กุหลาบงามย่อมมีหนามคม สตรีงามย่อมมีพิษสงเช่นกัน
จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,อสรพิษน้อยผิงผิง,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อสรพิษเรือนบุปผากุหลาบงามย่อมมีหนามคม สตรีงามย่อมมีพิษสงเช่นกัน
การเกิดใหม่โดยที่มีความทรงจำในชาติก่อนๆ ติดตัวมาจะว่าเป็นเรื่องดีมันก็ดีจะว่าไม่ดีมันก็ไม่ดีแต่เหรินเซียนน้อยอย่างถานผิงอันจะเลือกอะไรได้เมื่อเหตุผลที่ตัวนางต้องถูกส่งให้มาเวียนว่ายตายเกิดบนโลกมนุษย์นั้นเป็นการบำเพ็ญเพียรให้ผ่านด่านเคราะห์ตามบัญชาของสวรรค์
เมื่อเหรินเซียนน้อยรู้อยู่แก่ใจดีเช่นนี้แล้วนางจึงตั้งใจบำเพ็ญเพียรและสั่งสมความดีด้วยการช่วยเหลือผู้คนไปตามความสามารถที่ตนเองมีแต่ทำไมชาตินี้นอกจากจะเกิดแต่กับผิงผิงแล้วยังต้องมาเป็นตัวอันตรายในสายตาผู้คนแถมมีมารผจญโผล่มาในรูปแบบของว่าที่สามีอีกด้วย
หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ
กติกาการลงนิยาย
ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้
1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์
2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์
3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ
“เมื่อครู่ข้าเห็นรถม้าสกุลถานจอดอยู่หน้าร้านเครื่องประทินผิวมวลบุปผาแสดงว่าในวันนี้เถ้าแก่เนี้ยคนงามต้องเข้ามาที่ร้านเป็นแน่” เป็นเสียงของบุรุษผู้หนึ่งที่เพิ่งเดินทางมาถึงเหลาอาหารที่นัดหมายเหล่าสหายไว้ซึ่งเมื่อเข้ามาถึงยังห้องรับรองส่วนตัวกลับไม่ได้เอ่ยปากทักทายผู้คนแม้แต่คำเดียวแต่กลับกล่าวถึงบุคคลที่สามอย่างออกรส
“ถึงเถ้าแก่เนี้ยจะมาที่ร้านก็ใช่ว่านางจะยอมออกมาจากห้องทำงานง่ายๆ เสียเมื่อไหร่กี่ครั้งแล้วที่พวกเราเข้าไปที่ร้านหวังเพียงได้พบหน้าคนงามแต่กลับไม่ได้เห็นแม้แต่ชายชุดของนาง” คนพูดถอดหายใจออกมาทันทีที่กล่าวถึงแม่นางถานผิงอันดรุณีน้อยซึ่งเป็นบุคคลที่สามในหัวข้อของการสนทนาในตอนนี้
ถานผิงอันเป็นสตรีที่มีอายุย่างสิบเก้าปีนางเดินทางมาที่เมืองหลวงแห่งนี้ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนเพื่อเปิดกิจการร้านเครื่องประทินผิวที่นอกจากขายแป้งผัดหน้าขายชาดทาปากสตรีนิยมชมชอบกันแล้วนางก็ยังขายทั้งเครื่องหอมที่ช่วยเสื้อผ้าและกลิ่นกายมีกลิ่นที่น่าพิสมัยเพิ่มมากขึ้นและเมื่อไม่นานมานี้นางก็เปิดขายชาสมุนไพรและชาดอกไม้ที่บนชั้นสองของร้านมวลบุปผาอีกด้วยช่างเป็นสตรีที่มีพร้อมทั้งเรื่องความงามและความสามารถ
ส่วนเรื่องนางเป็นใครหรือมาจากไหนนั้นมิมีผู้ใดทราบแน่ชัดเพราะสกุลถานเป็นเพียงสกุลของชาวบ้านธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นแต่เมื่อพิจารณาให้ถ้วนถี่แล้วคำว่าธรรมดาก็ไม่น่าใช้ได้สำหรับถานผิงอันซึ่งนอกจากรูปร่างหน้าตาของนางจะงดงามหมดจดแล้วนางยังอาศัยอยู่ในเรือนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางแต่ก็ค่อนข้างจะลึกลับด้วยบ่าวไพร่ในเรือนไม่ใช่คนที่สุงสิงกับใครได้ง่ายๆ หากใครคิดจะสืบข่าวคนสกุลถานจากบ่าวไพร่ก็มีแต่จะต้องพบกับความผิดหวัง
“เอาเถอะถึงก่อนหน้านี้จะไม่เจอกันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวันนี้จะไม่มีหวังรีบๆ กินแล้วเราจะได้รีบๆ ไปที่ร้านมวลบุปผากันอย่างน้อยๆ หากไม่ได้พบกับนางก็ยังได้ซื้อของสวยๆ งามๆ กลับไปฝากมารดาและพี่สาวน้องสาวที่เรือน”
ฝั่งคนที่ตกเป็นตัวละครในบทสนทนาทั่วทุกมุมของเหลาอาหารกลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใครเขา ถานผิงอันที่มาถึงร้านมวลบุปผาก็เริ่มต้นทำงานของนางในทันทีด้วยเวลานั้นมีไม่มากต้องเตรียมการอะไรอีกหลายต่อหลายอย่างเพราะนางกำลังจะนำสินค้าตัวใหม่ล่าสุดมาวางจำหน่ายแม้ว่ามันจะไม่ใช่ของใหม่แบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนแม้ในท้องตลาดสามารถหาสินค้าที่อาจเรียกได้ว่าเป็นชนิดเดียวกันได้แต่ถ้าหากได้สัมผัสอย่างจริงจังแล้วจะพบว่าสินค้าของนางนั้นมีความแตกต่างอยู่มาก
สำหรับร้านมวลบุปผาแรกเริ่มเดิมทีนั้นถานผิงอันตั้งใจเปิดเป็นร้านเครื่องประทินผิวจำหน่ายสินค้าเพื่อความงามของบุรุษและสตรีตามความชอบของตนเองแต่ไปๆ มาๆ ก็เป็นเถ้าแก่เนี้ยของร้านนี้แหละที่สรรหาทดลองทำอะไรต่อมิอะไรมากมายสาเหตุมาจากการที่สินค้าบางชนิดที่ซื้อหาได้ในท้องตลาดนั้นไม่ถูกใจตนนางจึงศึกษาตลอดจนคิดค้นวิธีการและทำขึ้นมาเองให้มันจบๆ ไปหากมีเยอะก็แค่เอาออกมาขายถือว่าได้กำไรถึงสองต่อ หนึ่งคือตนเองพอใจ สองคือได้เงินเพิ่ม
สินค้าแรกเริ่มของถานผิงอันนั้นเป็นเครื่องประทินผิวและเครื่องหอมสำหรับสตรีทุกช่วงวัยที่คิดค้นขึ้นมาจากประสบการณ์ตรงที่ฝังลึกอยู่ภายในดวงวิญญาณของตนเองที่สั่งสมมานานแสนนานแม้กายเนื้อในภพชาตินี้นางจะมีอายุเพียงแค่สิบห้าขวบปีเท่านั้น
ถานผิงอันจำได้ไม่แน่ชัดแล้วว่าตนเองเกิดใหม่มากี่ภพกี่ชาติเพราะนางเกิดมาแล้วหลายครั้งหลายหนเหลือเกินแต่ที่นางรู้ได้แน่ๆ คือความทรงจำในแต่ละชาติภพมันไม่เคยจากหายไปจากหัวสมองเล็กๆ ของนางแต่มันก็มีบ้างที่จะรางเลือนไปแต่ถ้าเป็นชาติที่นางเกิดมาในช่วงแรกๆ และการที่นางต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอยู่บนโลกมนุษย์เพื่อเป็นการบำเพ็ญเพียรให้ผ่านด่านเคราะห์ตามบัญชาของสวรรค์จากที่ตนเองเป็นเพียงเหรินเซียน (มนุษย์ที่มีพลังยินหยางอย่างสมดุล มีชีวิตเป็นอมตะได้) น้อยในตอนนั้นจะได้มีตบะแก่กล้าขึ้นมาเสียที
“คุณหนูเจ้าคะร้านเครื่องเรือนนำสินค้าที่สั่งไว้มาส่งให้แล้ว” ถงจิ่นจูพี่เลี้ยงที่ตามติดอยู่ข้างกายของถานผิงอันตั้งแต่ตอนที่อยู่บ้านเกิดเดินเข้ามาบอกเรื่องสำคัญ
“พี่จูให้นายช่างขนสินค้าเข้าไปด้านหลังร้านเลยเจ้าค่ะสักครู่ข้าจะลงไปตรวจสอบด้วยตนเองและบอกท่านน้าฟางซือว่าข้าฝากหน้าร้านด้วยนะเจ้าคะ” สิ่งของสำคัญที่นางต้องการใช้ในวันเปิดตัวสินค้าใหม่น่าจะมาถึงแล้วและครั้งนี้นางก็มั่นใจว่ามันจะมีส่วนช่วยให้ลูกค้าตื่นตาตื่นใจเพราะนอกจากสินค้าที่ดีมีคุณภาพแล้วเรื่องของการนำเสนอก็มีผลต่อการขายไม่แพ้กัน
เรื่องนี้ถานผิงอันเรียนรู้มาจากชีวิตในชาติก่อนๆ นางได้มีโอกาสไปเกิดใหม่ทั้งในโลกอดีต ปัจจุบันตลอดจนไปเกิดในโลกอนาคตแม้จะถูกส่งไปในช่วงเวลาที่ซ้ำกันอยู่บ้างแต่ใช่ว่านางจะพบเจออะไรที่ซ้ำซากจำเจมันคล้ายว่าในจักรภพที่กว้างใหญ่นี้มันมีโลกคู่ขนานที่ทับซ้อนกันอยู่มากมายซึ่งนางก็ไม่ได้อยากรู้สาเหตุถึงขั้นที่ว่าจะต้องไปหาคำตอบเพราะมันไม่ใช่หน้าที่สิ่งที่นางต้องทำในทุกๆ ชาติคือการบำเพ็ญเพียร ประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งกายใจ การฝึกฝนตัวเองรวมไปการช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากเท่าที่นางสามารถจะทำได้โดยที่ไม่เกินแรงกำลังของตนเพียงเท่านั้นแต่จะทำสิ่งใดมากน้อยเมื่อเกิดมาแล้วนางจะสามารถรู้ได้ด้วยตนเองเมื่อเติบโตขึ้นในแต่ละชาติภพ
สิ่งของที่ทางร้านเครื่องเรือนนำมาส่งคือชั้นสำหรับแขวนสินค้าและตู้แขวนสินค้าเนื่องจากครั้งนี้สินค้าใหม่ที่จะออกวางขายเป็นเพียงสินค้าชิ้นเล็กๆ ขนาดเพียงฝ่ามือเดียวนางจึงต้องจัดวางให้เหมาะสมสินค้าขนาดเล็กที่มีราคาสูงก็ต้องจัดใส่ตู้ให้เรียบร้อยสินค้าที่มีราคาย่อมเยาลงมาหน่อยก็แขวนใส่ราวแขวนไป
“เถ้าแก่เนี้ยข้านำของที่สั่งมาส่งโปรดตรวจสอบด้วย” ผู้ที่มานั่งจิบน้ำชารอถานผิงอันอยู่คือเถ้าแก่หยูแห่งร้านเครื่องเรือนใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง
“ขออภัยที่เสียมารยาททำให้ท่านลุงต้องรอ อย่าเรียกข้าห่างเหินเช่นนั้นเลยเรียกผิงผิงเช่นท่านปู่ก็ได้เจ้าค่ะ” ถานผิงอันกล่าวกับผู้อาวุโสด้วยความนอบน้อมแต่เดิมนั้นนางค้าขายอยู่กับผู้อาวุโสหยูที่เป็นบิดาของเถ้าแก่หยูหรงเซียวที่เพิ่งรับช่วงต่อมาดูร้านแทนผู้เป็นบิดาที่ชรามากขึ้นและในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นางและท่านลุงหยูได้ร่วมงานกันอย่างเป็นทางการ
“ได้ ได้ ผิงผิงตรวจสอบสินค้าได้เลยนะหากมีปัญหาอะไรลุงจะได้นำกลับไปแก้ไขให้” ชั้นแขวนสินค้าที่คุณหนูถานผู้นี้สั่งทำมีแปลกตานักเพราะตั้งแต่ทำงานเครื่องเรือนและงานไม้มาหยูหรงเซียวก็เพิ่งเคยเห็นอีกทั้งนางยังออกแบบให้แต่ละชั้นนั้นหมุนได้รอบแกนกลางที่เป็นเสาที่เขามั่นใจว่าทั่วแคว้นนี้ยังไม่เคยมีคนทำมันมาก่อนอย่างแน่นอน
“ขอบคุณท่านลุงเจ้าค่ะชั้นวางงดงามนักถูกใจข้าที่สุดเลย” แม้ยังไม่ได้ลองหมุนชั้นที่ทำมาจากไม้เนื้อดีถานผิงอันก็บอกเลยว่านางพอใจในรูปลักษณ์ของมันเต็มสิบส่วนตั้งแต่แรกเห็นแต่อย่างไรแล้วยังต้องลองดูว่ากลไกการหมุนนั้นจะสามารถทำได้ไหลลื่นหรือไม่
นิ้วเรียวยาวและบอบบางบางของเถ้าแก่เนี้ยแห่งร้านมวลบุปผาค่อยๆ หมุนชั้นวางทีละชั้นอย่างช้าๆ เรื่อยไปจนครบทุกชั้นและทุกชิ้นโดยสินค้าที่นางสั่งมานั้นมีทั้งชั้นหมุนขนาดเล็กสองชั้นที่จะเอามาตั้งวางได้บนโต๊ะและชั้นหมุนขนาดใหญ่สามชั้นที่จะเอามาตั้งวางไว้บนพื้นที่เหลือก็เป็นแบบตู้ที่มีฝาปิดเป็นกระจกที่หมุนไม่ได้รวมๆ แล้วก็เป็นสินค้าร่วมยี่สิบชิ้น
“เรียบร้อยดีเจ้าค่ะท่านลุงอย่างไรแล้วข้าเชิญท่านลุง ฮูหยินรวมถึงท่านปู่มาร่วมงานวันเปิดตัวสินค้าใหม่ในอีกเจ็ดวันข้างหน้าด้วยนะเจ้าคะท่านจะได้มาเป็นว่าชั้นแขวนนี้มันใช้งานเช่นไรและหลังจากนั้นค่อยเจรจาเรื่องเช่าซื้อแบบไปผลิตสินค้าขาย”
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เถ้าแก่ร้านเครื่องเรือนเห็นแบบร่างของชั้นวางเขาก็ติดต่อขอเช่าซื้อกับถานผิงอันเพื่อไปผลิตขายในร้านค้าให้นางกินส่วนแบ่งแต่ถานผิงอันอยากรอให้ท่านลุงได้เห็นลักษณะการทำงานของมันแบบสมบูรณ์เสียก่อนจึงค่อยตัดสินใจเพราะนางยังไม่ได้บอกใครถึงวิธีการใช้งานจนกว่าจะถึงวันเปิดตัวสินค้า
แต่กระนั้นคนที่เป็นช่างทำงานเครื่องเรือนมาทั้งชีวิตเหตุใดจะดูไม่ออกแต่เพราะสินค้าชิ้นนี้เป็นผลงานของคุณหนูถานที่นางไปจดทะเบียนรับรองสินค้ามาแล้วจึงไม่สามารถล่วงละเมิดนางได้และเขาก็ไม่มีเจตนาที่ต่ำช้าจะเอาเปรียบดรุณีน้อยตรงหน้าจึงอดใจรอได้ไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาแต่กลับเป็นเรื่องดีเสียอีกคนอื่นก็จะได้เห็นพร้อมกันในวันที่มันถูกใช้งานทำให้มั่นใจได้ว่าหลังจากนี้ทางร้านเครื่องเรือนสกุลหยูจะได้รับคำสั่งซื้ออย่างล้นหลามแน่นอน
“ไม่มีปัญหาลุงจะพาท่านปู่และฮูหยินมาร่วมแสดงความยินดีด้วยแน่นอน ขอบใจเจ้ามากที่เป็นคู่ค้ากับทางร้านเครื่องเรือนสกุลหยูของเรามาโดยตลอด” แม้ว่าในหนึ่งปีถานผิงอันจะสั่งสินค้าเพียงสองถึงสามครั้งแต่ทุกครั้งนั้นสิ่งที่ร้านเครื่องเรือนสกุลหยูได้รับคือคำสั่งซื้อที่แทบจะประเมินค่าไม่ได้เพราะตั้งแต่การเลือกวัสดุคุณหนูผู้นี้มักจะเลือกใช้แต่ไม้เนื้อดีที่มีความแข็งแรงคงทนซึ่งแน่นอนว่ามูลค่าของมันย่อมมากตามไปด้วยและยิ่งเขาที่เคยไปส่งสินค้าให้บิดาถึงเรือนสกุลถานของนางที่ใครๆ เขาว่าลึกลับนักลึกลับหนาเมื่อได้เข้าไปนอกจากความลึกลับดังที่ชาวบ้านว่าจะไม่มีแล้วสิ่งเขาเห็นด้วยตามันมีแต่สิ่งของมีค่าที่สวยงามไปทั้งเรือนเลยจริงๆ
“นี่เป็นตั๋วแลกเงินค่าสินค้าอีกครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่นะเจ้าคะ”
หลังจากส่งผู้อาวุโสกลับไปแล้วถานผิงอันก็ถือโอกาสเดินสำรวจภายในร้านเพื่อจัดการร่างแบบการตกแต่งชั้นวางสินค้าใหม่ในหัวของตัวเองรวมถึงทักทายลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของอยู่ภายในร้านในขณะนี้ด้วย
“เถ้าแก่เนี้ยไม่ได้พบหน้ากันนานเลยนะเจ้าคะ” ลูกค้าประจำของถานผิงอันคือกลุ่มของดรุณีน้อยที่เพิ่งพ้นวัยปักปิ่นมาได้ไม่นานพวกนางไม่ต่างจากดอกไม้แรกแย้มที่พร้อมจะผลิบานที่มักจะสนใจเรื่องรูปร่างหน้าตาของตนเองจึงเข้ามาให้ที่ร้านมวลบุปผาช่วยชี้แนะ
“สวัสดีเจ้าค่ะคุณหนูหงกำลังเลือกชาดอยู่หรือเจ้าคะข้าขอแนะนำสีชมพูอมส้มจะช่วยขับผิวของท่านได้มากกว่าสีแดงหรือสีชมพูขออนุญาตให้ข้าช่วยได้หรือไม่” เมื่อคุณหนูหงคลี่ยิ้มอย่างดีใจถานผิงอันก็ไม่รีรอเลือกหยิบสินค้าทดลองในถาดที่เตรียมไว้ขึ้นมาพร้อมกับอุปกรณ์ชิ้นใหม่ที่ยังไม่ได้ผ่านการใช้งานมาช่วยแต่งแต้มใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักของนางในทันที
“ถูกใจหรือไม่เจ้าคะ” ใช้เวลาไปเพียงไม่ถึงหนึ่งเค่อเถ้าแก่เนี้ยคนงามก็เลื่อนคันฉ่องเงาวับไปให้คุณหนูหงได้ใช้พินิจพิจารณาใบหน้าของตัวเองที่บัดนี้ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินผิวบางเบาให้พอรู้ว่าแต่งแต่กลับงดงามขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าแค่แต้มเครื่องประทินผิวบางๆ ก็ทำให้ใบหน้าดูแตกต่างจากเดิมมากถูกใจข้ายิ่งนักเจ้าค่ะเถ้าแก่เนี้ยไม่ทราบว่าท่านใช้เครื่องประทินผิวชนิดใดไปบ้างข้าขอซื้อทั้งหมดเลย” คุณหนูหงชื่นชอบฝีมือและวิธีการแต่งหน้าของเถ้าแก่เนี้ยถานผิงอันนักนอกจากนางจะไม่หนักมือจนเกินไปแล้ววิธีการแต่งแต้มชาดทีละเล็กละน้อยเน้นแค่บางจุดบนใบหน้าก็สามารถทำให้เครื่องหน้าของนางโดดเด่นขึ้นมาได้ทันตา
“ไม่ต้องซื้อทั้งหมดก็ได้เจ้าค่ะแป้งผัดหน้าคุณหนูน่าจะมีอยู่แล้วที่ต้องซื้อเพิ่มก็มีเพียงชาดแบบฝุ่นตัวนี้ที่ใช้ได้ทั้งทาตาและทาแก้มส่วนริมฝีปากก็ต้องเป็นชาดแบบขี้ผึ้งที่ช่วยบำรุงริมฝีปากให้อวบอิ่มด้วยได้หากทาเป็นประจำในตอนเช้าและก่อนนอน
คุณหนูหงสามารถเลือกกลิ่นของชาดที่ชอบได้ด้วยนะเจ้าคะต่อให้เป็นขี้ผึ้งหรือผงชาดแบบฝุ่นสีเดียวกันแต่ก็มีหลายกลิ่นหากคุณหนูไม่แน่ใจว่าตนเองมีสิ่งใดแล้วบ้างสอบถามกับหลงจู๊ของเราได้ตลอดเวลาท่านน้าฟางซือมีรายการสิ่งของที่คุณหนูเคยซื้อไปทั้งหมดบันทึกเอาไว้ครบถ้วน”
ถานผิงอันขายสินค้าแบบไม่บังคับขายด้วยรู้อยู่เต็มอกว่าบรรดาคุณหนูผู้เป็นลูกค้าประจำย่อมมีสินค้าของร้านอยู่ที่เรือนกันอยู่แล้วแค่ให้นางซื้อเพิ่มไปในสิ่งที่ยังไม่มีก็เพียงพอจำเป็นต้องมายัดเยียดสินค้าซ้ำแบบเดิมให้พวกนาง