เรื่องราวชีวิต ของนักศึกษาแพทย์ เพิร์ธ ที่ต้องใช้ชิวิตโดยซ่อนความลับตัวเองไม่ให้ไครรู้ และเพื่อนสุดจะสนิท กิต ที่ฉลาดเป็นกรด แล้วเค้ายังเป็นเดียวที่ความลับของเพิร์ธ

Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา - บทที่ 3 ความค้างคาที่ติดตัว โดย วิจิตราวดี @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,รัก,เล่าประสบการณ์,ผู้ใหญ่,omegaverse,โอเมกาเวิร์ส,Boylove/Yaoi,Boy Love,นักศึกษา,มหาวิทยาลัย,มหาลัย,น่ารัก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,ความรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,รัก,เล่าประสบการณ์,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

omegaverse,โอเมกาเวิร์ส,Boylove/Yaoi,Boy Love,นักศึกษา,มหาวิทยาลัย,มหาลัย,น่ารัก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,ความรัก

รายละเอียด

Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา โดย วิจิตราวดี @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องราวชีวิต ของนักศึกษาแพทย์ เพิร์ธ ที่ต้องใช้ชิวิตโดยซ่อนความลับตัวเองไม่ให้ไครรู้ และเพื่อนสุดจะสนิท กิต ที่ฉลาดเป็นกรด แล้วเค้ายังเป็นเดียวที่ความลับของเพิร์ธ

ผู้แต่ง

วิจิตราวดี

เรื่องย่อ

🛑 Trigger Warning


[Omegaverse] [Feral Behavior / Instincts] [Possessiveness / Dominance] [Intimate Scenes] [Drama] [Blood] [Teasing] [Power Dynamics] [Lost / Vulnerability] [Pheromones / Scent Dynamics] [Slow Burn / Romantic Tension] [Protective Partner] [Humor / Light-hearted Moments] [Emotional Manipulation] [Jealousy / Envy Themes]

คำอธิบาย | เพิ่มเติมใน แนะนำตัวละคร





ตัวอย่างความ สนุก(เสว)

เพิร์ธยังไม่ทันได้ตั้งตัว กิตก็ใช้สิทธิ์ของตัวเองทันที กิตจับข้อมือของเพิร์ธเบาๆ ก่อนจะออกแรงดึงให้เข้ามาใกล้

"ก็ฉันชนะนี่นา… นายเองก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะให้ฉันทำอะไรก็ได้กับร่างกายนาย"

เพิร์ธขมวดคิ้วทันที พยายามดึงมือกลับแต่ไม่สำเร็จ

"เดี๋ยว! นี่มันไม่แฟร์! ฉันไม่คิดว่านายจะเอาจริงขนาดนี้!"

กิตหัวเราะในลำคอ มืออีกข้างเลื่อนมาจับเอวเพิร์ธหลวมๆ

"งั้นก็คิดซะใหม่ละกัน"

เพิร์ธรีบยกมือขึ้นดันอกแน่นๆ ของกิต "เฮ้ย! นายจะทำอะไร?! ปล่อยเลยนะ!"

กิตโน้มหน้าเข้ามาใกล้อีกนิด สายตาคมเป็นประกาย

"ก็แค่… ใช้สิทธิ์ของฉันนิดหน่อย"

เพิร์ธเบิกตากว้าง รู้สึกได้ว่านิ้วยาวของกิตค่อยๆ เลื่อนมาจับที่คางอย่างเบามือ

"เดี๋ยว… กิต… เดี๋ยวก่อน…"

กิตเอียงคอเล็กน้อย มองใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีของเพิร์ธอย่างพอใจ

"อะไร? กลัวเหรอ?"

เพิร์ธสะบัดหน้าหนี ไม่กล้าสบตา

"ไม่ได้กลัวสักหน่อย!"

กิตหัวเราะ ก่อนจะกระซิบข้างหูเบาๆ

"แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ"

เพิร์ธสะดุ้ง รีบผลักกิตออกทันที

"บ้าบอ! นายมันเจ้าเล่ห์! หยุดแกล้งฉันสักที!"

กิตหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นแบบยอมแพ้

"โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้…"

แต่ดวงตาของเขายังคงเป็นประกายเจ้าเล่ห์อยู่

"แต่ก็… นายแพ้แล้วนะเพิร์ธ ฉันก็แค่ทำตามข้อตกลงของเราเอง"

เพิร์ธเม้มปากแน่นก่อนจะหันหน้าหนี หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด

*ให้ตายสิไอ้เจ้าอัลฟ่านี่…มันอันตรายจริงๆ *

เพิร์ธได้แต่คิดในใจเพราะตอนนี้ สถานการณ์มันสุ่มเสี่ยงสุ่มเสว




#ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา 

| For u my sunshine. For you my little child . For you forever . Just for you my… |

| I wish your soul ,well be fine in heaven , I wish… |


สารบัญ

Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา-บทที่ 1 อารัมภบท,Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา-บทที่ 2 ชีวิตเสี่ยงๆของ นศ.แพทย์ท่านนึง,Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา-บทที่ 0 แนะนำตัวละคร,Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา-บทที่ 3 ความค้างคาที่ติดตัว,Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา-บทที่ 3.1 ต่อ

เนื้อหา

บทที่ 3 ความค้างคาที่ติดตัว

กิตหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดปฏิทินและเช็กตารางของตัวเองทันที

"รอบรัดของฉัน…"

เขาพึมพำ ก่อนจะเลื่อนดูข้อมูลที่บันทึกไว้

"อีกประมาณหนึ่งอาทิตย์"

ฟังแล้วก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง อย่างน้อยตอนนี้เขายังควบคุมตัวเองได้ เขาหันไปมองเพิร์ธที่ยังนอนซุกเสื้อเขาอยู่ ใบหน้าหวานแดงจัด ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยเหมือนหายใจไม่ทัน ฟีโรโมนจางลงกว่าเดิมแต่ก็ยังคงฟุ้งอยู่ในห้อง

"ฉีดยาระงับไปแล้วใช่ไหม?"

กิตถามเสียงเรียบ

เพิร์ธพยักหน้าช้าๆ ก่อนกระซิบเบาๆ

"อือ... แต่พอลืมกินยาเช้า... เลยลงยาก"

กิตถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบขวดน้ำแล้วกลับมานั่งลงข้างๆ ยื่นมันให้เพิร์ธ

"ดื่มน้ำก่อน"

โอเมก้าตัวเล็กพยักหน้าแล้วรับขวดน้ำไปดื่ม กิตมองภาพนั้นแล้วก็อดรู้สึกเวทนาไม่ได้ เขารู้ว่าเพิร์ธกำลังทรมานจากอาการฮีทอ่อนๆ ที่ยังไม่ยอมสงบลง

"นายต้องนอนพัก"

กิตพูดเบาๆ

"อีกเดี๋ยวก็หายแล้ว"

เพิร์ธมองหน้าเขา ดวงตาฉ่ำวาวเหมือนอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา ก่อนจะซุกหน้ากับเสื้อของเขาอีกครั้ง กิตมองภาพนั้นแล้วได้แต่กำหมัดแน่น เขาต้องอดทน… เพราะถ้าปล่อยให้ฟีโรโมนของเพิร์ธครอบงำมากกว่านี้—เขาเองก็อาจจะไม่ไหวเหมือนกัน



โทรศัพท์ของเพิร์ธก็ดังขึ้น ชื่อ พ่อราฟ (โอเมก้า) เพิร์ธที่นอนไม่รู้เรื่องกิตก็รับให้ มีเสียง พ่อราฟ และเสียงพ่อพอล (อัลฟ่า) ด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงสุดๆ และพอได้ยิน เสียงกิต เสียงพวกท่านก็ดูเหมือนจะจับพิรุธว่ากิตทำอะไรเพิร์ธรึเปล่า *เพิร์ธ เกิดมาจากพ่อที่เป็นอัลฟ่า และพ่อที่เป็นโอเมก้า*

ติ๊ด! ติ๊ด!

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ กิตละสายตาจากเพิร์ธไปมองหน้าจอ เห็นชื่อที่โชว์อยู่—"พ่อราฟ"

เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะเหลือบมองเพิร์ธที่นอนซุกอยู่กับเสื้อเขา ไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ามีสายเข้า กิตลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจกดรับ

"สวัสดีครับ"

"กิต?" เสียงปลายสายดังขึ้นแทบจะทันที น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและแฝงไปด้วยความสงสัย

ก่อนที่กิตจะได้พูดอะไร เสียงอีกเสียงก็ดังขึ้นแทรกมา—เสียงเข้มและทรงพลังของ พ่อพอล

"เพิร์ธอยู่กับเธอใช่ไหม?"

กิตรู้สึกได้ทันทีถึงแรงกดดันจากปลายสาย เขาเคารพพ่อของเพิร์ธทั้งสองคนมาตลอด และเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นห่วงขนาดนี้

"ครับ… ตอนนี้เพิร์ธอยู่กับผม"

กิตตอบตรงๆ พยายามให้เสียงของตัวเองฟังดูสงบที่สุด มีความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ ก่อนที่พ่อราฟจะพูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่คมกริบกว่าเดิม

"ทำไมเสียงเพิร์ธไม่อยู่ในสาย?"

กิตชำเลืองมองคนตัวเล็กที่ยังคงนอนซุกอยู่กับเสื้อของเขา ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจัด หายใจเบาและสม่ำเสมอเหมือนคนหมดแรง

"เขาหลับอยู่ครับ" กิตตอบตามตรง

"แล้วทำไมต้องหลับอยู่กับเธอ?"

พ่อพอลถามเสียงต่ำ กิตเม้มปากแน่น รู้ว่าตอนนี้พ่อของเพิร์ธกำลังจับพิรุธเขาอยู่เต็มที่

"เพิร์ธลืมกินยาระงับตอนเช้า อาการเลยลงยาก ผมเลยพาเขามาพักที่นี่"

กิตอธิบายช้าๆ ให้ฟังแบบละเอียด ปลายสายเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนเสียงพ่อราฟจะดังขึ้นมาอีกครั้ง

"แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?"

"ดีขึ้นแล้วครับ ฟีโรโมนเริ่มจางลงแล้ว"

กิตตอบ ก่อนจะเสริมขึ้นมาเพื่อความสบายใจของทั้งสองท่าน

"ผมไม่ได้ทำอะไรเขา… ผมแค่ดูแลเขาให้ปลอดภัย"

เสียงถอนหายใจดังลอดมาจากปลายสาย มีทั้งความโล่งใจและความระแวงปะปนกัน

"เธอรู้ใช่ไหมว่าถ้าเพิร์ธเป็นอะไรไป เราจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่?"

พ่อพอลพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ครับ ผมรู้"

กิตตอบเสียงนิ่ง เขาเข้าใจดี… และไม่มีวันทำให้เพิร์ธต้องเจ็บปวดเด็ดขาด

พ่อราฟก็พูดต่อว่า

"แล้วที่พักหรือคอนโด กิตอยู่ไหนจะได้ไปหารับเพิร์ธถูก "

กิตเม้มปากแน่น ก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่จริงจัง

"คอนโดของผมเองครับ อยู่แถว…"

กิตบอกที่อยู่ไปอย่างละเอียด

พ่อราฟเงียบไปชั่วขณะก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม

"ฉันกับพอลกำลังไป เดี๋ยวถึงแล้วคุยกัน"

"ครับ"

กิตตอบรับสั้นๆ ก่อนที่สายจะถูกตัดไป

เขาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แล้วหันไปมองเพิร์ธที่ยังคงซุกตัวอยู่กับเสื้อของเขา บนเตียงของเขา… ในห้องของเขา คืนนี้คงไม่ใช่คืนที่เงียบสงบสำหรับเขาแน่ๆ


 กิตยังคงจ้องมองคนตัวเล็กที่นอนอยู่ แล้วนึกถึงตอน มัธยม ที่อาการฮีทของเพิร์ธ มาครั้งแรก ระหว่างเชียร์กิตแข่งกีฬา กิตจำได้ดี… ตอนนั้นเป็นช่วงเย็นหลังเลิกเรียน พวกเขาทุกคนอยู่ที่สนามกีฬา เพิร์ธเองก็มาเชียร์อยู่ข้างสนามเหมือนทุกครั้ง แต่วันนั้นมันต่างออกไป เพิร์ธดูเหม่อลอยผิดปกติ ผิวขาวจัดขึ้นสีเรื่อ ริมฝีปากแดงระเรื่อเหมือนคนมีไข้ ก่อนที่กลิ่นบางอย่างจะเริ่มแผ่กระจายออกมา—กลิ่นหวานล้ำที่ทำให้บริเวณรอบตัวเพิร์ธ มีสายละอองสีม่วงเข้ม ลอยไปทั่วอย่างไม่ทราบสาเหตุ แล้วจู่ๆ เพิร์ธก็ทรุดลงไปกับพื้น

กิตจำได้ว่าเขาทิ้งทุกอย่าง วิ่งตรงไปหาอีกฝ่ายทันทีโดยไม่คิดอะไร

"เฮ้ย! เพิร์ธ! เป็นอะไร—"

แต่พอเข้าไปใกล้ กลิ่นฟีโรโมนที่เข้มข้นขึ้นจนแทบปั่นประสาทก็ทำให้กิตชะงักไปชั่วขณะ

เพิร์ธตัวสั่น มือกำเสื้อแน่น เหงื่อซึมตามขมับ หายใจติดขัดเหมือนกำลังทรมาน

"ฮีท?"

ตอนนั้นเองที่เขารู้… เพิร์ธไม่ได้เป็นแค่นักเรียนธรรมดา แต่เป็นโอเมก้า และไม่ใช่แค่โอเมก้าทั่วไป แต่เป็น ‘เพียวโอเมก้า’ ที่แทบไม่เคยมีใครเจอมาก่อน กิตดึงสติกลับมา กำเสื้อของตัวเองถอดออกแล้วห่อตัวเพิร์ธไว้ก่อนจะรีบอุ้มขึ้น—ทั้งที่หัวใจตัวเองก็เต้นรัวแทบไม่เป็นจังหวะ เพราะอิทธิพลของฟีโรโมนที่แผ่ออกมา เขาจำได้ว่าในตอนนั้นต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกว่าจะพาเพิร์ธไปที่ปลอดภัย และระงับตัวเองไม่ให้ทำอะไรที่ ‘ไม่ควรทำ’

และตอนนี้… กิตก้มมองเพิร์ธที่กำลังซุกตัวอยู่กับเสื้อของเขาในห้องของเขาอีกครั้ง

"…ซวยแล้วกู"



กิตตั้งสติกลับมาในเสี้ยววินาที ร่างกายมันขยับไปเองโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีเขาก็คร่อมร่างเล็กอยู่แล้ว เพิร์ธที่นอนซุกเสื้อของเขาอยู่ใต้ร่าง ดูไร้การป้องกันแบบที่ทำให้ใจคนมองสั่นไหว กลิ่นกุหลาบดำ วานิลลา และไม้จันทน์หอมยังคงอ้อยอิ่งในอากาศ ราวกับจะกลืนกินทุกอย่าง กิตกำหมัดแน่น สติยังพอมี แต่แรงดึงดูดระหว่างเพียวอัลฟ่ากับเพียวโอเมก้ามันโหดร้ายเกินไป

"โคตรอันตรายเลยว่ะ"

เขาพึมพำกับตัวเอง พยายามจะขยับตัวออกห่าง แต่ร่างเล็กใต้ร่างกลับขยับตัวนิดหนึ่ง เสียงครางแผ่วเบาหลุดออกมาราวกับกำลังเผลอสะลึมสะลือ

"อึก..."

กิตหลับตาแน่น สูดหายใจลึก แล้วตัดสินใจผละออกทันที—ก่อนที่มันจะสายเกินไป

กิตเดินออกไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น ทิ้งตัวลงอย่างแรง พลางใช้มือลูบหน้าแรงๆ พยายามตั้งสติและกดอารมณ์ของตัวเองให้สงบ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นสายที่พ่อราฟโทรมาเมื่อกี้ คิดว่าอีกไม่นานพ่อราฟกับพ่อพอลคงมาถึง

"ให้ตาย..."

กิตพึมพำกับตัวเอง มองไปที่ประตูห้องนอนที่ปิดสนิท

กลิ่นฟีโรโมนยังติดจางๆ อยู่ในอากาศ แม้เขาจะออกมาจากห้องแล้ว แต่ร่างกายก็ยังตื่นตัว เขายกมือขึ้นกดขมับแรงๆ

“ขืนอยู่ใกล้อีกนิดเดียว กูคงหลุดแน่...”

เสียงครางแผ่วๆ ของเพิร์ธตอนเมื่อกี้ยังติดอยู่ในหัว มันทำให้เขาอยากกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง แต่เขาต้องอดทน… ต้องควบคุมตัวเองให้ได้ และตอนนี้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือรอ รอให้พ่อของเพิร์ธมาถึง แล้วก็รอให้ทุกอย่างผ่านไป



กิตหยิบเอกสารเกี่ยวกับเนื้อหาการเรียนของตัวเองขึ้นมาเปิดอ่าน พยายามให้ตัวเองจดจ่อกับอะไรสักอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่ตัวหนังสือบนกระดาษกลับดูเลือนลาง อ่านไปก็ไม่เข้าหัว

เขาพยายามไล่สายตาตามเนื้อหาเรื่องการวิเคราะห์พฤติกรรมทางจิตเวช แต่มือที่ถือกระดาษกลับสั่นเล็กน้อย หัวใจยังเต้นแรงจากสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

"ให้ตาย... เวลาผ่านไปช้าชะมัด"

เขาเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง พบว่าเวลาผ่านไปแค่ไม่กี่นาที แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นชั่วโมง แล้วสายตาเผลอเหลือบไปมองประตูห้องนอนอีกครั้ง ภาพของเพิร์ธที่นอนหอบหายใจอยู่ใต้ผ้าห่มยังคงติดอยู่ในหัว กลิ่นฟีโรโมนจางๆ ยังไม่จางหายไปจากความรู้สึกของเขา

กิตถอนหายใจแรงๆ แล้วพยายามอ่านเอกสารในมือต่อ พยายามบังคับตัวเองให้โฟกัสกับเนื้อหาทางวิชาการ ไม่ใช่ความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่ในใจ
 

กิตลุกขึ้นเดินไปที่แผงควบคุมอัตโนมัติของคอนโด กดเปิดระบบระบายอากาศในห้องนั่งเล่นให้ทำงานเต็มที่ หวังให้กลิ่นฟีโรโมนที่เล็ดลอดออกมาจางหายไป

"ต้องจัดการให้หมด ไม่งั้นสมาธิพังแน่..."

เสียงเครื่องระบายอากาศทำงานเบาๆ อากาศเริ่มไหลเวียนดีขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น กลิ่นจางๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ตอกย้ำถึงคนที่อยู่ในห้องนอน เขาทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา ใช้นิ้วกดขมับตัวเองเบาๆ พลางพยายามควบคุมความคิด

"ผ่านเรื่องนี้ไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน..."

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย หวังให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้น แต่ไม่ว่าจะพยายามเบี่ยงเบนความสนใจแค่ไหน ใจก็ยังวนเวียนอยู่กับสิ่งที่อยู่หลังบานประตูนั้นอยู่ดี
 

เวลาผ่านไป จากบ่ายโมง ตอนนี้ห้าโมงเย็น พ่อพ่อของเพิร์ธก็มาถึงห้องคอนโดของกิต

เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น กิตลุกขึ้นจากโซฟาทันที เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู พอประตูเปิดออก พ่อราฟกับพ่อพอลก็ยืนอยู่ตรงหน้า สีหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความกังวล พ่อราฟเป็นโอเมก้า ตัวเล็กกว่าเล็กน้อย มีใบหน้าหวานแต่แววตาเฉียบคม ส่วนพ่อพอลเป็นอัลฟ่าร่างสูงโปร่ง ดูสุขุมและจริงจัง

"เพิร์ธอยู่ไหน?"

พ่อพอลถามทันทีโดยไม่รอให้กิตเอ่ยอะไร

"อยู่ในห้องครับ"

กิตตอบเสียงเรียบ พร้อมกับหลบตาสายตาจับผิดของพ่อราฟ

พ่อราฟไม่พูดอะไร รีบเดินผ่านกิตเข้าไปด้านใน พ่อพอลเดินตามหลังไปติด ๆ พอเปิดประตูห้องนอน กลิ่นฟีโรโมนที่จางลงมากแล้วก็ยังคงพอมีให้รู้สึกได้

บนเตียง เพิร์ธยังคงนอนซุกตัวอยู่กับผ้าห่ม ร่างกายผอมบางขยับไหวเล็กน้อยเหมือนรู้สึกตัวแต่ยังไม่มีแรงลืมตาขึ้นมาดี

"ลูก..."

พ่อราฟเดินเข้าไปนั่งลงข้างเตียง ลูบผมเพิร์ธเบา ๆ

"เป็นยังไงบ้าง หืม?"

เพิร์ธครางเบา ๆ ขยับตัวเข้าหาผ้าห่มที่มีกลิ่นของกิตติดอยู่ พ่อราฟมองภาพนั้นก่อนจะหันไปมองกิตที่ยืนอยู่ตรงประตู

"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"

กิตรู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ในจุดที่โดนสอบสวนเต็มรูปแบบจากพ่อพ่อของเพิร์ธ...

เพิร์ธค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอบอุ่นที่ช่วยพยุงตัวเองให้นั่ง พ่อราฟจัดหมอนรองหลังให้อย่างเบามือ ก่อนจะเปิดถุงอาหารที่ซื้อมาด้วย

"กินหน่อยนะลูก จะได้มีแรง"

พ่อราฟพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะใช้ช้อนตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าให้หายร้อน แล้วค่อย ๆ ป้อนให้เพิร์ธที่ยังดูอ่อนแรง เพิร์ธเม้มปากเล็กน้อย แต่ก็ยอมอ้าปากรับอาหารเข้ามาแต่โดยดี

ระหว่างนั้น พ่อพอลที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ยืนกอดอก ก้มลงเล็กน้อย ใช้สายตาคมกริบของเขามองกิตอย่างประเมิน

กิตยังคงยืนตัวตรง แม้จะรู้สึกถึงแรงกดดันจากอัลฟ่าตัวสูงตรงหน้า เขายอมรับว่าปกติตัวเองไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องความมั่นใจ แต่ตอนนี้ต้องมาเผชิญหน้ากับพ่อพอลที่ชัดเจนว่ากำลังจับพิรุธ

"กิต"

พ่อพอลเอ่ยชื่อของเขาช้า ๆ

"อธิบายให้ชัด ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเพิร์ธถึงมาอยู่ที่นี่ ในสภาพแบบนี้?"

กิตสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะตอบเสียงเรียบ

"เพิร์ธมีอาการฮีทกลางวันทำงาน ผมเลยพากลับมาที่นี่ก่อน เพราะบ้านเพิร์ธไกลเกินไป "

"และเขาเองก็ไม่ไหวที่จะเดินทางต่อ "

"ผมพยายามคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุด และเรียกหมอมาดูแล้ว"

พ่อพอลยังคงจ้องเขม็งไปที่กิต ขณะที่พ่อราฟหันไปมองลูกชายที่กำลังค่อย ๆ เคี้ยวอาหารอย่างเชื่องช้า

"แล้วทำไมฟีโรโมนถึงได้รุนแรงขนาดนี้? ยาไม่ได้ผลงั้นเหรอ?"

"เพิร์ธลืมกินยาตอนเช้า" กิตตอบตามความจริง

"มันเลยกดอาการได้ไม่เต็มที่"

พ่อพอลนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถามต่อ

"แล้วนายล่ะ?"

"ครับ?"

"นายคุมตัวเองได้ไหม?"

น้ำเสียงของพ่อพอลเย็นลงเล็กน้อย

"ฉีดยาระงับไปแล้วหรือยัง?"

กิตสบตากับพ่อพอลอย่างตรงไปตรงมา

"ผมฉีดไปแล้วครับ"

พ่อพอลพยักหน้าเล็กน้อย แต่แววตายังคงจับจ้องกิตอย่างไม่คลายความระแวง

"ดี"

พ่อราฟหันไปมองพ่อพอล ก่อนจะถอนหายใจ

"เอาเถอะ ตอนนี้ขอให้เพิร์ธพักก่อน ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลัง"

พ่อพอลไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่เหลือบมองกิตอีกครั้ง ราวกับจะบอกว่า "เรื่องนี้ยังไม่จบง่าย ๆ หรอก"


 

พ่อพอลเดินนำกิตออกจากห้องนอนไปยังห้องนั่งเล่น ก่อนจะหันไปปิดประตูห้องเบา ๆ แล้วกวักมือให้กิตนั่งลงที่โซฟา ส่วนตัวเองก็ยืนกอดอก มองลงมาที่กิตด้วยแววตาที่อ่านยาก

"มานั่งให้ดี" เสียงของพ่อพอลทุ้มต่ำและหนักแน่น

กิตนั่งลงอย่างสงบ แม้จะรู้สึกถึงแรงกดดันที่อัลฟ่าตัวสูงกว่าส่งมาให้

"กิต" พ่อพอลเริ่มพูดช้า ๆ

"ฉันจะถามอีกครั้ง—นายทำอะไรเพิร์ธหรือเปล่า?"

กิตสบตากับพ่อพอลตรง ๆ ก่อนจะตอบเสียงหนักแน่น

"ไม่ครับ ผมไม่ได้แตะต้องเพิร์ธในทางที่ไม่ควร"

"ฉันไม่ใช่พ่อประเภทที่มองโลกในแง่ดีมากนัก กิต" พ่อพอลพูดต่อ

"ฉันรู้ว่าเวลาฮีทมันส่งผลต่อโอเมก้ายังไง"

"และฉันก็รู้ว่าอัลฟ่าเองก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน"

กิตพยักหน้าเข้าใจ

"แต่นายอยู่กับเพิร์ธตามลำพัง ในช่วงเวลาที่โอเมก้ากำลังอยู่ในฮีท"

"นี่เป็นเรื่องที่ฉันไม่อาจมองข้ามได้"

"ฉันอยากเชื่อใจนายกิต"

"แต่นายต้องทำให้ฉันมั่นใจว่านายรู้ขีดจำกัดของตัวเอง"

"และรู้ว่าควรดูแลเพิร์ธยังไง"

กิตสูดลมหายใจลึก

"ผมเข้าใจดีครับพ่อพอล ผมรู้ว่าผมเป็นอัลฟ่าง"

"แต่ผมไม่ใช่คนที่จะใช้โอกาสแบบนี้กับเพิร์ธแน่นอน ผมแค่ต้องการให้เขาปลอดภัย"

พ่อพอลเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ

"แต่จำไว้ให้ดีนะกิต—ฉันฝากชีวิตของลูกฉันไว้ในมือนายแค่บางส่วนเท่านั้น"

"ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น นายต้องรับผิดชอบ"

"ครับ ผมเข้าใจ"

"เฮ้อ... ถ้าเพิร์ธตื่นขึ้นมาแล้วดูดีขึ้น ฉันจะไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้"

กิตยังคงนั่งตรงหลังตรง

"ครับ"

พ่อพอลมองเขาอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปยังห้องนอนของเพิร์ธ ทิ้งให้กิตนั่งอยู่ตรงนั้นกับความรู้สึกที่ยังหนักอึ้ง

พ่อราฟมองเพิร์ธอย่างอ่อนโยน แต่ก็แอบจับสังเกตบางอย่าง เมื่อเห็นว่าเขายังกอดเสื้อของกิตไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย

"นั้นเสื้อใครล่ะลูก?"

พ่อราฟถามเสียงนุ่ม พลางเอียงคอมองเพิร์ธเล็กน้อย

เพิร์ธชะงักไปนิด ก่อนจะก้มหน้าลงเล็กน้อยด้วยความเขิน

"ของกิต..."

พ่อราฟยิ้มบาง ๆ

"หืม... แล้วทำไมต้องกอดเสื้อเค้าขนาดนั้นล่ะ?"

เพิร์ธเม้มปาก ไม่รู้จะตอบยังไงดี ก็แค่—กลิ่นของกิตมันทำให้รู้สึกดีและสบายใจ แถมตอนนี้อาการฮีทมันยังไม่หายดีด้วย... พ่อราฟเห็นท่าทางของเพิร์ธแล้วก็ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวเบา ๆ

"พ่อเข้าใจนะ ว่าตอนนี้ลูกยังรู้สึกไม่ค่อยดี"

เพิร์ธพยักหน้าเบา ๆ ซุกหน้าลงกับเสื้อตัวนั้นอีกนิด รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา

"แต่เราต้องพยายามควบคุมตัวเองด้วยนะลูก"

พ่อราฟพูดเสียงอ่อนโยน

"ฮีทมันไม่ใช่เรื่องที่เราควรปล่อยให้ควบคุมตัวเองได้มากเกินไป เข้าใจใช่ไหม?"

เพิร์ธพยักหน้าเบา ๆ แม้ว่าจะยังคงกอดเสื้อของกิตไว้อยู่ก็ตาม พ่อราฟถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะส่งช้อนข้าวมาตรงหน้า

"มากินต่อเร็ว พ่อพอลคุยกับกิตอยู่"

"ถ้าเค้ากลับมาเห็นว่ายังกินไม่หมด เดี๋ยวจะโดนบ่นเอานะ"

เพิร์ธทำหน้ามุ่ยนิด ๆ แต่ก็ยอมอ้าปากรับข้าวที่พ่อราฟป้อนให้ต่อแต่โดยดี


 

พอเพิร์ธกินหมด พ่อราฟ ก็เก็บของแล้วถามเพิร์ธว่าเดินไหวไหม จะได้กลับบ้าน

"เพราะอยู่ต่อก็อาจไม่ได้ขึ้น พ่อคิดว่าน่ะ"

"กลิ่นกิตน่าอยู่ทั่วห้อง และเป็นสาเหตุที่ลูกยังไม่หายฮีท"

เพิร์ธชะงักไปนิด ตอนที่พ่อราฟพูดแบบนั้น พอคิดดูแล้วก็จริง—เพิร์ธอยู่ในห้องของกิต ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นของเขา ไม่แปลกเลยที่อาการฮีทของเราจะยังไม่หายดี

"อืม... คิดว่าพอเดินไหวครับ"

เพิร์ธตอบเบา ๆ แม้ว่าร่างกายจะยังรู้สึกอ่อนแรงอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ออกไปจากที่นี่ อาการมันอาจจะไม่ดีขึ้นเลย พ่อราฟพยักหน้า พลางลูบหัวเราเบา ๆ

"ดีมาก งั้นเดี๋ยวพ่อพยุงไปก็ได้"

เพิร์ธลองขยับตัวช้า ๆ ก่อนจะยืนขึ้น แม้ว่าจะยังรู้สึกเซ ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้แย่จนเดินไม่ได้ พ่อราฟจับมือเขาไว้แน่น แล้วหันไปมองทางห้องนั่งเล่น

"พ่อพอล! คุยเสร็จรึยัง?"

เสียงเข้มของพ่อราฟทำให้พ่อพอลกับกิตที่นั่งอยู่ตรงนั้นต้องเงยหน้าขึ้นมา กิตสบตากับเพิร์ธครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนช้า ๆ

"จะกลับเลยเหรอ?"

กิตถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะแฝงความเป็นห่วง เพิร์ธเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า

"อืม... พ่อว่าถ้าอยู่ต่อก็คงไม่ดีขึ้น"

กิตนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วหยิบเสื้อแจ็กเก็ตของตัวเองมายัดใส่มือเพิร์ธ

"เอาไปใส่กันหนาว เดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นอีก"

เขารับเสื้อนั้นมา กำมันไว้แน่น รู้สึกถึงกลิ่นของกิตที่ยังติดอยู่ชัดเจน

พ่อพอลมองภาพนั้นแล้วแอบยิ้มนิด ๆ ก่อนจะพูดขึ้น

"งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวพ่อขับรถให้"

พ่อราฟพยุงเราช้า ๆ และพ่อพอลเดินนำหน้าออกไป ส่วนกิต... เขายืนมองเพิร์ธตรงนั้น ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาเขาเหมือนจะบอกว่า

"พักผ่อนดี ๆ นะ"

เพิร์ธกำเสื้อของเขาไว้แน่นขึ้นอีกนิด ก่อนจะเดินออกจากคอนโดไปพร้อมพ่อทั้งสองคน

"จะกลับเลยเหรอ?"

กิตถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะแฝงความเป็นห่วง เพิร์ธเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า

"อืม... พ่อว่าถ้าอยู่ต่อก็คงไม่ดีขึ้น"

กิตนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วหยิบเสื้อแจ็กเก็ตของตัวเองมายัดใส่มือเพิร์ธ

"เอาไปใส่กันหนาว เดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นอีก"

เขารับเสื้อนั้นมา กำมันไว้แน่น รู้สึกถึงกลิ่นของกิตที่ยังติดอยู่ชัดเจน

พ่อพอลมองภาพนั้นแล้วแอบยิ้มนิด ๆ ก่อนจะพูดขึ้น

"งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวพ่อขับรถให้"

พ่อราฟพยุงเราช้า ๆ และพ่อพอลเดินนำหน้าออกไป ส่วนกิต... เขายืนมองเพิร์ธตรงนั้น ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาเขาเหมือนจะบอกว่า

"พักผ่อนดี ๆ นะ"

เพิร์ธกำเสื้อของเขาไว้แน่นขึ้นอีกนิด ก่อนจะเดินออกจากคอนโดไปพร้อมพ่อทั้งสองคน


 

พ่อพอลพอพ่อราฟพาเพิร์ธขึ้นรถได้ ก็รีบออกรถตรงไป โรงบาลทันที พ่อราฟถามมาด้วยความสงสัย

"ไปทำไม"

พ่อพอลก็ถอนหายใจแล้วตอบไป

"ไปตรวจ น่ะว่ากิตมันไม่ได้ทำจริง แล้วก็ตรวจอะไรหลายอย่าง"

เพิร์ธนั่งเงียบอยู่เบาะหลัง กอดเสื้อแจ็กเก็ตของกิตไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว รู้ว่าพ่อพอลห่วงเขา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอาย

"พ่อ... ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้" เพิร์ธพูดเบา ๆ มองออกไปนอกหน้าต่าง

"ต้องสิ"

พ่อพอลสวนกลับทันที

"นี่มันรอบฮีท แล้วลูกก็อยู่กับกิตสองต่อสองตั้งหลายชั่วโมง พ่อไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น"

พ่อราฟถอนหายใจเบา ๆ แต่ไม่ได้ห้ามอะไร ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับพ่อพอล

"แค่ตรวจให้แน่ใจก็ไม่เสียหายหรอกนะลูก" พ่อราฟหันมาพูดกับเพิร์ธเสียงอ่อนโยน

"อย่างน้อยพ่อจะได้สบายใจ ว่าลูกปลอดภัยจริง ๆ"

เพิร์ธก้มหน้าลง มือกำเสื้อกิตแน่นขึ้น ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ

"เข้าใจแล้วครับ"

พ่อพอลขับรถเร็วแต่ก็ยังปลอดภัย จนในที่สุด รถก็มุ่งตรงสู่โรงพยาบาล...