคน น้องชอบพูดว่าจะมาเป็นลูกสะใภ้แม่ให้ได้ ตอนแม่ได้ยินครั้งแรกก็ตกใจว่าเด็กคนนี้ตรงไปตรงมาจริง ๆ” เมื่อนึกถึงมันแล้วคุณแม่ก็ยกมือมาป้องปากพร้อมหัวเราะเบา ๆ

“น่ารำคาญจะตาย” ชายหนุ่มพูดขึ้น

“อากาศพูดว่าอะไรนะคะ” คุณแม่ถามซ้ำ

“ก็น่ารำคาญจะตายมาเล่นด้วยทุกวัน บอกว่าไม่เล่นก็คะยั้นคะยอ จะเล่นด้วยอยู่อย่างนั้น”

“นี่ลูกจำน้องได้แล้วเหรอ?” คุณแม่ตกใจเผลอพูดเสียงดังเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ลูกชายของเธอจำเรื่องราวเหล่านั้นได้บ้างแล้ว

“ก็...พอแม่เล่ามาก็เหมือนจะคุ้น ๆ น่ะครับ” ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกักเมื่อแม่ของเขาถามอย่างนั้น

“จริงเหรอคะ?”

“ตอนที่แม่เล่ามันก็มีแวบ ๆ มาในหัวครับแต่ผมก็ยังนึกหน้าน้องไม่ออกอยู่ดี”

“แม่มีอะไรจะให้ดู เดี๋ยวแม่ไปหยิบมานะ” คุณแม่ลุกขึ้นออกจากโซฟาและเดินไปยังตู้และเปิดบานประตูออกมาและหยิบสิ่งหนึ่งออกมา นั่นก็คือ “อัลบั้มรูปภาพ”

คุณแม่เดินมาพร้อมกับสิ่งที่อยู่ในมือ เธอเดินมานั่งข้าง ๆ ลูกชายของเธอและเปิดมันออก ภายในนั้นมีรูปภาพที่อัดแน่นไปด้วยความทรงจำมากมายคุณแม่ค่อย ๆ เปิดไปทีละหน้าอย่างใจเย็น

“รูปนี้เป็นรูปที่เราทั้งสองครอบครัวไปเที่ยวช่วงหน้าร้อนด้วยกัน”

“ไหนน้องล่ะครับ?”

“นี่ไง!” คุณแม่เปิดไปเรื่อย ๆ และชี้นิ้วไปที่รูปรูปหนึ่งเป็นรูปเด็กสาวที่กำลังยิ้มแฉ่งพร้อมบาร์บีคิวที่อยู่ในมือ

“…” เมื่อเห็นรูปนั้นแล้วอากาศก็เบิกตากว้างเมื่อนึกขึ้นได้ว่านั่นเป็นคนที่เขาฝันถึงตลอดและเป็นคนที่เขาพยายามจะวาดมันออกมาจากความฝัน

“อากาศเป็นอะไรหรือเปล่าลูก”

“เธอคือคนที่ผมฝันมาตลอดนี่ครับแม่” เขาชี้ไปที่รูปนั่น

“จริงหรือเปล่าลูก”

“จริงครับ ผมจำได้!”