กุหลาบงามย่อมมีหนามคม สตรีงามย่อมมีพิษสงเช่นกัน

อสรพิษเรือนบุปผา - ตอนที่ 2 กระพรวนหอมอันเลื่องชื่อ โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,อสรพิษน้อยผิงผิง,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อสรพิษเรือนบุปผา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อสรพิษน้อยผิงผิง,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่

รายละเอียด

อสรพิษเรือนบุปผา โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

กุหลาบงามย่อมมีหนามคม สตรีงามย่อมมีพิษสงเช่นกัน

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

การเกิดใหม่โดยที่มีความทรงจำในชาติก่อนๆ ติดตัวมาจะว่าเป็นเรื่องดีมันก็ดีจะว่าไม่ดีมันก็ไม่ดีแต่เหรินเซียนน้อยอย่างถานผิงอันจะเลือกอะไรได้เมื่อเหตุผลที่ตัวนางต้องถูกส่งให้มาเวียนว่ายตายเกิดบนโลกมนุษย์นั้นเป็นการบำเพ็ญเพียรให้ผ่านด่านเคราะห์ตามบัญชาของสวรรค์

เมื่อเหรินเซียนน้อยรู้อยู่แก่ใจดีเช่นนี้แล้วนางจึงตั้งใจบำเพ็ญเพียรและสั่งสมความดีด้วยการช่วยเหลือผู้คนไปตามความสามารถที่ตนเองมีแต่ทำไมชาตินี้นอกจากจะเกิดแต่กับผิงผิงแล้วยังต้องมาเป็นตัวอันตรายในสายตาผู้คนแถมมีมารผจญโผล่มาในรูปแบบของว่าที่สามีอีกด้วย

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 1 เก้าแก่เนี้ยคนงามแห่งร้านมวลบุปผา,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 2 กระพรวนหอมอันเลื่องชื่อ,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 3 เติมคลังสมุนไพร,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 4 แต้มชาด,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 5 หอสุราสราญใจ,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 6 ว่าด้วยเรื่องของสุรามงคล,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 7 เจรจาการค้า,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 8 กินง่ายอยู่ง่าย,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 9 ไม่ชอบหน้า,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 10 หาเรื่องใส่ตัว,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 11 การมาถึงของท่านยาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 20 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 12 พิษกลืนวิญญาณ ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 22 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 13 พักฟื้นร่างกาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 16 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 23 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 14 พันแข้งพันขาเหมือนหมาตัวใหญ่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 17 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 24 เมษายน 68

เนื้อหา

ตอนที่ 2 กระพรวนหอมอันเลื่องชื่อ

ข่าวการเปิดขายสินค้าใหม่ของร้านมวลบุปผาถูกติดประกาศไปทั่วพื้นที่เมืองหลวงก่อนวันจริงล่วงหน้าเพียงสามวันอีกทั้งถานผิงอันยังจ้างขอทานน้อยให้ช่วยแจกใบปลิวตามตรอกโรงพนันและตรอกคณิกาเพิ่มเติมเพราะทุกพื้นที่ย่อมมีลูกค้าของร้านอยู่และเพราะตัวนางเองไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เหล่านี้ได้จึงต้องใช้ตัวช่วย

“เถ้าแก่เนี้ยข้าไปแจกใบปลิวที่ตรอกคณิกาหมดแล้ว พี่สาวไป่เย่วฝากมาบอกว่าอีกสามวันพบกันแน่นอนขอรับ” ขอทานน้อยในชุดเก่าปอนแต่มีใบหน้าแจ่มใสนักเพราะถานผิงอันกำชับให้ทุกคนไปอาบน้ำและสวมเสื้อผ้าที่ซักสะอาดแล้วก่อนมารับใบปลิวจากนางซึ่งขอทานน้อยเหล่านี้ก็ล้วนเชื่อฟังเป็นอย่างดี

และพี่สาวไป่เย่วที่ขอทานน้อยกล่าวถึงนางก็คืออี้จี (คณิกาชั้นสูงขายศิลปะเป็นหลัก) อันดับหนึ่งแห่งตรอกคณิกาที่เขาเล่าลือกันว่าค่าตัวของนางนั้นสูงลิบลิ่วไม่ว่าจะเป็นคณิกาของหอคณิกาใดในตรอกนั้นก็ไหนก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้เลย

อันที่จริงมีขอทานน้อยบางส่วนที่ถานผิงอันเคยช่วยเหลือรับมาทำงานที่เรือนบ้างหรือบางคนที่ดูแล้วพอมีความสามารถไม่ก็ส่งไปให้ท่านยายช่วยดูแลแต่ก็ไม่ได้สามารถช่วยพวกเขาได้ทั้งหมดด้วยขอทานในเมืองหลวงมีมากมายอีกทั้งมีคนใหม่ๆ ผันตัวมาเป็นขอทานแทบทุกวัน

ซึ่งคนที่มาขอทานนั้นมีหลายสาเหตุส่วนหนึ่งเพราะยากจนและไม่มีความรู้ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกมากนักกับอีกส่วนหนึ่งถูกครอบครัวบังคับให้ออกมาหาเงินซึ่งส่วนมากจะเป็นเด็กตัวเล็กตัวน้อยและอีกส่วนคือพวกคนขี้เกียจทำมาหากินคิดว่าการแบมือขอเงินคนอื่นนั้นง่ายกว่าซึ่งคนกลุ่มสุดท้ายนั้นนางพยายามที่จะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด

“ขอบใจมากนะเสี่ยวหลิวนี่ค่าจ้างของเจ้าเก็บเอาไว้ดีๆ อย่าให้ใครมาขูดรีดเอาได้” เป็นขอทานใครว่าง่ายยิ่งเฉพาะกับพวกเด็กๆ ขอทานน้อยแบบนี้ที่มักจะมีขอทานขาใหญ่มาขูดรีดกันอยู่บ่อยๆ แล้วเด็กมันจะไปสู้อะไรผู้ใหญ่ได้นอกจากร้องไห้แล้วก็ปล่อยให้เขาแย่งชิงไปเสียทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเงินที่มีอยู่น้อยนิดหรืออาหารที่ใกล้บูดใกล้เสีย

“ข้าทราบแล้วขอรับเถ้าแก่เนี้ยว่าแต่ท่านจะฝากข้อความไปหาพี่ไป่เย่วหรือไม่วันนี้ข้าจะกลับเรือนแล้วเพราะพี่สาวข้าอาการไม่ค่อยดี” เสี่ยวหลิวอาศัยอยู่กับพี่สาวในเรือนหลังเล็กๆ ภายในตรอกคณิกาโดยพี่สาวของเด็กชายนั้นเป็นสาวรับใช้ทั่วไปของหอคณิกาอันดับหนึ่งในย่านนั้น ทั้งคู่เป็นบุตรเกิดจากอดีตคณิกาคนหนึ่งซึ่งในตอนนี้นางเสียชีวิตไปแล้วแต่มามาของที่นั่นก็ยังคงให้งานพวกเขาทำเพราะเมตตาสงสารและก่อนหน้านี้ถานผิงอันก็ยื่นข้อเสนอให้มาทำงานอยู่ด้วยกันแต่เด็กทั้งสองคนก็ยังเกรงใจอยู่จึงยังไม่อยากรบกวนนางไปมากกว่านี้เพียงแต่มาอาศัยทำงานหาเงินเป็นครั้งคราวไป

“นางป่วยอีกแล้วหรือถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็พานางมาหาข้านะจะไปที่เรือนหรือมาที่นี่ก็ได้หาอะไรดีๆ ให้นางกินหน่อยช่วงนี้พักผ่อนให้มากอย่าเพิ่งไปทำงานหนักเลย” ได้ยินแล้วก็ได้แต่หดหู่ใจเด็กหญิงอายุเพียงสิบสี่หนาวต้องทำงานหนักไม่ต่างจากผู้ใหญ่อีกทั้งเมื่อตอนมารดานางตั้งครรภ์ก็พยายามกินยาขับเลือดแต่เด็กหญิงหัวแข็งจะไม่ยอมแท้งออกมาเมื่อแรกคลอดจึงมีร่างกายไม่แข็งแรงนักพอโตรู้ความทำงานได้บ่อยครั้งก็ถูกสาวใช้ด้วยไม่ก็หญิงคณิกากันกลั่นแกล้งรังแกเหตุเพราะหยิ่นมามาหรือแม่เล้าของหอคณิกาเอ็นดูนางมากกว่าคนอื่น

“เถ้าแก่เนี้ยแค่เงินค่าจ้างก็พอแล้วขอรับไม่ต้องให้เงินข้าเพิ่มก็ได้” เมื่อเห็นเถ้าแก่เนี้ยคนงามหยิบเงินให้อีกเด็กน้อยเสี่ยวหลิวก็ส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวันแต่ท้ายที่สุดแล้วก็จำเป็นต้องรับเงินไปเพราะนางบังคับให้และอ้างเหตุผลว่าเป็นค่าอาหารและค่ายาของพี่สาวเด็กชายจึงต้องยอม

“พี่จูให้คนตามไปส่งเสี่ยวหลิวและแวะคุยกับหยิ่นมามาให้ข้าหน่อยนะว่ารบกวนให้นางหาคนจัดเก็บข้าวของของเด็กทั้งสองคนให้ข้าด้วยข้าจะรับพวกเขามาดูแลเองขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้มีหวังเหลียนเอ๋อร์ต้องอายุสั้นเป็นแน่”

ถานผิงอันรู้ดีว่าหยิ่นมามานั้นไม่ใช่คนใจร้ายใจดำแต่นางก็วุ่นวายมากในแต่ละวันจะเอาเวลาที่ไหนมาดูแลเด็กที่เป็นเพียงสาวใช้ได้ทุกวันนี้เรียกว่าดูแลกันไปตามมีตามเกิดก็ไม่ผิดนักเพราะที่หอคณิกาเองมีคนรวมทั้งหมดร่วมร้อยชีวิตมันก็มีบ้างที่จะพลาดไปในบางเรื่อง

เสร็จจากเรื่องคนแล้วถานผิงอันก็กลับมาให้ความสนใจงานตรงหน้าของตัวเองต่อด้วยอีกสามวันนางจะเปิดตัวสินค้าใหม่อันได้แก่กระพรวนหอมที่แม้จะเรียกได้ไม่เต็มปากว่าเป็นสิ่งใหม่แต่มันก็เป็นกลิ่นใหม่ที่ทางร้านมวลบุปผายังไม่เคยผลิตออกมาขายมาก่อน

กลิ่นดั้งเดิมที่ถานผิงอันเคยทำออกมาขายแล้วก็คือกลิ่นดอกกุหลาบ กลิ่นดอกมะลิ กลิ่นดอกบัว และกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้ แต่กลิ่นใหม่ที่นางเพิ่งคิดค้นและผสมสูตรของส่วนผสมที่ประกอบด้วยสมุนไพรและกลีบดอกไม้แห้งในสัดส่วนที่เหมาะสมนั้นมีถึงสี่กลิ่นด้วยกัน

ดอกไม้หอมที่ผ่านการคัดเลือกจากถานผิงอันประกอบไปด้วยดอกโบตั๋น ดอกจำปี ดอกบ๊วยและดอกท้อ เมื่อนำส่วนผสมต่างๆ อันประกอบด้วยกลีบดอกไม้สดๆ ที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วมาผ่านกรรมวิธีที่ยุ่งยากมากมายส่วนหนึ่งต้องนำมาผ่านการเผาจื้อ (เทคนิคการเตรียมยา) ด้วยวิธีการอบให้แห้งเพื่อให้สมุนไพรสะอาดและง่ายต่อการเก็บรักษา อีกส่วนหนึ่งก็นำมาสกัดเอาน้ำมันหอมระเหย

จากนั้นนำสมุนไพรและดอกไม้ที่ผ่านการอบแห้งบดให้ละเอียดเตรียมเอาไว้ผสมกับส่วนผสมอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นกานพลู อบเชย พิมเสน จากนั้นก็นำสวนผสมที่ผสมจนเข้ากันแล้วมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ลักษณะคล้ายยาลูกกลอนรอเอาไปบรรจุลงในกระพรวนเท่านั้น

กระพรวนของทางร้านมวลบุปผาทำมาจากวัสดุหลากหลายชนิดตั้งแต่ไม้ที่นำมาฉลุลวดลาย หยก เงิน หรือแม้แต่ทองคำซึ่งถานผิงอันสามารถทำให้ลูกค้าได้ทุกอย่างตามความต้องการและตามจำนวนเงินในกระเป๋าเพราะนางมีช่างฝีมือที่ฝึกฝนวิชาเหล่านี้มาจนเชี่ยวชาญ

นอกจากตัวกระพรวนที่งดงามแล้วในส่วนของพู่ไหมที่ใช้ตกแต่งก็มีความสำคัญไม่แพ้กันวัสดุที่ถานผิงอันเลือกใช้มีตั้งแต่เส้นไหมธรรมดาๆ ที่ทำมาจากฝ้าย เส้นไหมที่ทำมาจากตัวไหมชนิดเดียวกันกับที่ใช้ทอผ้าไหมและมีแม้กระทั่งพู่ไหมที่ทำมาจากเงินและทองคำรีดให้เป็นเส้นเล็กๆ ที่มีขนาดเล็กและบางไม่ต่างจากเส้นผมและอีกสามวันข้างหน้านางก็จะมีกระพรวนที่ทำจากไหม หยก เงินและทองคำมาวางจำหน่ายครบทุกแบบ

ในวันที่เปิดจำหน่ายสินค้าตัวใหม่ถานผิงอันสวมชุดผ้าไหมสีขาวที่ไล่ระดับสีจากขาวที่ตัวเสื้อลงไปเป็นสีชมพูอ่อนที่ช่วงอกเรื่อยลงไปจนสุดชายกระโปรงที่ยาวคลุมเท้าจะเป็นสีชมพูเข้มที่ยังคงอ่อนหวานอีกทั้งบริเวณชายกระโปรงยังมีลายปักรูปผีเสื้อเย้ามวลบุปผาด้วยไหมเงินยามนางขยับกายคล้ายกับว่าผีเสื้อเหล่านั้นจะขยับปีกบางๆ ของพวกมันเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต

“สวัสดีลูกค้าผู้มีอุปการคุณของร้านมวลบุปผาในวันนี้ข้าถานผิงอันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ทุกท่านมาร่วมรับชมสินค้าใหม่ของทางร้านและข้ายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าเฉพาะวันนี้เท่านั้นสินค้าทุกชนิดจะลดราคาลงสองส่วนจากราคาปกติเจ้าค่ะ

เพื่อไม่ให้ทุกท่านต้องเสียเวลาวันนี้ถานผิงอันและร้านมวลบุปผาขอเสนอกระพรวนหอมกลิ่นใหม่ที่นอกจากจะหอมทนและหอมยาวนานแล้วลวดลายบนกระพรวนทุกลูกยังประณีตและงดงามจากช่างฝีมือมากความสามารถของเรา”

นิ้วเรียวของถานผิงอันคล้องกระพรวนหอมที่แกะสลักมาจากหยกขาวมันแพะประดับพู่ไหมแท้สีชมพูหวานเอาไว้หนึ่งเส้นแค่นางขยับนิ้วกรีดกรายลูกค้าที่ยืนรายล้อมอยู่ด้านหน้าก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยออกมาจากกระพรวนหอมของนางแล้ว

“นั่นกลิ่นดอกโบตั๋นใช่หรือไม่เถ้าแก่เนี้ยขนาดข้ายืนห่างจากท่านตั้งมากกลิ่นของกระพรวนหอมยังโชยมาถึงตรงนี้” ลูกค้าจมูกดีเอ่ยปากถามซึ่งแน่นอนว่าด้านในของกระพรวนหยกนั้นบรรจุก้อนหอมกลิ่นดอกโบตั๋นที่แม้จะมีกลิ่นคล้ายคลึงกับดอกกุหลาบแต่ทว่ามีที่กลิ่นหอมหวานรัญจวนใจกว่ามากแค่ได้กลิ่นเพียงแค่ผ่านๆ ยังสามารถรับรู้ได้ว่าแตกต่างกัน

“ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะกระพรวนหอมในมือข้านั้นเป็นกลิ่นดอกโบตั๋นแต่ภายในร้านไม่ได้มีกลิ่นใหม่กลิ่นนี้เพียงกลิ่นเดียว ครั้งนี้เราผลิตกระพรวนหอมกลิ่นใหม่มาถึงสี่กลิ่นดอกโบตั๋น ดอกจำปี ดอกบ๊วยและดอกท้อเจ้าค่ะขอเชิญลูกค้าทุกท่านเข้ามาเลือกชมสินค้าหากมีข้อสงสัยอันใดสามารถสอบถามกับหลงจู๊ฟางซือและคนงานภายในร้านได้ทุกคน”

เมื่อถึงเวลาอันสมควรถานผิงอันถานผิงอันก็เชิญลูกค้าที่ยืนรอกันอยู่ที่หน้าร้านเข้ามาเลือกซื้อสินค้าแล้วเสียงฮือฮาของผู้คนก็ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อพวกเขานั้นพบกับชั้นวางสินค้าแบบใหม่ที่สามารถหมุนได้รอบทิศทางไม่ว่าจะเป็นกระพรวนหอมที่เป็นตัวเอกของงานหรือว่าถุงหอมแค่เพียงยืนอยู่นิ่งๆ แล้วใช้มือหมุนก็สามารถเลือกดูสินค้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวเองเมื่อครู่นี้ได้แล้ว

“กระพรวนหอมร้านเถ้าแก่เนี้ยคุณภาพดียิ่งนักเจ้าค่ะข้าซื้อไปเกือบจะครึ่งปีแล้วก็ยังส่งกลิ่นหอมอยู่เลยแม้จะจางลงไปบ้างแต่ก็ยังได้กลิ่นอยู่ ก่อนหน้านี้ข้าเดินทางไปพบญาติพี่น้องใครๆ ก็อยากได้กระพรวนหอมเหมือนข้ากันทั้งนั้น” คุณหนูผู้หนึ่งเดินตรงมาพูดคุยกับถานผิงอันด้วยรอยยิ้มเพราะกระพรวนหอมของร้านมวลบุปผาทำให้นางรู้สึกมีหน้ามีตาในหมู่ญาติพี่น้องที่เป็นสตรีด้วยกันได้

“หากคุณหนูยังมีกระพรวนอันเก่าอยู่จะซื้อแต่เม็ดหอมด้านในเพียงอย่างเดียวก็ได้นะเจ้าคะร้านของเรารับเปลี่ยนให้” แม้กระพรวนน้ำหอมจะมีกลไกง่ายๆ ในการปิดเปิดแต่บางครั้งมันก็ยังไปเรื่องที่ยากลำบากสำหรับคุณหนูในห้องหอที่ร้านจึงมีนายช่างคอยให้บริการอยู่ตลอดเวลา

“ดียิ่งนักถ้าเช่นนั้นข้าจะไปเลือกกลิ่นเม็ดหอมก่อนนะเจ้าคะ ขอบคุณเถ้าแก่เนี้ยที่ให้คำแนะนำเจ้าค่ะ”

นอกจากจะขายของใหม่แล้วบริการหลังการขายก็นับว่ามีความสำคัญกระพรวนหอมแม้จะสวยงามช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีให้คุณหนูคุณชายแต่มันก็ยังนับว่าเป็นสิ่งของที่มีราคาสูงเพราะฉะนั้นการที่ซื้อไปหนึ่งชิ้นหากสามารถเปลี่ยนกลิ่นที่ถูกใจได้เรื่อยๆ หรือเปลี่ยนเม็ดหอมใหม่ยามที่กลิ่นมันจางลงได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี

“ดีจังที่ข้ากลับมาทันวันที่สินค้าใหม่ของคุณหนูถานวางขายหากช้าไปแม้แต่วันเดียวคงไม่มีโอกาสซื้อเพราะมันจะต้องขาดตลาดเหมือนทุกครั้ง” น้ำเสียงคุ้นหูที่ทำเอาถานผิงอันต้องลอบเบ้ปากขนาดคิดว่าจะไม่ได้เจอหน้าเขาแล้วในวันนี้ก็ยังต้องพบเจอกันอีกจนได้

“คุณชายหม่า สินค้าใหม่อยู่ทางด้านนี้เจ้าค่ะเชิญท่านเลือกได้ตามสบายนะเจ้าคะ” ถานผิงอันยอบกายทำความเคารพในฐานะที่อีกคนแก่อาวุโสกว่าอีกทั้งยังเป็นลูกค้าชั้นหนึ่งของทางร้านจากนั้นก็เดินหลบออกมาหาเรื่องพูดคุยกับลูกค้าคนอื่นไม่ได้ให้ความสนใจอะไรเขาอีก

คุณชายหม่าผู้นี้เป็นบุตรชายคนโตของนายท่านหม่าเจ้าของโรงบ่มสุราที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงอีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหอสุราสราญใจที่เปิดให้บริการหลายสาขาทั่วแคว้นและที่ถานผิงอันไม่ค่อยอยากจะเสวนากับชายผู้นี้ก็เพราะเขาดูเป็นคนเจ้าชู้เป็นคุณชายเจ้าสำราญนางจึงไม่สะดวกใจที่จะพูดคุยหรือว่าทำตัวสนิทสนมให้ต้องเป็นที่ครหาของผู้คนด้วยนางยังต้องทำมาหากินเพราะฉะนั้นชื่อเสียงที่ดีงามจึงค่อนข้างเป็นสิ่งสำคัญ

มันจริงอยู่ที่คุณชายหม่าจื่อลู่เป็นบุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลาอีกทั้งรูปร่างก็งดงามอกผายไหล่ผึ่งที่สำคัญคือเขาเก่งในด้านการค้ามีความฉลาดเฉลียวแต่ในเรื่องของนิสัยใจคอของเขานั้นนางขอเลือกอยู่ไกลๆ จะดีกว่าต่อให้ดีพร้อมแค่ไหนแต่ก็หมั่นเข้าหอคณิกาก็คงจะไม่ไหวนางมิได้รังเกียจแต่มันรู้สึกประดักประเดิดหากจะไปให้ความสนิทสนม

“อ๊ะ เสี่ยวถิงเจ้ากลับมาแล้วหรือ” เมื่อสัมผัสถึงความเรียบลื่นที่เลื้อยไต่ขึ้นมันพันอยู่บนข้อเท้าแม้น้ำหนักของมันจะเบาเพียงครึ่งจินนางก็รู้ได้ทันทีว่าเสี่ยวถิงของนางกลับมาจากการพักฟื้นร่างกายแล้ว