กุหลาบงามย่อมมีหนามคม สตรีงามย่อมมีพิษสงเช่นกัน

อสรพิษเรือนบุปผา - ตอนที่ 8 กินง่ายอยู่ง่าย โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,อสรพิษน้อยผิงผิง,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อสรพิษเรือนบุปผา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อสรพิษน้อยผิงผิง,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่

รายละเอียด

อสรพิษเรือนบุปผา โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

กุหลาบงามย่อมมีหนามคม สตรีงามย่อมมีพิษสงเช่นกัน

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

การเกิดใหม่โดยที่มีความทรงจำในชาติก่อนๆ ติดตัวมาจะว่าเป็นเรื่องดีมันก็ดีจะว่าไม่ดีมันก็ไม่ดีแต่เหรินเซียนน้อยอย่างถานผิงอันจะเลือกอะไรได้เมื่อเหตุผลที่ตัวนางต้องถูกส่งให้มาเวียนว่ายตายเกิดบนโลกมนุษย์นั้นเป็นการบำเพ็ญเพียรให้ผ่านด่านเคราะห์ตามบัญชาของสวรรค์

เมื่อเหรินเซียนน้อยรู้อยู่แก่ใจดีเช่นนี้แล้วนางจึงตั้งใจบำเพ็ญเพียรและสั่งสมความดีด้วยการช่วยเหลือผู้คนไปตามความสามารถที่ตนเองมีแต่ทำไมชาตินี้นอกจากจะเกิดแต่กับผิงผิงแล้วยังต้องมาเป็นตัวอันตรายในสายตาผู้คนแถมมีมารผจญโผล่มาในรูปแบบของว่าที่สามีอีกด้วย

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 1 เก้าแก่เนี้ยคนงามแห่งร้านมวลบุปผา,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 2 กระพรวนหอมอันเลื่องชื่อ,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 3 เติมคลังสมุนไพร,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 4 แต้มชาด,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 5 หอสุราสราญใจ,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 6 ว่าด้วยเรื่องของสุรามงคล,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 7 เจรจาการค้า,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 8 กินง่ายอยู่ง่าย,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 9 ไม่ชอบหน้า,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 10 หาเรื่องใส่ตัว,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 11 การมาถึงของท่านยาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 20 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 12 พิษกลืนวิญญาณ ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 22 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 13 พักฟื้นร่างกาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 16 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 23 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 14 พันแข้งพันขาเหมือนหมาตัวใหญ่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 17 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 24 เมษายน 68

เนื้อหา

ตอนที่ 8 กินง่ายอยู่ง่าย

หลังจากที่ส่งสินค้าสำคัญและพิเศษที่สุดออกไปจนหมดแล้วถานผิงอันก็กลับมาหายใจหายคอโล่งอกได้อีกครั้งวันนี้นางจึงตั้งใจทำตัวเกียจคร้านเป็นพิเศษโดยตื่นมาก็แค่กินข้าวเช้าจากนั้นก็ไปสำรวจแปลงดอกไม้แสนรักของนางอยู่พักใหญ่จึงได้กลับข้าไปนอนอ่านตำราอยู่ในเรือนตามเดิม

“พี่จูมื้อกลางวันข้าอยากจะกินอาหารรสจัดอย่างไรไม่รู้เมื่อวันก่อนอาหารที่หอสุราสราญใจเลิศรสยิ่งนักแต่เพราะว่าข้าต้องรักษากิริยาจึงไม่ได้รับประทานอะไรเข้ามากไปนักวันนี้พี่ให้ใครออกไปซื้ออาหารมาให้ข้าสักสองสามอย่างได้ไหมเจ้าคะถ้าได้กุ้งเมากับปูเมามาด้วยจะดีมาก” อาหารจานที่ว่าเป็นรายการพิเศษไม่ดีมีให้กินทุกวันเนื่องจากกุ้งและปูไม่ค่อยได้รับความนิยมแต่มีมาเท่าไหร่ก็ยังขายหมดเพราะรสชาติของมันนั้นอร่อยเหมาะที่จะรับประทานคู่กับสุรายิ่งนัก

แต่สำหรับถานผิงอันที่เกิดมาแล้วหลายชาติคุ้นเคยกับอาหารแทบจะทุกรูปแบบนางจึงมีวิธีกินที่ต้องดัดแปลงเล็กน้อยก็จะได้กินปูเมากุ้งเมาที่รสชาติต่างไปจากเดิมแต่รับรองได้ว่าหากนำมากินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ นั้นสามารถทำให้ข้าวหมดหม้อกันได้ง่ายๆ เลย

“ข้าจะให้คนไปซื้อให้นะเจ้าคะแต่คุณหนูก็ต้องกินอย่างอื่นด้วยเอาเป็นซุปร้อนๆ กับอาหารผัดสักจานดีหรือไม่” ถงจิ่นจูไม่มีปัญหาหากคุณหนูของนางจะอยากกินอาหารนอกบ้านแต่ตัวพี่สาวเช่นนางก็จะช่วยเลือกให้น้องสาวได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ไม่ใช่ว่าปล่อยให้กินอะไรตามใจตัวเองเพียงอย่างเดียว

“ตามใจพี่จูเลยเจ้าค่ะแล้วพี่ก็อย่าลืมมากินข้าวกับข้าด้วยนะอย่าเพิ่งหนีไปกินกับใครก่อน” ปล่อยให้หน้าที่เลือกอาหารเป็นของพี่สาวคนสนิทแล้วถานผิงอันก็กลับมาสนใจตำราในมือต่อโดยช่วงนี้นางกำลังทบทวนการปรุงยาสมุนไพรต่างๆ ที่นอกเหนือจากยาพิษเพราะมีโครงการจะเพิ่มสูตรและกำลังการผลิตชาดอกไม้และชาสมุนไพรนำมาขายเพิ่ม

ที่บริเวณชั้นหนึ่งของร้านมวลบุปผานั้นรู้ดีกันว่าเป็นสถานที่จำหน่ายเครื่องประทินผิวชั้นเลิศส่วนบนชั้นสองนั้นนางเปิดจำหน่ายชาสมุนไพรและชาดอกไม้ซึ่งได้ผลตอบรับค่อนข้างดีแม้จะไม่ได้รับความนิยมเทียบเท่ากับเครื่องประทินผิวก็ตามแต่มันยังสามารถขายออกได้เรื่อยๆ

รอไม่นานก็ได้เวลารับประทานอาหารกลางวันที่รอคอยสำหรับกุ้งเมาและปูเมานั้นเป็นอาหารที่ใช้ปูและกุ้งสดๆ เป็นๆ มาดองกับน้ำปรุงรสที่มีส่วนผสมหลักๆ คือสุรากลั่น ซีอิ๊วและเครื่องสมุนไพรอีกเล็กน้อยรสชาติของอาหารจานนี้จะเค็มมันมีกลิ่นเครื่องเทศนิดหน่อยแต่ไร้ซึ่งกลิ่นคาวเพราะว่ามีสุราเป็นตัวช่วย

สูตรของถานผิงอันถ้าจะกินให้อร่อยต้องมีน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานและข้าวสวยร้อนๆ อีกสักสองถ้วยเพราะถ้ามีอาหารจานนี้นางมักจะเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ

“เวลาข้าเข้าครัวไปทำน้ำจิ้มทีไรแม่ครัวทั้งหลายก็ทำท่าตกอกตกใจกันทุกทีเลยนะเจ้าคะต้องรีบบอกว่าข้าไม่ได้มาทำกับข้าวพวกนางถึงจะสบายใจกัน” คุณหนูถานแม้จะปรุงยาได้ยอดเยี่ยมแต่ในเรื่องการปรุงอาหารหรืองานครัวนั้นนางยังต้องฝึกฝนอีกมาก

“ก็คุณหนูเข้าครัวทีไรก็เกิดเรื่องทุกครั้งเลยนี่เจ้าคะหากไม่ทำไฟไหม้ก็รมควันแม่ครัวจนหายใจหายคอไม่ออกกันเอาเป็นว่าเรื่องการปรุงอาหารในครัวนั้นให้คนอื่นจัดการส่วนคุณหนูของข้าทำเพียงแค่ปลูกต้นไม้กับปรุงยาก็พอแล้วเจ้าค่ะ” ถงจิ่นจูเข้าใจดีว่าตลอดชีวิตของคุณหนูนั้นคลุกคลีอยู่แต่กับการปรุงสมุนไพรเป็นยาพิษและยาถอนพิษรวมไปถึงปรุงเครื่องหอมและปรุงชาให้นางปรุงอาหารไม่เป็นสักอย่างก็คงจะไม่เป็นไรในเรือนมีทั้งสาวใช้และแม่ครัวก็ให้พวกนางทำหน้าที่ไปเถิด

“ข้าเองก็ไม่เข้าใจเจ้าค่ะเห็นพวกท่านป้าแม่ครัวโยนเนื้อโยนผักลงกระทะผัดเพียงไม่กี่ครั้งก็ได้อาหารหน้าตาน่ารับประทานออกมาแล้วมีแต่ข้านี่แหละที่โยนผักลงกระทะแล้วดันติดไฟไหม้ข้าวของทุกที” ถานผิงอันน่าจะไม่มีพรสวรรค์ในการทำครัวไม่ว่าจะเกิดมากี่ภพกี่ชาติความสามารถในการปรุงอาหารของนางเรียกได้ว่าติดลบแต่มันอาจจะชดเชยกันด้วยทักษะอื่นๆ อย่างเช่นการปรุงยา ปรุงเครื่องหอมและปรุงชาก็เป็นได้

อีกหนึ่งสิ่งที่นางสามารถทำได้ดีจนไม่มีใครเทียบได้นั่นก็คือการปลูกพืชไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ไม้ดอก ไม้ใบ ไม้ยืนต้นหรือว่าสมุนไพรนางล้วนแต่ทำได้เป็นอย่างดี ดอกไม้นานาพรรณภายในเรือนบุปผาหลังเล็กของนางหรือแม้แต่ในเรือนหลักของสกุลถานล้วนเป็นฝีมือนางทั้งหมดทั้งสิ้น

“ถึงทำกับข้าวไม่เก่งแต่อย่างน้อยๆ คุณหนูก็ยังติดเตาไฟหุงข้าวและต้มไข่ด้วยตัวเองได้นะเจ้าคะเพียงแค่นี้ก็สามารถเอาตัวรอดได้แล้ว” ถงจิ่นจูกล่าวชมคุณหนูของนางที่อย่างน้อยๆ ก็สามารถติดเตาไฟต้มไข่กินเองคนเดียวได้โดยที่ไม่ต้องขอความช่วยเหลือผู้อื่นแต่อย่างใด

“แต่ไข่ต้มของข้าก็สุกเสียจนแข็งกินแล้วฝืดคอไปหมดแต่มันก็อิ่มดีนะเจ้าคะว่าไม่ได้” ด้วยความที่ในยามแรกเกิดจนถึงช่วงวัยเด็กนั้นถานผิงอันมีชีวิตค่อนข้างที่จะลำบากเพราะมีร่างกายอ่อนแอจึงพยายามใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไม่ให้คนที่ดูแลต้องเป็นห่วงหรือมาระมัดระวังดูแลนางเพิ่มมากขึ้นนางจึงทั้งกินง่ายอยู่ง่ายมาโดยตลอดแค่มีข้าวกับไข่ต้มเหยาะซีอิ๊วเค็มๆ เพื่อปรุงรสเล็กน้อยนางก็ไม่งอแงแล้ว

“อยู่เฉยๆ มาครึ่งวันแล้วข้าเริ่มรู้สึกเบื่อเอาไว้กินข้าวอิ่มข้าจะไปปรุงถุงหอมไล่ยุงกับถุงหอมสำหรับบุรุษดีกว่าทำเสร็จเร็วก็จะได้นำออกวางขายเร็วด้วย” ถุงหอมสำหรับบุรุษนั้นจะแตกต่างกับถุงหอมสำหรับสตรีตรงที่มักใช้สมุนไพรที่มีกลิ่นสุขุมหรือว่าหอมเย็นมากกว่าถุงหอมของสตรีที่มีกลิ่นออกไปทางหวานหอมของหมู่มวลดอกไม้อีกทั้งรูปลักษณ์ของถุงหอมสำหรับบุรุษที่ร้านมวลบุปผาจัดจำหน่ายก็ยังเรียบง่ายแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราอยู่มาก

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะช่วยเองเจ้าค่ะคุณหนู” ถุงหอมนั้นถานผิงอันจะเป็นฝ่ายเตรียมสมุนไพรส่วนถงจิ่นจูนั้นจะช่วยบรรจุสมุนไพรที่ผสมแล้วใส่ลงในถุงผ้าฝ้ายซึ่งจะเป็นถุงชั้นแรกจากนั้นถุงหอมส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใส่ไว้ในถุงผ้าไหมเพื่อใช้เป็นตัวอย่างสินค้าและเป็นสินค้าพร้อมจำหน่ายแต่อีกส่วนจะเก็บไว้เพื่อรอให้ลูกค้ามาเลือกถุงผ้าไหมตามความต้องการของตนเอง

กลิ่นของถุงหอมสำหรับบุรุษครั้งนี้ถานผิงอันตั้งใจจะทำกลิ่น อบเชย ไม้กฤษณา กานพลู ซึ่งเป็นกลิ่นใหม่ออกมาจำหน่ายซึ่งก่อนหน้านี้ที่ร้านพอจะมีกลิ่นที่เหมาะกับบุรุษอยู่บ้างแต่ก็เน้นไปที่กลิ่นสำหรับสตรีมากกว่าแต่กระนั้นบุรุษบางคนก็ชมชอบกลิ่นของถุงหอมดอกไม้เช่นเดียวกันเพียงแต่เปลี่ยนถุงผ้าไหมด้านนอกเป็นสีและลวดลายที่เรียบง่ายก็ใช้ได้แล้ว

ยามได้ทำงานคล้ายถานผิงอันจะจมดิ่งลงไปในภวังค์ก็มิปานเพราะนางจะเอาทั้งกายและใจจดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้าไม่มีแม้แต่ชั่วพริบตาที่จะว่อกแว่กด้วยเหตุนี้ถงจิ่นจูจึงต้องคอยดูแลคุณหนูอย่างใกล้ชิดเพื่อคอยเตือนให้ได้พักผ่อนหรือว่าหยุดพักรับประทานอาหารเสียบ้าง

เพียงแค่ปรุงเครื่องหอมก็ใช้เวลาไปไม่น้อยกว่าถานผิงอันจะหยุดมือก็ในตอนที่พี่จูของนางบอกว่าได้เวลารับประทานอาหารเย็นแล้วโดยมื้อเย็นแม่ครัวของเรือนสกุลถานตั้งใจตุ๋นเป็ดใส่ดอกไม้จีนและเห็ดหอมให้เป็นพิเศษพร้อมด้วยผัดผักสดๆ กรอบๆ ที่คนงานปลูกกันเองอีกหนึ่งจานใหญ่ตบท้ายด้วยน้ำแกงฟักหอมส่วนของหวานเป็นขนมพุทราทอดที่ซื้อมาจากหอสุราสราญใจ

“ใครจะเชื่อว่าหอสุราจะขายทั้งอาหารและขนมที่เลิศรสเช่นนี้พอได้กินแล้วยากจะหยุดอยู่ที่คำสองคำ” เพียงไม่นานขนมพุทราทอดก็หายไปเสียครึ่งจานด้วยฝีมือของถานผิงอัน

“สกุลหม่ารวบรวมพ่อครัวและแม่ครัวฝีมือดีมาจากทั่วแคว้นอีกทั้งหอสุราสราญใจแต่ละสาขาต่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองเน้นขายที่ของขึ้นชื่อและมีมากในท้องถิ่นข้าเองก็เคยได้ยินมาว่าด้วยความที่แต่ละสาขามีความโดดเด่นแตกต่างกันนักเดินทางจึงพยายามไปลองชิมสุราและอาหารของหอสุราสราญใจกันให้ครบทุกสาขา” แม้จะไม่ได้ออกนอกเมืองหลวงมาหลายปีแต่ถงจิ่นจูก็ใช้ว่าจะปิดหูปิดตาตนเองนางยังคงรับข่าวสารจากภายนอกอยู่เรื่อยๆ เพราะนางต้องกรองเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสำนักหมื่นพิษและเจ้าสำนักน้อย

การออกมาอยู่ภายนอกหุบเขาหมื่นพิษจำเป็นที่จะต้องมีหูตากว้างไกลหากตั้งตนอยู่ในความประมาทนอกจากจะเปิดช่องให้ตนเองได้รับอันตรายแล้วก็มิอาจที่จะปกป้องดูแลคุณหนูถานผิงอันอย่างแน่นอน

“หากข้ามีโอกาสได้เดินทางข้าก็จะตระเวนกินของอร่อยเช่นนั้นบ้างเหมือนกัน” ใจของถานผิงอันมีความฝันเล็กๆ ว่าสักวันหนึ่งนางจะได้เดินทางออกไปดูโลกกว้างเช่นผู้อื่นบ้างทุกวันนี้แม้สมุนไพรและดอกไม้ที่นางต้องการจะต้องหามาจากทั่วแคว้นแต่ก็ใช่ว่าจะได้ลงมือเองเสียทั้งหมดยังมีคนของท่านยายที่คอยสนับสนุนเป็นอย่างดีอยู่เสมอมาทำให้นางไม่ต้องเหนื่อยแต่ในขณะเดียวกันก็เท่ากับว่าหมดโอกาสที่จะได้เห็นโลกกว้างด้วยตาของตนเองไปด้วย

แต่ในเมื่อท่านยายบอกว่ายังไม่ถึงเวลานั้นนางก็ทำได้เพียงแค่ตั้งใจทำงานอยู่ที่ในเขตเมืองหลวงไม่ดื้อไม่ซนเพื่อความสบายใจของท่านยาย ท่านน้าฟางซือและพี่จูเพราะการที่ได้ออกมาใช้ชีวิตภายนอกภูเขาหมื่นพิษได้อยู่ไกลจากผู้อาวุโสของสำนักที่ชอบมีความคิดล้าหลังและพูดจาไม่เข้าหูก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของนางแล้ว

“อยู่เมืองหลวงก็เสาะหาของอร่อยๆ กินได้เจ้าค่ะพี่จูคนนี้จะเป็นคนจัดการให้คุณหนูเอง” ว่าแล้วถงจิ่นจูก็คีบขนมพุทราทอดให้หญิงสาวที่นางดูแลมาตั้งแต่ยังเล็กอีกหนึ่งชิ้นเห็นนางกินอิ่มนอนหลับแล้วก็สบายใจเพราะนั่นมันหมายความว่าถานผิงอันนั้นยังมีร่างกายจิตใจที่แข็งแรงดีแต่ในยามที่นางไม่กินไม่นอนนั่นแหละที่น่าเป็นห่วง

“ขอบคุณพี่จู ขนมพุทราทอดนี้อร่อยนักแต่จะกินบ่อยๆ ก็คงไม่ดีเท่าไหร่เอาไว้วันมะรืนรบกวนพี่ซื้อมาให้ข้ากินอีกครั้งนะเจ้าคะ” ขนมพุทราทอดนั้นเหลาอาหารหลายร้านมีขายเป็นปกติแต่จะหาร้านไหนที่ไส้พุทรากวนมีรสชาติกำลังดีไม่หวานบาดคออีกทั้งแป้งด้านนอกยังคงกรอบอยู่ได้นานแม้จะทอดมาแล้วเป็นชั่วยามนับว่าพ่อครัวของหอสุราสราญใจนั้นมีฝีมือยิ่งนัก

“ถ้าเช่นนั้นวันมะรืนคุณหนูกินขนมพุทราทอดเป็นของว่างมื้อบ่ายดีหรือไม่เจ้าคะ กินคู่กับน้ำชาดอกไม้ร้อนๆ น่าจะเข้ากันได้ดี” ในเมื่อคุณหนูของนางชอบรับประทานนักถงจิ่นจูก็ไม่ขัดอีกทั้งยังหาทางออกให้นางได้รับประทานขนมที่ตนเองชอบได้เยอะกว่าการกินหลังมื้ออาหารอีกด้วย

“พี่จูของข้าดีที่สุด ขอบคุณมากนะเจ้าคะเอาเป็นว่าวันมะรืนข้าจะไปกินของว่างยามบ่ายที่ร้านจะได้เอาชาดอกไม้ไปวางขายเพิ่มด้วย”

โดยปกติแล้วถานผิงอันจะเข้าไปที่ร้านมวลบุปผาเฉพาะในวันที่มีสินค้าใหม่มาวางขายแต่ก็มีบ้างที่นางจะเข้าไปร้านเพื่อเติมสินค้าบางอย่างที่นางเป็นคนทำขึ้นมาด้วยตัวเองเหตุที่นางไม่ได้เข้าไปที่ร้านทุกวันเพราะเบื่อกับความวุ่นวายใช่ว่าดรุณีน้อยทั้งหลายที่เป็นลูกค้าของร้านมวลบุปผาจะเป็นมิตรกับนางทุกคนเสียที่ไหนกัน