กุหลาบงามย่อมมีหนามคม สตรีงามย่อมมีพิษสงเช่นกัน

อสรพิษเรือนบุปผา - ตอนที่ 9 ไม่ชอบหน้า โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,อสรพิษน้อยผิงผิง,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อสรพิษเรือนบุปผา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อสรพิษน้อยผิงผิง,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่

รายละเอียด

อสรพิษเรือนบุปผา โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

กุหลาบงามย่อมมีหนามคม สตรีงามย่อมมีพิษสงเช่นกัน

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

การเกิดใหม่โดยที่มีความทรงจำในชาติก่อนๆ ติดตัวมาจะว่าเป็นเรื่องดีมันก็ดีจะว่าไม่ดีมันก็ไม่ดีแต่เหรินเซียนน้อยอย่างถานผิงอันจะเลือกอะไรได้เมื่อเหตุผลที่ตัวนางต้องถูกส่งให้มาเวียนว่ายตายเกิดบนโลกมนุษย์นั้นเป็นการบำเพ็ญเพียรให้ผ่านด่านเคราะห์ตามบัญชาของสวรรค์

เมื่อเหรินเซียนน้อยรู้อยู่แก่ใจดีเช่นนี้แล้วนางจึงตั้งใจบำเพ็ญเพียรและสั่งสมความดีด้วยการช่วยเหลือผู้คนไปตามความสามารถที่ตนเองมีแต่ทำไมชาตินี้นอกจากจะเกิดแต่กับผิงผิงแล้วยังต้องมาเป็นตัวอันตรายในสายตาผู้คนแถมมีมารผจญโผล่มาในรูปแบบของว่าที่สามีอีกด้วย

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 1 เก้าแก่เนี้ยคนงามแห่งร้านมวลบุปผา,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 2 กระพรวนหอมอันเลื่องชื่อ,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 3 เติมคลังสมุนไพร,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 4 แต้มชาด,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 5 หอสุราสราญใจ,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 6 ว่าด้วยเรื่องของสุรามงคล,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 7 เจรจาการค้า,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 8 กินง่ายอยู่ง่าย,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 9 ไม่ชอบหน้า,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 10 หาเรื่องใส่ตัว,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 11 การมาถึงของท่านยาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 20 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 12 พิษกลืนวิญญาณ ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 22 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 13 พักฟื้นร่างกาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 16 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 23 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 14 พันแข้งพันขาเหมือนหมาตัวใหญ่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 17 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 24 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 15 งูพิษกับยาพิษ ปลดเหรียญอ่านฟรี 18 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 25 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 16 เมื่อหัวใจข้ามิได้เป็นของข้าอีกต่อไป ปลดเหรียญอ่านฟรี 19 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 26 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 17 ให้ความช่วยเหลือ ปลดเหรียญอ่านฟรี 20 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 27 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 18 หายนะอยู่ใกล้แค่เพียงเอื้อมมือ ปลดเหรียญอ่านฟรี 21 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 28 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 19 อสรพิษตัวน้อย ปลดเหรียญอ่านฟรี 22 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 29 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 20 เดินทางกลับบ้าน ปลดเหรียญอ่านฟรี 23 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 30 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 21 หุบเขาหมื่นพิษ ปลดเหรียญอ่านฟรี 24 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 1 พฤษภาคม 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 22 เมืองหลวงก็ยังคงวุ่นวายอยู่เหมือนเดิม ปลดเหรียญอ่านฟรี 25 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 2 พฤษภาคม 68

เนื้อหา

ตอนที่ 9 ไม่ชอบหน้า

ต่อให้ถานผิงอันพยายามทำตัวไม่โดดเด่นจนไปเหยียบตาปลาของใครเข้าแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้คนซุบซิบนินทาเรื่องของนางโดยในช่วงนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงคุณหนูในห้องหอหรือแม้แต่ฮูหยินหลายเรือนก็จับกลุ่มพูดคุยเรื่องที่มีคนพบเห็นสาวใช้จากเรือนสกุลถานเดินเข้าออกหอสุราสราญใจอยู่เป็นประจำ

ใครๆ ต่างรู้ดีกันว่าคุณชายหม่าจื่อลู่นั้นเป็นบุรุษที่มีสตรีหมายปองเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองหลวงแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะสนใจผู้ใดบรรดาคุณหนูที่พ้นวัยปักปิ่นทั้งหลายจึงพยายามเอาตัวเข้ามาเป็นตัวเลือกหรือพยายามทำตัวให้คุณชายหม่าสนใจแม้เพียงเล็กน้อยพวกนางก็ยินดีที่จะทำ

แล้วๆ จู่ๆ กลับมีคู่แข่งกลับมาทำคะแนนส่งสาวใช้เข้าออกหอสุราสราญใจแทบจะวันเว้นวันเช่นนี้แล้วใครมันจะไปทนไหวกันเล่าพวกนางลงทุนกันมาเป็นเดือนเป็นปีจะให้คุณหนูไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างถานผิงอันมาทำคะแนนแซงหน้าไปได้อย่างไรกัน

“หากคนข้างนอกรู้ว่าเจ้าสนใจเพียงขนมพุทราทอดหาใช่ตัวเจ้าของหอสุราสราญใจพวกนางคงได้ตีอกชกหัวตัวเองตายกันเป็นแน่” คนพูดคือฉือไป่เย่วที่วันนี้ออกมาจากหอคณิกาเพื่อมาจิบน้ำชาเป็นเพื่อนถานผิงอันเป็นกรณีพิเศษแสดงให้เห็นความสัมพันธ์อันดีที่พวกนางมีให้แก่กันด้วยคณิกานั้นไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นตามที่ต่างๆ ได้ตามใจตัวเองต่อให้เป็นอี้จีอันดับหนึ่งก็ตาม

“พวกนางไร้สาระยิ่งนักพี่ไป่เย่วตัวข้าวันๆ หนึ่งก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่แต่กับกองสมุนไพรจะเอาเวลาที่ไหนไปคิดเรื่องบุรุษกันเล่า แต่เมื่อพูดถึงหอสุราสราญใจแล้วข้าอยากมีโอกาสไปนั่งชมพี่ขับร้องสักครั้งแต่เห็นทีจะไม่ได้ไปกันง่ายๆ เสียแล้ว” ถานผิงอันได้มีโอกาสสนิทสนมกับพี่สาวฉือไป่เย่วก็เพราะขอทานน้อยเสี่ยวหลิวและพี่สาวของเขาที่ตอนนี้นางมัดมือชกรับทั้งคู่เข้ามาเป็นคนงานในเรือนสกุลถานแล้วเรียบร้อยและตอนนี้เหลียนเอ๋อร์ก็กำลังอยู่ในช่วงรักษาตัวน้องชายจึงต้องช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะพวกเขามีกันอยู่แค่สองคน

สตรีที่พ้นวัยปักปิ่นหากจะไปหอสุราตามลำพังโดยไม่มีครอบครัว พี่น้องหรือสหายไปด้วยคงถูกนินทาว่าเป็นสตรีที่ไม่รู้กาลเทศะประพฤติตัวไม่เหมาะสมที่ผ่านมาถานผิงอันจึงต้องอดทนหลายอย่างเพราะไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้ด้วยมันไม่เหมาะสมกับสภาพสังคมในยุคนี้

“เช่นนั้นให้พี่ขับร้องให้เจ้าฟังที่นี่ดีหรือไม่” พี่สาวไป่เย่วช่างใจกว้างยิ่งนักยอมตามใจน้องสาวคนนี้อย่างไม่มีข้อแม้

“ข้าไม่กล้ารบกวนพี่ไป่เย่วถึงขนาดนั้นหรอกเจ้าค่ะเอาเป็นว่าข้าจะหาโอกาสไปฟังพี่ขับร้องด้วยตัวเองให้ได้อย่างแน่นอน” ทุกอย่างที่ประกอบเป็นร่างกายของฉือไป่เย่วล้วนแต่มีราคานางมิสามารถให้พี่สาวคนนี้ทำตามใจตัวเองได้โดยไร้เหตุผลแม้พี่สาวจะไม่คิดเล็กคิดน้อยแต่ถานผิงอันก็ไม่สามารถจะเอาเปรียบนางได้เลย

“แล้วพี่จะรอเจ้า ว่าไปแล้วขนมพุทราทอดของหอสุราสราญใจนั้นอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ยิ่งได้จิบน้ำชาดอกไม้ของเจ้าตามไปด้วยยิ่งทำให้ชุ่มคอและชื่นใจยิ่งนัก” ขนมของหอสุราเลิศรสยิ่งนักแต่มันยิ่งโดดเด่นมากเมื่อนำมารับประทานคู่กับชาดอกไม้สูตรพิเศษของถานผิงอันขนาดกลืนลงคอไปนานแล้วแต่กลิ่นดอกไม้ที่หอมหวานยังอบอวลอยู่ในปากและลำคอของนางอยู่เลย

“ถ้าพี่ชอบข้าจะเตรียมชาหลายๆ กลิ่นให้พี่เอาหลับไปชงดื่มนะเจ้าคะชาของค่ะดื่มง่ายอีกทั้งยังดื่มได้ทุกวันและเมื่อดื่มติดกันเป็นเวลานานๆ ก็จะสามารถช่วยให้ผิวกาย ลมหายใจรวมไปถึงกลิ่นปากหอมสดชื่นขึ้นจนไม่ต่างจากกลิ่นดอกไม้ที่ใช้ทำชาเลยเจ้าค่ะ”

เรื่องนี้ถานผิงอันมิได้อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงชาดอกไม้นั้นชาวหุบเขาหมื่นพิษต่างดื่มกันมาช้านานโดยในสมัยแรกๆ นั้นชาดอกไม้และชาสมุนไพรมีเอาไว้เพื่อกลบกลิ่นพิษที่ยังมีตกค้างอยู่ในร่างกายแต่จะไม่ใช่เพียงวิธีการนำมาชงเป็นชาดื่มแต่จะใช้วิธีอาบและแช่ตัวส่วนการดื่มชานั้นเพิ่งจะมาทำกันเมื่อไม่กี่สิบปีให้หลังโดยคนต้นคิดคือมารดาผู้ล่วงลับของถานผิงอันและนางก็ได้นำตำราที่ท่านแม่เขียนไว้มาต่อยอดผสมชาสูตรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากที่เคยมีอยู่เดิม

“พี่ขอซื้อนะวันนี้เจ้าเลี้ยงทั้งขนมทั้งชาพี่แล้ว” พี่สาวคนงามเอ่ยดักคอเอาไว้ก่อนมิเช่นนั้นเถ้าแก่เนี้ยคงจะยกชาให้นางฟรีๆ เป็นแน่

“ยินดีเจ้าค่ะพี่ซื้อข้าก็จะแถมมิต้องเกรงใจเป็นบริการพิเศษให้พี่สาวไป่เย่ว” ด้วยความที่ฉือไป่เย่วเป็นสตรีที่มีกิริยามารยาทงดงามอีกทั้งยังฉลาดเฉลียวและจิตใจดีมีเมตตาการพบกันโดยบังเอิญเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ถานผิงอันสามารถเปิดใจรับนางเป็นสหายต่างวัยได้โดยไม่สนใจเรื่องอื่นโดยเฉพาะเรื่องอาชีพการงานและสถานะทางสังคมที่ล้วนแต่เป็นเปลือกนอกทั้งหมด

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าช่วยจัดใบชาเป็นของขวัญให้พี่สักห้าชุดได้หรือไม่พี่ตั้งใจจะเอาไปฝากหยิ่นมามาและพี่เลี้ยงส่วนตัวของพี่เอง” แม้จะออกมานอกหอคณิกาแต่ใช้ว่าแม่นางฉือจะเดินทางไปทั่วท้องถนนตามลำพังได้การจะออกมาแต่ละครั้งนางต้องมีทั้งพี่เลี้ยงและคนคุ้มกันที่ไว้ใจได้และเป็นคนที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดีทั้งจากมามาและตัวของฉือไป่เย่วเอง

“ได้เลยเจ้าค่ะ พี่สาวรอข้าอยู่ในห้องนี้สักครู่นะเจ้าคะข้าขอไปจัดชาก่อนใช้เวลาไม่นานอย่างแน่นอน” ถานผิงอันรีบรุดออกไปจากห้องทำงานของตัวเองโดยด่วนและนางก็จัดการเลือกชาใส่กล่องไม้อย่างดีหกใบอย่างพิถีพิถันโดยชาดอกไม้และชาสมุนไพรที่นางจำหน่ายนั้นจะบรรจุอยู่ในซองกระดาษฟางปริมาณพอเหมาะสำหรับชงชาหนึ่งกาที่สามารถฉีกซองกระดาษแล้วเทใส่กาน้ำชาได้เลยทำให้สะดวกแก่การชง

แต่นอกจากชาแบบซองแล้วก็ยังมีแบบกล่องใหญ่ที่จะยุ่งยากกว่าที่ตอนชงชาต้องตวงใบชาออกมาให้ได้น้ำหนักที่เหมาะสมลูกค้าจะเลือกชาแบบใดก็สามารถเอาความสะดวกของตนเองเป็นตัวกำหนดได้เลย

ภาพที่เถ้าแก่เนี้ยของร้านเลือกจัดซองชาลงกล่องด้วยตัวเองทำให้บรรดาลูกค้าที่ยืนเลือกสินค้าอยู่นั้นต่างก็สอดส่ายสายตามองอย่าสนใจใคร่รู้ว่านางจัดชาไปมอบให้ใครแต่เมื่อสุดท้ายแล้วนางยกกล่องบรรจุซองชาทั้งหมดกลับเข้าไปในห้องทำงานจึงเลิกให้ความสนใจไปชั่วคราวเพราะไม่สามารถสอดส่ายสายตาเข้าไปได้

ออกมาข้างนอกได้เพียงหนึ่งชั่วยามก็ได้เวลาที่ฉือไป่เย่วต้องเดินทางกลับแต่ถึงนางจะแต่งกายอย่างรัดกุมมิดชิดสวมผ้าปิดหน้าเป็นอย่างดีแต่ก็มีคนตาดีมองออกว่าสตรีผู้นี้คือคณิกาอันดับหนึ่งแห่งตรอกคณิกา ชาวบ้านกินแตงทั้งหลายจึงมีเรื่องให้พูดต่อและนินทากันต่อๆ ไปอีกว่าคุณหนูถานนั้นนอกจากจะใช้สาวใช้เป็นสะพานทอดไปหาคุณชายหม่าแล้วนางยังเรียนวิชามัดใจผู้ชายจากคณิกาฉืออีกด้วย

 

“เลอะเทอะไปกันใหญ่แล้วคนพวกนี้” ถงจิ่นจูถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจที่จนถึงตอนนี้ข่าวลือเรื่องของคุณหนูยังขยายไปเป็นวงกว้างและดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้ร้อนอกร้อนใจอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

“พี่จูท่านอย่าโมโหไปเลยคนเรามีปากก็พูดไปนั่นแหละขอให้ได้สะใจได้เล่าเรื่องไม่ดีของคนอื่น พี่ก็เห็นอยู่ว่าข้าผ่านเรื่องราวข่าวลือไร้สาระมาตั้งกี่ครั้งกี่หนแล้วสุดท้ายแค่คำนินทาไม่มีหลักฐานว่าข้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เดี๋ยวคนก็หยุดพูดกันไปเอง”

ตั้งแต่ย้ายมาอาศัยอยู่ที่เมืองหลวงถานผิงอันต้องพบพานกับคำติฉินนินทามานับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่เป็นเพียงสตรีตัวคนเดียวแต่มีเรือนขนาดใหญ่กว่าผู้อื่นนางก็ถูกกล่าวหาว่าเงินที่นางมีนั้นมาจากการกระทำมิชอบจนมีหลายคนกล่าวหาว่านางเป็นอนุภรรยาลับๆ ของชายผู้มีอันจะกินเสียด้วยซ้ำแต่สุดท้ายแล้วข้อกล่าวหานี้ก็ตกไปเมื่อท่านยายของนางเดินทางตามมาเมืองหลวงในภายหลัง

ต่อมาไม่นานเมื่อนางคิดจะทำการค้าเปิดกิจการขายเครื่องประทินผิวเป็นของตัวเองช่วงนั้นนอกจากข่าวลือเสียๆ หายๆ กับตัวนางแล้วยังคงมีเรื่องของร้านค้าที่ขายสินค้าลักษณะเดียวกันตั้งป้อมจะจับผิดและหาเรื่องแต่สุดท้ายแล้วทั้งคุณภาพที่ดีกว่ารวมไปถึงราคาที่เหมาะสมก็ทำให้นางสามารถเปิดร้านมวลบุปผามาได้ถึงตอนนี้

จนมาถึงตอนนี้เมื่อนางมีอายุที่เหมาะกับการออกเรือนก็กลายเป็นว่าตัวเองเกิดมีศัตรูใหม่ๆ ขึ้นมาโดยที่มิได้ตั้งใจเลยแม้แต่นิดเดียวแต่ถานผิงอันก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่านางจะปล่อยผ่านไม่ใส่ใจอะไรเรื่องไร้สาระพวกนี้เช่นที่เคยทำมาโดยตลอดเมื่อนางไม่ผิดนางจะต้องเก็บเอามาใส่ใจทำไมกัน

“ข้าทราบดีเจ้าค่ะแต่บางครั้งมันก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้จริงๆ”

“ไม่เป็นไรนะเจ้าคะพี่จูรู้ดีกว่าใครว่าข้าเป็นคนเช่นไรกันแน่เพราะฉะนั้นเราอย่าไปร้อนใจตามคำคนที่ไม่มีประโยชน์ในชีวิตของเราเลยจะดีกว่า เอาล่ะได้เวลาแล้วเราออกไปขายของกันเถิด” วันนี้เป็นวันที่จะนำถุงหอมไล่ยุงและถุงหอมสำหรับบุรุษออกมาวางขายเป็นวันแรกทั้งถานผิงอันและถงจิ่นจูต่างก็เตรียมตัวเป็นอย่างดีมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

ทุกๆ ครั้งที่มีการเปิดขายสินค้าใหม่ใบปลิวนับร้อยนับพันจะถูกแจกจ่ายไปทั่วทั้งเมืองหลวงโดยเส้นสายของขอทานน้อยแต่ในตอนนี้เสี่ยวหลิวขอทานน้อยอันดับหนึ่งมาอยู่ภายใต้การดูแลของถานผิงอันเด็กน้อยจึงได้เลื่อนฐานะเป็นฝ่ายกระจายข่าวสารของร้านไปโดยปริยายโดยเมื่อก่อนนี้ตัวเถ้าแก่เนี้ยจะต้องเป็นคนสั่งการเองทุกอย่างแต่ปัจจุบันเสี่ยวหลิวและพี่สาวของเขาเหลียนเอ๋อร์คอยดูแลให้ทั้งหมดก็นับว่าช่วยแบ่งเบาภาระของนางไปได้มาก

แน่นอนว่าถุงหอมสำหรับบุรุษกลิ่นใหม่นั้นต้องได้รับความนิยมไม่แพ้กลิ่นอื่นๆ ที่เคยทำออกมาขายต่อหน้านี้แต่กลุ่มลูกค้ากลับไม่ใช่เป็นบุรุษที่เข้ามาซื้อหาเองกลับเป็นบรรดาฮูหยินที่ซื้อกลับไปฝากบุรุษในครอบครัวและคุณหนูในห้องหอที่ซื้อไปฝากชายหนุ่มที่ตนเองหมายปองคิดอยากเอาไปมอบให้เป็นของขวัญแทนใจ

“สวัสดีคุณชายหม่าเจ้าค่ะ คิดเอาไว้ไม่ผิดเลยว่าท่านจะต้องมาที่ร้านในวันที่ข้าเปิดขายสินค้าชนิดใหม่ถุงหอมสำหรับบุรุษอยู่ทางด้านนี้นะเจ้าคะท่านสามารถเลือกสีถุงผ้าไหมได้ตามใจตนเองหรือจะเลือกจากสินค้าที่ทำสำเร็จแล้วด้านนี้ก็ย่อมได้” โดยปกติแล้วถานผิงอันใช่ว่าจะเป็นฝ่ายทักทายคุณชายหม่าก่อนแต่เพราะช่วงนี้นางมีข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับนางและหอสุราของเขาเถ้าแก่เนี้ยคนงามจึงจัดงิ้วหนึ่งฉากให้บรรดาคุณหนูขี้อิจฉาได้ชมเป็นขวัญตา

“คุณหนูถานเพราะสินค้าของท่านมีคุณภาพข้าจึงแต่งตั้งตัวเองเป็นลูกค้าประจำ อย่างไรแล้วขอคุณหนูแนะนำถุงหอมที่เหมาะกับบิดาและท่านปู่ของข้าให้หน่อยได้หรือไม่อันที่จริงเรื่องแบบนี้ข้าก็ไม่สันทัดหากซื้อไปก็น่าจะเหมาไปเสียทุกอย่างและให้ท่านพ่อไปเลือกกลิ่นที่ถูกใจเอาเองแต่ครั้งนี้ข้าอยากเป็นคนเลือกอย่างตั้งใจที่สุด” หม่าจื่อลู่เองก็เล่นตามน้ำไปอย่างไม่มีพิรุธส่วนหนึ่งเพราะเขามีใจอยากจะสนทนากับนางอยู่แล้วและอีกส่วนก็เป็นเพราะว่าได้ยินเรื่องราวที่เขาเล่าลือกันทั่วเมืองหลวงช่วงนี้อยู่เหมือนกัน

“สำหรับนานท่านหม่าข้าแนะนำว่าลองเป็นสูตรไม้กฤษณาเจ้าค่ะด้วยคุณสมบัติพิเศษของกลิ่นที่มีความสุขุมนุ่มลึกแต่ก็ยังคงมีความหวานนวลๆ ซุกซ่อนอยู่เมื่อผสมเข้ากับสมุนไพรสูตรพิเศษตัวอื่นๆ ข้าจึงมั่นใจว่ามันเหมาะกับบิดาของท่านเป็นอย่างยิ่งเจ้าค่ะ ส่วนนายท่านผู้เฒ่าหม่าข้าแนะนำกลิ่นกานพลูที่สูดดมแล้วให้ความรู้สึกที่อบอุ่นกว่า”

“ถ้าเช่นนั้นข้าขอเลือกกลิ่นที่เจ้าบอกใส่ถุงผ้าไหมอย่างดีที่สุดห่อเป็นของขวัญสำหรับท่านพ่อและท่านปู่ของข้าและขอสั่งทุกกลิ่นที่มีทั้งกลิ่นใหม่และกลิ่นเดิมอย่างละยี่สิบชิ้นด้วย”