การพบกันของ2ทายาทตระกูลมาเฟีย เค้าผู้เป็นดั่งเจ้าชายน้ำแข็ง ผู้เมินเฉยกับสตรีเพศที่พยายามเข้าหาไม่หยุดหย่อน กับ เธอผู้หญิงที่เป็นดั่งฝันของชายหนุ่มทั่วไป เธอสวย เธอรวย เธอเก่ง เธอฉลาด แต่....เธออันตราย และการพบเจอกันเลยมีเรื่องราวมากมายชวนหัวให้ปวด
รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,วิศวะ,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ดวงใจวิศวะ(มาเฟีย)การพบกันของ2ทายาทตระกูลมาเฟีย เค้าผู้เป็นดั่งเจ้าชายน้ำแข็ง ผู้เมินเฉยกับสตรีเพศที่พยายามเข้าหาไม่หยุดหย่อน กับ เธอผู้หญิงที่เป็นดั่งฝันของชายหนุ่มทั่วไป เธอสวย เธอรวย เธอเก่ง เธอฉลาด แต่....เธออันตราย และการพบเจอกันเลยมีเรื่องราวมากมายชวนหัวให้ปวด
ในขณะที่สาวน้อยกำลังจะเดินไปขึ้นรถที่มีคีตะลงมาเปิดประตูรถรออยู่ ชายหนุ่มไม่อยากปล่อยให้ช่วงเวลาที่ได้ใกล้ชิดสาวน้อยเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
ที.โอ>>> โมนา....
โมนา>>>คะ
ที.โอ>>>พี่ขอคอนแท็กเราไว้ได้ไหม
โมนา>>>😳😳😳😳
ที.โอ>>>เพื่อตำรวจเค้าโทรไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหน่ะ เพราะพี่เองก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกหนิ....ใช่ไหม😏😏
โมนา>>>😊😊😊
สาวน้อยอมยิ้มเล็กน้อย มือบางยื่นไปรับมือถือเครื่องหรูจากมือชายหนุ่มรุ่นพี่มาเพื่อกดช่องทางการติดต่อให้ชายหนุ่ม กดเสร็จจึงคืนมือถือกลับไปให้เจ้าของ
โมนา>>>หนูไปนะค่ะ
ชายหนุ่มเย็นชาเสมือนคนไร้หัวใจ บัดนี้ยืนยิ้มอย่างมีความสุขในความพยายามของตัวเองที่ก้าวหน้าไปอีกขั้นกับการพาตัวเองไปใกล้ชิดกับหญิงสาวที่ตนเองชอบ
ภายในรถยนต์ยังคงความเงียบงันเหมือนเดิม คีตะผู้ทำหน้าที่สารถี ลอบมองกระจกหลังอยู่บ่อยครั้ง เหตุการณ์ที่มีชายอื่นขอคอนแท็กผู้หญิงที่รักมาทั้งชีวิตมีหรอที่คนหูตาไวอย่างคีตะจะไม่เห็น และยิ่งจำได้ว่าเด็กหนุ่มหน้าหล่อราวเทพบุตรผู้นั้นเป็นใคร ความเจ็บปวดที่ตนเคยผลักไสหญิงสาวอันเป็นที่รักยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนแทบทนไม่ไหว เมื่อคิดได้ว่าวันนึงคนที่ยืนเคียงข้างหญิงสาวไม่ใช่ตนอีกต่อไป.....ไม่นานรถก็ขับเข้าจอดหน้า
คฤหาสน์ หลังใหญ่ สารถีเช่นคีตะลงมาเปิดประตูรถให้สาวน้อยเช่นเดิมหลังจากทำหน้าที่ของตนเองเสร็จเรียบร้อยก็ขอตัวไปพักผ่อนอย่างไว เพราะกลัวใจตัวเองว่าอาจเสียน้ำตาต่อหน้าคนอื่นกับความเจ็บปวดที่อยู่ในใจ และเค้าจะไม่ยอมเผยความเจ็บปวดนี้ให้ใครได้ล่วงรู้โดยเด็ดขาด และเค้าจะเก็บมันไว้ให้ลึกที่สุดของหัวใจและขอแบกรับความเจ็บปวดไว้เพียงคนเดียวตลอดไป
ทางด้านสาวน้อย มีหรอที่เธอจะไม่เห็นคีตะมีท่าทางแปลกไป แต่เธอแค่ไม่เข้าใจว่าเค้าเป็นอะไรกันแน่ จะว่าหึง เธอก็คงไม่ใช่เพราะระยะห่างระหว่างเธอกับคีตะที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นเพราะเค้าเป็นคนวางทุกอย่างไว้เช่นนี้เอง แต่ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ถึงขนาดจะต้องตามไปถามให้รู้เรื่องเฉกเช่นแต่ก่อน เพราะตอนนี้ความรู้สึกของเธอมันเปลี่ยนไปแล้ว มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ส่วนตัวเธอก็แยกตัวไปพักผ่อนเช่นกัน
วันรุ่งขึ้น.....เธอเดินลงมาข้างล่างแต่ก็ต้องแปลกใจที่กลางบ้านมีคุณพ่อคุณแม่ของเธอยืนอยู่และมีอีกคนนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า และคนคนนั้นก็คือ คีตะ
โมนา>>>เกิดอะไรขึ้นคะ คุณพ่อ
คุณพ่อ>>>เมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่มีใครคิดจะบอกพ่อเลยใช่ไหม.....
โมนา>>>มันก็แค่เรื่องเล็กน้อยเองนะคะคุณพ่อแล้วอีกอย่างหนูก็ไม่ได้โดนทำร้ายอะไรด้วย แต่ถ้าจะพูดให้ถูกคือ คนร้ายยังไม่ถึงตัวหนูด้วยซ้ำ ตำรวจก็เข้ามารวบไปแล้ว
คุณพ่อ>>>แล้วต้องให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหนลูกถึงจะบอกพ่อ หรือต้องรอให้ลูกสาวพ่อโดนหิ้วปีกเข้าโรงพยาบาลก่อนถึงจะบอกพ่อได้
โมนา>>>ไม่ใช่แบบนั้นคะคุณพ่อ
คุณพ่อ>>>นายก็เหมือนกันนะคีตะ แต่ฉันเคยสั่งเธอแล้วว่าไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ให้รายงานฉัน
โมนา>>>คุณพ่ออย่าไปว่าคีตะเลยค่ะ ทั้งหมดมันเป็นความผิดลูกเอง ลูกแค่อยากช่วยผู้หญิงเคราะห์ร้ายคนนั้นจึงเอาตัวเองไปเสี่ยงเอง แล้วลูกก็เป็นคนสั่งคีตะเองว่าไม่ให้บอกใครเพราะกลัวว่าเรื่องราวจะบานปลายค่ะ
คุณพ่อ>>>โมนา....ลูกฟังพ่อนะ ลูกเป็นลูกสาวของพ่อ พ่อย่อมต้องรักและห่วงลูก แต่ลูกเองก็รู้ดีว่าพ่อมีศัตรู มีคู่แข่ง ถ้าเกิดวันนึงคนพวกนั้นอยากจะเล่นงานพ่อ แน่นอนว่ามันต้องเล็งไปที่จุดอ่อนของพ่อนั้นก็คือลูกๆ แล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆลูกจะให้พ่อทำยังไง
โมนา>>>อื้อ...หนูขอโทษคะ คุณพ่อ หนูเข้าใจแล้วค่ะต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วคะ คุณพ่อหายโกรธหนูได้ไหมคะ
คุณพ่อ>>>พ่อหนะ....ไม่ได้โกรธลูกหรอก พ่อแค่เป็นห่วง เข้าใจหรือเปล่ายัยตัวแสบ
โมนา>>>เข้าใจแล้วค่ะ
คุณพ่อ>>>แกก็ลุกขึ้นได้แล้วคีตะ ฉันไว้ใจแกมากที่สุด เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อวานขึ้นอีกเข้าใจไหม
คีตะ>>>เข้าใจแล้วครับคุณท่าน
คุณพ่อ>>>แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าคุณท่านสักที ฉันเลี้ยงแกมาให้เป็นลูก ไม่ได้ให้มาเป็นลูกน้อง
คีตะ>>>ผมทราบถึงความเมตตาที่คุณท่านมีให้ผมมาโดยตลอดครับ แต่ผมสบายใจแบบนี้ครับ
PART โมนา
เฮ้อ.....คุณพ่อฉันถึงกับทอดถอนหายใจเหือกใหญ่ อย่างระอาะเหี่ยใจ กับความเจียมเนื้อเจียมตัวของนาย คีตะ
ส่วนฉันได้แต่มองเฉยๆ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรเพราะไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน นายคนนี้เป็นแบบนี้เสมอตั้งแต่เด็ก กริ๊ง....กริ๊ง.....กริ๊ง
โมนา>>>ฮัลโหล.....
ดาด้า>>>โมนา...นี้ฉันเองนะ ดาด้า
โมนา>>>อาห่ะ...ว่าไง
ดาด้า>>>แกว่างไหมไปเดินช็อปปิ๊งกัน ฉันอยู่บ้านมันเหงาอ่ะ แกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ
โมนา>>>อืม...ก็ดีเหมือนกันตั้งแต่กลับมาจากอิตาลียังไม่ได้ช็อปปิ้งเลย แล้วคนอื่นๆหล่ะ
ดาด้า>>>ว่าจะลองโทรชวนดู เจอกันที่ห้างเลยแล้วกัน เคไหมเพื่อนสาว.....
โมนา>>>โอเค เจอกัน
คุยโทรศัพท์เสร็จฉันก็ขึ้นไปแต่งตัวลงมาเจอกับพี่ธันเดอร์กับคีตะยืนคุยกันอยู่ ฉันจึงเอ่ยปากทักทาย
โมนา>>>อ้าว....พี่ธันเดอร์ หายหน้าหน้าตาไปไหนมาค่ะพักนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าพี่เลย
ธันเดอร์>>>สวัสดีครับคุณหนู ผมไปทำงานให้นายมาครับ
โมนา>>>อ๋อ...หนูก็นึกว่าพี่ลาออกไปแล้วซะอีก
ธันเดอร์>>>แหนะ...ผมยังไม่มีแพลนตกงานเร็วๆนี้หรอกครับแหะ...แหะ
โมนา>>>โอเครค่ะ....ยังไม่มีแพลนเน๊าะ......5555
คีตะ>>>คุณหนูจะออกไปข้างนอกหรอครับ
โมนา>>>อาห่ะ....จะไปช็อปปิ้งสักหน่อยนัดเพื่อนไว้ที่ห้าง
คีตะ>>>งั้นเดี๋ยวผมจะไปเตรียมรถให้ครับ
โมนา>>>ฮัลโหล...แกอยู่ไหนฉันถึงห้างแล้วนะ
ดาด้า>>>ฉันก็ถึงแล้วฉันอยู่ตรงทางขึ้นบรรไดเลื่อนอ่ะ
โมนา>>>ได้ๆเดี๋ยวฉันเดินไปหา
ดาด้า>>>โมนา โมนา โมนา
โมนา>>>แล้วคนอื่นหล่ะ
ดาด้า>>>ไม่มีใครว่างมาสักคน
โมนา>>>ไม่มีใครว่างก็ไม่เป็นไรแค่2คนก็เพียงพอแล้วจ๊ะ
ดาด้า>>>ดีงั้น...ลุยเลย
ฉันกับดาด้าจูงมือกันเข้าร้านนี้ออกร้านโน่น เดินกันสนั่นห้างแล้วก็ได้ของมาค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เราเดินกันอยู่นานมากจนฉันเริ่มที่จะเมื่อขา
ดาด้า>>>นี้ยัยโมนา...ฉันพอแล้วนะวันฉันช็อปเกินงบไปหลายแสนแล้วนะเนี้ย
โมนา>>>อื้อ ..ฉันก็เริ่มเมื่อยขาแล้วด้วยอ่ะหาไรกินไหมฉันเลี้ยงเอง
ดาด้า>>>เอาสิฉันก็หิว
โมนา>>>กินไรดีหล่ะ
ดาด้า>>>อาหารญี่ปุ่นไหม
โมนา>>>ได้นะไม่ติด
ดี.เอ็ม>>>โมนา โมนา
โมนา>>>ใครเรียกอ่ะ อ้าว....ดี.เอ็ม มาซื้อของหรอ
ดี.เอ็ม>>>ป่าว...ฉันมาดูงานกับพี่ชายหนะ
โมนา>>>😳😳😳😳
ดี.เอ็ม>>>ก็นี้ห้างของที่บ้านฉันเอง แล้วนี้เธอจะไปไหนต่ออ่ะ
โมนา>>>อ่อ...ไปกินอาหารญี่ปุ่น ไปด้วยกันไหม
ดี.เอ็ม>>>ดีๆๆอยู่กับพี่เบื่อจะแย่ เดี๋ยวขอเดินไปบอกพี่ชายก่อนนะ
โมนา>>>ไปสิเดี๋ยวเรา2คนรอตรงนี้
ดาด้า>>>ใครหรอ....
โมนา>>>เพื่อนที่รู้จักกันตอนวันปฐมนิเทศหน่ะเรียนอยู่คณะ นิเทศศาสตร์
ดี.เอ็ม>>>ป่ะ..ไปกัน
โมนา>>>ดี.เอ็ม นี้ ดาด้านะ ดาด้า...นี้ ดี.เอ็ม
ดี.เอ็ม+ดาด้า>>>หวัดดี
ก่อนจะพากันเดินไปที่ร้านอาหารฉันเผลอหันไปสบตากับพี่ ที.โอ พอดีฉันเลยก้มหัวเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทายอย่างน้อบน้อม ซึ่งพี่ ที.โอก็ส่งยิ้มบางๆกลับมา