กุหลาบงามย่อมมีหนามคม สตรีงามย่อมมีพิษสงเช่นกัน

อสรพิษเรือนบุปผา - ตอนที่ 15 งูพิษกับยาพิษ ปลดเหรียญอ่านฟรี 18 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 25 เมษายน 68 โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,อสรพิษน้อยผิงผิง,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อสรพิษเรือนบุปผา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อสรพิษน้อยผิงผิง,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่

รายละเอียด

อสรพิษเรือนบุปผา โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

กุหลาบงามย่อมมีหนามคม สตรีงามย่อมมีพิษสงเช่นกัน

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

การเกิดใหม่โดยที่มีความทรงจำในชาติก่อนๆ ติดตัวมาจะว่าเป็นเรื่องดีมันก็ดีจะว่าไม่ดีมันก็ไม่ดีแต่เหรินเซียนน้อยอย่างถานผิงอันจะเลือกอะไรได้เมื่อเหตุผลที่ตัวนางต้องถูกส่งให้มาเวียนว่ายตายเกิดบนโลกมนุษย์นั้นเป็นการบำเพ็ญเพียรให้ผ่านด่านเคราะห์ตามบัญชาของสวรรค์

เมื่อเหรินเซียนน้อยรู้อยู่แก่ใจดีเช่นนี้แล้วนางจึงตั้งใจบำเพ็ญเพียรและสั่งสมความดีด้วยการช่วยเหลือผู้คนไปตามความสามารถที่ตนเองมีแต่ทำไมชาตินี้นอกจากจะเกิดแต่กับผิงผิงแล้วยังต้องมาเป็นตัวอันตรายในสายตาผู้คนแถมมีมารผจญโผล่มาในรูปแบบของว่าที่สามีอีกด้วย

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 1 เก้าแก่เนี้ยคนงามแห่งร้านมวลบุปผา,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 2 กระพรวนหอมอันเลื่องชื่อ,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 3 เติมคลังสมุนไพร,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 4 แต้มชาด,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 5 หอสุราสราญใจ,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 6 ว่าด้วยเรื่องของสุรามงคล,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 7 เจรจาการค้า,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 8 กินง่ายอยู่ง่าย,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 9 ไม่ชอบหน้า,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 10 หาเรื่องใส่ตัว,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 11 การมาถึงของท่านยาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 20 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 12 พิษกลืนวิญญาณ ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 22 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 13 พักฟื้นร่างกาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 16 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 23 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 14 พันแข้งพันขาเหมือนหมาตัวใหญ่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 17 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 24 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 15 งูพิษกับยาพิษ ปลดเหรียญอ่านฟรี 18 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 25 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 16 เมื่อหัวใจข้ามิได้เป็นของข้าอีกต่อไป ปลดเหรียญอ่านฟรี 19 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 26 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 17 ให้ความช่วยเหลือ ปลดเหรียญอ่านฟรี 20 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 27 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 18 หายนะอยู่ใกล้แค่เพียงเอื้อมมือ ปลดเหรียญอ่านฟรี 21 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 28 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 19 อสรพิษตัวน้อย ปลดเหรียญอ่านฟรี 22 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 29 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 20 เดินทางกลับบ้าน ปลดเหรียญอ่านฟรี 23 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 30 เมษายน 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 21 หุบเขาหมื่นพิษ ปลดเหรียญอ่านฟรี 24 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 1 พฤษภาคม 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 22 เมืองหลวงก็ยังคงวุ่นวายอยู่เหมือนเดิม ปลดเหรียญอ่านฟรี 25 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 2 พฤษภาคม 68,อสรพิษเรือนบุปผา-ตอนที่ 23 ความคิดถึงสามารถฆ่าคนได้ ปลดเหรียญอ่านฟรี 26 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 3 พฤษภาคม 68

เนื้อหา

ตอนที่ 15 งูพิษกับยาพิษ ปลดเหรียญอ่านฟรี 18 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 25 เมษายน 68

แม้อาการของคุณชายหม่าจะไม่น่าห่วงแล้วแต่กระนั้นทุกๆ เจ็ดวันถานผิงอันก็ยังต้องไปที่เรือนสกุลหม่าเพื่อตรวจสุขภาพของเขาอยู่แม้ตัวเองจะไม่ได้เชี่ยวชาญในวิชาแพทย์แต่เรื่องการตรวจอาการของผู้ต้องพิษนั้นนางถูกท่านยายฝึกฝนมาตั้งแต่เมื่อตอนเป็นเด็กจึงค่อนข้างที่จะเชี่ยวชาญในระดับหนึ่งไม่มีทางวินิจฉัยอะไรพลาดไปอย่างแน่นอนแต่มันก็จะมีบางที่ผลการวินิจฉัยอาจจะสับสนหากผู้ต้องพิษนั้นมีอาการป่วยซุกซ่อนอยู่แต่นางก็จะแนะนำให้ตามท่านหมอมาตรวจให้แน่ใจอีกครั้ง

“เหลืออีกเพียงเจ็ดวันเท่านั้นสำหรับการดื่มยาสมุนไพรหลังจากนี้คุณชายออกกำลังกายได้แล้วนะเจ้าคะ” หลังร่างกายต้องพิษมีข้อห้ามหลายอย่างที่ต้องปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดื่มยา การกินอาหารตลอดไปจนถึงการออกกำลังกายซึ่งจะห้ามหรือไม่ห้ามอะไรบ้างก็ต้องแล้วแต่พิษที่ได้รับเข้าไปรวมถึงความหนักเบาของอาการรวมไปถึงสุขภาพของตัวผู้ถูกพิษในยามปกติเองด้วย

สำหรับคุณชายหม่าที่ยังเป็นคนหนุ่มเวลาปกตินั้นมีร่างกายสมบูรณ์ดีแม้จะได้รับพิษที่ค่อนข้างร้ายแรงแต่เพราะรับมาไม่นานก็ได้รับการรักษาจึงฟื้นตัวได้เร็วอย่างที่เห็นการที่ต้องดื่มยาต่อไปหลังจากนี้เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันหลังจากนี้หากได้รับพิษกลืนวิญญาณมาอีกร่างกายก็จะสามารถต่อต้านได้นานมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน

หม่าจื่อลู่ตั้งใจฟังทุกคำแนะนำของคุณหนูถานเป็นอย่างดีและการที่เขาฟื้นตัวได้ดีเช่นนี้ก็ต้องขอบคุณนางที่เสียสละเวลามาตรวจรักษาให้อีกทั้งยังต้องขอบคุณมารดาที่เอาใจใส่เรื่องอาหารการกินตามคำแนะนำที่ได้มาเป็นอย่างดีทำให้เขามีอาการดีวันดีคืน

“อีกเจ็ดวันข้าจะมาตรวจท่านเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะเจ้าคะ”

“ไม่ทราบว่าที่คุณหนูเคยบอกว่ารับจ้างวางยานั้นท่านยังรับทำอยู่หรือไม่” เรื่องสำคัญที่หม่าจื่อลู่คิดทบทวนอยู่ในใจมาหลายตลบในช่วงนี้นั้นคือการสั่งสอนสกุลหม่าให้รู้ว่าอย่าได้ไปทำกับใครเช่นนี้อีกและเขาต้องการจะวางยาคนทั้งสกุลอันให้เจ็บป่วยไปตามๆ กันแต่ไม่ได้ต้องการให้ทรมานจนถึงตายแค่เพียงมีอาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ สักห้าวันเจ็ดวันเท่านั้นก็เพียงพอ

“แน่นอนว่ารับเจ้าค่ะขอเพียงแค่คุณชายแจ้งมาว่าอยากให้วางยาอะไรให้ใครและเมื่อไหร่ข้าสามารถลงมือให้ได้ทันที” เรื่องการรับจ้างวางยาพิษนั้นสำนักหมื่นพิษทำมาเป็นร้อยๆ ปีแล้วเมื่อในอดีตศิษย์ทั้งสายนอกสายในตลอดจนผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หุบเขาหมื่นพิษต่างมีอาชีพหลักในการรับจ้างวางยาหรือไม่ก็ผลิตยาพิษขายจนทำให้คนทั่วไปเกรงกลัวแต่มาในสมัยที่ท่านยายของนางขึ้นเป็นเจ้าสำนักเรื่องการรับจ้างวางยานั้นจึงถูกจัดระเบียบใหม่ไม่ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้ที่จะรับทำอีกทั้งยังไม่ได้รับวางยาทุกชนิดอีกต่อไปแล้ว

ระหว่างที่ถานผิงอันพูดคุยกับหม่าจื่อลู่เจ้างูน้อยเสี่ยวถิงที่พันอยู่รอบข้อเท้าของนางก็มีอาการตื่นเต้นจนสัมผัสได้เพราะมันจะรัดๆ คลายๆ ข้อเท้าของนางอยู่ตลอดคงจะรู้ดีว่างานนี้มันต้องมีโอกาสได้ออกโรงเพราะถ้าหากท่านเจ้าสำนักน้อยไม่ได้สั่งให้ผู้คุ้มกันเป็นคนลงมือก็ต้องเป็นเจ้างูน้อยตัวนี้อย่างแน่นอน

“ข้าไม่มีความรู้เรื่องพิษเพียงแต่อยากได้ยาที่สัมผัสไปแล้วจะมีอาการคล้ายกับพิษกลืนวิญญาณที่ข้าสัมผัสไปอีกทั้งยังต้องการให้บุตรหลานคนสำคัญในสกุลอันถูกวางยาทุกคนพร้อมๆ กันเป็นการสั่งสอน

ข้าไม่กลัวเลยถ้าหากทางนั้นจะรู้ว่าสกุลหม่าเป็นผู้กระทำเพราะนั่นมันหมายความว่าสกุลอันรับรู้แล้วว่าข้ารู้ตัวว่าพวกเขาคิดไม่ซื่อ” ใบหน้าที่เรียบนิ่งบวกกับน้ำเสียงที่มั่นคงของหม่าจื่อลู่ทำให้ถานผิงอันรับรู้ได้ว่าเวลานี้เขาจริงจังเป็นอย่างมาก

“ย่อมได้เจ้าค่ะข้ามีพิษราตรีหลับใหลที่จะออกฤทธิ์คล้ายพิษกลืนวิญญาณแต่ผู้ต้องพิษจะมีอาการหลอนประสาทร่วมด้วยหากวางยาพวกเขาห่างกันสักคนละครึ่งชั่วยามรับรองว่าเรือนสกุลอันต้องวุ่นวายกันทั้งคืนทั้งวันอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ ที่สำคัญคือพิษนี้จะไม่สามารถตรวจพบได้โดยง่ายหากมิใช่คนจากสำนักหมื่นพิษหรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษจากสำนักอื่นๆ แต่ถึงแม้จะวินิจฉัยได้ก็อาจจะคิดว่าเป็นพิษชนิดอื่นที่มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน

การต้องพิษในปริมาณไม่มากอาการจะสามารถหายได้เองในเจ็ดวันสิบวันแต่หากได้รับไปในปริมาณมากๆ ต้องรักษาด้วยยาแก้พิษนะเจ้าคะ” แค่คิดว่าเกิดความวุ่นวายขึ้นทีละเรือนเมื่อเรือนหลักสงบลงแต่เรือนรองเกิดความวุ่นวายขึ้นแทนมันจะโกลาหลมากมายเพียงไหนกันแต่เสียดายที่ถานผิงอันน่าจะไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเองเพราะพี่จูน่าจะไม่มีทางให้นางออกไปลงมือด้วยตนเอง

“ข้าต้องการให้วางยาเรือนบุตรหลานของสกุลอันทั้งหมดเฉพาะบุรุษนะขอรับข้าไม่ประสงค์ให้สตรีต้องพิษแต่อยากให้ผู้อาวุโสร้อนใจเพราะข้าคิดว่าการวางยาตัวข้าครั้งนี้คนทำไม่ได้คิดเองทำเองตามลำพังอย่างแน่นอนต้องมีคนหนุนหลัง ให้พวกเขาทนทุกข์สักสิบวันก็เพียงพอแล้วหากมีครั้งต่อไปค่อยใช้พิษที่รุนแรงมากกว่านี้” คนที่วางยาหม่าจื่อลู่นั้นเป็นคุณชายใหญ่สกุลอันที่เกิดจากฮูหยินรองแน่นอนเพราะวันนั้นคนสกุลอันที่เขาพบมีแค่เพียงคนเดียวและมูลเหตุจูงใจก็น่าจะไม่พ้นการที่คุณชายใหญ่ผู้นี้อยากหาความดีความชอบให้ตัวเอง

แม้จะเป็นคุณชายใหญ่แต่ไม่ได้เกิดจากฮูหยินเอกอย่างไรแล้วการมีสิทธิ์ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปย่อมหวังเต็มสิบส่วนไม่ได้แต่ถ้าหากตัวเองมีความดีความชอบไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการค้าขายหรือการตัดแข้งตัดขาคู่แข่งทางการค้าอย่างไรแล้วผู้อาวุโสในตระกูลต้องหันมาเห็นความสำคัญกับเขาบ้าง

“ข้าจัดการให้ได้สบายมากเจ้าค่ะค่าจ้างครั้งนี้ข้าคิดไม่แพงเพียงแค่ห้าสิบตำลึงทองเท่านั้น” หากเป็นคนทั่วไปได้ยินจำนวนเงินที่คุณหนูถานกล่าวมาคงเป็นลมล้มพับไปแล้วแต่เพราะนี้เป็นหม่าจื่อลู่ที่เกิดมาบนกองเงินกองทองจึงไม่ได้รู้สึกอะไรแต่ถึงนางจะคิดราคาสักร้อยตำลึงทองเขาก็ไม่มีปัญหา

“ย่อมได้ขอรับไม่ทราบว่าคุณหนูจะรับเป็นก้อนตำลึงทองหรือว่าตั๋วแลกเงิน” คุณชายหม่าไม่ได้ตั้งใจจะยียวนแต่ถามเพราะจะได้จัดการให้ถูก

“ขอรับเป็นตำลึงทองก็ได้เจ้าค่ะ คืนนี้ข้าจะให้คนไปจัดการให้นะเจ้าคะคุณชายหม่ารอฟังข่าวได้เลย” กล้าเสนอมาให้ถานผิงอันก็กล้าเลือกด้วยนางเองก็ชอบเงินชอบทองเป็นทุนเดิมอยู่แล้วการรับก้อนทองกลับบ้านไปสักหีบก็นับว่าพึงพอใจมากกว่าการนอนมองตั๋วแลกเงิน

วันนี้ถานผิงอันกลับเรือนบุปผาไปพร้อมกับหีบทองคำหนักอึ้งครั้นพอถึงเรือนนางก็จัดการป้อนพิษราตรีหลับใหลให้เจ้างูน้อยเสี่ยวถิงในทันทีจากนั้นก็ส่งคนนำมันไปส่งให้ถึงเรือนสกุลอันในยามวิกาล

เสี่ยวถิงแม้จะเป็นงูตัวเล็กๆ แต่มันก็มีความพิเศษหลายอย่างคล้ายกับจิตใจของมันจะสามารถเชื่อมต่อกับจิตใจของถานผิงอันได้อะไรที่นางรู้ข้อมูลก็สามารถสั่งให้เจ้างูน้อยไปทำได้โดยมั่นใจได้ว่าจะสำเร็จเต็มสิบส่วนไม่มีทางเกิดความผิดพลาดขึ้นอย่างแน่นอน

งูน้อยใช้ลิ้นสัมผัสกลิ่นในอากาศรอบตัวไปเรื่อยๆ เลื้อยเข้าเรือนนั้นออกเรือนนี้อย่างไม่เร่งร้อนเพื่อคายพิษเอาไว้ข้างหมอนของบุรุษผู้เป็นบุตรหลานของสกุลอันไม่ว่าจะเป็นบุตรที่เกิดจากฮูหยินหรืออนุภรรยาต่างก็ไม่มีการละเว้นเมื่อคายพิษเสร็จก็ซุ่มดูผลงานตัวเองอยู่สักหนึ่งเค่อเมื่อเหยื่อเริ่มแสดงอาการมันก็จะย้ายไปหาเป้าหมายใหม่ผ่านไปเพียงครึ่งชั่วยามเรือนสกุลอันก็จุดตะเกียงสว่างไสวเพราะบรรดาคุณชายทั้งหลายเกิดอาการคลุ้มคลั่งทั้งๆ ที่ยังคงหลับตานอน

ยังไม่ทันที่ฟ้าจะสางหม่าจื่อลู่ก็ได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนสกุลอันที่นอกจากจะทำให้ทั้งเรือนของตัวเองวุ่นวายแล้วโรงหมอและร้านขายสมุนไพรทั่วเมืองหลวงยังคงต้องวุ่นวายไปตามๆ กันเหตุเพราะคนจากสกุลอันไปปลุกพวกเขาขึ้นมาจากเตียงนอนให้เร่งรุดมาทำการรักษาบุตรหลานถึงในเรือน

แต่แล้วความวุ่นวายที่ทำเอาแตกตื่นกันไปทั้งคืนก็มีอันสงบลมเมื่อแสงสีทองของดวงอาทิตย์ทอจับผืนฟ้าแม้ทางฝั่งคนสกุลอันพอจะหายใจหายคอได้คล่องปอดขึ้นบ้างแต่สำหรับถานผิงอันนั้นรู้ดีแก่ใจว่านี่เป็นเพียงการพักผ่อนของพิษรอแค่เพียงเวลาที่ดวงตะวันลาลับอีกครั้งพวกมันก็จะตื่นขึ้นมาจากอาการหลับใหลด้วยเหตุนี้พิษจึงได้มีชื่อว่าราตรีหลับใหลเป็นการเล่นคำที่มีความหมายตรงกันข้ามอย่างไรเล่า

“เก่งมากเสี่ยวถิงน้อยของข้าทำงานได้ดีเช่นนี้ข้าย่อมต้องมีรางวัล” เสี่ยวถิงของถานผิงอันเป็นงูที่อยู่ง่ายกินง่ายไม่ต่างจากเจ้าของซึ่งในยามปกติแล้วมันก็จะออกไปหาจับหนูไม่ก็แมลงตัวเล็กๆ กินเป็นอาหารเช่นงูอื่นๆ ทั่วไปแต่ในยามที่อยู่กับเจ้านายมันสามารถกินเนื้อไก่สด หมูสดหรือแม้แต่ไข่นกใบเล็กๆ ได้เช่นเดียวกันและของรางวันที่ถานผิงอันเตรียมเอาไว้ให้ในวันนี้คือไข่นกใบเล็กๆ และเนื้อไก่สดๆ ที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ

ครึ่งวันเช้าถานผิงอันใช้เวลาไปกับการดูแลเสี่ยวถิงเป็นอย่างดีทั้งจับเจ้างูน้อยอาบน้ำอุ่นหลังจากที่มันออกไปทำงานมาทั้งคืนไม่รู้ว่าร่างกายไปสัมผัสสิ่งสกปรกอะไรมาบ้างจากนั้นก็มานั่งป้อนอาหารมันช้าๆ จนเจ้างูน้อยไม่ยอมอ้าปากรับอะไรแล้วนั่นและนางจึงได้ยอมวางมือ

“หากวันนี้เจ้าจะพักผ่อนอยู่ที่เรือนก็ได้นะเสี่ยวถิงไม่ต้องตามข้าไปข้างนอกหรอกวันนี้ข้าตั้งใจจะไปเลือกซื้อผ้ามาให้คนงานปักถุงหอมเพิ่ม” ถานผิงอันมีคนงานทำงานฝีมือของตนเองทั้งที่อยู่กันภายในเรือนและที่อยู่ในความดูแลของท่านยายที่หุบเขาหมื่นพิษแต่ก็มิใช่ว่าทุกอย่างพวกนางจะผลิตเองทั้งหมดของบางอย่างเช่นผ้าไหม ผ้าฝ้ายเนื้อดีหรือเส้นไหมคุณภาพสูงก็ล้วนแล้วแต่ต้องซื้อหาเอาจากภายนอก

ดวงตากลมโตของเสี่ยวถิงมองหน้าเจ้าชีวิตของมันอย่างซาบซึ้งจากนั้นก็เอาหัวไปถูไถกับมือนิ่มแสดงกิริยาว่ารับรู้จากนั้นก็เลื้อยลงจากโต๊ะที่คุณหนูป้อนอาหารมันอยู่เมื่อครู่ขึ้นไปบนเตียงที่มีที่นอนเล็กๆ ของตัวเองวางอยู่อย่างว่าง่าย

ถานผิงอันมองตามการกระทำของเสี่ยวถิงตัวน้อยด้วยความพึงพอใจนางรอดูจนแน่ใจว่ามันนอนหลับสนิทดีแล้วจึงออกไปจากห้องส่วนตัวโดยวันนี้จุดหมายของนางอยู่ที่ตลาดค้าผ้าขนาดใหญ่ของเมืองหลวงอันเป็นสถานที่ที่รวบรวมผ้าทอมือจากทั่วแคว้นมาไว้ที่นี่ที่เดียวทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปเสาะหาจากที่ไหน

“วันนี้พี่จูให้คนเตรียมเกวียนออกไปด้วยนะเจ้าคะข้าตั้งใจออกไปซื้อผ้ามาเพิ่มรถม้าน่าจะบรรทุกผ้ากลับมาได้ไม่หมด” เมื่อออกมาพบหน้าถงจิ่นจูนางก็ไม่ลืมเตือนเรื่องสำคัญ

“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะคุณหนูทั้งเกวียนทั้งรถม้าสามารถออกเดินทางได้ทุกเมื่อ” ถงจิ่นจูผู้รอบคอบและรู้ใจคุณหนูน้อยไปเสียทุกอย่างรายงานตามความเป็นจริงเพียงแค่นางรู้จุดหมายการเดินทางในแต่ละวันก็สามารถจัดเตรียมทุกอย่างได้ถูกต้องและครบถ้วนจนถานผิงอันไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากเสียด้วยซ้ำ

“พี่จูช่างรู้ใจข้านักเอาไว้ขากลับจากตลาดค้าผ้าเราไปหาของอร่อยกินกันเถิดนะเจ้าคะ” ย่านตลาดค้าผ้ามีเหลาอาหารเลื่องชื่ออยู่หลายแห่งกว่านางจะเลือกซื้อของเสร็จก็น่าจะใกล้เวลาอาหารเย็นดังนั้นกินข้าวนอกบ้านมาเสียก็ไม่ต้องให้แม่ครัวต้องเหนื่อยทำอาหารรอ