วันหนึ่งเขาได้เจอนาฬิกาเรือนหนึ่งจากร้านขายของเก่าหลังจากนั้นชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป...

ดั่งปรารถนา - ตอนที่ 5 ขอโทษ โดย คุณสีชา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ข้ามเวลา,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ดั่งปรารถนา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ดั่งปรารถนา โดย คุณสีชา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วันหนึ่งเขาได้เจอนาฬิกาเรือนหนึ่งจากร้านขายของเก่าหลังจากนั้นชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป...

ผู้แต่ง

คุณสีชา

เรื่องย่อ

สารบัญ

ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 1 ฉายซ้ำ,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 2 กลับบ้าน,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 3 วันแรก,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 4 เรื่องเล่า,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 5 ขอโทษ,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 6 เพื่อนบ้าน,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 7 เพื่อนใหม่,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 8 ความรู้สึก,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 9 สารภาพ,ดั่งปรารถนา-ตอนที่ 10 ห่างเหิน

เนื้อหา

ตอนที่ 5 ขอโทษ

ชีวิตอันแสนสงบสุขของชายหนุ่มได้ผ่านไป วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ดูเหมือนกับว่าจะยุ่งนิดหน่อยเพราะวันนี้เป็นวันแรกของสัปดาห์ ช่วงวันหยุดได้ผ่านพ้นไปวันจันทร์กลับมาอีกแล้ว

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่สองของการฝึกสอนของชายหนุ่ม อากาศเดินลงไปชั้นล่างของบ้านหลังจากที่เขาจัดการตัวเองเรียบร้อย

“อ้าว ลงมาแล้วเหรอลูก มานั่งกินข้าวก่อนค่ะแม่เตรียมไว้ใกล้เสร็จแล้ว” คุณแม่ทักขึ้นตอนที่กำลังจัดเตรียมอาหารเช้า

“สวัสดีครับ”

“จ๊ะ มานั่งค่ะ”

“เดี๋ยวผมช่วยครับ” อากาศอาสาช่วยแม่ของเขาจัดเตรียมโต๊ะเมื่อเห็นว่าแม่ของเขานั้นดูยุ่งและวุ่นวายกับการจัดเตรียม

“ขอบใจจ้ะ” คุณแม่หันมายิ้มให้เขาหลังจากที่เขาพูดจบ

ทั้งคู่เตรียมโต๊ะเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งทานข้าวเช้ากันพร้อมหน้าพร้อมตากัน โดยที่อาหารเช้าวันนี้เป็นอะไรง่าย ๆ อย่างข้าวต้มทะเลและกาแฟหนึ่งแก้วให้คุณพ่อ

เมื่อถึงเวลาที่ต้องออกไปฝึกสอนชายหนุ่มก็เอ่ยลาคุณแม่ให้เสร็จเรียบร้อยและขับรถไปที่โรงเรียน

กิจกรรมหน้าเสาธงก็เหมือนในทุก ๆ วันไม่มีอะไรเป็นพิเศษ หลังจากที่จบกิจกรรมสุดท้ายแล้วเด็กนักเรียนก็ถูกปล่อยให้เข้าไปเรียนตามชั้นเรียนของตัวเอง ด้วยความที่วันจันทร์ชายหนุ่มมีคาบสอนอีกทีก็คาบที่สี่นั่นทำให้เขามีเวลาว่างที่จะเคลียร์งานอย่างเช่นตรวจงานที่เหลือที่ตรวจค้างจากอาทิตย์ที่แล้วให้เสร็จเรียบร้อย เมื่อถึงขั้นตอนการกรอกคะแนนให้กับนักเรียน ชายหนุ่มทยอยกรอกคะแนนเด็กนักเรียนอย่างตั้งใจและรอบคอบที่สุด แต่เมื่อถึงชื่อของเด็กนักเรียนคนหนึ่งแล้ว อากาศกลับคิดไม่ตกกับชื่อนี้เขารู้สึกแปลก ๆ บางอย่างเมื่อเห็นชื่อนั้น สุดท้ายชายหนุ่มก็ปล่อยให้มันผ่านไป

‘อาจจะเป็นชื่อใครสักคนก็ได้’ เขาพูดปลอบใจตัวเองเบา ๆ

บ่ายโมงตรง

หลังจากที่ทานอาหารเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้ว อากาศเข้าไปรอเด็กๆ ในห้องศิลปะวันนี้อาจารย์จิรายุไปประชุมจึงวานให้เขาเข้ามาสอนแทนเพราะทุกครั้งจะมีอาจารย์จิรายุเข้ามาสังเกตการณ์สอนของเขาทุกคาบและจะนั่งอยู่หลังห้องคอยสังเกตวิธีที่ชายหนุ่มใช้สอนเด็กนักเรียน แต่วันนี้เขาต้องเผชิญกับเด็กมอห้าที่ขึ้นชื่อว่าดื้อที่สุดเพียงคนเดียว

ชายหนุ่มรออย่างใจเย็นต่อไป เวลาผ่านไปไม่นานหลังจากที่ได้ยินเสียงระฆังดังที่บ่งบอกว่าหมดช่วงเวลาพักเที่ยงแล้วก็มีเด็กนักเรียนทยอยเข้าคาบเรียน

สิ่งแรกที่นักเรียนทำหลังจากที่เพื่อน ๆ ในห้องมาครบทุกคนนั้นก็คือพูดทำความเคารพ

“ทุกคนทำความเคารพ” หัวหน้าห้องพูดขึ้น

“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ” ทุกคนพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน

“เอาล่ะ เดี๋ยวครูจะเช็กชื่อก่อนนะครับ ตั้งใจฟังพร้อมเอ่ยขานดัง ๆ นะครับ”

“ค่า”

ชื่อแล้วชื่อเล่าถูกเรียกเรื่อย ๆ นักเรียนในห้องต่างก็ขานรับเมื่อชื่อของตัวเองถูกเรียก

“อัสสนีรัตน์...” ชื่อหนึ่งถูกเรียก

“มาค่ะ” และวันนี้มีคนขานรับ

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนั้น หลังจากที่เขาหาต้นเสียงนั้นได้ก็ทำให้เขานั้นเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเสียงนั้นมาจากไหน

ชายหนุ่มยืนนิ่งค้างไปหลายนาที เด็กนักเรียนในห้องต่างก็สงสัยว่าทำไมคุณครูถึงเป็นเช่นนั้น

“ฟองฝน!!” ชายหนุ่มเรียก

“…” อีกฝ่ายยังคงงง

นักเรียนในห้องต่างส่งเสียงฮือฮาเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“อาจารย์รู้จักเหรอ?” นักเรียนคนหนึ่งในห้องพูดขึ้น

“ไม่รู้สิ”

“ห้องเรามีคนชื่อนั้นด้วยเหรอ?”

“ไม่มีนะ”

“นั่นมันน้ำฝน แต่อาจารย์เรียกฟองฝนนะ”

“ใช่ ๆ ฉันก็ได้ยินว่าฟองฝน”

เสียงซุบซิบต่าง ๆ ที่มาจากนักเรียนดังขึ้นเรื่อย ๆ

ชายหนุ่มไม่สนใจว่าพฤติกรรมที่ตัวเองทำนั้นเหมาะสมหรือไม่ เขาวางสิ่งที่อยู่ในมือลงและเดินตรงไปที่โต๊ะนั้น

[Assanirat’ s part]

วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันได้เจอกับครูฝึกสอนคนนี้เห็นว่าเขามาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่มาโรงเรียนในแรกที่โรงเรียนเปิดเพราะว่าไม่สบายและนั่นทำให้ฉันเจอคุณครูคนนี้ครั้งแรก ฉันค่อนข้างตกใจที่อยู่ ๆ ก็ถูกว่า อะไรนะ ฟองฝนเหรอ ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกันเพราะรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและตอนนี้คุณครูคนนั้นก็เดินมุ่งมาหาฉันโดยเฉพาะพร้อมกับคุกเข่าลงต่อหน้าฉัน ฉันมองไปรอบ ๆ ห้องก็เห็นเพื่อน ๆ ในห้องต่างก็มองมาที่ฉัน ฉันเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้

[Assanirat’ s part end]

“ขอโทษ”

“…” หญิงสาวยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณครูคนนี้ทำ

หลังจากที่ชายหนุ่มเดินมาที่โต๊ะของเธอเขาก็ได้คุกเข่าลงเพื่ออยู่เสมอกับเธอและพูดว่าขอโทษพร้อมน้ำในตาที่เอ่อล้นขอบตา

“ฟองฝน...”

“ครูเรียกใครคะ”

“เธอไง ชื่อฟองฝน รู้ไหมว่าพี่รอเรากลับมาตลอด”

“มึงช่วยด้วย ครูเป็นอะไร” เด็กสาวคนนั้นสะกิดเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ให้ช่วยเธอ

“จะให้ช่วยยังไง ครูเป็นอะไรก็ไม่รู้วันนี้ครูจิก็ไม่อยู่ด้วย”

“กูกลัวจริง ๆ นะ”

“เกิดอะไรขึ้นคะนักเรียน” ครูศิริพรที่สอนอยู่ห้องคหกรรมเข้ามาดูเมื่อมีนักเรียนในห้องไปเรียก

“ครูคะ” เด็กสาวเมื่อเห็นว่าครูศิริพรเข้ามาก็รีบลุกไปหาทันที

“เกิดอะไรขึ้น”

“ไม่รู้ค่ะ อยู่ ๆ ครูอากาศก็เรียกใครก็ไม่รู้แล้วดินมาหาหนูพร้อมบอกว่าคิดถึง น่ากลัว” เด็กสาวเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง

“จริงหรือเปล่าคะครูอากาศ” ครูศิริพรถามขึ้น

“ผมขอโทษครับ” ชายหนุ่มยืนขึ้นพร้อมเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาพร้อมกับพูดว่าขอโทษและมองไปยังนักเรียนคนนั้น

สายตาที่เด็กสาวที่มองกลับมานั้นเป็นแววตาที่สั่นไหวและตื่นกลัว เธอมองเขาเพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนที่ตาหันไปมองทางอื่น

[Akat’ s part]

หลังจากที่ผมได้มองหน้าเธอเหตุการณ์บางอย่าง ว่ายวนเข้ามาในหัวของผม รวมถึงความรู้สึกคิดถึง รู้สึกโหยหานั่นด้วย ราวกับว่าเราสองคนได้เจอกันสักทีหลังจากที่หายไปจากกันทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยเจอผมมาก่อนและผมเองก็เพิ่งเห็นเธอเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ หน้าของเธอละม้ายคล้ายคลึงกับหญิงสาวที่ผมฝันถึงตลอดหลายปีและจากเรื่องเล่าของแม่ผมมั่นใจว่านั่นคือเธอ ผมอดไม่ได้ที่จะเดินไปหาเธอ ตอนนั้นผมไม่สามารถบังคับตัวเองได้จริง ๆ กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงก็ตอนที่คุณครูศิริพรเข้ามานั่นแหละ ว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่นั้นมันไม่เหมาะสม ผมได้แต่ยืนขึ้นและเอ่ยขอโทษเด็กนักเรียนคนนั้นไป 

[Akat’ s part end]